วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Special Lesson of love: 25 Dec.


Special Lesson of love: 25 Dec.

Joy to the world! The Lord has come
Let earth receive her King!
Let every heart prepare Him room

And heaven and nature sing
And heaven and nature sing....

 

            เสียงเพลงเฉลิมฉลองเทศกาลดังไปทั่วเมือง เพราะเป็นคืนคริสมาสอีฟในตัวเมืองยังคงครึกครื้นไปด้วยคู่รักที่เฉลิมฉลอง ครอบครัว หรือเหล่าคนที่พากันไปทำพิธีทางศาสนาที่โบสถ์ จะมีก็แต่เพียงรีไวที่รู้สึกว่า   คริสมาสเป็นเวลาที่ต้องเตรียมตัวและรับมือกับสถานการณ์ที่น่าปวดหัว

            “เฮ้เจ้าหนูตื่น”  รีไวเขย่าตัวของเด็กน้อยที่หลับพริ้มอย่างเป็นสุข

            “เอเลน ลุกได้แล้ว”

            เอเลนที่เริ่มรู้สึกตัวค่อยๆขยับ ตาที่งัวเงียพยายามปรือมองชายหนุ่มที่เข้ามาปลุก มือเล็กๆขยี้ตาของตัวเอง

            “งือ.. เอ..เลน..ยัง..ง่วง..อยู่เลย” เสียงงัวเงียตอบกลับ เปลือกตาที่หนักอึ้งยังไม่ยอมลืมโดยง่ายจึงตอบไปทั้งที่ตาก็ยังคงปิด

            “ขอโทษที่ปลุกเจ้าหนู แต่ถ้าไม่ไปตอนนี้มันจะไม่ทัน” รีไวจัดการถอดชุดนอนของเด็กน้อยขี้เซาออก พร้อมทั้งเปลี่ยนเป็นชุดไปรเวทและคลุมทับด้วยเสื้อกันหนาวตัวใหญ่เพื่อป้องกันอากาศที่หนาวเหน็บข้างนอก

            เอเลนยังคงสัปหงก บ้างก็ยืนและล้มลงไปนั่งด้วยความง่วง กว่าที่รีไวจะจัดการเปลี่ยนชุดให้เจ้าตัวดีเสร็จก็เสียเวลาไปมาก  รีไวเหลือตามองนาฬิกาที่ตอนนี้ใกล้เที่ยงคืนของวันใหม่แล้ว อย่างน้อยตอนนี้น่าจะทันอยู่

            มือหยาบจัดการหิ้วกระเป๋าลากใบใหญ่ที่จัดเตรียมสัมภาระล่วงหน้าเรียบร้อย ก่อนจะพยายามจูงมือเด็กน้อยที่หลับทั้งยืน แต่เมื่อจูงให้เดินตาม เอเลนเพียงแค่เดินได้ก้าวเดียวก่อนจะล้มลงไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับพื้นพร้อมหัวที่สัปงกโคลงเครง

            รีไวได้แต่ถอนหายใจ ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องอุ้มเจ้าตัวดีไปสถานเดียว แต่เมื่อพยายามจะอุ้มเอเลนก็หงายลงไปด้านหลัง เขาเลยต้องวางกระเป๋าแล้วจัดการอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นให้แขนเล็กๆนั้นกอดคอเขาเอาไว้แล้วจึงลากกระเป๋าอีกครั้ง แต่กว่าจะลากกระเป๋าและพยายามเปิดประตูก็ทำให้เขาเสียเวลาไปอีกมาก เมื่อประตูเปิดออกขาที่จะก้าวข้ามธรณีประตูต้องหยุดชะงัก

 

            Merry Christmas and Happy Birthday รีไว”

            ......ผลสุดท้ายก็ไม่ทัน....

