วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Fic. Attack On Titan (Levi x Eren): Last Memory Chapter 6



Fic. Attack On Titan (Levi x Eren): Last Memory
Chapter 6

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเอเลนกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนอย่างที่เคยเป็น  เลิกสนใจเรื่องราวในบันทึกที่เขาเจอ พยายามไม่คิดถึงใบหน้าคมแสนเย็นชาที่ตราตรึงอยู่ในห้วงความคิด  ถึงแม้ร่างกายจะไม่ได้บาดเจ็บดังเช่นในความฝัน  แต่จิตใจก็ยังคงปวดร้าวแม้ยามตื่นจากฝันแล้วก็ตาม ถึงพยายามที่จะไม่สนใจบันทึกอีกแต่หลายครั้งที่มือเปิดลิ้นชักซึ่งเก็บบันทึกไว้  แล้วสุดท้ายก็ได้แต่จ้องมองไม่กล้าที่จะสัมผัสหรือรับรู้เรื่องราวต่อจากนั้น
เพราะกลัวที่จะถลำลึกลงไปมากกว่านี้
 เพราะต้องการลืมคนที่โหดร้ายที่ทำร้ายตนให้เจ็บปวด….
ทั้งที่ตั้งใจว่าจะลืมแต่ก็ยังคงไม่อาจสลัดภาพคนคนนั้นออกไปได้จากห้วงความคิด และจากใจที่ปวดหนึบทุกครั้งยามนึกถึง  ทั้งที่ในปัจจุบันนี้คุณไม่ได้มีตัวตนเสียหน่อย  ทำไมผมถึงได้เหมือนกับไขว่คว้าความว่างเปล่าที่มองไม่เห็นอยู่ด้วยนะ
เวลาที่แท้จริงยังคงดำเนินต่อไป การพรีเซ็นต์งานและส่งรายงานของภาควิชาต่างๆจบลงพร้อมกับการสอบที่กำลังจะสิ้นสุดในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า……
“หมดเวลา!! ขอให้นักศึกษาทุกคนวางปากกาและออกจากห้องสอบได้” เสียงของผู้คุมสอบที่ดังก้องขึ้นทำให้เอเลนวางปากกาที่กำลังเขียนคำตอบลง  ถึงแม้จะมีเรื่องรบกวนจิตใจแต่เขาก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบที่ดี  เลยไม่น่าเป็นห่วงเรื่องคะแนนสอบและรายงานของวิชาต่างๆที่ได้ทำไป

วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของทุกคณะในมหาวิทยาลัยชินะ  กลุ่มเพื่อนสนิทจึงได้นัดรวมตัวเพื่อพบป่ะหลังจากที่ทุกคนต่างต้องแยกย้ายกันไปฝ่ามรสุมการส่งรายงานและการสอบในช่วงหลายอาทิตย์ที่เกิดขึ้น
“ในที่สุดก็จะได้หยุดยาวแล้วววว  มาฉลองกันเถอะ!” เสียงของเด็กหนุ่มร่างเล็กหัวโล้นป่าวประกาศตื่นเต้นด้วยความดีใจ
“นี่ก็จะได้พักผ่อนยาวกันสักระยะแล้วนะ  ใครมีแผนอะไรบ้างรึเปล่า?” เบลทรูธเด็กหนุ่มที่สูงที่สุดในกลุ่มเปิดประเด็นวางแผนการเที่ยว  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในตำราพิชัยพิชิตหัวใจ นายเอเลน  เยเกอร์  เพื่อ แจน  กิลชูไตน์  ที่ทั้งกลุ่มช่วยกันคิดและวางแผนเพราะเหมือนเป็นเรื่องผ่อนคลายในการสอบก็เพราะเป็นเรื่องที่สนุกตื่นเต้นและน่าลุ้นของเพื่อนสนิทในกลุ่ม  จะมีก็แต่เอเลน และมิคาสะที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการวางแผนแต่เป็นเป้าหมายหลักที่ทั้งกลุ่มเปรียบเป็นมิชชั่นลับที่ต้องเคลียในเกม RPG
“ผมว่าเราไปเที่ยวผ่อนคลายที่ไกลๆ  แล้วค้างคืนกันสักสอง ถึง สามวันไหมครับ?”อาร์มินเสริมขึ้นเพื่อชักชวนร่างโปร่งให้สนใจ
“ดีนะคะไปกันหมดทุกคนต้องสนุกแน่ๆเลย  พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวไกลๆด้วยกันนานแล้ว”  คริสต้า สาวน้อยที่บอบบางที่สุดช่วยเสริมทับอีกแรง
“ดีๆขนของกินไปให้เพียบเลยนะ  ว่าแต่ไปที่ไหนดีล่ะที่บรรยากาศดีๆอาหารก็อร่อยและน่าสนใจน่ะ?” ชาช่าสาวน้อยที่เรื่องกินเป็นที่หนึ่งช่วยเสริม  แต่ที่จริงแล้วเรื่องอาหารน่าจะเป็นประเด็นหลักของเธอมากกว่าการช่วยเหลือเพื่อนตามตำราพิชัยพิชิตใจฯ
“ทะเลไงครับ  ทั้งวิวสวย  อาหารก็เป็นอาหารทะเล  แถมมีกิจกรรมให้ทำมากมายเลยด้วยนะครับ”มาร์โกรีบพูดขึ้น  ที่เลือกทะเลก็เพราะรู้กันดีว่า  คุณชายแจน  มีบ้านพักตากอากาศส่วนตัวที่ริมทะเลอยู่แล้วน่ะสิ
ทุกคนวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวทะเลโดยเสนอให้ไปพักที่บ้านตากอากาศของแจน  โดยบอกว่าเพื่อเป็นการสร้างอิมเมจของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อให้ดูน่าสนใจ  และแจนกับเอเลนจะได้ซึมซับบรรยากาศของทะเลเพื่อสร้างความโรแมนติก(ที่อาจจะเกิดขึ้นล่ะมั่ง)  ของทั้งสองและเพื่อให้เอเลนประทับใจแจนยิ่งขึ้นด้วย  ถึงแม้ว่าเหตุผลหลักจะเป็นเพราะบ้านพักตากอากาศของแจนนั่นบรรยากาศดี  อาหารและค่าที่พักฟรี ก็เถอะแต่ใครจะไปบอกตรงๆกันล่ะ
“งงั้นมาพักที่บ้านพักของชั้นไหมล่ะ  ติดริมทะเล  อาหารที่นั่นก็อร่อยด้วย  แล้วยังมีเรือยอร์ชส่วนตัวเผื่อพวกนายอยากไปเที่ยวเกาะละแวกนั้น หรือจะตกปลา แถมดำน้ำก็ได้ด้วย แล้วยังมีเจ๊ทสกี หรือจะปีนผา ถ้าอยากว่ายน้ำในสระก็มีพร้อม  แล้วไหนจะส่วนตัวไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนให้ยุ่งยาก”สมเป็นคุณชายแจนที่กำลังตกเป็นเหยื่อ  เอ๊ย!!ที่กำลังพยายามตามจีบร่างโปร่ง  โปรโมชั่นลดแลกแจกแถมมาเพียบ!!!
