Fic.
[AU]: Attack On Titan (Levi x Eren) ล่ารักอันตราย
Chapter
5: Tease
“เอาล่ะขอบคุณทุกคนมากนะ” เสียงที่ราวกับเสียงสวรรค์ของชายหนุ่มวัยกลางคนเรียกเสียงเฮของเหล่าพนักงานที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันให้รับรู้ว่างานของวันนี้สินสุดลงแล้ว
ร่างบางเตรียมเก็บกล้องและอุปกรณ์คู่ใจของตนลงกระเป๋าอย่างระมัดระวัง
“เอเลนนายหายดีแล้วสินะ ขอโทษที่ไม่ได้ไปเยี่ยม” ฮันเนสลูบผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู
ร่างโปร่งยิ้มให้กับผู้มีพระคุณของตน “ไม่เป็นไรครับคุณฮันเนส
ช่วงนี้คุณเองก็ยุ่งมากด้วยผมดูแลตัวเองได้ครับ”
“นายน่ะชอบฝืนตัวเอง ถ้ามีอะไรก็กลับมาหาฉันได้ทุกเมื่อนะ”
มือหนาขยี้ผมสีน้ำตาลไปมา ไม่ว่าเมื่อไรเจ้าเด็กตัวดีตรงหน้าก็ชอบที่จะตัดสินใจหรือทำอะไรเพียงลำพัง
ทั้งที่ตัวเขาเองอยากให้เด็กหนุ่มพึ่งพามากกว่านี้
แต่ดูเหมือนเอเลนก็มีความพยายามและความรั้นในแบบของตัวเองที่เขาก็ไม่คิดห้าม
ใบหน้ามนยิ้มระรื่นให้กับความเอาใจใส่และความเอ็นดูที่คนตรงหน้ามีให้เสมอมา
ฝ่ามือใหญ่ที่แสนอบอุ่นนี้ไม่ว่ายังไงเขาก็จะปกป้องคนคนนี้
ปกป้องรอยยิ้มที่อบอุ่นและครอบครัวของคุณฮันเนสผู้มีพระคุของเขาให้ได้
“เออ
คุณฮันเนสครับตั้งแต่พรุ่งนี้ไปผมอาจต้องขอเลิกงานเร็วหน่อยนะครับ
แต่ยังไงผมก็จะเคลียทุกอย่างไม่ให้คุณมีปัญหา”
ชายวัยกลางคนเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะเอเลนไม่เคยขอเลิกงานเร็วหรือกลับก่อนเลยสักครั้งจะมีก็แต่ยุ่งทำงานจนดึกดื่นหรือลืมเวลา
“ตอนเย็นนายมีอะไรงั้นเหรอ? หรือว่า……นัดสาวกันล่ะพ่อหนุ่มน้อย” แขนแกร่งของชายหนุ่มล็อคเข้าที่คอร่างบาง
มือหนาขยี้ลงบนหัวสีน้ำตาลอย่างหมั่นเขี้ยว
ชายหนุ่มได้แต่คิดว่าการที่เจ้าเด็กนี้มาขอเวลาน่าจะเป็นเพราะอยากแบ่งเวลาของตนให้กับใครสักคนล่ะมั่ง
“ไม่ใช่แล้วคร๊าบ!!!”
