Attack On
Titan Fan fic.: Desert
Desire
Pairing: (LevixEren), (Mikasa ver. C)
Rate: R18
Warning: เอเลนเรื่องนี้บิชชี่มากค่ะ
ใครไม่ชอบสไตล์นี้อาจโดนทำร้ายนะคะ ><”
Story By: Trendy
Blood & Jadenchase
………………………………………………………………………………………………..
Chapter
7: Golden Hawk
ห้องสไตล์ยุโรปประดับด้วยโคมแชงกาเลียระย้าสวยงามตามห้องโถงทางเดินที่โอ่อ่า
แม้สิ่งก่อสร้างที่นี้จะแตกต่างจากความเป็นตะวันออกกลางที่พบเห็นโดยทั่วไป
แต่กลับเข้ากันได้ดีอย่างลงตัว ยิ่งเหล่าผู้คนที่ปกติจะแต่งกายด้วยชุดประจำชาติที่ปกคลุมมิดชิด
แต่ค่ำคืนของการจัดงานประมูลที่เลิศหรูเหล่าผู้ร่วมงานต่างแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกแตกต่างจากปกติ
และเพราะเป็นงานประมูลของเหล่าชนชั้นสูงและเป็นความลับ
ซึ่งรวมถึงสิ่งที่นำมาประมูลนั้นเป็นของเฉพาะที่อาจรวมถึงสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่ด้วยอำนาจของเงินตราและอิทธิพลรวมถึงข้อเรียกร้องเพื่อหาความจรรโลงใจของความโสมมในคราบเหล่าผู้ดี
งานประมูลนี้จึงยังคงถูกจัดขึ้นอย่างลับๆและถูกทำเหมือนเป็นแค่ข่าวลือหนาหูเท่านั้น
เหล่าผู้ร่วมงานต่างจะใส่หน้ากากเพื่อปกปิดซ้อนเร้นใบหน้าของตนเองที่เป็นที่รู้จักดีในแวดวงสังคม
และเพื่อซ่อนคราบความเป็นผู้ดีภายใต้หน้ากากหลากสีสันที่กำลังโลดแล่นเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงในค่ำคืนนี้
“ช่างเป็นงานที่น่ารังเกียจเหมือนเดิม”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนึกเบื่อหน่าย
เมื่อนัยน์ตาคมสีขี้เถ้ามองเหล่าสินค้าที่นำออกมาประมูลแต่ละชิ้นด้วยความนึกสมเพช
เพราะสินค้าเหล่านั้นกลับไม่ใช่งานศิลปะชั้นสูงของศิลปินสมัยยุคเรอเนสซองซ์
หรือพวกของหายาก
อันที่จริงก็สมควรเรียกว่าของหายากอยู่เพราะของที่นำมาประมูลล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่อาจเปิดเผยได้โดยสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทรมานสมัยศตวรรษที่ 17 ช่วงล่าแม่มด อ่างอาบน้ำของ อลิซาเบธ
บาโทรี่ หรือมีดผ่าตัดที่อ้างว่าเป็นของแจ๊คเดอะริปเปอร์
มีแม้กระทั่งชุดเต้นรำของมาตาฮารี อาชญากรสายลับข้ามชาติ ทั้งที่เขาคิดว่าสิ่งของพวกนี้ไม่น่าสนใจเลยสักนิดแต่กลับมีเหล่าคนชั้นสูงที่ถึงแม้จะใส่หน้ากากปกปิดใบหน้าแต่เขาก็ยังรู้ว่าเป็นใครอยู่บ้างที่เขารู้จักแข่งขันกันประมูลในราคาที่สูง
หรือเรียกได้ว่าสินค้าประมูลบางชิ้นมีราคาสูงถึงขนาดสามารถซื้อบ้านใจกลางเมืองได้สบายๆ
“ถึงน่ารังเกียจแต่ก็ไม่จัดการทำความสะอาด
ไม่ใช่ว่าที่จริงแล้วนายก็แอบมาประมูลอะไรที่น่ารังเกียจพวกนี้บ้างหรือไงรีไว?” นัยน์ตาสีราตรีมองลอดผ่านหน้ากากมองคนอายุมากกว่าที่แม้ปากจะบ่นว่าน่ารังเกียจแต่ประกายตาแอบแฝงด้วยความรู้สึกน่าสนุกปนในความน่าสมเพชเหล่านั้น
“สมเป็นนายนะมิคาสะ
ของบางอย่างในงานนี้มันก็น่าสนใจ อย่างเช่น......” นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองอิสตรีที่อยู่ข้างกายพลางยกยิ้ม
“สัตว์บางชนิดที่ถูกฝึกมาเฉพาะทางก็น่าสนใจ ใช่ไหมเอเลน?”