“เอเลน กับมิคาสะว่าไง? ไปด้วยกันหมดเลยน่าสนุกดีนะ”  ไรเนอร์พูดเชิญชวนเป้าหมายหลักของแผนการ
ทะเลอย่างนั้นเหรอ  หลังสอบเสร็จก็ไม่ได้มีแผนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจะมีก็แค่อาจต้องไปช่วยคุณพ่อที่โรงพยาบาลในการช่วยดูแลผู้ป่วยบ้าง  แต่ถึงเขาจะไปช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรอยู่แล้ว ถ้าได้ไปเที่ยวผ่อนคลายที่ไกลๆกับเพื่อนมันคงทำให้เขาลืมความรู้สึกบ้าๆที่ถาโถมเข้ามาจากความฝันได้บ้าง…..
“เอาสิ”เอเลนตอบตกลงตามคำชวนของเพื่อนทุกคน
“ถ้าเอเลนไป  ชั้นก็ไปด้วย”มิคาสะตอบรับ  ในเมื่อเอเลนไปเธอก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว
อาร์มินชูนิ้วโป้งส่งให้แจนลับหลังสายตาของเอเลนและมิคาสะ เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าแผนกำลังดำเนินการไปได้สวย  ในเมื่อแผนที่หนึ่งล้มไม่เป็นท่า  แถมหลังจากนั้นเจอมรสุมงานและสอบที่เข้ามาเพราะอย่างนั้นแผนที่สองมันก็ต้องสร้างสถาณการณ์ขึ้นมาเพื่อชดเชยระยะเวลาที่เสียไปให้ได้มากที่สุดสินะ  ขอบคุณนะเพื่อนๆทุกคน  ร่างสูงผู้แสนดีที่ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วแผนการช่วยตามจีบเพื่อนสนิทเป็นเพียงแค่เรื่องรองต่างหาก ได้แต่รู้สึกซาบซึ้งกับมิตรภาพของเพื่อนๆที่มีให้เขาอย่างล้นเหลือ(?)
“ตกลงสุดสัปดาห์นี้เรารวมตัวกันที่บ้านของเอเลนตอนประมาณ 8 โมงเช้า แล้วเดินทางไปรีสอร์ทกัน  เดี๋ยวฉันให้คนขับรถตู้ที่บ้านไปรับพวกเราจะได้เดินทางกันไม่ลำบาก”  ร่างสูงผมสีน้ำตาลอ่อนอำนวยความสะดวกให้กับทุกคน  จนทุกคนในกลุ่มอดเห็นใจไม่ได้ เลยตกลงกันว่าตอนจับคู่ห้องพักจะให้แจนได้พักห้องเดียวกับเอเลนเพื่อตอบแทนเรื่องที่พักและโปรโมชั่นที่ร่างสูงเสนอมาอย่างล้นหลาม
มิคาสะเหลือบมองใบหน้าของเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของตนเอง  ตั้งแต่ที่เอเลนเห็นอดีตครั้งนั้นก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว  ถึงทุกอย่างจะดูเหมือนว่าเจ้าตัวเป็นปกติดีแต่กับคนที่อยู่ด้วยกันมานานอย่างเธอรู้ดีว่าเจ้าตัวกำลังฝืนตัวเองอยู่ไม่น้อย  แต่เธอก็ทำได้เพียงแต่เฝ้ามองและคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ  เพราะเธอรู้ดียิ่งกว่าใครว่าไม่อาจที่จะตัดสินใจเรื่องราวและความรู้สึกแทนเด็กหนุ่มได้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแสนนานแล้วก็ตาม ถึงกระนั้นทุกเหตุการณ์และความรู้สึกก็ยังคงส่งถึงสืบเนื่องมาจวนจนปัจจุบัน  แม้ว่าตอนนี้จะไม่อาจรู้ได้ว่าคนคนนั้นมีตัวตนในปัจจุบันนี้หรือไม่  แต่ความทรงจำที่ถูกบันทึกไว้มันบ่งบอกถึงความมีตัวตนที่ชัดเจนของชายหนุ่มคนนั้น  รวมถึงความรู้สึกที่ก้าวข้ามช่วงเวลาเหมือนดังที่เธอเห็นเอเลนเป็นคนที่สำคัญที่สุดเสมอแม้ในปัจจุบันและอยากให้เด็กหนุ่มมีความสุขที่สุด  เอเลนเองตั้งแต่ได้รับรู้เรื่องราวในอดีตผ่านบันทึกก็เห็นได้ชัดเจนว่าความรู้สึกของเด็กหนุ่มเริ่มหวั่นไหว  เหมืองฟันเฟืองที่หยุดหมุนนานแสนนานได้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง…….


