Fic. Attack On Titan (Levi x Eren): Last
Memory
Chapter 6
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเอเลนกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนอย่างที่เคยเป็น เลิกสนใจเรื่องราวในบันทึกที่เขาเจอ พยายามไม่คิดถึงใบหน้าคมแสนเย็นชาที่ตราตรึงอยู่ในห้วงความคิด
ถึงแม้ร่างกายจะไม่ได้บาดเจ็บดังเช่นในความฝัน
แต่จิตใจก็ยังคงปวดร้าวแม้ยามตื่นจากฝันแล้วก็ตาม
ถึงพยายามที่จะไม่สนใจบันทึกอีกแต่หลายครั้งที่มือเปิดลิ้นชักซึ่งเก็บบันทึกไว้ แล้วสุดท้ายก็ได้แต่จ้องมองไม่กล้าที่จะสัมผัสหรือรับรู้เรื่องราวต่อจากนั้น
เพราะกลัวที่จะถลำลึกลงไปมากกว่านี้
…
เพราะต้องการลืมคนที่โหดร้ายที่ทำร้ายตนให้เจ็บปวด….
ทั้งที่ตั้งใจว่าจะลืมแต่ก็ยังคงไม่อาจสลัดภาพคนคนนั้นออกไปได้จากห้วงความคิด
และจากใจที่ปวดหนึบทุกครั้งยามนึกถึง
ทั้งที่ในปัจจุบันนี้คุณไม่ได้มีตัวตนเสียหน่อย ทำไมผมถึงได้เหมือนกับไขว่คว้าความว่างเปล่าที่มองไม่เห็นอยู่ด้วยนะ
เวลาที่แท้จริงยังคงดำเนินต่อไป
การพรีเซ็นต์งานและส่งรายงานของภาควิชาต่างๆจบลงพร้อมกับการสอบที่กำลังจะสิ้นสุดในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า……
“หมดเวลา!! ขอให้นักศึกษาทุกคนวางปากกาและออกจากห้องสอบได้”
เสียงของผู้คุมสอบที่ดังก้องขึ้นทำให้เอเลนวางปากกาที่กำลังเขียนคำตอบลง
ถึงแม้จะมีเรื่องรบกวนจิตใจแต่เขาก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบที่ดี เลยไม่น่าเป็นห่วงเรื่องคะแนนสอบและรายงานของวิชาต่างๆที่ได้ทำไป
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของทุกคณะในมหาวิทยาลัยชินะ
กลุ่มเพื่อนสนิทจึงได้นัดรวมตัวเพื่อพบป่ะหลังจากที่ทุกคนต่างต้องแยกย้ายกันไปฝ่ามรสุมการส่งรายงานและการสอบในช่วงหลายอาทิตย์ที่เกิดขึ้น
“ในที่สุดก็จะได้หยุดยาวแล้วววว มาฉลองกันเถอะ!” เสียงของเด็กหนุ่มร่างเล็กหัวโล้นป่าวประกาศตื่นเต้นด้วยความดีใจ
“นี่ก็จะได้พักผ่อนยาวกันสักระยะแล้วนะ ใครมีแผนอะไรบ้างรึเปล่า?” เบลทรูธเด็กหนุ่มที่สูงที่สุดในกลุ่มเปิดประเด็นวางแผนการเที่ยว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในตำราพิชัยพิชิตหัวใจ
นายเอเลน เยเกอร์ เพื่อ แจน
กิลชูไตน์
ที่ทั้งกลุ่มช่วยกันคิดและวางแผนเพราะเหมือนเป็นเรื่องผ่อนคลายในการสอบก็เพราะเป็นเรื่องที่สนุกตื่นเต้นและน่าลุ้นของเพื่อนสนิทในกลุ่ม จะมีก็แต่เอเลน และมิคาสะที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการวางแผนแต่เป็นเป้าหมายหลักที่ทั้งกลุ่มเปรียบเป็นมิชชั่นลับที่ต้องเคลียในเกม
RPG
“ผมว่าเราไปเที่ยวผ่อนคลายที่ไกลๆ แล้วค้างคืนกันสักสอง ถึง สามวันไหมครับ?”อาร์มินเสริมขึ้นเพื่อชักชวนร่างโปร่งให้สนใจ
“ดีนะคะไปกันหมดทุกคนต้องสนุกแน่ๆเลย พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวไกลๆด้วยกันนานแล้ว” คริสต้า
สาวน้อยที่บอบบางที่สุดช่วยเสริมทับอีกแรง
“ดีๆขนของกินไปให้เพียบเลยนะ
ว่าแต่ไปที่ไหนดีล่ะที่บรรยากาศดีๆอาหารก็อร่อยและน่าสนใจน่ะ?”