            คิ้วคมขมวดมุ่นพร้อมใบหน้าบอกบุญไม่รับมองเหล่าเพื่อนร่วมงานที่ขนกันมาอยู่หน้าบ้านเขาอย่างไม่สบอารมณ์

            “พวกคุณอามาช้าจังฮะ เอเลนนึกว่าจะไม่ทันแล้ว” เสียงใสที่ร่าเริงตะโกนอย่างดีใจพลางยิ้มไปให้เหล่าผู้บุกรุก

            รีไวหันมองใบหน้ามนที่อยุ่ห่างกันแค่คืบอย่างคาดโทษ แต่ใบหน้าใสซื่อนั่นทำเพียงยิ้มกว้างมาให้เขา ตกลงที่ปลุกไม่ยอมตื่นแล้วท่าทางขี้เซาขนาดนั้นเป็นเพราะต้องการจะถ่วงเวลาเขาไว้งั้นเหรอ ร้ายไม่เบาชะมัดเจ้าเด็กนี่... แล้วดูตอนนี้นัยน์ตาสีมรกตนั่นลืมตาโตเป็นประกายฉายแววสดใสไม่มีเค้าของความง่วงแบบก่อนหน้านี้สักนิด

            “เก่งมากเอเลนตรงตามแผนเด๊ะ!” ฮันซี่ยกนิ้วโป้งเด็กน้อยที่ทำหน้าที่ได้ตามมอบหมาย

            “พวกนายวางแผนกันตั้งแต่เมื่อไร?” รีไวส่งสายตาตำหนิไปให้เอลวินที่ในมือเต็มไปด้วยอาหารสำหรับจัดเลี้ยงมากมาย

            “ปีที่แล้วหัวหน้าแอบหนีพวกเราไปนี่คะ ปีนี้เลยต้องขอให้เอเลนช่วย” เพทร่ามองไปที่กระเป๋าลากใบใหญ่ที่อยู่ในมือชายหนุ่ม ดูยังไงปีนี้ก็คงคิดจะหนีอีกไม่ผิดแน่

            “ชิ” รีไวสบถอย่างหัวเสีย

            “เอาน่าไหนๆก็มากันแล้วเรามาฉลองกันดีกว่า” ฮันซี่ที่เตรียมจะบุกเข้าไปในบ้านต้องชะงัก เมื่อขาของชายหนุ่มยันที่ประตูห้ามไว้

            “พวกนายคิดว่าห้องแคบๆแบบนี้จะรับคนเกือบสิบคนไหวเหรอไงได้ขี่คอกันพอดี”

            เอลวินคิดพิจารณาสักครุ่ จริงอย่างที่รีไวว่า เพราะห้องของรีไวก็แคบเกินกว่าที่จะรองรับทุกคนได้จริงๆ อีกอย่างยังมีไมค์และนานาบะที่บอกว่าจะตามมาสมทบที่หลังด้วยแล้ว ยิ่งน่าจะไม่พอ แต่ถึงอย่างนั้นไหนๆก็มาแล้วเบียดกันหน่อยในคืนที่หนาวๆแบบนี้ก็อบอุ่นดี

            “ไม่มีปัญหา” ฮันซ่ที่ไม่สนใจหน้าอินท์หน้าพรหมกระโดดข้ามขาแกร่งที่ขวางประตูเข้าไป

            คนอื่นที่เห็นว่าฉันซี่จัดการเข้าไปเปิดไฟแล้วเริ่มหาที่นั่งอย่างถือวิสาสะจึงเริ่มเบียดตัวกันเข้าไปข้างในบ้างโดยไม่สนใจเจ้าของห้อง

            “หนาวชะมัดเลยวันนี้” กุนเทอร์ถูมือไปมาก่อนจะถอดเสื้อโค๊ทแขวนกับราวแขวนหน้าทางเดินเข้าห้อง

            “อยู่รวมกันในห้องแคบๆแบบนี้ก็อุ่นดีนะครับหัวหน้า” เอริ์ดเริ่มช่วยเพทร่าและออลโอหยิบจานที่จัดเก็บในตู้ของเจ้าของบ้านออกมา