ช่วงบ่ายรถตู้ของบ้านกิลชูไตน์ได้พาทุกคนมาจนถึงรีสอร์ทริมทะเลโดยสวัสดิภาพ  และความสะดวกสบายให้กับผู้ร่วมเดินทางทุกคน  ยิ่งเข้าใกล้รีสอร์ททุกคนต่างตื่นเต้นกับสถานที่ที่จะได้พัก  ไม่ว่าจะเป็นขนาดของรีสอร์ทที่ใหญ่โตสไตล์โมเดริ์นสีขาวตัดกับระเบียงไม้สีน้ำตาลของชั้นสองที่สามารถออกมานั่งเล่นชมวิว สระว่ายน้ำที่อยู่กลางรีสอร์ทก็มีขนาดใหญ่และสวยงาม  ทั้งยังมีลานเดินลงไปริมชายหาดติดกับที่พัก บรรยากาศที่ร่มรื่นและการตกแต่งที่มีสวนหย่อมและต้นมะพร้าวอยู่รายล้อมให้สมกับเป็นที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ  จนทุกคนต่างอดคิดไม่ได้ว่าบางทีเขาอาจต้องมัดเอเลนใส่พานให้ร่างสูงและจับมิคาสะไปปล่อยกลางทะเลสักวันเพื่อตอบแทนน้ำใจของร่างสูงเสียหน่อย
เมื่อถึงที่พักทุกคนต่างทยอยขนสัมภาระของตนเองลงจากรถ ชายวัยกลางคนศีรษะโล้นที่ดูเหมือนหัวหน้าผู้ดูแลและแม่บ้านต่างเข้ามาช่วยขนสัมภาระให้กับผู้มาเยือน
“คุณหนูแจนและทุกท่านยินดีต้องรับสู่รีสอร์ทกิลชูไตน์ขอรับ สำหรับการพักผ่อนของทุกท่านตลอดระยะเวลา 3วันนี้มีอะไรสามารถเรียกใช้กระผมหรือแม่บ้านของที่นี้ได้ตลอดขอรับ และทางเราได้จัดเตรียมห้องพักของทุกท่านไว้เรียบร้อยแล้วจะให้นำทางไปเลยไหมขอรับ?” ชายวัยกลางคนทักทายเจ้านายอายุน้อยของตนและผู้มาเยือนทุกท่านด้วยความสุภาพแต่ใบหน้าที่ทมึงทึงนั้นทำให้ทุกคนแอบรู้สึกหวั่นใจไม่น้อย
“ลุงคีธผมบอกหลายครั้งแล้วไงครับว่าเลิกเรียกคุณหนู ผมอายุ19แล้วนะครับ!!” ลุงนะลุงชอบทำให้ผมขายหน้าเรื่อยเลย
“กระผมนั้นเลี้ยงและเปลี่ยนผ้าอ้อมให้คุณหนูตั้งแต่คุณหนูเพิ่งหัดคลาน  จนตอนนี้คุณหนูก็ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่งามสง่าเหมือนคุณท่านแล้ว แต่คุณหนูก็ยังเป็นคุณหนูของกระผมอยู่ดีนั้นแหละขอรับ”  ลุงคีธพูดพลางนึกถึงภาพคืนวันเก่าๆของเขากับเด็กชายตัวน้อยที่ได้ดูแลมาตลอด  เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆจากเด็กชายตอนนี้ก็โตเป็นเด็กหนุ่ม  อีกไม่นานก็จะเป็นชายหนุ่มเต็มตัวแล้ว สำหรับคนที่เรียกได้ว่าช่วยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กก็อดที่จะปลาบปลื้มไม่ได้
“อ๊ากก!! ลุงพอเลยนะ ไม่ต้องรำลึกความหลังอะไรทั้งนั้น  ลุงเห็นไหมว่าเพื่อนๆผมอยู่กันเต็มเลย  ลุงรีบกลับไปทำหน้าที่ของลุงเถอะส่วนทางนี้ผมจัดการเองได้!!!  แจนรีบดันหลังชายสูงวัยให้กลับไปทำงานของตนเอง ท่าทางที่สนิทสนมกันของทั้งคู่ทำให้ทุกคนอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ เขาอุส่าห์จะสร้างอิมเมจดีดีให้กับเอเลนเสียหน่อยลุงคีธดันเกือบจะพล่ามความน่าอายในวัยเด็กของเขาซะอย่างนั้น  ลุงนะลุงพูดอะไรไม่ดูสถาณการณ์เลย!!  แจนอดที่จะรู้สึกหัวเสียกับชายสูงวัยคนนี้ไม่ได้  ถ้าไม่ใช่ลุงคีธคงได้มีการตัดโบนัสกันบ้างล่ะ
อาร์มินทำสลากเพื่อความยุติธรรม(ล่ะมั่ง)สำหรับแบ่งแยกห้องและแน่นอนว่าด้วยความอยากทดแทนน้ำใจของร่างสูงที่อำนวยจัดสรรทุกสิ่งให้และป้องกันไม่ให้มิคาสะสงสัยสลากเลยแอบมีทริคและความพร้อมเพรียงกันของผองเพื่อนทุกคนทำให้แจนกับเอเลนได้นอนอยู่ห้องเดียวกันดังแผนที่ได้วางไว้ การจัดแบ่งห้องเป็นไปได้ด้วยดีโดยที่มิคาสะไม่สงสัย และรายชื่อห้องแต่ละคนก็เป็นอันลงตัว   แจนกับเอเลน   ไรเนอร์กับเบลทรูธมาร์โก  โคนี่และอาร์มินนอนรวมกันสามคนสำหรับห้องใหญ่ สำหรับฝ่ายของผู้หญิงนั้นไม่จำเป็นต้องจับสลาก เพราะ ยูมิลยังไงก็จะนอนห้องเดียวกับคริสด้าอยู่แล้ว  แอนนี่ ชาช่า และมิคาสะ เลยได้ห้องนอนใหญ่สำหรับนอนรวมสามคน
