วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Attack On Titan Fan Short fic.: Wild Animals


Attack On Titan Fan Short fic.: Wild Animals

Pairing: (LevixEren)

Rate: NC-18 Yandere , BDSM , NTR , Guro

Warning: เนื้อหาฟิคเรื่องนี้ค่อนข้างรุนแรงทั้งในส่วนของเนื้อหาเกี่ยวกับเพศและพฤติกรรมที่ไม่ปกติ ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่จิตอ่อน เพราะ R18 ของฟิคนี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่เรื่องเพศเพียงอย่างเดียว

Story By: Trendy Blood

………………………………………………………………………………………………..




กลิ่น.......

กลิ่นของเลือด กลิ่นผิวเนื้อ....

กลิ่นเฉพาะตัวของบุคคลที่แตกต่าง

แต่กลิ่นหนึ่งนั่นต่างออกไป.....กลิ่นที่น่าหลงใหล...

ช่างหอมหวานและพิเศษกว่าทุกกลิ่นที่เคยได้สัมผัส..........


ปึง

ปึง

ปึง


            เสียงมีดเล่มหนาในมือเคาะเป็นจังหวะตามเช่นทุกวัน เขียงไม้ขนาดใหญ่ที่มีเนื้อและซี่โครงดิบที่ชุ่มไปด้วยเลือด ต้องขอบคุณระบบความเย็นที่ราวกับห้องแช่ทั่วทั้งร้านและระบบระบายอากาศที่ดีเยี่ยมจึงทำให้กลิ่นความของเลือด และเนื้อที่น่าสะอิดสะเอียนนี้จางลง ไม่มีใครอยากอยู่กับกลิ่นแบบนี้นานๆหรอก แต่ในเมื่อเป็นงานก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

            มือแกร่งสวมถุงมืออนามัยยังคงขยับหั่นซี่โครงขนาดใหญ่ให้เป็นท่อนเล็ก ใบหน้าเฉยชาไม่แสดงอารมณ์ ผิวที่ขาวซีดและสายตาคมที่จับจ้องเพียงแต่ชิ้นเนื้อตรงหน้า ผมสีดำรัตติกาลถูกเสยไปด้านหลังก่อนจะถูกคาดทับด้วยผ้าเพื่อป้องกันเส้นผมร่วงหล่นลงบนเนื้อ นัยน์ตาสีเงินเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนบนผนัง เข็มสั้นชี้ที่เลขสี่และเข็มยาวชี้ที่เลขสิบเอ็ด

            อีกไม่นานหมอนั่นก็จะมา.............. ริมฝีปากบางลอบยกขึ้นมุมปาก แขนกำยำแข็งแรงยังเคาะกระแทกสับเนื้อบนเขียงอย่างต่อเนื่อง ก่อนมือที่กำมีดบังตอขนาดใหญ่จะหยุดลง กลิ่นที่ลอยมาตามลม แม้เพียงแผ่วเบาแต่เขาจดจำได้ดี..... เพราะมันพิเศษ.............พิเศษกว่ากลิ่นไหนที่เขาเคยได้สัมผัส เพียงไม่นานร่างโปร่งบางของเด็กหนุ่มก็เดินผ่านม่านประตูพลาสติกหนาเข้ามาในร้าน

            “ว่าไงเอเลนวันนี้นายจะเอาอะไรดีล่ะหนุ่มน้อย?” เจ้าของร้านขายเนื้อรูปร่างใหญ่โตเอ่ยทักทายด้วยความเป็นมิตร

            เด็กหนุ่มร่างบางยิ้มทักทายให้กับเจ้าของร้านเจ้าประจำที่เขามาซื้ออยู่บ่อยครั้ง ใบหน้ากลมมนก้มลงมองตู้กระจก เนื้อสีสดแสดงถึงความสดใหม่และคุณภาพดีวางเรียงรายอย่างส่วนงามให้เลือกสรร นัยน์ตาสีมรกตกลอกตามองไปมาก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อซี่โครงหมูชิ้นใหญ่ และส่วนของทีโบนสเต็กไป


            ไม่มีแม้แต่การสบตาระหว่างเขาและเด็กหนุ่มจวบจนกระทั่งร่างบางเดินออกจากร้าน กลิ่นที่หอมหวานเบาบางลงจากระยะทางที่ร่างโปร่งบางเดินห่างออกไป


            ใช่......... เขาและเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าเอเลนไม่รู้จักกัน หรืออย่างน้อยต้องเรียกว่าเอเลนไม่รู้จักเขา แต่ตัวเขารู้จักเด็กหนุ่มคนนั้นดีทุกอย่าง.....

            รู้แม้กระทั่งเรื่องที่เจ้าตัวปิดบังซ่อนไว้..............................

            และอีกไม่นานเด็กคนนั้นจะได้รู้จักเขา...................เขามั่นใจเลยว่าเอเลนจะต้องอยากรู้จักกับเขาแน่นอน......แต่ถ้าไม่.......มันคงจะสายไปแล้วสำหรับ.................การปฏิเสธ.........................


            ซ่า......ซ่า..........ซ่า

            สายฝนที่ตกกระหน่ำลงมายิ่งทำให้บรรยากาศเย็นเฉียบ กลิ่นของฝนที่ลอยมาแตะจมูกต่างกลบกลิ่นอื่นๆ ถึงกระนั้นกลิ่นที่เขาหลงใหลยังคงฝังแน่น แม้จะเพียงเบาบางแต่แจ่มชัดจนกลิ่นของฝนมิอาจกลบมิด สองเท้าเดินมาถึงตึกขนาดสี่ชั้นสีอิฐ มือหนาดึงฮู๊ดสีเข้มของเสื้อตัวนอกให้กระชับกับใบหน้ามากยิ่งขึ้น มีอหยาบหยิบกล้องขึ้นมาระรัวถ่ายภาพ ด้วยความคมชัดของกล้องเขายังคงได้ภาพที่น่าพึงพอใจ ถึงแม้จะมีหน้าต่างกันขวาง หยาดน้ำรวมทั้งไอฝนที่เกาะกระจกจนเป็นฝ้า ใบหน้ากลมมน นัยน์ตาสีมรกต จมูกที่เชิดขึ้นรั้นนิดๆ และผมสั้นสีน้ำตาลเข้มฉายชัดในนัยน์ตาสีเงินที่จับจ้องโดยอีกฝ่ายไม่ได้รู้ตัว

            ร่างเล็กแต่กำยำไปด้วยกล้ามเนื้อแทรกกายเข้าในซอกหลืบของอาคารฝั่งตรงข้ามกับอพาร์ทเมนต์สีแดงอิฐ ร่างโปร่งบางของเด็กหนุ่มยืนชิดริมหน้าต่าง ไอร้อนจากลมหายใจของร่างบางยิ่งทำให้กระจกหน้าต่างขึ้นฝ้า นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาจากชั้นสามของอาคาร นัยน์ตาคมมองผ่านช่องภาพก่อนระรัวกดชัตเตอร์จับภาพเด็กหนุ่มเบื้องหน้า

...............ใช่........................เขากำลังหลงใหลเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าเอเลนหลังจากที่เจอในร้านขายเนื้อที่เขาเพิ่งไปสมัครทำงานเมื่ออาทิตย์ก่อนด้วยความที่ว่างจัด และไม่มีอะไร ไม่คิดเลยว่าการตัดสินใจในการฆ่าเวลาเล็กๆน้อยๆของเขาจะทำให้เขาเจอสิ่งที่น่าสนใจถึงเพียงนี้..........

นิ้วที่กำลังกดชัตเตอร์รัวต้องหยุดชะงัก เมื่อกล้องซูมจับภาพของอีกคนที่เข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม มือใหญ่ที่วางทาบทับมือบางที่กำลังไล่ตามหยาดฝนบนกระจก ใบหน้าคมคายสุขุม และดูเป็นมิตรของผู้ใหญ่เขยิบเข้ามาใกล้ใบหน้ามนหวานที่เอี้ยวคอมอง สองมือหยาบของผู้แอบเฝ้ามองจับกล้องไว้แน่นก่อนจะปรับซูมเลนส์ให้ใกล้มากยิ่งขึ้น

ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผมสีทองปัดข้าง นัยน์ตาสีฟ้าดุจน้ำทะเลลึกกำลังจ้องมองใบหน้ามนของเด็กหนุ่มที่เขากำลังยืนทาบทับอยู่เบื้องหลัง ใบหน้าผู้ใหญ่ที่อ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ยกยิ้มบาง ชายหนุ่มผมทองซุกหน้าลงกับคอขาวของเด็กหนุ่มที่สวมเสื้อแขนยาวคอกว้าง เอเลนหมุนตัวเผชิญหน้ากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้กสีขาว นัยน์ตาสีมรกตหรี่ลงก่อนริมฝีปากอิ่มจะยกยิ้มขึ้นราวกับตอบรับ สองแขนบางตวัดรอบลำคอของชายหนุ่มพลันเบียดกายแนบชิดกับร่างใหญ่มากยิ่งขึ้น มือของชายหนุ่มผมทองเองก็กอดรัดรอบลำตัวบางก่อนจะใช้มืออีกข้างดึงม่านสีน้ำเงินเข้มลงมาปิดบัง

นัยน์ตาสีหมอกจับจ้องจนม่านหนาถูกดึงลงมาปิด ริมฝีปากบางเฉียบยกยิ้มขึ้นพลางผิวปากอย่างนึกสนุก ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผมสีทองคนนั้นเขาเองก็รู้จักดี ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นลูกค้าของร้านขายเนื้อ แต่เพราะเป็นคนรู้จักที่อยู่รอบตัวเด็กนั่นเขาจึงรู้จัก ศาสตราจารย์เอลวิน สมิธ อาจารย์ผู้สอนวิชาการบริหารให้มหาวิทยาลัยที่เอเลน เยเกอร์ กำลังศึกษา............ ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนั่นจะมีการใช้ทริคที่ทำให้ได้เกรดมาแต่ในละเทอมอย่างน่าสนใจไม่เลว......... นอกจากเอลวิน สมิธ ก็ยังมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์เบลทรูธ รองศาสตราจารย์มิเกะ หรือเพื่อนร่วมคลาสเรียนอย่างแจน กิลชูไตน์

ช่างเถอะ.............ตอนนี้เขาจะไม่ว่าอะไรหรอกนะ เขาจะยอมปล่อยเด็กน้อยแสนซนนั่นสนุกให้เต็มที่อีกสักหน่อย ปล่อยให้ได้เล่นอย่างที่อยากอีกสักนิด ท้ายที่สุดแล้วเจ้าเด็กนั่นก็คือของเขาและจะเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น.......................................



