วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

Fic. [AU]: Attack On Titan (Levi x Eren) ล่ารักอันตราย Chapter 7: Mischievous



Fic. [AU]: Attack On Titan (Levi x Eren) ล่ารักอันตราย
Chapter 7: Mischievous


มิคาสะ!!
นัยน์ตาสีราตรีจับจ้องหญิงสาวร่างเพรียวบางเซ็กซี่ตรงหน้า น่าแปลกทั้งที่จำได้ว่าไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้แต่กลับรู้สึกดูคุ้นเคยเหมือนกับคนรู้จัก
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ?” เอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วงเด็กสาวตรงหน้า
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เอเลนพยายามบีบเสียงของตนให้เล็กและยกยิ้มกลบเกลื่อนอย่างใจเย็น มือเรียวพยามยกขึ้นมาปิดบังใบหน้าของตนเองไว้ด้วยเกรงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าจะจับได้
“เราเคยเจอกันที่ไหนรึเปล่าคะ?” มิคาสะมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้งด้วยความสงสัย เพราะช่างคุ้นตาเสียเหลือเกิน
“มไม่มีทางค่ะ ปกติฉันไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แล้วเราคงไม่เคยเจอกันแน่นอนค่ะ” ใบหน้ามนส่ายหัวปฏิเสธไปมาอย่างรวดเร็ว “เออถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัว”
“อ้าวนี่เธอที่เข้าห้องน้ำชายเมื่อกี้นี่!
เสียงทักเอ่ยดังมาจนทำให้เอเลนสะดุ้งจากที่กำลังจะก้าวหลบฉากจึงต้องหยุดชะงักแล้วค่อยๆหันมาหาต้นเสียงด้วยหน้าพยายามยิ้มแม้คิ้วจะกระตุกก็ตาม
“แหม แค่ไม่ทันดูป้ายเองค่ะ พูดแบบนี้กับสุภาพสตรีเสียมารยาทนะคะ” ไอแจนนะไอแจนถ้านายจะกวนโอ๊ยช่วยมีขอบเขตสักหน่อยสิวะ!!
“ขอโทษที เอ๊ะว่าแต่เธอหน้าคุ้นๆนะเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า?” แจนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ร่างโปร่ง นัยน์ตาสีเปลือกไม้ไล่สำรวจไปมาอย่างครุ่นคิด
อย่าเข้ามาใกล้นะเว้ยไอหน้าม้าแจน!!!
“นายเสียมารยาทมากไปแล้วแจน” มิคาสะเข้ามาจับไหล่ของเด็กหนุ่มดันออก เมื่อเห็นว่าคนของเธอเริ่มทำอะไรที่ไม่เหมาะสม
“อ่า ขอโทษอีกครั้งละกัน” แจนถอยหลังออกมาตามแรงดึงของหญิงสาว
“แหะๆ” เอเลนหัวเราะแห้งให้กับการกระทำของคนตรงหน้า
“อ๊ะ ฉันนึกออกละ” แจนดีดนิ้วดังเป๊าะ ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าหญิงสาวตรงหน้าคือใคร
!!!! ฉันไม่เคยเจอพวกคุณเลยนะ!” เหงื่อเริ่มซึมแม้บรรยากาศจะไม่ร้อนก็ตาม สองมือเริ่มเย็นเฉียบกับท่าทีที่คนตรงหน้ากำลังครุ่นคิด แจนนายจำผิดคนแล้วเว๊ย!!!
“เธอคือคนที่มากับคุณรีไว”
“ไม่ใช่!  …….เอ๋?” ใบหน้ามนค่อยๆเงยขึ้นมองเด็กหนุ่มผมสีอ่อน
“อ๊ะนึกออกละ ที่เราเจอกันตอนสัมภาษณ์ที่หน้างานสินะ” มิคาสะเข้ามาช่วยเสริม ถึงว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นตา อาจเพราะเป็นคนที่สวยสง่าขนาดนี้เธอคงจะติดใจล่ะมั่ง
“อ….อ๋อ ใช่ค่ะ ที่เราเจอกันตรงหน้างานยังไงล่ะค่ะ ฮ่าฮ่า” ไม่คิดเลยว่างานแบบนี้ทั้งสองคนนี้จะมา แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็รอดตัวไปได้ล่ะนะ
“อ๊ะว่าแต่ฉันขอถามหน่อยสิ เธอกับคุณรีไวเป็นอะไรกันเหรอ?” วิญญาณนักข่าวของเด็กหนุ่มเริ่มเข้าสิง ความอยากรู้จึงทำให้แจนพยายามซักถามหาข้อมูลจากหญิงสาวตรงหน้า
“เออเรื่องนั้น….” จะบอกได้ไงล่ะว่าเป็นอะไร แค่ของเล่นค่าเวลามั่ง? ตัวเองยังไม่รุ้เลยแล้วจะตอบแกได้ไงล่ะวะ!
“แต่คิดว่าคุณรีไวน่าจะให้ความสำคัญกับเธอนะ เพราะเห็นไม่เคยควงใครออกงานมาก่อนนอกจากคุณเพทร่าที่เป็นเลขาสาว”
เปล่าเลยแจนหมอนั่นแค่สนุกเวลาเห็นฉันต้องทำอะไรบ้าๆและตกที่นั่งลำบากต่างหากล่ะ
“ฉันเลยอยากรู้ว่าเธอกับคุณรีไวรู้จักกันได้ยังไงน่ะ แบบผู้ใหญ่พาให้รู้จัก เคยเรียนด้วยกัน หรือว่าเจอกันแบบพรหมลิขิตชักนำอะไรแบบนี้?”
เออ….ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ไม่ได้อยากรู้จักเลยสักนิด ไม่ใช่พรหมลิขิตหรือใครพารู้จักทั้งนั้นแหละ ถ้าจะให้พูดจริงๆต้นเหตุแห่งความซวยทั้งหมดของฉันน่าจะเพราะนายก็ได้นะแจน
นัยน์ตาสีเขียวมรกตเหลือบตามองคนตรงหน้าอย่างคาดโทษ แต่ใบหน้ามนยังคงยิ้มกลบเกลื่อนอย่างอ่อนหวานตามที่ถูกฝึกสอนมาตลอดทั้งสัปดาห์
“ขอโทษนะคะ เรื่องนั้นคงตอบไม่ได้จริงๆค่ะ”
“หืม แบบนี้ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่” เด็กหนุ่มร่างสูงก้มลงเข้าใกล้กับใบหน้ามนของหญิงสาวตรงหน้า ริมฝีปากบางยกขึ้นยิ้มอย่างยียวน สายตาของเหยี่ยวนักล่าข่าวกำลังจับจ้องมองมาเพื่อค้นหาคำตอบ “เธอเป็นใครกันแน่?”
อยากต่อยมันจังเว๊ย!!!!! คุณมึงจะไม่รู้สักเรื่องได้ไหมครับ? ยิ่งไอสายตาแบบนั่นอยากจะจิ้มให้ตาบอดเสียจริงๆ
สองมือเรียวเริ่มกำแน่นพยายามข่มอารมณ์ ทั้งที่กำลังจะหนีไปได้แล้วแท้ๆ แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะตามไม่เลิก ต้องพยายามหาทางออก ถ้าถูกจับได้ล่ะก็ต้องอับอายขายหน้าเรื่องถูกจังแต่งสาวไม่พอ แต่ร้านของคุณฮันเนสจะต้องหายไปด้วย
ริมฝีปากบางแต้มสีชมพูค่อยๆยิ้มขึ้นอย่างเย้ายวน นัยน์ตาสีมรกตหรี่มองคนตรงหน้ายิ่งขับให้ดวงตาดูเซ็กซ่น่าค้นหา กริยาท่าทางนั่นทำให้เด็กหนุ่มถึงกับใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ
มือเรียวยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าเด็กหนุ่มไปมาอย่างหยอกเย้า แจนถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกกับหญิงสาวตรงหน้า
“รู้ไหมว่า ผู้หญิงที่มีความลับยิ่งดูน่าค้นหานะคะ” มือเรียวค่อยๆผละออกจากคางของเด็กหนุ่มร่างสูง
ร่างโปร่งหรี่ตาเอี้ยวหันมามองก่อนที่จะค่อยๆผละเดินจากไป โดนปล่อยให้แจนยืนค้างทำตัวไม่ถูกกับการโดนผู้หญิงเย้าแหย่
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย!! ทำไรของเธอ….น่ะ?” มิคาสะที่อยู่ด้วยถึงกับตบลงบนแก้มของเด็กหนุ่มฉาดใหญ่
“นายจะจ้องมากเกินไปแล้วแจน” มือเรียวดึงเนคไทของเด็กหนุ่มขึ้นมา นัยน์ตาสีราตรีจ้องมองอีกคนด้วยความขุ่นเคือง
แจนถึงกับหน้าซีดกับท่าทางของหญิงสาวที่นานๆจะเจอสักที การที่มิคาสะหึงเขามันก็น่าดีใจอยุ่หรอกนะ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจตายได้เช่นกัน…..


