วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Attack On Titan Fan fic.: Desert Desire Pairing: (LevixEren), (Mikasa ver. C) Chapter 1: Desert Excitement



Attack On Titan Fan fic.: Desert Desire
Pairing: (LevixEren), (Mikasa ver. C)
Rate: R18
Warning: เอเลนเรื่องนี้บิชชี่มากค่ะ ใครไม่ชอบสไตล์นี้อาจโดนทำร้ายนะคะ ><”  แล้วก็มีสปอยเนื้อเรื่องหลักอยู่ถึงจะเป็นแนว AU ก็เถอะ

Story By: Trendy Blood & Jadenchase


………………………………………………………………………………………………..
Chapter 1: Desert Excitement


          แสงอาทิตย์ที่ร้อนระอุดุจเปลวเพลิงสาดส่องไปทั่วผีนทรายที่กว้างสุดลูกหูลูกตา สาธารณะรัฐอาหรับไททันเอมาเร็กซ์ เป็นประเทศที่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองท่าของทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในระบบอุตสาหกรรมที่ทั่วโลกต้องใช้ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ น้ำมัน นั่นเอง
            ย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อนประเทศนี้ไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังไม่มีระบบการปกครองที่เด่นชัด เนื่องจากส่วนใหญ่คนในประเทศล้วนเป็นชาวพื้นเมืองที่เป็นชนเผ่าอยู่กระจัดกระจายไปทั่วทะเลทราย และทะเลทรายที่กว้างใหญ่แห่งนี้ยากที่จะพบโอเอซิส เพราะไร้ซึ่งการสำรวจที่จริงจัง และระบบการปกครองที่แน่นอน จึงราวกับว่าเป็นประเทศที่ถูกปล่อยทิ้งไว้เบื้องหลัง
            แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อตระกูล แอคเคอร์แมน ต่างรวบรวมชนเผ่าที่อยู่กระจัดกระจายในทะเลทรายตามที่ต่างๆอพยพมาตั้งรกรากแถบอ่าวมาเรีย ซึ่งเป็นแถบที่อุดมสมบูรณ์ ตระกูลแอคเคอร์แมน ได้มีการสนับสนุนให้ทำการประมงและฟาร์มไข่มุก จนภายหลังกลายเป็นศูนย์การค้าทางทะเล และเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย มีพ่อค้ามากมายหลากหลายประเทศต่างต้องมาทำการค้าแลกเปลี่ยนที่ท่าเรือมาเรียอยู่เนืองๆ เนื่องจากภายหลังเป็นถึงเมืองท่าที่สำคัญจึงทำให้ประเทศมักพบเจอปัญหาโจรสลัดอยู่บ่อยครั้ง ถึงกระนั้นตระกูลแอคเคอร์แมนที่แข็งแกร่งก็สามารถปราบปรามเหล่าโจรสลัดได้อยู่ร่ำไป เหล่าโจรสลัดที่พ่ายแพ้อย่างหมดรูปต่างทยอยหนีหาย จนทำให้เป็นความมั่นใจและเชื่อใจต่อการทำการค้าขายที่ประเทศนี้มากยิ่งขึ้น
            เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาได้มีการค้นพบแหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลกในประเทศ จึงทำให้สาธารณะรัฐไททันอิมาเร็กซ์ยิ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และถือเป็นแหล่งส่งออกทรัพยากรอันมี่ค่าที่สุดของโลกในปัจจุบัน ยิ่งสร้างรายได้และความมั่งคั่งให้กับประชาชนในประเทศเป็นอย่างมาก
            ปัจจุบัน สาธารณะรัฐไททันอิมาเร็กซ์ ยังคงปกครองโดยตรกูลแอคเคอร์แมน โดยแยกออกเป็น 3 รัฐ ใหญ่ๆ คือ รัฐมาเรีย รัฐชิน่า และรัฐโรเซ่ โดยแต่ละรัฐต่างมีผู้ปกครองตนเอง หรือที่เรารู้กันดีในชื่อตำแหน่ง “ชีค” โดยผู้ปกครองแต่ละรัฐล้วนเป็นคนในตระกูลแอคเคอร์แมนทั้งสิ้น โดยศูนย์กลางของรัฐอยู่ที่ รัฐชิน่า ผู้นำคนปัจจุบันคือ ชีครีไว แอคเคอร์แมน รัฐโรเซ่ ปกครองโดย ชีคมิคาสะ แอคเคอร์แมน และ รัฐมาเรีย ปกครองโดย ชีคคาเน่ แอคเคอร์แมน
            ตักว่าการสีขาวสูงระฟ้าตั้งแด่นสง่าท่ามกลางสิ่งก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่มากมาย แต่ตึกว่าการของผู้นำรัฐคือตึกที่สูงที่สุด แม้จะมีตึกอื่นอยู่ข้างเคียงแต่ก็ไม่อาจเทียบรัศมีของอาคารสูงตระหง่านได้
ร่างเล็กแต่แข็งแกร่งกำลังง่วนกับการทำงานที่มีอยู่มากมายบนโต๊ะทำงานเช่นทุกวันของตนในห้องทำงานชั้นบนสุดของอาคารที่สูงที่สุดในรัฐชิน่า นัยน์ตาสีหมอกอ่านรายละเอียดเอกสารก่อนจะเซ็นต์ยินยอมอนุมัติและประทับตราปีกสีขาวดำไขว้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศทับลงไปเพื่อให้เอกสารที่ยื่นมาได้รับการอนุมัติอย่างถูกต้องสมบูรณ์
            “ท่านชีครีไวหลังจากเสร็จงานวันนี้แล้วจะไปที่ไหนต่อรึเปล่าครับ?” ชายหนุ่มผมสีทองเลขาปัดข้างเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเลิกงานของเจ้าตัวแล้ว
            “ฉันอยากกลับไปพักผ่อนมากกว่า” ทุกวันที่ต้องวุ่นวายกับเหล่าเอกสารและคำขออนุมัติต่างๆมากมายก็ทำให้ตัวเขาแทบจะไม่อยากทำอะไร เวลาพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์จึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของเขา โดยเฉพาะเมื่อเป็นสัปดาห์ที่ว่างจริงๆและไร้ซึ่งตารางงานหรือโปรแกรมการเดินทางใดๆด้วยแล้ว การอยู่บ้านพักผ่อนจึงเป็นสิ่งล่ำค่าที่หาได้ยากในฐานะชีคอย่างเขา และโดยเฉพาะชีคที่เป็นศูนย์รวมของทั้งประเทศ
            “หลังจากนี้ผมจะรีบให้คนขับรถพาท่านไปพักผ่อนนะครับ” ชายหนุ่มผมทองโค้งรับคำของผู้นำ ก่อนจะโทรศัพท์สายตรงไปยังคนขับรถเพื่อให้เตรียมพร้อมหลังท่านผู้นำเสร็จสิ้นภารกิจของวัน
            “ฝากด้วยนะเอลวิน”


            พระราชวังเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาหลายยุคหลายสมัยของผู้นำตระกูลแอคเคอร์แมน เปลี่ยนมือจากรุ่นสู่รุ่น ผู้ที่เป็นผู้นำสูงสุดหรือเรียกได้ว่าผู้ปกครองแท้จริงของประเทศจะได้รับสืบทอดทรัพย์สินและสิ่งต่างๆมากมายตามจารีตที่มีมาแต่บรรพกาล และปัจจุบันนี้ผู้นำสูงสุดนั้นก็คือ รีไว
            รถลีมูซีนสีดำมันเงาแล่นเข้าสู่พระราชวังหมายส่งท่านผู้นำกลับไปยังสถานที่พักผ่อน หรือก็คือบ้านของตนเอง เมื่อลีมูซีนคันหรูจอดเทียบทางเข้าเหล่านางกำนัลและข้ารับใช้ในชุดแต่งกายประจำชาติที่ต่างออกมายืนเรียงรายต้อนรับเจ้าของสถานที่แห่งนี้เป็นปรกติเช่นทุกวัน
            ร่างไม่สูงแต่แข็งแกร่งที่สุดก้าวลงจากรถก่อนจะมีเหล่าคนรับใช้สนิทจัดแจงนำกระเป๋าเอกสารและเสื้อสูทตัวนอกไปเก็บให้กับท่านผู้นำที่มาถึง
            “เตรียมน้ำร้อนสำหรับท่านรีไวให้แล้วค่ะ” เพราะรู้ดีว่าชีครีไว เป็นชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อเรื่องรักความสะอาด สิ่งแรกที่เจ้าตัวกลับมามักทำเป็นปกติคือการอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด
            “ขอบใจมากเพทร่า วันนี้มีอะไรต้องรายงานฉันรึเปล่า?” มือแกร่งยื่นกระเป๋าเอกสารส่งให้กับหัวหน้าสาวรับใช้ที่คุ้นเคยกันดี ก่อนจะสอบถามรายงานความเรียบร้อยประจำวัน
            “วันนี้ชีคมิคาสะส่งของขวัญมาให้ท่านรีไว ไม่ทราบว่าจะให้นำไปไว้ที่ไหนคะ?”
            ใบหน้าคมฟังรายงานของสาวใช้พลางแปลกใจ เพราะร้อยวันพันปี ชายหนุ่มที่เรียกได้ว่าเป็นน้องชายต่างมารดาจะส่งของขวัญมาให้ตนทั้งที่ไม่ใช่วันสำคัญอย่างวันเกิดที่ต่างต้องปั้นหน้าแสดงความกลมเกลียวต่อกันให้เหล่าประชาชนเห็นถึงความสามัคคีและเป็นปึกแผ่นของผู้นำทั้งสาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าแท้จริงแล้วใต้หน้ากากที่รักใคร่เหล่านั้นกลับแฝงไปด้วยความหมายมั่นที่จะห้ำหั่นการขึ้นเป็นใหญ่กันเอง โดยเฉพาะตำแหน่งปกครองสูงสุดที่เขาดำรงอยู่
ถ้าไม่ได้รับการแต่งตั้งจากชีครุ่นก่อนหรือก็คือบิดาของทั้งเขาและมิคาสะ คาดว่าเหตุการณ์นองเลือดภายในคงจะต้องเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนชีคคนปัจจุบันอีกคน ชีคคาเน่ เป็นน้องชายของชีคองค์ก่อนที่ได้รับแต่งตั้งให้ปกครองรัฐมาเรียซึ่งมีท่าเรือที่สำคัญของประเทศ และเพราะพินัยกรรมที่สั่งเสียไว้จึงทำให้ชีคคาเน่ หมดสิทธิ์ที่จะเข้ารับตำแหน่งชีคสูงสุดหลังสิ้นบุญผู้นำคนก่อน
รีไวและมิคาสะต่างรู้ดีกว่าใครว่าภายใต้รอยยิ้มที่แสร้งทำเป็นอาที่ดีที่มีมาตลอดของน้องชายบิดาแท้จริงแล้วกลับแฝงอันตรายที่หมายชีวิตเขาทั้งคู่ยิ่งกว่าใคร
สำหรับมิคาสะและเขาที่เป็นพี่น้องต่างมารดาแม้จะไม่ถูกชะตากัน เพราะความรู้สึกที่ว่าต่างเหมือนกันมากเกินไป จึงอดไม่ได้ที่จะเขม่นใส่กันเอง แม้จะมีกัดกันบ้างแต่กับมิคาสะแต่เขาค่อนข้างเชื่อใจและไว้ใจน้องชายต่างมารดาทีเดียว
“ถ้าจากหมอนั่นเอาไปไว้ที่ห้องนอนฉันเลยก็ได้ ว่าแต่ที่หมอนั่นให้มาคืออะไร?” รีไวถามอย่างสงสัย แต่ใบหน้าของสาวใช้คนสนิทกลับยิ้มขำส่งมาให้ผู้เป็นนายเหนือหัว
“เป็นของที่สวยมากๆเลยล่ะค่ะ ดิฉันจะเตรียมให้อย่างดีที่ห้องนอนนะคะ” หญิงสาวโค้งลานายของตนเพื่อนำกระเป๋าเอกสารไปเก็บและเตรียมของขวัญตามที่เจ้านายตนได้แจ้ง