ชาช่าสาวน้อยที่เรื่องกินเป็นที่หนึ่งช่วยเสริม
แต่ที่จริงแล้วเรื่องอาหารน่าจะเป็นประเด็นหลักของเธอมากกว่าการช่วยเหลือเพื่อนตามตำราพิชัยพิชิตใจฯ
“ทะเลไงครับ ทั้งวิวสวย
อาหารก็เป็นอาหารทะเล
แถมมีกิจกรรมให้ทำมากมายเลยด้วยนะครับ”มาร์โกรีบพูดขึ้น ที่เลือกทะเลก็เพราะรู้กันดีว่า คุณชายแจน
มีบ้านพักตากอากาศส่วนตัวที่ริมทะเลอยู่แล้วน่ะสิ
ทุกคนวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวทะเลโดยเสนอให้ไปพักที่บ้านตากอากาศของแจน
โดยบอกว่าเพื่อเป็นการสร้างอิมเมจของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อให้ดูน่าสนใจ และแจนกับเอเลนจะได้ซึมซับบรรยากาศของทะเลเพื่อสร้างความโรแมนติก(ที่อาจจะเกิดขึ้นล่ะมั่ง) ของทั้งสองและเพื่อให้เอเลนประทับใจแจนยิ่งขึ้นด้วย
ถึงแม้ว่าเหตุผลหลักจะเป็นเพราะบ้านพักตากอากาศของแจนนั่นบรรยากาศดี อาหารและค่าที่พักฟรี ก็เถอะแต่ใครจะไปบอกตรงๆกันล่ะ
“ง…งั้นมาพักที่บ้านพักของชั้นไหมล่ะ
ติดริมทะเล อาหารที่นั่นก็อร่อยด้วย แล้วยังมีเรือยอร์ชส่วนตัวเผื่อพวกนายอยากไปเที่ยวเกาะละแวกนั้น
หรือจะตกปลา แถมดำน้ำก็ได้ด้วย แล้วยังมีเจ๊ทสกี หรือจะปีนผา
ถ้าอยากว่ายน้ำในสระก็มีพร้อม แล้วไหนจะส่วนตัวไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนให้ยุ่งยาก”สมเป็นคุณชายแจนที่กำลังตกเป็นเหยื่อ เอ๊ย!!ที่กำลังพยายามตามจีบร่างโปร่ง โปรโมชั่นลดแลกแจกแถมมาเพียบ!!!
“เอเลน
กับมิคาสะว่าไง? ไปด้วยกันหมดเลยน่าสนุกดีนะ”
ไรเนอร์พูดเชิญชวนเป้าหมายหลักของแผนการ
ทะเลอย่างนั้นเหรอ
หลังสอบเสร็จก็ไม่ได้มีแผนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจะมีก็แค่อาจต้องไปช่วยคุณพ่อที่โรงพยาบาลในการช่วยดูแลผู้ป่วยบ้าง แต่ถึงเขาจะไปช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรอยู่แล้ว ถ้าได้ไปเที่ยวผ่อนคลายที่ไกลๆกับเพื่อนมันคงทำให้เขาลืมความรู้สึกบ้าๆที่ถาโถมเข้ามาจากความฝันได้บ้าง…..
“เอาสิ”เอเลนตอบตกลงตามคำชวนของเพื่อนทุกคน
“ถ้าเอเลนไป ชั้นก็ไปด้วย”มิคาสะตอบรับ ในเมื่อเอเลนไปเธอก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว
อาร์มินชูนิ้วโป้งส่งให้แจนลับหลังสายตาของเอเลนและมิคาสะ
เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าแผนกำลังดำเนินการไปได้สวย
ในเมื่อแผนที่หนึ่งล้มไม่เป็นท่า
แถมหลังจากนั้นเจอมรสุมงานและสอบที่เข้ามาเพราะอย่างนั้นแผนที่สองมันก็ต้องสร้างสถาณการณ์ขึ้นมาเพื่อชดเชยระยะเวลาที่เสียไปให้ได้มากที่สุดสินะ ขอบคุณนะเพื่อนๆทุกคน
ร่างสูงผู้แสนดีที่ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วแผนการช่วยตามจีบเพื่อนสนิทเป็นเพียงแค่เรื่องรองต่างหาก
ได้แต่รู้สึกซาบซึ้งกับมิตรภาพของเพื่อนๆที่มีให้เขาอย่างล้นเหลือ(?)
“ตกลงสุดสัปดาห์นี้เรารวมตัวกันที่บ้านของเอเลนตอนประมาณ
8 โมงเช้า แล้วเดินทางไปรีสอร์ทกัน
เดี๋ยวฉันให้คนขับรถตู้ที่บ้านไปรับพวกเราจะได้เดินทางกันไม่ลำบาก” ร่างสูงผมสีน้ำตาลอ่อนอำนวยความสะดวกให้กับทุกคน จนทุกคนในกลุ่มอดเห็นใจไม่ได้
เลยตกลงกันว่าตอนจับคู่ห้องพักจะให้แจนได้พักห้องเดียวกับเอเลนเพื่อตอบแทนเรื่องที่พักและโปรโมชั่นที่ร่างสูงเสนอมาอย่างล้นหลาม
มิคาสะเหลือบมองใบหน้าของเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของตนเอง
ตั้งแต่ที่เอเลนเห็นอดีตครั้งนั้นก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว ถึงทุกอย่างจะดูเหมือนว่าเจ้าตัวเป็นปกติดีแต่กับคนที่อยู่ด้วยกันมานานอย่างเธอรู้ดีว่าเจ้าตัวกำลังฝืนตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็ทำได้เพียงแต่เฝ้ามองและคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ เพราะเธอรู้ดียิ่งกว่าใครว่าไม่อาจที่จะตัดสินใจเรื่องราวและความรู้สึกแทนเด็กหนุ่มได้
ถึงแม้จะเป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแสนนานแล้วก็ตาม ถึงกระนั้นทุกเหตุการณ์และความรู้สึกก็ยังคงส่งถึงสืบเนื่องมาจวนจนปัจจุบัน
แม้ว่าตอนนี้จะไม่อาจรู้ได้ว่าคนคนนั้นมีตัวตนในปัจจุบันนี้หรือไม่
แต่ความทรงจำที่ถูกบันทึกไว้มันบ่งบอกถึงความมีตัวตนที่ชัดเจนของชายหนุ่มคนนั้น รวมถึงความรู้สึกที่ก้าวข้ามช่วงเวลาเหมือนดังที่เธอเห็นเอเลนเป็นคนที่สำคัญที่สุดเสมอแม้ในปัจจุบันและอยากให้เด็กหนุ่มมีความสุขที่สุด เอเลนเองตั้งแต่ได้รับรู้เรื่องราวในอดีตผ่านบันทึกก็เห็นได้ชัดเจนว่าความรู้สึกของเด็กหนุ่มเริ่มหวั่นไหว
เหมืองฟันเฟืองที่หยุดหมุนนานแสนนานได้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง…….