คืนวันศุกร์ของเอเลน เยเกอร์ ก็เหมือนกับชีวิตวัยรุ่นทั่วไปที่ชื่นชอบการเที่ยวกลางคืน ร่างโปร่งสวมเสื้อกล้ามเข้ารูปสีขาวก่อนจะคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวมีฮู๊ดสีเขียว ผมสีน้ำตาลถูกจัดแต่งทรงมาอย่างดี นัยน์ตาคมกล้าของผู้ที่แอบเฝ้ามองคอยสังเกตการณ์ตั้งแต่ร่างบางนั้นออกจากอพาร์ทเมนต์จนถึงไนท์คลับสถานที่ประจำในคืนวันศุกร์กับเหล่าเพื่อนของเขา

ชายหนุ่มร่างไม่สูงแต่กำยำไปด้วยมัดกล้ามในชุดเชิ้ตสีดำผ่าลงมาถึงอก ยิ่งเผยให้เห็นมัดกล้ามสวยงามจนทำให้หญิงสาวหลายคนในไนท์คลับคืนนี้ถึงกับตาลุกวาว ใบหน้าเฉยชาที่ล้อมรอบด้วยผมสีดำรัตติกาล นัยน์ตาคมกล้าสีเงินและเย็นชาเพียงแค่สบมองก็ทำให้ราวกับหยุดหายใจนั่น เรียกได้ว่าเป็นที่สนใจของบรรดาสาวๆในค่ำคืนนี้ที่พยายามแต่งกายด้วยชุดวาบหวามเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้าม หญิงสาวใจกล้าที่มั่นใจในรูปร่างหน้าต่างหลายคนเดินเข้ามาทักทายแล้วต้องถอยหลังกลับไปเมื่อประกายตาคมกล้าจับจ้องมาอย่างรู้สึกรำคาญ ต่อให้ค่ำคืนนี้จะมีสาวสวยขนาดไหนอยู่ตรงหน้า หรือพวกหล่อนเหล่านั้นพยายามเชิญชวนเขาเพียงใด ทั้งหมดนั้นล้วนไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแม้แต่น้อย เพราะค่ำคืนนี้เขามีเป้าหมายที่ติดตาม และเวลาที่เขาจะล่าเหยื่อที่หมายตาก็ใกล้เข้ามา

เอเลนยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อน มือบางถือแก้วบรรจุของเหลวสีอำพันยกขึ้นดื่มพลางหัวเราะพูดคุยอย่างสนุกสนานกับบรรดาผู้คนที่รายล้อม ริมฝีปากบางยกยิ้ม เลือดในกายพลันสูบฉีดอย่างตื่นเต้น ชายหนุ่มแฝงกายไปกับเหล่าบรรดาผู้คนที่เบียดเสียดกันมากมายในไนท์คลับ แต่สายตาคมยังคงคอยจับจ้องเหยื่อของเขาไม่วางตาราวกับสัตว์ร้ายที่อยู่ภายในกายกำลังจ้องหาจังหวะเพื่อตะครุบเหยื่อไม่ให้หลุดรอด เพียงไม่นานโอกาสก็มาถึงเมื่อเด็กหนุ่มเป้าหมายขอตัวจากกลุ่มเพื่อนเข้าห้องน้ำ ผู้ล่าที่รออยู่แล้วจึงรีบเดินตามเข้าไปเพื่อไม่ให้เสียจังหวะ

ใบหน้ามนล้างมือก่อนจะก้มล้างหน้าของตัวเอง ดูเหมือนคืนนี้เขาจะสนุกมากไปหน่อยเลยเริ่มรู้สึกตึงๆขึ้นมาจากเครื่องดื่มที่เพื่อนๆพากันรินใส่แก้วเขาไม่ขาดสาย

“ไหวรึเปล่า?”

เสียงทุ้มที่เอ่ยถามทำให้เอเลนเงยหน้าขึ้นมอง ผ้าเช็ดหน้าสีขาวถูกยื่นส่งให้จากชายแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จัก ถึงอย่างนั้นเขาก็รับไมตรีจากคนแปลกหน้าพลางกล่าวขอบคุณ

“ขอโทษที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าของคุณแล้วก็ขอบคุณมาก เออ คุณ.......”

“รีไว” ใบหน้าเฉยชายกยิ้มอย่างสุภาพ

เอเลนใช้ผ้าเช็ดหน้าของชายแปลกหน้าซับน้ำที่เกาะตามผิวหน้าของตน กลิ่นหอมสะอาดของผ้าเช็ดหน้าที่แตะจมูกทำให้รู้ได้ว่าชายผู้นี้เป็นคนที่รักความสะอาดน่าดู อย่างน้อยก็มากกว่าเขาที่ผ้าเช็ดหน้าไม่สามารถยื่นให้คนอื่นใช้ต่อได้แบบนี้แน่นอน

“ผ้าเช็ดหน้าของคุณสกปรกเพราะผมซะแล้ว ถ้ายังไงไว้ผมซักแล้วนำมาคืนให้ดีไหมครับคุณรีไว ถ้าคุณไม่ว่าอะไร?”

ชายหนุ่มเขยิบเดินเข้าชิดร่างบางมากขึ้น สายตาคมกล้าจับจ้องใบหน้าหวานไม่วางตา มือแกร่งวางคร่อมกับร่างโปร่งที่เขยิบจนชิดอ่างล้างหน้า นัยน์ตาสีมรกตหรี่มองหน้าชายหนุ่มพลางนึกขำ ด้วยความที่คุ้นชินกับการเที่ยวกลางคืนและสถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดีทำให้เขาไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไร จะติดใจก็แต่ที่ชายหนุ่มเบื้องหน้าเขาเป็นคนที่ดูดีและเซ็กซี่อย่างหาตัวจับได้ยาก เรียกว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์หาตัวจับได้ยาก แบบนี้จะเรียกว่าเขาโชคดีได้รึเปล่า?....

“หรือว่าคุณอยากให้ผมไปซักคืนให้คุณที่ห้องดีล่ะ คุณรีไว?” ใบหน้าหวานยกยิ้มขึ้นอย่างเย้ายวน การเข้าประชิดตัวแบบเร่าร้อนแบบนี้ก็ทำให้ตื่นเต้นดีไม่น้อย

“นายนี่ยั่วเก่งไม่เบานะ เอเลน เยเกอร์” ใบหน้าคมคายเขยิบเข้าใกล้ใบหน้าหวานมากยิ่งขึ้น

คิ้วมนสีน้ำตาลเลิ่กขึ้นอย่างนึกแปลกใจ เขาจำไม่ได้ว่าบอกชื่อตัวเองกับชายหนุ่มตรงหน้า อย่างน้อยเรื่องของนามสกุลเขาไม่มีทางบอกกับคนที่เพิ่งเจอกันแน่..........ดูว่าสัญชาตญาณของเขาชักเริ่มร้องเตือนว่าหมอนี่อันตรายและเขาก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย

มือบางจึงค่อยๆดันไหล่หนาที่ประชิดเข้ามาออกก่อนจะแทรกกายเดินเลี่ยงออกมาเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มไหวตัว

“น่าเสียดายที่เพื่อนของผมรออยู่ ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันใหม่นะครับ.......คุณรีไว”

เอเลนยื่นผ้าเช็ดหน้าส่งคืนให้ชายหนุ่ม เขาพยายามอ้างเรื่องเพื่อนขึ้นมาเพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่าตัวเขาไม่ได้มาเพียงคนเดียว และถ้าเกิดอะไรขึ้นเพื่อนของเขาต้องตามหาเขาอย่างแน่นอน มือหยาบที่รอรับผ้าเช็ดหน้าเลื่อนจากมือจากผ้าเช็ดหน้าเป็นข้อแขนบางของเด็กหนุ่มแทน

“ฉันว่าเพื่อนของนายคงชินกับการที่นายชอบหายไปกับใครสักคนในคืนวันศุกร์แบบนี้อยู่แล้ว.....จริงไหม?”

เหงื่อเย็นเริ่มไหลซึมกาย นัยน์ตาสีมรกตสบมองกับชายหนุ่มนิ่งหวังประเมินสถานการณ์ เขาเคยเจอพวกตามตื้อแบบนี้มาก็มาก แต่รายนี้ดูอันตรายเกินไปที่เขาจะเล่นด้วยไปมากกว่านี้....

“อ่า........คุณรีไว” ใบหน้าหวานยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“ผมชอบที่จะเป็นคนเลือกมากกว่าเป็นตัวเลือกของใครนะครับ...........และคืนนี้ของผม........ก็ไม่ใช่คุณ”

แขนบางพยายามสะบัดข้อมือของชายหนุ่มออก แต่แรงที่บีบข้อมือของเขาแน่นนั่นไม่ยอมขยับสักนิด ใบหน้าคมเพียงยกยิ้มมุมปาก แล้วไฟฟ้าหลายโวลล์ก็จี้เข้าที่เอวบาง!!

เอเลนรู้สึกชาและไร้เรี่ยวแรง เด็กหนุ่มกระตุกเกร็งลงบนไหล่หนาที่รอรับอยู่เบื้องหน้า ริมฝีปากบางสั่นระริก เสียงที่พยายามจะเอ่ยแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ นัยน์ตาสีมรกตฉายแววขุ่นเคืองก่อนสติค่อยๆจางลง พร้อมเสียงทุ้มของชายหนุ่มที่ได้ยินอย่างแผ่วเบา

“ฉันเองก็ชอบที่จะเป็นคนเลือกเช่นกัน...เอเลน.....”

.

.

.

.

.

.

.

.

เปลือกตาบางพยายามลืมขึ้นอย่างยากลำบาก เอเลนส่ายหัวไปมาเพื่อหวังเรียกสติที่พร่าเลือนของตน สองแขนพยายามยก

แคร้ง!

เสียงของโลหะที่กระทบทำให้นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างมองที่แขนของตน โซ่ตรวนเหล็กกล้าพันธนาการข้อมือทั้งสองไขว้ไปเบื้องหลัง มีเพียงสองขาที่ยังคงปล่อยเป็นอิสระ เอเลนพยายามดึงทึ้งโซ่ตรวนที่พันธนาการจนเกิดเสียงดังก้อง แต่ไม่เป็นผล ใบหน้าหวานคำรามต่ำพลางสบถอย่างหัวเสีย

บ้าเอ๊ย!! ไอบ้านั่น พลาดท่าจนได้!!!

เด็กหนุ่มพยายามมองรอบกายเพื่อหวังจะหาสิ่งของที่พอจะช่วยให้ออกไปจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ ห้องสี่เหลี่ยมที่มืดสนิทเพราะไม่ได้เปิดไฟ พื้นที่เขากำลังนั่งอยู่ดูเหมือนจะเป็นพื้นพรม สายตาที่ชินกับความมืดจึงเห็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องลางๆ โซฟา เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า เตาผิง จากขนาดของห้องแล้วเป็นห้องที่กว้างน่าดู เอเลนพยายามเอี้ยวคอมองสิ่งที่อยู่ด้านหลังของตัวเอง เสาสีขาวขนาดใหญ่ที่เป็นหลักยึดโซ่กับเขา.....ถ้าเพียงแต่ไม่มีเสานี้คั่นไว้เขาคงหาทางหนีไปง่ายขึ้น และยิ่งสำรวจรอบๆยิ่งไม่เจอสิ่งของใดที่พอจะช่วยให้เขาออกไปจากที่นี้ได้ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มหัวเสียมากยิ่งขึ้น นี้เขาคงต้องรอเวลาอย่างเดียวสินะ! ริมฝีปากขบกันจนขึ้นสันกราม สองขาที่เป็นอิสระจึงเตะโซฟาที่อยู่ใกล้เพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่าน

โครม!!

