Attack On
Titan Fan Short fic.: Wild
Animals
Pairing: (LevixEren)
Rate: NC-18 Yandere , BDSM , NTR , Guro
Warning: เนื้อหาฟิคเรื่องนี้ค่อนข้างรุนแรงทั้งในส่วนของเนื้อหาเกี่ยวกับเพศและพฤติกรรมที่ไม่ปกติ
ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่จิตอ่อน เพราะ R18 ของฟิคนี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่เรื่องเพศเพียงอย่างเดียว
Story By: Trendy
Blood
………………………………………………………………………………………………..
กลิ่น.......
กลิ่นของเลือด กลิ่นผิวเนื้อ....
กลิ่นเฉพาะตัวของบุคคลที่แตกต่าง
แต่กลิ่นหนึ่งนั่นต่างออกไป.....กลิ่นที่น่าหลงใหล...
ช่างหอมหวานและพิเศษกว่าทุกกลิ่นที่เคยได้สัมผัส..........
ปึง
ปึง
ปึง
เสียงมีดเล่มหนาในมือเคาะเป็นจังหวะตามเช่นทุกวัน
เขียงไม้ขนาดใหญ่ที่มีเนื้อและซี่โครงดิบที่ชุ่มไปด้วยเลือด
ต้องขอบคุณระบบความเย็นที่ราวกับห้องแช่ทั่วทั้งร้านและระบบระบายอากาศที่ดีเยี่ยมจึงทำให้กลิ่นความของเลือด
และเนื้อที่น่าสะอิดสะเอียนนี้จางลง ไม่มีใครอยากอยู่กับกลิ่นแบบนี้นานๆหรอก
แต่ในเมื่อเป็นงานก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
มือแกร่งสวมถุงมืออนามัยยังคงขยับหั่นซี่โครงขนาดใหญ่ให้เป็นท่อนเล็ก
ใบหน้าเฉยชาไม่แสดงอารมณ์ ผิวที่ขาวซีดและสายตาคมที่จับจ้องเพียงแต่ชิ้นเนื้อตรงหน้า
ผมสีดำรัตติกาลถูกเสยไปด้านหลังก่อนจะถูกคาดทับด้วยผ้าเพื่อป้องกันเส้นผมร่วงหล่นลงบนเนื้อ
นัยน์ตาสีเงินเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนบนผนัง
เข็มสั้นชี้ที่เลขสี่และเข็มยาวชี้ที่เลขสิบเอ็ด
อีกไม่นานหมอนั่นก็จะมา..............
ริมฝีปากบางลอบยกขึ้นมุมปาก
แขนกำยำแข็งแรงยังเคาะกระแทกสับเนื้อบนเขียงอย่างต่อเนื่อง
ก่อนมือที่กำมีดบังตอขนาดใหญ่จะหยุดลง กลิ่นที่ลอยมาตามลม แม้เพียงแผ่วเบาแต่เขาจดจำได้ดี.....
เพราะมันพิเศษ.............พิเศษกว่ากลิ่นไหนที่เขาเคยได้สัมผัส
เพียงไม่นานร่างโปร่งบางของเด็กหนุ่มก็เดินผ่านม่านประตูพลาสติกหนาเข้ามาในร้าน
“ว่าไงเอเลนวันนี้นายจะเอาอะไรดีล่ะหนุ่มน้อย?”
เจ้าของร้านขายเนื้อรูปร่างใหญ่โตเอ่ยทักทายด้วยความเป็นมิตร
เด็กหนุ่มร่างบางยิ้มทักทายให้กับเจ้าของร้านเจ้าประจำที่เขามาซื้ออยู่บ่อยครั้ง
ใบหน้ากลมมนก้มลงมองตู้กระจก เนื้อสีสดแสดงถึงความสดใหม่และคุณภาพดีวางเรียงรายอย่างส่วนงามให้เลือกสรร
นัยน์ตาสีมรกตกลอกตามองไปมาก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อซี่โครงหมูชิ้นใหญ่
และส่วนของทีโบนสเต็กไป
ไม่มีแม้แต่การสบตาระหว่างเขาและเด็กหนุ่มจวบจนกระทั่งร่างบางเดินออกจากร้าน
กลิ่นที่หอมหวานเบาบางลงจากระยะทางที่ร่างโปร่งบางเดินห่างออกไป
ใช่.........
เขาและเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าเอเลนไม่รู้จักกัน
หรืออย่างน้อยต้องเรียกว่าเอเลนไม่รู้จักเขา
แต่ตัวเขารู้จักเด็กหนุ่มคนนั้นดีทุกอย่าง.....
รู้แม้กระทั่งเรื่องที่เจ้าตัวปิดบังซ่อนไว้..............................
และอีกไม่นานเด็กคนนั้นจะได้รู้จักเขา...................เขามั่นใจเลยว่าเอเลนจะต้องอยากรู้จักกับเขาแน่นอน......แต่ถ้าไม่.......มันคงจะสายไปแล้วสำหรับ.................การปฏิเสธ.........................
ซ่า......ซ่า..........ซ่า
สายฝนที่ตกกระหน่ำลงมายิ่งทำให้บรรยากาศเย็นเฉียบ
กลิ่นของฝนที่ลอยมาแตะจมูกต่างกลบกลิ่นอื่นๆ
ถึงกระนั้นกลิ่นที่เขาหลงใหลยังคงฝังแน่น แม้จะเพียงเบาบางแต่แจ่มชัดจนกลิ่นของฝนมิอาจกลบมิด
สองเท้าเดินมาถึงตึกขนาดสี่ชั้นสีอิฐ มือหนาดึงฮู๊ดสีเข้มของเสื้อตัวนอกให้กระชับกับใบหน้ามากยิ่งขึ้น
มีอหยาบหยิบกล้องขึ้นมาระรัวถ่ายภาพ
ด้วยความคมชัดของกล้องเขายังคงได้ภาพที่น่าพึงพอใจ ถึงแม้จะมีหน้าต่างกันขวาง หยาดน้ำรวมทั้งไอฝนที่เกาะกระจกจนเป็นฝ้า
ใบหน้ากลมมน นัยน์ตาสีมรกต จมูกที่เชิดขึ้นรั้นนิดๆ
และผมสั้นสีน้ำตาลเข้มฉายชัดในนัยน์ตาสีเงินที่จับจ้องโดยอีกฝ่ายไม่ได้รู้ตัว
ร่างเล็กแต่กำยำไปด้วยกล้ามเนื้อแทรกกายเข้าในซอกหลืบของอาคารฝั่งตรงข้ามกับอพาร์ทเมนต์สีแดงอิฐ
ร่างโปร่งบางของเด็กหนุ่มยืนชิดริมหน้าต่าง
ไอร้อนจากลมหายใจของร่างบางยิ่งทำให้กระจกหน้าต่างขึ้นฝ้า
นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาจากชั้นสามของอาคาร
นัยน์ตาคมมองผ่านช่องภาพก่อนระรัวกดชัตเตอร์จับภาพเด็กหนุ่มเบื้องหน้า
...............ใช่........................เขากำลังหลงใหลเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าเอเลนหลังจากที่เจอในร้านขายเนื้อที่เขาเพิ่งไปสมัครทำงานเมื่ออาทิตย์ก่อนด้วยความที่ว่างจัด
และไม่มีอะไร
ไม่คิดเลยว่าการตัดสินใจในการฆ่าเวลาเล็กๆน้อยๆของเขาจะทำให้เขาเจอสิ่งที่น่าสนใจถึงเพียงนี้..........
นิ้วที่กำลังกดชัตเตอร์รัวต้องหยุดชะงัก
เมื่อกล้องซูมจับภาพของอีกคนที่เข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม
มือใหญ่ที่วางทาบทับมือบางที่กำลังไล่ตามหยาดฝนบนกระจก ใบหน้าคมคายสุขุม
และดูเป็นมิตรของผู้ใหญ่เขยิบเข้ามาใกล้ใบหน้ามนหวานที่เอี้ยวคอมอง
สองมือหยาบของผู้แอบเฝ้ามองจับกล้องไว้แน่นก่อนจะปรับซูมเลนส์ให้ใกล้มากยิ่งขึ้น
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผมสีทองปัดข้าง
นัยน์ตาสีฟ้าดุจน้ำทะเลลึกกำลังจ้องมองใบหน้ามนของเด็กหนุ่มที่เขากำลังยืนทาบทับอยู่เบื้องหลัง
ใบหน้าผู้ใหญ่ที่อ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ยกยิ้มบาง
ชายหนุ่มผมทองซุกหน้าลงกับคอขาวของเด็กหนุ่มที่สวมเสื้อแขนยาวคอกว้าง
เอเลนหมุนตัวเผชิญหน้ากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้กสีขาว
นัยน์ตาสีมรกตหรี่ลงก่อนริมฝีปากอิ่มจะยกยิ้มขึ้นราวกับตอบรับ
สองแขนบางตวัดรอบลำคอของชายหนุ่มพลันเบียดกายแนบชิดกับร่างใหญ่มากยิ่งขึ้น
มือของชายหนุ่มผมทองเองก็กอดรัดรอบลำตัวบางก่อนจะใช้มืออีกข้างดึงม่านสีน้ำเงินเข้มลงมาปิดบัง
นัยน์ตาสีหมอกจับจ้องจนม่านหนาถูกดึงลงมาปิด
ริมฝีปากบางเฉียบยกยิ้มขึ้นพลางผิวปากอย่างนึกสนุก
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผมสีทองคนนั้นเขาเองก็รู้จักดี
ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นลูกค้าของร้านขายเนื้อ
แต่เพราะเป็นคนรู้จักที่อยู่รอบตัวเด็กนั่นเขาจึงรู้จัก ศาสตราจารย์เอลวิน สมิธ
อาจารย์ผู้สอนวิชาการบริหารให้มหาวิทยาลัยที่เอเลน เยเกอร์ กำลังศึกษา............
ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนั่นจะมีการใช้ทริคที่ทำให้ได้เกรดมาแต่ในละเทอมอย่างน่าสนใจไม่เลว.........
นอกจากเอลวิน สมิธ ก็ยังมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์เบลทรูธ รองศาสตราจารย์มิเกะ
หรือเพื่อนร่วมคลาสเรียนอย่างแจน กิลชูไตน์
ช่างเถอะ.............ตอนนี้เขาจะไม่ว่าอะไรหรอกนะ
เขาจะยอมปล่อยเด็กน้อยแสนซนนั่นสนุกให้เต็มที่อีกสักหน่อย
ปล่อยให้ได้เล่นอย่างที่อยากอีกสักนิด
ท้ายที่สุดแล้วเจ้าเด็กนั่นก็คือของเขาและจะเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น.......................................