มือเรียวพยายามดันแขนที่ล็อคลงมาออก
ร่างโปร่งพยายามดีดดิ้นตนเองให้หลุดออกจากแขนแกร่งที่ล็อคตนไว้
“อ้าว แล้วนายจะรีบไปไหนล่ะถ้าไม่ใช่นัดใครไว้” แขนแกร่งคลายลง
ฮันเนสมองเด็กหนุ่มพลางนึกเสียดาย
ทั้งที่คิดว่าจะได้เห็นเจ้าหนุ่มน้อยของเขาเด็กสาวหน้าตาน่ารักมาแนะนำ
ใบหน้ามนถอนหายใจ นิ้วเรียวยกขึ้นมาเกาแก้มตนเองอย่างใช้ความคิด
“เออ
คือว่าคนรู้จักขอให้ไปช่วยตอนเย็นน่ะครับ”
“อย่างนั้นเหรอ ช่วยไม่ได้นะตามใจนายละกัน” การที่เด็กหนุ่มเอ่ยปากขอร้องคงเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับเจ้าตัว
เลยทำให้ฮันเนสไม่ติดใจสงสัยอะไรจะมีก็แต่ความรู้สึกเสียดายที่คิดว่าเอเลนจะพาใครที่พิเศษมาให้ตนรู้จัก
คอนโดหรูชั้นที่ 36 ชั้นบนสุดแบบเพนท์เฮาส์
เอเลนแทบไม่ต้องหาหมายเลขห้องให้วุ่นวายเพราะทั้งชั้นของชั้นบนสุดนี้มีเพียงแค่ห้องเดียว
แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนที่อาศัยอยู่ที่นี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
อย่างน้อยก็เรื่องของรายได้ที่สามารถเป็นเจ้าของเพนท์เฮาส์แห่งนี้
หรือบางทีอาจเป็นเจ้าของคอนโดทั้งตึกเลยก็เป็นไปได้
มือบางรูดคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตู ต้องยอมรับว่าความปลอดภัยและระบบรักษาการณ์ที่นี้ค่อนข้างเข้มงวดทีเดียว
กว่าที่ตัวเขาจะขึ้นมาถึงห้องที่เป็นจุดหมายได้ต้องผ่านเหล่ารปภ.ที่เข้ามาซักถาม
แต่พอบอกว่ามาหาคนที่ชื่อรีไวดูเหมือนทุกคนจะยอมเปิดทางให้เขาเข้ามาแต่โดยดีโดยไม่ถามอะไรต่อ
ลิฟท์ของที่นี้ก็ต้องใช้คีย์การ์ดเพื่อใช้งาน
แทบบอกได้เลยว่าถ้าเป็นคนนอกที่ไม่มีคีย์การ์ดไม่สามารถที่จะเข้าออกหรือป้วนเปี้ยนในอาคารได้เลยต้องรอที่ล็อบบี้เท่านั้น
อีกทั้งยังมีพนักงานต้อนรับและประชาสัมพันธ์ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าเขาไม่รู้ว่าแท้จรองแล้วที่นี้คือคอนโดคงต้องคิดว่าเป็นโรงแรมหรูระดับ5ดาวอย่างแน่นอน
“โฮ่ รักษาเวลาดีนี้ไอหนู”
ยังไม่ทันที่ร่างบางจะก้าวเข้ามาในห้องเสียงทุ้มที่ฟังแล้วชวนเสียวสันหลังก็ดังขึ้นพร้อมชายร่างเล็กแต่แข็งแกร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาและกางเกงสแลคยืนต้อนรับที่หน้าทางเข้า
ใบหน้ามนมองอีกคนอย่างไม่สบอารมณ์
แต่ในเมื่อตบปากรับคำไปแล้วจึงได้ฝืนยิ้มทักทายแม้จะเป็นยิ้มเฝื่อนๆก็ตาม
“สวัสดีครับคุณรีไว ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ผมรับใช้ครับ
ถ้าคุณไม่ว่าอะไรกระผมก็อยากจะขอบอกว่าแต่เดิมผมมีงานทำอยู่แล้วและคงเสียเวลาอยู่กับคุณได้ไม่มากนักเพราะกระผมอยากพักผ่อนนะครับ”
คำพูดที่ประชดประชันเพื่อให้รู้ว่าตัวเขาไม่ได้ยินดีหรือเต็มใจที่จะโดนบังคับให้ทำตามคนตรงหน้ายิ่งทำให้รีไวรู้สึกถูกใจในความรั้นของเด็กหนุ่ม
“นายไม่ต้องห่วงเรื่องจะเสียเวลาพักผ่อนหรอกนะ”
ใบหน้ามนมองอีกคนอย่างสงสัย
“เพราะว่าของของนายฉันขนมาให้อยู่ในห้องนั้นแล้วล่ะนะ”
ร่างโปร่งรีบวิ่งไปยังห้องที่ชายหนุ่มบอก
เมื่อเปิดประตูไม้บานหนาเข้าไปนัยน์ตาสีมรกตต้องวาวโรจน์ด้วยความตกตะลึงระคนความไม่พอใจ
เมื่อพบว่าของทุกอย่างที่เคยอยู่ในห้องพักของตนถูกย้ายมาโดยคิดจะขออนุญาตจากเจ้าของเลยสักนิด
แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือของทั้งหมดของเขาในอพาร์ทเมนต์สามารถยัดลงและจัดวางอย่างเป็นระเบียบได้ในห้องเดียว
“นี่หมายว่าว่ายังไงกันครับ?”
