วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

Attack On Titan Fan fic.: Desert Desire CHAPTER 8: Disorder Path


Attack On Titan Fan fic.: Desert Desire

Pairing: (LevixEren), (Mikasa ver. C)

Rate: R18

Warning: เอเลนเรื่องนี้บิชชี่มากค่ะ ใครไม่ชอบสไตล์นี้อาจโดนทำร้ายนะคะ ><

Story By: Trendy Blood & Jadenchase

………………………………………………………………………………………………..

CHAPTER 8: Disorder Path

            ร่างเพรียวบางที่ยามนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของสตรีนั่งนิ่งอยู่ภายในเบาะหลังลีมูซีนที่กันส่วนของคนขับกับที่นั่งแยกออกจากกัน ข้างๆมีชายหนุ่มผมทองปรกตาขวานิ่งเงียบไม่พูดอะไร ใบหน้าสวยก้มนิ่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ทบทวนสิ่งที่ทั้งสองชีคทำ คนหนึ่งตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอก็หยอกเค้าเล่นเหมือนแมวแหย่หนู ปล่อยให้เป็นอิสระทั้งๆที่รู้ว่ายังไงเขาก็ต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง หากแต่ก็วางหมากการเดินเอาไว้เรียบร้อย ตัดเส้นทางของเขาทิ้ง ตีตราความเป็นเจ้าของโง่ๆนี่อีกทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงจะมีติดตามตัวติดตั้งไว้อยู่แล้ว ใช้คำพูดหวานบ้างเย้าแหย่บ้างล่อลวงให้จิตใจเขาสับสนอีกทั้งก่อนหน้าจะกักขังเขาไว้แต่มาตอนนี้กลับผลักไสเขามาเองแถมให้ของที่เขาต้องการอีก ในขณะที่อีกคนนั้นอ่อนโยนและใจดีกับตนเองจนแทบจะโอนอ่อนตาม สำหรับคนขาดความอบอุ่นอย่างเขานั้นความจริงใจที่ชีคมิคาสะมอบให้ถือเป็นคนประเภทที่แพ้ทางเหลือเกิน เอเลนรู้ตัวว่าบางครั้งตนแอบหวั่นไหวให้กับชีคหนุ่มสองพี่น้อง การที่มอบของที่ตนเองตามหาทั้งๆที่รู้ว่าเสี่ยงนั้น ต้องการจะทดสอบเขาหรืออย่างไร แต่ในวงการเขาการทรยศเจ้านายถือเป็นความอัปยศของนักฆ่า ถ้าเพื่อสำเร็จภารกิจหนึ่งในสองโทษที่เขาไม่สามารถจัดการชีครีไวได้จะลดหย่อนลงไปมากและไม่ถือว่าเขาทรยศท่านชีคเช่นกันเพราะไม่มีพันธะอะไรต่อกัน

            แต่ถ้าทำอย่างนั้น หมายความว่าเขากับท่านชีคทั้งสองจะตัดขาดกันโดยสิ้นเชิง

            ไร้ซึ่งพันธะและเยื่อใยต่อกันอีก เพราะนั่นหมายถึงเขาจะเป็นศัตรูกันและไม่มีโอกาสแก้ตัว ไม่มีโอกาสได้รับความเอ็นดูกลั่นแกล้งแปลกๆของชีครีไว ความอบอุ่นใจดีของชีคมิคาสะ เขาอาจจะได้มีชีวิตต่ออีกเพียงนิดแต่ก็อยู่เยี่ยงนักฆ่า ไร้ซึ่งความจริงใจ ทำงานกับชีวิตของคนอื่นต่อไป หรือร้ายที่สุดก็แค่ตาย ชีวิตที่ยืดมาได้อีกนิดแทนที่จะตายตั้งแต่คืนที่เขาลอบฆ่าครั้งนั้น หนี้ชีวิตที่เขาไม่เต็มใจรับแต่ชายหนุ่มได้มอบให้กลับไปดิ้นรนหาจุดจบอื่น ท่านชีคจะรู้สึกอะไรกับหนึ่งชีวิตที่แสนไร้ค่าของเขาหรือไม่ จะเสียใจหรือสมเพชในความโง่เง่าของเขาหรือไม่รู้สึกอะไรเลย จะรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกทำลายความไว้ใจไหม มือบางกำชุดผ้าเนื้อดีแน่น ทำไมเขาถึงต้องคิดอะไรแบบนี้ด้วย เขาควรจะทำตามคำสั่งของเจ้านายไม่ใช่หรือยังไง สองคนนั้น....คือเป้าหมายนะ ทำไมถึงหวั่นไหวได้ขนาดนี้ กับเรื่องแบบนี้กัน นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจากคอนแท็คเลนส์ฉาบเต็มไปด้วยความสับสนและลังเลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ทำไมผมถึงต้องมากังวลกับความรู้สึกของพวกคุณด้วย....