คำพูดแฝงนัยของรีไวทำให้ร่างบางในชุดสีน้ำเงินเข้มถึงกับหน้าขึ้นสี
แม้จะอยู่ในห้องที่แสงสลัวและอีกคนสวมหน้ากากปกปิดไว้ แต่บรรยากาศรอบตัวของร่างบางที่เปลี่ยนไปทำให้รีไวและมิคาสะสามารถรับรู้ได้
“งานอดิเรกนายเหมือนตาลุงโรคจิตขึ้นทุกวัน
แค่คิดว่าในตัวฉันมีสายเลือดเดียวกับนายก็น่าแขยงแล้ว” น่าสงสารเอเลน ทั้งที่อยู่กับตาแก่นี้แค่
2 วัน แต่ดูเหมือนว่าจะถูกทำอะไรแปลกๆพอดู
“คนในตระกูลเรามันน่ารังเกียจทั้งนั้น
จริงไหมน้องชาย?” รีไวหันกลับไปสนใจกับเวทีการประมูลโดยไม่สนใจสายตาดูแคลนของผู้เป็นน้องชายต่างมารดาจ้องมอง
“เอาล่ะใกล้ช่วงพักรอบแรกแล้ว
เธอก็เตรียมตัวซะนะลูกแมวน้อย” เอเลนพยักหน้าตอบรับรีไว “ก่อนการประมูลรอบหลังจะมีพักเบรกในห้องรับรองสำหรับแขก
วีไอพี พอถึงตอนนั้นก็ฝากด้วยล่ะนะ”
“นายนี่คงมาใช้บริการบ่อยจริงๆสินะ”
มิคาสะหรี่ตามองคนอายุมากกว่าที่ดูเหมือนจะรู้จักสถานที่และตารางเวลาของงานประมูลที่บอกว่าน่ารังเกียจเสียดีเหลือเกิน
ถัดจากห้องแสดงงานประมูลไม่ไกลนัก
ห้องรับรองเหล่าแขกวีไอพีซึ่งเป็นจำนวนหนึ่งจากผู้ร่วมงานประมูลทั้งหมด
เป็นส่วนที่เข้าได้เฉพาะกับผู้ที่เป็นแขกระดับสูง นั่นก็คือนอกจากจะต้องมีเงินเป็นถุงเป็นถังแล้วยังจะต้องดำรงตำแหน่งที่ใหญ่พอสมควรทีเดียว
ด้วยความที่เป็นงานที่ต้องการปิดบังและซ่อนข้อมูลต่างๆของผู้เข้าร่วมการประมูล
ห้องโถงรับรองจึงแบ่งออกเป็นห้องรับรองเล็กส่วนตัวต่างๆมากมาย
แต่ละห้องจะมีจอคอมพิวเตอร์สำหรับเรียกบริกรหรือสั่งอาหารผ่านโปรแกรม
เพื่อให้ทุกอย่างเป็นความลับและปิดบังผู้เข้าร่วมงานอย่างมากที่สุด
แม้บางรายต่างรู้จักคุ้นหน้าของอีกฝ่ายก็ตาม
แต่เพราะเป็นมารยาทและเรื่องสนุกที่น่าชวนหัวทุกคนจึงต่างแสร้งทำเป็นเมินเฉยต่อกัน
เพราะต่างก็ต้องการปกปิดงานอดิเรกที่น่าหฤหรรษ์ของตนเองไว้เป็นความลับ
ประตูถูกเปิดออกแล้วปิดลงโดยไร้ซึ่งเสียงการสนทนาระหว่างบริกรกับแขกที่พักอยู่ในห้องส่วนตัวแต่ละห้อง
บริกรเพียงนำอาหารและเครื่องดื่มบริการเหล่าแขกชั้นพิเศษมาเสิร์ฟ ทั้งยังต้องก้มหน้าไม่เงยสบตาเหล่าแขกชั้นสูงที่อยู่ในห้องเพราะบางรายอาจถอดหน้ากากที่น่ารำคาญออกแล้ว
สิ่งที่เหล่าบริกรผู้ถูกฝึกมาอย่างชำนาญจะจับจ้องนั้นมีเพียงแค่พื้นพรมและโต๊ะที่ต้องวางอาหารลงเท่านั้น
เหล่าบริกรเมื่อทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อยก็ได้ออกจากห้องไปเพื่อให้แขกได้พักผ่อนตามอัธยาศัยก่อนจะเริ่มการประมูลในช่วงครึ่งหลัง
“ช่วงครึ่งหลังเป็นการประมูลอะไรงั้นรึรีไว?”