ช่วงบ่ายรถตู้ของบ้านกิลชูไตน์ได้พาทุกคนมาจนถึงรีสอร์ทริมทะเลโดยสวัสดิภาพ และความสะดวกสบายให้กับผู้ร่วมเดินทางทุกคน
ยิ่งเข้าใกล้รีสอร์ททุกคนต่างตื่นเต้นกับสถานที่ที่จะได้พัก ไม่ว่าจะเป็นขนาดของรีสอร์ทที่ใหญ่โตสไตล์โมเดริ์นสีขาวตัดกับระเบียงไม้สีน้ำตาลของชั้นสองที่สามารถออกมานั่งเล่นชมวิว
สระว่ายน้ำที่อยู่กลางรีสอร์ทก็มีขนาดใหญ่และสวยงาม ทั้งยังมีลานเดินลงไปริมชายหาดติดกับที่พัก
บรรยากาศที่ร่มรื่นและการตกแต่งที่มีสวนหย่อมและต้นมะพร้าวอยู่รายล้อมให้สมกับเป็นที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
จนทุกคนต่างอดคิดไม่ได้ว่าบางทีเขาอาจต้องมัดเอเลนใส่พานให้ร่างสูงและจับมิคาสะไปปล่อยกลางทะเลสักวันเพื่อตอบแทนน้ำใจของร่างสูงเสียหน่อย
เมื่อถึงที่พักทุกคนต่างทยอยขนสัมภาระของตนเองลงจากรถ
ชายวัยกลางคนศีรษะโล้นที่ดูเหมือนหัวหน้าผู้ดูแลและแม่บ้านต่างเข้ามาช่วยขนสัมภาระให้กับผู้มาเยือน
“คุณหนูแจนและทุกท่านยินดีต้องรับสู่รีสอร์ทกิลชูไตน์ขอรับ
สำหรับการพักผ่อนของทุกท่านตลอดระยะเวลา 3วันนี้มีอะไรสามารถเรียกใช้กระผมหรือแม่บ้านของที่นี้ได้ตลอดขอรับ
และทางเราได้จัดเตรียมห้องพักของทุกท่านไว้เรียบร้อยแล้วจะให้นำทางไปเลยไหมขอรับ?”
ชายวัยกลางคนทักทายเจ้านายอายุน้อยของตนและผู้มาเยือนทุกท่านด้วยความสุภาพแต่ใบหน้าที่ทมึงทึงนั้นทำให้ทุกคนแอบรู้สึกหวั่นใจไม่น้อย
“ลุงคีธผมบอกหลายครั้งแล้วไงครับว่าเลิกเรียกคุณหนู
ผมอายุ19แล้วนะครับ!!” ลุงนะลุงชอบทำให้ผมขายหน้าเรื่อยเลย
“กระผมนั้นเลี้ยงและเปลี่ยนผ้าอ้อมให้คุณหนูตั้งแต่คุณหนูเพิ่งหัดคลาน
จนตอนนี้คุณหนูก็ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่งามสง่าเหมือนคุณท่านแล้ว
แต่คุณหนูก็ยังเป็นคุณหนูของกระผมอยู่ดีนั้นแหละขอรับ” ลุงคีธพูดพลางนึกถึงภาพคืนวันเก่าๆของเขากับเด็กชายตัวน้อยที่ได้ดูแลมาตลอด
เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆจากเด็กชายตอนนี้ก็โตเป็นเด็กหนุ่ม อีกไม่นานก็จะเป็นชายหนุ่มเต็มตัวแล้ว
สำหรับคนที่เรียกได้ว่าช่วยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กก็อดที่จะปลาบปลื้มไม่ได้
“อ๊ากก!! ลุงพอเลยนะ ไม่ต้องรำลึกความหลังอะไรทั้งนั้น ลุงเห็นไหมว่าเพื่อนๆผมอยู่กันเต็มเลย
ลุงรีบกลับไปทำหน้าที่ของลุงเถอะส่วนทางนี้ผมจัดการเองได้!!!” แจนรีบดันหลังชายสูงวัยให้กลับไปทำงานของตนเอง
ท่าทางที่สนิทสนมกันของทั้งคู่ทำให้ทุกคนอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ เขาอุส่าห์จะสร้างอิมเมจดีดีให้กับเอเลนเสียหน่อยลุงคีธดันเกือบจะพล่ามความน่าอายในวัยเด็กของเขาซะอย่างนั้น ลุงนะลุงพูดอะไรไม่ดูสถาณการณ์เลย!!