หลังจากปลดอาภรณ์เรียบร้อย รีไวจึงนำผ้าผืนบางมาห่อปิดบังช่วงล่างของตนก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ ร่างเล็กแต่กำยำไปด้วยมัดกล้ามค่อยๆเดินลงไปยังสระน้ำขนาดใหญ่กลางห้องที่โรยด้วยกลับดอกไม้นานพันธุ์ กลิ่นของกำยานและเครื่องหอมที่อบอวลในห้องอาบน้ำช่วยให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
หลังแกร่งเอนผิงกับผนังด้านหนึ่งของสระน้ำก่อนเปลือกตาจะค่อยๆปิดหล่นเพื่อผ่อนคลายอารมณ์และความเมื่อยล้าไปกับน้ำที่อยู่รอบกาย
โดยปรกติแล้วเวลาอาบน้ำมักจะต้องมีเหล่าสาวรับใช้มาปรนนิบัติในการขัดถูร่างกายให้กับผู้เป็นนาย แต่ชายหนุ่มไม่ชอบที่จะให้ใครมาวุ่นวายหรือสัมผัสตัวเขามากนัก จึงเป็นที่รู้กันในเหล่าสาวรับใช้ว่าเวลาสรงน้ำของชีครีไว คือเวลาส่วนตัวที่ห้ามเข้ายุ่งวุ่นวาย และด้วยเหตุนี้ทำให้เหล่าสาวรับใช้ทั้งรุ่นเด็กและไม่เด็กต่างเสียดายที่จะได้สัมผัสมัดกล้ามสวยงามของผู้เป็นนายอย่างใกล้ชิด
นัยน์ตาสีขี้เถ้าค่อยๆลืมขึ้นท่ามกลางกลุ่มไอหมอกของน้ำร้อน กลิ่นของดอกไม้นานพันธุ์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และความสงบราวกับตัดขาดจากโลกภายนอกยิ่งทำให้รีไวชอบที่จะใช้เวลาในห้องอาบน้ำของตนนานๆ
จะว่าไปหมอนั่นอุตส่าห์ส่งของขวัญมาโทรไปขอบคุณหน่อยก็แล้วกัน
มือแกร่งหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของตนขึ้นมาเพื่อโทรออกไปหาน้องชายต่างมารดา รอไม่นานปลายสายก็กดรับแล้วถามด้วยเสียงเฉยชาติดรำคาญตามปรกติที่เจ้าตัวมักจะพูดคุยกับตน
มีอะไรครับคุณพี่ชายตัวเตี้ย
นายพูดจาได้ไม่น่าฟังเหมือนเดิมเลยนะ ใบหน้าคมยกยิ้มอย่างนึกขันเจ้าน้องชายตัวดีปากคอร้ายกาจแต่นั่นก็เป็นความร้ายกาจที่แสดงออกมาตรงๆไม่อ้อมค้อม ก็ถือได้ว่าจริงใจล่ะนะ
แล้วตกลงนายมีเรื่องอะไรรีไว? ถามอย่างนึกรำคาญที่ต้องรับสายคนที่ไม่ชอบหน้า
ฉันว่าจะขอบใจนายที่ส่งของขวัญมาให้ อยากอ้อนพี่ชายรึไง? คนอายุมากกว่าหยอกล้อกลับ
......ฉันไม่ได้ส่งอะไรให้นายรีไว คำตอบของมิคาสะทำให้คิ้วคมที่คลายลงเริ่มขมวดเข้าหากันอีกครั้ง
งั้นเหรอ ถ้านายไม่ได้ส่งคนที่อ้างชื่อนายมาแบบนี้คงไม่พ้นหมอนั่นบุคคลอันตรายที่ต่างรู้ดีว่าเป็นใคร
อย่าตายไปซะก่อนล่ะ ฉันไม่อยากรับผิดชอบเรื่องยุ่งยากอย่างนายหรอกนะ แม้ไม่ได้มีถ้อยคำแสดงถึงความห่วงแต่รีไวก็รู้ดีว่านั่นคือความปรารถนาดีตามแบบน้องชายต่างมารดาของตน

ชายหนุ่มเดินขึ้นจากสระน้ำ มือแกร่งนำผ้าบางผืนเดิมรัดที่เอวเพื่อปิดบังท่อนล่างของตน ร่างแกร่งค่อยๆเดินไปยังประตูทางออกที่อยู่อีกฝั่งกับทางที่เขาเดิมเข้ามา ประตูที่เชื่อมต่อเข้าสู่ห้องนอนของตัวเขาเอง มือแกร่งดึงลิ้นชักจากตู้ไม้ที่อยู่หน้าห้องก่อนจะดึงชั้นลับภายในที่ซ่อนมีดสั้นของตนไว้ แล้วเหน็บมีดสั้นด้ามทองของตนเข้ากับเอวด้านหลังก่อนมือแกร่งจะเปิดประตูห้องน้ำที่เชื่อมระหว่างสองห้องเข้าไป