มิคาสะอดสงสัยไม่ได้ว่าการประมูลในครึ่งหลังที่เคยได้ยินมาว่ามีสิ่งพิเศษที่น่าสนใจรออยู่ผลัดเปลี่ยนไปในแต่ละค่ำคืนคืออะไร
และจุดประสงค์ของผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ที่มาก็เพื่อการประมูลในรอบหลังนี้
“ฉันก็เคยอยู่ถึงช่วงนั้นครั้งนึงล่ะนะ
จะว่าน่าสนใจก็น่าสนใจล่ะมั่ง แต่ฉันว่ามันน่าเบื่อจะตาย”
รีไวพูดพลางยกเครื่องดื่มสีอำพันขึ้นดื่ม
มิคาสะเลิ่กคิ้วเป็นเชิงถามพี่ชายต่างมารดาของตนอย่างสงสัย
“อ่า.....
ก็พวกทาส นายหรือนางบำเรอประมาณนั้น
ฉันคิดว่านายคงไม่สนใจของแบบนั้นหรอกจริงไหมน้องชาย?”
“เป็นงานที่เน่าเฟะตั้งแต่ต้นจนจบเลยสินะ”
มิคาสะส่ายหน้าอย่างรู้สึกหน่ายกับสิ่งที่ตัวเขาก็คาดคิดไว้แล้ว
แม้ปัจจุบันการค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่ถือว่าผิดกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ก็ยังคงยากที่จะห้ามให้เกิดเพราะส่วนใหญ่คนที่สนับสนุนก็คือเหล่าผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย
“ที่ว่าเคยมาร่วมงานครั้งนึง
ไม่ใช่ว่านายก็ประมูลกับเขาไปด้วยงั้นหรือพี่ชาย?” นัยน์ตาสีราตรีเหลือบมองชายหนุ่มอายุมากกว่าอย่างนึกสงสัย
“ปิดนายไม่ได้จริงๆสินะ”
รีไวยกยิ้มขำกับความรู้ทันของน้องชายต่างมารดา “พวกทาสที่เขาเอามาประมูลหลายครั้งก็มีที่ใช้ได้อยู่
อย่างเช่น....... พวกทหารในหน่วยรบ หรือสายลับที่บังเอิญถูกจับได้
เผลอๆฝีมือจะดีและน่าไว้วางใจมากกว่าเหล่าบอดี้การ์ดที่เสียเงินว่าจ้างพวกนี้เสียอีก”
นัยน์ตาคมสีขี้เถ้าตวัดมองเหล่าชายในชุดสูทสีดำที่ทำหน้าที่เป็นการ์ดของทั้งเขาและมิคาสะ
นัยน์ตาคมที่จ้องมองอย่างดุดันทำให้เหล่าชายหนุ่มร่างใหญ่ต่างขนลุกและสะท้านไปตามๆกัน
“พักเรื่องทำความสะอาดไว้แล้วเรามาจัดการเรื่องตรงหน้าก่อนดีกว่า”
มิคาสะวางแก้วเครื่องดื่มของตนลงพลางมองเอเลนที่อยู่ในชุดอิสตรีอย่างนึกห่วง
“ห้องถัดจากตรงนี้ไปห้องริมสุดจะเป็นคนที่เธอน่าจะรู้จักดี”
นัยน์ตาสีราตรีจับจ้องดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลของคอนแทคเลนส์ที่ร่างบางใส่ “ไรเนอร์ บราวน์
ตระกูลพ่อค้าที่มักติดต่อกับชนชั้นสูงเป็นประจำ”
ใบหน้ามนยังคงสงบนิ่งรอฟังคำสั่งจากสองชีคอย่างไม่ไหวติง
แต่ประกายตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้คอนแทคเลนส์สีฟ้านั้นมิคาสะและรีไวต่างรับรู้ได้ว่าเอเลนมีปฏิกิริยาต่อชื่อของตระกูลบราวน์อยู่ไม่น้อย
“ที่เธอต้องทำก็แค่เอาเครื่องดักฟังไปติดไว้ที่ตัวไรเนอร์คงไม่มีปัญหาสินะหนูน้อย?”