ก่อนจะได้คิดอะไรต่อ มือหนาที่แสนคุ้นเคยของคนข้างๆก็สัมผัสที่หน้าท้องขึ้นลอนเล็กๆของตนแผ่วเบา

“โทษที เจ็บมากไหม”  หันไปสบมองนัยน์ตาสีฟ้าก่อนจะส่ายหัวเบาๆ

“ดีขึ้นแล้วล่ะ ขอบคุณนะที่ยั้งมือให้” ไม่อย่างนั้นตนคงจะสลบไปแล้ว ใบหน้าคมถอนหายใจเบาๆ มือหนายกประคองใบหน้ามนให้หันไปสบกับตนเอง

“ฮันนี่ เธอไม่เหมาะกับงานแบบนี้จริงๆ” เห็นความกังวลที่ถ่ายทอดออกมาจากดวงตาสีฟ้าใสของคนตรงหน้า ชายหนุ่มมักจะบอกเสมอว่าตัวเขาไม่เหมาะกับงานแบบนี้ เสนอความช่วยเหลือเพื่อให้ตนเองออกจากวงการก็หลายคราแต่เป็นเขาเองที่หัวรั้นจะทำงานในเส้นทางนี้ และชายหนุ่มผมทองคนนี้เองที่มักจะห่วงใย คอยอยู่เคียงข้างแม้จะเป็นคนพูดไม่เก่ง สอนการป้องกันตัวให้แก่เขาในยามว่าง เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้ การจะหันหลังกลับออกไปตอนนี้มันยากเหลือเกินถ้าไม่มีผู้ที่มีอิทธิพลมากจริงๆคอยหนุน ดวงตาเบื้องหลังคอนแท็คเลนส์สั่นไหวด้วยความลังเลและไหวหวั่น นิ้วเรียวเขี่ยปอยผมสีทองที่บดบังตาอีกข้างของชายหนุ่มที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ได้ขนาดนี้

“ตอนนี้ไม่มีใคร ช่วยเรียกชื่อฉันทีนะแอนดี้” ไม่อยากให้เรียกกันด้วยฉายาของอาชีพที่ได้รับมา ‘Honey’ ความหมายแรก ที่รักสำหรับเรียกบุคคลที่สำคัญกับตน แต่อีกความหมายคือ น้ำผึ้งหอมหวนที่คอยล่อลวงให้หลงใหลไปกับสัมผัสแสนละมุนดั่งกับดักแสนหวาน ไม่ว่าจะแบบไหนก็ตามเขาไม่อยากจะคิดให้เสียเวลาว่าคนที่ตั้งให้นั้นต้องการจะสื่อถึงความหมายใด สายตาคมจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ไม่สามารถอ่านได้ ใบหน้าคมโน้มเคลื่อนมาชิดจนลมหายใจอุ่นรดใบหน้าของกันและกัน

“ได้สิเอเลน”ริมฝีปากอุ่นแนบทับลงมาบดคลึงกลับปากบางก่อนเรียวลิ้นจะค่อยๆแทรกเข้ามาหยอกล้อกับโพรงปากของเขา เอเลนตอบรับสัมผัสด้วยความเคยชิน มือบางลูกไล้ตามแผ่นอกแกร่งใต้เนื้อผ้าหนาของชุดสูท ลิ้นร้อนทั้งสองเร่งจังหวะเกี่ยวกระหวัดกันรุนแรงยิ่งขึ้น เสียงดูดดุนเปียกแฉะดังก้องรถสะท้อนไปมาชวนให้มัวเมา มือหนาลูบไล้ไปตามเอวคอดเปลือยเปล่าไล้ไปจนถึงกลางแผนหลังเนียน ริมฝีปากทั้งคู่ผละออกจากกัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆลากไล้จากข้างแก้มไปเรื่อยก่อนจะขบเม้มที่ลำคอสวย

 

เจ้าหนู

 

เอเลนสะดุ้งเบาๆด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆก็ได้ยินเสียงของท่านชีคหนุ่มผมดำผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของประเทศดังขึ้นมาในความคิด ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน? สัมผัสอื่นชื้นตามลำคอทั้งๆที่มันควรจะเป็นเรื่องปกติแต่คราวนี้กลับรู้สึกต่างออกไป แทนที่ควรจะรู้สึกดีกลับทำให้ขนลุกซู่ กายบางเย็นเฉียบ

ขยะแขยง......

ไม่! เขาไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย ทั้งๆที่แอนดี้เป็นคนคุ้นเคยแท้ๆ กอดก่ายกันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มากครั้งยิ่งกว่าที่ท่านชีคเคยทำเสียอีก ริมฝีปากอุ่นร้อนผละออกจากลำคอระหงมาแนบชิดที่ใบหูบางค่อยเอื้อนเอ่ยแผ่วเบาช้าๆ

“เอเลน.....”

หยาดเหงื่อเม็ดเล็กค่อยๆไหลตามขมับสวย มือบางกำแน่น ตัวสั่นเทา ฉัน......เป็นอะไรไป?