            รีไวได้แต่มองเหล่าเพื่อนที่สะกดคำว่าเกรงใจไม่เป็นแต่ละคน เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนเริ่มดิ้นขลุกขลักจนชายหนุ่มต้องปล่อยตัววางลงกับพื้น เจ้าตัวดีรีบวิ่งไปยังส่วนของครัวเพื่อช่วยหยิบจานออกมาวางที่โต๊ะรับแขกกลางห้อง

            “ทำใจซะพวก” เอลวินตบลงบนบ่าชายหนุ่มที่ยังคงมองด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเบียดตัวเข้าไปหาที่ว่างเพื่อนั่ง

            รีไวมองเหล่าคนที่เตรียมจัดปาร์ตี้แล้วต้องถอนหายใจ สรุปว่าปีนี้เขาก็ต้องยอมรับมันอย่างช่วยไม่ได้อีกตามเคย...

            “ทุกคนอาหารพร้อมแล้วค่ะ”  เพทร่าจัดแจงวางอาหารที่ทำเสร็จเรียบร้อยไว้ที่โต๊ะ เมนูอาหารคริสมาสต่างถูกทยอยออกมาราวกับถูกสั่งมาจากร้านอาหารขึ้นชื่อ ทั้งไก่งวง สปาเก็ตตี้ สลัด พิซซ่า เนื้ออบ ทุกรายการส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลจนทุกคนเริ่มน้ำลายสอ

            “วันนี้พวกนายไม่ไปโบสถ์ หรืออยู่กับครอบครับหรือไง?” รีไวยกชาร้อนขึ้นจิบพลางเอ่ยถาม

            “ไปมาแล้วค่ะ พอเสร็จที่โบสถ์ก็รีบแวะมารวมตัวที่นี้เลย” เพทร่าตอบพลางหั่นไก่งวงใส่จานเล็กแจกจ่ายทุกคน

            “ตอนเช้าผมมีไปต่างจังหวัดกับครอบครัวต่อ” กุนเธอร์ตอบพลางหาเพลงในโทรศัพท์เพื่อเปิดคลอบรรยากาศ

            “ตอนเช้าผมเองก็มีนัดกับแฟนเหมือนกันครับ ตอนแรกชวนเธอมาที่บ้านหัวหน้าแต่เธอติดไปโบสถ์กับครอบครับ” เอิร์ดว่าพลางหยิบหมวกซานต้าขึ้นมาสวม

            “ส่วนของผม”

            “พอๆ” รีไวยกมือปรามออลโอ้ที่กำลังจะพูดต่อ พลางถอนหายใจอีกครั้ง สรุปว่าเจ้าพวกนี้สรรหาเวลาเพื่อมาฉลองวันคริสมมาสและวันเกิดให้เขาจนได้ ทั้งที่เคยบอกหลายครั้งแล้วว่าไม่จำเป็น เขาคิดว่าวันเกิดซึ่งเป็นช่วงเวลาเทศกาลแบบนี้ทุกคนควรใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือคนรักดีกว่าที่ต้องมาเสียเวลาอยู่กับเขา

            “พวกเขาเต็มใจ ไม่สิ พวกเราอยากใช้เวลาช่วงเทศกาลสำคัญนี้อยู่ด้วยกันและอยุ่กับนาย ถ้านายปฏิเสธมันคงไม่ดี” เอลวินกระซิบบอกพลางยกยิ้ม รอยยิ้มที่รีไวคิดว่าน่าหมั่นไส้ที่สุด

            รีไวมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของแต่ละคนแล้วได้แต่ปลงตกยอมรับ ทั้งที่คิดว่าไม่ได้อยากสร้างความลำบากหรือให้พวกนั้นต้องเกรงใจมาทำอะไรแบบนี้ให้เขา แต่ถ้าเป็นความเต็มใจที่ทำให้แบบนี้ ถ้าเขาไม่รับไว้คงไม่ดีจริงๆ ใบหน้าเคร่งขรึมเริ่มเปลี่ยนอ่อนโอนตาม

           

            “นี่ทุกคน ดูสิ ดูสิ น่ารักไหม!!!” เสียงฮันซ่ดังแปดหลอดตะโกนถามจนทุกคนต้องหันไปมองตาม