โซฟาสีแดงถูกเตะกระเด็นชนพนังพร้อมกับประตูบานไม้ขนาดใหญ่ที่เปิดออก ใบหน้าของผู้ที่เดินเข้ามาเอเลนจำได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นคนที่ทำเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเขาตอนนี้

นัยน์ตาสีเงินมองโซฟาที่พนักวางแขนหักก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟอย่างไม่ได้ใส่ใจ แรงมหาศาลของเอเลน เยเกอร์ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับเขา เพราะเขารู้อยู่แล้วความลับที่เด็กหนุ่มซ่อนเอาไว้

“โชคดีที่ไม่ใช่คืนพระจันทร์เต็มดวง ไม่อย่างนั้นคงไม่เพียงแค่โซฟาที่จะพังสินะ”

เอเลนชะงักงันกับคำพูดของชายหนุ่ม นัยน์ตาสีมรกตมีประกายคมกล้าจ้องมองใบหน้าคมคายที่ดูน่าหมั่นไส้เบื้องหน้า

“อะไรของนายไอโรคจิตเอ๊ย!

รีไวเพียงจัดการดึงโซฟากลับเข้าที่เดิมยังเบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม ร่างแกร่งนั่งลงบนโซฟาสีแดงกำมะหยี่ราวกับโลหิตอย่างสบายอารมณ์ สองขาไขว้หากันพลางแขกที่ขึ้นยกท้าวใบหน้าคมคาย นัยน์ตาสีเงินจับจ้องยังร่างโปร่งบางที่มองมาอย่างหาเรื่องพลางยกยิ้มมุมปาก

ความลับของเอเลน เยเกอร์ ที่ซุกซ่อนไว้ ทำไมตัวเขาจะไม่รู้ล่ะเพราะกลิ่นที่แตกต่างที่เขาสัมผัสได้นั่นมันช่างน่าพิเศษ........และกระตุ้นความอยากของเขาที่ปิดบังไว้มานาน

“ถ้านายสังเกตหรือระวังตัวไว้บ้างมันคงยากสำหรับฉันมากกว่านี้........นึกอะไรออกบ้างไหมเจ้าหนู?”

นัยน์ตาสีเขียวจ้องเขม็งชายหนุ่มและท่าทางโอหังอย่างขุ่นเคือง เขากับหมอนี่เคยเจอกันที่ไหนงั้นรึไง? เอเลนไล่สายตาจ้องมองชายหนุ่มอย่างคิดวิเคราะห์ สมองของเด็กหนุ่มค่อยๆรื้อฟื้นความทรงจำและประมวลผล ภาพของร้านขายเนื้อเจ้าประจำที่เขาแวะไปทุกอาทิตย์ค่อยๆผุดขึ้นมา ชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่ที่มักง่วนอยู่กับการหั่นเนื้อค่อยๆปรากฏขึ้นมา หลายครั้งที่เขาปรายสายตาไปมองเพราะด้วยรูปร่างและมัดกล้ามของชายหนุ่มที่ดูน่าหลงใหล แต่ไม่คิดเลยว่าพนักงานขายเนื้อจะเป็นคนโรคจิตที่คอนตามเขาแบบนี้ หรือบางที..........อาจไม่ใช่แค่พนักงานขายเนื้อธรรมดา นัยน์ตาสีมรกตกรอกไปมาสำรวจห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของชายหนุ่ม เครื่องเรือนที่ดูหรูหราราคาแพง พื้นพรม โคมไฟระย้าบนเพดาน และพนังที่บุด้วยหนังรอบด้าน พนักงานขายเนื้อธรรมดาคงไม่มีเงินมากถึงขนาดอยู่ในสถานที่หรูหราขนาดนี้ได้ ห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง ทางเข้าและออกมีเพียงประตูไม้สีน้ำตาลเท่านั้น

“นายไม่ใช่แค่คนขายเนื้อสินะ?”

คิ้วคมเลิ่กขึ้นสนใจกับคำถามเชิงคำตอบของเด็กหนุ่ม ดูเหมือนหมอนี่จะนึกอะไรออกบ้างแล้ว

“แล้วดูท่าจะไม่ใช่คนธรรมดาซะด้วย” นัยน์ตาสีมรกตมีประกายคมกล้าสบกับใบหน้าที่ยังคงนิ่งงัน

“เป็นพ่อค้ายาโรคจิตที่ทำอาชีพเสริมบังหน้ารึไง!

คำตอบของเด็กหนุ่มทำให้รีไวรู้สึกขำ ดูเหมือนเขาจะหวังสูงกับเจ้าเด็กเมื่อวานซืนนี้มากไปสินะ......เจ้าหนูนี่คิดอะไรได้น่ารักชะมัด.....

“ขอฉันถามบ้างนะไอหนู.......” ริมฝีกบางยกยิ้ม นัยน์ตาสีเงินจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยความสนุก

“อะไรที่นายจงใจซ่อนไว้กันแน่ ความลับของนาย..........ถ้านายยังทำเป็นนึกไม่ออก......ฉันจะช่วยใบ้ให้” นิ้วเรียวขยับไปมาราวกับพยายามนึกหาคำใบ้ให้กับเด็กหนุ่ม

“ข้อแรก ความลับของนายเกี่ยวกับพระจันทร์” ใบหน้ามนหวานเริ่มมีเหงื่อไหลซึม นัยน์ตาสีเขียวจ้องเขม็งรอฟัง

“ข้อที่สอง นายเป็นพวกชอบกินเนื้อ.............โดยเฉพาะเนื้อสดๆ” รีไวลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้เอเลนที่ถูกจับล่ามไว้กับเสา

“และข้อที่สาม.......กลิ่นสัตว์ป่าของนายมันรุนแรงมากยังไงล่ะเอเลน”

ฟันขาวขบกันจนขึ้นสันกราม นัยน์ตาสีเขียวจ้องเขม็งยังใบหน้าคมคาย นัยน์ตาสีมรกตเริ่มมีประกายของสีทองอำพันเคลือบแฝง ความลับที่เขาซ่อนเร้นไว้แต่หมอนี่กลับดูออก

“นายเป็นใคร หมาป่างั้นเรอะ!?”

ร่างแกร่งเพียงยักไหล่ มือหยาบลูบไปตามใบหน้าหวานที่สะบัดหนีออกอย่างนึกขัน

“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ฉันกับนายเป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียกได้ว่าอยู่เคียงคู่กันมานานเลยทีเดียวเด็กน้อย บางทีฉันอาจจะรู้จักกับบรรพบุรุษของนายก็ได้”

ริมฝีปากบางยกยิ้ม ขมเขี้ยวทีแรกที่ดูปกติงอกยาวออกมา นัยน์ตาสีเงินส่องประกายวาววับจ้องมองเด็กหนุ่ม

“ไม่คิดว่าพวกหนูมีปีกอย่างนายจะชอบไปทำงานที่ร้านขายเนื้อ เห็นเผ่าพันธุ์นายชอบอยู่ตามโรงพยาบาลไม่ใช่รึไง?”

“ชีวิตที่ยาวนานก็ต้องหาอะไรแปลกใหม่ทำแก้เบื่อบ้าง แต่ไม่นึกเลยว่าการแก้เบื่อของชั้นจะทำให้มาเจอเรื่องที่น่าสนใจ อย่างการจับสุนัขมาเลี้ยงไว้เป็นไง?”

“หึ นายจับฉันมาแล้วยังไง จะสานสัมพันธ์ระหว่างหมาป่าและแวมไพร์งั้นรึ เรื่องน่าเบื่อแบบนั้นฉันขอบายดีกว่า”

รีไวเพียงยกยิ้มก่อนยืนตัวเหยียดตรง รองเท้าหนังมันเงากระแทกเหยียบลงบนมือของเด็กหนุ่มที่ถูกล่าม

“แบบนั้นมันน่าเบื่อ ฉันเลยมีวิธีสนุกๆระหว่างเราเป็นยังไง” ส้นหนาของรองเท้าบดขยี้ลงบนนิ้วของเอเลน เสียงกร็อบที่ราวกับกระดูกแตกดังลั่น เช่นเดียวกับกับเสียงของเด็กหนุ่มที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

“อ๊ากกกกกก!!

รองเท้าหนังมันเงาถูกยกออก รีไวเดินถอยห่างจากเด็กหนุ่มตรงไปยังตู้เก็บของที่อยู่อีกด้านของกำแพง

“เอเลนนายรู้รึเปล่าเวลาชีวิตที่อยู่มายาวนานมันก็ไม่ค่อยมีเรื่องที่น่าสนุกเท่าไรแล้วหรอกนะ แต่ตัวนายที่เพิ่งเกิดมาได้เพียง70 ปี กับฉันที่อยู่มานานเกิน350ปี คงไม่แปลกที่นายยังตื่นตาตื่นใจกับโลกใบนี้” กระเป๋าหนังสีดำขนาดใหญ่ถูกดึงออกมาจากตู้เก็บของพร้อมกับอัลบั้มรูปถ่าย

รีไวเปิดอัลบั้มรูปให้เอเลนดู เด็กหนุ่มมองภาพถ่ายอย่างตกตะลึง เพราะภาพทั้งหมดนั้นคือภาพของตัวเขาเองในอิริยาบถต่างๆ และแน่นอนมันเป็นภาพที่ถูกแอบถ่าย

“นอกจากนายจะเป็นตาลุงแวมไพร์แล้วยังโรคจิตเป็นบ้า!

“นายไม่ชอบคอลเลคชั่นของฉันรึไง นายเป็นหมาป่าตัวแรกที่ฉันเจอในรอบร้อยปีเลยนะเจ้าหนู อีกอย่างอัลบั้มพวกนี้คงแสดงให้นายได้เห็นว่าฉันหลงใหลนายขนาดไหน เพียงแค่สองอาทิตย์ฉันก็มีรูปของนายเยอะขนาดนี้เลยเชียวนะเอเลน...”

อัลบั้มเล่มหนาสามเล่มถูกเปิดออก ภาพของเขาในท่าทางต่างๆไม่ว่าจะเป็นตอนตื่นนอน ทานข้าว อยู่กับเพื่อน ตอนเรียน ตอนนอน เข้าห้องน้ำ หรือแม้กระทั่งตอนมีเซ็กซ์ ทุกภาพล้วนถูกแอบถ่ายโดยที่เขาไม่รู้ตัว ถึงเขาจะคิดอยู่เสมอว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าไม่น่าจะเป็นเพียงเผ่าพันธุ์เดียวที่ดำรงอยู่บนโลกใบนี้ สักวันคงได้เจอเผ่าพันธุ์อื่นที่เหมือนเช่นกันกับเขา แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเพียงแค่การได้เจอครั้งแรกก็เป็นแวมไพร์วิปริตขนาดนี้

“นายต้องการอะไร?”