แจนอดที่จะรู้สึกหัวเสียกับชายสูงวัยคนนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ลุงคีธคงได้มีการตัดโบนัสกันบ้างล่ะ
อาร์มินทำสลากเพื่อความยุติธรรม(ล่ะมั่ง)สำหรับแบ่งแยกห้องและแน่นอนว่าด้วยความอยากทดแทนน้ำใจของร่างสูงที่อำนวยจัดสรรทุกสิ่งให้และป้องกันไม่ให้มิคาสะสงสัยสลากเลยแอบมีทริคและความพร้อมเพรียงกันของผองเพื่อนทุกคนทำให้แจนกับเอเลนได้นอนอยู่ห้องเดียวกันดังแผนที่ได้วางไว้
การจัดแบ่งห้องเป็นไปได้ด้วยดีโดยที่มิคาสะไม่สงสัย
และรายชื่อห้องแต่ละคนก็เป็นอันลงตัว
แจนกับเอเลน ไรเนอร์กับเบลทรูธมาร์โก โคนี่และอาร์มินนอนรวมกันสามคนสำหรับห้องใหญ่
สำหรับฝ่ายของผู้หญิงนั้นไม่จำเป็นต้องจับสลาก เพราะ
ยูมิลยังไงก็จะนอนห้องเดียวกับคริสด้าอยู่แล้ว
แอนนี่ ชาช่า และมิคาสะ เลยได้ห้องนอนใหญ่สำหรับนอนรวมสามคน
หลังจากตกลงเรื่องห้องพักกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนต่างแยกย้ายกันเพื่อพักผ่อน
และนัดรวมตัวกันอีกครั้งสำหรับปาร์ตี้บาร์บีคิวริมสระในมื้อเย็น
ร่างโปร่งเมื่อเข้ามาในห้องพักโยนสัมภาระของตนไว้ที่พื้นและรีบวิ่งออกไปสูดอากาศสดชื่นของทะเลที่ระเบียงทันที
ทำให้อีกคนที่เดินตามเข้ามาต้องนำกระเป๋าขึ้นไปวางไว้บนโต๊ะเพื่อไม่ให้เกะกะทางเดิน
แต่ไหนแต่ไรเอเลนก็ชอบที่จะมาเที่ยวทะเลเป็นที่สุดอยู่แล้ว
และทะเลพร้อมที่พักฟรีสุดอลังการแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้นอีกเท่าตัว ดีจริงๆที่ได้มารู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นขึ้นมากทีเดียว ทะเลที่กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด
อิสรภาพที่ไม่ต้องทนอยู่ในกำแพงที่เหมือนกับสัตว์ในเล้านั่น
ช่างรู้สึกดีจริงๆ
บ้าจริงทั้งที่ควรจะเลิกคิดถึงเรื่องราวในบันทึกที่ผ่านมานานนับพันปีขนาดนั้นได้แล้ว ปัจจุบันนี้เราไม่ได้อยู่ในกำแพงเสียหน่อย
และไม่มีอะไรที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วอีกด้วย
ใบหน้ามนส่ายหัวเบาๆไล่ความคิดฟุ่งซ่านเรื่องบันทึกปกสีดำที่ยังคงฝังแน่นอยู่ในห้วงคิดของตน
ถึงกระนั่นก็อดที่จะรู้สึกพิเศษกับทะเลและอิสรภาพในปัจจุบันที่ตนในอดีตกาลไขว่คว้ามาตลอดมากขึ้นไม่ได้ สิ่งที่ตัวเขาในอดีตต้องการ
เป้าหมายที่พยายามไขว่คว้า ตอนนี้เขาก็ได้มันมาแล้ว
เว้นเสียตาใบหน้าคมเจ้าของนัยน์ตาสีขี้เถ้าที่ในอดีตหรือแม้กระทั่งปัจจุบันนี้ก็ไม่อาจคว้ามาครอบครอง
ทั้งที่พยายามจะหนีแต่กลับเหมือนยิ่งพยายามหันกลับไปไขว่คว้ามันอยู่เสมอ ขณะที่ใบหน้ามนกำลังจมอยู่ในความคิดของตน เสียงของผู้ร่วมห้องอีกคนก็แทรกขึ้นมา
“เฮ้ยเอเลน แกจะนอนเตียงฝั่งไหน?”
แจนมองดูเตียงสองเตียงที่อยู่ในห้องแล้วถามร่างโปร่ง
ที่จริงเขาจะเลือกเตียงเองและให้อีกคนนอนเตียงที่เหลือเลยก็ได้ แต่มาร์โกบอกไว้ว่าการจีบเราควรพยายามใส่ใจรายละเอียดและพยายามเอาใจแม้เรื่องเล็กน้อยก็ตาม
เพื่อให้คนคนนั้นรู้สึกดีและรู้สึกพิเศษ
ร่างโปร่งเดินกลับเข้ามาในห้องมองดูเตียงทั้งสองฝั่ง
ที่จริงแจนเป็นเจ้าบ้านก็ควรให้เจ้าตัวเลือกก่อน แต่ไหนๆก็ยอมให้โอกาสเขาตัดสินใจ เขาก็ถือโอกาสขอเตียงติดริมระเบียงที่มองเห็นวิวดีกว่า
แจนจัดแจงสัมภาระของตนเอง
พร้อมทั้งชำเลืองมองร่างโปร่งที่เริ่มทยอยจัดสัมภาระของตนเช่นกัน
ตอนนี้เป็นโอกาสที่จะทำคะแนนแล้ว
แต่เขาต้องทำยังไงบ้างล่ะ?
ตื่นเต้นชะมัดตั้งแต่เข้าห้องมาใจก็เต้นโครมครามไม่หยุดเลย เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนกระวนกระวายจิตใจว้าวุ่นจากอาการโรคหัวใจกำเริบ
ในเมื่อไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงก็ควรต้องหาที่ปรึกษาสินะ มือใหญ่คว้าโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาเข้าโปรแกรมสนทนาสีเขียวบนหน้าจอแล้วเลื่อนเข้ากลุ่มSecret
Mission ที่ตั้งเอาไว้
Jeanฉันจะต้องเป็นผู้พิชิต
: (เฮ้ยพวกแก
ฉันกับเอเลนอยู่ในห้องสองต่อสองแล้วควรทำไงต่อดีวะ?)