เอเลนหันไปสบกับคนใบหน้านิ่งเฉยอย่างไม่สบอารมณ์
“แบบนี้มันง่ายดีน่ะ” คำตอบที่เหมือนไม่ตรงประเด็น
ยิ่งทำให้เอเลนรู้สึกเหมือนกำลังโดนปั่นหัว
ง่ายสำหรับอะไรง่ายสำหรับตัวเขาหรือง่ายสำหรับชายหนุ่มกันแน่?
เด็กหนุ่มพยายามสูดหายใจลึกเพื่อระงับอารมณ์ของตนเองที่กำลังพุงสูงขึ้นให้สงบลงบ้าง
“ถึงคุณไม่ทำแบบนี้ผมก็ไม่คิดเบี้ยวหรอก บอกตามตรงถ้าต้องมาอยู่กับคุณ ผมอึดอัด”
“งั้นนายก็ควรทำตัวให้ชินซะ”
ชายหนุ่มยังคงตีสีหน้านิ่งเฉยกับท่าทีของเด็กหนุ่มตรงหน้า
ร่างเล็กแต่ทว่าแข็งแกร่งนั่งลงบนโซฟาหนังสีดำกลางห้อง
นัยน์ตาสีขี้เถ้ามองเด็กหนุ่มที่กำลังพยายามสะกดกลั้นความไม่พอใจพลางนึกขำ
“นี่มันคุกคามสิทธิมนุษยชนกันชัดๆ คุณตัดสินใจเองแบบนี้ไม่ได้!!” ความอดทนถึงจุดสิ้นสุด
เอเลนตะโกนลั่นด้วยความโมโหที่เริ่มครุกรุ่น
แต่รีไวคนก่อเหตุทั้งหมดยังคงนิ่งเฉยไม่แสดงทีท่าใดใด
นัยน์ตาสีขี้เถ้าหรี่มองใบหน้ามนที่กำลังฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน
แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกสนุก
“ฉันว่านายไม่มีสิทธิ์เลือกจริงไหม?”
คำพูดของชายหนุ่มยิ่งทำให้อารมณ์ของเอเลนครุกรุ่น
ถึงกระนั้นเขาก็ได้แต่พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตนเองอย่างไม่มีทางเลือก
เพื่อปกป้องฝ่ามือที่อบอุ่นของผู้มีพระคุณเขาคงได้แต่ต้องก้มหน้ายอมรับและทำตามเท่านั้น
ถึงมันจะขัดกับใจจริงของเขาก็ตาม ทั้งที่คิดว่าจะหนีไปให้ไกลแต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้เขาถูกคนคนนี้จับล่ามไว้
“ต่อไปนายควรใส่สิ่งนี้ไว้ติดตัว”
ข้อมือแกร่งโยนบางอย่างให้กับเด็กหนุ่ม
เอเลนคว้ารับไว้อย่างไม่เต็มใจเมื่อมองว่าสิ่งที่คนตรงหน้าให้คืออะไรคิ้วสีน้ำตาลก็ต้องขมวดมุ่นอย่างสงสัย
สิ่งที่ชายหนุ่มโยนให้คือเลสข้อมือที่มีสัญลักษณ์ปีกสีขาวและดำไขว้กัน
เมื่อพลิกดูด้านในมีตัวอักษรสลักไว้ว่า S.D.
“นี่มันอะไรกัน?”
“นายไม่รู้จักเลสข้อมือหรือไง?”