“ฉันบอกแล้วไงว่ากำลังทำให้วันที่แสนน่าเบื่อนั่นสนุกขึ้น”

กระเป๋าหนังสีดำถูกเปิดออก เอเลนที่เห็นของที่อยู่ภายในกระเป๋าถึงกับหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด เหงื่อเย็นไหลซึมกาย น้ำลายเหนียวยากที่จะกลืนลงคอ นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างกับคีมถอนขนาดต่างๆ ใบเลื่อย มีด สิ่ว ค้อน หรือแม้กระทั่งเข็มหมุดที่อยู่ในกระเป๋าใบโต

“นายก็รู้พวกมนุษย์น่ะเปราะบาง...................แต่นายและฉันนั้นแตกต่าง”

ตะปูสีเงินถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋า รีไวหันหน้ามองใบหน้าหวานที่กำลังตื่นตระหนก

โป๊ก! หมุดตะปูถูกตอกลงมือบางยึดติดกับพื้นพรม เลือดสีสดไหลซึมผ่านตะปูย้อมพรมสีแดงให้ดูชุ่มยิ่งขึ้น รีไวหยิบตะปูเงินอีกตัวขึ้นมาก่อนจะไล้ไปตามแผ่นอกบางที่หายใจกระชั้นถี่อย่างตื่นตระหนก

“ฉันกับนายถ้าไม่โดนลิ่มเงิน ตะปู หรือสิ่งของที่ทำด้วยเงินแทงลงที่หัวใจ ร่างกายนี้จะไม่มีวันสลายและมันจะฟื้นฟูตลอดเวลา” ใบหน้าเฉยชายกยิ้มพลางกระซิบที่ใบหูของเด็กหนุ่ม

“นั่นล่ะที่ทำให้มันสนุก...........เจ้าหนู”


รีไวตอกตะปูยึดมือบางกับพรม เสียงร้องโอดครวญของเอเลนยิ่งสร้างความหฤหรรษ์ให้กับเขา แน่นอนห้องที่เขากำลังสร้างสรรค์ความสนุกอยู่นี้เป็นห้องที่ถูกสร้างมาอย่างดีในเรื่องของการเก็บเสียง ถึงแม้ร่างกายที่สุดแสนพิเศษทั้งของเขาและเอเลนจะสามารถฟื้นฟูได้แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับนั้นยังคงชัดเจน หน้าตาของเด็กหนุ่มจึงบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด และมันทำให้เขารู้สึกกระสันอยากจนลำคอแห้งผาก

มีดสีเงินทอประกายในมือหยาบของชายหนุ่ม คมมีดเฉือนชุดของเด็กหนุ่มจนขาดวิ่น เช่นเดียวกับผิวเนื้อที่เขาจงใจกดคมมีดหนักให้เชือดเฉือนผิวขาวผ่อง เสื้อกล้ามถูกย้อมด้วยสีแดงของโลหิตประปราย ฮู๊ดตัวนอกถูกทึ้งจนไม่เหลือชิ้นดี กางเกงยีนส์สีเข้มถูกกรีดจนเป็นชิ้น ตอนนี้ราวกับเหลือเพียงเศษผ้าที่ปกปิดร่างกายที่เริ่มเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม นัยน์ตาสีเงินไล่มองร่างเปลือยเปล่าพลางเลียริมฝีปาก ช่องทางสีอ่อนเบื้องล่างมีเพียงเศษผ้าไม่เป็นชิ้นปกปิด

นิ้วหยาบล้วงเข้ายังช่องทางเบื้องล่างโดยไม่มีการทำให้คุ้นชิ้น คิ้วสีน้ำตาลขมวดมุ่น ใบหน้าหวานสะบัดหนีคนร้ายกาจอย่างนึกรังเกียจ

“ร่างกายนายนี่มันไม่เลวที่ทำให้เจ้าพวกนั้นติดใจสินะ ไม่ว่าจะกี่ครั้งตรงนี้ของนายจะแน่นกระชับราวกับครั้งแรกตลอด” นิ้วที่รุกล้ำจิกลงยังพนังอ่อนนุ่มภายใน ก่อนจะเพิ่มอีกสองนิ้วเพื่อจัดการขยายช่องทาง

“เอเลนไหนลองบอกสิว่าร่างกายร่านๆของนายต้องการแบบไหนเจ้าลูกหมา?”

ใบหน้าหวานเพียงปรายตามอง ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มขึ้น

ถุย!

น้ำลายของเด็กหนุ่มเปรอะลงบนแก้มขาวซีดของรีไว มือเรียวปาดคราบน้ำลายก่อนจะจัดการเลียคราบที่เปื้อนนิ้ว

“ดูเหมือนฉันควรจะทำความสะอาดก่อนสินะ”

รีไวลุกขึ้นไปที่กระเป๋าหนังสีดำอีกครั้ง ขวดแก้วถูกหยิบขึ้นมา ของเหลวสีใสที่บรรจุภายในทำให้ร่างบางทั้งสงสัยและหวาดหวั่น

“ไม่ต้องกลับไปเอเลนฉันแค่จะทำความสะอาดนายเท่านั้น นายจะได้เหมือนใหม่และเป็นของฉันเพียงคนเดียวไงไอหนู”

ขาเพรียวถูกจับแยกออกกว้าง สะโพกกลมมนถูกยกขึ้น รีไวแทรกตัวเข้าหว่างขาของเอเลน เด็กหนุ่มพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด แต่มือแกร่งที่จับกระชับสะโพกนั่นทำให้เขาไม่อาจหนีได้

“ไม่ต้องห่วงเอเลนฉันใส่น้ำเจือจางเจ้านี่บางแล้ว”

ปากขวดแก้วถูกยัดใส่เข้าช่องทางสีหวาน ใบหน้าหวานเบิ่กตากว้างมองของเหลวสีใสที่กำลังถูกเทเข้ามา ลมหายใจกระชั้นถี่ด้วยความหวั่น

“กรดพวกนี้จะทำลายข้างในของนาย แล้วร่างกายของนายจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ที่เป็นเฉพาะของฉันไงล่ะเอเลน”

ของเหลวสีใสถูกเทใส่ช่องทางคับแคบ ทันทีที่น้ำกรดสัมผัสกับผนังภายในก็กัดกร่อนเนื้ออ่อนอย่างแสบร้อน

“อ๊ากกกกกกกกกกกกก อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!

เอเลนกรีดร้องอย่างโหยหวน ร่างบางดีดดิ้นอย่างสุดแรงเพื่อหลีกหนีจากน้ำกรดที่ไหลเข้ามา แต่มือหนากำยำที่เกาะกระชับทำให้ไม่อาจหลุดออกจากพันธนาการของมารร้ายวิปริตตรงหน้าได้

กลิ่นไหม้ของผิวเนื้อคละคลุ้งจนรีไวรู้สึกลำคอแห้งผาก อยากทึ้งชิมรสเนื้อหวานเบื้องหน้าให้จมเขี้ยว แต่ยังก่อนเพราะเขาเป็นคนรักความสะอาดและเขาก็อยากให้ของของเขาสะอาดที่สุด

“ไอบ้าเอ๊ย! ไปตายซะ!! ฉันเกลียดแก!!

เอเลนคำรามลั่น น้ำกรดยังคงกัดกร่อนผิวเนื้อของเขา เลือดจากพนังภายในที่ถูกกร่อนไหลเจิ่งนองลงสู่ขวดแก้วที่ของเหลวก่อนหน้าเข้าไปจนหมดแล้ว รีไวจัดการดึงขวดออกจากช่องทางคับแคบ นัยน์ตาคมฉายแววพอใจกับเลือดที่ไหลเจิ่งนองจากการทำปฏิกิริยาของสิ่งที่เขาใส่เข้าไป

“ทนอีกนิดไอหนู ข้างในของแกกำลังสร้างผิวใหม่ที่ราวกับทารกแรกเกิด”

รีไวหยิบตราประทับขึ้นมาจากกระเป๋า ตะเกียงแอลกอฮอล์ถูกจุดขึ้นตราประทับสีเงินถูกนำไปลนกับไฟจนโลหะสีเงินส่องประกายแดงฉาน

“ฉันจะประทับชื่อฉันไว้บนตัวนายเพื่อแสดงว่านายเป็นของฉัน”

เหล็กร้อนถูกนาบลงบนผิวผ่องที่กลางอกของเด็กหนุ่ม เอเลนกัดฟันกรอดข่มความแสบร้อนจากโลหะที่เผาไหม้บนเนื้อ

“ไม่ต้องห่วง มันทำจากเงินบริสุทธิ์ ตราประทับนี้จะอยู่กับนายโดยไม่มีทางจางหายเลยล่ะหมาป่าของฉัน”

เมื่อโลหะสีเงินถูกยกออก ตัวอักษรชื่อ Levi ถูกตีประทับลงบนอกของเด็กหนุ่ม อย่างที่ชายหนุ่มได้กล่าวพลังของเขาไม่อาจรักษาแผลไหม้จากโลหะเงินได้

น่ารังเกียจชะมัด!! ใครจะยอมเป็นสัตว์เลี้ยงของนายกันไอบ้าเอ๊ย!!! นัยน์ตาสีมรกตฉายแววดื้อดึงจ้องเขม็งใบหน้าคมคายอย่างหาเรื่อง

“ดูเหมือนว่าข้างล่างของนายจะสะอาดแล้วนะเอเลน”

รีไวนั่งย่อตัวจับขาเพรียวแยกออกอีกครั้ง เลือดที่ไหลจากทางเบื้องล่างเริ่มหยุด ผิวหนังที่อ่อนนุ่มบวมเป๋งจากกรดที่เข้าทำลายภายในและกำลังสมานผิวอ่อนภายใน

ขาที่ถูกจับแยกกว้างสะบัดไปมา เมื่อมีจังหวะเอเลนจึงเตะเข้ากับใบหน้าคมเบื้องหน้า ชายหนุ่มหรี่ตามองใบหน้าดื้อดึงที่ราวกับสะใจที่ลูกเตะเขาไม่พลาดเป้า แรงเตะทำให้รีไวถึงกับหน้าหัน ใบหน้าเฉยชาเพียงสะบัดเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่ไปมา

“ขานายนี่ถึงจะเล็กแต่แข็งแรงน่าดู”

มือหนาจับที่ขาข้างขวาของเด็กหนุ่ม ใบหน้าคมยังคงนิ่งงันจ้องมองเด็กหนุ่ม

“แต่ตอนนี้มันเกะกะชะมัด”

กร๊อบ!!