“ฉันขอ”

เอเลน เยเกอร์! นายกำลังกลัวอะไรกัน คนตรงหน้าคือโกลเด้นฮอว์ก แอนดี้ เพื่อนของนาย คนที่คอยดูแลเคียงข้างนายนะ

“.....อย่างทุกทีนะ”

ไม่! กลัว! กลัวตัวเอง! ฉัน....เป็นอะไรไป ไม่เข้าใจ! ไม่นะ! ไม่เอา!

 

เอเลนครับ

 

น้ำเสียงอ่อนโยนของชีคหนุ่มผมดำผู้น้องดังก้องขึ้นมาบ้าง ในที่สุดร่างบางก็ทนไม่ไหว ดันอกของเพื่อนตนออกด้วยมืออันเย็นเฉียบและสั่นเทิ้มจนแทบไม่อาจควบคุมได้

“ฉะ....ฉัน....ยังไม่อยาก....โทษทีนะ” ใบหน้าหวานสวยซีดเผือดเบนสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกของตนเองหลบไม่ให้อีกฝ่ายเห็น ไม่อยากจะเชื่อว่าตนปฏิเสธต่อต้านเพื่อนของตน ทั้งๆที่ผ่านมือชายมานับไม่ถ้วนทั้งรู้จักและแม้กระทั่งเป้าหมายได้โดยไม่เคยรู้สึกอะไรแท้ๆ เขากลัวใจตนเองเหลือเกิน ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันได้สี่วัน ทำไมถึงได้มีอิทธิพลกับใจของเขาขนาดนี้ พวกคุณสองพี่น้องทำอะไรกับผมกัน.....ท่านรีไว ท่านมิคาสะ

และที่นอกเหนือจากนั้น หากยังคงดำเนินกิจกรรมต่อจริงๆเขาก็จะถูกเจอของที่ท่านชีครีไวฝากติดกลับมาด้วยเอเลนยังคงอยากเก็บเอาไว้เป็นไพ่ในการเจรจามากว่า

“เธอแปลกไปนะ......”ชายหนุ่มผมทองปรกตาขวาหรี่ดวงตาสีฟ้าสดมองอย่างจับผิด เอเลนหลบสายตาด้วยความรู้สึกผิดและแอนดี้ก็ไม่ซักอะไรต่อ ความเงียบเข้าปกคลุมจนกระทั่งถึงที่หมาย ชายหนุ่มเปิดประตูลงจากรถก่อนจะยื่นมือมาให้ร่างบางจับ

“ไปหาหัวหน้ากันเถอะ”

.

.

.

.

.

“ไม่ได้เจอกันนานนะฮันนี่” ภายในห้องโถงรับแขกขนาดใหญ่กลางคฤหาสน์หรูของตระกูลบราวน์ หนึ่งในตระกูลชั้นสูงที่ผู้คนนับหน้าถือตา ชายหนุ่มร่างกายกำยำรูปร่างสูงใหญ่เรือนผมสีทอตัดสั้นกับดวงตาสีเฮเซลผู้ที่มีประวัติการทำความดีเพื่อส่วนรวมตลอด ถือเป็นนักการเมืองตัวอย่างยืนอยู่เบื้องหน้าของเอเลนที่ถูกชายชุดดำล้อมวงสี่คนและโกลเด้นฮอว์กยืนหลบอยู่อีกมุมหนึ่งที่ห่างออกไป ชายหนุ่มในชุดภูมิฐานก้าวเข้ามาใกล้ มือหนาหยิบจับปลายวิกผมยาวสลวยขึ้นมาลูบเล่น

“หายไปสี่วัน ได้อะไรกลับมาบ้างคนสวย”

“..ถ้าไม่ได้อะไรเลยล่ะครับ” มือหนากระชากวิกหลุดออกเผยให้เห็นเส้นผมสีน้ำตาลสั้นสลวยเป็นธรรมชาติ ใบหน้าเจ้าเลห์ยังคงประดับด้วยรอยยิ้มแต่ปล่อยรังสีอัมหิตออกมา

“ก็ตาย”

“ไหนแกรับปากว่าจะไม่ฆ่าเอเลนไงไรเนอร์!”ในตาสีฟ้าใสวาวโรจน์ เพราะตอนที่ตกลงรับงานนี้ไรเนอร์ได้ให้สัญญาว่าจะไม่ทำอันตรายร่างบาง ชายหนุ่มล่ำสันยักไหล่ใส่อย่างยียวน

“น่าๆ แค่ ถ้า เฉยๆนี่ ไม่ได้บอกว่าไม่ได้อะไรกลับมาเสียหน่อย” ชายหนุ่มผมทองขบกรามแน่น สองมือกำหมัดเข้าหากัน ถ้าหากเอเลนไม่ได้อะไรกลับมาเลยพวกมันคิดจะฆ่าทิ้งจริงๆสินะ คิดแล้วเจ็บใจที่ตกลงรับงานนี้ขึ้นมา

แกนี่มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ ไรเนอร์ บราวน์!!

เอเลนมองเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วใจชื้นขึ้น ถ้าไม่มีแอนดี้อยู่ด้วยตนอาจจะถูกจัดการไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้วก็ได้ แต่ก็ยังไม่อาจวางใจได้เพราะเขายังคงถูกล้อมไว้รอบด้านพร้อมที่จะถูกปลิดชีพทุกเมื่อ สมองประมวลสถานการณ์เพื่อให้ตนเองรอด.....ทั้งๆที่แค่เพียงเขายื่นเอกสารให้ทุกอย่างก็จบแล้วแท้ๆ ไม่เข้าใจตัวเอง เขายังลังเลอะไรอีก?

“ถ้านายท่านได้ของไปแล้ว จะเอาไปทำอะไร” ร่างบางถามอย่างใจเย็น ตาสอดส่ายคอยประเมินสถานการณ์โดยรอบ ห้องที่พวกเขาอยู่กันนี้อยู่ชั้นสองของคฤหาสน์ นอกจากเขา ไรเนอร์ที่ห่างออกไปเมตรครึ่ง ชายชายชุดดำที่ล้อมวงสี่คนห่างออกไป 3 เมตรและแอนดี้ทางขวามือยืนพิงกำแพงห่างออกไปประมาณ 12 เมตร รอบๆบริเวณก็ไม่มีใครอยู่อีก ข้างหลังของเขาเป็นหน้าต่างบานกระจกขนาดใหญ่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร และประตูทางออกอยู่ด้านหลังของไรเนอร์ห่างออกไปอีกไกล

จะเลือกทางไหนดี....

มือบางข้างซ้ายแนบข้างลำตัวกดปุ่มเล็กๆที่นูนขึ้นมานิดเดียวจนแทบมองไม่เห็นเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มกำยำเริ่มเอ่ย

“เธอก็รู้นี่ แก้ไขพินัยกรรมเพื่อขึ้นครองราชย์สมบัติ ส่วนฉันก็จะได้รับส่วนแบ่งและงานเพิ่มขึ้น มันก็เป็นเรื่องของธุรกิจนั่นล่ะ”

“แล้ว......หลังจากขึ้นครองราชย์ ท่านผู้นั้นจะทำอะไรกับประเทศนี้” จนถึงตอนนี้มือบางกำแน่นชื้นไปด้วยเหงื่อ ลุ้นกับคำตอบที่จะได้ยินต่อจากนี้ คำตอบที่จะช่วยในการตัดสินใจครั้งสำคัญต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนทุกคน ประเทศแห่งนี้.....และความต้องการของตัวเขาเอง

ไรเนอร์แสยะยิ้มกว้าง ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“ปกครองโดยให้ทุกคนทำตามที่ท่านปรารถนา หากไม่ก็จัดการซะ”

ร่างบางนิ่งงันกับคำตอบที่ตนเองรู้ดีอยู่แล้ว หากท่านผู้นั้นได้ขึ้นปกครอง ประเทศจะตกอยู่ภายใต้ความเหี้ยมโหดและเผด็จการ นักฆ่าจะงานทำมากขึ้นและได้รับการคุ้มครองจากทางกฎหมาย นั่นหมายถึงการที่เขาจะต้องฆ่าคนบริสุทธิ์จำนวนมากหลังจากนี้แม้จะเพราะจากการทำตามหน้าที่ก็ตาม เดิมทีที่เขายังเลือกที่จะทำงานสังหารแบบนี้เพราะอยากจัดการคนชั่วที่ลอยหน้าลอยตาในสังคม ยอมที่จะให้มือของตนเองแปดเปื้อน หากแต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่คิด ตั้งแต่ที่เริ่มทำงานนี้มา ทุกคนย่อมมีความมืดในจิตใจของตนเอง ยิ่งเข้าใจมากขึ้นว่าผู้ที่จ้างวานก็ไม่ได้ดีไปกว่าฆาตกรมือขาวเท่านั้นเอง สิ่งที่ถูกปลูกฝังซึ่งความจงรักภักดีต่อผู้เป็นนายนั้น เป็นดั่งโซ่ตรวนที่คอยพันธนาการเราไว้ไม่ให้หลุดจากวงจรโสโครกนี่......เป็นเพียงสิ่งที่พันธนาการคำว่าความซื่อสัตย์ด้วยเกียรติ ความภาคภูมิ ......ความหยิ่งผยองในใจของมนุษย์เท่านั้นเอง

เหนื่อย....เหนื่อยเหลือเกิน พอกันที

ร่างบางฉีกรอยผ่าด้านหลังของกระโปรงขึ้นจนถึงบั้นท้ายสวย สิ่งที่ปรากฏให้เห็นแก่สายตาของทุกคนคือซองเอกสารสีน้ำตาลหนึ่งซอง มือบางดึงมันออกมาถือไว้อย่างไม่ใส่ใจว่ากระโปรงจะฉีกสูงจนเห็นชั้นในสตรีลายลูกไม้สีดำแสนเย้ายวน แกว่งซองเอกสารตรงหน้าไรเนอร์