ห้องนอนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหราตามสไตล์อาหรับมีพรมม้วนขนาดใหญ่วางเด่นถัดจากที่นอนสี่เสาขนาดคิงไซส์ของเจ้าของห้อง นัยน์ตาสีขี้เถ้าจับจ้องพรมทอผืนสีเขียวที่ถูกทออย่างประณีตประดับด้วยลิ่มและลูกไม้สีทองอย่างหรูหราพลางยกยิ้ม
ขาแกร่งค่อยๆก้าวเดินอย่างระมัดระวังไปที่พรมม้วนขนาดใหญ่กลางห้อง
“ไม่ยักรู้ว่าหมอนั่นก็มีรสนิยมกับเขาด้วย” มือแกร่งสัมผัสลงบนพรมหนาสีเขียวอย่างพินิจพิจารณา
“แต่ของแบบนี้ไม่ใช่รสนิยมฉันสักเท่าไร!” มือแกร่งรีบคว้ามีดสั้นที่ซ่อนไว้ผ่าลงไปยังพรมผืนหนาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
คมมีดผ่าพรมแยกออกเป็นสองซีก เงาสีดำพุ่งตัวจากพรมเข้าจู่โจมชายหนุ่มเจ้าของห้อง ร่างเล็กแต่แข็งแกร่งไหวหลบอย่างว่องไวก่อนจะคว้าแขนเพรียวบางที่ถืออาวุธบิดอย่างรวดเร็วจนมือบางทำกริชสั้นที่ถืออยู่ร่วงหล่น ขาแกร่งเตะอาวุธไปด้านหลังให้ไกลจากคนตรงหน้าก่อนแขนแข็งแรงจะผลักร่างบางลงบนที่นอนขนาดใหญ่ของตนแล้วขาแกร่งกดทับร่างบางในชุดคลุมกายสีดำอีกครั้ง
นัยน์ตาสีขี้เถ้าจับจ้องนัยน์ตาสีมรกตใต้ร่างที่มองเขม็งมาอย่างตนพลางยกยิ้มอย่างนึกสนุก
“โฮ่ หมอนั่นรสนิยมไม่เลว” มือแกร่งอีกข้างดึงผ้าคลุมปิดหน้าผีนสีดำของเด็กหนุ่มที่อยู่ใต้ร่างออก นัยน์ตาสีมรกตยังคงจ้องมาที่ใบหน้าคมอย่างไม่วางตา ริมฝีปากบางขบกันจนขึ้นสันกรามอย่างเจ็บแค้นชายตรงหน้า ผิวขาวเนียนที่หาได้ยากในแถบตะวันออกกลาง และใบหน้าดื้อรั้นที่จ้องมองมาอย่างไม่วางตายิ่งขับให้เด็กหนุ่มใต้ร่างน่าพิศมอง
มือแกร่งบิดดึงข้อมือบางตรงหน้าแรงขึ้น ส่งผลให้เด็กหนุ่มต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บจากการบิดแขนที่ผิดรูปร่าง
“นายชื่ออะไร” ริมฝีปากคมเอ่ยถาม
คิ้วมนขมวดแน่นจนเป็นปม ไม่มีเสียงตอบจากร่างบางที่โดนกดอยู่ใต้ร่าง มีเพียงแต่นัยน์ตาสีมรกตที่มองมาอย่างขุ่นเคือง รีไวจึงบิดแขนเล็กนั้นขึ้นอีกจนเด็กหนุ่มหน้าเบ้ด้วยความเจ็บปวด
“อ.... อึก  เอเลน” ในที่สุดปากบางก็ขยับเอ่ยนามของตน
“ตอบคำถามของฉันซะหน่อยนะเจ้าหนู” มือแกร่งบิดแขนเล็กนั้นขึ้นเป็นอีกจนเหงื่อเม็ดผุดพรายจากร่างบางด้วยความเจ็บปวด “คาเน่ส่งนายมาใช่ไหม?”
ไม่มีเสียงตอบจากเด็กหนุ่ม มีเพียงเสียงของฟันที่สีกันไปมาเพื่อพยายามข่มความเจ็บปวดจากแขนที่โดนบิด
ต้องยอมรับว่าแม้เจ้าหนูนี่ยังเด็กแต่ก็มีความเป็นมืออาชีพพอที่จะไม่เอ่ยชื่อผู้ว่าจ้างของตน แต่ก็ใช่ว่าจะมีแค่วิธีการเค้นข้อมูลแบบเดียวเสียเมื่อไหร่
ริมฝีปากคมยกยิ้มอย่างสนุก มือแกร่งเอื้อมเปิดลิ้นชักหัวเตียงของตนก่อนจะหยิบขวดแก้วบรรจุของเหลวสีอำพันขึ้นมา
เอาล่ะไหนเราลองมาดูกันสิว่านายจะทนไปได้สักแค่ไหน
.
.
.
.
.
.
สองแขนโปร่งบางถูกเชือกหนามัดไว้กับเสาหัวเตียง เช่นเดียวกับสองขาเรียวที่ถูกมัดจับแยกให้กว้างออกจากกันจากสองเสาอีกฝั่งของมุมเตียง
มือแกร่งแกว่งมีดสั้นของตนไปมา ประกายเงาของมีดวูบไหวกระทบกับใบหน้ามนที่จ้องเขม็งมายังชายหนุ่มอย่างหาเรื่อง
“มาดูสิว่านายจะปากหนักได้แค่ไหนเจ้าหนู?”
ปลายมีดคมกริบค่อยๆผ่าลงบนเสื้อสีดำเข้ารูปของร่างบางจนเผยให้เห็นหน้าอกขาวเนียนและท้องที่แบนราบ
“ผิวเนียนดีนี่เอเลน” ริมฝีปากคมเลียคมมีดสั้นอย่างนึกสนุก ก่อนจะเฉือนคมมีดลงไปยังกางเกงสีเข้มแนบเนื้อ
คมมีดแหลมเฉือนผ่านผ้าบางลงบนผิวเนื้อเนียนจนเป็นริ้วก่อนเลือดสีสดจะค่อยๆซึมออกจากรอยกรีดบนผิวเนื้อ
