Attack On
Titan Fan fic.: Penalty
Pairing: (LevixEren), (ReinerxEren)
Rate: NC 20,
Yandere , BDSM , NTR , Guro
Warning: เรื่องนี้ยัน+เอสมากๆ ถ้าใครไม่ชอบแนวฆาตกรรม(ก็ไม่เชิงฆาตกรรมมั่ง?)หรืออะไรที่กดประสาทนิดหน่อยแนะนำให้ปิดนะคะ
><”
Story By: Trendy
Blood & Jadenchase
………………………………………………………………………………………………………………
ชายหนุ่มร่างไม่สูงแต่กำยำไปด้วยกล้ามเนื้อเดินออกมาจากบ้านจัดสรรของตน
วันนี้ก็ยังคงเป็นเฉกเช่นทุกวันที่ในช่วงเช้าก่อนชายหนุ่มจะออกไปทำงานเขาจะนำถุงขยะสีดำใบใหญ่ออกมาทิ้งในจุดสำหรับทิ้งขยะของหมู่บ้าน
“สวัสดีค่ะคุณรีไว”
เสียงของหญิงสูงวัยเอ่ยทัก
รีไวหันไปสบตากับหญิงสูงอายุที่คุ้นเคยกัน
ด้วยที่ว่าพักอาศัยอยู่ในหมูบ้านเดียวกัน ใบหน้าเฉยชาคลี่ยิ้มบางสุภาพตอบกลับ
“สวัสดีครับคุณนายแอนดิสัน”
“น้องชายไปไหนซะล่ะพ่อหนุ่ม?”
หญิงสูงวัยเอ่ยถาม โดยปกติเธอมักจะเห็นรีไวและน้องชายอีกคนของเขาออกมาทิ้งขยะด้วยกันเป็นบางครั้ง
แต่2อาทิตย์ที่ผ่านมาเธอไม่เห็นเด็กหนุ่มอีกคนเลย
“มหาลัยของเอเลนปิดเทอมแล้ว
เขาเลยกลับบ้านไปอยู่กับทางครอบครัวน่ะครับ” รีไวตอบกลับ
ชายหนุ่มยังคงรักษาท่าทางที่สุภาพกับคนอายุมากกว่า
“ถึงว่าช่วงนี้ไม่เห็นเลย
เธอกับเอเลนเป็นญาติห่างกันนี่นะ
ถ้ามหาลัยของคุณปิดก็จะกลับไปเยี่ยมครอบครัวกันด้วยสินะคะ”
ใบหน้าสูงวัยยิ้มอย่างเอ็นดู
“ใช่ครับ
อีกประมาณ 2-3 วันผมก็คงจะไม่อยู่ที่นี้แล้ว”
คุณนายแอนดิสันยิ้มขำขันให้กับชายหนุ่ม
“พูดราวกับว่าพวกคุณจะไม่กลับมาอีกอย่างนั้นแหละ
ทั้งๆที่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี้ได้ 3 เดือนเอง
ยังไงซะพอเปิดเทอมเจ้าหนูเอเลนคงกลับมาทำให้คุณและแถวนี้ครึกครื้นกันเหมือนเดิม”
“นั่นสินะครับ
เอเลนเองก็ชอบที่นี้มากเช่นกัน”
“นอกจากเอเลนแล้ว
เมื่อไหร่คุณรีไวจะเปิดตัวคนรักของคุณสักทีล่ะคะ”
นัยน์ตาสีฟ้าของหญิงสาวสูงวัยชำเลืองมองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของชายหนุ่ม
เพราะแหวนวงนี้ที่ราวกับเป็นเครื่องหมายตีตราจองทำให้เหล่าสาวๆในหมู่บ้านที่หวังจะตีสนิทและครอบครองหัวใจของรีไวเป็นอันต้องหอบใจที่ไม่สมหวังกลับไป
แม้เจ้าตัวจะไม่เคยพาหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้นมาให้รู้จัก
แต่ทุกครั้งที่เล่าถึงคนรักชายหนุ่มมักมีรอยยิ้มอบอุ่นและละมุนเสมอ
มือแกร่งลูบไล้แหวนเงินเกลี้ยงที่ประดับเพชรเม็ดเล็กของตนพลางยกยิ้ม
ท่าทางที่ให้ความสำคัญของสัญลักษณ์สื่อกลางที่เชื่อมเขาและคนรักไว้ด้วยกัน
ยิ่งทำให้คุณนายแอนดิสันรู้สึกเอ็นดูยิ่งขึ้น
“นี่ก็สายมากแล้ว
ผมคงต้องรีบไป”
“จริงด้วยสิ
อาชีพอาจารย์ในมหาวิทยาลัยอย่างคุณปล่อยให้เด็กๆรอคงดูไม่ดี”
รีไวโค้งลาหญิงสูงวัยอย่างสุภาพก่อนเดินกลับไปที่บ้านสีขาวหลังคาสีฟ้าของตน
รั้วสีขาวถูกเปิดออกก่อนที่รถยนต์ Porsche
Carrera GT สีเงินจะพุ่งตัวออกไป
แล้วรั้วสีขาวก็ปิดอัติโนมัติโดยที่ไม่ต้องลำบากลงไปเลื่อนปิด
นัยน์ตาสีขี้เถ้าจับจ้องบนท้องถนนก่อนจะเบนสายตามาที่มือซ้ายของตนที่ยังคงบังคับพวงมาลัยรถ
ริมฝีปากคมยกยิ้มขึ้นมุมปากก่อนจะยกมือซ้ายที่สวมแหวนของตนขึ้นมาจุมพิต
อย่างที่ทุกคนต่างรู้ดีว่าเขารักคนรักของเขา
ใช่รักมาก มากเสียจนไม่อาจให้อภัยกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น…….
.
.
.
.
.
.
.
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 เดือน ก่อน
รีไวได้ซื้อบ้านจัดสรรเพื่อหวังให้เป็นที่เริ่มต้นชีวิตของเขากับคนรัก
เด็กหนุ่มตาโต ตื่นเต้น กับบ้านจัดสรรสีขาวที่อยู่ตรงหน้า
ร่างบอบบางโถมเข้ากอดชายหนุ่มแน่นด้วยความตื่นเต้นดีใจ และมันทำให้หัวใจที่ปกติเฉยชาไม่สนใจสิ่งใดพองโตด้วยความดีใจไม่ต่างกัน
ไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้เพื่อรักใครสักคน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเกินรอบที่กำลังกอดรัดตัวของเขาอยู่
“ดีใจจังครับ”
เสียงใสของเด็กหนุ่มตะโกนพร่ำบอกอย่างไม่รู้สึกเหนื่อย ภายในอกเต้นระรัวด้วยดีใจ
ไม่เคยคิดว่าจะมีใครที่ยอมทุ่มเทและห่วงแหนตนได้เท่าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
“ใจเย็นเอเลน
อย่าลืมสิว่าเรื่องของเราต้องเป็นความลับ” นัยน์ตาสีขี้จ้องดุร่างบางเล็กน้อย
แต่นั่นก็ทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งอย่างนึกขึ้นได้
อ้อมแขนที่กอดแน่นจึงค่อยๆผ่อนคลายออก
“ข…ขอโทษครับ พี่ชาย” ใบหน้ามนพองลมในแก้มน้อยๆอย่างนึกน้อยใจ
เพราะไม่อาจให้ใครล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ที่แปลกแยกของพวกเขา
มือหนาวางลงบนผมสีน้ำตาลเปลือกไม้หวังให้กำลังใจ
ใบหน้าคมยกยิ้มอ่อนโยนให้กับเด็กหนุ่ม ซึ่งเอเลนเองก็ยิ้มตามเช่นกัน
เพราะเขาเองก็เข้าใจและรู้ดีว่าชายหนุ่มเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมขนาดไหน
ความสัมพันธ์นี้แม้ไม่อาจเปิดเผยออกมาได้
แต่ความรู้สึกที่รีไวมีให้เขานั้นมันช่างอบอุ่น
ถ้าไม่ได้มีเรื่องของหน้าที่การงาน
หรือถ้าความสัมพันธ์ของพวกเขาสามารถที่จะเผยให้ใครต่อใครได้รับรู้
รีไวเองก็ไม่คิดที่จะลังเลบอกว่าตนเป็นเจ้าของเด็กหนุ่มคนนี้
แต่เพราะสถานะของเขาที่เป็นถึงอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยชั้นนำ เป็นที่นับหน้าถือตา
จึงไม่อาจทำให้จุดยืนของเขานั้นสั่นคลอน อีกทั้งด้วยอายุที่น้อยกว่าเกินรอบของเอเลน
ปัจจุบันเด็กหนุ่มจึงมีสถานะเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ความสัมพันธ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะได้มาบรรจบกัน
ราวกับพรหมลิขิตในนิยายน้ำเน่าที่เขาไม่เคยคิดจะสนใจ แต่เหตุการณ์ที่เจอเอลน
ทำให้เขาเริ่มคิดว่าพรหมลิขิตนั้นคงมีอยู่จริง
ย้อนกลับไปเมื่อราว 5 ปี ก่อน ตัวเขาที่กำลังขับรถฝ่าสายฝนที่ตกกระหน่ำจนแทบมองไม่เห็นเส้นทาง
แต่เพราะเป็นวันที่ดึกมากแล้วเขาจึงไม่คิดที่จะลดความเร็วลงเท่าไร
ด้งชวยที่ว่าถนนนั้นเวลานี้แทบเรียกได้ว่ามีเพียงเขาเป็นผู้ครอบครอง