            เด็กน้อยเอเลนก้าวออกมาพร้อมชุดสีแดงประดับด้วยขอบขาวราวปุยนุ่นของผ้าสำลี สวมใส่ถุงมือสีขาวและถุงเท้า พร้อมมวกซานต้าสีแดงที่สวมใส่บนหัวสีน้ำตาล

            “เอเลนน่ารักมากเลย!!” เสียงทุกคนต่างตะโกนตอบเป็นเสียงเดียว ยิ่งใบหน้ากลมมนนั่นยิ้มอย่างเขินอายยิ่งทำให้เราผู้ใหญ่ต่างพากันต้องก้มลงกับพื้นสกัดกั้นความคิดแปลกๆที่ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อมองใบหน้าหวานนั้น

            เอเลนเดินเตาะแตะไปหารีไวพลางหมุนตัวโชว์ชุดที่ถูกฮันซี่จับใส่ให้ดู

            “เป็นไงมั่งฮะคุณอา?” เด็กน้อยถามด้วยแววตาตื่นเต้นเป็นประกาย

            รีไวตบลงบนผมสีน้ำตาลเบาๆพลางยิ้ม

            “น่ารักดี”

            คำตอบนั้นทำให้ใจดวงเล็กๆพองโต เด็กน้อยยิ้มกว้างจนแก้มปริ

            “คุณฮันซ่บอกว่านี่เป็นชุดซานต้าครอส วันนี้เอเลนเป็นคุณลุงซานต้าล่ะ แต่คุณอาฮันซี่บอกว่าลืมเอากางเกงมาเอเลนเลยต้องใส่กางเกงขาสั้นแทน” เอเลนเปิดชุดสีแดงให้รีไวดูกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนที่ใส่อยู่ข้างใน

            รีไวตบลงบนผมสีน้ำตาลอีกครั้งพลางมองไปที่ยัยแว่นสี่ตาที่ทำหน้าตายิ้มเจ้าเล่ห์จนน่าหมั่นไส้ แทนที่จะบอกว่าลืมเอากางเกงมาต้องบอกว่ายัยนั่นจงใจซื้อชุดซานต้าริน่ามาให้เด็กน้อยใส่ถึงจะถูก เพราะชุดสีแดงยาวที่คาดเข็มขัดทับสีดำนั่นดูยังไงท่อนล่างมันก็กระโปรงชัดๆ เจ้าหนูน้อยโดนยัยวิปริตนั่นหลอกเสียแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่รู้จะอธิบายให้เอเลนที่กำลังตื่นเต้นดีใจว่ายังไงจึงได้แต่พยักหน้ารับตาม แต่ก็ว่าเถอะเอเลนที่ใส่ชุดซานต้าริน่านั่นน่ารักจนเขาไม่คิดจะตะขิดตะขวงใจให้ไปเปลี่ยน

 

          ปิ๊ง ป่อง

            เอลวินอาสาไปเปิดประตูหลังจากที่ได้ยินเสียงออดดัง รีไวมองประตูพลางเลิ่กคิ้วสงสัย อย่าบอกนะว่ายังมีแขกมาอีก ห้องเขานี่แทบจะระเบิดอยู๋แล้วกับการอัดคนเข้ามาขนาดนี้

            “ขอโทษที่มาช้า เครื่องบินดีเลย์เพราะอากาศแปรปรวนนิดหน่อย”

เอลวินช่วยปัดหิมะของผู้ชายตัวโตกว่าออก

“ขอบใจที่นายช่วยไปเป็นธุระรับพี่เขาแทนฉันไมค์”

            สายลมเล็กเคลื่อนที่ยังรวดเร็วพุ่งเข้าไปหาเด็กน้อย ผมสีดำปลิวสยาย แขนเล็กๆรวบกอดร่างเล็กของเอเลนอย่างแนบแน่น

            “คิดถึงมากเลยเอเลน”