คืนวันศุกร์ของเอเลน
เยเกอร์ ก็เหมือนกับชีวิตวัยรุ่นทั่วไปที่ชื่นชอบการเที่ยวกลางคืน ร่างโปร่งสวมเสื้อกล้ามเข้ารูปสีขาวก่อนจะคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวมีฮู๊ดสีเขียว
ผมสีน้ำตาลถูกจัดแต่งทรงมาอย่างดี
นัยน์ตาคมกล้าของผู้ที่แอบเฝ้ามองคอยสังเกตการณ์ตั้งแต่ร่างบางนั้นออกจากอพาร์ทเมนต์จนถึงไนท์คลับสถานที่ประจำในคืนวันศุกร์กับเหล่าเพื่อนของเขา
ชายหนุ่มร่างไม่สูงแต่กำยำไปด้วยมัดกล้ามในชุดเชิ้ตสีดำผ่าลงมาถึงอก
ยิ่งเผยให้เห็นมัดกล้ามสวยงามจนทำให้หญิงสาวหลายคนในไนท์คลับคืนนี้ถึงกับตาลุกวาว
ใบหน้าเฉยชาที่ล้อมรอบด้วยผมสีดำรัตติกาล นัยน์ตาคมกล้าสีเงินและเย็นชาเพียงแค่สบมองก็ทำให้ราวกับหยุดหายใจนั่น
เรียกได้ว่าเป็นที่สนใจของบรรดาสาวๆในค่ำคืนนี้ที่พยายามแต่งกายด้วยชุดวาบหวามเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้าม
หญิงสาวใจกล้าที่มั่นใจในรูปร่างหน้าต่างหลายคนเดินเข้ามาทักทายแล้วต้องถอยหลังกลับไปเมื่อประกายตาคมกล้าจับจ้องมาอย่างรู้สึกรำคาญ
ต่อให้ค่ำคืนนี้จะมีสาวสวยขนาดไหนอยู่ตรงหน้า
หรือพวกหล่อนเหล่านั้นพยายามเชิญชวนเขาเพียงใด
ทั้งหมดนั้นล้วนไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแม้แต่น้อย
เพราะค่ำคืนนี้เขามีเป้าหมายที่ติดตาม
และเวลาที่เขาจะล่าเหยื่อที่หมายตาก็ใกล้เข้ามา
เอเลนยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อน
มือบางถือแก้วบรรจุของเหลวสีอำพันยกขึ้นดื่มพลางหัวเราะพูดคุยอย่างสนุกสนานกับบรรดาผู้คนที่รายล้อม
ริมฝีปากบางยกยิ้ม เลือดในกายพลันสูบฉีดอย่างตื่นเต้น
ชายหนุ่มแฝงกายไปกับเหล่าบรรดาผู้คนที่เบียดเสียดกันมากมายในไนท์คลับ
แต่สายตาคมยังคงคอยจับจ้องเหยื่อของเขาไม่วางตาราวกับสัตว์ร้ายที่อยู่ภายในกายกำลังจ้องหาจังหวะเพื่อตะครุบเหยื่อไม่ให้หลุดรอด
เพียงไม่นานโอกาสก็มาถึงเมื่อเด็กหนุ่มเป้าหมายขอตัวจากกลุ่มเพื่อนเข้าห้องน้ำ
ผู้ล่าที่รออยู่แล้วจึงรีบเดินตามเข้าไปเพื่อไม่ให้เสียจังหวะ
ใบหน้ามนล้างมือก่อนจะก้มล้างหน้าของตัวเอง
ดูเหมือนคืนนี้เขาจะสนุกมากไปหน่อยเลยเริ่มรู้สึกตึงๆขึ้นมาจากเครื่องดื่มที่เพื่อนๆพากันรินใส่แก้วเขาไม่ขาดสาย
“ไหวรึเปล่า?”
เสียงทุ้มที่เอ่ยถามทำให้เอเลนเงยหน้าขึ้นมอง
ผ้าเช็ดหน้าสีขาวถูกยื่นส่งให้จากชายแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จัก ถึงอย่างนั้นเขาก็รับไมตรีจากคนแปลกหน้าพลางกล่าวขอบคุณ
“ขอโทษที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าของคุณแล้วก็ขอบคุณมาก
เออ คุณ.......”
“รีไว”
ใบหน้าเฉยชายกยิ้มอย่างสุภาพ
เอเลนใช้ผ้าเช็ดหน้าของชายแปลกหน้าซับน้ำที่เกาะตามผิวหน้าของตน
กลิ่นหอมสะอาดของผ้าเช็ดหน้าที่แตะจมูกทำให้รู้ได้ว่าชายผู้นี้เป็นคนที่รักความสะอาดน่าดู
อย่างน้อยก็มากกว่าเขาที่ผ้าเช็ดหน้าไม่สามารถยื่นให้คนอื่นใช้ต่อได้แบบนี้แน่นอน
“ผ้าเช็ดหน้าของคุณสกปรกเพราะผมซะแล้ว
ถ้ายังไงไว้ผมซักแล้วนำมาคืนให้ดีไหมครับคุณรีไว ถ้าคุณไม่ว่าอะไร?”
ชายหนุ่มเขยิบเดินเข้าชิดร่างบางมากขึ้น
สายตาคมกล้าจับจ้องใบหน้าหวานไม่วางตา
มือแกร่งวางคร่อมกับร่างโปร่งที่เขยิบจนชิดอ่างล้างหน้า
นัยน์ตาสีมรกตหรี่มองหน้าชายหนุ่มพลางนึกขำ
ด้วยความที่คุ้นชินกับการเที่ยวกลางคืนและสถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดีทำให้เขาไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไร
จะติดใจก็แต่ที่ชายหนุ่มเบื้องหน้าเขาเป็นคนที่ดูดีและเซ็กซี่อย่างหาตัวจับได้ยาก
เรียกว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์หาตัวจับได้ยาก แบบนี้จะเรียกว่าเขาโชคดีได้รึเปล่า?....
“หรือว่าคุณอยากให้ผมไปซักคืนให้คุณที่ห้องดีล่ะ
คุณรีไว?” ใบหน้าหวานยกยิ้มขึ้นอย่างเย้ายวน
การเข้าประชิดตัวแบบเร่าร้อนแบบนี้ก็ทำให้ตื่นเต้นดีไม่น้อย
“นายนี่ยั่วเก่งไม่เบานะ
เอเลน เยเกอร์” ใบหน้าคมคายเขยิบเข้าใกล้ใบหน้าหวานมากยิ่งขึ้น
คิ้วมนสีน้ำตาลเลิ่กขึ้นอย่างนึกแปลกใจ
เขาจำไม่ได้ว่าบอกชื่อตัวเองกับชายหนุ่มตรงหน้า
อย่างน้อยเรื่องของนามสกุลเขาไม่มีทางบอกกับคนที่เพิ่งเจอกันแน่..........ดูว่าสัญชาตญาณของเขาชักเริ่มร้องเตือนว่าหมอนี่อันตรายและเขาก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
มือบางจึงค่อยๆดันไหล่หนาที่ประชิดเข้ามาออกก่อนจะแทรกกายเดินเลี่ยงออกมาเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มไหวตัว
“น่าเสียดายที่เพื่อนของผมรออยู่
ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันใหม่นะครับ.......คุณรีไว”
เอเลนยื่นผ้าเช็ดหน้าส่งคืนให้ชายหนุ่ม
เขาพยายามอ้างเรื่องเพื่อนขึ้นมาเพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่าตัวเขาไม่ได้มาเพียงคนเดียว
และถ้าเกิดอะไรขึ้นเพื่อนของเขาต้องตามหาเขาอย่างแน่นอน
มือหยาบที่รอรับผ้าเช็ดหน้าเลื่อนจากมือจากผ้าเช็ดหน้าเป็นข้อแขนบางของเด็กหนุ่มแทน
“ฉันว่าเพื่อนของนายคงชินกับการที่นายชอบหายไปกับใครสักคนในคืนวันศุกร์แบบนี้อยู่แล้ว.....จริงไหม?”
เหงื่อเย็นเริ่มไหลซึมกาย
นัยน์ตาสีมรกตสบมองกับชายหนุ่มนิ่งหวังประเมินสถานการณ์
เขาเคยเจอพวกตามตื้อแบบนี้มาก็มาก แต่รายนี้ดูอันตรายเกินไปที่เขาจะเล่นด้วยไปมากกว่านี้....
“อ่า........คุณรีไว”
ใบหน้าหวานยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ผมชอบที่จะเป็นคนเลือกมากกว่าเป็นตัวเลือกของใครนะครับ...........และคืนนี้ของผม........ก็ไม่ใช่คุณ”
แขนบางพยายามสะบัดข้อมือของชายหนุ่มออก
แต่แรงที่บีบข้อมือของเขาแน่นนั่นไม่ยอมขยับสักนิด ใบหน้าคมเพียงยกยิ้มมุมปาก
แล้วไฟฟ้าหลายโวลล์ก็จี้เข้าที่เอวบาง!!
เอเลนรู้สึกชาและไร้เรี่ยวแรง
เด็กหนุ่มกระตุกเกร็งลงบนไหล่หนาที่รอรับอยู่เบื้องหน้า ริมฝีปากบางสั่นระริก
เสียงที่พยายามจะเอ่ยแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ นัยน์ตาสีมรกตฉายแววขุ่นเคืองก่อนสติค่อยๆจางลง
พร้อมเสียงทุ้มของชายหนุ่มที่ได้ยินอย่างแผ่วเบา
“ฉันเองก็ชอบที่จะเป็นคนเลือกเช่นกัน...เอเลน.....”
.
.
.
.
.
.
.
.
เปลือกตาบางพยายามลืมขึ้นอย่างยากลำบาก
เอเลนส่ายหัวไปมาเพื่อหวังเรียกสติที่พร่าเลือนของตน สองแขนพยายามยก
แคร้ง!
เสียงของโลหะที่กระทบทำให้นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างมองที่แขนของตน
โซ่ตรวนเหล็กกล้าพันธนาการข้อมือทั้งสองไขว้ไปเบื้องหลัง มีเพียงสองขาที่ยังคงปล่อยเป็นอิสระ
เอเลนพยายามดึงทึ้งโซ่ตรวนที่พันธนาการจนเกิดเสียงดังก้อง แต่ไม่เป็นผล
ใบหน้าหวานคำรามต่ำพลางสบถอย่างหัวเสีย
บ้าเอ๊ย!! ไอบ้านั่น พลาดท่าจนได้!!!
เด็กหนุ่มพยายามมองรอบกายเพื่อหวังจะหาสิ่งของที่พอจะช่วยให้ออกไปจากสถานการณ์เลวร้ายนี้
ห้องสี่เหลี่ยมที่มืดสนิทเพราะไม่ได้เปิดไฟ
พื้นที่เขากำลังนั่งอยู่ดูเหมือนจะเป็นพื้นพรม
สายตาที่ชินกับความมืดจึงเห็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องลางๆ โซฟา เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า
เตาผิง จากขนาดของห้องแล้วเป็นห้องที่กว้างน่าดู
เอเลนพยายามเอี้ยวคอมองสิ่งที่อยู่ด้านหลังของตัวเอง
เสาสีขาวขนาดใหญ่ที่เป็นหลักยึดโซ่กับเขา.....ถ้าเพียงแต่ไม่มีเสานี้คั่นไว้เขาคงหาทางหนีไปง่ายขึ้น
และยิ่งสำรวจรอบๆยิ่งไม่เจอสิ่งของใดที่พอจะช่วยให้เขาออกไปจากที่นี้ได้ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มหัวเสียมากยิ่งขึ้น
นี้เขาคงต้องรอเวลาอย่างเดียวสินะ! ริมฝีปากขบกันจนขึ้นสันกราม
สองขาที่เป็นอิสระจึงเตะโซฟาที่อยู่ใกล้เพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่าน
โครม!!