หลังจากตกลงเรื่องห้องพักกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนต่างแยกย้ายกันเพื่อพักผ่อน  และนัดรวมตัวกันอีกครั้งสำหรับปาร์ตี้บาร์บีคิวริมสระในมื้อเย็น
ร่างโปร่งเมื่อเข้ามาในห้องพักโยนสัมภาระของตนไว้ที่พื้นและรีบวิ่งออกไปสูดอากาศสดชื่นของทะเลที่ระเบียงทันที ทำให้อีกคนที่เดินตามเข้ามาต้องนำกระเป๋าขึ้นไปวางไว้บนโต๊ะเพื่อไม่ให้เกะกะทางเดิน
แต่ไหนแต่ไรเอเลนก็ชอบที่จะมาเที่ยวทะเลเป็นที่สุดอยู่แล้ว  และทะเลพร้อมที่พักฟรีสุดอลังการแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้นอีกเท่าตัว  ดีจริงๆที่ได้มารู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นขึ้นมากทีเดียว  ทะเลที่กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด  อิสรภาพที่ไม่ต้องทนอยู่ในกำแพงที่เหมือนกับสัตว์ในเล้านั่น ช่างรู้สึกดีจริงๆ  บ้าจริงทั้งที่ควรจะเลิกคิดถึงเรื่องราวในบันทึกที่ผ่านมานานนับพันปีขนาดนั้นได้แล้ว  ปัจจุบันนี้เราไม่ได้อยู่ในกำแพงเสียหน่อย  และไม่มีอะไรที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วอีกด้วย  ใบหน้ามนส่ายหัวเบาๆไล่ความคิดฟุ่งซ่านเรื่องบันทึกปกสีดำที่ยังคงฝังแน่นอยู่ในห้วงคิดของตน  ถึงกระนั่นก็อดที่จะรู้สึกพิเศษกับทะเลและอิสรภาพในปัจจุบันที่ตนในอดีตกาลไขว่คว้ามาตลอดมากขึ้นไม่ได้  สิ่งที่ตัวเขาในอดีตต้องการ เป้าหมายที่พยายามไขว่คว้า ตอนนี้เขาก็ได้มันมาแล้ว  เว้นเสียตาใบหน้าคมเจ้าของนัยน์ตาสีขี้เถ้าที่ในอดีตหรือแม้กระทั่งปัจจุบันนี้ก็ไม่อาจคว้ามาครอบครอง  ทั้งที่พยายามจะหนีแต่กลับเหมือนยิ่งพยายามหันกลับไปไขว่คว้ามันอยู่เสมอ  ขณะที่ใบหน้ามนกำลังจมอยู่ในความคิดของตน  เสียงของผู้ร่วมห้องอีกคนก็แทรกขึ้นมา
“เฮ้ยเอเลน  แกจะนอนเตียงฝั่งไหน?”  แจนมองดูเตียงสองเตียงที่อยู่ในห้องแล้วถามร่างโปร่ง  ที่จริงเขาจะเลือกเตียงเองและให้อีกคนนอนเตียงที่เหลือเลยก็ได้  แต่มาร์โกบอกไว้ว่าการจีบเราควรพยายามใส่ใจรายละเอียดและพยายามเอาใจแม้เรื่องเล็กน้อยก็ตาม เพื่อให้คนคนนั้นรู้สึกดีและรู้สึกพิเศษ
ร่างโปร่งเดินกลับเข้ามาในห้องมองดูเตียงทั้งสองฝั่ง  ที่จริงแจนเป็นเจ้าบ้านก็ควรให้เจ้าตัวเลือกก่อน  แต่ไหนๆก็ยอมให้โอกาสเขาตัดสินใจ  เขาก็ถือโอกาสขอเตียงติดริมระเบียงที่มองเห็นวิวดีกว่า
แจนจัดแจงสัมภาระของตนเอง  พร้อมทั้งชำเลืองมองร่างโปร่งที่เริ่มทยอยจัดสัมภาระของตนเช่นกัน ตอนนี้เป็นโอกาสที่จะทำคะแนนแล้ว  แต่เขาต้องทำยังไงบ้างล่ะ?  ตื่นเต้นชะมัดตั้งแต่เข้าห้องมาใจก็เต้นโครมครามไม่หยุดเลย  เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนกระวนกระวายจิตใจว้าวุ่นจากอาการโรคหัวใจกำเริบ  ในเมื่อไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงก็ควรต้องหาที่ปรึกษาสินะ  มือใหญ่คว้าโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาเข้าโปรแกรมสนทนาสีเขียวบนหน้าจอแล้วเลื่อนเข้ากลุ่มSecret Mission ที่ตั้งเอาไว้
Jeanฉันจะต้องเป็นผู้พิชิต
: (เฮ้ยพวกแก  ฉันกับเอเลนอยู่ในห้องสองต่อสองแล้วควรทำไงต่อดีวะ?)