แต่เขากลับคิดผิดถนัดเมื่อจู่ๆมีเงาตัดหน้ารถจนเขาต้องรีบเหยียบเบรกแล้วหักพวงมาลัยหนี
แต่ก็ยังไม่อาจพ้นเงาปริศนาที่วิ่งตัดหน้ามา
ต้องขอบคุณทักษะการขับรถที่เรียกได้ว่ามีฝีมืออยู่บ้างของเขาทำให้การชนนั้นเป็นเพียงการกระแทกที่รุนแรงไม่มาก
เมื่อเขาลงจากรถมาดูอาการร่างปริศนาที่พุ่งตัวออกมา
โดยคิดว่าถ้าเป็นคนแล้วยังอยู่ดีเขาจะขอกระทืบซ้ำเสียหน่อยข้อหาที่ไม่ยอมระวัง
โดยเฉพาะในวันที่ฝนตกหนักจนมองแทบไม่เห็นอะไรอย่างนี้
แต่เป็นตัวเขาเองที่ราวกับรู้สึกโดนกระแทกที่อกด้านซ้าย
ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไม่เคยเจอ เมื่อเห็นร่างบอบบางและนัยน์ตาสีมรกตที่กำลังมองมาอย่างหวาดกลัวด้วยความตกใจ
แทนที่เขาหวังจะต่อว่าซ้ำเติม
แต่มือหนากลับลูบไล้ไปบนผมสีน้ำตาลแผ่วเบาแล้วได้แต่พร่ำบอกร่างที่กำลังสั่นเทิ้มนั้นเพียงว่า
“ไม่เป็นไร”
เพียงเท่านั้นร่างๆทั้งร่างของเด็กหนุ่มก็กระโจนพุ่งเข้ากอดเขาทันที
อกซ้ายเต้นระรัว ลมหายใจราวกับติดขัด ทั้งที่ฝนตกจนอากาศหนาวสั่น
แต่เขากลับรู้สึกอุณหภูมิในกายขึ้นสูงอย่างน่าประหลาด
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเขาจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า
รักแรกพบ กับเด็กหนุ่มที่อายุห่างกันขนาดนี้
จากนั้นตัวเขาจึงค่อยๆเข้าใกล้ชิดเอเลนทีละน้อย และค่อยๆขยับความสัมพันธ์ขึ้นมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
และยิ่งรู้จักเด็กหนุ่มมากเท่าไร
ตัวเขาก็ยิ่งมั่นใจในความใสซื่อและความน่ารักของเอเลนมากขึ้นเท่านั้น
เด็กหนุ่มกำพร้าที่ผู้เป็นปม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
และผู้เป็นพ่อหายสาบสูญจากเหตุการณ์เครื่องบินตกในหมู่เกาะห่างไกล
เอเลนพยายามหาเลี้ยงตัวเองในสถานเลี้ยงเด็ก
พยายามดิ้นรนเก็บเงินทีละน้อยเพื่อส่งเสียให้ตัวเองได้ร่ำเรียนต่อหลังจากจบการศึกษาภาคบังคับ
ถ้าเขาไม่มีเงินเขาก็ไม่สามารถที่จะเล่าเรียนต่อได้
เด็กหนุ่มจึงเริ่มรับทำงานพิเศษจากเหล่าผู้อุปการะที่มาสถานรับเลี้ยง
คืนที่เขาได้เจอเด็กหนุ่มนั้นก็เพราะเจ้าตัวเพิ่งได้กลับออกมาจากการทำงานพิเศษในร้านขนมปังตรงหัวมุมถนนถัดไป
ความมุ่งมั่นและเข้มแข็งของเอเลนทำให้รีไวหลงใหล
จนในที่สุดเขาจึงขอเป็นผู้อุปการะเด็กหนุ่มและนำมาอยู่ด้วยกัน
แต่ถึงเป็นผู้อุปการะเขาก็ไม่ได้อยากอยู่ในฐานะพ่อบุญธรรมของเอเลน เมื่ออยู่ต่อหน้าสังคมเขาจึงแนะนำเด็กหนุ่มว่าเป็นน้องชายของญาติห่างๆ
ตัวเขาที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
อีกทั้งยังมีมรดกที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้รวมทั้งที่ดินมากมาย
ทำให้การอุปการะเด็กคนหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่ลำบาก
อีกทั้งตัวเขากลับรู้สึกว่าได้รับผลประโยชน์ที่ไม่อาจประเมินค่าได้
เขาได้รับความรักจากเอเลนตอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาเหนือสิ่งใด
.
.
.
.
.
“ขอโทษนะนายอึดอัดรึเปล่า?” ทือหนาลูบไล้ผมสีน้ำตาลไปมาแผ่วเบา
ตั้งแต่เข้ามาในบ้านเขารู้สึกว่าเอเลนเงียบไป
ทั้งที่ปกติแล้วเด็กหนุ่มจะชอบชวนเขาคุยเรื่องต่างๆ อีกทั้งยังชอบที่จะส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวไม่เคยหยุดหย่อน
มือบางจับมือหนามาสัมผัสที่แก้มเนียนของตนก่อนจะจูบลงมือที่อบอุ่นนั้นแผ่วเบา
“ไม่ครับ
ผมรักคุณมากนะ” ใบหน้ามนยิ้มบางให้กับคนรักของตน
นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆก้มลงมองพื้นพรมลายตะวันออกสีน้ำตาลก่อนริมฝีปากบางค่อยๆเอ่ยอย่างแผ่วเบา
“ถ้าเรื่องของเราเปิดเผยได้ก็คงดี”
“ถึงแม้จะไม่สามารถบอกใครได้
แต่นายเป็นของฉันเอเลน เหมือนกับที่ฉันเองก็เป็นของนาย”
มือหนาจับสร้อยเงินของเด็กหนุ่มขึ้นมา ซึ่งมีแหวนสีเงินประดับเพชรเม็ดเล็กเช่นเดียวกับที่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเขา
ริมฝีปากคมก้มลงจูบแหวนซึ่งเป็นดั่งสัญลักษณ์ตีตราทั้งคู่ก่อนค่อยๆเคลื่อนมาสัมผัสที่ริมฝีปากสีระเรื่อของเด็กหนุ่ม
เรียกได้ว่าชีวิตของเขาตอนนี้มีความสุขและสมบูรณ์พร้อม
มีคนรักที่น่ารัก และมีการงานที่ดีพร้อม
เป็นความสุขที่เขาเคยคิดว่าจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีวันสั่นคลอน
………………..ทั้งที่………………….ควรเป็นเช่นนั้น…………
รถยนต์สีเงินจอดส่งเด็กหนุ่มที่หน้ามหาวิทยาลัยของเจ้าตัวก่อนที่ขับไปยังอีกมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นที่ทำงานของชายหนุ่มเจ้าของรถ
ร่างบางส่งยิ้มและโบกมือลาคนอายุมากกว่าอย่างเป็นสุข
เมื่อเห็นว่ารถยนต์ที่ตนนั่งมาขับออกไปจนลับตา
เอเลนจึงเริ่มได้เดินเข้ามหาวิทยาลัยของตนเอง
“พี่ชายนายมาส่งเหมือนเคยสินะ”
เสียงทุ้มก้องดังขึ้นพร้อมๆกับแขนหนากำยำที่เข้ามากอดคอเด็กหนุ่ม
เอเลนยิ้มหัวเราะให้กับการทักทายที่คุ้มเคยดีของเพื่อนสนิทของตน
“เขาหวงฉันนี่นาไรเนอร์”
หวงมาก เช่นเดียวกับที่เขาเองก็หวงชายหนุ่มไม่แพ้กัน
ทั้งที่อยากจะบอกใครต่อใครถึงความสัมพันธ์นี้
แต่ด้วยสถานะทางสังคมจึงได้แต่เก็บงำทุกสิ่งไว้ภายในใจเท่านั้น
“หวงแบบนี้ถ้าน้องชายเกิดมีแฟนขึ้นมา
คุณพี่คงลำบากแย่”
เอเลนได้แต่ยิ้มเฝื่อนกับความคิดของเพื่อนสนิทร่างสูงใหญ่
“ไม่มีวันนั้นหรอกน่า”
เพราะไม่ว่าจะเป็นฐานะแฟน คนรัก หรืออะไรก็ตาม
ตัวเขาได้จองและยึดพื้นไว้หมดแล้วให้กับชายหนุ่มอายุมากกว่า
“นายนี่ติดพี่จริงๆนะ
แต่เชื่อเถอะยังไงซะสักวันพวกนายก็ต้องแยกกันอยู่ดี”
ไรเนอร์ยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์
“ไม่มีวันซะหรอก” เอเลนมองคนพูดมากอย่างอารมณ์เสีย
ไม่มีทาง
ไม่ว่าอะไรก็ไม่ทำให้ทั้งเขาและคุณรีไวต่างเปลี่ยนแปลงไปได้หรอก
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะไม่มีวันที่จะทำลายความสัมพันธ์นี้ลงอย่างเด็ดขาด
ไรเนอร์มองหน้ามุ่นของอีกคนพลางยกยิ้ม
ใบหน้ามนหวาน นัยน์ตาสีมรกตกลมโต และร่างกายที่โปร่งบาง ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกถูกดึงดูด
ความสนใจและความประทับใจในตัวร่างบางตรงหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความต้องการที่มีมากกว่าความสัมพันธ์ในรูปแบบของเพื่อนสนิท
ยิ่งนานวันเขายิ่งเข้าใจแจ่มชัด ว่าเขาต้องการร่างกายของคนที่อยู่ตรงหน้านี้
รวมทั้งหัวใจและสายตาที่เจ้าตัวมองแต่พี่ชายของตน อยากให้สายตานั้นจับจ้องมาที่เขา
และหัวใจนั้นสั่นระรัวยามที่นึกถึงเขา
เขาอยากที่จะครอบครองและกลืนกินร่างบอบบางนี้ แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป
ต้องหาจังหวะ โอกาส และหวังให้ ความสัมพันธ์ของเขาและเอเลนพัฒนาขึ้นอีกหน่อย
เมื่อโอกาสมาถึงเขาเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย
“จะต้องไปจริงๆเหรอครับ”
เสียหวานเอ่ยอย่างออดอ้อนมองคนอายุมากกว่ากำลังจัดเก็บเสื้อผ้าและสิ่งของลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ด้วยสายตาอาวรณ์
มือหนาขยี้ลงบนผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่ม
ใบหน้าเฉยชายกยิ้มอย่างเอ็นดู
“แค่
1 อาทิตย์เอง เดี๋ยวฉันก็กลับมาแล้วเจ้าหนู”
“ทำไมต้องไปสัมมนาไกลขนาดด้วยนะ
พวกอาจารย์มหาลัยนี่ว่างกันจังเลยนะครับ” เอเลนยังคงพองลมในแก้มอย่างนึกงอน
ตั้งแต่มาอยู่ด้วยกัน มีหลายครั้งที่ชายหนุ่มจะต้องเดินทางไปค้างแรมที่อื่นด้วยเรื่องงาน
แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เขาเริ่มไม่ชินกับการที่ต้องอยู่คนเดียวแบบนี้
“ไม่ว่างเท่านักศึกษาอย่างนายหรอกนะไอหนู”
มือแกร่งบีบที่ปลายจมูกเด็กหนุ่มอย่างหยอกล้อ
ถ้าไม่ใช่เรื่องงานเขาเองก็ไม่ได้อยากที่จะทิ้งร่างบางนี้ไว้คนเดียวหรอกนะ
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คนตรงหน้านี้อยู่ในสายตาตลอดเวลา แต่เพราะสถานะจึงได้แต่ทำให้ต้องปกปิดความสัมพันธ์นี้ไว้
“ไปในที่ที่ผมไม่เห็น
อย่านอกใจผมเชียวนะครับ” นัยน์ตาสีมรกตช้อนมองคนอายุมากกว่า
ท่าทางนึกงอนของเด็กหนุ่มทำให้รีไวยกยิ้มขำ
มือหยาบจึงขยี้ลงบนผมสีน้ำตาลอย่างหมั่นเขี้ยว
“นายนั้นแหละอยู่คนเดียวคงไม่พาใครมานัวเนียหรอกนะ”
“ใครจะไปทำอย่างนั้นกันล่ะ”
เอเลนดึงคอเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มเข้าหาตน
ริมฝีปากคมจูบลงบนกลีบปากนุ่ม
ลิ้นหนาเลียกลีบปากบางอย่างหยอกล้อก่อนรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากนุ่ม
ความเร่าร้อนและวาบหวามถูกแลกเปลี่ยนให้แก่กันก่อนที่ชายหนุ่มจะผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
ใบหน้าคมยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ
“เพื่อไม่ให้นายเหงาฉันจะประทับตราไว้ให้ทั่วตัวนายจนกว่าจะกลับมาเลยดีไหม”
เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหูเด็กหนุ่มก่อนจะขบที่ใบหูเบาๆ จนเอเลนสะดุ้ง
แขนเรียวโอบกอดไหล่หนาโน้มเข้าหาตัวก่อนเสียงหวานค่อยๆเอ่ยอย่างเย้ายวน
“ทำให้ผมไม่คิดถึงใครเลยนอกจากคุณนะครับ”
ริมฝีปากคมยกยิ้มก่อนจะกดจูบลงไปบนกลีบปากบางที่รออยู่อย่างหนักหน่วง
ค่ำคืนนี้ยังคงอีกยาวไกล แม้ว่าเขาจะต้องเดินทางแต่เช้าตรู่ก็ตาม........
.
.
.
.
.
.
.
.
ผ่านไปสามวันรอยตีตราที่รีไวทำไว้แม้จะเริ่มจางแต่ก็ยังคงเห็นได้ชัด
เอเลนลูบรอยประทับสีกุหลาบที่ตีตราอยู่บนอกมากมายผ่านเสื้อยืดสีเข้มพลางยกยิ้มขำ ชายหนุ่มได้ทิ้งร่องรอยตีตราเขาไว้ทั่วอย่างที่ได้บอกไว้
และมันคงจะอยู่จนกว่าเขาจะกลับมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจริงๆ และยังดีที่คุณรีไวยังมีความยับยั้งชั่งใจ
ไม่ประทับตราในบริเวณที่พ้นร่มผ้าออกมา
ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องหยุดเรียนไปตลอดอาทิตย์อย่างแน่นอน
“เฮ้เอเลนรายงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้นายทำเสร็จแล้วรึยัง?”
เสียงถามที่คุ้นเคยเอ่ยทักพร้อมแรงกอดที่เข้ามาโอบไหล่ของตนตามความชิน
“ใกล้แล้วล่ะ
ของนายเป็นไงมั่ง ไรเนอร์”
“เหลืออีกนิดหน่อย
งั้นฉันขอไปทำที่บ้านนายนะจะได้ช่วยกันดู”
เด็กหนุ่มร่างแกร่งส่งยิ้มพลางยกมือขอร้อง
นัยน์ตาสีมรกตมองขึ้นอย่างใช้ความคิด
ตอนนี้คุณรีไวไม่อยู่ และไรเนอร์เองก็เป็นเพิ่อนที่สนิทกันที่คุณรีไวคุ้นหน้ากันดี
ให้ไปทำรายงานที่บ้านด้วยอาจจะช่วยทำให้งานเสร็จไวขึ้น....ก็ดีเหมือนกัน
เอเลนจึงตอบรับข้อเสนอของเพื่อนสนิท
โดยไม่ทันสังเกตเลยว่าแววตาที่มองฝ่านใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรนั้นกำลังจ้องมองมาอย่างไม่อาจคาดเดา
“ในที่สุดก็เสร็จสักที”
เอเลนยืดแขนไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยล้าของตน
“ดูเหมือนไม่ต้องแก้แล้วล่ะนะ”
ไรเนอร์ขยับแว่นตาของตนเองตรวจรายงานที่ปริ้นออกมาจากเครื่องทั้งหมดก่อนจะเก็บลงใส่กระเป๋าของตน
“วันนี้นายก็ค้างที่นี้เลยสิยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องไปมหาลัยพร้อมกัน”
เด็กหนุ่มมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่พนังห้องซ฿งบอกเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว
“งั้นไม่เกรงใจล่ะนะ
รบกวนด้วยล่ะ” ไรเนอร์ยกยิ้มขอบคุณ
ร่างบางเดินเข้าห้องนอนของตนเพื่อรื้อค้นเสื้อผ้าที่น่าจะให้เพื่อนที่รูปร่างหนาของตนพอจะใส่ได้
เมื่อได้ชุดเปลี่ยนให้ไรเนอร์ เอเลนจึงวางชุดพร้อมผ้าเช็ดตัวและแปรงสีฟันให้แขกของตนในวันนี้ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำเพื่อเตรียมเข้านอน
ซ่า
ซ่า ซ่า
เสียงของฝักบัวที่ตกกระทบผิว
และสายน้ำเย็นช่วยให้ร่างกายที่นั่งพิมพ์งานมาทั้งวันรู้สึกผ่อนคลายลงได้บ้าง มือบางลูบไล้ไปทั่วร่างกายเพื่อชำระล้างคราบไคลของตน
“ถ้าฉันเดาไม่ผิดคนทำรอยพวกนั้นคือพี่ชายของนายสินะ”
เสียงเข้มเอ่ยทัก
เอเลนสะดุ้งหันตามต้นเสียง
ด้วยความตกใจมือบางจึงคว้าผ้าเช็ดตัวเพื่อปกปิดบังร่างกายของตนเองไว้จากคนที่บุกรุกเข้ามา
ใบหน้ามนมองคนตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก เมื่อกี้เขาหูฝาดไปรึเปล่า?