รีไวเอ่ยถึงสิ่งที่ร่างบางต้องทำ
เอเลนพยักหน้าตอบรับ
พร้อมรับไมค์ดักฟังมาจากรีไวก่อนที่จะขอตัวออกไปจากห้อง
“เอาล่ะระหว่างนั้นเราก็จับตาดูสุดสวยของเราไปพลางๆดีกว่า”
รีไวเปิดแท๊บเล็ตของตนที่เชื่อมต่อกับไมค์และกล้องที่แอบติดตั้งไว้บนตัวร่างบางขึ้นดู
“เรื่องแบบนี้นายถนัดจริงๆเลยนะรีไว”
มิคาสะเขยิบเข้าดูจอแท๊บเล็ตที่กำลังฉายภาพและเสียงอย่างชัดเจน
โดยที่หมากซึ่งเดินออกไปไม่ได้รับรู้ถึงการติดตั้งอุปกรณ์นี้ไว้เลย
เอเลนเดินไปตามทางเดินระหว่างห้องที่ปิดกั้นไว้อย่างมิดชิด
หน้าห้องของตระกูลบราวน์มีเหล่าชายในชุดสูทต่างคุ้มกันอย่างแน่นหนา
ร่างบางค่อยๆมองหาจังหวะที่จะแฝงตัวเข้าไปในห้องเป้าหมายอย่างใจเย็น
สัมผัสของมือที่แตะลงมาแผ่วเบาทำให้เอเลนหันกลับไปมองคนที่เข้ามาอยู่ข้างหลังอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
ชายหนุ่มเรือนผมสีทองปัดข้างและนัยน์ตาสีฟ้าใสคนที่เขาคุ้นเคยดี เอเลนมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
แต่เพราะอยู่ในระหว่างแผนการเจ้าตัวจึงยังคงที่จะดำเนินการต่อไป
“เออ
มีอะไรรึเปล่าคะ?” แสร้งเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างคนไม่รู้จัก
“ยังเล่นละครไม่เก่งตามเคยเลยนะ
เอเลน” ชายหนุ่มหน้านิ่งเฉยถอนหายใจพลางส่ายหัวไปมา
“ปลอมตัวขนาดนี้นายยังจำได้อีกงั้นเหรอ
โกลเด้น ฮอว์ก” คิ้วมนขมวดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“เรามันคนคุ้นเคยกันดีแค่มองแผ่นหลังที่เรียบเนียน
เอวและสะโพกที่เย้ายวนของนายก็จำได้แล้วล่ะนะ” ชายหนุ่มผู้มีฉายาโกลเด้น ฮอล์ก
โคลงศีรษะไปมามองดูร่างอรชรตรงหน้า
“แล้วนายมาทำอะไรที่นี้
ถ้าไม่มีงานนายไม่เคยปรากฏตัวจริงไหม?”
โกลเด้น
ฮอลก์
ค่อยๆเอมมือไปสัมผัสยังหลังคอของเด็กหนุ่มก่อนจะบีบวัตถุที่อยู่หลังเสื้อของเอเลนให้แตกออกจากกัน
“นายนี่ยังอ่อนหัดอยู่มากนะ
อย่างที่นายรู้ถ้าไม่มีงานฉันไม่โผล่มาหาเรื่องวุ่นวายแบบนี้หรอ”
ปึก!!!
หมัดขวาต่อยเข้าที่ท้องของร่างบางอย่างเต็มแรง
ความหนักหน่วงของกำปั้นที่ต่อยเข้ามาทำเอาเอเลนถึงกับจุกและทรุดลงไปกันอ้อมแขนที่รอรับอยู่ตรงหน้า
“น...
นี่มัน แค่ก!” ความจุกที่แล่นขึ้นมาถึงคอหอยทำให้เอเลนไม่อาจที่จะเอ่ยถามอะไรออกไป
“ก็บอกแล้วว่ามีงานน่ะ”
พลั่ก!!
เสียงประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วพร้อมร่างชายหนุ่มที่วิ่งเข้ามาตวัดขาใส่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว
แต่ด้วยความชำนาญอย่างนักฆ่ามืออาชีพของชายหนุ่มผมทอง
ทำให้หลบการจู่โจมที่เข้ามาได้อย่างไม่ยากนัก
“ดูเหมือนนายจะเป็นที่ถูกใจของท่านชีคพอควรนะ
Honey” โกลเด้น ฮอล์ก ยกยิ้มขึ้นมุมปากเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงที่เข้าจู่โจมตน
“ขอโทษนะแต่ฉันอยากได้เอเลนคือถ้านายไม่ว่าอะไร”
มิคาสะยื่นมือออกไปหาคนตรงหน้าเพื่อขอร่างโปร่งบางที่ถูกหิ้วอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่าย
“ก็อยากคืนให้อยู่นะ
แต่งานนี้คนว่าจ้างฉันไม่ใช่นายคงทำตามที่บอกไม่ได้” นัยน์ตาสีฟ้าไร้อารมณ์สบกับนัยน์ตาสีราตรีที่เริ่มมีประกายเดือดดาล
“ไม่ต้องห่วงไปเพราะอีกภารกิจที่ฉันได้รับมา........ คือกำจัดชีคมิคาสะเสียด้วย!!”
ทันทีที่พูดจบร่างปราดเปรียวเข้าจู่โจมชายหนุ่มสูงกว่าอย่างไม่รอช้า
ขาของโกลเด้น ฮอล์ก ไล่เตะต้อนชีคหนุ่มเข้าไปเรื่อยๆ แต่ยังช้าเกินไป
เพราะมีร่างบางที่ประคองไว้จึงทำให้การเคลื่อนไหวไม่อาจทำได้อย่างใจนึก
มิคาสะจึงเตะสวนกลับไปได้อย่างง่ายดาย
ผลั๊วะ!
“ชริ! ฝ่าเท้าหนักใช่เล่นนะท่านชีค”
ชายหนุ่มผมทองถอยห่างออกไปตั้งหลัก
“ขอคืนด้วยท่านมือสังหาร”
มิคาสะยื่นมือและเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
นัยน์ตาสีฟ้าเย็นชาหรี่ตาลงมองคนข้างหน้า
“ในเมื่ออยากได้คือ ฉันก็จะให้!” โกลเด้น
ฮอล์กโยนตัวร่างบางออกหวังจะใช้เป็นเหยื่อเพื่อเบนความสนใจก่อนเข้าโจมตี
ขาแกร่งของชีคมิคาสะเตะอัดเข้าที่หน้าท้องของชายหนุ่มผมทองซึ่งสูงน้อยกว่าอย่างไม่หยี่ระ
โกลเด้น ฮอล์ก ถึงกับเซถอยไปอีกครั้ง และเมื่อมองดูภาพตรงหน้าจึงทำให้เขาเข้าใจว่าทำไมชีคหนุ่มถึงมาจู่โจมเขาโดยไม่สนร่างบางที่เขาโยนออกไปเสียนิด
เพราะตอนนี้มีชีคหนุ่มอีกคนที่รับร่างโปร่งบางนั้นแทน
มิคาสะจึงเข้าจู่โจมเขาได้อย่างเต็มที่
“เล่นรุมกันแบบนี้ดูท่าฉันจะตัดสินใจผิดซะแล้ว”
ชายหนุ่มผมทองพยายามประเมิญสถาณการณ์ตรงหน้า
“ฉันว่านายจะทำอะไรก็รีบทำดีกว่า
เพราะเสียงที่อึกทึกเริ่มเรียกการ์ดของงานมาแล้วนะเจ้าหนู”
รีไวมองสบกับชายหนุ่มผมทองอย่างท้าทาย
“อืม
ถ้างั้นคงต้องรีบหนีแล้วล่ะนะ ขอขอบคุณท่านชีคที่เป็นห่วง” โกลเด้น ฮอล์ก
โค้งขอบคุณชีคทั้งสอง ก่อนใบหน้านิ่งไร้อารมณ์จะเงยขึ้นอีกครั้ง “แต่ถ้าไม่มีอะไรติดไปเลยดูจะไม่เป็นการดีกับฉันเท่าไร”
สายสลิงถูกยิงออกไปพร้อมกับการเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วตรงเข้าหาชีครีไว