คำตอบที่ยียวนยิ่งทำให้เด็กหนุ่มอยากปาของในมือทิ้งแต่เกรงว่าถ้าทำอย่างนั้นตัวเขาจะลงไปนอนกองกับพื้นเช่นเดียวกัน
ความหนักหน่วงของท่อนขาของคนที่กำลังนั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์บนโซฟาตอนนี้เจอแค่ครั้งเดียวก็จำไปจนตายเลยล่ะ
“ผมรู้ว่ามันคือเลส แต่คุณให้ผมมาทำไม
ผมไม่คิดจะเข้าองค์กรของคุณหรอกนะ” ร่างบางยื่นเลสข้อมือคืนชายหนุ่ม
“ฉันสั่งทำพิเศษจากทองคำขาวให้นายเลยนะ ต่อให้นายจะชอบใจหรือไม่แต่นายก็ถือว่าเป็นคนของฉัน
เป็นของของฉันเข้าใจไหมไอหนู”
นัยน์ตาสีขี้เถ้าฉายแววสนุกกับปฎิกิริยาของเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ชริ! ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ใช่ของของคุณ”
ข้อมือบางกำเลสที่อยู่ในมือแน่น ไม่เข้าใจทำไมคนคนนี้ถึงทำกับตัวเขาราวกับสิ่งของ
คิดอยากจะทำอะไรก็ทำโดยไม่สนใจบ้างเลยว่าตัวเขาต้องการหรือไม่
เอเลนมองเลสในมืออย่างเจ็บใจ ชริ!
อย่างน้อยไอนี้ก็ทำจากทองคำขาวถ้าเขาเอาไปขายก็คงได้เงินมากโขสินะไหนๆหมอนี่ก็ให้เขาแล้ว
“แล้วนายอย่าคิดเอาไปขายแลกกับเศษเงินเชียวถ้าไม่อยากโดนลงโทษ”
ร่างโปร่งสะดุ้งกับความรู้ทันของชายหนุ่ม
ใบหน้ามนจึงส่งยิ้มเฝื่อนเพื่อปกปิดความคิดขายเลสทองคำขาวที่เพิ่งได้มาของตน
“แหะๆ ของแพงขนาดนี้ผมไม่กล้าเอาไปขายหรอกครับ ว่าแต่ S.D.ที่สลักไว้หมายถึงอะไรเกี่ยวกับตำแหน่งงานของผมรึเปล่า?”
ในเมื่อไม่อาจต่อกรหรือทำอะไรคนตรงหน้าได้มีแต่ต้องยอมจำใจทำตาม
“โฮ่ นายก็ฉลาดอยู่เหมือนกันนะ มันคือตำแหน่งงานของนายนั่นแหละ”
“แล้วมันย่อมาจากอะไรเหรอ Security Daily หรือ Secret
Danger”
จะว่าไปหมอนี่จะเอาช่างภาพอย่างเขามาทำอะไร
ดูแล้วตัวเขาไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับแก๊งค์มาเฟียสักนิด
ใบหน้าคมยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
และมันทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกว่าตัวอักษรย่อตำแหน่งของเขาต้องเป็นอะไรที่เลวร้ายอย่างมาก
“Slave Dog เหมาะกับนายใช่ไหมล่ะ”
คำตอบของรีไวยิ่งทำให้เอเลนอยากขว้างเลสข้อมือหรือเอาไปฝังดินให้ลึกที่สุดยิ่งกว่าเดิม
ไอหมอนี่เห็นว่าเขาเป็นหมาอย่างงั้นเหรอฟร่ะ!!
“ถ้าคุณอยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยงก็ไปซื้อสิครับ
ตัวผมไม่ได้มีขนปุกปุยหรอกนะ”
“หืมถ้านายไม่ชอบ……..จะเปลี่ยนเป็น Sweet Darling ฉันก็ไม่ห้ามหรอกนะ”
ร่างโปร่งได้แต่อ้าปากค้างกับคำพูดของชายหนุ่ม
หมอนี่ที่พยายามไล่จับหรือคอยมาก่อกวนเขาขนาดนี้อย่าบอกนะว่าแอบคิดอะไรพิลึกๆกับเด็กหนุ่มอย่างเขาน่ะ!!
“เออคุณรีไว คุณเป็นเกย์เหรอ?”
คำถามของเอเลนทำให้คิ้วคมกระตุก
นัยน์ตาสีขี้เถ้าจ้องมองเด็กหนุ่มอย่างเอาเรื่อง
“นายกำลังคิดบ้าอะไรของนายไอเด็กเหลือขอ!”