…..เกือบไปแล้ว
เอเลนถอนหายใจออกอย่างโล่งอก ไม่คิดว่ามารยาหญิง 108 เล่มเกวียน ที่คุณฮันซี่สอนมาบอกว่าเผื่อไว้ใช้ในสถาณการณ์ฉุกเฉินเขาจะได้ใช้มันจริงๆ ร่างโปร่งบางแทบจะเอาหัวโขกกับกำแพง นี่นอกจากเขาต้องมาแต่งหญิงแล้ว เขายังใช้มรายาหญิงหลอกผู้ชายอีกหรอเนี่ย!! แถมไอผู้ชายคนนั้นยังเป็นไอบ้าหน้าม้าแจนเสียด้วย เรื่องแบบนี้จะไม่ให้ใครรู้เป็นอันขาด! เอเลนเอ๋ยเอเลน ทำไมแกต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ!!
“กลับมาได้สักทีนะไอหนู ขี้แตกหรือไง?”
เมื่อเดินกลับมาถึงสถาณที่จัดงาน ตัวการและต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหมดก็ยังคงยืนรอเขาอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้านิ่งๆเฉยชา แต่ฝีปากช่างขัดกับรูปลักษณ์และสถาณที่วันนี้
“พูดแบบนั้นกับผู้หญิงเสียมารยาทนะครับ”
“โฮ่ นายอยากให้ฉันปฏิบัติกับนายเหมือนกับผู้หญิงงั้นสินะ” ไม่พูดเปล่ามือหยาบโอบเข้าที่เอวบางของร่างโปร่งแล้วดึงลำตัวให้เข้ามาแนบชิดกับตนเองทันที
“ไม่เลยสักนิดครับ” เอเลนพยายามดันชายหนุ่มให้ออกห่าง จากตัวเองแต่แขนแข็งแรงก็ยังคงกอดกระชับเข้าที่เอวและไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยง่ายๆ
ใบหน้าคมยกยิ้มขำกับท่าทางของอีกฝ่าย มือแกร่งยิ่งกระชับเอวบางให้แน่นกว่าเดิม “เข้าไปในงานกันเถอะเอเลน นายต้องเต้นรำกับฉันจำได้ไหม?”
“ถึงไม่อยากจำก็ถูกฝึกมาเพื่อการนั้นอยู่แล้วนี่ครับ” เมื่อพยายามดันคนช่างตื้อให้ออกห่างไม่ได้ จึงได้แต่ทำใจ อย่างน้อยก็แค่โอบเอวแล้วพอเข้าไปในงานท่ามกลางคนมากมายต่อให้เป็นคุณรีไวคงไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อกลางงานหรอกนะ