“อึก” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่นกับการกระทำของชายตรงหน้า ริมฝีปากบางยังคงขบเม้นไม่เอ่ยพูดสิ่งใด
“ดื้อจริงนะเอเลน ฉันอุตส่าห์คิดว่าจะใจดีกับนายเสียหน่อย” มีดคมยังคงเชือดเฉือนอาภรณ์สีดำจนเป็นริ้วเศษผ้าเพียงไม่กี่ชิ้นปกปิดบนร่างบาง ผิวเนื้อขาวบางแห่งมีร่องรอยของคมมีดกรีด แม้จะเพียงแค่ถากเบาๆแต่บางรอยก็ลึกพอที่จะให้เลือดไหลซึมออกมา
“ถ้าจะฆ่าฉันก็ฆ่าซะ ยังไงนักฆ่าที่ผิดพลาดก็ไม่พ้นต้องตายอยู่ดี” ใบหน้ามนที่นิ่งเงียบเอ่ยขึ้นในที่สุด นัยน์ตาสีมรกตยังคงจ้องที่นัยน์ตาสีขี้เถ้าอย่างไม่ไหวติง
เป็นกฎที่รู้กันดีว่านักฆ่าที่ทำงานผิดพลาดจะไม่เป็นที่ต้องการของผู้ว่าจ้างอีกต่อไป และโทษฐานของความผิดพลาดก็คือความตายสถานเดียว
“ถ้านายตายไปฉันคงเสียดายแย่” มือสากลูบไล้ไปยังโคนขาเนียนเรียบ ก่อนใบหน้าคมจะเขยิบเข้าชิดกับเด็กหนุ่มที่จ้องมองมาพลางยกยิ้มขึ้นมุมปาก “ฉันบอกแล้วไงว่าจะใจดีกับนายสักหน่อย”
รีไวโยนมีดสั้นประจำกายของตนลงกับพื้น ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่านักฆ่าที่ตอนนี้ตกเป็นเหยื่อเสียเองไร้ซึ่งทางตอบโต้กลับ ร่างแกร่งแทรกตัวครอมร่างโปร่งบ่างที่ถูกพันธนาการเบื้องล่าง
ฟันคมฝังลงบนซอกคอขาวเนียน ของเหลวสีสดไหลจากรอยคมเขี้ยวที่ฟังลึกลงบนซอกคอขาว เอเลนยู่หน้าด้วยความเจ็บจากการกัดลึกลงบนซอกคอของตน ลิ้นร้อนของชายหนุ่มเลียชิมรสฝาดของเลือดที่ไหลลงมาก่อนจะฝังคมเขี้ยวแหลมสร้างรอยใหม่อีกครั้ง
“ฮึก!!” ร่างโปร่งบางสะดุ้งกับสัมผัสของมือหยาบที่ไล้วนอยู่ตรงสะโพกมน ก่อนนิ้วแกร่งจะสอดเข้าช่องทางเบื้องล่าง
“ดูเหมือนนายจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้ดีนะเอเลน สมเป็นมืออาชีพจริงๆ” นิ้วแกร่งสอดเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าทางช่องคับแคบมากยิ่งขึ้น ช่องทางนุ่มสีหวานตอดรัดสิ่งแปลกปลอมอย่างคุ้นเคย
นิ้วแกร่งถอนออกจากช่องทางนุ่มที่ตอบสนองเบื้องล่าง มือหนาหยิบขวดแก้วบรรจุของเหลวสีอำพันขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะเปิดฝาขวดออก
“นายคงจะคุ้นชินกับการถูกฝึกใช้ร่างกายมามากสินะเจ้าหนู” พูดพลางยกขาทั้งสองข้างให้แยกออกจากกันมากยิ่งขึ้น จนเผยให้เห็นช่องทางเบื้องล่างที่เต้นเร้ารอคอยด้วยความคุ้นชิน
ใบหน้ามนขึ้นสีระเรื่อ นัยน์ตาสีมรกตที่แข็งกร้าวเริ่มเจือไปด้วยแรงปรารถนาจากการถูกกระตุ้นเร้าเบื้องล่าง
“และคงเคยชินกับยาพวกนี้ดีสินะ” ปากขวดแก้วบรรจุของเหลวสีอำพันถูกสอดใส่เข้าช่องทางสีหวานของเด็กหนุ่ม ของเหลวในขวดถูกเทใส่ยังช่องทางอ่อนนุ่มเบื้องล่างของร่างบาง
เมื่อของเหลวถูกเข้าไปในตัวของร่างโปร่งจนหมด รีไวจึงโยนขวดเปล่าทิ้งลงกับพื้นอย่างไร้ค่า นัยน์ตาสีขี้เถ้าเฉยชามองร่างบางตรงหน้าด้วยแววตาสนุกสนานกับร่างกายโปร่งบางที่เริ่มสั่นเทิ้มด้วยแรงปรารถนาราวถูกไฟลน
“สำหรับยาที่ฉันให้นายไปมันไม่มีดาษดื่นแบบที่นายเคยได้ลองหรอกนะเอเลน” ใบหน้าคมยกยิ้มขึ้นมุมปากอย่างสนุก
“เพราะมันแรงถึงขนาดที่ต่อให้นายถูกปลดปล่อยทั้งคืนก็ยังไม่พอเลยล่ะไอหนู” ลิ้นร้อนโลมเลียและขบเม้มไปตามผิวเนียนของเด็กหนุ่ม
“ฮึก  ฮา  ฮา  อ๊ะ!” เสียงหวานครางกระเส่ากับความเร่าร้อนที่วูบวาบในร่างกายพอๆกับแรงปรารถนาที่ปะทุขึ้นอย่างไม่อาจห้าม