“ก็เห็นคุณทำอย่างนั้นกับผมแถมรังควานผมขนาดนี้!!” เมื่อคิดดูดีๆแล้วถ้าไม่ใช่เกย์คงไม่สามารถทำเรื่องที่น่าอายแบบนั้นกับเขาได้
ต่อให้มองมุมไหนตัวเขาก็เป็นผู้ชายทั้งแท่งถึงจะติดว่าหน้าหวานไปหน่อยก็เถอะซ฿งตรงส่วนนี้ตัวเขาเองก็รู้ตัวดี
ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่คนตรงหน้าทำใบหน้ามนก็รู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
“บอกไว้เลยนะไอหนูฉันไม่ใช่เกย์”
“แล้วทำไม?” เอเลนเอียงคอมองอย่างสงสัย
ถ้าไม่ใช่แล้วจะไล่ตามผู้ชายแบบเขาไปทำไม
“ฉันบอกแล้วไงว่าสนใจในตัวแก”
แต่ความสนใจของคุณมันไม่ปกติเลยนะครับ เด็กหนุ่มได้แต่ทักท้วงอยู่ในใจ
ถ้าเขาบอกว่าไม่ใช่เกย์คงเป็นไบฯล่ะมั่ง เพราะผู้ชายปกติคงไม่คิดจะจูบหรือทำอะไรแบบนั้นกับผู้ชายด้วยกัน
จะว่าไปแล้วการที่เขาโดนบังคับมาอยู่ใกล้คนอันตรายแบบนี้
ร่างกายของเขาเรียกได้ว่าเสี่ยงถึงขั้นวิกฤตเลยสินะ
แล้วแบบนี้เขาจะนอนหลับแต่ละคืนได้ยังไงกันล่ะ? แค่คิดก็เครียดแล้ว….
“เออ ว่าแต่แล้วตกลงงานของผมคืออะไรครับ?”
อย่าบอกว่าเป็นคู่นอนของหมอนี่นะ
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงต่อให้เป็นคุณฮันเนสก็เถอะแต่ขอเขาคิดทบทวนดูอีกทีจะทันไหม?
“งานของนายคอยจัดการพวกงานบ้านและเรื่องทั่วไปรอบตัวฉันก็พอ”
เออและรอบตัวคุณไม่รวมถึงเรื่องบนเตียงใช่รึเปล่าครับ?
เหมือนรีไวจะอ่านความคิดของเด็กหนุ่มออก
ใบหน้าคมจึงฉายแววยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้ง
“นายไม่ต้องห่วงไป
ช่วงนี้ฉันกำลังยุ่งคงไม่ได้ว่างเล่นกับนายตอนกลางคืนมากนัก”
เอเลนได้แต่หน้าขึ้นสีด้วยความอายกับคำพูดที่รู้ทันของชายหนุ่ม
เท่ากับบอกเป็นนัยว่าให้เขามีเวลาเตรียมตัวและเตรียมใจไปอีกสักพักไม่ใช่หรือไงกัน
“ว่าแต่นายจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม?”
รีไวพยักหน้าบอกให้เด็กหนุ่มที่ยืนอยุ๋หน้าห้องใหม่ของตนเองลงมานั่งที่ว่างบนโซฟา
ร่างบางเดินมานั่งตัวเกร็งโดยทิ้งระยะห่างอย่างเห็นได้ชัด
ปฏิกิริยาของเด็กหนุ่มทำให้รีไวเกือบหลุดขำออกมา
ไอเด็กนี้ทำให้เขาไม่เบื่อเลยจริงๆ
“เอาล่ะฉันจะใจดีกับนายหน่อยละกัน ฉันให้นายเสนอเงื่อนไขมา 3 ข้อสำหรับการอยุ่ร่วมกันเผื่อนายจะทำตัวได้สบายขึ้น”
ข้อเสนอของชายหนุ่มทำให้เอเลนรู้สึกลิงโลด
อย่างน้อยเขาก็ยังพอหาทางหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ได้บ้าง
“ไหนๆคุณก็เสนอมาเองผมก็ขอรับไว้ละกันนะครับ งั้นข้อแรก”
ใบหน้ามนสูดอากาศลึกก่อนหันมายิ้มจนเห็นฟันขาว “ห้ามคุณแตะต้อง ลวนลาม ผมถ้าผมไม่เต็มใจ”