หลังจบปราศรัยเปิดงานของเอลวิน ดนตรีก็ถูกบรรเลงบทเพลงสำหรับเต้นรำจังหวะวอล์ซ Voices of Spring

รีไวโค้งตัวแล้วผายมือให้กับร่างโปร่งบางที่อยู่ข้างกายเพื่อเชื้อเชิญให้เต้นรำ แม้แท้จริงแล้วตัวเขาอยากจะปฏิเสธแต่ก็คงโดนคนอายุมากกว่าบังคับให้ออกไปที่ฟรอล์อยู่ดี มือบางจึงได้จำใจวางมือลงบนมือแกร่งของอีกคน

ท่วงทำนองดนตรีที่ชัดเจนตามแบบฉบับเวียนนาทำให้การจับจังหวะเข้ากับเพลงเป็นไปได้อย่างราบรื่น แม้แต่เอเลนเองก็ยังแปลกใจที่ไม่เผลอเหยียบเท้าชายหนุ่มตรงหน้าให้ตนเองโดนเตะกลับเล่น ก็ต้องยอมรับว่าที่ทำได้ขนาดนี้เพราะความพยายามของตนเองและได้อาจารย์ที่เก่งกาจในหลายๆเรื่องอย่างคุณฮันซี่ล่ะนะ นับว่าสิ่งที่ถูกสอนมาทั้งหมดกำลังผ่านไปได้ด้วยดี เว้นแต่…..

“คุณรีไวครับ มือคุณอยู่ต่ำไปนะ” ใบหน้ามนขมวดคิ้วมองชายหนุ่มอย่างขุ่นเคือง เพราะมือของฝ่ายชายที่ควรจะประดองช่วงเอว กลับไปอยู่ตรงสะโพกแทน

“เหรอ ฉันว่าประมาณนี้กำลังเหมาะพอดีกับส่วนสูงของฉันล่ะนะ” พูดด้วยใบหน้าเฉยชาที่แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์

ทีอย่างนี้เอาส่วนสูงมาอ้างนะครับ ไอคุณรีไว….

มือเรียวพยายามจับมือของอีกคนขึ้นมาไว้ที่ช่วงเอว แต่เจ้ามือดียังคงเลื่อนลงไปจับที่สะโพกอย่างจงใจ

“คุณรีไวนี่มันลวนลามกันนะครับ” มือบางหยิกลงบนมือชายหนุ่ม ถึงกระนั่นมือแกร่งคู่นั้นก็ยังไม่รู้สำนึก

“แค่ช่วงทำให้ลีลาศที่น่าเบื่อตื่นเต้นขึ้นต่างหาก” ที่จริงเขาไม่ได้ชอบงานน่าเบื่อแบบนี้ อีกทั้งไม่เข้าใจว่าเอลวินจะชอบเรื่องยุ่งยากอย่างงานเต้นรำทำไม แต่สำหรับคู่เต้นวันนี้นับว่าไม่เลวทำให้งานที่แสนน่าเบื่อดูน่าสนใจมากขึ้นทีเดียว

ตื่นเต้นของคุณพี่คนเดียวน่ะสิครับ!! เอเลนที่ได้แต่ประท้วงในใจทำได้แต่จ้องเขม็งอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ หวังว่าคนอายุมากกว่าจะไม่ทำอะไรมากกว่านี้ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิดของเด็กหนุ่มเมื่อมือซนของคนอายุมากกว่าเริ่มที่จะล้วงเข้ามาลูบไล้ขาเนียนจากรอยผ่าของชุดราตรี จนมือเรียวต้องรีบดันไว้ไม่ให้มือหนาของชายหนุ่มล่วงล้ำเข้ามาใต้กระโปรงได้

“คุณรีไว!!” ใบหน้ามนขึ้นสีระเรื่อพยายามส่งเสียงกระซิบชายหนุ่ม แต่รีไวยังคงมีใบหน้าที่เฉยเมยเช่นเดิม ไม่สะทกสะท้านกับการกระทำของตัวเองที่ทำให้ร่างโปร่งบางกำลังทำตัวไม่ถูกสักนิด

ในที่สุดจังหวะหมุนเพื่อเปลี่ยนคู่เต้นรำก็มาถึง เอเลนรีบหมุนตัวตามจังหวะไปหาชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง โดยจงใจใช้ส้นสูงเหยียบลงที่เท้าของคนอายุมากกว่าด้วยความหมั่นไส้ แม้เสียงสบถจากชายหนุ่มจะเบาแต่ก็พอให้เอเลนที่ได้ยินรู้สึกสะใจกับการเอาคืนเล็กน้อยนี้ได้บ้าง

มือเรียวแตะลงบนมือของฝ่ายชายที่อยู่ถัดไปตั้งท่าเต้นรำตามจังหวะดนตรีต่อ ใบหน้ามนเงยยิ้มให้กับฝ่ายชาย แต่นัยน์ตาสีมรกตต้องเหลือบมองต่ำลงมาแทนเพราะฝ่ายชายคราวนี้ก็ไม่ได้สูงไปกว่าคู่ของตนเองก่อนหน้านี้เลยสักนิด ……ผู้ชายสมัยนี้ตัวหดกันหมดหรือไง หรือว่าเขาสูงกว่ามาตรฐานชายทั่วไปกันแน่?