รีไวจับขาของเด็กหนุ่มก่อนจะดันขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เสียงกระดูกแตกหักดังก้อง พร้อมกับเสียงของเด็กหนุ่มที่ตะโกนอย่างเจ็บปวด

“ฉันจะใจดีเหลือขาให้นายอีกข้างสำหรับคืนนี้เผื่อนายอยากจะดีดดิ้น.......เจ้าลูกหมา”

ขาเพรียวถูกจับแยกอีกครั้ง แกนกายขนาดใหญ่ถูกกระแทกเข้าช่องทางคับแคบที่เขาทำความสะอาดรอ การกระแทกที่หนักหน่วงไร้ความปราณีฝืนดันแกนกายขนาดใหญ่เข้าไปจนสุดในคราเดียว

“อื้อ.....”

รีไวครางเสียงต่ำทันทีที่ท่อนเนื้อของตนดันเข้าไปจนสุดในร่างกายของร่างบาง คุ้มค่ากับที่เขารอคอยและทำความสะอาด ภายในที่ตอดรัดทำให้เขารู้สึกดีจนแทบคลั่ง ไม่ได้เจอเหยื่อชั้นดีแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ? .....ไม่สิ ต้องเรียกว่าเพิ่งเคยเจอเหยื่อชั้นดีขนาดนี้เลยก็ว่าได้.....

“อ๊า!!!

เสียงหวานหวีดร้องเมื่อท่อนเนื้อหนาโหมกระหน่ำกระแทกเข้ามา มือที่ถูกตอกติดกับพรมพยายามจิกลงบนพื้นทำให้แผลฉีกขาดจากการขยับของมือบาง โลหิตสีแดงไหลจากมืออีกครั้งทั้งที่เพิ่งหยุดไปไม่นาน เช่นเดียวกับช่องทางเบื้องล่างที่ฉีกขาดจนเลือดสีสดไหลออกจากปากแผลเปรอะตามโคนขาขาว และฉีกมากยิ่งขึ้นเมื่อร่างกายของชายหนุ่มกระหน่ำกระแทกลงมาอย่างหนักหน่วง

เหงื่อหลั่งรินไหลตามโครงหน้าคมคายที่หอบกระเส่าอย่างสุขสม ริมฝีปากยกยิ้มอย่างพอใจและสนุก กับใบหน้าหวานที่บิดเบี้ยวจากความเจ็บปวด ม่านน้ำตาไหลลงจากนัยน์ตาสีเขียวเจือสีทอง เหงื่อหลั่งไหลซึมกายและเสียงหอบหายใจที่สอดประสานยิ่งเร่งจังหวะให้ชายหนุ่มกระแทกแกนกายรุนแรงและถี่ยิ่งขึ้น จนร่างแกร่งกระตุกเกร็งปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นเข้าในตัวของเด็กหนุ่ม น้ำกามสีขาวผสมกับเลือดสีสดไหลลงบนพื้นพรมจนเปียกชุ่ม รีไวหอบหายใจหนักก่อนจะสูดกลิ่นผิวเนื้อที่ซอกคอระหง

“ไม่เลว........ข้างในนายมันสุดยอดมากไอหนู” เสียงทุ้มกระซิบต่ำที่ข้างใบหูของเด็กหนุ่ม

หงับ!

เอเลนกัดทึ้งลงบนไหล่หนา  รีไวกระชากผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มออกให้หงายขึ้น คราบเลือดของชายหนุ่มเปรอะทั่วปากอิ่มของเอเลน นัยน์ตาสีเขียวใสเหลือบมองชายหนุ่มไม่ไหวติ่งอย่างท้าทาย สมเป็นเหยื่อชั้นดีที่เขาเลือก ควรค่าแก่การให้เขาสั่งสอนและปราบพยศ

“เลือดนายรสชาติห่วยแตกที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินเลยไอลุงโรคจิตเอ๊ย!

“งั้นรึ”

รีไวเพียงเหยียดยิ้ม มือแกร่งกระชากผมสีน้ำตาลจนเอเลนหงายหลัง

“แต่เลือดของนายเด็ดสุดเท่าที่ฉันเลยลองเลยล่ะ”

คมเขี้ยวยาวฝังลงบนคอของเด็กหนุ่ม เลือดอุ่นไหลทะลักลงเข้าสู่ลำคอแห้งผากของแวมไพร์ รสเลือดที่เขาไม่ใคร่ลิ้มลองมานาน ที่จริงแล้วเขาแทบไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำแต่กลิ่นเลือดในตัวเจ้าเด็กนี้ปลุกสัญชาตญาณดิบที่เขากดกลั้นมานานจนแทบจะลืมเลือน ให้ตื่นและกระหายอย่างไม่รู้จักพอ

ความกระสันอยากเริ่มทวียิ่งขึ้น รสหวานฝาดที่ไหลลงคอ กลิ่นหอมหวานและผิวเนื้อนุ่มทำให้ความอยากของเขายิ่งทวีสูงขึ้น แกนกายขนาดมหญ่ขยายปูดโปน มือหนาจับขาเพรียวแยกออกแล้วกระหน่ำกระแทกเข้าช่องทางที่น้ำรักสีขุ่นยังเจิ่งนอง เพราะมีตัวช่วยหล่อลื่นการกระแทกเข้าครั้งนี้จึงเป็นไปอย่างง่ายดาย

แม้จะไม่อยากยอมรับและรังเกียจปีศาจวิปริตตรงหน้า แต่ร่างกายกลับตรงกันข้าม ทันทีที่แกนกายของชายหนุ่มกระแทกเข้ามาราวกับสัญชาตญานดิบในตัวเขาถูกปลุกเร้าเช่นกัน ร่างกายที่ถูกกระทำชำเรากลับตอบสนอง แกนกายร่างบางแข็งขืนแม้ไม่ได้ถูกปลุกเร้า ช่องทางภายในตอดรับแกนกายขนาดใหญ่ที่โหมกระหน่ำเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งเจ็บแสบ จุกแน่น และปวดร้าวไปทั่วร่าง แต่ความรู้สึกสุขสมและเมาเมาไปกับรสกามของชายหนุ่มทำให้ร่างกายบางตอบสนองอย่างปรีเปรม

“ฮ้า.....อ... อา อ๊า!

เสียงหวานเริ่มครางกระเส่า ขาซ้ายที่ยังใช้งานได้จิกลงบนพื้นพรมหนา มือที่ถูกตะปูตอกยังคงมีเลือดหลั่งรินจากแผลที่เปิดขึ้นอีกครั้ง

เขี้ยวคมถอนออกจากลำคอขาว ลิ้นบางเลียหยาดเลือดที่เปรอะลงบนปากของตนอย่างเสียดาย

“เสียงเห่าหอนของนายน่าฟังมากไอหนู”

ราวกับได้สติ เอเลนพยายามกัดริมฝีปากของตนจนเลือดออกเพื่อไม่ให้เสียงครางที่ราวกับยินดีนั้นเล็ดรอด

รีไวมองท่าทางของเด็กหนุ่มอย่างนึกตลก ความอวดดีและดื้อดึงช่างเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เขาลุ่มหลงเด็กหนุ่มคนนี้

ชายหนุ่มเน้นกระแทกแรงเข้าตรงจุดกระสันของเอเลน ริมฝีปากที่พยายามกัดกลั้นจึงเปิดออก รีไวฉวยโอกาสทาบทับริมฝีปากของตนเข้าแทนที่ ลิ้นร้อนไล้ตามไรฟันและคมเขี้ยวของเด็กหนุ่ม กระหวัดเกี่ยวรัดกับลิ้นเล็กที่พยายามดื้อดึงดันลิ้นที่รุกล้ำของเขาออก รสของน้ำลายและเลือดของทั้งสองผสมผสานปนเป เสียงชื้นแฉะที่แลกเปลี่ยนดังก้องโสตประสาท จากที่พยายามดันทุรังดื้อดึงแปรเปลี่ยนเป็นคล้อยตามการชักนำของลิ้นร้อนที่จาบจ้วงเข้ามา

ไม่อาจรู้ได้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วตั้งแต่ที่เขาถูกจับมา ทุกวันชายหนุ่มจะนำอาหารมาให้ และเมื่อร่างกายของเขาฟื้นฟู แวมไพร์วิปริตรก็จะเล่นกับร่างกายของเขาอย่างสุขสมทั้งการทรมานและเซ็กซ์

แขนและขาของเขาบางวันถูกตัดแยกชิ้น เนื้อของเขาถูกเฉือนก่อนจะถูกจับยัดใส่ปากให้ลิ้มรสเนื้อของตนเอง และเมื่อแขนของเขางอกมาใหม่อีกครั้ง เขาก็จะถูกตัดเอ็นหรือเลาะเนื้อออกโดยไม่มียาชา ขาของเขาถูกเชือดเฉือนและทุบด้วยค้อนเหล็กจนกระดูกแตกละเอียดไม่เหลือเค้าโครง

วันแห่งความทรมานยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด วันนี้ก็เช่นกันหน้าท้องของเขาถูกเปิดออกกว้าง ชายหนุ่มหยิบเครื่องในจากช่องท้องเขาขึ้นมาชื่นชมด้วยหน้าตามีความสุขอย่างน่าขนลุก ลำไส้ที่ขดกันในช่องท้องถูกดึงออกเพื่อวัดความยาว ม้ามถูกตัดออกไปใส่ดองไว้ในขวดโหลแล้วดูการงอกขึ้นมาใหม่ในเวลาไม่นาน

คมมีดผ่าตัดชะแหละผ่าหน้าท้องเขาจนมาถึงช่วงอกที่ถูกประทับตราด้วยชื่อแวมไพร์หนุ่ม ก่อนจะแบะออกเป็นสองซีก หัวใจที่เต้นและสูบฉีดเลือดยังคงทำงานได้อย่างปกติ

“เอเลนนายรู้ไหมทั้งฉันและนายเพียงแค่เจอของมีคมตอกที่ตรงนี้” มือที่สวมถุงมือยางอนามัยไล้ลงบนหัวใจสีสดที่ยังเต้นระริก

“เพียงแค่นั้นร่างกายก็จะสลายเป็นผุยผง” นัยน์ตาสีเงินสบกับนัยน์ตาสีมรกตที่จ้องอย่างนิ่งงัน

“ถ้านายอยากฆ่าฉัน นายต้องใช้ตะปูเงินเหมือนที่ฉันปักมือของนาย หรือกระสุนเงินที่นายอาจหาได้ในกระเป๋าของฉัน”

คมมีดผ่ามาถึงคอ เสียงทำงานของหลอดลมดังหวี่ราวกับเสียงของเครื่องสูบลมลูกโป่งในสวนสนุก

“พอผ่ามาถึงตรงนี้ทำให้นายออกเสียงลำบากสินะ แต่แววตานายก็ยังน่าดูชม”