โซฟาสีแดงถูกเตะกระเด็นชนพนังพร้อมกับประตูบานไม้ขนาดใหญ่ที่เปิดออก
ใบหน้าของผู้ที่เดินเข้ามาเอเลนจำได้เป็นอย่างดี
เพราะเป็นคนที่ทำเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเขาตอนนี้
นัยน์ตาสีเงินมองโซฟาที่พนักวางแขนหักก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟอย่างไม่ได้ใส่ใจ
แรงมหาศาลของเอเลน เยเกอร์ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับเขา เพราะเขารู้อยู่แล้วความลับที่เด็กหนุ่มซ่อนเอาไว้
“โชคดีที่ไม่ใช่คืนพระจันทร์เต็มดวง
ไม่อย่างนั้นคงไม่เพียงแค่โซฟาที่จะพังสินะ”
เอเลนชะงักงันกับคำพูดของชายหนุ่ม
นัยน์ตาสีมรกตมีประกายคมกล้าจ้องมองใบหน้าคมคายที่ดูน่าหมั่นไส้เบื้องหน้า
“อะไรของนายไอโรคจิตเอ๊ย!”
รีไวเพียงจัดการดึงโซฟากลับเข้าที่เดิมยังเบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม
ร่างแกร่งนั่งลงบนโซฟาสีแดงกำมะหยี่ราวกับโลหิตอย่างสบายอารมณ์
สองขาไขว้หากันพลางแขกที่ขึ้นยกท้าวใบหน้าคมคาย
นัยน์ตาสีเงินจับจ้องยังร่างโปร่งบางที่มองมาอย่างหาเรื่องพลางยกยิ้มมุมปาก
ความลับของเอเลน
เยเกอร์ ที่ซุกซ่อนไว้
ทำไมตัวเขาจะไม่รู้ล่ะเพราะกลิ่นที่แตกต่างที่เขาสัมผัสได้นั่นมันช่างน่าพิเศษ........และกระตุ้นความอยากของเขาที่ปิดบังไว้มานาน
“ถ้านายสังเกตหรือระวังตัวไว้บ้างมันคงยากสำหรับฉันมากกว่านี้........นึกอะไรออกบ้างไหมเจ้าหนู?”
นัยน์ตาสีเขียวจ้องเขม็งชายหนุ่มและท่าทางโอหังอย่างขุ่นเคือง
เขากับหมอนี่เคยเจอกันที่ไหนงั้นรึไง?
เอเลนไล่สายตาจ้องมองชายหนุ่มอย่างคิดวิเคราะห์
สมองของเด็กหนุ่มค่อยๆรื้อฟื้นความทรงจำและประมวลผล
ภาพของร้านขายเนื้อเจ้าประจำที่เขาแวะไปทุกอาทิตย์ค่อยๆผุดขึ้นมา
ชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่ที่มักง่วนอยู่กับการหั่นเนื้อค่อยๆปรากฏขึ้นมา หลายครั้งที่เขาปรายสายตาไปมองเพราะด้วยรูปร่างและมัดกล้ามของชายหนุ่มที่ดูน่าหลงใหล
แต่ไม่คิดเลยว่าพนักงานขายเนื้อจะเป็นคนโรคจิตที่คอนตามเขาแบบนี้
หรือบางที..........อาจไม่ใช่แค่พนักงานขายเนื้อธรรมดา นัยน์ตาสีมรกตกรอกไปมาสำรวจห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของชายหนุ่ม
เครื่องเรือนที่ดูหรูหราราคาแพง พื้นพรม โคมไฟระย้าบนเพดาน
และพนังที่บุด้วยหนังรอบด้าน
พนักงานขายเนื้อธรรมดาคงไม่มีเงินมากถึงขนาดอยู่ในสถานที่หรูหราขนาดนี้ได้
ห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง ทางเข้าและออกมีเพียงประตูไม้สีน้ำตาลเท่านั้น
“นายไม่ใช่แค่คนขายเนื้อสินะ?”
คิ้วคมเลิ่กขึ้นสนใจกับคำถามเชิงคำตอบของเด็กหนุ่ม
ดูเหมือนหมอนี่จะนึกอะไรออกบ้างแล้ว
“แล้วดูท่าจะไม่ใช่คนธรรมดาซะด้วย”
นัยน์ตาสีมรกตมีประกายคมกล้าสบกับใบหน้าที่ยังคงนิ่งงัน
“เป็นพ่อค้ายาโรคจิตที่ทำอาชีพเสริมบังหน้ารึไง!”
คำตอบของเด็กหนุ่มทำให้รีไวรู้สึกขำ
ดูเหมือนเขาจะหวังสูงกับเจ้าเด็กเมื่อวานซืนนี้มากไปสินะ......เจ้าหนูนี่คิดอะไรได้น่ารักชะมัด.....
“ขอฉันถามบ้างนะไอหนู.......”
ริมฝีกบางยกยิ้ม นัยน์ตาสีเงินจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยความสนุก
“อะไรที่นายจงใจซ่อนไว้กันแน่
ความลับของนาย..........ถ้านายยังทำเป็นนึกไม่ออก......ฉันจะช่วยใบ้ให้”
นิ้วเรียวขยับไปมาราวกับพยายามนึกหาคำใบ้ให้กับเด็กหนุ่ม
“ข้อแรก
ความลับของนายเกี่ยวกับพระจันทร์” ใบหน้ามนหวานเริ่มมีเหงื่อไหลซึม
นัยน์ตาสีเขียวจ้องเขม็งรอฟัง
“ข้อที่สอง
นายเป็นพวกชอบกินเนื้อ.............โดยเฉพาะเนื้อสดๆ”
รีไวลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้เอเลนที่ถูกจับล่ามไว้กับเสา
“และข้อที่สาม.......กลิ่นสัตว์ป่าของนายมันรุนแรงมากยังไงล่ะเอเลน”
ฟันขาวขบกันจนขึ้นสันกราม
นัยน์ตาสีเขียวจ้องเขม็งยังใบหน้าคมคาย นัยน์ตาสีมรกตเริ่มมีประกายของสีทองอำพันเคลือบแฝง
ความลับที่เขาซ่อนเร้นไว้แต่หมอนี่กลับดูออก
“นายเป็นใคร
หมาป่างั้นเรอะ!?”
ร่างแกร่งเพียงยักไหล่
มือหยาบลูบไปตามใบหน้าหวานที่สะบัดหนีออกอย่างนึกขัน
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
ฉันกับนายเป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียกได้ว่าอยู่เคียงคู่กันมานานเลยทีเดียวเด็กน้อย
บางทีฉันอาจจะรู้จักกับบรรพบุรุษของนายก็ได้”
ริมฝีปากบางยกยิ้ม
ขมเขี้ยวทีแรกที่ดูปกติงอกยาวออกมา นัยน์ตาสีเงินส่องประกายวาววับจ้องมองเด็กหนุ่ม
“ไม่คิดว่าพวกหนูมีปีกอย่างนายจะชอบไปทำงานที่ร้านขายเนื้อ
เห็นเผ่าพันธุ์นายชอบอยู่ตามโรงพยาบาลไม่ใช่รึไง?”
“ชีวิตที่ยาวนานก็ต้องหาอะไรแปลกใหม่ทำแก้เบื่อบ้าง
แต่ไม่นึกเลยว่าการแก้เบื่อของชั้นจะทำให้มาเจอเรื่องที่น่าสนใจ
อย่างการจับสุนัขมาเลี้ยงไว้เป็นไง?”
“หึ
นายจับฉันมาแล้วยังไง จะสานสัมพันธ์ระหว่างหมาป่าและแวมไพร์งั้นรึ
เรื่องน่าเบื่อแบบนั้นฉันขอบายดีกว่า”
รีไวเพียงยกยิ้มก่อนยืนตัวเหยียดตรง
รองเท้าหนังมันเงากระแทกเหยียบลงบนมือของเด็กหนุ่มที่ถูกล่าม
“แบบนั้นมันน่าเบื่อ
ฉันเลยมีวิธีสนุกๆระหว่างเราเป็นยังไง” ส้นหนาของรองเท้าบดขยี้ลงบนนิ้วของเอเลน
เสียงกร็อบที่ราวกับกระดูกแตกดังลั่น
เช่นเดียวกับกับเสียงของเด็กหนุ่มที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“อ๊ากกกกกก!!”
รองเท้าหนังมันเงาถูกยกออก
รีไวเดินถอยห่างจากเด็กหนุ่มตรงไปยังตู้เก็บของที่อยู่อีกด้านของกำแพง
“เอเลนนายรู้รึเปล่าเวลาชีวิตที่อยู่มายาวนานมันก็ไม่ค่อยมีเรื่องที่น่าสนุกเท่าไรแล้วหรอกนะ
แต่ตัวนายที่เพิ่งเกิดมาได้เพียง70 ปี กับฉันที่อยู่มานานเกิน350ปี
คงไม่แปลกที่นายยังตื่นตาตื่นใจกับโลกใบนี้”
กระเป๋าหนังสีดำขนาดใหญ่ถูกดึงออกมาจากตู้เก็บของพร้อมกับอัลบั้มรูปถ่าย
รีไวเปิดอัลบั้มรูปให้เอเลนดู
เด็กหนุ่มมองภาพถ่ายอย่างตกตะลึง
เพราะภาพทั้งหมดนั้นคือภาพของตัวเขาเองในอิริยาบถต่างๆ
และแน่นอนมันเป็นภาพที่ถูกแอบถ่าย
“นอกจากนายจะเป็นตาลุงแวมไพร์แล้วยังโรคจิตเป็นบ้า!”
“นายไม่ชอบคอลเลคชั่นของฉันรึไง
นายเป็นหมาป่าตัวแรกที่ฉันเจอในรอบร้อยปีเลยนะเจ้าหนู
อีกอย่างอัลบั้มพวกนี้คงแสดงให้นายได้เห็นว่าฉันหลงใหลนายขนาดไหน
เพียงแค่สองอาทิตย์ฉันก็มีรูปของนายเยอะขนาดนี้เลยเชียวนะเอเลน...”
อัลบั้มเล่มหนาสามเล่มถูกเปิดออก
ภาพของเขาในท่าทางต่างๆไม่ว่าจะเป็นตอนตื่นนอน ทานข้าว อยู่กับเพื่อน ตอนเรียน
ตอนนอน เข้าห้องน้ำ หรือแม้กระทั่งตอนมีเซ็กซ์
ทุกภาพล้วนถูกแอบถ่ายโดยที่เขาไม่รู้ตัว ถึงเขาจะคิดอยู่เสมอว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าไม่น่าจะเป็นเพียงเผ่าพันธุ์เดียวที่ดำรงอยู่บนโลกใบนี้
สักวันคงได้เจอเผ่าพันธุ์อื่นที่เหมือนเช่นกันกับเขา แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเพียงแค่การได้เจอครั้งแรกก็เป็นแวมไพร์วิปริตขนาดนี้
“นายต้องการอะไร?”