            “ม.. มิคาสะ” เอเลนเขยิบตัวค่อยมองหน้าเด็ดสาวตรงหน้าที่มีน้ำตาคลอเบ้า

            “มิคาสะปัดหิมะออกจากตัวก่อนสิลูก” เสียงของหญิงสาวเอ่ยทักท้วงเมื่อเห็นบุตรสาวกระโจนเข้าไปในห้องโดยที่ยังมีหิมะคลุมบนเส้นผม

            “พี่?”  รีไวมองหน้าแขกยามวิกาลอย่างแปลกใจ ไม่เห็นพี่เขาจะติดต่อมาก่อนว่าจะมาหาเขาวันนี้

            “ต้องขอบคุณเอลวินที่สามารถหาตั๋วเครื่องบินช่วงเทศกาลแบบนี้ได้ และไมค์กับนานาบะที่ขับรถไปรับพวกเราทั้งสองคนมานะ” หญิงสาวเข้าไปกอดน้องชายของตนเองพร้อมทั้งจูบทักทายให้หายคิดถึงจนรีไวต้องดันหัวพี่สาวของตัวเองออก

            “แล้วพี่เขยเขาไม่มาด้วยเหรอ?” เอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีแค่พี่สาวและหลานสาวตัวแสบของเขาเท่านั้น

            “ที่ฟาร์มช่วงคริสมาสยุ่งน่าดูเลย รายนั้นเลยต้องจัดการงานทั้งหมดน่ะจ้ะ”

            “ถือว่าเป็นของขวัญจากฉันนะสหาย” เอลวินหัวเราะขำเมื่อเห็นทีท่าแปลกใจของรีไว แต่ท่าทางนั่นแฝงด้วยความยินดีอย่างเหลือล้น

            “นานแล้วนะที่พี่ไม่ได้ร่วมฉลองคริสมาสและวันเกิดให้กับน้องชายคนนี้” ร่างโปร่งโอบกอดน้องชายอีกครั้งเพื่อถ่ายทอดให้รู้ว่าเธอยินดีเพียงใดกับการที่ได้มาในครั้งนี้

            “คิดถึงเธอเช่นกันนะเอเลน” หญิงสาวเข้าไปกอดเด็กชายตัวน้องพลางหอมแก้มนุ่มนิ่ม

            “ดูเหมือนตาแก่วายร้ายนั้นจะดูแลเธอดีใช่ไหม?” มิคาสะจับแก้มนุ่มนิ่มของเอเลนพลางขยับไปมา

            เอเลนได้แต่หัวเราะยิ้มเมื่อเจอทั้งสองคน สองแขนเล็กพยายามโอบรอบทั้งสอง

            “เอเลนก็คิดถึงทั้งคุณอาและมิคาสะฮะ” เด็กชายยิ้มแก้มปริพลางจูบตอบคนทั้งคู่

            “เอเลนน่ารักจังเลย” มิคาสะหมุนตัวเด็กชายไปมาเพื่อดูชุดที่อีกฝ่ายสวมใส่ ซึ่งเอเลนก็ภูมิใจกับชุดที่ฮันซ่หลอกจับเขาใส่อย่างไม่รู้ตัว

            “คุณเอลวินขี้โกงนี่คะ เราก็มีของขวัญวันเกิดให้หัวหน้านะ” เพทร่าที่เริ่มหน้าแดงด้วยฤทธ์แอลกอฮอลส่งเสียงอย่างไม่พอใจก่อนจะคว้ากล่องของขวัญของตัวเองออกมาแล้วปาใส่ให้หัวหน้าของเธอที่รับได้อย่างแม่นยำ เพทร่าชูนิ้วโป้งให้รีไวก่อนจะคอพับลงไปกับโต๊ะกลางห้อง

            คิ้วคมกระตุกเล้กน้อย เพราะแบบนี้ไงเขาถึงไม่อยากให้จัดงานให้เขา ดูเหมือนว่าห้องเขาจะเริ่มเต็มไปด้วยกองขยะ โดยเฉพาะเหล่าขยะชิ้นใหญ่ที่เรียกว่า พวกขี้เมา