“น...นายเข้ามาทำไรในนี้น่ะไรเนอร์?”
คิ้วมนขมวดมุ่นมองอีกคนอย่างสงสัย
ร่างกำยำค่อยๆสาวเท้าเข้ามาใกล้จนเอเลนเผลอเดินถอยหลังจนแผ่นหลังเปลือยเปล่าแนบติดกับกำแพงเย็น
ก่อนที่แขนหนาทั้งสองข้างของคนรูปร่างสูงใหญ่จะยันกำแพงครอมร่างของตนไว้อีกครั้ง
ความรู้สึกหวาดหวั่นเริ่มเข้าครอบงำร่างบาง
นัยน์ตาสีมรกตเบิกมองเพื่อนสนิทตรงหน้าซึ่งยังคงแสดงสีหน้ายิ้มเฉกเช่นทุกครั้ง
แต่เขากลับรู้สึกว่าเป็นรอยยิ้มที่ชวนขนลุก
และราวกับว่าคนตรงหน้านี้เป็นคนที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
“ร...ไรเนอร์?”
เอเลนพยายามเรียกสติคนตรงหน้าที่แปลกไปจากเดิม
แม้ตอนนี้ตัวเขาจะรู้สึกว่าน้ำลายตนเองเหนียวยากที่จะกลืนลงคอก็ตาม
มือขวาละออกจากผนังลูบไล้ไปยังไหปลาร้า
ก่อนไล่ตามรอยสีกุหลาบที่มีให้เห็นผ่านผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่มือบอบบางพยายามปิดบังแผ่นอกของตนไว้
ไหล่บางที่สั่นไหวและสีหน้าที่ตื่นตระหนกทำให้เขารู้สึกดีอย่างน่าประหลาด
เพราะตอนนี้ในสายตามรกตคู่งามกำลังจ้องและคิดเรื่องของเขาอยู่อย่างแน่นอน
“รอยพวกนี้พี่นาย
ไม่สิ คุณรีไวเป็นคนทำสินะ” ประโยคตอกย้ำอย่างมั่นใจของคนตรงหน้าทำให้เอเลนสะดุ้งวูบ
ความเย็นเฉียบแล่นริ้วเข้าถึงกระดูกสันหลัง เรืองที่ปิดบังไว้ ทำไมหมอนี้ถึงได้รู้?
“ทำหน้าแบบนั้นอยากรู้สินะทำไมฉันถึงรู้เรื่องของพวกนาย”
ไรเนอร์ยังคงส่งยิ้มให้กับเด็กหนุ่ม
“นายสองคนที่บอกว่าเป็นพี่น้องแต่กลับไม่เหมือนกันสักนิด”
ไรเนอร์ค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเอเลนต้องหลับตาและเบือนหน้าหนี
ลมหายใจอุ่นจึงเป่าลงที่ต้นคอขาวของเด็กหนุ่ม
“เรื่องของนายฉันรู้หมดนั้นแหละเอเลน”
เสียงคุ้นหูของคนตรงหน้าทำให้ร่างบางได้แต่สะดุ้ง
เอเลนพยายามเบนตัวหลบจากการรุกล้ำของอีกคน
แต่แขนแข็งแรงกลับกระตุกร่างเด็กหนุ่มให้กลับเข้าหาได้โดยง่าน
แขนหนากอดรัดร่างบางจากด้านหลังแน่น
มือหยาบจับคางมนของเด็กหนุ่มให้หันหน้าสบตากับตนเอง
“นายต้องการอะไร?”
นัยน์ตาสีมรกตฉายแววแข็งกร้าว
แม้จะตกใจกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของเพื่อนสนิทจนเข้าเริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูก
แต่เอเลนพยายามข่มความหวาดหวั่นต่อกรกับคนตรงหน้า
“ต้องการตัวนายยังไงล่ะเอเลน”
ริมฝีปากหนาทาบทับลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
ลิ้นร้อนรุกล้ำกวาดต้อนโพรงปากบางอย่างกระหาย เอเลนได้แต่เบิกตาด้วยความตกใจ มือบางพยายามดันร่างหนาของอดีตเพื่อนสนิทออกไป
ลิ้นบางพยายามดันลิ้นหนาที่เข้ามาแต่กลับยิ่งเป็นการตอบสนองคนรุกล้ำให้กอบโกยความหวานในรสจูบ
เมื่อริมฝีปากที่จากจ้วงถอดถอนออก
เอเลนจึงถ่มน้ำลายใส่คนที่เคยได้ขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิท
นัยน์ตาสีมรกตวาวโรจน์อย่างโกรธแค้น แต่คนกระทำยังคงยกยิ้มเฉกเช่นเดิม
“เรามาทำข้อตกลงกัน
เรื่องของนายกับคนนั้นจะยังคงเป็นความลับต่อไป เพียงแค่นายยอมอ้าข้าให้ฉันดีไหมเอเลน?”
ฟันคมขบกันจนขึ้นสันกราม
คนตรงหน้าเป็นคนที่เขาไม่รู้จักอีกต่อไป เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจอย่างที่สุด
“ไปตาซะ”
เด็กหนุ่มพูดรอดไรฟัน ทั้งขยะแขยงและเจ็บใจกับการกระทำของคนตรงหน้า
“หืม?
คนที่ตายอาจจะเป็นพวกนาย” ใบหน้ากร้านยิ้มอย่างพูดมีชัย “ตายทั้งเป็นยังไงล่ะ”
นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง
เขารู้และเข้าใจดีว่าถ้าเรื่องความสัมพันธ์ของเขาและชายหนุ่มถูกเปิดเผยออกไป
สิ่งที่รอพวกเขาอยู่คงไม่ต่างอะไรกับนรกทั้งเป็น
ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงานของชายหนุ่มที่ต้องพังทลาย สายตาของสังคมที่จะจ้องมองมา
และยิ่งสถานะของคุณรีไวซึ่งเป็นที่น่าเคารพนับถือ
สื่อต่างๆต้องพุ่งเป้าโจมตีมาอย่างไม่ต้องสงสัย
“เหมือนนายจะเข้าใจแล้วสินะ
อ้าขาออกแล้วทำตัวว่าง่ายๆซะดีไหมเอเลน”
มือบางค่อยๆดันแขนหนาที่รัดตนไว้ออก
ร่างบอบบางหันเผชิญหน้ากับอดีตเพื่อนสนิทของตน
ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่ปิดบังร่างไว้ถูกโยนออกโดยตัวของร่างบางเอง
ใบหน้ามนจ้องเขม็งที่คนตรงหน้าอย่างชิงชังก่อนริมฝีปากบางจะค่อยๆเอ่ยอย่าน่าสมเพช
“นายอยากทำอะไรก็เชิญ”
ประตูห้องนอนของเด็กหนุ่มถูกเปิดออก
เตียงขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นกิจกรรมร่วมรักกับคนรักตอนนี้กำลังถูกใช้เพื่อเสพย์สังวาสกับคนที่น่ารังเกียจ
ร่างบอบบางเปลือยเปล่าถูกจับนอนคว่ำหน้ากดกับหมอนหนุนใบใหญ่
ใบหน้ามนหลับตาแน่น ริมฝีปากบางขบกันจนขึ้นห้อเลือด
“หมอนั่นรักนายน่าดูถึงได้ทำเครื่องหมายไว้มากมายขนาดนี้”
มือหยาบลูบไล้ไล่ตามรอบสีกุหลาบที่มีอยู่ทั่วแผ่นหลังขาวเนียน ร่างที่กำลังสั่นระริกอยู่ใต้ร่างช่างน่ารัญจวนจนเขาอดใจแทบไม่ไหว
และยิ่งเห็นรอยตีตราของเจ้าของยิ่งทำให้เขาอยากทิ้งรอยของตนเองและทาบทับเข้ารอยเดิม
“หยุดพูดมากสักที
นายอยากทำอะไรก็รีบๆทำ” เอเลนโยนเจลหล่อลื่นและถุงยางที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียงให้กับไรเนอร์
นัยน์ตาสีอ่อนมองของที่เจ้าตัวโยนมาพลางยกยิ้ม
นิ้วหยาบล้วงล้ำเข้าช่องทางเบื้องล่างที่ตอดรับสิ่งแปลกปลอมอย่างคุ้นชิน
จาก2 นิ้มเพิ่มเป็น 3 แม้เอเลนจะรังเกียจแต่ร่างกายกลับตอบรับและสนองจนสั่นระริก
แม้แต่ช่องทางเบื้องล่างยังเต้นเร้าตอดรัดนิ้วเขาอย่างกระหาย
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นคนสอนเรื่องการร่วมรักกับผู้ชายด้วยกันให้กับร่างบาง
แค่คิดก็รู้สึกสนุก
“แค่นี้ฉันก็เสียมารยาทพอแล้วถ้าใช้ของของคุณรีไวอีกคงจะไม่ดี”
คำพูดของไรเนอร์ทำให้เอเลนถึงกับสะดุ้ง ร่างบอบบางพยายามเขยิบหนีคนตัวใหญ่กว่า
แต่มือหนากลับรั้งสะโพกมนไว้แน่น
มืออีกข้างกดศรีษะของเอเลนเข้ากับหมอนใบใหญ่อีกครั้ง
“อย่านะ!!” ไม่ฟังคำคัดค้าน
ท่อนเนื้อหนากระแทกใส่เข้าช่องทางคับแคบที่รอตอดอย่างรุนแรง การฝีนใส่เข้าไปโดยไม่ใช้ตัวช่วยเลยสักอย่างทำให้ช่องทางฉีกขาดจนเลือดไหลออกมาเป็นทาง
ความเจ็บจากการถูกรุกล้ำทำให้เอเลนเกร็งตัว
ทั้งที่อีกฝ่ายน่าจะเจ็บจากการเกร็งแต่ท่อนเนื้อขนาดใหญ่ยังคงรุกเข้ามาอย่างไร้ความปราณี
“จ..เจ็บ เจ็บ!!”