“ฉันบอกแล้วไงว่ากำลังทำให้วันที่แสนน่าเบื่อนั่นสนุกขึ้น”
กระเป๋าหนังสีดำถูกเปิดออก
เอเลนที่เห็นของที่อยู่ภายในกระเป๋าถึงกับหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด
เหงื่อเย็นไหลซึมกาย น้ำลายเหนียวยากที่จะกลืนลงคอ
นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างกับคีมถอนขนาดต่างๆ ใบเลื่อย มีด สิ่ว ค้อน
หรือแม้กระทั่งเข็มหมุดที่อยู่ในกระเป๋าใบโต
“นายก็รู้พวกมนุษย์น่ะเปราะบาง...................แต่นายและฉันนั้นแตกต่าง”
ตะปูสีเงินถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋า
รีไวหันหน้ามองใบหน้าหวานที่กำลังตื่นตระหนก
โป๊ก! หมุดตะปูถูกตอกลงมือบางยึดติดกับพื้นพรม
เลือดสีสดไหลซึมผ่านตะปูย้อมพรมสีแดงให้ดูชุ่มยิ่งขึ้น
รีไวหยิบตะปูเงินอีกตัวขึ้นมาก่อนจะไล้ไปตามแผ่นอกบางที่หายใจกระชั้นถี่อย่างตื่นตระหนก
“ฉันกับนายถ้าไม่โดนลิ่มเงิน
ตะปู หรือสิ่งของที่ทำด้วยเงินแทงลงที่หัวใจ
ร่างกายนี้จะไม่มีวันสลายและมันจะฟื้นฟูตลอดเวลา”
ใบหน้าเฉยชายกยิ้มพลางกระซิบที่ใบหูของเด็กหนุ่ม
“นั่นล่ะที่ทำให้มันสนุก...........เจ้าหนู”
รีไวตอกตะปูยึดมือบางกับพรม
เสียงร้องโอดครวญของเอเลนยิ่งสร้างความหฤหรรษ์ให้กับเขา
แน่นอนห้องที่เขากำลังสร้างสรรค์ความสนุกอยู่นี้เป็นห้องที่ถูกสร้างมาอย่างดีในเรื่องของการเก็บเสียง
ถึงแม้ร่างกายที่สุดแสนพิเศษทั้งของเขาและเอเลนจะสามารถฟื้นฟูได้แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับนั้นยังคงชัดเจน
หน้าตาของเด็กหนุ่มจึงบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด และมันทำให้เขารู้สึกกระสันอยากจนลำคอแห้งผาก
มีดสีเงินทอประกายในมือหยาบของชายหนุ่ม
คมมีดเฉือนชุดของเด็กหนุ่มจนขาดวิ่น
เช่นเดียวกับผิวเนื้อที่เขาจงใจกดคมมีดหนักให้เชือดเฉือนผิวขาวผ่อง
เสื้อกล้ามถูกย้อมด้วยสีแดงของโลหิตประปราย ฮู๊ดตัวนอกถูกทึ้งจนไม่เหลือชิ้นดี
กางเกงยีนส์สีเข้มถูกกรีดจนเป็นชิ้น ตอนนี้ราวกับเหลือเพียงเศษผ้าที่ปกปิดร่างกายที่เริ่มเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม
นัยน์ตาสีเงินไล่มองร่างเปลือยเปล่าพลางเลียริมฝีปาก ช่องทางสีอ่อนเบื้องล่างมีเพียงเศษผ้าไม่เป็นชิ้นปกปิด
นิ้วหยาบล้วงเข้ายังช่องทางเบื้องล่างโดยไม่มีการทำให้คุ้นชิ้น
คิ้วสีน้ำตาลขมวดมุ่น ใบหน้าหวานสะบัดหนีคนร้ายกาจอย่างนึกรังเกียจ
“ร่างกายนายนี่มันไม่เลวที่ทำให้เจ้าพวกนั้นติดใจสินะ
ไม่ว่าจะกี่ครั้งตรงนี้ของนายจะแน่นกระชับราวกับครั้งแรกตลอด”
นิ้วที่รุกล้ำจิกลงยังพนังอ่อนนุ่มภายใน
ก่อนจะเพิ่มอีกสองนิ้วเพื่อจัดการขยายช่องทาง
“เอเลนไหนลองบอกสิว่าร่างกายร่านๆของนายต้องการแบบไหนเจ้าลูกหมา?”
ใบหน้าหวานเพียงปรายตามอง
ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มขึ้น
ถุย!
น้ำลายของเด็กหนุ่มเปรอะลงบนแก้มขาวซีดของรีไว
มือเรียวปาดคราบน้ำลายก่อนจะจัดการเลียคราบที่เปื้อนนิ้ว
“ดูเหมือนฉันควรจะทำความสะอาดก่อนสินะ”
รีไวลุกขึ้นไปที่กระเป๋าหนังสีดำอีกครั้ง
ขวดแก้วถูกหยิบขึ้นมา ของเหลวสีใสที่บรรจุภายในทำให้ร่างบางทั้งสงสัยและหวาดหวั่น
“ไม่ต้องกลับไปเอเลนฉันแค่จะทำความสะอาดนายเท่านั้น
นายจะได้เหมือนใหม่และเป็นของฉันเพียงคนเดียวไงไอหนู”
ขาเพรียวถูกจับแยกออกกว้าง
สะโพกกลมมนถูกยกขึ้น รีไวแทรกตัวเข้าหว่างขาของเอเลน
เด็กหนุ่มพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด
แต่มือแกร่งที่จับกระชับสะโพกนั่นทำให้เขาไม่อาจหนีได้
“ไม่ต้องห่วงเอเลนฉันใส่น้ำเจือจางเจ้านี่บางแล้ว”
ปากขวดแก้วถูกยัดใส่เข้าช่องทางสีหวาน
ใบหน้าหวานเบิ่กตากว้างมองของเหลวสีใสที่กำลังถูกเทเข้ามา ลมหายใจกระชั้นถี่ด้วยความหวั่น
“กรดพวกนี้จะทำลายข้างในของนาย
แล้วร่างกายของนายจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ที่เป็นเฉพาะของฉันไงล่ะเอเลน”
ของเหลวสีใสถูกเทใส่ช่องทางคับแคบ
ทันทีที่น้ำกรดสัมผัสกับผนังภายในก็กัดกร่อนเนื้ออ่อนอย่างแสบร้อน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!”
เอเลนกรีดร้องอย่างโหยหวน
ร่างบางดีดดิ้นอย่างสุดแรงเพื่อหลีกหนีจากน้ำกรดที่ไหลเข้ามา แต่มือหนากำยำที่เกาะกระชับทำให้ไม่อาจหลุดออกจากพันธนาการของมารร้ายวิปริตตรงหน้าได้
กลิ่นไหม้ของผิวเนื้อคละคลุ้งจนรีไวรู้สึกลำคอแห้งผาก
อยากทึ้งชิมรสเนื้อหวานเบื้องหน้าให้จมเขี้ยว
แต่ยังก่อนเพราะเขาเป็นคนรักความสะอาดและเขาก็อยากให้ของของเขาสะอาดที่สุด
“ไอบ้าเอ๊ย!
ไปตายซะ!! ฉันเกลียดแก!!”
เอเลนคำรามลั่น
น้ำกรดยังคงกัดกร่อนผิวเนื้อของเขา
เลือดจากพนังภายในที่ถูกกร่อนไหลเจิ่งนองลงสู่ขวดแก้วที่ของเหลวก่อนหน้าเข้าไปจนหมดแล้ว
รีไวจัดการดึงขวดออกจากช่องทางคับแคบ
นัยน์ตาคมฉายแววพอใจกับเลือดที่ไหลเจิ่งนองจากการทำปฏิกิริยาของสิ่งที่เขาใส่เข้าไป
“ทนอีกนิดไอหนู
ข้างในของแกกำลังสร้างผิวใหม่ที่ราวกับทารกแรกเกิด”
รีไวหยิบตราประทับขึ้นมาจากกระเป๋า
ตะเกียงแอลกอฮอล์ถูกจุดขึ้นตราประทับสีเงินถูกนำไปลนกับไฟจนโลหะสีเงินส่องประกายแดงฉาน
“ฉันจะประทับชื่อฉันไว้บนตัวนายเพื่อแสดงว่านายเป็นของฉัน”
เหล็กร้อนถูกนาบลงบนผิวผ่องที่กลางอกของเด็กหนุ่ม
เอเลนกัดฟันกรอดข่มความแสบร้อนจากโลหะที่เผาไหม้บนเนื้อ
“ไม่ต้องห่วง
มันทำจากเงินบริสุทธิ์ ตราประทับนี้จะอยู่กับนายโดยไม่มีทางจางหายเลยล่ะหมาป่าของฉัน”
เมื่อโลหะสีเงินถูกยกออก
ตัวอักษรชื่อ Levi ถูกตีประทับลงบนอกของเด็กหนุ่ม
อย่างที่ชายหนุ่มได้กล่าวพลังของเขาไม่อาจรักษาแผลไหม้จากโลหะเงินได้
น่ารังเกียจชะมัด!! ใครจะยอมเป็นสัตว์เลี้ยงของนายกันไอบ้าเอ๊ย!!! นัยน์ตาสีมรกตฉายแววดื้อดึงจ้องเขม็งใบหน้าคมคายอย่างหาเรื่อง
“ดูเหมือนว่าข้างล่างของนายจะสะอาดแล้วนะเอเลน”
รีไวนั่งย่อตัวจับขาเพรียวแยกออกอีกครั้ง
เลือดที่ไหลจากทางเบื้องล่างเริ่มหยุด
ผิวหนังที่อ่อนนุ่มบวมเป๋งจากกรดที่เข้าทำลายภายในและกำลังสมานผิวอ่อนภายใน
ขาที่ถูกจับแยกกว้างสะบัดไปมา
เมื่อมีจังหวะเอเลนจึงเตะเข้ากับใบหน้าคมเบื้องหน้า
ชายหนุ่มหรี่ตามองใบหน้าดื้อดึงที่ราวกับสะใจที่ลูกเตะเขาไม่พลาดเป้า
แรงเตะทำให้รีไวถึงกับหน้าหัน ใบหน้าเฉยชาเพียงสะบัดเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่ไปมา
“ขานายนี่ถึงจะเล็กแต่แข็งแรงน่าดู”
มือหนาจับที่ขาข้างขวาของเด็กหนุ่ม
ใบหน้าคมยังคงนิ่งงันจ้องมองเด็กหนุ่ม
“แต่ตอนนี้มันเกะกะชะมัด”
กร๊อบ!!