หลังจากพิมพ์ข้อความส่งเข้าไปในกลุ่มไม่นาน บรรดาผองเพื่อนผู้หวังดี(?)ก็ช่วยกับรีบตอบจนโทรศัพท์แทบเหมือนระเบิดเวลา  แจนจึงรีบทำการปิดเสียงการแจ้งเตือนเฉพาะกลุ่มเมื่อเห็นว่าร่างโปร่งที่อยู่ด้วยมองมาด้วยความสงสัย
Armin Do everything for future
: (พยายามลองหาเรื่องคุยดูครับ)
Doctor Marco
: (ลองสร้างบรรยากาศดู)
Shasaฉันจะไปบุกคลังเสบียง!!
:(เอาอาหารล่อสิคะเอเลนต้องติดกับแน่ๆค่ะ)
Connie  สักวันตรูจะครองโลกกกกก
: (ชวนคุยเรื่องอนาคตของสองเราเป็นไง?)
Annie Leonheart
: (จับกด)
Ymir>3< Krista
: (เห็นด้วยกับแอนนี่)
Krista angle
: (ยูมิลกับแอนนี่คิดอะไรกันอยู่คะเนี่ย!!!)
Reiner  wannabe The Strongest
: (ถึงจะรวบรัดขั้นตอนไปหน่อยแต่ก็น่าลองดูดีนะ = =b)
Bertolt ขอให้ทุกวันผ่านไปได้ด้วยดี
:(ผมว่าวิธีแบบนั้นมันจะได้ผลตรงกันข้ามเอานะ)
Armin  Do everything for future
: (เออผมว่าแจนอาจโดนเอเลนอัดและมิคาสะฆ่าได้นะครับ)
Ymir>3< Krista
: (ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกนะ  อาจจะได้ผลดีเกินคาดก็ได้)
Annie Leonheart
: (ฉันยอมเสียสละวาสลีนที่เพิ่งซื้อมาให้เลยละกัน ถ้านายต้องการ)
Doctor Marco
: (เดี๋ยวสิครับ ทุกคนคิดอะไรกันอยู่!!!)
Connie  สักวันตรูจะครองโลกกกกก
: (ลุยเลยแจน!!!)
Shasaฉันจะไปบุกคลังเสบียง!!
: (เอ๊ะจะลุยอะไรกันเหรอคะ? ถ้ายังไงฉันขอสนับสนุนด้วยละกันถึงจะงงก็เถอะ = =?)
Armin  Do everything for future
:(ทุกคนครับผมว่ามันผิดประเด็นไปไกลแล้วนะคร๊าบบบบบบบบ=[]=”””””)
ร่างสูงที่หวังหาที่ปรึกษาเมื่อเห็นข้อความที่บรรดาเพื่อนๆส่งมาเจ้าตัวก็ได้แต่หน้าถอดสี  ตกลงเจ้าพวกนั้นมันตั้งใจจะช่วยเขาจริงรึเปล่า  ว่าแต่อยู่กันในห้องสองต่อสองจะให้จับกดมันก็ พลันคิดถึงร่างเปลือยเปล่าของร่างโปร่งแล้วใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายก็ร้อนผ่าวขึ้นทันที  อืม….จับกด…..เอเลนงั้นเหรอ….. แจนที่ในสมองกำลังมีแต่คำว่าจับกดลอยอยู่ในหัวไปมาต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อใบหน้ามนผู้ซึ่งกำลังเป็นประเด็นอยู่ในความคิดยื่นหน้าเข้ามาใกล้กับตนเอง จนโทรศัพท์มือถือหล่นลงจากมือ
“คุยกับสาวที่ไหนอยู่น่ะแจนหน้าตาจริงจังเชียว?  เดี๋ยวนี้มีกิ๊กไม่บอกเพื่อนเหรอวะ?” ร่างโปร่งถือวิสาสะคว้ามือถือของเพื่อนที่ร่วงหล่นหมายจะขอแอบดูเสียหน่อยว่า เพื่อนผมสีน้ำตาลอ่อนของตนแอบคุยกับใครที่ไหนไม่ให้เขารู้กันนะ  แต่โดนมือใหญ่รีบคว้ากลับคืนไปได้ก่อนเพราะกลัวความแตก
“สาวที่ไหนล่ะ  แม่ฉันต่างหาก  เขาเห็นว่าเรามาพักที่รีสอร์ทเลยฝากฝังดูแลความเรียบร้อยก็เท่านั้นเอง”  แจนรีบพยายามหาเรื่องกลบเกลื่อนคนตรงหน้า  เขาจะเอาเวลาไปคุยกับสาวที่ไหนก็ในเมื่อคนที่เขาพยายามจะตามจีบเป็นเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ต่างหากล่ะ
“โธ่  ชั้นก็นึกว่าเพื่อนจะมีข่าวดี”  ร่างโปร่งแอบทำหน้าเซ็งพลางคุกคามขึ้นมายังที่นอนของอีกฝ่ายก่อนจะนอนกลิ้งเล่นอยู่ที่ปลายเตียง
ข่าวดีจะได้มีแน่ ถ้าชั้นจีบนายติดล่ะก็นะ  ร่างสูงได้แต่ถอนหายใจและมองผู้บุกรุกที่ขึ้นมากลิ้งยึดเตียงของเขาไปครึ่งหนึ่งโดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตอนนี้กำลังทำให้อีกคนใจเต้นแรงขนาดไหน
“นี่แจนทั้งที่นายก็หน้าตาดี  เรียนก็เก่ง  ฐานะแทบไม่ต้องพูดถึง  ทั้งที่นายเองก็ป๊อปขนาดนี้ทำไมยังไม่มีแฟนอีกล่ะ?”  นัยน์ตาสีมรกตมองสบกับนัยน์ตาสีเปลือกไม้อย่างเลื่อนลอย