ริมฝีปากบางทาบทับลงบนเปลือกตาของเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบาก่อนคมมีดกรีดลงบนเปลือกตาบาง รีไวควักดวงตาสีเขียวเจือสีทองราวอัญมณีออกมาก่อนจะใช้มีดผ่าตัดตัดเอ็นกล้ามเนื้อของลูกตาให้ออกจากเบ้าตาของเด็กหนุ่ม รีไวล้างลูกตาสีสวยให้สะอาดก่อนบรรจงเก็บลงในโหลแก้วที่บรรจุของเหลวแล้วนำไปรวมกับโหลแก้วอื่นที่มีอวัยวะและเครื่องเครื่องในอื่นๆของเด็กหนุ่มเก็บไว้ก่อนหน้า

“ดูสิเอเลนฉันหลงใหลนายขนาดไหน อยากเก็บทุกส่วนของนายให้อยู่ข้างๆฉันตลอดไป”

รีไวลูบไล้ใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเลือดของเด็กหนุ่มพลางยกยิ้มบาง

“อย่ากังวลไป พรุ่งนี้มันก็จะสร้างขึ้นมาใหม่เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆของนาย”

แวมไพร์หนุ่มบีบกรมของเด็กหนุ่มให้ปากที่ปิดแน่นอ้าออก นิ้วเรียวที่สวมถุงมือยางล้วงเข้าไปในปากลึกลงจนถึงลำคอที่เขาผ่าเนื้อแบะออก

“เวลาเรากลืนอะไรลงไปมันเป็นอย่างนี้สินะ” นัยน์ตาสีเงินจ้องนิ้วของตัวเองที่ผ่านเข้าไปในลำคอร่างบางอย่างสนใจ

“ถ้าเป็นของชิ้นใหญ่จะเป็นยังไงนะ?” ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นราวกับนึกอะไรออก

รีไวจัดการดึงกางเกงดึงเข็มขัดออกจากสแลคสีดำที่ตนสวมใส่ ซิบกางเกงที่รูดลงพร้อมกับแกนกายปูดปอนที่จ่ออยู่กับริมฝีปากอิ่ม

“ถึงจะส่งเสียงลำบากแต่นายก็ยังเลียได้นี่ไอหนู”

เอเลนอ้าปากของตนรับแกนกายขนาดใหญ่ที่ถูกยัดเยียดเข้ามา นัยน์ตาสีเขียวอมทองอีกข้างที่เหลืออยู่จ้องเขม็งชายหนุ่มอย่างเจ็บใจแค้นเคือง

โพรงปากนุ่มดูดเม้มแกนกายหนา นัยน์ตาสีเขียวใสจ้องใบหน้าคมคายที่เหยียดยิ้มก้มมองอย่างรู้สึกขยะแขยง ปากหนาอ้าขึ้นหวังจะฝังคมเขี้ยวลงบนท่อนเนื้อหนาที่จุกเข้ามาในลำคอ แต่ราวกับชายหนุ่มจะรู้ความคิดของเหยื่อของตน รีไวจับหัวสีน้ำตาลเข้าชิดกับแกนกายของตนจนมิด เด็กหนุ่มจุกแน่นในลำคอจนหายใจไม่ออก ชายหนุ่มจับหัวของเด็กหนุ่มแน่นก่อนสะโพกหนาจะกระหน่ำเข้าใส่โพรงปากนุ่มสร้างความสุขสมให้กับตนเอง น้ำกามอุ่นไหลทะลักเข้าลำคอ ไหลกระเซ็นเลอะออกตามแผ่นอกและเนื้อที่ถูกผ่าเปิดทิ้งไว้ แกนกายหนาถูกดึงออกจากโพรงปากอุ่น มือแกร่งกระชากผมสีน้ำตาลพร้อมควานนิ้มเข้าไปในโพรงปากนุ่มอีกครั้ง

“หมาที่ทำร้ายเจ้าของไม่น่ารักนักหรอกนะ แบบนี้ฉันคงต้องสั่งสอนสักหน่อย”

รีไวหยิบคีมคีบขึ้นมา มือแกร่งบีบกรามของเด็กหนุ่มแน่นให้อ้าออก เอเลนพยายามดิ้นขัดขืนแต่แขนและขาที่โดนล่ามไว้ทำให้ได้เพียงแต่พยายามสะบัดหัวไปมาเท่านั้น

“ฟันนายสวยสมเป็นฟันหมาป่าเลยนะเอเลน” ใบหน้าคมเหยียดยิ้มขึ้นมุมปาก

“ฉันขอฟันนายสักชุดเป็นการสั่งสอนแล้วกัน”

คีมสีเงินถูกยัดเข้าในโพรงปากเพื่อคีบหนีบฟันขาวที่อยู่ภายใน ฟันของเด็กหนุ่มถูกถอดถอนออกทั้งฟันซี่กรามที่อยู่ข้างในตลอดจนแนวฟันหน้าทั้งบนและล้าง เลือดจากการถอนไฟไหลกลบปาก ความเจ็บปวดที่สั่นไปทั่วร่างทำให้เด็กหนุ่มน้ำตาไหลเป็นสาย เพราะเป็นการระบายความเจ็บปวดทางเดียวที่ทำได้ เมื่อฟันซี่สุดท้ายถูกเก็บใส่ขวดโหลด รีไวจัดการนำเข็มมาร้อยเอ็นเพื่อเย็บหน้าท้องของเด็กหนุ่มที่เขาเป็นคนเปิดอ้าไว้ ทุกขั้นตอนของการลงคมมีด การถอนฟัน หรือแม้กระทั่งเข็มที่เจาะทะลุผิวหนังเย็บเข้าด้วยกันล้วนไร้ซึ่งยาชาที่ทำให้ร่างกายตายด้าน ความเจ็บปวดราวขุมนรกเด็กหนุ่มรับรู้ได้ในทุกสัมผัสที่กรีดลงมาบนผิวเนื้อ

ประตูไม้สีน้ำตาลปิดลงอีกครั้งพร้อมการจากไปของชายหนุ่ม ใบหน้าหวานมองประตูไม้ขนาดใหญ่นิ่งงัน ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มขึ้นท่ามกลางความมืดในห้อง แม้จะไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วแต่สิ่งหนึ่งที่เขารับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์หมาป่าคือ พระจันทร์กำลังใกล้จะเต็มดวง..........



เป็นอีกครั้งที่ประตูสีไม้ถูกเปิดออกพร้อมร่างของชายหนุ่มที่เดินเข้ามาเปิดไฟให้ห้องที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าคมมองร่างกายของเหยื่อชั้นดีที่ตอนนี้สภาพกลับมาสดสมบูรณ์จากพลังการรักษาตัวของเผ่าพันธุ์

“วันนี้พระจันทร์เต็มดวงนายคงรู้สึกดีเป็นพิเศษสินะเจ้าหนู”

กระเป๋าหนังสีดำถูกเปิดออกขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งใบมีดที่ที่ถูกหยิบขึ้นมาเหมือนเช่นเคย

“ใช่วันนี้ชั้นรู้สึกดีที่สุดเลยรีไว”

เคร้ง!!


เสียงโซ่ที่ล่ามถูกกระชากดึงออกด้วยพละกำลังมหาศาล ร่างกายบางของเด็กหนุ่มขยายใหญ่ขึ้นพร้อมด้วยมัดกล้ามเนื้อ ผมสั้นอ่อนนุ่มสีน้ำตาลแปรเปลี่ยนเป็นผมหยาบกระด้างสีดำลงปร่ะบ่า นัยน์ตาสีเขียวแปรเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม ปากอิ่มยืนออกมาและขยายกว้าง ฟันขาวที่เรียงรายขยายซี่ใหญ่ที่คมกล้าดุจเหล็กแกร่ง ขนสีเข้มปกคลุมทั่วตัว หูและหางของหมาป่างอกออกมาจากร่างกายที่เปลี่ยนร่าง เสียงของสัตว์ร้ายขู่คำรามดังก้องทั่วห้อง

“เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการกลายร่างของมนุษย์หมาป่า  ไม่เลว” รีไวกระชับมีดสีเงินในมือมั่น

เอเลนในร่างมนุษย์หมาป่าเห่าโหนอย่างบ้าคลั่งก่อนกระโดดกระโจนเข้าใส่เป้าหมายเบื้องหน้า รีไวเบี้ยงตัวหลบกรงเล็บของหมาป่า แต่ช้าไป กรงเล็บคมเชือดเฉือนผิวหนังของเขาแม้จะไม่มากแต่ก็ทำให้โลหิตสีสดหลั่งริน

“บางทีเจ้าของต้องตามใจสัตว์เลี้ยงสินะ” นิ้วเรียวขยับไปมา จากมือที่ขาวซีดขยายใหญ่ขึ้น เล็บที่สั้นดูสะอาดงอกยาวออกมาเคลือบทับด้วยสีแดงดุจเลือด ผิวหนังที่ซีดขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีเทาซีดราวกับไร้เลือด คมเขี้ยวงอกยาวจนเห็นออกมาเด่นชัดบนริมฝีปาก นัยน์ตาสีเงินเรืองแสงวาวโรจน์

“เอาล่ะมาเล่นกันหน่อย”

เอเลนกระโจนเข้าหารีไว มนุษย์หมาป่ากระแทกปีศาจดูดเลือดลงกับพื้น กรงเล็บคมฉีกทึ้งเสื้อผ้าของแวมไพร์หนุ่ม เชือดเฉือนลงบนผิวเนื้อซีดเซียวของแวมไพร์ รีไวพยายามต้านแรงที่กระแทกเข้ามา ขาแกร่งเตะช้อนตัวหมาป่าก่อนทุ้มลงไปด้านข้างแล้วตามขึ้นคร่อมทับ

คมเขี้ยวของสัตว์ร้ายไม่ยอมแพ้ เด็กหนุ่มอ้าปากกว้างตรงกัดทึ้งไหล่หนาเบื้องหน้า เพราะวันนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง พละกำลังของเขาจึงมีมากราวกับไร้ขีดจำกัด เอเลนถีบแวมไพร์หนุ่มกระเด็นไปชิดกำแพง กรงเล็บสีทมิฬตวัดฟาดลงบนลำตัวหนาของรีไว

รีไวใช้ศอกกระทุ้งเข้าลำตัวของหมาป่าก่อนจะจับล็อคคอแล้วตวัดขึ้นไปบนหลังของมนุษย์หมาป่า เอเลนจึงวิ่งเอาหลังกระแทกกับกำแพงจนแวมไพร์หนุ่มกระอักเลือดสีสด แขนที่รัดรอบลำคอสัตว์ร้ายจึงคลายออก หมาป่าไม่รอช้าจัดการใช้แรงมหาศาลยกโซฟากำมะหยี่เข้ากระแทกกับแวมไพร์หนุ่มอีกครั้ง กรงเล็บทมิฬดึงรีไวออกมาก่อนจะเหวี่ยงที่พื้นเต็มแรง กำปั้นหนักหน่วงของสัตว์ร้ายกระหน่ำเข้าโจมตีชายหนุ่มอย่างไร้ความปราณี นัยน์ตาสีทองอร่ามมีประกายของความสนุกและความแค้นที่ฝังแน่น