หลังจากพิมพ์ข้อความส่งเข้าไปในกลุ่มไม่นาน
บรรดาผองเพื่อนผู้หวังดี(?)ก็ช่วยกับรีบตอบจนโทรศัพท์แทบเหมือนระเบิดเวลา แจนจึงรีบทำการปิดเสียงการแจ้งเตือนเฉพาะกลุ่มเมื่อเห็นว่าร่างโปร่งที่อยู่ด้วยมองมาด้วยความสงสัย
Armin Do everything for
future
: (พยายามลองหาเรื่องคุยดูครับ)
Doctor Marco
: (ลองสร้างบรรยากาศดู)
Shasaฉันจะไปบุกคลังเสบียง!!
:(เอาอาหารล่อสิคะเอเลนต้องติดกับแน่ๆค่ะ)
Connie สักวันตรูจะครองโลกกกกก
: (ชวนคุยเรื่องอนาคตของสองเราเป็นไง?)
Annie Leonheart
: (จับกด)
Ymir>3< Krista
: (เห็นด้วยกับแอนนี่)
Krista angle
: (ยูมิลกับแอนนี่คิดอะไรกันอยู่คะเนี่ย!!!)
Reiner wannabe The Strongest
: (ถึงจะรวบรัดขั้นตอนไปหน่อยแต่ก็น่าลองดูดีนะ
= =b)
Bertolt
ขอให้ทุกวันผ่านไปได้ด้วยดี
:(ผมว่าวิธีแบบนั้นมันจะได้ผลตรงกันข้ามเอานะ)
Armin Do everything for future
: (เออผมว่าแจนอาจโดนเอเลนอัดและมิคาสะฆ่าได้นะครับ)
Ymir>3< Krista
:
(ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกนะ
อาจจะได้ผลดีเกินคาดก็ได้)
Annie Leonheart
: (ฉันยอมเสียสละวาสลีนที่เพิ่งซื้อมาให้เลยละกัน
ถ้านายต้องการ)
Doctor Marco
: (เดี๋ยวสิครับ
ทุกคนคิดอะไรกันอยู่!!!)
Connie สักวันตรูจะครองโลกกกกก
: (ลุยเลยแจน!!!)
Shasaฉันจะไปบุกคลังเสบียง!!
: (เอ๊ะจะลุยอะไรกันเหรอคะ?
ถ้ายังไงฉันขอสนับสนุนด้วยละกันถึงจะงงก็เถอะ = =?)
Armin Do everything for future
:(ทุกคนครับผมว่ามันผิดประเด็นไปไกลแล้วนะคร๊าบบบบบบบบ=[]=”””””)
ร่างสูงที่หวังหาที่ปรึกษาเมื่อเห็นข้อความที่บรรดาเพื่อนๆส่งมาเจ้าตัวก็ได้แต่หน้าถอดสี
ตกลงเจ้าพวกนั้นมันตั้งใจจะช่วยเขาจริงรึเปล่า ว่าแต่อยู่กันในห้องสองต่อสองจะให้จับกดมันก็
พลันคิดถึงร่างเปลือยเปล่าของร่างโปร่งแล้วใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายก็ร้อนผ่าวขึ้นทันที อืม….จับกด…..เอเลนงั้นเหรอ…..
แจนที่ในสมองกำลังมีแต่คำว่าจับกดลอยอยู่ในหัวไปมาต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อใบหน้ามนผู้ซึ่งกำลังเป็นประเด็นอยู่ในความคิดยื่นหน้าเข้ามาใกล้กับตนเอง
จนโทรศัพท์มือถือหล่นลงจากมือ
“คุยกับสาวที่ไหนอยู่น่ะแจนหน้าตาจริงจังเชียว? เดี๋ยวนี้มีกิ๊กไม่บอกเพื่อนเหรอวะ?”