ศอกของโกลเด้น ฮอล์ก เข้าโจมตีที่ข้างลำตัวของชีคหนุ่มเป้าหมาย
รีไวเบี่ยงตัวหลบการจู่โจมที่เข้ามา เป็นจังหวะเดียวกับแขนที่โอบร่างบางไว้หลุดออก
ชายหนุ่มผมทองรีบคว้าเป้าหมายของตนไว้ก่อนจะหนีไปทางหน้าต่างบานใหญ่
นัยน์ตาสีฟ้าเย็นชาสบมองนัยน์ตาสีราตรีที่มองอย่างตกตะลึงสับกับนัยน์ตาสีขี้เถ้าที่ยังคงนิ่งเฉยพลางยกยิ้มมุมปาก
“งานวันนี้เสร็จสิ้นแล้วเราคงได้เจอกันใหม่นะท่านชีคทั้งสอง”
โกลเด้น
ฮอก์ว ใช้สลิงพาตัวเขาและเอเลนกระโดดหลบหนีไปทางหน้าต่างของอาคาร ก่อนจะหนีหายไปในความมืดยามราตรี
ทันที่ที่เหล่าการ์ดของงานมาถึงทั้งคู่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหล่าแขกวีไอพีที่อยู่ในห้องต่างทยอยออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะได้ยินเสียงอึกทึก
รวมทั้งการ์ดที่วิ่งออกมา รวมถึง ไรเนอร์ บราวน์ ผู้ซึ่งเป็นเป้าหมายในคราแรก
รีไวสบมองใบหน้าของชายหนุ่มที่แสร้งทำเป็นถามไถ่ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
เช่นเดียวกับตัวเขาที่สวมหน้ากากแสดงละครอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างนึกรำคาญ
จะมีก็แต่มิคาสะที่ขอตัวกลับไปพักยังห้องส่วนตัวเพื่อระงับอารมณ์ขุ่นเคืองที่พุ่งสูงขึ้น
“ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ถ้ายังไงผมจะให้ความร่วมมือช่วยตามหาคนของท่านที่หายไปนะครับท่านชีครีไว” ไรเนอร์
กล่าวด้วยความเป็นห่วงต่อชายหนุ่มผู้นำประเทศ
“ถ้ายังไงก็ต้องขอขอบคุณคุณไรเนอร์ล่วงหน้า
และหวังว่าคงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้” รีไวกล่าวขอบคุณตามมารยาท
ก่อนจะขอปลีกตัวออกมาเพื่อกลับเข้าห้องพักส่วนตัว
โครม!!
แท๊บเล็ตถูกเขวี้ยงเข้าใส่ทันทีที่รีไวเดินกลับเข้ามาในห้องพัก
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองน้องชายต่างมารดาที่จ้องมองด้วยแววตาวาวโรจน์อย่างขุ่นเคือง
“นายจงใจปล่อยเอเลนไปกับหมอนั่น”
มิคาสะเอ่ยลอดไรฟัน เขารู้ดีว่าฝีมือระดับรีไวไม่มีทางที่จะปล่อยให้เอเลนถูกพาตัวไปได้ง่ายๆอย่างนั้นแน่นอน
ซ่า!
รีไวสาดน้ำดื่มในแก้วใส่หน้าน้องชายของตนเอง
“ใจเย็นหน่อย
ทุกทีนายใจเย็นกว่านี้นะเจ้าน้องชาย”
นัยน์ตาสีขี้เถ้ามองตำหนิน้องชายต่างมารดาของตน “หลงเสน่ห์เข้าเต็มๆเลยสินะเจ้าหนูนั่นน่ะ”
มิคาสะยกแขนเสื้อเช็ดน้ำที่ไหลลงมาเปรอะเปื้อนใบหน้าของตน
ชายหนุ่มพยายามข่มอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตนให้สงบลงอย่างที่ถูกพี่ชายต่างมารดาตำหนี
“นายจงใจ
ทั้งที่รู้ว่าอันตรายกับหมอนั่นงั้นสิ หึเลวชะมัด!”