ใบหน้ามนเบ้ด้วยความเจ็บปวด หยาดน้ำตาหลั่งรินจากนัยน์ตาสีมรกต
แต่นั่นกลับไม่ช่วยให้คนกระทำใจอ่อน
“เดี๋ยวนายก็รู้สึกดีเอง”
ไรเนอร์ขยับสะโพกกระแทกเข้าออก
“อ๊า
อ๊า อ๊า!!!” เสียงหวานครางด้วยความเจ็บ
มือบางจิกเล็บลงบนที่นอนอย่างหาที่ระบาย
เสียงเนื้อกระทบกันดังระงมเข้าสู่โสตประสาท
ทั้งที่รู้สึกขยะแขยงการกระทำของอดีตเพื่อนของตน แต่ร่างกายกลับตอดรับการรุกล้ำที่เข้ามาอย่างกระหาย
ทั้งที่เจ็บเจียนตายจากการถูกฝืนใส่เข้ามาโดยไม่มีตัวช่วย
ทั้งๆอย่างนั้นกลับรู้สึกสุขสมอย่างประหลาด ทั้งที่ช่องทางถูกทำให้ฉีกขาดจนกลิ่นคาวเลือดชัดเจนแต่กลับรู้สึกร่างกายสะท้านอย่างมีความสุขราวกับถูกเติมเต็ม
เสียงครางอย่างทรมานเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางกระเส่าอย่างวาบหวาม
ไรเนอร์ผลิกตัวร่างบางใต้ร่างแม้ว่าแกนกายของตนยังคงใส่คาไว้
เมื่อเห็นสีหน้าของเอเลน ไรเนอร์ถึงกับหัวเราะในลำคอ นัยน์ตาสีมรกตที่คลอด้วยน้ำตาแม้จะฉายแววเจ็บปวดแต่กลับฉ่ำเยิ้มไปด้วยแรงปรารถนา
ริมฝีปากบางสั่นระริกหอบหายใจพลางครางอย่างออดอ้อน ร่างกายบอบบางที่สั่นไหวน้อยๆอย่างเสียวซ่าน
ขาเพรียวยาวที่แยกออกกว้างก่อนจะตวัดเกี่ยวรัดสะโพกหนาของตนเองราวกลับว่าจะหลุดหาย
ทุกอย่างที่คนใต้ร่างกระทำเป็นการแสดงถึงความต้องการและปรารถนาในตัวเขาตอนนี้
“รู้สึกดีใช่ไหมล่ะเอเลน”
ก้มกระซิบถามอยากหยอกเย้า
ทั้งที่ถูกฝืนใจ
ทั้งที่ถูกรุกล้ำทำอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเจอ
เพราะคุณรีไวมักจะอ่อนโยนกับเขาเสมอกลัวว่าเขาต้องเจ็บเวลาที่มีอะไรกัน
เซ็กซ์ของคุณรีไวมักจะอบอุ่นและอ่อนโยนเสมอ แต่ตอนนี้ เซ็กซ์ที่ป่าเถื่อน
โหดร้ายและเอาแต่ใจ อย่างที่เขาไม่เคยเจอ ทั้งที่ตอนแรกรังเกียจจนแทบสำรอก
แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกสุขสมอย่างที่ไม่เคยเจอ
“นายไม่ชอบงั้นเหรอ
งั้นฉันจะเบามือดีไหม?”
เอเลนกัดริมฝีปากตนเองพลางส่ายหน้าไปมา
“ม...
ไม่ต้อง .. อย่าง นี้ ดีแล้ว อื้อ!” มือบางเลื่อนจับไหล่หนาก่อนจะจิกเล็บลงไป
เมื่อท่อนกายเบื้องล่างเริ่มขยับอีกครั้ง
“ตามที่นายต้องการเลย”
กิจกรรมลับของทั้งคู่ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งรีไวกลับมาจากการไปสัมมนา
ทุกอย่างจึงกลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
สัมมนาเหนื่อยไหมครับคุณรีไว?”
ใบหน้าหวานยิ้มต้อนรับชายหนุ่มที่หายไปหนึ่งอาทิตย์
มือหนาลูบไล้ผมสีน้ำตาลอย่างเอ็นดู
“ฉันไม่อยู่เหงารึเปล่า?”
“เหงาสิครับ
มากๆเลย” ร่างบางซุกเข้าแผ่นอกหนา นัยน์ตาสีมรกตสั่นไหวอย่างรู้สึกผิดต่อชายหนุ่ม
สิ่งที่เกิดขึ้นบอกคนคนนี้ไม่ได้
ไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องปกปิดไว้
รีไวเงยหน้าเด็กหนุ่มขึ้นมาก่อนจะประทับจูบอย่างอบอุ่นอ่อนโยน
จูบที่ทำให้รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้สัมผัส
หลายอาทิตย์ผ่านไปเอเลนยังคงใช้ชีวิตปกติกับรี
ตอนเช้าที่รีไวไปส่งเขามีบ้างที่ไรเนอร์มายืนรอรับเข้าที่หน้ามหาลัย
ทั้งสองยังคงทักทายกันปกติจนเอเลนรู้สึกแปลกใจ
อีกทั้งตั้งแต่รีไวกลับมาไรเนอร์ก็ทำตัวได้ปกติราวกับไม่เคยเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นจนเอเลนยังรู้สึกแปลกใจ
ราวกับว่าเรื่องที่ผ่านมาเป็นแค่ฝันเท่านั้น ทั้งที่ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแต่เด็กหนุ่มกลับรู้สึกโหวงในใจ
กิจกรรมรักระหว่างเขาและคุณรีไวยังคงเหมือนเดิม
ชายหนุ่มยังคงอ่อนโยนและอบอุ่นทุกครั้งที่สัมผัสเขา
ทั้งที่ทุกอย่างเป็นเฉกเช่นเดิม แต่กลับรู้สึกราวกับว่าขาดบางอย่างไป
ระหว่างที่เอเลนกำลังนอนกลิ้งเล่นโทรศัพท์บนโซฟา
โปรแกรมสนทนาจากไรเนอร์ก็เด้งขึ้นมา เด็กหนุ่มจึ้งกดเข้าไปอ่านตามปกติ
แต่ข้อความที่ส่งมาทำให้หัวใจเด็กหนุ่มเต้นรัว
ร่างบอบบางถึงกับสั่นสะท้านอย่างไม่มีสาเหตุ
ไรเนอร์ [มาอ้าขาให้ฉันสิเอเลน]
มือบางกดตอบกลับไปอย่างไม่คิด
เอเลน [ฉันอยากได้ของนายเข้ามาในตัวฉัน]
ไรเนอร์ [เอาร่างร่านๆของนายมาหาฉันซะสิ
แล้วฉันจะสนองให้แทนพี่ชายของนาย]
อกซ้ายเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น
ทั้งที่รู้สึกผิด ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรทำ ทั้งที่คราวนี้ตัวเขาไม่ได้ถูกบังคับ
แต่ความผิดชอบชั่วดีและศีลธรรมถูกปิดกั้นด้วยความปรารถนาที่เร่าร้อนอย่างที่ไม่เคยพบเจอ
เซ็กซ์ที่รุนแรงและเอาแต่ใจ ทั้งที่โหดร้ายแต่กลับร่ำร้องปรารถนารสสัมผัสที่รุนแรงเช่นนั้นอีกครั้ง
เอเลนไม่รอช้ารีบขอชายหนุ่มไปทำธุระทันที
เมื่อถึงบ้านของไรเนอร์แรงปรารถนาที่ได้ลิ้มรสได้ผลักดันให้ทั้งคู่จมดิ่งสู่ความหฤหรรษ์ของตัณหา
เอเลนถูกเติมเต็มซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความปรารถนาที่ไม่เคยล่วงรู้ถูกเปิดออก
ตัวเขาที่กำลังเต้นเร้าอยู่บนร่างกำยำของเพื่อนสนิทราวกับเป็นอีกคนที่ไม่เคยพบเจอ
ทั้งที่เป็นสิ่งที่ผิดและรู้ว่าต้องทำให้ชายหนุ่มเสียใจเพียงใด
แต่กลับรู้สึกท้าทายและตื่นเต้นกับความลับที่ต้องปิดบังไว้ จมดิ่งลงสู่ความมัวเมาและอีกด้านของตนเองที่ถูกปลดปล่อยออกมา
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีค่อยๆถูกกลืนกิน เส้นของศีลธรรมที่ขีดไว้
ตัวเขาได้ก้าวข้ามมาแล้ว..............