            “เอเลนก็มีของขวัญให้คุณอานะฮะ” เด็กน้อยกระตุกชายเสื้อของรีไว ก่อนจะยื่นมือของมือใหญ่ให้มาจับ

            เอเลนพารีไวไปนั่งยังที่ว่างบนโซฟาที่ยังเหลืออยู่ เด็กชายตัวน้อยวิ่งไปขอให้กุนเธอร์เพื่อให้ปิดเพลงในโทรศัพท์ที่กำลังดังคลองานปาร์ตี้ ฮันซี่เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เดินมาท้าวที่พนักพิงโซฟาหลังรีไวพร้อมขวดเหล้าที่อยู่ในมือ

            “นายต้องขอบคุณฉันรู้ไหม พ่อโชตะค่อน” ไม่วายที่ฮันซี่ยังคงกวนประสาทชายหนุ่ม คนเริ่มเมากรึ่มๆจึงโดนตบเข้าที่หน้าผากจนเกือบหงายหลัง

            เมื่อเสียงเพลงเงียบลง เอเลนจึงวิ่งไปยังหน้าโต๊ะรับแขก สายตาทุกคู่มองไปที่เด็กชายตัวน้อยในชุดซานตาริน่าที่กำลังตื่นเต้นระคนประหม่าอย่างน่าเอ็นดู

            “วันนี้วันเกิดคุณอา.. เออ.. เอเลน เลยไปขอให้คุณอาฮันซ่และทุกคนช่วยคิดของที่จะให้ เอเลนไม่รู้ว่าคุณอาจะชอบไหม... แต่เอเลน อยากให้คุณอาฮะ”

            เด็กน้อยยิ้มแก้มปริ สายตาของเอเลนเหลือบไปมองยังฮันซี่คนช่วยคิด ฮันซี่พยักหน้าให้กับเด็กน้อยก่อนจะชูแก้วเหล้าในมือราวกับให้กำลังใจ

            เสียงใสเล็กๆค่อยเอ่ยเป็นทำนอง

Silent night, Holy night
All is calm, all is bright
Round yon virgin, mother and child
Holy infant, tender and mild
Sleep in heavenly peace,
Sleep in heavenly peace.

Silent night, Holy night
Son of God, love's pure light
Radiant beams from thy holy face
With the dawn of redeeming grace,
Jesus, Lord at thy birth
Jesus, Lord at thy birth.

Silent night, Holy night
Shepherds quake, at the sight
Glories stream from heaven above
Heavenly, hosts sing Hallelujah.
Christ the Savior is born,
Christ the Savior is born.

                เมื่อเพลงจบเด็กน้อยยิ้มให้กับชายหนุ่ม ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาพร้อมทั้งยื่นการ์ดที่เจ้าตัวทำให้ บนการ์ดเป็นรูปวาดที่คาดว่าน่าจะเป็นรูปของเขากับเอเลน หลังการ์ดเขียนคำอวยพรของเด็กน้อยที่มีต่อเขามากมาย จวบจนบรรทัดสุดท้าย คงเป็นความในใจของเจ้าตัว

            ขอให้เอเลนได้อยู่กับคุณอารีไวตลอดไป...

            “เมอร์รี่คริสมาสและสุขสันต์วันเกิดฮะคุณอา” เด็กน้อยกระโจนเข้ากอดชายหนุ่มนัยน์ตีสีมรกตช้อนมองพลางยิ้มกว้างอย่างปิติ

            มือหยาบลูบลงบนผมสีน้ำตาลพร้อมทั้งยิ้มบางให้เด็กชาย

            “เมอร์รี่คริสมาสเช่นกันเอเลน ขอโทษที่ไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ให้มีอะไรอยากได้ไหม?” คิดว่าจะแอบหนีไปที่อื่น จึงไม่ได้นึกถึงเรื่องของขวัญตามเทศกาลให้เจ้าหนู

            ใบหน้ามนครุ่นคิดสักครู่ก่อนเอ่ยตอบ

            “ให้เอเลนอยู่กับคุณอาได้ไหมฮะ?”