รีไวเดินเข้ามานั่งประจำที่ของตนเองก่อนจะยกแก้วดื่มเครื่องดื่มของตนตามเดิม
“ฉันไม่ให้หมอนั่นตายหรอกน่า
ฉันให้สิ่งที่เจ้าหนูนั่นต้องการไปด้วยก่อนที่จะถูกไอหัวทองนั่นเอาตัวไป”
ใบหน้าคมมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
บอกว่าเขาหลงเจ้าหนูนั่น แต่ดูเหมือนพี่ชายต่างมารดาของเขาก็จะหลงใหลร่างบางนั้นไม่น้อยไปกว่าเขาหรอกนะ
“นายมันบ้าได้ใจจริงๆ
เจ้าพี่บ้า” ใบหน้าคมยกยิ้มขึ้นถึงแผนซ้อนแผนของคนตรงหน้า “แล้วทีนี้นายจะทำยังไง?
เครื่องติดต่อที่แอบติดไว้ก็ถูกทำลายไปหมดแล้ว”
“เครื่องประดับที่หมอนั่นใส่ไม่ได้มีไว้เป็นเครื่องหมายตีตราโง่ๆ
หรือประดับไว้สวยงามแค่นั้นหรอกนะ” รีไวสบตากับนัยน์ตาสีนิลที่เริ่มสงบลง
“นายมันพวกเสือซ่อนเล็บ”
“นานๆคนอย่างนายจะชมฉันสักทีขอน้อมรับไว้ละกัน”
ใบหน้าคมยกยิ้มบางก่อนจะจับจ้องภาพสะท้อนในของเหลวสีอำพันในมือของตน “ทีนี้ก็มาดูกันสิว่าเจ้าหนูนั่นจะเลือกฝ่ายไหน?”
“เป็นการเสี่ยงน่าดู
นายว่าเอเลนจะยอมเลือกเข้ากับฝ่ายเรางั้นเหรอไง?” เพราะระยะเวลาไม่ถึงอาทิตย์ดีแม้ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะยอมเปิดใจให้พวกเขาอยู่บ้าง
แต่การที่ต้องให้เลือกระหว่างองค์กรที่ฝึกเจ้าตัวมา กับพวกเขาที่แต่เดิมเป็นเป้าหมาย
นับว่าเป็นการเสี่ยงที่บ้าบิ่นทีเดียว
“ไม่มีใครรู้ผลที่จะตามมาจริงไหม?”
รีไวท้าวคางมองใบหน้าน้องชายต่างมารดา “แต่ว่าถ้าหมอนั่นคิดได้คงเลือกทางเรา
แม้จะใสซื่ออยู่บ้างแต่ก็ยังฉลาดพอดู”
“แล้วถ้าหมอนั่นไม่เลือกเราล่ะรีไว?”
เพราะไม่อาจรู้ถึงสิ่งที่เกิดจึงต้องคอยเตรียมรับผลที่จะตามมาไว้ให้ดี
“ถ้าหมอนั่นไม่เลือก
ฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าเจ้าหนูนั่นจะเป็นเพียงแค่เบี้ยที่ไร้ค่าเท่านั้น
ถึงจะน่าเสียดายอยู่บ้าง แต่ของที่ไร้ประโยชน์ฉันไม่เก็บไว้ให้รกเล่นหรอกนะ
เรื่องนี้นายก็เข้าใจดีอยู่แล้วนี่น้องชาย....”
อกซ้ายของมิคาสะรู้สึกบีบรัดอย่างประหลาด
เขาเข้าใจดีทุกอย่าง และทุกครั้งก็เป็นเช่นนั้น
รีไวไม่เคยเก็บคนไร้ประโยชน์หรือคนทรยศไว้ให้อยู่ใกล้ตัว
ตัวเขาเองก็เช่นกันที่ไม่เคยจะเก็บสิ่งน่ารำคาญเหล่านั้นให้หงุดหงิดใจ
แต่คราวนี้เขากลับรู้สึกหวั่นไหวกับทางเลือกที่มอบให้แก่เด็กหนุ่มที่เพิ่งได้พบเจอเพียงไม่กี่วัน
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองพระจันทร์สีเงินที่ลอยเด่นเป็นสง่าท่ามกลางความมืดมิดยามราตรี
ใบหน้าเฉยชายิ้มบางอย่างนึกสนุกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิด
ฉันเดิมพันกับนายไว้สูงมากเลยนะเจ้าหนู
นายคงไม่ทำให้ฉันผิดหวังใช่ไหม?..............
.
.
.
.
.
.
.