“สวัสดีครับผมชื่ออาร์มิน” ฝ่ายชายเอ่ยปากนะนำตนเองให้รู้จัก

“อ….เออ  เอเลนค่ะ” ไม่ได้เตรียมชื่อสำรองมาเอาชื่อจริงคงไม่เป็นอะไร ถึงแม้จะเจ็บใจแต่ชื่อจริงของเขาก็ไม่ได้บ่งบอกเพศสักเท่าไรเสียด้วย

“คุณนี่สวยจังเลยนะครับ ผมชักเริ่มอิจฉาคุณรีไวที่ได้ควงคุณมาซะแล้วสิ” เด็กหนุ่มผมสีทองยิ้มชื่นชมอย่างสุภาพและเป็นมิตร

“ไม่หรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ” ร่างโปร่งยังคงยิ้มและตอบกลับตามมารยาท

“ถ้าคราวหน้าผมจะขอเชิญคุณมาเป็นคู่ควง คุณจะให้เกียรติผมได้รึเปล่าครับ?”

“รู้สึกเป็นเกียรติค่ะ แต่ฉันไม่ชอบออกงานแบบนี้เท่าไร” แล้วจะไม่ใส่ไอชุดบ้าๆอย่างนี้อีกเป็นอันขาด!

“น่าเสียดายจังเลยนะครับ” อาร์มินหน้าหมองลงรู้สึกเสียดายที่หญิงสาวตรงหน้าปฏิเสธ

เมื่อจังหวะวอลซ์มาถึงช่วงเปลี่ยนคู่กลับคืนคู่เดิม ร่างโปร่งเตรียมหมุนตัวกลับไปหารีไว จังหวะที่กำลังปล่อยมือให้หมุนนั้นเด็กหนุ่มผมสีบลอนเขยิบใบหน้ามาชิดที่ข้างหูของร่างโปร่ง

“คราวหน้าเจอกันในชุดผู้ชายก็ได้นะครับเอเลน”

“เอ๊ะ?” นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างตกใจกับประโยคที่ได้ยิน นี่เขาหูฝาดไปรึเปล่า? ทำไมคนคนนั้นถึงได้รู้ล่ะ!! ก่อนที่จะได้คิดอะไรมือหนาของคนอายุมากกว่าที่ชอบลวนลามก็กลับมาลูบไล้ที่ถุงน่องสีดำ ทำให้ร่างโปร่งเลิกคิดถึงเด็กหนุ่มผมทองเมื่อสักครู่แล้วหันมารับมือกับชายหนุ่มมือปลาหมึกตรงหน้าแทน

!! คุณเลิกทำแบบนี้สักทีได้ไหมครับ!!” คิ้วมนขมวดมุ่นมองชายหนุ่มด้วยความขุ่นเคือง

“นั่นสินะ” มือซนของชายหนุ่มเปลี่ยนมาโอบเอวคู่เต้นรำตามปกติเช่นเดิม

เอเลนถอนหายใจอย่างโล่งอกที่คนช่างตื้อตรงหน้าตัดใจลวนลามเขากลางที่สาธารณะเสียที

“เห็นฮันซี่บอกว่าสอนแทงโก้ให้นายด้วย”

“อ๋อครับ คุณฮันซี่บอกว่าเผื่อเอาไว้เพราะไม่รุ้ว่าคุณเอลวินจะให้เล่นเพลงไหนบ้าง” ที่จริงเขารู้สึกว่าจังหวะที่ดุเดือดอย่างแทงโก้จะเข้ากับเขามากกว่าเสียด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างวอลซ์

“ยัยนั่นบอกนายเต้นแทงโก้ได้ดีกว่าวอลซ์”

“ก็คงจะอย่างนั่นล่ะครับ”

“เสียดายช่วงที่นายฝึกซ็อมฉันไม่ได้อยู่เลยไม่เคยเห็นนายเต้นเลย”

“แหะๆ” ใบหน้ามนยิ้มแห้งให้กับชายหนุ่ม ไม่เห็นน่ะดีแล้วล่ะครับ ท่าเต้นฝ่ายหญิงแค่คิดก็รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก

“แต่คิดว่ายัยนั่นคงโม้เกินจริง แทงโกเป็นจังหวะที่ยากมากอย่างนายคงไม่มีปัญญา” พูดพลางส่ายหัวไปมาราวกับว่าการที่คนตรงหน้าจะเต้นแทงโกได้นั้นเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่ออย่างมาก

ด้วยนิสัยมุทะลุไม่ยอมแพ้ และไม่ชอบให้ใครมาเหยียดหยามตนเอง พอถูกท้าทายและหยามมาแบบนี้ก็อดที่จะเลือดขึ้นหน้าไม่ได้

“จะลองพิสูจน์ดูไหมล่ะครับ” ไหนๆชุดผ่าขาแบบนี้ก็อำนวยอยู่แล้ว แบบนี้จะได้เห็นดีกัน