            ขาเพรียวยาวอ้าออกกว้างอย่างลืมตัว นัยน์ตาสีมรกตที่แข็งกร้าวบัดนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยความปรารถนาที่ลุกโชนภายในกาย ใบหน้ามนขึ้นสีระเรื่อด้วยอุณหภูมิของร่างกายที่ทวีสูงขึ้น
            “ป.....” เสียงหวานกระเส่าแผ่วเบาก่อนที่เด็กหนุ่มจะค่อยๆสูดอากาศหายใจลึกเพื่อข่มความพลุ่งพล่านในตัว “ก....แก้มัด  แก้มัดผมเถอะ ท่าน รีไว... แฮ่ก แฮ่ก”
            น้ำเสียงวิงวอนและสายตาอ้อนวอนที่ส่งมาทำให้ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ก่อนสองมือแกร่งปลดพันธนการให้ตามที่ร่างบางร้องขอ ด้วยรู้ดีว่าสิ่งที่ตอนนี้เจ้าตัวปรารถนาคือสิ่งใด
            เมื่อร่างบางพ้นจากพันธนาการ เด็กหนุ่มไม่รอช้าริมฝีปากนุ่มกอบกุมความเป็นชายของคนตรงหน้าทันที โพรงปากนุ่มรูดขึ้นลงแกนกายหนาอย่างชำนาญ ลิ้นบางโลมเลียและดูดเค้นท่อนเนื้อหนาอย่างกระหาย รีไวลูบไล้ผมสีน้ำตาลพลางยกยิ้ม
            “ไม่ต้องรีบเอเลน” นัยน์ตาสีมรกตช้อนมองขึ้นมาอย่างเว้าวอน โพรงปากนุ่มยังคงขยับรูดขึ้นลงกับท่อนเนื้อหนาที่เริ่มขยายจนคับแน่นเต็มโพรงปาก
            มือแกร่งลูบปรนเปรอแก่นกายของร่างบางที่ขยายตัวเต็มที่พร้อมปลดปล่อย
            “เอเลนถ้านายอยากให้ฉันช่วยปลดปล่อยให้นายตอบคำถามฉันมาสิเจ้าหนู” นัยน์ตาสีขี้เถ้าจ้องเขม็งยังนัยน์ตาสีมรกตที่กำลังเต็มไปด้วยความปรารถนาและเว้าวอน
            “อือ  อือ” ร่างโปร่งบางสั่นระริกกับความรุ่มร้อนและเสียวซ่านที่ปะทุขึ้นมาแล้วยังไม่ได้รับการปลดปล่อยเลยสักครั้ง
            “นายทำงานให้คาเน่ใช่ไหมเอเลน” รีไวอุ้มร่างบางขึ้นมานั่งบนหน้าตักแกร่งของตน มือที่ปรนเปรอให้กับเด็กหนุ่มหยุดลงทำให้เอเลนมองมาด้วยความขัดใจ
            คิ้วมนขมวดมุ่นก่อนใบหน้ามนจะส่ายไปมาปฏิเสธ
            “นายไม่อยากให้ฉันช่วยเอ็นดูนายงั้นเหรอเอเลน?” นิ้วแกร่งสอดเข้ายังช่องทางอ่อนนุ่มสีหวานที่ต้องเน้นตอดรัดถี่รัวอย่างกระหาย
            “ต... แต่ มัน.....  เป็น..... กฎ” เด็กหนุ่มตอบเสียงแผ่วเบาสะโพกมนขยับตอดรับสิ่งแปลกปลอมที่รุกเข้ามา
            “นายทำงานพลาดนะเจ้าหนู รู้ใช่ไหมว่าไม่มีที่ให้นายกลับไป” เรื่องจริงที่เด็กหนุ่มรู้ดีอยู่แก่ไจ ถึงกระนั่นริมฝีปากบางยังคงเม้มปิดกันแน่น หยาดน้ำใสเริ่มหลั่งรินจากนัยน์ตาสีมรกตที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา
            “มัน...เป็....น...กฏ  อื้อ!” นิ้วแกร่งเริ่มสอดเข้าไปมากขึ้น ร่างบางสั่นสะท้านไปตามแรงอารมณ์ เล็บบางจิกลงบนบ่าแกร่งคนตรงหน้า
            “ถ้านายบอก ฉันสัญญาว่าจะดูแลนายเองเอเลน” ลงร้อนกระซิบที่ใบหู ความเสียวซ่านทำให้ไหล่บางห่อเกร็งอย่าลืมตัว
            “ม... ไม่  ได้ ..... ทำไม่ได้.... ได้....โปรด ......ท่าน ..รีไว” เด็กหนุ่มปรือมองชายตรงหน้าอย่างอ้อนวอน ร่างโปร่งบางบิดเร้าอย่างใคร่กระหาย
            เจ้าเด็กนี่ดื้อชะมัด แต่.......ไม่เลว ถ้าได้เจ้าหนูนี่มาเป็นของตัวเองคงจะดีไม่น้อย ความจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตนเอง ช่างน่าเสียดายที่จะปล่อยให้หลุดมือไป
            “คราวนี้ฉันจะใจดีกับนายแล้วกันเจ้าหนู” แกนกายหนากระแทกใส่เข้าช่องทางสีหวานเบื้องล่าง ช่องทางอ่อนนุ่มตอดรัดท่อนเนื้อหนาอย่างกระหาย
            “อา  อา  ร.. แรงอีก” เสียงหวานเว้าวอนอย่างสั่นเครือขาเพรียวกอดกระชับสะโพกหนาที่กระแทกเข้ามา ความอดกลั้นมาถึงขีดสุดน้ำรักสีขาวพุ่งเปรอะที่กล้ามท้องแข็งแรงของชายหนุ่ม เช่นเดียวกับที่ร่างแข็งแกร่งกระตุกเกร็งปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นเข้าเต็มช่องทางที่ตอดรัดกระหน่ำ
            “ยัง  ยัง ไม่พอ” ร่างโปร่งบางขึ้นคร่อมบนหน้าตักของชายหนุ่ม
            แกนกายหนาถูกปลุกเร้าให้ขยายตื่นอีกครั้ง มือเรียวแหวกเนื้อสะโพกนุ่มของตนให้แยกออกก่อนจะกดร่างที่สั่นระริกด้วยความเสียวซ่านลงที่แกนกายนั้นอีกครั้ง
            สะโพกบางขยับขึ้นลงเร่งเร้าจังหวะกับท่อนเนื้อหนากำยำ เสียงผิวหนังที่กระทบกันอย่างหยาบโลนและเสียงชื้นแฉะของของเหลวดังกังวานทั่วทั้งห้องนอนขนาดใหญ่
            นัยน์ตาสีมรกตคลอไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความสุขสมปรือมองชายหนุ่มร่างกำยำข้างใต้อย่างเย้ายวน ลิ้นบางเลียริมฝีปากสีระเรื่อของตนอย่างหยอกเย้า
            ใบหน้าคมมองร่างที่กำลังเริงระบำด้วยไฟราคะตรงหน้าบนร่างกายตนพลางยกยิ้มอย่างพอใจ
            “ร่างกายนายมันร่านน่าดูไอหนู”
            ใบหน้าหวานที่กำลังจมดิ่งด้วยแรงราคะแห่งปรารถนาค่อยๆก้มลงมายังใบหน้าคมคายเบื้องล่าง ลิ้นเล็กเลียยั่วยวนริมฝีปากหยักตรงหน้าก่อนริมฝีปาดคมเจอเผยอออกให้ลิ้นเล็กรุกล้ำเข้าไปโดยง่าย
            ลิ้นเรียวกระหวัดเกี่ยวลิ้นร้อนในโพรงปากอย่างรู้งาน ปลายลิ้นเล็กไล่เลียไปตามไรฟันก่อนหยอกล้อกับลิ้นของชายหนุ่มอย่างอ้อยอิ่ง ฟันเล็กขบลงที่ริมฝีปากชายหนุ่มเบาๆก่อนผละออก สะโพกมนยังคงขยับจังหวะขึ้นลงและเร่งจังหวะเร็วขึ้นเพื่อให้ไปยังสุดทางของปลายอารมณ์
            ไม่เลว ทั้งความซื่อสัตย์ของเจ้าตัว ความดื้อรั้นของเด็กหนุ่มตรงหน้า และร่างกายที่แสนเย้ายวนนี่ ช่างน่าครอบครองและดึงให้มาอยู่ภายใต้การปกครองของตน
            ฉันจะทำให้นายมาเป็นของฉันให้ได้เอเลน ร่างกายของนาย หัวใจของนาย จะต้องเป็นของเขาคนนี้เท่านั้น รีไวล์ แอคเคอร์แมน