ท่ามกลางความอลหม่านที่เกิดขึ้น
รีไวแนบซองจดหมายเข้าที่ในชุดสีน้ำเงินเข้มแนบเนื้อของเอเลน
พินัยกรรมของชีครุ่นก่อนและตราประจำตัวที่เจ้าตัวเคยค้นหาถูกมอบให้อย่างง่ายดายโดยผู้ปกครองคนปัจจุบัน
ใบหน้ามนมองสบตากับนัยน์ตาสีขี้เถ้าอย่างแปลกใจ
ก่อนที่จะถูกดึงตัวออกมาห่างจากอ้อมแขนแกร่ง ริมฝีปากคมกระซิบอย่างแผ่วเบาแต่ชัดเจนในโสตประสาทของเด็กหนุ่ม
“กลับมาหาฉันให้ได้ล่ะเอเลน”
TBC.
.....................................................................................................................................
Talk: ในส่วนของอิชุ้นเป็นการดำเนินเรื่องอย่างแท้จริงไปแล้วชอบกลเครอะ =w=a
ก็ดีอย่างเครอะเขียนฉากเรทมันเหนื่อยน่อ มีคนเขียนแทนนี่ดีจัง เย่(แอเลวชอบกล)
ตอนนี้มีตัวละครโผล่มาอีกคนค่ะ ม่แต่ฉายา เลยอาจทำให้งงๆกัน
เฉลยเลยละกันเนอะ บุคคลนั้นคือ แอนนี่ สายC เย่
เรื่องนี้ดูท่าจะจับสาย C เยอะใช้ได้เลย ตอนนี้ก็มิคาสะ กับแอนนี่ เข้ายันฮีแปลงเพศ+ส่วนสูงเรียบร้อย
พี่เตี้ยวเราเลยยิ่งเตี้ย เตี้ย แต่แอนนี่สาย C คงไม่สูงไปกว่าพี่เตี้ยเท่าไร(เผลอๆพอกัน) เพราะร่างปกตินางก็ไม่สูงอ่ะนะ พระเอกเตี้ยของเราจะได้มีเพื่อนร่วมเตี้ยเพิ่ม (โดนฟันหลังคอ!)
เอาเป็นว่าพาทอิชุ้นเสร็จแล้วเย่ เห็นฝั่งจันดารา เอ๊ย จาเดนเชส เขาอยากเขียนแนวบู๊มั่ง(นอกจากบู๊บนเตียง) ฉากหน้าเราอาจไปบู๊กันที่ริมระเบียงแทน เหมือนจะผิด? แต่ก็ไม่แน่อ่ะนะ
เอาเป็นว่าโยนต่อแล้วค่ะ เย่ ^w^
Trendy Blood
บู๊กันริมระเบียง เป็นอะไรที่......เคยคิดไว้แล้วครับ แต่ไม่รู้จะจับบวกกับใครดี กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!! (จะทำร้ายเอเลนถึงไหน!!)
ตอบลบจริงจังๆ แหม่ หนุ่มหล่ออีกคนของเราเปิดตัวแบบต่อเนื่องจริงๆฮะ อยากจับบวกมากบอกเลย (หยุดเถ๊อะะ) ทำหน้าหนักใจว่าจะดำเนินเรื่องต่อยังไงดี อืม.....สงครามกามาจัดได้ครับแต่อยากเปลี่ยนแนวบ้าง ต้องสะกดใจตัวเองไว้ เมื่อยกับความกามของตัวเอง จริงจังครับจริงจัง เอาล่ะครับ.....มโนต่อไป
จะรอดูว่าจะจริงจังหรือกามานะ 555555
ลบสนุกสมการรอคอยค่ะไรท์ทั้งสอง สำหรับเราไม่ว่าจะจริงจังรึกามา เราก็ยังคงรอคอยที่จะอ่านตอนต่อๆไปอย่างต่อเนื่องค่ะ หุหุ
ตอบลบสนุกมากค่ะรอตอนต่อไปค่า ^^
ขอบคุณมากนะคะ เเอบกลัวว่าช่วงจริงจังคนอ่านจะเบื่อรึเปล่าอยู่เลย/////////
ลบมีกำลังกาม เอืยกำลังใจเลยค่ะ >w<
กรี๊ดดดดดดดดด เรื่องนี้ก็สนุก รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ สนุกทุกเรื่องเลย ไม่รู้จะเร่งให้ไรเตอร์เขียนเรื่องไหนต่อก่อนดี 555
ตอบลบพาทต่อไปอิชุ้นกำลังไปตบตีมาให้อยู่ค่ะ รอกันนิดนะ >w<
ลบ