“โฮ่ งั้นขอลองพิสูจน์ดูหน่อยละกัน” รีไวหันไปพยักหน้าให้กับเอลวินที่ยืนอยู่ข้างวงดนตรีของงาน

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผมสีทองได้สั่งให้วาทยกรเปลี่ยนบทเพลงที่กำลังบรรเลง เมื่อเพลงวอลซ์ที่บรรเลงอยู่สิ้นสุดลงทุกคนเริ่มทยอยออกจากฟลอร์ เว้นแต่คู่หนึ่งที่กำลังมองหน้ากันอย่างไม่ว่างตา

ใบหน้ามนหวานเชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งเตรียมสำหรับการเข้าจังหวะเมื่อดนตรีบรรเลง

มือหนาดึงเนคไทที่ผูกอยู่ออก ก่อนจะจัดแจงปกปกเสื้อให้เปิดกว้าง ใบหน้าเฉยชายกยิ้มขึ้นพร้อมส่งสายตาดุดันมาที่ร่างโปร่งตรงหน้า

เมื่อเสียงไวโอลีนเริ่มบรรเลงเพลงแทงโก Por una Cabeza ร่างโปร่งบางก็ก้าวเท้าตามจังหวะเข้ามาหาชายหนุ่ม รีไวยื่นมือไปหาร่างโปร่งบางข้างหน้า มือหนายกขึ้นประคองมือบาง แขนเรียวยกโอบไหล่หนากำยำที่ตั้งตรง แขนแกร่งของชายหนุ่มประคองเข้าที่ช่วงตัวบาง ทั้งสองมองสบตากันด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยให้ดนตรีเป็นผู้ชักนำอารมณ์และจังหวะ

ขาของทั้งคู่ก้าวไปตามจังหวะแรกเริ่มที่เนิบนาบ หลังของทั้งสองยังคงตั้งตรงสง่างาม ปล่อยกายไปตามจังหวะดนตรี ขาเรียวยาวก้าวไปตามจังหวะเช่นเดียวกับอีกคนที่ถอยหลังตามจังหวะเช่นเดียวกัน แขนแกร่งยังคงประคองหลังไหล่บางไปตามท่วงทำนองการกาวช้าและเร็ว ใบหน้าของทั้งคู่เลื่อนเข้าใกล้กันและผละออก จนกระทั่งดนตรีถึงจุดบรรเลงเร้าอารมณ์ให้เร่าร้อนขึ้น ใบหน้ามนและใบหน้าคมหันไปมาตามจังหวะเสียงเพลง แขนแกร่งยืดออกไปด้านข้างพร้อมขาที่เริ่มก้าวยาวขึ้นเข้ากับจังหวะ เอเลนเตะขาไปมาตามจังหวะแทงโกเข้าขากับอีกฝ่าย ร่างโปร่งหมุนตัวแล้วโน้มลงเข้าหาคู่ของตน รีไวถอยหลังรับคู่ของตนลงมา

ชายหนุ่มยกตัวร่างโปร่งบางขึ้น เอเลนกระโดดยกตัวขึ้นนั่งลงบนหน้าขาแกร่งพร้อมทั้งเตะเท้าไปที่ด้านหลัง ก่อนจะผลิกตัวมาแล้วตวัดขาโอบเอวของชายหนุ่มไว้ รีไวแทรกขาเข้าที่หว่างขาของร่างโปร่งพร้อมทั้งดันตัวให้โน้มลงไปข้างหน้า เข้ากับจังหวะที่เร่าร้อนที่บรรเลง

 

การเต้นแทงโกของทั้งสองคนเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของคนในงานและให้ความสนใจกันมาก ส่วนหนึ่งเพราะเป็นคุณรีไว อีกส่วนก็เพราะหญิงสาวปริศนาที่วันนี้ชายหนุ่มควงมา รวมทั้งการเต้นของทั้งคู่แม้ใบหน้ายังคงนิ่งเฉย แต่ด้วยลีลาและบทเพลงทำให้ตอนนี้ฟลอเต้นรำกลางงานช่างดูเร่าร้อนเสียจนผู้ร่วมงานบางคนรู้สึกเขินอายกับบรรยากาศตรงหน้า

“เด็กคนนั่นมีเสน่ห์เหลือร้ายจริงๆนะ” เอลวินยกยิ้มกับให้กับภาพที่เห็นตรงหน้า

“ใช่ไหมล่ะ ไม่อย่างนั้นคนอย่างตานั่นคงไม่ลงทุนทำอะไรแบบนี้” ฮันซี่หัวเราะขำกับการหยอกล้อของเพื่อนตนเองที่มีต่อเด็กหนุ่มอย่างที่ไม่เคยเห็น

“เห็นหมอนั่นในมุมที่ไม่เคยเห็นมันก็สนุกดี ตราบเท่าที่ยังไม่เป็นปัญหาล่ะนะ”

“นั่นน่ะสินะ”

เพราะไม่รู้ว่าวงการนี้จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียกได้ว่าศัตรูอยู่รอบด้านดังนั้นการเชื่อใจใครหรือดึงใครเข้ามาสักคน ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกนักหรอกนะ เพราะไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วคนนั้นจะหักหลังเราเมื่อไร

 