ร่างสูงเริ่มคิดตามที่ใบหน้ามนไถ่ถาม  นั่นน่ะสิทั้งที่ตัวเขาเองก็จัดอยู่ในอันดับหนุ่มหล่อที่มีคุณสมบัติตามที่สาวๆใฝ่ฝัน  แล้วทำไมเขาถึงไม่สนใจเลือกใครสักคนมาจริงจังด้วยกันนะ  เพราะตัวเขาเองก็มีผู้หญิงเข้ามาหาสม่ำเสมอและมีให้คุยเล่นแทบไม่ขาดสายแต่ผลสุดท้ายตัวเขาเองก็เป็นฝ่ายที่เบื่อพวกเธอเสียก่อน  หรือไม่พวกเธอก็จากไปเองและเลือกที่จะเป็นเพื่อนกับเขามากกว่าด้วยเหตุผลที่เหมือนกันว่า ไม่ว่าพวกเธอจะทำอะไรหรือพยายามยังไงตัวเขาก็เหมือนแค่ตอบรับความมีน้ำใจเหล่านั้นด้วยความที่เป็นคนใจดี และทุกครั้งเขามักจะเห็นเพื่อนมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ สุดท้ายทุกคนเลยยอมแพ้และเลือกที่จะจากไปเอง  แต่กับร่างโปร่งที่อยู่ตรงนี้ไม่ว่าจะทำอะไร เมื่อไร เขาก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อที่ได้อยู่และทำสิ่งต่างๆร่วมกันเลย  ทุกครั้งสายตาก็เหมือนกับไล่ตามความดื้อดึง  และความสดใสของร่างโปร่งอยู่เสมอ  เมื่อไรไม่รู้ที่ไม่อาจละสายตาและพยายามไล่เดินตามเพื่อเคียงบ่าเคียงไหล่คนคนนี้
“บางทีอาจเป็นเพราะ  ชั้นคงกำลังรอและเฝ้ามองใครสักคนโดยหวังว่าสักวันคนคนนั้นจะรู้ตัวและหันมามองที่ชั้นบ้าง”  นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตามรกตของเด็กหนุ่ม  กว่าจะรู้ตัวฉันก็หลงใหลและคอยไล่ตามนายอยู่เสมอยังไงล่ะเอเลน….
“แต่การเฝ้ามองใครสักคนด้วยแค่ความหวังมันฟังดูเจ็บปวดนะแจน” เพราะไม่อาจรู้ได้เลยว่าเมื่อไรเขาคนนั้นจะหันกลับมามองเรา  และถ้าคนคนนั้นหันกลับมามองแล้วเราจะได้อยู่ในฐานะอะไรกันแน่….  ดังเช่นตัวเขาในอดีตกับชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งคนนั้นที่เขาคอยได้แต่เฝ้ามองและหวังไว้ว่าสักวันในนัยน์ตาสีขี้เถ้าแสนเย็นชานั่นจะสะท้อนภาพของเขาออกมาบ้าง  มันช่างเจ็บปวดและทรมาณกับสิ่งที่ไม่อาจล่วงรู้และคาดเดาได้เลย
“ถึงแม้จะเจ็บปวดแต่เพราะเป็นคนสำคัญที่ไม่อาจปล่อยไปได้ ถึงแม้จะทำได้แค่มองอยู่ตรงนี้  ชั้นว่ามันก็ดีกว่าการที่ไม่สามารถรับรู้อะไรจากคนคนนั้นได้อีกเลย  ถ้าเขามีความสุขชั้นก็หวังที่จะได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของเขา  แต่เมื่อใดที่เขาทุกข์ชั้นก็อยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างกำลังใจ ปลอบประโลม และเป็นที่พึ่งให้” เพราะเป็นสิ่งสำคัญเลยไม่อาจที่จะมองข้ามหรือสะทิ้ง  แต่หวังเพียงได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนคนนั้นบ้างก็ยังดี
“ฮ่ะฮ่ะ นายเป็นคนดีชะมัดเลยแจน”ใบหน้ามนส่งยิ้มบางให้กับร่างสูง  เพราะเป็นสิ่งสำคัญเลยไม่อาจปล่อยได้สินะ แต่สำหรับคนที่เย็นชาแบบนั้นเขาจะมีรอยยิ้มที่สดใสส่งมาให้บ้างรึเปล่า  ถึงคนคนนั้นจะไม่ยิ้มแต่หลายครั้งที่ก็รับรู้ได้ถึงความใจดีและความอบอุ่นอ่อนโยนที่ใบหน้านิ่งเฉยนั้นมอบให้  สำหรับคนแข็งแกร่งอย่างนั้นจะมีเรื่องให้กลุ้มใจที่เขาจะสามารถช่วยเหลือได้รึเปล่านะ ทั้งที่บันทึกก็ไม่ได้อยู่ที่นี้แต่ใบหน้า สัมผัสรวมถึงความรู้สึกยินดี และเจ็บปวดที่คนคนนั้นมอบให้มันยังฝังลึกและแจ่มชัดแม้ในยามตื่นก็ตาม
“หัวเราะอะไรของนาย?  ว่าแต่นายถามอะไรแปลกๆนะ ไปตกหลุมรักใครเข้ารึไง?”  คำถามของคนตรงหน้าทำให้ร่างสูงอดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้  หวังว่าคนที่เขากำลังตามจีบอยู่ตอนนี้คงไม่ไปตกหลุมรักใครหรือโดนใครฉกไปเสียก่อนนะ