รีไวเตะร่างใหญ่ของหมาป่าให้ถอยห่างก่อนจะกระโดดยืนขึ้นตั้งหลัก ใบหน้าคมคายยกยิ้ม ริมฝีปากคมถ่มน้ำลายผสมเลือดของตนลงบนพื้นก่อนจะเป็นฝ่ายกระโจนเข้าหาสัตว์ร้ายขนหนา กระเป๋าหนังสือดำที่ถูกกระแทกจากการต่อสู้เปิดออก เหล่าเครื่องมือที่อยู่ภายในกระจัดกระจายทั่วพื้นพรมสีแดง

นัยน์ตาสีทองคมกร้าวเหลือบมองเห็นตะปูสีเงินที่อยู่ข้างกาย กรงเล็บสีทมิฬพยายามตะกายหยิบตะปูเงินบริสุทธิ์ แต่มือที่ซีดเซียวของแวมไพร์หนุ่มจับได้ก่อน ริมฝีปากบางเฉียบยกยิ้มอย่างผู้มีชัย ก่อนจะโยนตะปูเงินทิ้งติดกับพนังอีกข้าง

“อย่าใจร้อนไปไอหนู ข้าเพิ่งได้พบเรื่องน่าสนุกไม่คิดจะปล่อยไปง่ายๆหรอกนะ”

“กรรรรรร” หมาป่าเอเลนคำรามเสียงสั่นอย่างโกรธเคือง

กรงเล็บสีโลหิตบีบลำคอของเด็กหนุ่มแน่น เอเลนพยายามตะกายหาทางหนี เอเลนจับแขนของรีไวที่บีบคอตนก่อนใช้เป็นที่ทรงตัวกระโดดถีบขาคู่ไปยังแผ่นอกกำยำ จนแวมไพร์หนุ่มกระเด็นออกไปไกล เอเลนไม่รอช้าอาศัยจังหวะดึงตะปูเงินออกจากพนังตรงเข้าแทงยังอกซ้ายของมารร้าย ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะกำจัดปีศาจวิปริต

ปลายแหลมของตะปูเสียบทะลุอกซ้ายของแวมไพร์หนุ่ม ใบหน้าคมคายนิ่งงันก่อนยกยิ้มราวกับรู้สึกสนุก

“ทำได้ไม่เลวเด็กน้อย..........”

สิ้นคำสั่งเสียร่างของแวมไพร์มลายหายไปเป็นขี้เถ้าสีดำตรงหน้าหมาป่าเอเลน

เอเลนนั่งหอบหายใจหนักคลายความเหนื่อยล้า เด็กหนุ่มค่อยๆกลับคืนร่างของตน เพราะใช้พลังไปมากทำให้เรี่ยวแรงอ่อนล้า เอเลนตรงไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องคว้าเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงเพื่อปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าของตน

สองขาอ่อนแรงของเด็กหนุ่มพยายามทรงตัวก้าวเดินออกมาจากห้องที่เขาไม่อยากอยู่ต่อแม้เพียงวินาทีเดียว สองแขนพยายามเกาะกำแพงพาร่างระโหยออกจากสถานที่น่ารังเกียจที่คุมขังเขาไว้อย่างยาวนาน เมื่อเดินออกมาตามทางเดินเรื่อยๆจนพ้นประตูสีดำขนาดใหญ่ เด็กหนุ่มถึงเพิ่งได้รู้ว่าเขาถูกขุมขังอยู่ในคฤหาสน์ที่อยู่ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนต์ของเขานัก มือบางตะกายเกาะรั้วอย่างอ่อนแรง ใบหน้าหวานหัวเราะขึ้นจมูกอย่างนึกขัน

“หึ คนขายเนื้อบ้าอะไรอยู่ในคฤหาสน์ ถ้าเป็นหมอหรือข้าราชการจะเนียนกว่านะตาลุงแวมไพร์วิปริต”

ทันทีที่ก้าวขาออกจากรั้วของคฤหาสน์มาที่ถนนราวกับร่างกายถูกปลดปล่อย ความรู้สึกโล่งอกทำให้สองขาที่พยายามฝืนก้าวเดินออกมาทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งเปลือกตาที่หนักอึ้งจนยากจะปรือตามอง แม้จะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงแต่การถูกทรมานมายาวนานและใช้พลังฟื้นฟูไปมา กอปรกับการเปลี่ยนร่างที่ไม่ได้ทำมานานทำให้ร่างกายถึงขีดจำกัด เด็กหนุ่มจึงได้สลบบนพื้นถนนหน้าคฤหาสน์





เมื่อรู้สึกตัวเขาก็ตื่นมาอยู่ที่โรงพยาบาล ดูเหมือนจะมีพลเมืองดีมาช่วยเขาไว้แล้วพาส่งที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หมอที่ตรวจอาการระบุเพียงแค่เขาพักผ่อนไม่เพียงพอและโลหิตจางเท่านั้นจึงทำให้ต้องพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสัก2-3วันเพื่อเฝ้าดูอาการ

จากการติดต่อของเพื่อนๆและอาจารย์ทำให้เขารู้ว่าตัวเขาหายไปถึง3สัปดาห์ ไม่ร่องรอยหรือข่าวคราว ตัวเขาที่ไม่มีญาติที่ไหนทำให้ยากแก่การค้นหา เหล่าเพื่อนร่วมคลาสและอาจารย์ต่างช่วยออกตามหาเขาและเป็นห่วงกันมากมาย มีตำรวจมาหาเขาที่โรงพยาบาลเพื่อถามสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไป แน่นอนว่าเรื่องของแวมไพร์และมนุษย์หมาป่ายังคงเป็นความลับ ถึงจะว่าไปก็ใช่ว่าคนเหล่านี้จะเชื่อสิ่งที่เขาพูด แล้วเมื่อเขาเล่าทุกอย่างให้ตำรวจฟัง ตำรวจกลับคิดว่าเขาจำคนร้ายผิดหรืออาจโดนคนร้ายให้ข้อมูลปลอม เพราะร้านเนื้อที่เขากล่าวอ้างไม่มีพนักงานชื่อรีไวตามที่กล่าวอ้าง คฤหาสน์ที่เขาระบุว่าเป็นสถานที่คุมขังก็เป็นเพียงบ้านของหญิงชราที่อยู่ตามลำพัง ห้องนอนที่เขาถูกขังราวกับนักโทษก็ไม่ปรากฏอยู่ในคฤหาสน์หลังนั่น ทุกอย่างช่างดูราวกับตลกร้ายในฝันของเขา ถึงเขาจะคาดการณ์ว่าคงจะเป็นอย่างนี้อยู่แล้วเพราะแวมไพร์ขึ้นชื่อเรื่องการหลอกลวง แต่อย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่เชื่อได้ฝันร้ายของเขาได้จบลงแล้วด้วยมือของเขาเอง


“เธอไม่อยู่ทำฉันเป็นห่วงมากนะเอเลน” ศาตราจารย์เอลวินวางของเยี่ยมลงที่ข้างโต๊ะพร้อมทั้งส่งตุ๊กตาหมีขนปุยที่เขาตั้งใจซื้อมาฝากเด็กหนุ่มให้เจ้าตัว

“คุณเป็นห่วงผมแบบนี้น่าดีใจจังครับคุณเอลวิน” ใบหน้าหวานยกยิ้มบางก่อนนำตุ๊กตาหมีของฝากขึ้นกอดราวกับออดอ้อน

“เรียกว่าศาสตราจารย์สิเอเลน ไว้ฉันอยู่กับนายสองต่อสองที่ห้องเมื่อไรนายค่อยเรื่องชื่อฉัน” มือหนาขยี้ลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู

 “ถ้าผมออกจากโรงพยาบาลแล้วคุณจะไปช่วยติวหนังสือช่วงที่ผมขาดไปได้ไหมล่ะครับศาสตราจารย์” นัยน์ตาสีมรกตหรี่ลงอย่างเย้ายวน นิ้วเรียวยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากอิ่มของตนเอง

“ติวกันในห้องของผมดีไหมครับ?”

เอลวินก้มจุมพิตลงที่แก้มใสของเด็กหนุ่ม ก่อนจะเดินจากมาอย่างนึกเสียดายแต่เพราะมีธุระที่ต้องไปจัดการเลยทำให้เขาไม่อาจเสียเวลาอยู่ได้นาน

“วันนี้ที่มหาลัยมีปาร์ตี้ฮาโลวีนเสียดายที่นายไม่ได้เข้าร่วม แต่ฉันสัญญาว่าจะเอาขนมหวานมาให้นายนะเอเลน”

ประตูสีขาวของห้องพักผู้ป่วยปิดลงพร้อมกับร่างของชายหนุ่ม เอเลนมองตุ๊กตาหมีของฝากก่อนจะจับมันโยกเอียงไปมาด้วยความเอ็นดู

ฮาโลวีนวันนี้สินะ น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมถึงแม้จะบอกว่าเขาแข็งแรงดีแล้วแต่เพื่อนๆของเขารวมถึงคนอื่นๆคงไม่ยอมให้เขาเข้าร่วมปาร์ตี้แน่นอน ทั้งที่วันฮาโลวีนเป็นวันที่ไนต์คลับมีโปรโมชั่นเหล้าราคาดีแท้ๆ......น่าเบื่อชะมัด

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมร่างของพยาบาลสาวที่เขาเริ่มคุ้นเคยดีเพราะเป็นคนที่คอยดูแลเขาตลอดตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล

“สวัสดีค่ะคุณเอเลนวันีน้อาการเป็นยังไงบ้างคะ?” พยาบาลสาวถามตามหน้าที่เพื่อตรวจร่างกายของคนไข้

“สบายดีมากครับ ผมว่าหมออาจยอมให้ผมออกจากโรงพยาบาลได้ตั้งแต่พรุ่งนี้” ใบหน้าหวานพยายามออดอ้อนพยาบาลสาวให้เห็นใจ การอยู่โรงพยาบาลทั้งที่ร่างกายฟื้นตัวเองได้ก็เท่ากับมานอนเล่นเปล่าๆอย่างน่าเบื่อนั่นแหละ สู้ให้เขาเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มันน่าสนุกกว่านี้ยังดีเสียกว่า

“แหมคุณเอเลนเรื่องนั้นต้องให้คุณหมอเป็นคนตัดสินใจนะคะ” พยาบาลสาวหัวเราะขำในความขี้เล่นที่น่าเอ็นดูของเด็กหนุ่ม

“พูดถึงคุณหมอ คุณหมอกำลังมาตรวจห้องนี้พอดีเลยค่ะลองถามคุณหมอดูนะคะ”

เอเลนเบือนหน้าหนีอย่างนึกเบื่อ หมอที่เป็นเจ้าของไข้เขาคงไม่ยอมให้เขาออกอย่างง่ายดายแล้วต้องคอยฟังหมอบ่นทุกครั้งที่เขาบอกว่าเขาอยากออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปหาอะไรสนุกๆทำเสียที

“เป็นไงบ้างครับคุณเอเลน”