ร่างโปร่งถือวิสาสะคว้ามือถือของเพื่อนที่ร่วงหล่นหมายจะขอแอบดูเสียหน่อยว่า
เพื่อนผมสีน้ำตาลอ่อนของตนแอบคุยกับใครที่ไหนไม่ให้เขารู้กันนะ
แต่โดนมือใหญ่รีบคว้ากลับคืนไปได้ก่อนเพราะกลัวความแตก
“สาวที่ไหนล่ะ แม่ฉันต่างหาก
เขาเห็นว่าเรามาพักที่รีสอร์ทเลยฝากฝังดูแลความเรียบร้อยก็เท่านั้นเอง” แจนรีบพยายามหาเรื่องกลบเกลื่อนคนตรงหน้า เขาจะเอาเวลาไปคุยกับสาวที่ไหนก็ในเมื่อคนที่เขาพยายามจะตามจีบเป็นเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ต่างหากล่ะ
“โธ่ ชั้นก็นึกว่าเพื่อนจะมีข่าวดี”
ร่างโปร่งแอบทำหน้าเซ็งพลางคุกคามขึ้นมายังที่นอนของอีกฝ่ายก่อนจะนอนกลิ้งเล่นอยู่ที่ปลายเตียง
ข่าวดีจะได้มีแน่
ถ้าชั้นจีบนายติดล่ะก็นะ ร่างสูงได้แต่ถอนหายใจและมองผู้บุกรุกที่ขึ้นมากลิ้งยึดเตียงของเขาไปครึ่งหนึ่งโดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตอนนี้กำลังทำให้อีกคนใจเต้นแรงขนาดไหน
“นี่แจนทั้งที่นายก็หน้าตาดี เรียนก็เก่ง
ฐานะแทบไม่ต้องพูดถึง ทั้งที่นายเองก็ป๊อปขนาดนี้ทำไมยังไม่มีแฟนอีกล่ะ?” นัยน์ตาสีมรกตมองสบกับนัยน์ตาสีเปลือกไม้อย่างเลื่อนลอย
ร่างสูงเริ่มคิดตามที่ใบหน้ามนไถ่ถาม
นั่นน่ะสิทั้งที่ตัวเขาเองก็จัดอยู่ในอันดับหนุ่มหล่อที่มีคุณสมบัติตามที่สาวๆใฝ่ฝัน
แล้วทำไมเขาถึงไม่สนใจเลือกใครสักคนมาจริงจังด้วยกันนะ เพราะตัวเขาเองก็มีผู้หญิงเข้ามาหาสม่ำเสมอและมีให้คุยเล่นแทบไม่ขาดสายแต่ผลสุดท้ายตัวเขาเองก็เป็นฝ่ายที่เบื่อพวกเธอเสียก่อน
หรือไม่พวกเธอก็จากไปเองและเลือกที่จะเป็นเพื่อนกับเขามากกว่าด้วยเหตุผลที่เหมือนกันว่า
ไม่ว่าพวกเธอจะทำอะไรหรือพยายามยังไงตัวเขาก็เหมือนแค่ตอบรับความมีน้ำใจเหล่านั้นด้วยความที่เป็นคนใจดี
และทุกครั้งเขามักจะเห็นเพื่อนมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ สุดท้ายทุกคนเลยยอมแพ้และเลือกที่จะจากไปเอง
แต่กับร่างโปร่งที่อยู่ตรงนี้ไม่ว่าจะทำอะไร
เมื่อไร เขาก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อที่ได้อยู่และทำสิ่งต่างๆร่วมกันเลย ทุกครั้งสายตาก็เหมือนกับไล่ตามความดื้อดึง และความสดใสของร่างโปร่งอยู่เสมอ เมื่อไรไม่รู้ที่ไม่อาจละสายตาและพยายามไล่เดินตามเพื่อเคียงบ่าเคียงไหล่คนคนนี้
“บางทีอาจเป็นเพราะ ชั้นคงกำลังรอและเฝ้ามองใครสักคนโดยหวังว่าสักวันคนคนนั้นจะรู้ตัวและหันมามองที่ชั้นบ้าง”
นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตามรกตของเด็กหนุ่ม กว่าจะรู้ตัวฉันก็หลงใหลและคอยไล่ตามนายอยู่เสมอยังไงล่ะเอเลน….
“แต่การเฝ้ามองใครสักคนด้วยแค่ความหวังมันฟังดูเจ็บปวดนะแจน”
เพราะไม่อาจรู้ได้เลยว่าเมื่อไรเขาคนนั้นจะหันกลับมามองเรา
และถ้าคนคนนั้นหันกลับมามองแล้วเราจะได้อยู่ในฐานะอะไรกันแน่….
ดังเช่นตัวเขาในอดีตกับชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งคนนั้นที่เขาคอยได้แต่เฝ้ามองและหวังไว้ว่าสักวันในนัยน์ตาสีขี้เถ้าแสนเย็นชานั่นจะสะท้อนภาพของเขาออกมาบ้าง
มันช่างเจ็บปวดและทรมาณกับสิ่งที่ไม่อาจล่วงรู้และคาดเดาได้เลย
“ถึงแม้จะเจ็บปวดแต่เพราะเป็นคนสำคัญที่ไม่อาจปล่อยไปได้
ถึงแม้จะทำได้แค่มองอยู่ตรงนี้
ชั้นว่ามันก็ดีกว่าการที่ไม่สามารถรับรู้อะไรจากคนคนนั้นได้อีกเลย ถ้าเขามีความสุขชั้นก็หวังที่จะได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของเขา แต่เมื่อใดที่เขาทุกข์ชั้นก็อยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างกำลังใจ