“ถ้านายเต็มใจก็ไม่มีปัญหาสินะ” ใบหน้าเฉยชายกยิ้มอย่างรู้สึกสนุก
อยู่ๆเอเลนก็รู้สึกหน้าเริ่มร้อนขึ้นอย่างแปลกๆ “ถ… ถ้าผมเต็มใจนะครับ
แล้วก็ข้อสองห้ามคุณเข้ามาในห้องของผมเด็ดขาด”
“แต่ถ้านายอยากเข้ามาในห้องฉัน
ฉันก็ยินดีต้อนรับนะ”
“ผมไม่มีวันอยากเข้าห้องคุณแน่ครับ!! ยกเว้นคุณอยากให้ผมทำความสะอาดให้ แต่…ผมว่าผมคงทำได้ไม่ดีเท่าคุณทำเอง” เมื่อนึกถึงสภาพห้องที่โดนทำความสะอาดจนเหมือนใหม่ทำให้เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกเกร็งกับการต้องทำความสะอาดเพนท์เฮาส์สุดหรูที่แสนกว้างนี้ให้ชายหนุ่มพอใจ
“ฉันหวังว่าอย่างน้อยนายจะทำได้ตามมาตรฐานที่ฉันต้องการ และข้อสามล่ะ”
รีไวเอ่ยถามข้อตกลงอีกข้อที่เหลืออยู่
“ส่วนข้อสาม ถ้าเป็นเรื่องของผมกรุณาถามหรืออย่างน้อยบอกผมก่อนนะครับ
ครั้งนี้ผมจะถือว่าผมไม่มีทางเลือกละกัน”
คิดแล้วก็ยังหงุดหงิดไม่หายกับการย้ายข้าวของและที่อยู่ของเขาโดยพลการ
อย่างน้อยกฏทั้งสามข้อนี้ก็คงพอให้ชีวิตและความบริสุทธิ์ของร่างกายเขาไม่สั่นคลอนได้บ้าง
“หมดแล้วสินะทั้งสามข้อ ฉันโอเคกับเงื่อนไขของนายแต่…” ร่างเล็กแต่แข็งแกร่งเขยิบเข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม
มือแกร่งช้อนคางมนให้ขึ้นสบกับนัยน์ตาสีขี้เถ้าของตน
เด็กหนุ่มพยายามดิ้นกับภัยที่กำลังคุกคามจนถูกมือแกร่งอีกจับแขนล็อคไว้
“แว๊ก!! กฏข้อหนึ่งนะครับคุณรีไว กฏข้อหนึ่ง!!” เด็กหนุ่มโวยวายเรียกร้องสิทธิของตนตามเงื่อนไข
“ฉันกำลังจะบอกเลยว่าสำหรับฉันมีเงื่อนไขข้อเดียว”
ใบหน้าคมยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับเด็กหนุ่มตรงหน้า รอยยิ้มที่ทำให้ร่างบางถึงกับขนลุก
“กฎของที่นี้ก็คือฉัน”
ก่อนที่เอเลนจะทันได้เอ่ยเถียงออกไป
คำพูดก็ถูกกลืนหายเมื่ออีกฝ่ายประทับริมฝีปากลงมา
ลิ้นร้อนกระหวัดหยอกเย้ากับลิ้นบางที่อยุ่ภายใน
ด้วยความเริ่มคุ้นชินทำให้ร่างโปร่งเองก็ตอบรับสัมผัสที่รุกรานเข้ามาอย่างลืมตัว
และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มพอใจอย่างมาก
เมื่อริมฝีปากคมถอดถอนออกเอเลนก็ได้แต่หอบเอาอากาศเข้าอย่างหมดแรง
“แต่ในเมื่อฉันเป็นคนเสนอเงื่อนไขให้นาย
และวันนี้ฉันก็รู้สึกอยากใจดีเป็นพิเศษเงื่อนไขของนายฉันจะรับไว้พิจารณาก็แล้วกัน”
เดี๋ยวสิครับ
นั้นไม่เท่ากับว่ายังไงผมก็ต้องทำตามอารมณ์และความเอาแต่ใจของคุณพี่อยู่ดีไม่ใช่เหรอ?
เด็กหนุ่มได้แต่ประท้วงร้องอยู่ในใจกับการโดนเอาเปรียบที่ไม่อาจหนีได้
ก่อนที่ใบหน้าคมจะก้มลงมาจาบจ้วงอีกครั้งเสียงสวรรค์ของเด็กหนุ่มก็ดังขัดขึ้น
ออด ออด
“เฮ้รีไว นายอยู่รึเปล่า!?”