“คุณรีไวเรื่องของเราจะต้องปิดไปอีกนานแค่ไหนกันครับ?”
คำถามของเด็กหนุ่มทำให้นัยน์ตาสีขี้เถ้าละออกจากหนังสือที่กำลังอ่านขึ้นสบกับนัยน์ตาสีมรกตกลมโตที่จ้องมองมา
“นายก็รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้”
มือหนาลูบไล้แก้มเนียนหวังประโลมเด็กหนุ่ม
ใบหน้ามนยิ้มบาง
“นั่นสินะครับ ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจนะครับ”
เอเลนขึ้นนั่งบนตักแกร่งของชายหนุ่ม
แขนเพรียวบางโอบกอดรอบคอหนา ใบหน้ามนซุกที่ไหล่แกร่ง มือแกร่งยังคงลูบไล้ผมสีน้ำตาลไปมาอย่างอบอุ่นและเอ็นดู
การกระทำของรีไวทำให้เอเลนแอบลอบยิ้ม
เพราะใบหน้าที่หันไปกันคนละทางทำให้ชายหนุ่มไม่อาจเห็นแววตาที่ยากจะอ่านออกของคนในอ้อมกอด
นี่คุณรีไว
ถ้าผมไม่ได้เป็นของคุณแค่คนเดียวคุณจะยังรักผมไหม?........ แล้วคุณจะทำยังไงกับผมกัน?
อยากรู้จังเลยนะว่าคนอบอุ่นอ่อนโยนอย่างคุณจะทำยังไง.............
ร่างหนาโอบกอดร่างบอบบางเปลือยเปล่าที่หลับในอ้อมกอดก่อนจะจูบลงไปที่ขมับของคนในอ้อมแขน
มือหนาไล่ผมสีน้ำตาลที่ชื้นเหงื่อจากกิจกรรมร่วมรักที่เพิ่งจบไป รีไวค่อยๆไล้ผิวขาวเนียนไปมาอย่างรักใคร่
แต่แล้วนัยน์ตาสีขี้เถ้าต้องฉายแววแปลกใจเมื่อพบรอยที่ต้นคอของเด็กหนุ่ม
เพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่เคยทิ้งรอยไว้ในที่สะดุดตา
รอยที่เห็นอยู่นี้ไม่ใช่ของเขาอย่างแน่นอน ความรู้สึกดำมืดเข้าครอบงำชายหนุ่มทันที
หมอกสีดำเริ่มปกคลุมไปทั่วร่างกายและอกซ้าย ด้วยความสงสัยรีไวจึงแอบหยิบสมาร์ทโฟนของเด็กหนุ่มเพื่อหาข้อสงสัย
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเบอกกว้างราวกับมีฟ้าผ่าลงกลางอกซ้าย
เมื่อโปรแกรมสนทนาถูกเปิดอ่าน ข้อความที่เห็นในบทสนทนาของคนที่เขารู้จักดีเพราะเป็นเพื่อนสนิทของเด็กหนุ่มถึงกับทำให้มือแกร่งกำสมาร์ทโฟนแน่นจนหน้าจอแตกร้าวจากแรงบีบของมือชายหนุ่ม
เสียงลั่นของหน้าจอทำให้เอเลนที่หลับไปแล้วรู้สึกตัว
ใบหน้ามนงัวเงียตื่นขึ้นมา มือบางขยี้ตาของตัว
“หมายความว่ายังไง
ไอหนู” เสียงเย็นค่อยๆพูดเอ่ยรอดไรฟันอย่างช้าๆ
เมื่อตาปรับโฟกัสได้ที่ร่างบางจึงเห็นว่านัยน์ตาสีขี้เถ้าที่จ้องมองมานั้นกำลังวาวโรจน์อย่างแค้นเคือง
เมื่อมองที่มือของชายหนุ่มเอเลนจึงได้เห็นโทรศัพท์มือถือของตนที่ถูกบี้แหลกคามือ
นัยน์ตาสีมรกตเบิกขึ้นอย่างตกใจเล็กน้อย อกข้างซ้ายเต้นระรัว ไม่ใช่เพราะความกลัวคนตรงหน้า
แต่กำลังเต้นด้วยความตื่นเต้นอย่างประหลาด
ความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นทำให้ใบหน้ามนที่ควรตื่นตระหนกเมื่อความลับถูกเปิดเผยกลับยกยิ้มขึ้นอย่างเย้ายวน
“คุณจะทำยังไงกับผมกันล่ะ
คุณรีไว?”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
รถยนต์
Porsche Carrera GT สีเงินเลี้ยววนขึ้นเขาอย่างระมัดระวัง
ชายหนุ่มบังคับหักพวงมาลัยอย่างชำนาญทาง นัยน์ตาสีขี้เถ้าจ้องมองที่ถนนก่อนสบมองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของตนเองอีกครั้ง
ผ่านมาหลายหลายอาทิตย์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืนนั้น
คนที่เขารักที่สุดได้จากเขาไปแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงมีความทรงจำดีๆที่เก็บไว้มากมาย
แม้จะเจ็บปวดแต่นั้นคือการทำให้เขาได้เข้าใจและค้นพบถึงความรู้สึกที่น่าประหลาดและความสุข
รีไวขับรถขึ้นเขามาเรื่อยๆก่อนจอดที่หน้าบ้านไม้หลังเล็กหลังหนึ่งของเขา
ชายหนุ่มยกกระเป๋าสัมภาระของตนเองลงจากรถก่อนไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปในบ้าน
บ้านไม้บนเขาหลังนี้แม้ภายนอกจะดูเก่าและโทรมไปบ้าง
แต่ภายในกลับถูกตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวกอย่างครบครับ อีกทั้งยังสะอาดสะอ้านตามนิสัยรักความสะอาดของเจ้าตัว
ชายหนุ่มลากกระเป๋าเดินทางสีดำของตนเองเข้าไปยังห้องนอน
ใบหน้าคมยกยิ้มกับบุคคลที่นั่งรอเขาอยู่ในห้อง
“ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนานนะเอเลน”
มือแกร่งเข็นรถเข็นที่มีร่างบอบบางนั่งอยู่ตรงริมหน้าต่างหันเข้าหาตน
เด็กหนุ่มร่างบางที่ใส่เพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียวถูกกุญแจมือล็อคไว้กับเก้าอี้รถเข็นทั้งสองข้าง
ขาเพรียวถูกจับแยกออกกว้างมัดไว้กับที่พักเท้าของรถเข็น
นัยน์ตาสีมรกตถูกผูกปิดด้วยผ้าผืนสีดำ ปากสีระเรื่อถูกบังคับให้คาบแท่งพลาสติกขั้นไว้
ท่อนล่างที่เปลือยเปล่าเผยให้เห็นแกนกายอ่อนไหวที่มีท่อยางเชื่อมต่อกับท่อปัสสาวะใช้ในการปลดทุกข์เบา
อีกทั้งช่องทางเบื้องล่างถูกไวเบรเตอร์ที่กำลังสั่นทำงานสอดใส่
“ตอนฉันไม่อยู่นายเป็นเด็กดีสินะเอเลน”
มือหนาลูบไล้ผมสีน้ำตาลอย่างอ่อนโยนก่อนริมฝีปากจะสัมผัสลงที่แก้มเนียน
“วันนี้ฉันมีของมาฝากนายด้วย
นายต้องชอบอย่างแน่นอน” มือหนาปลดผ้าที่ผูกตาของเด็กหนุ่มออก
นัยน์ตาสีมรกตหรี่ลงปรับสายตาเมื่อเจอกับแสงสว่าง
“ฉันจัดการตรงนี้แล้วมีอะไรที่อยากให้นายดูอยู่”
ถุงมือยางถูกสวมใส่ลงบนมือแกร่ง
รีไวดึงสายยางที่ต่อกับท่อปัสสาวะของเด็กหนุ่มออก
เพื่อจัดการเปลี่ยนสายเส้นใหม่ให้
การถูกดึงสายยางและเสียบกลับเข้าไปใหม่ถึงกับทำให้ร่างบอบบางสะดุ้งและสั่นระริก
น้ำลายหนืดไหลลงเปรอะมาถึงลำคอขาวอย่างไม่อาจกลั้นเพราะปากถูกขั้นไว้
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยรีไวจึงทิ้งถุงมือและสายยางที่ใช้แล้วลงถุงขยะ