ดนตรีบรรเลงมาถึงท่วงทำนองสุดท้าย ร่างโปร่งยกขาเกี่ยวกับขาแกร่งของชายหนุ่มพร้อมโน้มตัวลงไปด้านหลัง ขาแกร่งสอดแทรกเข้าหว่างกลางของขาที่พาดมาพร้อมทั้งโน้มตัวไปหาใบหน้ามนที่อยู่ใต้ร่าง มือหนาสอดเข้าลูบไล้ขาเรียวขึ้นมาจนถึงโคนขาบนเรียบรื่น มือเรียวโอบรอบที่ลำคอหนาพร้อมมืออีกข้างที่ชูขึ้น เป็นการสิ้นสุดการเต้นแทงโกที่เร่าร้อนของทั้งคู่

เมื่อดนตรีจบลงเสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องจัดงาน ร่างโปร่งและชายหนุ่มโค้งรับเสียงปรบมือแสดงความชื่นชม ใบหน้ามนหันมายิ้มอย่างผู้มีชัยให้กับคนสูงน้อยกว่า

“เป็นยังไงล่ะครับ?” เห็นฝีมือผมหรือยังล่ะ หึ หึ

“นายเซ็กซี่และเร่าร้อนมาเลยล่ะเอเลน” ใบหน้าเฉยชายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ไม่ปิดบัง ตอนนี้จึงพึ่งรู้สึกตัวว่าโดนคนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าหลอกเข้าให้แล้ว ยิ่งคิดว่าเมื่อสักครู่เต้นท่าไหนไปบ้างใบหน้ามนยิ่งขึ้นสีเหมือนมะเขือเทศสุก

“ค…..คุณ!!!!!!” เอเลนได้แต่อ้าปากค้างเมื่อรู้ว่าตนเองได้เผลอทำอะไรลงไป

“หืม?” ใบหน้าคมเลิกคิ้วถามอย่างไม่รู้สึกสำนึกสักนิด

“คุณมันเจ้าเล่ห์ที่สุด” เผลอหลงกลตามตาลุงบ้ากามนี่จนได้

“น้อมรับคำชม” โค้งศรีษะและจูบลงบนหลังมือร่างโปร่งตรงหน้า

ใบหน้ามนที่ขึ้นสีอยุ่แล้วยิ่งขึ้นสีกว่าเก่าไม่รุ้ว่าด้วยความโมโหหรือว่าอายตัวเองกันแน่ มือเรียวสะบัดออกจากมือหยาบของชายหนุ่ม

“ผมจะกลับแล้ว!” ไม่อยู่มันแล้วไองานบ้าๆนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้เขาขายหน้าอยู่ได้

“ก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้ฉันก็หมดหน้าที่แล้วด้วย” มือแกร่งโอบเข้าที่เอวของร่างโปร่งพาเดินออกจากงาน

พอออกมาถึงลอบบี้แทนที่ชายหนุ่มจะให้พนักงานเรียกรถเจ้าตัวกลับขึ้นลิฟต์ไปในอาคารโดยดึงอีกคนเข้าลิฟท์ตามมาด้วย

“เออคือเราไม่กลับคอนโดคุณเหรอ?” ใบหน้ามนมองชายหนุ่มอย่างแปลกใจ

“ไม่ล่ะฉันเหนื่อยแล้ววันนี้พักที่นี้นี่แหละ”

“ห๊ะ!! คุณไม่เห็นบอกผมก่อนเลย ผมจะกลับไปคอนโด!!!” ถ้าพักที่นี่สัญชาตญาณของเขากำลังร้องบอกว่าจะไม่ปลอดภัย

“นายจะกลับก็กลับไปเองแล้วกันนะ แต่ว่าไม่มีทั้งเงินติดตัวนายคงเรียกแท๊กซี่ไม่ได้ คงจะต้องเดินกลับทั้งชุดนั้นจริงไหมเอเลน?” รีไวยกยิ้มมองเด็กหนุ่มที่กำลังจ้องเขม็งมาอย่างโมโห

แบบนี้จงใจแกล้งกันชัดๆ ถ้าต้องออกไปเดินทั้งชุดนี้จริงเขายอมตายดีกว่า ทางกลับคอนโดของชายหนุ่มจะต้องผ่านร้านคุณฮันเนส และถ้าใครสักคนเกิดจำเขาได้ขึ้นมาล่ะก็ชีวิตชายหนุ่มของเขาได้จบกันพอดีน่ะสิ!!!

ร่างโปร่งบางจำใจเดินตามคนอายุมากกว่ามาจนถึงประตูหน้าห้อง รีไวรูดการ์ดเปิดห้องพักของตน

“เออ คุณรีไวแล้วห้องของผมล่ะครับ?” ถามไปทั้งที่รู้คำตอบ แต่ก็หวังว่าคนตรงหน้าจะปล่อยเขาไปสักวัน

“นี่ห้องสวีทหรูสุดเชียวนะ จะแยกกันนอนทำไมล่ะ” ต่อให้ห้องทำด้วยทองคำผมก็อยากแยกห้องนอนครับ

ห้องพักที่หรูหราพร้อมทั้งอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมายไม่ได้ทำให้เอเลนรู้สึกดีใจเลยสักนิด เพราะตอนนี้ต้องคิดหาหนทางเอาตัวรอดจากคนจอมเจ้าเล่ห์ตรงหน้าให้ได้เสียก่อน

“ง….งั้นผมนอนโซฟาละกันนะครับ คุณคงเหนื่อยนอนคนเดียวสบายๆที่เตียงเถอะ” เอเลนทิ้งตัวนั่งแผ่ลงบนโซฟาจองกรรมสิทธิของตนเรียบร้อย

“นายจะนอนโซฟาทำไม ห้องนี้เป็นเตียงขนาดคิงไซส์ที่ต่อให้นอนสัก5คนก็ยังนอนได้สบายเลยนะ” ก็เพราะมีคุณอยู่ไงครับ ต่อให้เตียงจะกว้างกว่านี้ผมก็ไม่อยากนอน!!