เสียงกดออดและเสียงเรียกที่ดังระงมทำให้ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดที่โดนขัดจังหวะกับการเล่นแหละเย้าแหย่สัตว์เลี้ยง
และดูเหมือนเสียงรบกวนจะไม่เงียบลงง่ายๆ
รีไวจึงผละออกจากตัวร่างโปร่งแล้วไปเปิดประตู
แม้ไม่รู้ว่าเสียงหญิงสาวปริศนาที่มากดออดเรียกเป็นใครแต่เอเลนก็รู้สึกขอบคุณที่ทำให้เขารอดปลอดภัยจากอันตรายที่เกือบจะเกิดขึ้นอย่างหวุดหวิด
“มีอะไรยัยสี่ตา ถ้าจะคุยเรื่องงานอีกสองชั่วโมงฉันก็ต้องไปออฟฟิศอยู่แล้ว”
ชายหนุ่มเปิดประตูให้กับหญิงสาวสวมแว่นตาร่างโปร่งให้เข้ามาในห้องอย่างไม่สบอารมณ์
“หืม นี่ฉันมาขัดจังหวะอะไรนายรึเปล่า?”
ฮันซี่มองอารมณ์หงุดหงิดคนตรงหน้าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อมองเห็นเด็กหนุ่มอีกคนที่กำลังทำหน้าไม่ถูกนั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง
“เธอมีอะไรก็รีบรายงานมาฮันซี่”
ชายหนุ่มรีบเข้าประเด็นถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวมองเด็กหนุ่มอย่างพิจารณา
“พนักงานขนย้ายเมื่อช่วงกลางวันทำงานได้รวดเร็วสินะ
พอตอนเย็นสัตว์เลี้ยงใหม่ของนายถึงได้มาที่นี้ได้ทันที”
“ขอโทษนะครับ ผมไม่ใช่สัตว์เลี้ยงและผมก็ไม่ได้เต็มใจจะมาอยู่ที่นี้ด้วย”
คำพูดของหญิงสาวทำให้เอเลนรู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก
ทำไมคนพวกนี้ถึงมองคนอื่นเป็นสิ่งของไม่ก็สัตว์เลี้ยงไปหมดเลยนะให้ตายสิ!
“แหมๆ ดุซะด้วยเข้าใจเลยว่าทำไมรีไวถึงสนใจนาย”
การฝึกให้เชื่องเป็นอะไรที่สนุกและท้าทายมากกว่าการได้สัตว์สวยงามเชื่องๆที่ดูราวกับของประดับสินะ
“ตกลงเธอมีอะไรยัยแว่น” ชายหนุ่มกลับมานั่งกอดอกที่โซฟาพลางหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้าที่มาขัดจังหวะอย่างหัวเสีย
“เกือบลืม อาทิตย์หน้าเอลวินจัดงานเปิดโรงแรมสาขาใหม่ในเครือ
แล้วนายต้องหาคู่ไปด้วยน่ะรู้สึกจะจัดเป็นงานเต้นรำด้วยล่ะ”
หญิงสาวยื่นการ์ดเชิญไปงานเปิดตัวโรงแรมให้กับชายหนุ่มที่จริงจะรอให้รีไวมาที่ออฟฟิศแล้วเธอค่อยให้ก็ได้
แต่ด้วยความที่อยากเห็นเด็กหนุ่มที่เจ้าตัวกำลังหยอกเล่นอย่างสนุก
เธอเลยอยากจะมาเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยตาตนเอง เมื่อได้พบแล้วก็ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมคนเฉยชาไม่สนอะไรอย่างรีไวถึงสนใจเด็กหนุ่มขนาดนี้
ด้วยนิสัยที่ดื้อรั้นไม่ยอมอ่อนข้อทำให้รู้สึกท้าทาย
ใบหน้ามนหวานที่มองแล้วน่าเอ็นดู
ทุกสิ่งในตัวของเด็กหนุ่มปลุกสัญชาตญาณให้คนแบบรีไวหรือแม้กระทั่งตัวเธอเองอยากที่จะกลั่นแกล้ง