“นี่ครับสิ่งที่คุณต้องการ” เมื่อมือหนาเอื้อมมาจะคว้าแขนเล็กก็ชักกลับพลางค่อยๆเปิดซองเอกสาร หยิบตาประทับลวดลายประณีตที่เป็นสิ่งเล็กๆที่แสนสำคัญยิ่งต่อประเทศนี้ออกมาโชว์ให้คนตรงหน้าดู ชายหนุ่มรูปร่างกำยำเพิ่งพินิจมองสิ่งที่อยู่ในมือบางก่อนจะยิ้มด้วยความสุขสันต์

“ใช่ เก่งมากคนสวย ถึงจะจัดการชีคไม่ได้แต่ท่านผู้นั้นต้องชื่นชมเธอแน่นอน”

แต่ร่างบางกลับทำสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด นิ้วเรียวเกี้ยวดึงกางเกงในลูกไม้สีดำเผยให้เห็นช่องทางรักสีหวานก่อนจะสอดสิ่งนั้นเข้าไปในตัว พร้อมใช้นิ้วเรียวดันสอดเข้าไปจนมิดความของนิ้วมือ ไรเนอร์มองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ก่อนจะบันดาลโทสะยิ่งขึ้นเมื่อเห็นมือเล็กจับที่ซองสี่น้ำตาลชูแนวขวาง

“จะทำอะไร!!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ เอเลน!!!

แคว่กกกกกกก!

ฉีกสิ่งที่อยู่ในมือทิ้งอย่างไม่ใยดี ทอดสายตามองเศษกระดาษที่ขาดปลิวเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยสายตาว่างเปล่า จนเมื่อกระดาษใบสุดท้ายร่วงหล่นลงบนพื้น ร่างบางก็เอ่ยอย่างยียวนให้ชายหนุ่มหัวเสียมากยิ่งขึ้น

“ว้าาา ผมทำพินัยกรรมขาดซะแล้ว ขอโทษที่ไม่ระวังครับ”

“แก!!” ริมฝีปากบางยิ้มหวานพลางเอ่ยเย้า

“ถ้าอยากได้คงต้องมาเล่นกันหน่อยนะครับ”

“จัดการมันซะ!!!” มือใหญ่ชักปืนขึ้นมาหมายจะยิงหากแต่ขาเรียวก็ตวัดเตะออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งเข้าหาอ้อมไปชาร์จอยู่ข้างหลังร่างกายใหญ่โตนั้นอย่างรวดเร็ว แขนเรียวล็อคลำคอใหญ่จากข้างหลังอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวล็อคขากำยำนั้นไม่ให้ขยับได้ เพียงเสี้ยววินาทีที่ทุกคนชักปืนออกมาไรเนอร์ก็ถูกใช้แทนโล่ห์เรียบร้อย มืใหญ่ออกแรงดึงรั้งแขนเล็กที่รัดเขาไว้ออก

“ยิงสิวะ!!

เปรี้ยง!!! เพล้ง!!

ปัง! ปัง! ปัง!

“อ๊าคคคคคค!!

สิ้นเสียงของไรเนอร์เสียงดังกัมปนาทของปืนระยะไกลและเสียงกระจกแตกก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงลั่นไกปืนยิงต่อเนื่อง เสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเพราะถูกยิงเข้าที่มืออย่างแม่นยำทำให้ปล่อยปืนทิ้งอย่างช่วยไม่ได้ และร่างของหนึ่งในชายชุดดำที่ยืนในตำแหน่งที่ใกล้กับหน้าต่างที่สุดจะค่อยๆล้มตึงสิ้นใจทันทีโดยมีกระสุนเจาะทะลุสมองอย่างแม่นยำ ไรเนอร์มองดูลูกน้องของตนพลางสบถอย่างหัวเสียขณะที่ยื้อแขนเอเลนไม่หลุด เทียบกันแล้วร่างเล็กๆนั้นมีแรงพอๆกับชายตัวใหญ่อย่างชายหนุ่มเลยที่เดียว หากแต่จุดเด่นจริงๆคือความเร็วและคล่องตัวของร่างเพรียวบางที่ทำให้ได้เปรียบ เมื่อไม่เป็นผล แขนกำยำจึงพยายามเอื้อมมือไปกระชากหัวร่างบางที่อยู่ข้างหลังแทน เหล่าลูกน้องที่ถูกยิงเข้ามารุมหวังจะจัดการร่างบางในระยะประชิด เอเลนปล่อยมือออกจากรอบลำคอแกร่งพร้อมทิ้งตัวลงก่อนที่จะถูกคว้าไว้ได้ปล่อยขาที่ล็อกไว้ออกตีลังกาถอยหลังหลบพร้อมตวัดเตะขาให้ชายหนุ่มเสียการทรงตัวล้มลงพลางยันตัวขึ้นเอาศอกแทงชายที่เข้ามาใกล้ ก่อนที่ร่างเพรียวจะสบโอกาสอาศัยจังหวะนั้นคว้าปืนที่อยู่ใกล้ๆหมายจะปลิดชีพ แต่เมื่อหันกลับมาเห็นโกลเด้นฮอว์คที่กำลังจะถึงตัวจึงรีบวิ่งหนีไปยังกระจกหน้าต่างที่แตกเพราะกระสุนไรเฟิลก่อนหน้านี้แทน ยกแขนขึ้นมากันศีรษะก่อนจะปะทะกระจกกระโดดลอยตัวลงจากชั้นสองทันที ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าก่อนจะทุบพื้นอย่างแรงระบายความแค้น

ปึง!!