            “แบบนั่นมันไม่เรียกว่าของขวัญเสียหน่อย” รีไวขมวดคิ้วแปลกใจกับคำถามของเด็กชาย

            “ขอที่เอเลนอยากได้ ก็คือได้อยู่กับคุณอาฮะ” มือเล็กกำแน่นพลางส่งสายตามองอย่างออกอ้อน

            ดูว่าเขาคงต้องไปคิดหาของขวัญให้เจ้าตัวดีทีหลังเสียแล้ว

            “ขอแบบนั้นนายไม่จำเป็นต้องขอ ฉันก็ให้นายอยู่ด้วยอยู่แล้ว”

            ใบหน้ากลมมนยิ้มกว้าง สองแขนเล็กกอดรัดชายหนุ่มแน่นพร้อมทั้งเอาหน้าที่อกชายหนุ่ม

            “แหม เห็นแบบนี้แล้วฉันรู้สึกปลื้มจัง” เสียงของพี่สาวเอ่ยชม ทั้งแปลกใจและทั้งดีใจ

            “ดีจังเลยนะรีไว” มือของพี่สาวลูบลงบนผมสีดำของชายหนุ่ม ดีแล้วที่เอเลนกับรีไวได้อยู่ด้วยกัน ราวกับทั้งสองต่างเติมช่องว่างที่มองไม่เห็นให้แก่กัน แม้จะมองไม่เห็นแต่กลับเด่นชัดในความรู้สึก

            “นี่ๆคุณอา” มือเล็กของเด็กสาวกระตุกที่แขนเสื้อของชายหนุ่ม

            “วันนี้เป็นวันคริสมาส เพราะงั้นยกเอเลนเป็นของขวัญให้มิคาสะนะ” เด็กสาวทำหน้าบึ้งงอนแบมือขอของขวัญของเธอจากชายหนุ่ม

            รีไวยกยิ้มยียวนก่อนจะอุ้มเด็กชายตัวน้อยขึ้นมาไว้ที่ตัก

            “เหมือนวันนี้เอเลนจะเป็นของขวัญของฉันนะยกให้เธอไม่ได้หรอก”

            นัยน์ตากลมโตสีราตรีเขม่งมองอย่างไม่สบอารมณ์

            “ตาแก่ขี้งก” เสียงใสของเด็กสาวเอ่ยคำราม

            “ยัยเด็กแก่แดด” ดูเหมือนว่าบางทีเขาต้องหาเวลาสั่งสอนหลานสาวตัวแสบของเขาเสียบ้าง

            เหล่าผู้ร่วมงานต่างมองภาพตรงหน้าพลางหัวเราะขำจนทั้งคุ่ได้แต่มองหน้ากันก่อนจะหันไปอีกทาง ใบหน้าคมคายเฉยชายกยิ้มบาง ทั้งที่คิดว่าไม่ได้อยากทำให้ใครต่อใครวุ่นวายกับเรื่องของเขา แต่เป็นแบบนี้แล้วก็ต้องยอมรับว่ารู้สึกไม่เลว.....

 
Fin.
.................................................
Talk: ขอโทษที่ช้าไปวันนึงค่ะ แต่อย่างน้อยก๊มีนะงือออ แม้จะเลทแต่เป็นตอนพิเศษช่วงเทศกาบครั้งแรกที่ไม่มีเรท(เหมือนมีคนน้อยใจ...) เอาน่ารอเด็กโตก่อนค่อยว่ากันนะคะ

สุขสันต์วันเกิดรีไวซัง และสุขสันต์วันคริสมาสทุกท่าน รวมถึงสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ ขอให้ทุกท่านพานพบแต่สิ่งดีๆประสบผลสำเร็จในทุกๆด้านนะคะ

ปล. หิค Last Memory เปิดให้จองรวมเล่มแล้วนะคะไปจองกันได้เลย อยากบอกว่าภาคพิเศษมีเพิ่มเติมกว่าที่กำหนดไว้อีกเยอะเลยค่ะ เหมือนได้อ่านภาค2 ฮาๆ และเป็นตอนที่ไม่ได้เอาลงในเวบเลยจ้ะ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น