รีไวจับขาของเด็กหนุ่มก่อนจะดันขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
เสียงกระดูกแตกหักดังก้อง พร้อมกับเสียงของเด็กหนุ่มที่ตะโกนอย่างเจ็บปวด
“ฉันจะใจดีเหลือขาให้นายอีกข้างสำหรับคืนนี้เผื่อนายอยากจะดีดดิ้น.......เจ้าลูกหมา”
ขาเพรียวถูกจับแยกอีกครั้ง
แกนกายขนาดใหญ่ถูกกระแทกเข้าช่องทางคับแคบที่เขาทำความสะอาดรอ การกระแทกที่หนักหน่วงไร้ความปราณีฝืนดันแกนกายขนาดใหญ่เข้าไปจนสุดในคราเดียว
“อื้อ.....”
รีไวครางเสียงต่ำทันทีที่ท่อนเนื้อของตนดันเข้าไปจนสุดในร่างกายของร่างบาง
คุ้มค่ากับที่เขารอคอยและทำความสะอาด ภายในที่ตอดรัดทำให้เขารู้สึกดีจนแทบคลั่ง
ไม่ได้เจอเหยื่อชั้นดีแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ? .....ไม่สิ
ต้องเรียกว่าเพิ่งเคยเจอเหยื่อชั้นดีขนาดนี้เลยก็ว่าได้.....
“อ๊า!!!”
เสียงหวานหวีดร้องเมื่อท่อนเนื้อหนาโหมกระหน่ำกระแทกเข้ามา
มือที่ถูกตอกติดกับพรมพยายามจิกลงบนพื้นทำให้แผลฉีกขาดจากการขยับของมือบาง
โลหิตสีแดงไหลจากมืออีกครั้งทั้งที่เพิ่งหยุดไปไม่นาน
เช่นเดียวกับช่องทางเบื้องล่างที่ฉีกขาดจนเลือดสีสดไหลออกจากปากแผลเปรอะตามโคนขาขาว
และฉีกมากยิ่งขึ้นเมื่อร่างกายของชายหนุ่มกระหน่ำกระแทกลงมาอย่างหนักหน่วง
เหงื่อหลั่งรินไหลตามโครงหน้าคมคายที่หอบกระเส่าอย่างสุขสม
ริมฝีปากยกยิ้มอย่างพอใจและสนุก กับใบหน้าหวานที่บิดเบี้ยวจากความเจ็บปวด
ม่านน้ำตาไหลลงจากนัยน์ตาสีเขียวเจือสีทอง เหงื่อหลั่งไหลซึมกายและเสียงหอบหายใจที่สอดประสานยิ่งเร่งจังหวะให้ชายหนุ่มกระแทกแกนกายรุนแรงและถี่ยิ่งขึ้น
จนร่างแกร่งกระตุกเกร็งปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นเข้าในตัวของเด็กหนุ่ม
น้ำกามสีขาวผสมกับเลือดสีสดไหลลงบนพื้นพรมจนเปียกชุ่ม
รีไวหอบหายใจหนักก่อนจะสูดกลิ่นผิวเนื้อที่ซอกคอระหง
“ไม่เลว........ข้างในนายมันสุดยอดมากไอหนู”
เสียงทุ้มกระซิบต่ำที่ข้างใบหูของเด็กหนุ่ม
หงับ!
เอเลนกัดทึ้งลงบนไหล่หนา
รีไวกระชากผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มออกให้หงายขึ้น
คราบเลือดของชายหนุ่มเปรอะทั่วปากอิ่มของเอเลน
นัยน์ตาสีเขียวใสเหลือบมองชายหนุ่มไม่ไหวติ่งอย่างท้าทาย สมเป็นเหยื่อชั้นดีที่เขาเลือก
ควรค่าแก่การให้เขาสั่งสอนและปราบพยศ
“เลือดนายรสชาติห่วยแตกที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินเลยไอลุงโรคจิตเอ๊ย!”
“งั้นรึ”
รีไวเพียงเหยียดยิ้ม
มือแกร่งกระชากผมสีน้ำตาลจนเอเลนหงายหลัง
“แต่เลือดของนายเด็ดสุดเท่าที่ฉันเลยลองเลยล่ะ”
คมเขี้ยวยาวฝังลงบนคอของเด็กหนุ่ม
เลือดอุ่นไหลทะลักลงเข้าสู่ลำคอแห้งผากของแวมไพร์
รสเลือดที่เขาไม่ใคร่ลิ้มลองมานาน
ที่จริงแล้วเขาแทบไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำแต่กลิ่นเลือดในตัวเจ้าเด็กนี้ปลุกสัญชาตญาณดิบที่เขากดกลั้นมานานจนแทบจะลืมเลือน
ให้ตื่นและกระหายอย่างไม่รู้จักพอ
ความกระสันอยากเริ่มทวียิ่งขึ้น
รสหวานฝาดที่ไหลลงคอ
กลิ่นหอมหวานและผิวเนื้อนุ่มทำให้ความอยากของเขายิ่งทวีสูงขึ้น
แกนกายขนาดมหญ่ขยายปูดโปน
มือหนาจับขาเพรียวแยกออกแล้วกระหน่ำกระแทกเข้าช่องทางที่น้ำรักสีขุ่นยังเจิ่งนอง
เพราะมีตัวช่วยหล่อลื่นการกระแทกเข้าครั้งนี้จึงเป็นไปอย่างง่ายดาย
แม้จะไม่อยากยอมรับและรังเกียจปีศาจวิปริตตรงหน้า
แต่ร่างกายกลับตรงกันข้าม
ทันทีที่แกนกายของชายหนุ่มกระแทกเข้ามาราวกับสัญชาตญานดิบในตัวเขาถูกปลุกเร้าเช่นกัน
ร่างกายที่ถูกกระทำชำเรากลับตอบสนอง แกนกายร่างบางแข็งขืนแม้ไม่ได้ถูกปลุกเร้า
ช่องทางภายในตอดรับแกนกายขนาดใหญ่ที่โหมกระหน่ำเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งเจ็บแสบ
จุกแน่น และปวดร้าวไปทั่วร่าง
แต่ความรู้สึกสุขสมและเมาเมาไปกับรสกามของชายหนุ่มทำให้ร่างกายบางตอบสนองอย่างปรีเปรม
“ฮ้า.....อ...
อา อ๊า!”
เสียงหวานเริ่มครางกระเส่า
ขาซ้ายที่ยังใช้งานได้จิกลงบนพื้นพรมหนา
มือที่ถูกตะปูตอกยังคงมีเลือดหลั่งรินจากแผลที่เปิดขึ้นอีกครั้ง
เขี้ยวคมถอนออกจากลำคอขาว
ลิ้นบางเลียหยาดเลือดที่เปรอะลงบนปากของตนอย่างเสียดาย
“เสียงเห่าหอนของนายน่าฟังมากไอหนู”
ราวกับได้สติ
เอเลนพยายามกัดริมฝีปากของตนจนเลือดออกเพื่อไม่ให้เสียงครางที่ราวกับยินดีนั้นเล็ดรอด
รีไวมองท่าทางของเด็กหนุ่มอย่างนึกตลก
ความอวดดีและดื้อดึงช่างเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เขาลุ่มหลงเด็กหนุ่มคนนี้
ชายหนุ่มเน้นกระแทกแรงเข้าตรงจุดกระสันของเอเลน
ริมฝีปากที่พยายามกัดกลั้นจึงเปิดออก รีไวฉวยโอกาสทาบทับริมฝีปากของตนเข้าแทนที่
ลิ้นร้อนไล้ตามไรฟันและคมเขี้ยวของเด็กหนุ่ม กระหวัดเกี่ยวรัดกับลิ้นเล็กที่พยายามดื้อดึงดันลิ้นที่รุกล้ำของเขาออก
รสของน้ำลายและเลือดของทั้งสองผสมผสานปนเป เสียงชื้นแฉะที่แลกเปลี่ยนดังก้องโสตประสาท
จากที่พยายามดันทุรังดื้อดึงแปรเปลี่ยนเป็นคล้อยตามการชักนำของลิ้นร้อนที่จาบจ้วงเข้ามา
ไม่อาจรู้ได้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วตั้งแต่ที่เขาถูกจับมา
ทุกวันชายหนุ่มจะนำอาหารมาให้ และเมื่อร่างกายของเขาฟื้นฟู
แวมไพร์วิปริตรก็จะเล่นกับร่างกายของเขาอย่างสุขสมทั้งการทรมานและเซ็กซ์
แขนและขาของเขาบางวันถูกตัดแยกชิ้น
เนื้อของเขาถูกเฉือนก่อนจะถูกจับยัดใส่ปากให้ลิ้มรสเนื้อของตนเอง
และเมื่อแขนของเขางอกมาใหม่อีกครั้ง
เขาก็จะถูกตัดเอ็นหรือเลาะเนื้อออกโดยไม่มียาชา
ขาของเขาถูกเชือดเฉือนและทุบด้วยค้อนเหล็กจนกระดูกแตกละเอียดไม่เหลือเค้าโครง
วันแห่งความทรมานยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
วันนี้ก็เช่นกันหน้าท้องของเขาถูกเปิดออกกว้าง
ชายหนุ่มหยิบเครื่องในจากช่องท้องเขาขึ้นมาชื่นชมด้วยหน้าตามีความสุขอย่างน่าขนลุก
ลำไส้ที่ขดกันในช่องท้องถูกดึงออกเพื่อวัดความยาว
ม้ามถูกตัดออกไปใส่ดองไว้ในขวดโหลแล้วดูการงอกขึ้นมาใหม่ในเวลาไม่นาน
คมมีดผ่าตัดชะแหละผ่าหน้าท้องเขาจนมาถึงช่วงอกที่ถูกประทับตราด้วยชื่อแวมไพร์หนุ่ม
ก่อนจะแบะออกเป็นสองซีก หัวใจที่เต้นและสูบฉีดเลือดยังคงทำงานได้อย่างปกติ
“เอเลนนายรู้ไหมทั้งฉันและนายเพียงแค่เจอของมีคมตอกที่ตรงนี้”
มือที่สวมถุงมือยางอนามัยไล้ลงบนหัวใจสีสดที่ยังเต้นระริก
“เพียงแค่นั้นร่างกายก็จะสลายเป็นผุยผง”
นัยน์ตาสีเงินสบกับนัยน์ตาสีมรกตที่จ้องอย่างนิ่งงัน
“ถ้านายอยากฆ่าฉัน
นายต้องใช้ตะปูเงินเหมือนที่ฉันปักมือของนาย
หรือกระสุนเงินที่นายอาจหาได้ในกระเป๋าของฉัน”
คมมีดผ่ามาถึงคอ
เสียงทำงานของหลอดลมดังหวี่ราวกับเสียงของเครื่องสูบลมลูกโป่งในสวนสนุก
“พอผ่ามาถึงตรงนี้ทำให้นายออกเสียงลำบากสินะ
แต่แววตานายก็ยังน่าดูชม”
ริมฝีปากบางทาบทับลงบนเปลือกตาของเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบาก่อนคมมีดกรีดลงบนเปลือกตาบาง
รีไวควักดวงตาสีเขียวเจือสีทองราวอัญมณีออกมาก่อนจะใช้มีดผ่าตัดตัดเอ็นกล้ามเนื้อของลูกตาให้ออกจากเบ้าตาของเด็กหนุ่ม
รีไวล้างลูกตาสีสวยให้สะอาดก่อนบรรจงเก็บลงในโหลแก้วที่บรรจุของเหลวแล้วนำไปรวมกับโหลแก้วอื่นที่มีอวัยวะและเครื่องเครื่องในอื่นๆของเด็กหนุ่มเก็บไว้ก่อนหน้า
“ดูสิเอเลนฉันหลงใหลนายขนาดไหน
อยากเก็บทุกส่วนของนายให้อยู่ข้างๆฉันตลอดไป”
รีไวลูบไล้ใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเลือดของเด็กหนุ่มพลางยกยิ้มบาง
“อย่ากังวลไป
พรุ่งนี้มันก็จะสร้างขึ้นมาใหม่เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆของนาย”
แวมไพร์หนุ่มบีบกรมของเด็กหนุ่มให้ปากที่ปิดแน่นอ้าออก
นิ้วเรียวที่สวมถุงมือยางล้วงเข้าไปในปากลึกลงจนถึงลำคอที่เขาผ่าเนื้อแบะออก
“เวลาเรากลืนอะไรลงไปมันเป็นอย่างนี้สินะ”
นัยน์ตาสีเงินจ้องนิ้วของตัวเองที่ผ่านเข้าไปในลำคอร่างบางอย่างสนใจ
“ถ้าเป็นของชิ้นใหญ่จะเป็นยังไงนะ?”
ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นราวกับนึกอะไรออก
รีไวจัดการดึงกางเกงดึงเข็มขัดออกจากสแลคสีดำที่ตนสวมใส่
ซิบกางเกงที่รูดลงพร้อมกับแกนกายปูดปอนที่จ่ออยู่กับริมฝีปากอิ่ม
“ถึงจะส่งเสียงลำบากแต่นายก็ยังเลียได้นี่ไอหนู”
เอเลนอ้าปากของตนรับแกนกายขนาดใหญ่ที่ถูกยัดเยียดเข้ามา
นัยน์ตาสีเขียวอมทองอีกข้างที่เหลืออยู่จ้องเขม็งชายหนุ่มอย่างเจ็บใจแค้นเคือง
โพรงปากนุ่มดูดเม้มแกนกายหนา
นัยน์ตาสีเขียวใสจ้องใบหน้าคมคายที่เหยียดยิ้มก้มมองอย่างรู้สึกขยะแขยง
ปากหนาอ้าขึ้นหวังจะฝังคมเขี้ยวลงบนท่อนเนื้อหนาที่จุกเข้ามาในลำคอ
แต่ราวกับชายหนุ่มจะรู้ความคิดของเหยื่อของตน
รีไวจับหัวสีน้ำตาลเข้าชิดกับแกนกายของตนจนมิด เด็กหนุ่มจุกแน่นในลำคอจนหายใจไม่ออก
ชายหนุ่มจับหัวของเด็กหนุ่มแน่นก่อนสะโพกหนาจะกระหน่ำเข้าใส่โพรงปากนุ่มสร้างความสุขสมให้กับตนเอง
น้ำกามอุ่นไหลทะลักเข้าลำคอ
ไหลกระเซ็นเลอะออกตามแผ่นอกและเนื้อที่ถูกผ่าเปิดทิ้งไว้
แกนกายหนาถูกดึงออกจากโพรงปากอุ่น มือแกร่งกระชากผมสีน้ำตาลพร้อมควานนิ้มเข้าไปในโพรงปากนุ่มอีกครั้ง
“หมาที่ทำร้ายเจ้าของไม่น่ารักนักหรอกนะ
แบบนี้ฉันคงต้องสั่งสอนสักหน่อย”
รีไวหยิบคีมคีบขึ้นมา
มือแกร่งบีบกรามของเด็กหนุ่มแน่นให้อ้าออก
เอเลนพยายามดิ้นขัดขืนแต่แขนและขาที่โดนล่ามไว้ทำให้ได้เพียงแต่พยายามสะบัดหัวไปมาเท่านั้น
“ฟันนายสวยสมเป็นฟันหมาป่าเลยนะเอเลน”
ใบหน้าคมเหยียดยิ้มขึ้นมุมปาก
“ฉันขอฟันนายสักชุดเป็นการสั่งสอนแล้วกัน”
คีมสีเงินถูกยัดเข้าในโพรงปากเพื่อคีบหนีบฟันขาวที่อยู่ภายใน
ฟันของเด็กหนุ่มถูกถอดถอนออกทั้งฟันซี่กรามที่อยู่ข้างในตลอดจนแนวฟันหน้าทั้งบนและล้าง
เลือดจากการถอนไฟไหลกลบปาก
ความเจ็บปวดที่สั่นไปทั่วร่างทำให้เด็กหนุ่มน้ำตาไหลเป็นสาย
เพราะเป็นการระบายความเจ็บปวดทางเดียวที่ทำได้
เมื่อฟันซี่สุดท้ายถูกเก็บใส่ขวดโหลด
รีไวจัดการนำเข็มมาร้อยเอ็นเพื่อเย็บหน้าท้องของเด็กหนุ่มที่เขาเป็นคนเปิดอ้าไว้
ทุกขั้นตอนของการลงคมมีด การถอนฟัน
หรือแม้กระทั่งเข็มที่เจาะทะลุผิวหนังเย็บเข้าด้วยกันล้วนไร้ซึ่งยาชาที่ทำให้ร่างกายตายด้าน
ความเจ็บปวดราวขุมนรกเด็กหนุ่มรับรู้ได้ในทุกสัมผัสที่กรีดลงมาบนผิวเนื้อ
ประตูไม้สีน้ำตาลปิดลงอีกครั้งพร้อมการจากไปของชายหนุ่ม
ใบหน้าหวานมองประตูไม้ขนาดใหญ่นิ่งงัน
ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มขึ้นท่ามกลางความมืดในห้อง
แม้จะไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วแต่สิ่งหนึ่งที่เขารับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์หมาป่าคือ
พระจันทร์กำลังใกล้จะเต็มดวง..........
เป็นอีกครั้งที่ประตูสีไม้ถูกเปิดออกพร้อมร่างของชายหนุ่มที่เดินเข้ามาเปิดไฟให้ห้องที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นอีกครั้ง
ใบหน้าคมมองร่างกายของเหยื่อชั้นดีที่ตอนนี้สภาพกลับมาสดสมบูรณ์จากพลังการรักษาตัวของเผ่าพันธุ์
“วันนี้พระจันทร์เต็มดวงนายคงรู้สึกดีเป็นพิเศษสินะเจ้าหนู”
กระเป๋าหนังสีดำถูกเปิดออกขึ้นอีกครั้ง
พร้อมทั้งใบมีดที่ที่ถูกหยิบขึ้นมาเหมือนเช่นเคย
“ใช่วันนี้ชั้นรู้สึกดีที่สุดเลยรีไว”
เคร้ง!!
เสียงโซ่ที่ล่ามถูกกระชากดึงออกด้วยพละกำลังมหาศาล
ร่างกายบางของเด็กหนุ่มขยายใหญ่ขึ้นพร้อมด้วยมัดกล้ามเนื้อ
ผมสั้นอ่อนนุ่มสีน้ำตาลแปรเปลี่ยนเป็นผมหยาบกระด้างสีดำลงปร่ะบ่า
นัยน์ตาสีเขียวแปรเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม ปากอิ่มยืนออกมาและขยายกว้าง ฟันขาวที่เรียงรายขยายซี่ใหญ่ที่คมกล้าดุจเหล็กแกร่ง
ขนสีเข้มปกคลุมทั่วตัว หูและหางของหมาป่างอกออกมาจากร่างกายที่เปลี่ยนร่าง
เสียงของสัตว์ร้ายขู่คำรามดังก้องทั่วห้อง
“เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการกลายร่างของมนุษย์หมาป่า ไม่เลว” รีไวกระชับมีดสีเงินในมือมั่น
เอเลนในร่างมนุษย์หมาป่าเห่าโหนอย่างบ้าคลั่งก่อนกระโดดกระโจนเข้าใส่เป้าหมายเบื้องหน้า
รีไวเบี้ยงตัวหลบกรงเล็บของหมาป่า แต่ช้าไป กรงเล็บคมเชือดเฉือนผิวหนังของเขาแม้จะไม่มากแต่ก็ทำให้โลหิตสีสดหลั่งริน
“บางทีเจ้าของต้องตามใจสัตว์เลี้ยงสินะ”
นิ้วเรียวขยับไปมา จากมือที่ขาวซีดขยายใหญ่ขึ้น
เล็บที่สั้นดูสะอาดงอกยาวออกมาเคลือบทับด้วยสีแดงดุจเลือด
ผิวหนังที่ซีดขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีเทาซีดราวกับไร้เลือด
คมเขี้ยวงอกยาวจนเห็นออกมาเด่นชัดบนริมฝีปาก นัยน์ตาสีเงินเรืองแสงวาวโรจน์
“เอาล่ะมาเล่นกันหน่อย”
เอเลนกระโจนเข้าหารีไว
มนุษย์หมาป่ากระแทกปีศาจดูดเลือดลงกับพื้น
กรงเล็บคมฉีกทึ้งเสื้อผ้าของแวมไพร์หนุ่ม เชือดเฉือนลงบนผิวเนื้อซีดเซียวของแวมไพร์
รีไวพยายามต้านแรงที่กระแทกเข้ามา
ขาแกร่งเตะช้อนตัวหมาป่าก่อนทุ้มลงไปด้านข้างแล้วตามขึ้นคร่อมทับ
คมเขี้ยวของสัตว์ร้ายไม่ยอมแพ้
เด็กหนุ่มอ้าปากกว้างตรงกัดทึ้งไหล่หนาเบื้องหน้า
เพราะวันนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง พละกำลังของเขาจึงมีมากราวกับไร้ขีดจำกัด
เอเลนถีบแวมไพร์หนุ่มกระเด็นไปชิดกำแพง กรงเล็บสีทมิฬตวัดฟาดลงบนลำตัวหนาของรีไว
รีไวใช้ศอกกระทุ้งเข้าลำตัวของหมาป่าก่อนจะจับล็อคคอแล้วตวัดขึ้นไปบนหลังของมนุษย์หมาป่า
เอเลนจึงวิ่งเอาหลังกระแทกกับกำแพงจนแวมไพร์หนุ่มกระอักเลือดสีสด
แขนที่รัดรอบลำคอสัตว์ร้ายจึงคลายออก หมาป่าไม่รอช้าจัดการใช้แรงมหาศาลยกโซฟากำมะหยี่เข้ากระแทกกับแวมไพร์หนุ่มอีกครั้ง
กรงเล็บทมิฬดึงรีไวออกมาก่อนจะเหวี่ยงที่พื้นเต็มแรง
กำปั้นหนักหน่วงของสัตว์ร้ายกระหน่ำเข้าโจมตีชายหนุ่มอย่างไร้ความปราณี นัยน์ตาสีทองอร่ามมีประกายของความสนุกและความแค้นที่ฝังแน่น
รีไวเตะร่างใหญ่ของหมาป่าให้ถอยห่างก่อนจะกระโดดยืนขึ้นตั้งหลัก
ใบหน้าคมคายยกยิ้ม ริมฝีปากคมถ่มน้ำลายผสมเลือดของตนลงบนพื้นก่อนจะเป็นฝ่ายกระโจนเข้าหาสัตว์ร้ายขนหนา
กระเป๋าหนังสือดำที่ถูกกระแทกจากการต่อสู้เปิดออก เหล่าเครื่องมือที่อยู่ภายในกระจัดกระจายทั่วพื้นพรมสีแดง
นัยน์ตาสีทองคมกร้าวเหลือบมองเห็นตะปูสีเงินที่อยู่ข้างกาย
กรงเล็บสีทมิฬพยายามตะกายหยิบตะปูเงินบริสุทธิ์
แต่มือที่ซีดเซียวของแวมไพร์หนุ่มจับได้ก่อน ริมฝีปากบางเฉียบยกยิ้มอย่างผู้มีชัย
ก่อนจะโยนตะปูเงินทิ้งติดกับพนังอีกข้าง
“อย่าใจร้อนไปไอหนู
ข้าเพิ่งได้พบเรื่องน่าสนุกไม่คิดจะปล่อยไปง่ายๆหรอกนะ”
“กรรรรรร”
หมาป่าเอเลนคำรามเสียงสั่นอย่างโกรธเคือง
กรงเล็บสีโลหิตบีบลำคอของเด็กหนุ่มแน่น
เอเลนพยายามตะกายหาทางหนี
เอเลนจับแขนของรีไวที่บีบคอตนก่อนใช้เป็นที่ทรงตัวกระโดดถีบขาคู่ไปยังแผ่นอกกำยำ
จนแวมไพร์หนุ่มกระเด็นออกไปไกล
เอเลนไม่รอช้าอาศัยจังหวะดึงตะปูเงินออกจากพนังตรงเข้าแทงยังอกซ้ายของมารร้าย
ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะกำจัดปีศาจวิปริต
ปลายแหลมของตะปูเสียบทะลุอกซ้ายของแวมไพร์หนุ่ม
ใบหน้าคมคายนิ่งงันก่อนยกยิ้มราวกับรู้สึกสนุก
“ทำได้ไม่เลวเด็กน้อย..........”