“ม….ไม่เป็นไรหรอกครับเชิญคุณรีไวนอนและชื่นชมกับความสวยงามและความเพียบพร้อมของห้องเลยนะครับ กระผมขอแค่อยู่ตรงนี้ก็สบายแล้ว วเหวอ!!

มือแกร่งโอบรอบเอวบางพร้อมยกขึ้นพาดบ่า

“เดี๋ยวก่อนคุณรีไวคุณทำอะไรน่ะ?!” เอเลนดิ้นไปมาโวยวายชายหนุ่ม

รีไวโยนร่างโปร่งลงบนเตียงหนานุ่มขนาดใหญ่ พร้อมทั้งขึ้นคร่อมร่างโปร่งที่กำลังเหงื่อตกทำอะไรไม่ถูก

“นอนบนเตียงจะได้ไม่ปวดหลังไงครับคุณผู้หญิง”

อะไรคือปวดหลังของคุณพี่ครับ?

“คคุณรีไว กฎข้อหนึ่งล่ะครับ”

ใบหน้าคมเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ “หืม? กฏของนายมันไว้ใช้ที่คอนโด แต่ที่นี้โรงแรมนะไอหนู”

!!!!! นี่คุณจงใจใช่ม๊ายยย จงใจแน่ๆ” ร่างโปร่งพยายามดิ้นไปมาให้หลุดพ้นจากแขนแกร่งที่ตรึงแขนของตนเองไว้

ใบหน้าคมซุกลงบนหน้าอกปลอมของเด็กหนุ่ม “โฮ่ ไอนี่ให้ความรู้สึกที่สมจริงดีนะ”

แม้จะรู้ว่าที่คนอายุมากกว่าซุกลงไปจะเป็นของปลอมที่ไม่ได้มีมาแต่กำเนิด แต่ท่าทางแบบนั้นทำให้รู้สึกอายอยู่ดี  ตาลุงบ้านี่!!

รีไวค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้ามาซุกลงกับลำคอขาวเนียนของคนใต้ร่าง ลิ้นร้อนโลมเลียเข้าที่ซอกคอขาว

“อึก! คุณรีไวปล่อยเถอะครับ” ถ้าลูกดื้อไม่ได้ผลก็ต้องลองลูกอ้อนดูบ้างเผื่อคนตรงหน้าจะยอมใจอ่อน

ริมฝีปากคมเคลื่อนมาขบเม้นที่ติ่งหูของร่างโปร่ง “ฉันเป็นคนไม่ชอบเสียโอกาสซะด้วยสิ” กระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของคนใต้ร่าง

“ค…..คุณรีไว” เอเลนปลับตาปี๋กับสัมผัสแปลกๆของชายหนุ่มตรงหน้า ทั้งรู้สึกจั๊กจี้แต่ก็รู้สึกแปลกๆเช่นกัน

“หึ” รีไวกลั้นขำกับท่าทางที่หวาดกลัวเหมือนลูกหมาของร่างโปร่ง “เห็นแก่ความดีของนายวันนี้ฉันจะปล่อยไปสักวัน”

มือแกร่งที่ทางทับลงมาคลายออก ชายหนุ่มทิ้งตัวลงไปนอนข้างร่างโปร่ง

เอเลนรีบลุกขึ้นนั่งเมื่ออีกคนผละตัวออกไป ร่างโปร่งถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ชายหนุ่มเกิดเปลี่ยนใจกระทันหัน

รีไวดึงข้อมือบางของคนด้านข้างลงมา เอเลนที่ไม่ทันตั้งตัวจึงเซล้มเข้ากับแผ่นอกหนาของคนที่นอนอยู่ เมื่อใบหน้ามนเงยสบมองอีกคน มือหยาบก็สอดเข้าที่ท้ายทอยดันให้ใบหน้ามนเคลื่อนเข้ามาใกล้ ริมฝีปากบางทาบทับลงบนปากคมของคนที่นอนอยู่

“อื้อ!” ลิ้นร้อนกระหวัดหยอกเย้าลิ้นบางที่พยายามดันหนี คนรุกล้ำก็พยายามดึงดันเกี่ยวกระหวัดไล่ต้อนอย่างไม่ลดละ เสียงของน้ำลายที่แลกเปลี่ยนกันไปมาดังก้องไปทั่วทั้งห้อง

มือบางทุบลงบนอกชายหนุ่มเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตนเองเริ่มขาดอากาศหายใจ ริมฝีปากของชายหนุ่มผละออกเผยให้เห็นเส้นใยใสบางที่แลกเปลี่ยนกันกับเด็กหนุ่มยืดออกมาก่อนที่ร่างโปร่งจะทรุดหน้าลงกับไหล่แกร่ง

“แฮ่ก….. แฮ่ก…. แฮ่ก….” หมอนี่ทำไมจูบเก่งนักนะ

“ถ้านายอยากจะต่อฉันก็ยินดีนะ” มือซนของคนอายุมากกว่าเริ่มไล้เข้ายังโคนขาเรียวที่ห่อหุ้มด้วยถุงน่องสีดำลื่นมือ มืออีกข้างลูบไล้สะโพกมนกลมกลึงทั้งบีบเค้นเบาๆ

เอเลนรีบยันตัวเองลุกขึ้นมาด้วยใบหน้าขึ้นสี พร้อมทั้งดันมือซนของคนตรงหน้าออก “ไม่อยากต่อแม้แต่น้อยครับ”

รีไวยกมือยอมแพ้กับเด็กหนุ่มแสนดื้อรั้นตรงหน้า “โอเคตามใจนาย แล้วนายจะอยู่ในสภาพนั้นจนเช้าหรือไง?”