ปลอบประโลม และเป็นที่พึ่งให้”
เพราะเป็นสิ่งสำคัญเลยไม่อาจที่จะมองข้ามหรือสะทิ้ง
แต่หวังเพียงได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนคนนั้นบ้างก็ยังดี
“ฮ่ะฮ่ะ
นายเป็นคนดีชะมัดเลยแจน”ใบหน้ามนส่งยิ้มบางให้กับร่างสูง เพราะเป็นสิ่งสำคัญเลยไม่อาจปล่อยได้สินะ
แต่สำหรับคนที่เย็นชาแบบนั้นเขาจะมีรอยยิ้มที่สดใสส่งมาให้บ้างรึเปล่า ถึงคนคนนั้นจะไม่ยิ้มแต่หลายครั้งที่ก็รับรู้ได้ถึงความใจดีและความอบอุ่นอ่อนโยนที่ใบหน้านิ่งเฉยนั้นมอบให้
สำหรับคนแข็งแกร่งอย่างนั้นจะมีเรื่องให้กลุ้มใจที่เขาจะสามารถช่วยเหลือได้รึเปล่านะ
ทั้งที่บันทึกก็ไม่ได้อยู่ที่นี้แต่ใบหน้า สัมผัสรวมถึงความรู้สึกยินดี และเจ็บปวดที่คนคนนั้นมอบให้มันยังฝังลึกและแจ่มชัดแม้ในยามตื่นก็ตาม
“หัวเราะอะไรของนาย? ว่าแต่นายถามอะไรแปลกๆนะ
ไปตกหลุมรักใครเข้ารึไง?” คำถามของคนตรงหน้าทำให้ร่างสูงอดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้
หวังว่าคนที่เขากำลังตามจีบอยู่ตอนนี้คงไม่ไปตกหลุมรักใครหรือโดนใครฉกไปเสียก่อนนะ
ร่างโปร่งคว้าหมอนโยนใส่ร่างสูงกว่าเพื่อกลบเกลื่อน
“จะไปมีได้ไงเล่า
ว่าแต่แกเองเถอะพูดมายังกับกำลังคอยเฝ้ามองใครอยู่อย่างนั้นแหละ”
ใช่แล้วเพราะคนคนนั้นไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงเป็นเพียงแค่คนในอดีตที่แสนไกลเท่านั้น
จึงไม่อาจที่จะเฝ้ามองหรือรักได้
แจนใช้สองมือดันหมอนใบใหญ่ที่ถูกโยนและกดลงมา “เล่นอะไรของนายวะเอเลน!!” ร่างโปร่งพยายามดันหมอนนุ่มลงบนใบหน้าคมของอีกคน
ร่างสูงที่พยายามดันกลับจึงเพิ่มแรงดันมากขึ้นจนร่างโปร่งหงายหลังและตัวเขากำลังคร่อมร่างบางตรงหน้า นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองใบหน้ามนอยู่ใต้ร่างด้วยอาการทำตัวไม่ถูก
นัยน์ตาสีมรกตยกมือลูบศีรษะตัวเองน้อยๆ
ดีนะที่หงายหลังลงบนเตียงและมีฟูกนุ่มรองรับอยู่ไม่อย่างนั้นหัวคงจะเจ็บและโนน่าดู
”เฮ้ยแจนลุกได้แล้ว หนักชะมัด” แต่ข้อมือบางกลับถูกมือใหญ่ของคนที่สูงกว่ากดทับลงมา
“เอเลน ชั้นน่ะ…”
ผั๊วะ!!!!!!!!
ก่อนที่ร่างสูงจะได้เอ่ยอะไรต่อนั้น
พลันมีวัตถุชิ้นใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายแจกันที่ประดับอยู่หน้าห้องปาเข้าที่ศีรษะของร่างสูงจนหงายล้มลงไปอยู่ข้างเตียง
“นายจะทำอะไรเอเลนน่ะ
ไอหน้าม้า” เสียงเย็นจากหญิงสาวผู้มีใบหน้าคมสวยถูกส่งมาให้ร่างสูงพร้อมสายตาที่ส่งรังสีฆ่าฟันมาเต็มพิกัด
เนื่องจากใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วเธอ แอนนี่ และชาช่าที่อยู่ห้องข้างๆเลยจะมาเรียกให้ไปรวมตัวกัน
และด้วยความเคยชินเธอเลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของห้อง ทำให้ได้เห็นว่าร่างสูงกำลังลวนลามเอเลนของเธออยู่
“เฮ้ยแจนแกยังหายใจไหม?!!!” ร่างโปร่งถึงกับตกใจรีบเข้าไปเขย่าเพื่อนชะตาขาดของตนเอง
“มิคาสะชั้นกับแจนแค่เล่นกันเธอทำอะไรของเธอเนี่ย!!” เขาไม่อยากนอนร่วมห้องกับวิญญาณหรอกนะ
“เอเลนสัญชาตญาณของชั้นบอกว่าหมอนั่นมันคิดไม่ซื่อ”
หญิงสาวเดินเข้ามาคว้าร่างโปร่งที่กำลังดูอาการเพื่อนร่วมห้องชะตาขาดให้ออกห่างจากกัน
“คิดไม่ซื่ออะไรของเธอ?
ถ้าไอหมอนี่มันตายขึ้นมาเราจะอธิบายกับลุงคีธยังไงล่ะ?
แถมพวกเราเพิ่งมายังไม่ได้เที่ยวกันเลยนะ” เพื่อนคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ได้แต่ถอนหายใจกับความซื่อและบื้อของร่างโปร่ง
และอดที่จะเวทนาคนดวงซวยไม่ได้ที่ตอนนี้เหมือนเริ่มจะได้สติแล้ว
“ก…เกิดอะไรขึ้นวะ?”
แจนพยายามรวบรวมสตินึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ อยู่ๆแจกันก็ลอยมาแล้วลอยมาได้ยังไง
เมื่อนัยน์ตาสีเปลือกไม้มองไปรอบห้องก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีผู้บุกรุกนางหนึ่งกำลังส่งรัศมีฆ่าฟันมาให้เขาอย่างเต็มที่
นี่ถ้าไม่ได้เอเลนช่วยยึดตัวเธอเอาไว้เกรงว่าเขาจะได้เป็นผีเฝ้ารีสอร์ทของตนเองแน่แท้
“แจนนายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
ขอโทษแทนมิคาสะด้วยนะเธอเข้าใจผิดนิดหน่อยน่ะงั้นเรารีบไปปาร์ตี้กันเถอะพวกอาร์มินคงรอแล้ว”
ร่างโปร่งรีบฉุดลากเพื่อนตั้งแต่เด็กของตนให้ออกมาจากห้องและไปรวมตัวกับคนอื่นๆด้วยเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับร่างสูงที่กำลังนั่งกองอยู่ที่พื้น
แอนนี่ที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเดินเข้ามาจับไหล่ร่างสูงหวังจะเป็นกำลังใจ
และอดรู้สึกผิดนิดหน่อยไม่ได้ที่เธอไม่ห้ามมิคาสะที่ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา
“บางทีจับกดเลยคงทำให้นายตายได้
งั้นเริ่มจากสเต็ปพื้นฐานก่อนละกันนะ”
จากเหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้แอนนี่สรุปผลได้อย่างรวดเร็วแล้วว่าการรวบรัดตัดตอนที่เธอเสนออาจทำให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนอายุขัยสั้นลงอย่างไม่ต้องสงสัย
พื้นที่โล่งริมสระน้ำได้ถูกจัดแจงโต๊ะ
พร้อมอาหารและเครื่องปิ้งบาร์บีคิว
สำหรับบรรดาแขกพิเศษของวันนี้ทีมาเที่ยวพักผ่อน
โคนี่และชาช่าต่างตื่นตาตื่นใจกับอาหารและเครื่องดื่มมากมายที่หัวหน้าผู้ดูแลจัดเตรียมต้อนรับ ทุกคนต่างสนุกสนานและดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติ
และดนตรีเบาๆที่เปิด
รวมถึงรสชาติของอาหารที่ถูกคัดสรรตามความต้องการของคุณชายแจนผู้เป็นเจ้าของที่หวังสร้างอิมเมจและความประทับใจ
จากคำบอกเล่าของแอนนี่ทำให้เพื่อนคนอื่นๆรู้สึกเวทนากับความซวยของเด็กหนุ่มผู้แสนดีไปด้วยไม่ได้
อาร์มิน ไรเนอร์เบลทรูธ และมาร์โก้
จึงลากตัวร่างสูงผมสีน้ำตาลมาประชุมหารือกันอย่างลับๆ โดยปล่อยให้โคนี่
และชาช่ารื่นเริงกับอาหารที่มีมากมาย
แอนนี่กำลังเพลินกับเครื่องดื่มนานาชนิดที่วางอยู่เรียงราย ยูมิลและคริสต้าเริ่มเข้าโลกส่วนตัวของทั้งสองคน
เพื่อกันไม่ให้เป้าหมายและมิคาสะสงสัย
จึงรวมตัวเฉพาะคนเท่านั้น
“ผมรู้เรื่องจากแอนนี่แล้วล่ะครับ
เสียใจด้วยนะครับแจน” เด็กหนุ่มผมทองประบ่าตบไหล่เพื่อนผู้โชคร้ายด้วยความเห็นใจ
“ผมบอกแล้วว่ามันไม่เข้าท่า”
ชายหนุ่มผู้สูงที่สุดในกลุ่มรู้สึกขอบคุณความถึกทนของคนตรงหน้าที่สวรรค์ยังพอประทานลงมาให้ต่อสู้กับศึกใหญ่อย่างมิคาสะ
“มันเป็นอุบัติเหตุ
ชั้นไม่ได้จะจับกดเอเลนซะหน่อย!!”
ร่างสูงรีบโวยขึ้นมาจนทำให้มาร์โกต้องรีบเอามือไปปิดปากเพราะเกรงว่าเป้าหมายที่กำลังเพลินกับการปิ้งบาร์บีคิวนั้นจะได้ยิน
“ว่าแต่แผนต่อไปเอาไงดี”
หนุ่มผู้มีร่างกายกำยำถามเพื่อหวังจะได้วางแผนเขยิบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้บ้าง
“ผมว่าพรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันตามปกติก่อนครับ เพราะถ้าเราเร่งรีบมากเกินไปมิคาสะอาจไหวตัวทัน
และวันสุดท้ายวันที่สามผมจะลองหาทางให้แจนกับเอเลนอยู่กันตามลำพังสองต่อสองนะครับ”เด็กหนุ่มผู้ฉลาดที่สุดในกลุ่มเริ่มวางแผน
เขาไม่ได้เห็นเรื่องเที่ยวสำคัญหว่าการช่วยเพื่อนหรอกนะ
แต่ไหนๆก็มาแล้วทั้งทีมันก็ต้องเที่ยวให้เต็มที่ก่อนสิ
ร่างสูงรู้สึกปลื้มปิติกับความทุ่มเทแรงกายแรงใจของผองเพื่อนที่พยายาม(?)ช่วยเขาอย่างเต็มที่
แต่ก็อดคิดไม่ได้เช่นกันว่าถ้าแผนผิดพลาดแล้วเขาต้องมาตายด้วยน้ำมือมิคาสะแล้วล่ะก็ประกันจะยอมจ่ายให้กับครอบครัวเขารึเปล่า?
TBC.
ชอบชื่อในแชทของซาซ่ากับโคนี่มากค่ะ
ตอบลบ"Connie สักวันตรูจะครองโลกกกกก"
"Shasa ฉันจะไปบุกคลังเสบียง!!"
5555 ทั้งสองคนนี้มันบ้าบอได้ใจจริงๆ ปุ่มไลค์อยู่ไหน ปุ่มไลค์!! b
ทริปนี้จะมีพรมลิขิตพานพบให้เอเลนมาเจอหัวหน้ารึเปล่านะ ;D
สัญชาตญาณของผู้หญิงกำลังตื่นตัว! เซนต์เรื่องแบบนี้ของผู้หญิงมันแรงนะ หึหึหึหึ
โดยส่วนตัวเเอบชอบคู่โคนี่กับชาช่านะคะ ดูบ๊องๆดี5555
ลบโอยยยยย ยังคงสงสารแจนอย่างต่อเนื่อง เพื่อนๆรักทั้งนั้นนน 555555555 รอลุ้นว่าเรื่องจะดำเนินยังไงต่อ พระเอกของเราจะโผล่มามั้ยรึยังไง งื้อออ
ตอบลบสงสารแจนไม่ไหวแล้วอ่ะ5555555555555555
ตอบลบ