สิ้นคำสั่งเสียร่างของแวมไพร์มลายหายไปเป็นขี้เถ้าสีดำตรงหน้าหมาป่าเอเลน
เอเลนนั่งหอบหายใจหนักคลายความเหนื่อยล้า
เด็กหนุ่มค่อยๆกลับคืนร่างของตน เพราะใช้พลังไปมากทำให้เรี่ยวแรงอ่อนล้า
เอเลนตรงไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องคว้าเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงเพื่อปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าของตน
สองขาอ่อนแรงของเด็กหนุ่มพยายามทรงตัวก้าวเดินออกมาจากห้องที่เขาไม่อยากอยู่ต่อแม้เพียงวินาทีเดียว
สองแขนพยายามเกาะกำแพงพาร่างระโหยออกจากสถานที่น่ารังเกียจที่คุมขังเขาไว้อย่างยาวนาน
เมื่อเดินออกมาตามทางเดินเรื่อยๆจนพ้นประตูสีดำขนาดใหญ่
เด็กหนุ่มถึงเพิ่งได้รู้ว่าเขาถูกขุมขังอยู่ในคฤหาสน์ที่อยู่ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนต์ของเขานัก
มือบางตะกายเกาะรั้วอย่างอ่อนแรง ใบหน้าหวานหัวเราะขึ้นจมูกอย่างนึกขัน
“หึ
คนขายเนื้อบ้าอะไรอยู่ในคฤหาสน์ ถ้าเป็นหมอหรือข้าราชการจะเนียนกว่านะตาลุงแวมไพร์วิปริต”
ทันทีที่ก้าวขาออกจากรั้วของคฤหาสน์มาที่ถนนราวกับร่างกายถูกปลดปล่อย
ความรู้สึกโล่งอกทำให้สองขาที่พยายามฝืนก้าวเดินออกมาทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งเปลือกตาที่หนักอึ้งจนยากจะปรือตามอง
แม้จะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงแต่การถูกทรมานมายาวนานและใช้พลังฟื้นฟูไปมา
กอปรกับการเปลี่ยนร่างที่ไม่ได้ทำมานานทำให้ร่างกายถึงขีดจำกัด
เด็กหนุ่มจึงได้สลบบนพื้นถนนหน้าคฤหาสน์
เมื่อรู้สึกตัวเขาก็ตื่นมาอยู่ที่โรงพยาบาล
ดูเหมือนจะมีพลเมืองดีมาช่วยเขาไว้แล้วพาส่งที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
หมอที่ตรวจอาการระบุเพียงแค่เขาพักผ่อนไม่เพียงพอและโลหิตจางเท่านั้นจึงทำให้ต้องพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสัก2-3วันเพื่อเฝ้าดูอาการ
จากการติดต่อของเพื่อนๆและอาจารย์ทำให้เขารู้ว่าตัวเขาหายไปถึง3สัปดาห์
ไม่ร่องรอยหรือข่าวคราว ตัวเขาที่ไม่มีญาติที่ไหนทำให้ยากแก่การค้นหา
เหล่าเพื่อนร่วมคลาสและอาจารย์ต่างช่วยออกตามหาเขาและเป็นห่วงกันมากมาย มีตำรวจมาหาเขาที่โรงพยาบาลเพื่อถามสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไป แน่นอนว่าเรื่องของแวมไพร์และมนุษย์หมาป่ายังคงเป็นความลับ
ถึงจะว่าไปก็ใช่ว่าคนเหล่านี้จะเชื่อสิ่งที่เขาพูด แล้วเมื่อเขาเล่าทุกอย่างให้ตำรวจฟัง
ตำรวจกลับคิดว่าเขาจำคนร้ายผิดหรืออาจโดนคนร้ายให้ข้อมูลปลอม เพราะร้านเนื้อที่เขากล่าวอ้างไม่มีพนักงานชื่อรีไวตามที่กล่าวอ้าง
คฤหาสน์ที่เขาระบุว่าเป็นสถานที่คุมขังก็เป็นเพียงบ้านของหญิงชราที่อยู่ตามลำพัง
ห้องนอนที่เขาถูกขังราวกับนักโทษก็ไม่ปรากฏอยู่ในคฤหาสน์หลังนั่น
ทุกอย่างช่างดูราวกับตลกร้ายในฝันของเขา
ถึงเขาจะคาดการณ์ว่าคงจะเป็นอย่างนี้อยู่แล้วเพราะแวมไพร์ขึ้นชื่อเรื่องการหลอกลวง
แต่อย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่เชื่อได้ฝันร้ายของเขาได้จบลงแล้วด้วยมือของเขาเอง
“เธอไม่อยู่ทำฉันเป็นห่วงมากนะเอเลน”
ศาตราจารย์เอลวินวางของเยี่ยมลงที่ข้างโต๊ะพร้อมทั้งส่งตุ๊กตาหมีขนปุยที่เขาตั้งใจซื้อมาฝากเด็กหนุ่มให้เจ้าตัว
“คุณเป็นห่วงผมแบบนี้น่าดีใจจังครับคุณเอลวิน”
ใบหน้าหวานยกยิ้มบางก่อนนำตุ๊กตาหมีของฝากขึ้นกอดราวกับออดอ้อน
“เรียกว่าศาสตราจารย์สิเอเลน
ไว้ฉันอยู่กับนายสองต่อสองที่ห้องเมื่อไรนายค่อยเรื่องชื่อฉัน”
มือหนาขยี้ลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู
“ถ้าผมออกจากโรงพยาบาลแล้วคุณจะไปช่วยติวหนังสือช่วงที่ผมขาดไปได้ไหมล่ะครับศาสตราจารย์”
นัยน์ตาสีมรกตหรี่ลงอย่างเย้ายวน นิ้วเรียวยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากอิ่มของตนเอง
“ติวกันในห้องของผมดีไหมครับ?”
เอลวินก้มจุมพิตลงที่แก้มใสของเด็กหนุ่ม
ก่อนจะเดินจากมาอย่างนึกเสียดายแต่เพราะมีธุระที่ต้องไปจัดการเลยทำให้เขาไม่อาจเสียเวลาอยู่ได้นาน
“วันนี้ที่มหาลัยมีปาร์ตี้ฮาโลวีนเสียดายที่นายไม่ได้เข้าร่วม
แต่ฉันสัญญาว่าจะเอาขนมหวานมาให้นายนะเอเลน”
ประตูสีขาวของห้องพักผู้ป่วยปิดลงพร้อมกับร่างของชายหนุ่ม
เอเลนมองตุ๊กตาหมีของฝากก่อนจะจับมันโยกเอียงไปมาด้วยความเอ็นดู
ฮาโลวีนวันนี้สินะ
น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมถึงแม้จะบอกว่าเขาแข็งแรงดีแล้วแต่เพื่อนๆของเขารวมถึงคนอื่นๆคงไม่ยอมให้เขาเข้าร่วมปาร์ตี้แน่นอน
ทั้งที่วันฮาโลวีนเป็นวันที่ไนต์คลับมีโปรโมชั่นเหล้าราคาดีแท้ๆ......น่าเบื่อชะมัด
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมร่างของพยาบาลสาวที่เขาเริ่มคุ้นเคยดีเพราะเป็นคนที่คอยดูแลเขาตลอดตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล
“สวัสดีค่ะคุณเอเลนวันีน้อาการเป็นยังไงบ้างคะ?”