TBC.
......................................................................................................................................
 Talk: อีกสองเรื่องยังไม่จบดันเปิดเรื่องใหม่สนองตัณหาตัวเอง(โดนนักอ่านตรบ)
 ฟิคเรื่องนี้มาตอนแรกก็เรทแล้ว(เวรกรำ)
เป็นฟิคที่ช่วยกันคิดกับคุณ Jadenchase ค่ะ แล้วอาจช่วยกันแต่งสลับไปมา
ฟิคเรื่องนี้ไม่อยากบอกว่ามันจะสั้น(เพราะบอกทีไรยาวตลอด) เอาเป็นว่าเรื่อยๆเหมือนเดิมเนอะ(ไร้ความรับผิดชอบจริงๆ)
แต่เรื่องนี้การอัพไม่แน่นอนนะคะ เพราะยังคงอัพเรื่องล่ารักอันตราย กับ Last memory เป็นหลักค่ะ
อันนี้เขียนแบบอารมณ์พาไปจริงจั
เอเลนในฟิคนี้จะต่างกับฟิคที่ผ่านมาเลยค่ะ เพราะเอเลนในฟิคนี้เป็นนักฆ่า เอเลนเลยมีความบิชชี่เป็นทวีคูณ
ใครรู้สึกรับไม่ได้ต้องขออภัยด้วยนะคะ
แล้วก็ไหนๆนามสกุลเฮียก็ถูกเฉลยแล้ว เลยนำมาใช้ซะเลย
ส่วนชื่อคาเน่ อิงจากมังงะตอนล่าสุดน่ะค่ะ เห็นภาษาอังกฤษเขียนว่า Kaney เลยว่าน่าจะอ่าน คาเน่นะ หรือคานี่หว่า
เอาเป็นว่าเป็นหมอนี่ก็แล้วกันค่ะฮาๆ