เสียงทุ้มที่เอ่ยถามทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นเฉียบ เสียงทุ้มที่เขาจำได้ดี ฝังลึกในโสตประสาทที่ราวกับฝันร้ายของเขา ใบหน้าหวานหันไปมองยังต้นเสียงแล้วเลือดในกายราวกับเป็นน้ำแข็ง ลมหายใจรู้สึกติดขัดขึ้นมาทันที

เอเลนคว้าตัวพยาบาลสาวพลางถามอย่างตื่นตระหนก

“หมอเจ้าของไข้ผมเป็นหมอฮันเนสนี่ครับ”

พยาบาลสาวมองหน้าเด็กหนุ่มพลางหัวเราะขำ

“คุณเอเลนนี่พูดตลกอีกแล้วนะคะ หมอรีไวเป็นเจ้าของไข้คุณตั้งแต่คุณเข้ามาเลยนะ คุณจำผิดแล้วล่ะอีกอย่างหมอฮันเนสขี้บ่นจะตายเด็กอย่างคุณคงไม่ชอบเท่าไร”

ถึงหมอฮันเนสจะขี้บ่นแต่ตอนนี้เขารู้สึกดีกว่าเป็นหลายร้อยเท่ากับหมอที่เขากำลังเผชิญหน้ากันอยู่ขณะนี้ รีไวสั่งให้พยาบาลสาวออกจากห้องเพื่อขอตรวจคนไข้เป็นการส่วนตัว พยาบาลยินยอมออกจากห้องอย่างง่ายดายราวกับโดนสะกด

ใบหน้าหวานขมวดคิ้วมุ่น นัยน์ตาสีมรกตฉากแววตื่นตระหนกอย่างชัดเจน ภาพที่หมอนี่กลายเป็นขี้เถ้าเขายังจำได้ดีแล้วทำไม......?

“นายบอกว่าฉันเหมาะกับเป็นหมอมากกว่า.......แบบนี้นายคงจะชอบสินะเจ้าลูกหมา” มือหนายกขึ้นลูบคางของตนพลางมองใบหน้าเด็กหนุ่มที่ตื่นตระหนกอย่างนึกขำ

“ก...แก ทำไม?”

รีไวเลื่อนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วยเขยิบมาใกล้ก่อนจะนั่งไขว้ขาอย่างไม่สนใจท่าทางหวาดระแวงระคนรังเกียจของเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย

“วันนี้วันฮาโลวีนฉันจะเล่านิทานให้นายฟังสักเรื่องละกัน”

“นี่แก!!

นัยน์ตาสีเงินเพียงตวัดมอง เด็กหนุ่มจึงนิ่งเงียบฟังสิ่งที่ปีศาจร้ายจะเล่าแต่โดยดี

“ราวๆ200ปีก่อนมีนักเล่นแร่แปรธาตุจอมเพี้ยนคนหนึ่งเดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อเสาะแสวงหาความเป็นอมตะ จนวันนึงยัยเพี้ยนงี่เง่านั้นก็เดินทางมาถึงประเทศเล็กทางตอนเหนือที่ได้ชื่อว่าปกครองโดยปีศาจร้าย ยัยเพี้ยนที่อยากรู้ความลับการเป็นอมตะนั้นจึงเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับปีศาจร้ายผู้ปกครองประเทศ ด้วยความที่รู้จัดอ่อนที่สามารถกำจัดปีศาจได้ทุกเมื่อกับการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆทำให้ยัยเพี้ยนนั้นสามารถผ่าตัดย้ายหัวใจออกจากร่างกาย โดยที่หัวใจนั่นจะยังคงทำงานได้ตามปกติ และร่างกายของปีศาจตนนั้นก็ยังคงดำเนินอยู่ได้อย่างเป็นอมตะ เงื่อนไขทุกอย่างถูกทำข้อตกลง ปีศาจร้ายหยิบยื่นความเป็นอมตะให้กับหญิงสาวจอมเพี้ยนเพื่อแลกกับร่างกายที่แข็งแกร่งไร้จุดอ่อน ทุกอย่างผ่านไปอย่างประสบผลสำเร็จ นักเล่นแร่แปรธาตุผู้นั้นได้ชีวิตความเป็นอมตะเช่นเดียวกับแวมไพร์ แล้วคอยช่วยจัดการเรื่องต่างๆรอบตัวได้เป็นอย่างดี นับว่าได้มือขวาที่ดีเลยทีเดียว”

มือบางกำผ้าห่มสีขาวแน่นอย่างเจ็บใจ สมแล้วที่เป็นเผ่าพันธุ์แห่งการหลอกลวง จงใจปล่อยเขามาเพื่อเปลี่ยนบทบาทใหม่ที่น่าสนุกให้กับตนเอง

“หญิงชราที่คฤหาสน์นั้นตอนที่ตำรวจไปคือนักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้นสินะ”

“ดูเหมือนนายเองก็ฉลาดพอตัวนะเอเลน” ใบหน้าคมคายยกยิ้มบาง

“แกต้องการอะไรกันแน่!?” เสียงหวานตะโกนถามลั่นอย่างโกรธเกรี้ยว

รีไวเหยีดยกายลุกขึ้นยืนก่อนจากวางแขนทาบทับกับข้อมือบางคร่อมตัวเด็กหนุ่มไว้ ริมฝีปากคมทาบทับลงบนแก้มใสของเด็กหนุ่ม

“ฆ่าเชื้อโรคที่มีแมลงมารบกวนของของชั้น”

“น....นาย...” เม็ดเหงื่อเย็นผุดพราย ร่างบางสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวกับฝันร้ายที่ราวกับจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

“ฉันบอกแล้วไงเอเลน นายเป็นของของฉัน และฉันไม่ชอบให้ของฉันมีตำหนิ”

มือหยาบสัมผัสลงบนแก้มเนียนใสของเด็กหนุ่มก่อนจะหยุดลงที่ริมฝีปากอิ่มที่กำลังสั่นระริก

 .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

“เอเลน..................Trick or Treat ?
Fin.
.......................................................................................................................................................
Talk: ฟิคต้อนรับวันฮาโลวีนค่ะ(อย่างน้อยมีแวมไพร์กับมนุษย์หมาป่านะ!!) เขียนฟิคโลกสดในมาสักพักอยุ่ๆอะไรบางอย่างก็เรียกร้อง(อืม............ความดาร์คในตัว) ฟิคนี้ได้เเรงใจมากจาก. เพลงAnimals ของ Maroon5 ค่ะ คนขายเนื้อเเซ่บ เนื้อหาซาบซ่ามากมาย*//////*
ที่จริงตอนแรกจะเขียนรีไวเป็นสตลอกเกอร์ธรรมดาแต่คุยเล่นกันไปมากับน้อง
Kisagi Ruji แล้วก็ Jadenchase  เลยออกมาเป็นเช่นนี้แล=w=a
ประเด็นอีกอย่างเลยก็คือ พอเหนือมนุษย์แล้วไม่ตายง่ายดีค่ะ(เหตุผลช่าง.............)
เอาเป็นว่าฝากฟิควิปริตป่วงๆอีกฟิคแล้วกันค่ะ
ทุกท่านสามารถเข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ ยินดีต้อนรับและพูดคุยกับทุกท่านค่ะ >w<

5 ความคิดเห็น:

  1. ทั้งนักแปรธาตุ ทั้งแวมไพร์ ทั้งมนุษย์หมาป่า ฟินสุดครับ โดยเฉพาะที่เอเลนถูกกระทำชำเราและล้างเครื่องใหม่ทั้งหมด ยิ่งกว่าเข้าอู่ เคลมเครื่องใหม่ชัดๆ ฟฟฟฟ เรื่องนี้เอเลนคงต้องจมปลักกับอาเฮียไปตลอดกาลซะแล้วสินะครับ หวังว่าจะมีวันที่อาเฮียจะให้ความรักน้องแบบปกติบ้าง ไม่ใช่ผ่าท้องเล่นทุกวัน

    แต่ใจก็อยากมีโมเม้นท์แบบอาเฮียเยน้องไปและเอามีดแทงท้อน้องเล่น ไม่ก็บิดลำไส้น้องเล่นจังครับ ฮรูววววววววววว //พวกเราเป็นคนปกติจีๆ
    หรือค่อยๆเอากัดกระชากกินเนื้อไปเยไป ฟันไม่คมเท่ามีด ต้องใช้แรงฉีกกระชากเยอะกว่า สร้างความเจ็บปวดได้มากกว่าด้วยนะครับ โฮกกกกก

    ....เราควรเอาตัวเองไปเก็บ....

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เป็นฟิคฮาโลวีน(?) ค่ะ คือมันเป็นชอตฟิควันที่จะหวานมุ้งมิ้งคงไม่มี(ฟิคอื่นหวานละถือว่าทดเเทนกันค่ะ) ฉากน้ำกรดเขียนเองชอบเองยกเครื่องใหม่ดีค่ะ5555555 เฮียรักความสะอาดเพราะงั้นทุกอย่างต้องเอี่ยมอ่อง

      ลบ
  2. เป็นฟิคที่เหมาะกับ ฮาโลวีน มากกก
    ปกติเอเลนเด็กน้อยก็เหมือนลูกหมาเชื่องๆตัวนึงอยู่แล้ว พอมาเป็นหมาป่าดูดื้อมากมายเกินขนาด แต่อย่างว่า หมาเวลาอยู่กับเจ้าของก็เป็นหมาน้อยอยู่ดี
    เรื่องนี้แซ่บค่ะไรท์ ถึงแม้จะสงสารเอเลนหนูน้อยไปนิดนึงก็เหอะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เปลี่ยนบรรยากาศจากฟิคเรื่องอื่นๆกันมั่งค่ะ ต้อนรับเทศกาลสิ้นเดือน ><

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ29 ตุลาคม 2557 เวลา 23:51

    กรี๊ดดด สงสารหนูเอเลนเหมือนกันนะคะ แต่ฉากผ่าท้องนี่ทำไมเราฟิน เอิ่ม สรุปว่าไม่ซาดิสตัวพ่อไม่ใช่พี่เตี้ยสินะคะ ฮา ทำใจสะเถอะเอเลนเอ๋ย ยังไงร่างกายก็ฟื้นสภาพเร็วอยู่แล้ว ก็จงอยู่เป็นของเล่นที่รักของพี่เตี้ยต่อไปชั่วกาลนานเถิด เพื่อความฟินของพวกเรา อิอิ

    ชอบมากค่ะแม้จะซาดิสแต่เหมาะเป็นฟิค ฮาโลวีนมากค่ะ รอเรื่องอื่นๆต่อไปนะคะ ^^

    ปล.ไหนๆก็มีฟิคซาดิสรับฮาโลวีนแล้ว ขอ Libido มาช่วยเสริมความดาร์กอีกเรื่องสิคะไรท์ แหะๆ // โดนตรบ

    รอตามผลงานเรื่องอื่นๆต่อไปนะคะไรท์ สู้ๆคะ สนุกทุกเรื่อง จริงๆค่ะ บล็อกนี้ >w< b

    ตอบลบ