พยาบาลสาวถามตามหน้าที่เพื่อตรวจร่างกายของคนไข้
“สบายดีมากครับ
ผมว่าหมออาจยอมให้ผมออกจากโรงพยาบาลได้ตั้งแต่พรุ่งนี้” ใบหน้าหวานพยายามออดอ้อนพยาบาลสาวให้เห็นใจ
การอยู่โรงพยาบาลทั้งที่ร่างกายฟื้นตัวเองได้ก็เท่ากับมานอนเล่นเปล่าๆอย่างน่าเบื่อนั่นแหละ
สู้ให้เขาเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มันน่าสนุกกว่านี้ยังดีเสียกว่า
“แหมคุณเอเลนเรื่องนั้นต้องให้คุณหมอเป็นคนตัดสินใจนะคะ”
พยาบาลสาวหัวเราะขำในความขี้เล่นที่น่าเอ็นดูของเด็กหนุ่ม
“พูดถึงคุณหมอ
คุณหมอกำลังมาตรวจห้องนี้พอดีเลยค่ะลองถามคุณหมอดูนะคะ”
เอเลนเบือนหน้าหนีอย่างนึกเบื่อ
หมอที่เป็นเจ้าของไข้เขาคงไม่ยอมให้เขาออกอย่างง่ายดายแล้วต้องคอยฟังหมอบ่นทุกครั้งที่เขาบอกว่าเขาอยากออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปหาอะไรสนุกๆทำเสียที
“เป็นไงบ้างครับคุณเอเลน”
เสียงทุ้มที่เอ่ยถามทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นเฉียบ
เสียงทุ้มที่เขาจำได้ดี ฝังลึกในโสตประสาทที่ราวกับฝันร้ายของเขา
ใบหน้าหวานหันไปมองยังต้นเสียงแล้วเลือดในกายราวกับเป็นน้ำแข็ง
ลมหายใจรู้สึกติดขัดขึ้นมาทันที
เอเลนคว้าตัวพยาบาลสาวพลางถามอย่างตื่นตระหนก
“หมอเจ้าของไข้ผมเป็นหมอฮันเนสนี่ครับ”
พยาบาลสาวมองหน้าเด็กหนุ่มพลางหัวเราะขำ
“คุณเอเลนนี่พูดตลกอีกแล้วนะคะ
หมอรีไวเป็นเจ้าของไข้คุณตั้งแต่คุณเข้ามาเลยนะ
คุณจำผิดแล้วล่ะอีกอย่างหมอฮันเนสขี้บ่นจะตายเด็กอย่างคุณคงไม่ชอบเท่าไร”
ถึงหมอฮันเนสจะขี้บ่นแต่ตอนนี้เขารู้สึกดีกว่าเป็นหลายร้อยเท่ากับหมอที่เขากำลังเผชิญหน้ากันอยู่ขณะนี้
รีไวสั่งให้พยาบาลสาวออกจากห้องเพื่อขอตรวจคนไข้เป็นการส่วนตัว
พยาบาลยินยอมออกจากห้องอย่างง่ายดายราวกับโดนสะกด
ใบหน้าหวานขมวดคิ้วมุ่น
นัยน์ตาสีมรกตฉากแววตื่นตระหนกอย่างชัดเจน
ภาพที่หมอนี่กลายเป็นขี้เถ้าเขายังจำได้ดีแล้วทำไม......?
“นายบอกว่าฉันเหมาะกับเป็นหมอมากกว่า.......แบบนี้นายคงจะชอบสินะเจ้าลูกหมา”
มือหนายกขึ้นลูบคางของตนพลางมองใบหน้าเด็กหนุ่มที่ตื่นตระหนกอย่างนึกขำ
“ก...แก
ทำไม?”
รีไวเลื่อนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วยเขยิบมาใกล้ก่อนจะนั่งไขว้ขาอย่างไม่สนใจท่าทางหวาดระแวงระคนรังเกียจของเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย
“วันนี้วันฮาโลวีนฉันจะเล่านิทานให้นายฟังสักเรื่องละกัน”
“นี่แก!!”
นัยน์ตาสีเงินเพียงตวัดมอง
เด็กหนุ่มจึงนิ่งเงียบฟังสิ่งที่ปีศาจร้ายจะเล่าแต่โดยดี
“ราวๆ200ปีก่อนมีนักเล่นแร่แปรธาตุจอมเพี้ยนคนหนึ่งเดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อเสาะแสวงหาความเป็นอมตะ
จนวันนึงยัยเพี้ยนงี่เง่านั้นก็เดินทางมาถึงประเทศเล็กทางตอนเหนือที่ได้ชื่อว่าปกครองโดยปีศาจร้าย
ยัยเพี้ยนที่อยากรู้ความลับการเป็นอมตะนั้นจึงเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับปีศาจร้ายผู้ปกครองประเทศ
ด้วยความที่รู้จัดอ่อนที่สามารถกำจัดปีศาจได้ทุกเมื่อกับการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆทำให้ยัยเพี้ยนนั้นสามารถผ่าตัดย้ายหัวใจออกจากร่างกาย
โดยที่หัวใจนั่นจะยังคงทำงานได้ตามปกติ
และร่างกายของปีศาจตนนั้นก็ยังคงดำเนินอยู่ได้อย่างเป็นอมตะ
เงื่อนไขทุกอย่างถูกทำข้อตกลง ปีศาจร้ายหยิบยื่นความเป็นอมตะให้กับหญิงสาวจอมเพี้ยนเพื่อแลกกับร่างกายที่แข็งแกร่งไร้จุดอ่อน
ทุกอย่างผ่านไปอย่างประสบผลสำเร็จ
นักเล่นแร่แปรธาตุผู้นั้นได้ชีวิตความเป็นอมตะเช่นเดียวกับแวมไพร์ แล้วคอยช่วยจัดการเรื่องต่างๆรอบตัวได้เป็นอย่างดี
นับว่าได้มือขวาที่ดีเลยทีเดียว”
มือบางกำผ้าห่มสีขาวแน่นอย่างเจ็บใจ
สมแล้วที่เป็นเผ่าพันธุ์แห่งการหลอกลวง
จงใจปล่อยเขามาเพื่อเปลี่ยนบทบาทใหม่ที่น่าสนุกให้กับตนเอง
“หญิงชราที่คฤหาสน์นั้นตอนที่ตำรวจไปคือนักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้นสินะ”
“ดูเหมือนนายเองก็ฉลาดพอตัวนะเอเลน”
ใบหน้าคมคายยกยิ้มบาง
“แกต้องการอะไรกันแน่!?”
เสียงหวานตะโกนถามลั่นอย่างโกรธเกรี้ยว
รีไวเหยีดยกายลุกขึ้นยืนก่อนจากวางแขนทาบทับกับข้อมือบางคร่อมตัวเด็กหนุ่มไว้
ริมฝีปากคมทาบทับลงบนแก้มใสของเด็กหนุ่ม
“ฆ่าเชื้อโรคที่มีแมลงมารบกวนของของชั้น”
“น....นาย...”
เม็ดเหงื่อเย็นผุดพราย ร่างบางสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวกับฝันร้ายที่ราวกับจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
“ฉันบอกแล้วไงเอเลน
นายเป็นของของฉัน และฉันไม่ชอบให้ของฉันมีตำหนิ”
มือหยาบสัมผัสลงบนแก้มเนียนใสของเด็กหนุ่มก่อนจะหยุดลงที่ริมฝีปากอิ่มที่กำลังสั่นระริก
“เอเลน..................Trick or Treat ?”
Fin.
.......................................................................................................................................................
Talk: ฟิคต้อนรับวันฮาโลวีนค่ะ(อย่างน้อยมีแวมไพร์กับมนุษย์หมาป่านะ!!) เขียนฟิคโลกสดในมาสักพักอยุ่ๆอะไรบางอย่างก็เรียกร้อง(อืม............ความดาร์คในตัว) ฟิคนี้ได้เเรงใจมากจาก. เพลงAnimals ของ Maroon5 ค่ะ คนขายเนื้อเเซ่บ เนื้อหาซาบซ่ามากมาย*//////*
ที่จริงตอนแรกจะเขียนรีไวเป็นสตลอกเกอร์ธรรมดาแต่คุยเล่นกันไปมากับน้อง
Kisagi Ruji แล้วก็ Jadenchase เลยออกมาเป็นเช่นนี้แล=w=a
Kisagi Ruji แล้วก็ Jadenchase เลยออกมาเป็นเช่นนี้แล=w=a
ประเด็นอีกอย่างเลยก็คือ พอเหนือมนุษย์แล้วไม่ตายง่ายดีค่ะ(เหตุผลช่าง.............)
เอาเป็นว่าฝากฟิควิปริตป่วงๆอีกฟิคแล้วกันค่ะ
ทุกท่านสามารถเข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ ยินดีต้อนรับและพูดคุยกับทุกท่านค่ะ >w<
ทั้งนักแปรธาตุ ทั้งแวมไพร์ ทั้งมนุษย์หมาป่า ฟินสุดครับ โดยเฉพาะที่เอเลนถูกกระทำชำเราและล้างเครื่องใหม่ทั้งหมด ยิ่งกว่าเข้าอู่ เคลมเครื่องใหม่ชัดๆ ฟฟฟฟ เรื่องนี้เอเลนคงต้องจมปลักกับอาเฮียไปตลอดกาลซะแล้วสินะครับ หวังว่าจะมีวันที่อาเฮียจะให้ความรักน้องแบบปกติบ้าง ไม่ใช่ผ่าท้องเล่นทุกวัน
ตอบลบแต่ใจก็อยากมีโมเม้นท์แบบอาเฮียเยน้องไปและเอามีดแทงท้อน้องเล่น ไม่ก็บิดลำไส้น้องเล่นจังครับ ฮรูววววววววววว //พวกเราเป็นคนปกติจีๆ
หรือค่อยๆเอากัดกระชากกินเนื้อไปเยไป ฟันไม่คมเท่ามีด ต้องใช้แรงฉีกกระชากเยอะกว่า สร้างความเจ็บปวดได้มากกว่าด้วยนะครับ โฮกกกกก
....เราควรเอาตัวเองไปเก็บ....
เป็นฟิคฮาโลวีน(?) ค่ะ คือมันเป็นชอตฟิควันที่จะหวานมุ้งมิ้งคงไม่มี(ฟิคอื่นหวานละถือว่าทดเเทนกันค่ะ) ฉากน้ำกรดเขียนเองชอบเองยกเครื่องใหม่ดีค่ะ5555555 เฮียรักความสะอาดเพราะงั้นทุกอย่างต้องเอี่ยมอ่อง
ลบเป็นฟิคที่เหมาะกับ ฮาโลวีน มากกก
ตอบลบปกติเอเลนเด็กน้อยก็เหมือนลูกหมาเชื่องๆตัวนึงอยู่แล้ว พอมาเป็นหมาป่าดูดื้อมากมายเกินขนาด แต่อย่างว่า หมาเวลาอยู่กับเจ้าของก็เป็นหมาน้อยอยู่ดี
เรื่องนี้แซ่บค่ะไรท์ ถึงแม้จะสงสารเอเลนหนูน้อยไปนิดนึงก็เหอะ
เปลี่ยนบรรยากาศจากฟิคเรื่องอื่นๆกันมั่งค่ะ ต้อนรับเทศกาลสิ้นเดือน ><
ลบกรี๊ดดด สงสารหนูเอเลนเหมือนกันนะคะ แต่ฉากผ่าท้องนี่ทำไมเราฟิน เอิ่ม สรุปว่าไม่ซาดิสตัวพ่อไม่ใช่พี่เตี้ยสินะคะ ฮา ทำใจสะเถอะเอเลนเอ๋ย ยังไงร่างกายก็ฟื้นสภาพเร็วอยู่แล้ว ก็จงอยู่เป็นของเล่นที่รักของพี่เตี้ยต่อไปชั่วกาลนานเถิด เพื่อความฟินของพวกเรา อิอิ
ตอบลบชอบมากค่ะแม้จะซาดิสแต่เหมาะเป็นฟิค ฮาโลวีนมากค่ะ รอเรื่องอื่นๆต่อไปนะคะ ^^
ปล.ไหนๆก็มีฟิคซาดิสรับฮาโลวีนแล้ว ขอ Libido มาช่วยเสริมความดาร์กอีกเรื่องสิคะไรท์ แหะๆ // โดนตรบ
รอตามผลงานเรื่องอื่นๆต่อไปนะคะไรท์ สู้ๆคะ สนุกทุกเรื่อง จริงๆค่ะ บล็อกนี้ >w< b