ยังไงก็ขอฝากอีกเรื่องแล้วกันนะคะ ลองเขียนเอเลนอีกแนวดูไม่รู้ว่าจะชอบกันรึเปล่า

ปล. เรื่องนี้คงอัพได้ที่บล็อกเท่านั้นค่ะเพราะดูแล้วลงเด็กดีไม่ได้ชัวร์ = =""""

ขอบคุณทุกท่านค่ะ

6 ความคิดเห็น:

  1. ยะ...อย่างนี้ก็ชะ...ชอบนะคะ อะ..เอเลนเย้ายวนชวนชำเราขนาดนี้ แถมเอิ่ม....บริการดีจริงจัง แล้วังให้ความรุสึกแบบน่าครอบครอง น่าฝึกให้เชื่อง ท่าทายแก่การควบคุมดีคะ ถ้าเฮียชีคจะไม่หลงก็เอามาให้เค้าเถอะคะ เค้าจะดูแลอย่างแนบแน่น แอร่ก (โดนเฮียฟันหลังคอ)

    นอกจากนั้นเอเลนให้ความรุสึกยังกะ คลีโอพัตรา ถึงจะเปนนักฆ่า แต่เปนนักฆ่าที่บอบบางดูน่าเอ็นดูแบบจัดหนักมากก่าน่ากลัว แล้วยังเรื่องเอิ่ม...ความคุ้นเคยกับเอิ่ม....เรื่องปลุกเร้าที่ร้อนแรงแบบนี้อีก คือ...ใครเปนคนสอนแล้วสอนมายังง๊ายยยย แล้วทำไมต้องสอนเรื่องแบบนี้!!!!! แต่ที่ต้องยอมรับอีกอย่างก็คือ....สอนมาดีจริงๆนั้นแหละ....เร่าร้อนมาก =,.= ถ้าไม่สอนเพราะสอนมาดีนี่ก็คงเปนพรสวรรค์ของเอเลนจริงๆ

    อ่าาาาา ตัดมาที่เฮียชีค แค่นึกภาพเฮียก็นอนตายแล้วคะ ปกติก็หล่อทำลายล้างอยู่แระมาแบบอาหรับนี่ แค่ตายคะ ฮืออออออ สนใจรับหญิงรับใช้เพิ่มไหมเฮีย (โดนท่าเตะบิดตูด)

    ง่าาารอมาต่อนะคะพี่น้องทั้งสอง อยากจิรุว่าเอเลนจะสวยน่าเอ็นดูหรืสวยสังหารกันแน่???

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณที่ชอบนะคะ >////< โล่งอกค่ะ
      นึกว่าจะไม่มีคนชอบแนวนี้ซะแล้ว
      น้องเลนเป็นคลีโอพัตตรา อร๊ายยย(อุดกำเดาแปบค่ะ) แต่ดูเป็นคลีโอพัตตราที่โดนแกล้งชอบกลนะคะฮาๆ
      ด้วยความที่เป็นนักฆ่าเรื่องล่อลวงเหยื่อต้องคุ้นเคยดีค่ะ ล่อด้วยสิ่งที่มี >.,<
      อย่าว่าแต่นักอ่านเลยค่ะแค่คนเขียนมโน ท่านชีครีไว ก็แทบจะลงไปนอนจมกองเลือดกำเดาตัวเองด้วยความฟินแล้วล่ะค่ะ
      ดาเมจท่านชีครุนแรงนอนตายอย่างสงบมากค่ะ *///////*

      ลบ
  2. อ๊ายยยยอะไรกันก๊าเนี้ย//แอบโกรธไรเตอร์แล้วล่ะที่ไม่เตือนข้าเจ้าล่วงหน้าอ่ะ//
    เตรียมทิชชู่ไม๊ตานนนน แง๊ๆๆๆ
    เอาแ-งมันผ้าผ่มนี่ล่ะฟ๊ะถ้าจะเซอร์วิสกัาขนาดนี้.
    พรุ่งนี้กรุณาโอนตังส์มาให้ค่าแฟ๊บด้วยผ้าห่มของข้าเจ้าหมดตู้แว้วววว
    ///บ้านนอกไปป่าวหว่า!!??? แฟ๊บไรเตอร์รู้จักป่าวมันคือผงซักฟอกนั่นเอง ฮ่าๆๆ//
    ไปแระ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ฟิคนี้ต้องตุนผ้าเยอะๆค่ะ เพราะท่าทางจะร้อนแรงกันน่าดู ฮาๆ

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ17 พฤษภาคม 2557 เวลา 01:29

    อ๊ายยยย มาตอนแรกก็ปะช๊ะวิ้งปี๊ปปั๊บกันแล้ว!!! ฉันจะไม่ทน!!!//ตะกายจอหาตอน2??//แหม่ ร้ายอีกแล้วรีไวล์ซัง ตอนแรกก็นึกว่าเอเลนจะโดนทรมานเลือดกลบปาก ซี่โครงหัก หน้าบูดเบี้ยวหมดแล้วซึ่งความน่ารัก ดันล่อซะหนักจริงๆแต่ไม่ใช่การซ้อมเพื่อเค้นข้อมูลล นี่มันกำไรสามเท่าเลยนะคะ 1.ข้อมูล(ซึ่งยังไงไม่รู้ตอนนี้) 2.ได้กดนางเอก? 3.คนอ่านนั่งฟิน(เอ๊ะ อันนี้มาไง)
    รอล่ารักอยู่น้าาา ถ้าดองนานส่งรีไวล์ซังเข้าฝัน 55555 สู้ๆค่ะ รอตอนต่อไปจ้าา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แบบนี้ก็ถือเป็นการทรมานอีกรูปแบบนะคะ ทรมานคนอ่านและคนเขียนไปด้วยตามๆกัน ตอนนี้ไหเลือดสำรองแทบจะไม่พอค่ะ

      ลบ