ร่างโปร่งคว้าหมอนโยนใส่ร่างสูงกว่าเพื่อกลบเกลื่อน “จะไปมีได้ไงเล่า  ว่าแต่แกเองเถอะพูดมายังกับกำลังคอยเฝ้ามองใครอยู่อย่างนั้นแหละ” ใช่แล้วเพราะคนคนนั้นไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงเป็นเพียงแค่คนในอดีตที่แสนไกลเท่านั้น จึงไม่อาจที่จะเฝ้ามองหรือรักได้
แจนใช้สองมือดันหมอนใบใหญ่ที่ถูกโยนและกดลงมา  “เล่นอะไรของนายวะเอเลน!!” ร่างโปร่งพยายามดันหมอนนุ่มลงบนใบหน้าคมของอีกคน  ร่างสูงที่พยายามดันกลับจึงเพิ่มแรงดันมากขึ้นจนร่างโปร่งหงายหลังและตัวเขากำลังคร่อมร่างบางตรงหน้า  นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองใบหน้ามนอยู่ใต้ร่างด้วยอาการทำตัวไม่ถูก
นัยน์ตาสีมรกตยกมือลูบศีรษะตัวเองน้อยๆ ดีนะที่หงายหลังลงบนเตียงและมีฟูกนุ่มรองรับอยู่ไม่อย่างนั้นหัวคงจะเจ็บและโนน่าดู ”เฮ้ยแจนลุกได้แล้ว หนักชะมัด”  แต่ข้อมือบางกลับถูกมือใหญ่ของคนที่สูงกว่ากดทับลงมา
“เอเลน  ชั้นน่ะ
ผั๊วะ!!!!!!!!
ก่อนที่ร่างสูงจะได้เอ่ยอะไรต่อนั้น พลันมีวัตถุชิ้นใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายแจกันที่ประดับอยู่หน้าห้องปาเข้าที่ศีรษะของร่างสูงจนหงายล้มลงไปอยู่ข้างเตียง
“นายจะทำอะไรเอเลนน่ะ ไอหน้าม้า”  เสียงเย็นจากหญิงสาวผู้มีใบหน้าคมสวยถูกส่งมาให้ร่างสูงพร้อมสายตาที่ส่งรังสีฆ่าฟันมาเต็มพิกัด เนื่องจากใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วเธอ แอนนี่ และชาช่าที่อยู่ห้องข้างๆเลยจะมาเรียกให้ไปรวมตัวกัน และด้วยความเคยชินเธอเลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของห้อง ทำให้ได้เห็นว่าร่างสูงกำลังลวนลามเอเลนของเธออยู่
“เฮ้ยแจนแกยังหายใจไหม?!!!  ร่างโปร่งถึงกับตกใจรีบเข้าไปเขย่าเพื่อนชะตาขาดของตนเอง “มิคาสะชั้นกับแจนแค่เล่นกันเธอทำอะไรของเธอเนี่ย!!” เขาไม่อยากนอนร่วมห้องกับวิญญาณหรอกนะ
“เอเลนสัญชาตญาณของชั้นบอกว่าหมอนั่นมันคิดไม่ซื่อ” หญิงสาวเดินเข้ามาคว้าร่างโปร่งที่กำลังดูอาการเพื่อนร่วมห้องชะตาขาดให้ออกห่างจากกัน
“คิดไม่ซื่ออะไรของเธอ?  ถ้าไอหมอนี่มันตายขึ้นมาเราจะอธิบายกับลุงคีธยังไงล่ะ? แถมพวกเราเพิ่งมายังไม่ได้เที่ยวกันเลยนะ” เพื่อนคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ได้แต่ถอนหายใจกับความซื่อและบื้อของร่างโปร่ง และอดที่จะเวทนาคนดวงซวยไม่ได้ที่ตอนนี้เหมือนเริ่มจะได้สติแล้ว
“กเกิดอะไรขึ้นวะ?”  แจนพยายามรวบรวมสตินึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่  อยู่ๆแจกันก็ลอยมาแล้วลอยมาได้ยังไง  เมื่อนัยน์ตาสีเปลือกไม้มองไปรอบห้องก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีผู้บุกรุกนางหนึ่งกำลังส่งรัศมีฆ่าฟันมาให้เขาอย่างเต็มที่ นี่ถ้าไม่ได้เอเลนช่วยยึดตัวเธอเอาไว้เกรงว่าเขาจะได้เป็นผีเฝ้ารีสอร์ทของตนเองแน่แท้
“แจนนายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ขอโทษแทนมิคาสะด้วยนะเธอเข้าใจผิดนิดหน่อยน่ะงั้นเรารีบไปปาร์ตี้กันเถอะพวกอาร์มินคงรอแล้ว” ร่างโปร่งรีบฉุดลากเพื่อนตั้งแต่เด็กของตนให้ออกมาจากห้องและไปรวมตัวกับคนอื่นๆด้วยเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับร่างสูงที่กำลังนั่งกองอยู่ที่พื้น
แอนนี่ที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเดินเข้ามาจับไหล่ร่างสูงหวังจะเป็นกำลังใจ และอดรู้สึกผิดนิดหน่อยไม่ได้ที่เธอไม่ห้ามมิคาสะที่ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา “บางทีจับกดเลยคงทำให้นายตายได้  งั้นเริ่มจากสเต็ปพื้นฐานก่อนละกันนะ”  จากเหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้แอนนี่สรุปผลได้อย่างรวดเร็วแล้วว่าการรวบรัดตัดตอนที่เธอเสนออาจทำให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนอายุขัยสั้นลงอย่างไม่ต้องสงสัย