ก่อนจะเข็นรถเข็นไปยังหน้าจอโทรทัศน์ LCD ขนาดใหญ่
“วันนี้ฉันไปเยี่ยมหมอนั่นมา
และคิดว่านายคงคิดถึงเพื่อนฉันเลยอัดวีดีโอมาฝากนาย เห็นไหมเอเลนฉันรักนายขนาดไหน”
แผ่นดีวีดีถูกใส่เข้าเครื่องเล่น
หน้าจอสีดำเริ่มฉายภาพที่ทำให้นัยน์ตาสีมรกตต้องเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ถูกมัดผูกกับเก้าอี้
ทั้งตัวมีรอยฟกช้ำและเลือดไหลเปรอะเปื้อนอย่างน่าเวทนา
ใบหน้าของเพื่อนสนิทบิดเบี้ยวจากรูปกระดูกที่แตกหัก
ปากหนาถูกคาดไว้ด้วยเชือกเส้นหนาเพื่อกลั้นเสียง
“หมอนั่นแสดงได้ดีทีเดียว
หนังเรื่องนี้ตั้งชื่อว่าการพบกันของเพื่อนเก่าดีไหมล่ะไอหนู”
ภาพบนจอยังคงฉายต่อไป
ไรเนอร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้พยายามดิ้นรนเมื่อเห็นใครบางคนใกล้เข้ามา
ใบหน้าบิดเบี้ยวตื่นตระหนกและหวาดผวา เพียงไม่นานก็มีชายอีกคนปรากฏบนจอ
ชายที่เขารู้จักดีซึ่งเป็นคนเปิดดีวีดีตรงหน้าให้กับเขาดู
“นักแสดงสมทบมาแล้ว
ต่อไปนี้สนุกแน่นอนอย่าพลาดซะล่ะ”
ร่างเล็กแต่แข็งแกร่งเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ที่กำลังตื่นตระหนก
รอยยิ้มบนใบหน้าคมหล่อเหลากำลังฉายแววสนุกราวกับได้ของเล่น มือแกร่งถือมีดสำหรับทำครัวเข้าไปหา
เพียงไม่นานปลายคมมีดก็เสียบทะลุเข้าที่นัยน์ตาสีอ่อนที่มองมาอย่างตกตะลึง
ใบหน้าของรีไวที่ได้เสียบแทงมีดเข้าไปนั้นยกยิ้มอย่างรู้สึกสุขสม
ก่อนที่จะดึงมีดออก มือหนาล้วงควานเข้าไปในเบ้าตาที่เสียบมีดเข้าไป
แม้จะมีเพียงแค่ภาพไร้ซึ่งเสียง แต่ภาพที่เห็นถึงกับทำให้เอเลนสั่นสะท้าน
ทั้งหวาดกลัว ทั้งตื่นเต้น จนขนลุก
ใบหน้าคมในดีวีดียกยิ้มมุมปากก่อนจะรูดซิปกางเกงของร่างหนาที่กำลังดิ้นด้วยความเจ็บปวด
แกนกายใหญ่ถูกดึงออกมาก่อนชายหนุ่มจะนำเอาเข็มเล่มยาวเสียบแทงเข้าไปที่ปลายท่อนเอ็นหนาและดึงเข้าออกอย่างช้าๆ
ความเจ็บปวดและทรมานที่เกิดขึ้นถึงกับทำให้ไรเนอร์กัดปากตัวเองจนเลือดไหลออกเป็นทาง
เช่นเดียวกับความเป็นชายของเจ้าตัวที่ถูกเข็มเล่มยาวเสียบคาไว้แล้วมีเลือดไหลลงมาตามปลายเข็ม
รีไวในดีวีดียกยิ้มอย่างใจดีก่อนจะดึงเข็มจากท่อนเอ็นหนา
มีดทำครัวถูกคว้าขึ้นทันทีก่อนตวัดลงตัดท่อนเอ็นของร่างหนาให้ขาดกระเด็น
มือแกร่งหยิบท่อนเนื้อนำมาผ่าครึ่งก่อนนำส่วนหนึ่งไปสับให้ละเอียดแล้วจับยัดเข้าปากของเจ้าของ
รีไวอุดปากบังคับให้ไรเนอร์กลืนชื้นเนื้อของตัวเอง เมื่อมือที่ปิดไว้เอาออก
เด็กหนุ่มร่างหนาถึงกับสำรอกออกมา
ภาพดีวีดีถูกตัดจบเพียงเท่านั้น
ก่อนชายหนุ่มจะเดินไปที่กระเป๋าสัมภาระของตน
ตุบ
ท่อนเนื้ออีกครึ่งหนึ่งของไรเนอร์ถูกโยนลงบนตักของเด็กหนุ่ม
นัยน์ตาสีมรกตมองท่อนเนื้อตรงหน้าอย่างขยะแขยง
“ของที่ระลึก
ฉันคิดว่านายอาจคิดถึงมันเลยเอามาฝาก” รีไวยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับร่างบาง
“ไม่ชอบอย่างนั้นเหรอ?
ถ้างั้นก็หมดประโยชน์แล้วสินะ” ชายหนุ่มหยิบชิ้นเนื้อทิ้งลงขยะอย่างไม่ใยดี
มือหนาลูบไล้ร่างบอบบางที่สั่นระริก
ก่อนพรมจูบไปทั่วใบหน้ามนไล่ลงมายังคอระหงของเด็กหนุ่ม
“ดีแล้วล่ะที่นายไม่ชอบของฝากแบบนั้น”
รีไวดึงไวเบรเตอร์ที่กำลังสั่นออกจากช่องทางเบื้องล่าง
“ยังไงอันนี้นายก็ชอบที่สุดใช่ไหมล่ะเอเลน”
แกนกายหนากระแทกเข้ากับทางเบื้องล่างของเด็กหนุ่ม
ร่างบางบิดเร้ากับการกระแทกที่เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว
เสียงครางดังอื้ออึงในลำคอ
ท่อนกายของรีไวกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรงจนกระทั่งน้ำรักสีขาวขุ้นพุ่งเต็มช่องทางเบื้องล่างของเด็กหนุ่มที่ยังคงกระตุกตอดรัดแกนกายหนา
ชายหนุ่มหอบหายใจหนักก่อนค่อยไล้ปลายจมูกสูบดมกลิ่นเนื้อหอมหวานตรงหน้า
ฟันคมกัดทึ้งฝากรอยเขี้ยวไว้บนผิวบอบบางจนเกิดเลือดไหลซึม
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาทั้งคู่เปลี่ยนไป
ราวกับพบเจออีกตัวตนที่ถูกซ่อนไว้เบื้องลึกของจิตใจ
ราวกับตัวตนที่เก็บงำไว้ของทั้งคู่ถูกปลดปล่อย ความสุภาพและใจดีแปรเปลี่ยนเป็นความต้องการอยากเป็นเจ้าของ
ปรารถนาตีตราจองอย่างเอาแต่ใจ เช่นเดียวกับอีกคนที่ความใสซื่อแปรเปลี่ยนความต้องการที่อยากถูกพันธนาการ
ความรู้สึกที่รุนแรงต่างถูกเติมเต็ม ศีลธรรม และ กฏเกณฑ์พังทลาย จมดิ่งสู่ความหฤหรรษ์ที่ยากจะเข้าใจ
“นี่เอเลน
ฉันนึกอะไรดีๆออกแล้วล่ะ” ใบหน้าคมยกยิ้มบาง
มือหนาลูบไล้ไปที่ร่างโปร่งก่อนค่อยๆลงไปยังข้อเท้าของเด็กหนุ่ม
“ถ้าไร้ปีกนายก็จะไม่มีวันโผบินไปจากฉันสินะเอเลน”
มีดคมเฉือดลงที่ข้อเท้าเด็กหนุ่มตัดเส้นเอ็นทั้งสองข้างขาดสะบั้น
นัยน์ตาสีมรกตเบิกด้วยความเจ็บปวด เสียงครางโหยหวนดังขึ้นในลำคออย่างทรมาน
“ทีนี้นายก็หนีไปจากฉันไม่ได้.....ตลอดกาล”
ริมฝีปากคมก้มลงจุมพิตที่เท้าของเด็กหนุ่มซึ่งเลือดเริ่มไหลนอง
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองชายหนุ่มที่คุกเข่าจุมพิตเท้าทั้งสองของเขาอย่างรักใคร่
ความรู้สึกที่ถูกรักอย่างรุนแรง ความต้องการเป็นเจ้าของของคนตรงหน้า
ทั้งที่เจ็บปวดและทรมานร่างกาย แต่จิตใจกลับสุขสมจนหลายครั้งที่ร่างนี้สั่นสะท้านไปด้วยความสุข
ทำให้ผมหนีไปจากคุณไม่ได้
ทำให้ผมเป็นของคุณแค่คนเดียว ทำให้ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ
ได้โปรดรักผมให้มากๆนะครับ.......