“โถ่เว้ยยยยย!!! แอน ทำไมแกถึงยิงพวกเดียวกันวะ!! แล้วทำไมไม่จับมันไว้!

“ตามข้อตกลงที่จะไม่ฆ่าเอเลน และนายก็รู้ว่าเอเลนเร็วกว่าทั้งฉันและนาย” ชายหนุ่มผมทองปรกตาขวาจ้องชายหนุ่มกำยำที่กำลังเดือดได้ที่ ถึงฮอว์กอายจะมีทักษะการต่อสู้สูงแต่จะให้ตามจับคนที่เร็วกว่าตนเองโดยไม่ใช้อาวุธก็ดูจะเป็นไปไม่ได้ ในตอนนี้การ์ดจากส่วนต่างๆในบ้านกำลังวิ่งมารวมกันที่ห้องนี้หลังจากได้ยินเสียงปืน เสียอึกทึกขอฝีเท้าดังก้องประตูผลักเปิดออกเสียงดังปัง แต่ก็ไม่พบอะไรแล้วนอกจากเจ้านายของตนเองและนักฆ่าระดับสูง ชายหนุ่มกำยำลุกขึ้นยืน มาดของผู้นำตระกูลฝึกนักฆ่ากลับคืนมาอีกครั้ง

“ตอนนี้ฮันนี่เป็นคนทรยศแล้ว ไม่ว่าจะสุดหล้าฟ้าเขียวยังไงก็ต้องจัดการให้ได้!!

เสียงล้อบดกับถนนดังเอี๊ยดและเสียงอึกทึกครึกโครมวุ่นวายภายนอกยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง ไรเนอร์ บราวน์ประเมินสถานการณ์ก่อนจะสั่งการณ์ลูกน้องที่ยังคงอยู่รอบๆนี้อย่างสุขุม

“ฝ่ายสนับสนุนของทางนั้นมาแล้ว ตอนนี้พวกเราต้องถอยก่อน.....” ชายหนุ่มและพรรคพวกทั้งหมดที่อยู่ในละแวกนั้นหลบหนีออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลบราวน์ทันที

การถอยนั้นไม่ใช่ความคิดของคนขี้ขลาด แต่หมายถึงคนที่ฉลาดพอจะคอยโอกาสที่ดีกว่าเพื่อหันมาโต้กลับทีหลัง.....

แล้วฉันจะมาเอาคืนให้สาสมเลย ฮันนี่......และพวกแกชีครีไว ชีคมิคาสะ แอคเคอร์แมน

.

.

.

.

.

หลังจากกระโดดลงมาลงพื้นอย่างปลอดภัย(ด้วยรองเท้าส้นสูง) ร่างบางก็ดีดตัวพุ่งลัดเลาะตามมุมมืดไปยังทางออกทันที แม้ส่วนใหญ่จะวิ่งไปรวมตัวกันที่ชั้นสองแล้วแต่ก็ยังมีอีกมากที่อยู่โดยรอบบริเวณชั้นล่าง

“เห้ย!! ฮันนี่อยู่ทางนั้น!”เสียงของการ์ดที่เห็นเขาตะโกนบอกพรรคพวก .....ชิ! อุตส่าห์วิ่งผ่านมาแล้วกว่า 300 เมตร เกือบครึ่งทางแล้ว หากเสียเวลามากตัวเขาจะรับมือไม่ไหว ถ้ามีเพียงการ์ดเขาพอรับมือได้ แต่ในสถานที่ฝึกนักฆ่าอย่างที่นี่อาจมีนักฆ่าคนอื่นอยู่อีกคงแย่แน่

ปัง! ปัง! ปัง!

เอเลนปลดไกปืนแล้วยิ่งต้นขาของการ์ดสามคนในละแวกนั้นอย่างแม่นยำทันทีเพื่อไม่ให้วิ่งตามมาได้ แม้จะมีเสียงโหยหวนดังตามมาก็ยังคงวิ่งตรงไปเรื่อยๆ ยกปืนในมอขึ้นมามองลายข้างกระบอก.... Heckler & Koch รุ่น Mark 23 อย่างนั้นเหรอ รุ่นนี้บรรจุได้ 12 นัด ตอนนี้กระสุนในแมกเหลือเพียง 9 นัดเท่านั้น ปากบางขบกัดแน่นด้วยความเครียด

เปรี๊ยง!!