“แต่ผมไม่มีชุดเปลี่ยน” เขาอยากจะถอดชุดบ้าๆแบบนี้เต็มทนแล้วเหมือนกัน

“ฉันเตรียมไว้แล้วนายไปอาบน้ำได้เลย”

นัยน์ตาสีมรกตมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย “เออชุดของคุณคงไม่ใช่กระโปรงนะครับ?”

“หืม นายชอบแบบนั้นงั้นเหรอ งั้นฉันให้ที่ล็อบบี้เตรียมชุดซีทรูให้นายดีไหม?” พูดพลางเอื้อมหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียง

มือเรียวรีบคว้าแย่งโทรศัพท์ของชายหนุ่มทันที “พอเถอะครับคุณรีไว” ใบหน้ามนหันไปมองชายหนุ่มอย่างเหนื่อยหน่าย

“ตามใจนาย” ร่างแกร่งทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง พร้อมทั้งไล่เด็กหนุ่มไปจัดการตนเองให้เรียบร้อย

เมื่อมาถึงห้องน้ำก็พบชุดนอนสำหรับเปลี่ยนวางไว้เรียบร้อย พอเห็นว่าเป็นชุดนอนสีฟ้าลายทางปกติก็รู้สึกโล่งใจทันที ร่างโปร่งจึงจัดการสลัดคราบสาวสวยแสนเซ็กซ่ของวันนี้ออกอย่างไม่รอช้า โดยเฉพาะการถอดเจ้าหน้าอกปลอมคัพซี เป็นอะไรที่เขาอยากทำมากที่สุดเลยก็ว่าได้

ขณะกำลังอาบน้ำชำระร่างกายอย่างสบายใจสายตาก็พลันหันไปมองกับกระจกบานใหญ่แล้วต้องตกตะลึง เพราะกระจกนี้มองเห็นห้องนอนซึ่งชายหนุ่มกำลังหัวมานอนจ้องมองอยุ่บนเตียงอย่างสบายใจเฉิบ

“อ้าวนายรู้ตัวแล้วสินะ” ใบหน้าคมเอ่ยขึ้นอย่างนิ่งเฉย

“ยอย่าบอกนะครับว่า….” ไอกระจกนี้มองทะลุไปได้น่ะ

“ก็อย่างที่นายคิดนั้นแหละ”

!!!!! พอได้รับคำตอบเอเลนรีบจัดการล้างสบู่ที่อยู่บนตัวเองแล้วเช็ดตัวออกจากห้องน้ำทันที

“อย่างที่บอกมันเป็นห้องสวีทสำหรับคู่รัก กระจกแบบนี้ก็โรแมนติกไปอีกแบบว่าไหม” ชายหนุ่มยกยิ้มให้กับร่างโปร่งที่รีบเดินออกมาจากห้องน้ำโปร่งใส

ไม่โรแมนติกครับแบบนี้แถวบ้านผมเรียกอีโรติกต่างหากล่ะคุณพี่!!!

แต่แล้วใบหน้ามนต้องขึ้นสีระเรื่ออีกครั้งเมื่อถึงคราวชายหนุ่มไปอาบน้ำ แล้วดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้ใส่ใจเลยว่ากระจกมันโปร่งใสจนมองเห็นทะลุทุกซอกทุกมุม

ยิ่งหยาดน้ำที่ไหลลงบนแผงอกกำยำและแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ถึงแม้จะเป็นผู้ชายด้วยกันแต่เด็กหนุ่มก็อดรู้สึกเขินไม่ได้อยู่ดี

ทำไมคุณรีไวหุ่นดีจนน่าหมั่นไส้ชะมัด ทั้งที่รูปร่างก็ดี หน้าตาก็ดี ฐานะก็ดี เสียแต่แค่ส่วนสูงและความเถื่อนไหนจะความขี้แกล้งอีก มาคิดดูแล้วคนแบบนั้นไม่น่าที่จะมาสนใจเด็กแบบเขาได้เลยสักนิด หรือว่าชอบของแปลก? ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าต้องการอะไรกันแน่ ถ้าจะบอกว่าชอบเขาก็ยิ่งไม่มีทางเข้าไปใหญ่ ถ้าบอกว่าชอบที่จะแกล้งเขายังดูเป็นไปได้มากกว่าเสียอีก แล้วต่อไปนี้เขาควรต้องทำยังไงดีกันล่ะเนี่ย?

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 มีนาคม 2557 เวลา 17:33

    เกือบไปแล้วไหมละเอเลน ถถถ
    อาร์มิน เมพอะ ที่จริงแล้วนายเป็นเอสเปอร์หรืออะไรทำนองนั้นสินะ?

    ในที่สุดก็สลัดคราบหญิบสาวเสียที
    ยังไงก็ชอบแบบผู้ชายมากกว่าละน้า
    มันได้อารมณ์อีโรติกมากกว่า #โดนเอเลนต่อย

    รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ สู้ๆ ค้า ฮริ้วววว
    เดี๋ยวไปอ่านอีกเรื่องต่อ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เอเลนชายเต็มตัวช่างเซะกุซี่เเละเย้ายวนค่ะยิ่งเอวบางๆยิ่งน่าลูบ(อุดกำเดา)

      ลบ