ยิ่งเห็นนัยน์ตาสีมรกตที่มองมาด้วยแววตาที่ดุดันเอาเรื่องก็ยิ่งรู้สึกอยากกำราบมากยิ่งขึ้น
มือแกร่งเปิดซองจดหมายเพื่ออ่านรายละเอียดข้างใน
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้า
“เธอไปเป็นคู่ให้เอลวินในงานเปิดตัวนี้สินะ” แม้เอลวินและรีไวจะเป็นผู้ถือหุ้นในธุรกิจเดียวกันและเบื้องหน้าเบื้องหลังเหมือนกันก็ตาม
บ่อยครั้งที่ธุรกิจบางตัวต่างคนต่างแยกไปจัดการและเชิญอีกคนที่เป็นหุ้นส่วนมาร่วมงาน
อีกทั้งงานเปิดตัวธุรกิจจำพวกโรงแรมสำหรับสังคมชั้นสูงก็ต้องไปเป็นคู่ชายหญิง
เพราะถือเป็นหน้าตาและเป็นการให้แสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมที่ไม่แบ่งแยกเพศในเรื่องของงาน
อีกทั้งในแวดวงธุรกิจแบบนี้ต้องเจอคู่ค้าที่เป็นทั้งมิตรและศัตรูอยู่มาก
การที่คู่ควงของตนดูดีมากเท่าไรยิ่งขับให้เจ้าของธุรกิจดูมีมาดขึ้นเท่านั้น
จะเรียกได้ว่าหาคู่มาประชันกันก็ไม่ผิดสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ยังโสดและมักชอบโดนยัดเยียดหญิงสาวจากบรรดาคู่ค้าทั้งหลายที่หวังผูกสัมพันธ์การหาคู่ที่ดูดีมากไปเท่าไรยิ่งลดความน่ารำคาญตรงนี้ลงได้มาก
แล้วฮันซี่เองแม้ปกติจะเพี้ยนอยู่บ้างแต่เมื่อต้องออกงานแล้ววางตัวในสังคมเธอทำได้อย่างไร้ที่ติ
อีกทั้งเธอก็เป็นผู้หญิงที่ดูดีอยู่มากทีเดียว
“แน่นอน นายจองตัวฉันช้าไปนะถ้าไงให้เพทราไปดีไหม?”
ฮันซี่เสนอหญิงสาวอีกคนที่บ่อยครั้งจะเป็นคู่ของรีไวเสมอเมื่อต้องออกงานที่ยุ่งยากแบบนี้
“วันที่ระบุไว้ฉันให้เพทราไปจัดการงานที่นอกเมืองคงกลับมาไม่ทัน”
“งั้นจะเอาใครล่ะ หรือจะให้ฉันติดต่อไปที่พวกจัดหาคู่
แต่แบบนั้นนายก็ไม่ชอบนี่?”
เวลาใช้บริการจัดหาคู่ทีไรเหล่าหญิงสาวมักพยายามสานสัมพันธ์กับชายหนุ่มต่อ
จนหลายครั้งที่ชายหนุ่มรำคาญถึงขั้นจะจับผู้หญิงเหล่านั้นถ่วงลงทะเลจนเธอกับคนอื่นๆต้องรีบสะสางทุกอย่างแทน
“พวกนั้นน่ารำคาญ”
“แล้วนายจะเอายังไง?” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นกับความเอาแต่ใจของชายหนุ่ม
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองเด็กหนุ่มที่นั่งตัวเกร็งฟังบทสนทนาอยู่ด้านข้าง
แล้วใบหน้าคมก็ฉายแววยิ้มเจ้าเล่ห์จนทำให้เอเลนรู้สึกร้อนๆหนาวๆ
“ถ้างั้นก็ฝากด้วยละกัน Sweet Darling”
TBC.
555555555555555555 ขอฮาหน่อยเถอะ
ตอบลบจาก Security Daily กับ Secret Danger
กลายเป็น Slave Dog ถถถถถถถ ไปไม่เป็นเลยทีเดียว
แล้วสุดท้ายเป็น Sweet Darling น่ารักอะ
หวานมากค่ะคุณพี่ ถถถ
เอเลนละก็ ถามไปตรงๆ เลยสินะ ว่าเป็นเกย์รึเปล่า
ถูกใจเจ๊จริงๆ ♥
เอาละฝากด้วยนะ Sweet Darling ♥
เอเลนเรื่องนี้เเกล้งสนุกมากค่ะบอกเลย5555
ลบ