พื้นที่โล่งริมสระน้ำได้ถูกจัดแจงโต๊ะ พร้อมอาหารและเครื่องปิ้งบาร์บีคิว สำหรับบรรดาแขกพิเศษของวันนี้ทีมาเที่ยวพักผ่อน  โคนี่และชาช่าต่างตื่นตาตื่นใจกับอาหารและเครื่องดื่มมากมายที่หัวหน้าผู้ดูแลจัดเตรียมต้อนรับ  ทุกคนต่างสนุกสนานและดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติ และดนตรีเบาๆที่เปิด รวมถึงรสชาติของอาหารที่ถูกคัดสรรตามความต้องการของคุณชายแจนผู้เป็นเจ้าของที่หวังสร้างอิมเมจและความประทับใจ
จากคำบอกเล่าของแอนนี่ทำให้เพื่อนคนอื่นๆรู้สึกเวทนากับความซวยของเด็กหนุ่มผู้แสนดีไปด้วยไม่ได้ อาร์มิน ไรเนอร์เบลทรูธ และมาร์โก้ จึงลากตัวร่างสูงผมสีน้ำตาลมาประชุมหารือกันอย่างลับๆ โดยปล่อยให้โคนี่ และชาช่ารื่นเริงกับอาหารที่มีมากมาย  แอนนี่กำลังเพลินกับเครื่องดื่มนานาชนิดที่วางอยู่เรียงราย  ยูมิลและคริสต้าเริ่มเข้าโลกส่วนตัวของทั้งสองคน เพื่อกันไม่ให้เป้าหมายและมิคาสะสงสัย  จึงรวมตัวเฉพาะคนเท่านั้น
                “ผมรู้เรื่องจากแอนนี่แล้วล่ะครับ เสียใจด้วยนะครับแจน” เด็กหนุ่มผมทองประบ่าตบไหล่เพื่อนผู้โชคร้ายด้วยความเห็นใจ
                “ผมบอกแล้วว่ามันไม่เข้าท่า” ชายหนุ่มผู้สูงที่สุดในกลุ่มรู้สึกขอบคุณความถึกทนของคนตรงหน้าที่สวรรค์ยังพอประทานลงมาให้ต่อสู้กับศึกใหญ่อย่างมิคาสะ
                “มันเป็นอุบัติเหตุ ชั้นไม่ได้จะจับกดเอเลนซะหน่อย!!” ร่างสูงรีบโวยขึ้นมาจนทำให้มาร์โกต้องรีบเอามือไปปิดปากเพราะเกรงว่าเป้าหมายที่กำลังเพลินกับการปิ้งบาร์บีคิวนั้นจะได้ยิน
                “ว่าแต่แผนต่อไปเอาไงดี” หนุ่มผู้มีร่างกายกำยำถามเพื่อหวังจะได้วางแผนเขยิบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้บ้าง
                “ผมว่าพรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันตามปกติก่อนครับ  เพราะถ้าเราเร่งรีบมากเกินไปมิคาสะอาจไหวตัวทัน และวันสุดท้ายวันที่สามผมจะลองหาทางให้แจนกับเอเลนอยู่กันตามลำพังสองต่อสองนะครับ”เด็กหนุ่มผู้ฉลาดที่สุดในกลุ่มเริ่มวางแผน  เขาไม่ได้เห็นเรื่องเที่ยวสำคัญหว่าการช่วยเพื่อนหรอกนะ  แต่ไหนๆก็มาแล้วทั้งทีมันก็ต้องเที่ยวให้เต็มที่ก่อนสิ
                ร่างสูงรู้สึกปลื้มปิติกับความทุ่มเทแรงกายแรงใจของผองเพื่อนที่พยายาม(?)ช่วยเขาอย่างเต็มที่  แต่ก็อดคิดไม่ได้เช่นกันว่าถ้าแผนผิดพลาดแล้วเขาต้องมาตายด้วยน้ำมือมิคาสะแล้วล่ะก็ประกันจะยอมจ่ายให้กับครอบครัวเขารึเปล่า?

TBC.

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 มีนาคม 2557 เวลา 20:39

    ชอบชื่อในแชทของซาซ่ากับโคนี่มากค่ะ

    "Connie สักวันตรูจะครองโลกกกกก"
    "Shasa ฉันจะไปบุกคลังเสบียง!!"

    5555 ทั้งสองคนนี้มันบ้าบอได้ใจจริงๆ ปุ่มไลค์อยู่ไหน ปุ่มไลค์!! b
    ทริปนี้จะมีพรมลิขิตพานพบให้เอเลนมาเจอหัวหน้ารึเปล่านะ ;D
    สัญชาตญาณของผู้หญิงกำลังตื่นตัว! เซนต์เรื่องแบบนี้ของผู้หญิงมันแรงนะ หึหึหึหึ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. โดยส่วนตัวเเอบชอบคู่โคนี่กับชาช่านะคะ ดูบ๊องๆดี5555

      ลบ
  2. โอยยยยย ยังคงสงสารแจนอย่างต่อเนื่อง เพื่อนๆรักทั้งนั้นนน 555555555 รอลุ้นว่าเรื่องจะดำเนินยังไงต่อ พระเอกของเราจะโผล่มามั้ยรึยังไง งื้อออ

    ตอบลบ
  3. สงสารแจนไม่ไหวแล้วอ่ะ5555555555555555

    ตอบลบ