Final
.................................................................................................................................................
Talk: พยายามสรุป ตอนแรกจะยาวกว่านี้ แต่บอกตามตรงเขียนอย่างนี้แล้วเหนื่อยมากมาย -*-"""""
แล้วกำลังงงว่าเขียนอะไรของอิชุ้นเนี่ย!!!!!!!! ขออภัยนะคะถ้าทำร้ายใคร เอาเป็นว่าใครไม่ชอบก็ปิดไปนะ = =""""""
เราคุยเหมือนคนปกติทั่วไปออกนะครับ คุยถึงคนที่เรารักในมุมมองต่างๆและตามสภาพอารมณ์ความต้องการของเน่จังกับผม <3
ตอบลบเราสองคนแลดูจิตไม่ปกติขึ้นทุกวัน- -''
ฉันเเค่ทำตามเสียงเรียกร้อง(?) เบื้องลึกต่างหาก555
ลบเห!!!!!หายไปหลายๆวันนี่ไปแอบจิตกันมาเหรอค๊ะ!!!!
ตอบลบทำไมโหดร้ายได้ใจอย่างเน้!!!!
เก๊ารับม่ายได้อ่ะ!!!!...น่ากลัวชิ้นเนื้ออะไรก๊านนนนน!!!
เฮห์โจวของเก๊ากลายเป็นฮานิบาล เล็คเกอร์ไปแล้ววววว!!!!!
วันดีคืนดีจะลุกมาหั่นนู๋เอเลนของมี๊ซะเรอะ!!!
เทรนดี้บลัดกับจันดารากำลังจะรวมหัวกันทำอะไรก๊าาา????
สงสารนู๋เอเลนจับใจเลยนะค่ะ...ก็นู๋เอเลนไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อยเก๊าโดนขืนใจน๊าาา!!!!
อย่ามาลงกะนู๋เอเลนของเก๊าแบบนี้สิค่ะเฮห์โจววว!!!!!
///แอบเสียใจอยู่ลึกๆนะค่ะเนี้ยที่isayaaไม่ได้เตรียมตับมาปวดที่มีอยู่สองข้างเดิมมันพังไปอ่ะ//
รับบริจาคตับด่วน!!!!!!
อยากกระเเทกไลค์จันดารา555555555555555555555....
ลบเจอแบบนี้มันเจ็บจี๊ดดด ทำไมผมถึงเป็นจันดาราครับเนี่ย! 555555555555555
ลบไม่ดูหรอกค่ะทั้งสองคนน่ดจิตชัด!!!!!
ตอบลบหายกันไปหลายวันเอาเฮห์โจวววเป็นเป็นลูกชายของฮันนิบาล เล็คเกอร์มาเหรอค๊ะ!!!!!
เล่นฆ่าหั่นศพเลยเร๊อะ!!!...นั่นมันแจ็คเดอะริปเปอร์ชัดช้าดดด!!!!
โอ้ยน้ำตาไหลพรากกก!!!...เฮห์โจววของช้านนน!!...เพิ่งจะได้ขบกัดกล้ามท้องของเฮียมาหยก!!!
เพิ่งจะเก็บเอาฝันตุเป็นตะแล้วไหงผ่านไปแค่วันเดียว!!!...ผ่านไปแค่วันเดียว!!!!
ทำไม???....ทำไม๊!!!!...แง้ๆๆๆๆๆๆ!!!!!
//รับบริจาคตับด่วนค่ะ!!!...ที่มีอยู่มันปวดจนแตกกระจายไปแล้วววว!!!///
เค้าไม่ได้จิตน๊าาาาาาาาาาา ค....เเค่เปิดเผยตัวตนที่เเท้จริงของคู่SMเอง!!(โดนเตะไปนอกโลก!)
ลบเม้นนี้มีคำหยาบนิดๆ กรุณาข้าม
ตอบลบเราเข้าใจฟิลของรีไวเลย เด็กมันนอกใจอ่ะ ไอ่ไรเนอร์ก็หม้อหนูเลนเราซะ //ทำไมเรารู้สึกสะใจไปพร้อมกับรีไวว้าาาาาาาาาา คืกๆ แต่ก็รู้ เอิ่ม.... ตอนรีไวจับเนื้อดิบยัดปากไรเนอร์อ่ะ
ปล.เอเลนแอบจิตตอนสุดท้ายนะ... (_ _)
สารภาพว่าเเอบสะใจกับไรเนอร์เช่นกันค่ะ เรื่องนี้ต้นเหตุเพราะไรเนอร์เลย เเตกลายเป็นไปปลุกความจิตของเอเลน เเละการนอกใจของเอเลน ไปปลุกความจิตของรีไว โดนไปเป็นทอดๆค่ะ
ลบนั่นสินะคะ ฮรี่ๆ //โชว์ฟันเงิน ^[+++^] เกี่ยวมั้ย???
ลบฮ๊ะฮิ๊นี่เก๊าทำอะไรลงไป๊!!!!!!!!
ตอบลบI'am soooo sorryyyyyy!!!!!!!!
จาเดน เชสสสสสส อย่างแรงงงง++
//จริงๆนะด้วยความสัตย์จริงที่ตัวข้าพเจ้าเจือกเข้าใจผิดอ่านเป็นจันดาราอ่ะ///
ด้วยความที่คิดว่าตัวเองอ่านถูกต้องแว๊ววววก็หลงอ่านเป็นจันดาราแรื่อยยๆๆๆๆมาา
//อันนี้คือไร้ข้อแก้ตัวสุดๆ....อ๊ากกกกไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ซอกใหนของประเทศแล้ววววว!!!!!!!!!!!!....อีกสองอาทิตย์จะไปเที่ยวหลวงพระบางเดี๋ยวจะอันเชิญตัวเองไปฝังเป็นดักแด้ที่โน่นดีฟ่าาาา...โอ๊ยยยยอายโคตะระเลยเฟ๊ยยยย...555555555///
ปล.หากไม่เห็นเม้นของท่านอินี่ก็คงจะยังงมอ่านแบบนั้นอยู่จนถึงตอนนี้แหละค๊ะขออภััยยยยย...จริงจริ๊ง!!!!!!!!!!!
ไม่ว่ากันครับๆ 55555 นึกว่าตั้งฉายาใหม่ให้ผมซะอีกครับ ตกใจหมดเลย
ลบอย่าไปฝังตัวนะครับ กลับมาแต่งฟิคให้ผมอ่านก่อนน
ฟิคที่เราหามานานแสนนาน~~~~
ตอบลบปลื้มปิติอย่างสุดซึ้งที่เจอ
เรื่องนี้จิตได้อีก...แต่ชอบฟุดๆเจ้าคะ จบได้ดีมากเจ้าคะ~
อร๊ายยยยยยยยขอบคุณที่ชอบนะคะ ฟิคสนองด้านมืดในจิตใจ =/////=""""
ลบที่จริงแอบตัดไปเยอะอยู่ค่ะกลัวบล็อกโดนแบน แหะๆ >x<"""
โอ~พระเจ้านี่แหละฟิคที่ข้าหามานานข้าชอบมากแล้วก็รู้สึกแปลกๆด้วยตอนที่ไปอ่านเจอท่านรีไวล์ยิ้ม!!!แถมยิ้มแบบอบอุ่นให้คุณป้าข้างบ้านด้วย!!!เป็นอะไรที่ประหลาดดีแท้เกิดมายังไม่เคยอ่านฟิดที่เจอท่านรีไวล์ยิ้มให้คนอื่นแบบอบอุ่นมากก่อนแต่จากที่ข้าอ่านมันเป็นความแปลกที่ซาดิสและลงตัวมากข้าชอบ////(=.,=)
ตอบลบ