เสียงลั่นไกปืนรุนแรงของสไนเปอร์ดังให้ได้ยินอีกครั้ง คราวนี้ดังถี่ขึ้นเมื่อหันกลับไปมองก็พบศพของการ์ดอยู่ข้างหลัง แม้จะโล่งใจที่มีคนช่วยจัดการแต่ก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ ใครกันที่เป็นบุคคลเบื้องหลัง? และรอบๆบริเวณคฤหาสน์หลังนี้ไม่มีตึกที่ใกล้พอจะใช้สไนเปอร์ซุ่มยิงได้เลย นัยน์ตาสวยเพ่งมองไปบนท้องฟ้ายามราตรีตามสัญชาติญาณแม้จะมองไม่เห็นอะไรเลยก็ตามเพราะเมฆที่บดบังแสงจันทร์และดวงดารา ก่อนจะสิ้นความพยายามพลางหันมาจัดการกับการ์ดที่มาดักอยู่ข้างหน้าแทนแต่ก็ช้าไปเมื่อการ์ดคนนั้นเป็นฝ่ายเหนี่ยวไกก่อน

ปัง! ปัง!

ร่างบางวิ่งซิกแซ็กทำให้วิถีกระสุนของฝ่ายตรงข้ามพลาดไป มือควงปืนอย่างเคยชินคว้าจับที่ปลายกระบอก ตรงเข้าชาร์ตชายร่างสูงใหญ่ก่อนจะเอาด้ามจับปืนกระแทกเสยเข้าเต็มเหนี่ยวที่คางคนล้มหงายสลบทันที แล้วรีบเปลี่ยนไปจับด้ามปืนยิงคนอื่นๆที่พบตลอดทางจนในที่สุดกระสุนก็หมด ร่างบางขว้างใส่หัวการ์ดที่อยู่ใกล้ๆทันที มุ่งหน้าวิ่งตรงไปยังทางออกสุดฝีเท้า อีกเพียงไม่ถึงร้อยเมตรเท่านั้น หยาดเหงื่อจำนวนมากไหลอาบทั่วใบหน้าและข้างขมับ หัวใจเต้นระรัวแรงจนรู้สึกได้

ระยะห่างเหลือห้าสิบเมตร....ได้ยินเสียงหายใจเบาๆและความวุ่นวาย แต่ก็ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าต้องมีคนจำนวนมากดักรออยู่ แต่มีเสียงอีกเสียงหนึ่งที่ทำให้เขาเลือกที่จะเสี่ยง เสียงของเครื่องยนต์ดังกระหึ่มที่เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว จะหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับการ์ดที่อยู่ข้างในโดยที่ไม่มีอาวุธอะไรเลยเขาไม่มีทางสู้ไหวอยู่แล้วเพราะตนเป็นสายลอบสังหาร เหมาะกับการสู้หนึ่งต่อหนึ่งมากกว่า เหลือเพียงว่ารถคันนั้นจะเป็นของฝ่ายไหน

อีกสามสิบเมตร

......หากเป็นทัพเสริมของไรเนอร์ เขาก็ต้องตายที่นี่.....แต่ถ้าหากเป็นอื่น.....

ระยะห่างยี่สิบเมตร

..............อกข้างซ้ายบีบรัดอย่างรุนแรง เต้นหนุบจนเจ็บปวด ตอนนี้หูของร่างบางได้ยินเพียงเสียงของหัวใจของตนเอง ตากลมสวยจ้องมองไปยังประตูทางออกนิ่งค้าง ลุ้นระทึกจนไม่อาจละสายตาได้

ระยะห่างสิบเมตร

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดด!

เสียงเบรกล้อรถบดกับพื้นถนนอย่างรุนแรงดังขึ้นก่อนที่จะเกิดเสียงรัวของปืนกลดังก้อง แสงจากไฟหน้าและการระเบิดของดินปืนสว่างวาบผ่านมาให้เห็นเหนือประตู เสียงโหยหวนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมเสียงกระสุนปืนกลหนักที่กราดยิง เอเลนวิ่งตรงไปยังประตูบานใหญ่ ออกแรงถีบกระโดดขึ้นคว้าขอบประตู ยกตัวขึ้นข้ามไปเป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงปืนหยุดลง เสียงทิ้งน้ำหนักของรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังขึ้นเบาๆ กลิ่นของดินปืนและกลิ่นสนิมของเลือดลอยกระทบจมูก หากแต่ศพโดยรอบกลับไม่อยู่ในความสนใจของร่างบางเลยสักนิด กลับเป็นชายหนุ่มผมสีนิลที่คุ้นเคยสองคนยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมนั้นโดยที่ด้านหลังมีรถสีดำจอดอยู่หลายคันกับลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งที่ร่างบางไม่คิดจะใส่ใจ นัยน์ตาสวยไหวระริก ความอุ่นร้อนภายในอกข้างซ้ายตีตื้นขึ้นมาเอ่อล้น บีบรัดแน่นอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ความอบอุ่นที่เอ่อล้นออกมาและบีบรัดจนแน่น ทั้งๆที่ควรทรมานแต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น ความรู้สึกนี้คืออะไรกันนะ.....

ขาเรียวหยุดนิ่งอยู่กับที่ ทุกอย่างเหมือนกับหยุดเคลื่อนไหวจนชายหนุ่มสูงน้อยกว่าแต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครขยับกายเดินมาข้างหน้า พร้อมส่งมือมาให้

“มานี่สิ เอเลน”

เสียงทุ้มหนักแน่นดังก้องอยู่ในหู เร่งให้จังหวะหัวใจเพิ่มมากยิ่งกว่าเดิม ใบหน้านวลขึ้นสีระเรื่ออย่างไม่อาจควบคุมได้ เด็กหนุ่มค่อยๆยกมือบางวางลงบนฝ่ามือหนาแผ่วเบา

“......ครับ”

มือแกร่งดึงร่างเพรียวบางเข้าไปกอดแนบชิดพร้อมประกบริมฝีปากแนบทับอย่างรวดเร็ว แขนแกร่งโอบรัดแผ่นหลังบางแน่น มือกดท้ายทอยสวยให้องศารับกันยิ่งขึ้น เอเลนตอบรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาในโพรงปากอย่างยินดี สองมือประคองลูบไล้ใบหน้าคมอย่างเผลอไผล ริมฝีปากดูดดุนกันไปมาสลับกับสงครามชิวหาที่เกี่ยวกระหวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาเริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล้ตามเอวบาง ผิวเนียนละเอียด  ก่อนจะขยำบั้นท้ายกลมสวยบีบคลึงบ้างดึงให้แยกออกจากกัน  ร่างบางใช้ต้นขาเรียวใต้กระโปรงถูไถกับส่วนอ่อนไหวกลางเป้ากางเกงของชายหนุ่มอย่างปลุกเร้า จากจุมพิตหวานกลายเป็นอีโรติกราวกับจะเล่นหนังสดอย่างไม่อายสายตาบรรดาลูกน้องและไม่เห็นใจหนุ่มผมสีนิลอีกคนที่ยืนมองอยู่ ก่อนที่ชายหนุ่มเรือนผมสีนิลจะค่อยๆผละออกอย่างอ้อยอิ่ง ลิ้นเรียวเลียตวัดเพื่อตัดหยาดน้ำเป็นใยใสที่เชื่อมกันอยู่ออก

“ยินดีต้อนรับกลับ”

กล่าวจบชายหนุ่มก็หันหลังเดินไปที่รถ ก่อนจะมีสูทขนาดใหญ่เกินตัวที่ยังคงมีไออุ่นจากเจ้าของมาคลุมที่ไหล่บางไว้ เมื่อหันกลับมามองก็พบกับชีคมิคาสะที่เหลือเพียงเสื้อเชิ้ต ชายหนุ่มก้มลงมาประทับจุมพิตที่ริมฝีปากบางที่เริ่มจะบวมหน่อยๆก่อนจะผละออกมาเอ่ยเบาๆด้วยคำพูดที่ทำให้ร่างบางต้องรีบจ้ำเท้าเดินตามชายหนุ่มอีกคนขึ้นรถด้วยความเขินสุดฤทธิ์ทันที

“ บังไว้ กระโปรงขาดเห็นหมดแล้ว”

.

.

.

.

“ของที่ให้ไปหายไปไหนซะล่ะ” หลังจากรถเคลื่อนตัวได้ซักพักชายหนุ่มร่างเตี้ยก็ถามเอเลนที่ถูกนั่งขนาบโดยชีคสองพี่น้องเรือนผมสีรัตติกาล มือของคนพี่คว้าไว้ที่เอวบางขณะที่คนน้องเพียงกุมมือของตนเอาไว้ ริมฝีปากสีหวานส่งยิ้มยั่วให้ ดวงตาสวยฉายแววหยอกล้อ

“นั่นสิครับ หายไปไหนกันน้า?”

“หืม.....จะเล่นอย่างนี้เหรอเจ้าหนู” คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาสีขี้เถ้าและรัตติกาลสบมองกันเพียงแว่บเดียวก่อนที่จะขยับเปลี่ยนท่ามาแนบชิดร่างเพรียวบางแน่น “ต้องค้นตัวกันหน่อยล่ะ”

ลิ้นร้อนของสองหนุ่มไล้เลียตามใบหูสวยรุกทั้งสองข้างพร้อมกันจนเสียงหวานหลุดลอดออกมาอย่างได้ตั้งใจ ราวกับถูกไฟฟ้าช็อททุกครั้งที่ถูกลิ้นสากลากตามรูปใบหูบางบ้างขบเม้นดูดดุนเบาๆ เสียงทุ้มแสนเอาแต่ใจดังก้องอยู่ในหู “อยู่ในนี้รึเปล่านะ”

“อ๊าาาาาายยย.ยะ..หยุด..อื้ออออออ”

สองลิ้นรอนสอดแทรกเข้าไปในโพรงเล็ก ดุนลิ้นควงไปมาราวกับจะควานหาบางอย่างและทำให้เด็กหนุ่มร้องออกมาด้วยความเสียว ตัวเกร็งขนลุกชันราวกับถูกสปาร์ค ตาปรือเริ่มเยิ้มลมหายใจติดขัด ร่างกายกระตุกทุกครั้งที่เรียวลิ้นคอยเลียวนไปทั่วใบหูบาง ในที่สุดลิ้นซุกซนก็ยอมปล่อยให้ใบหูสวยได้เป็นอิสระ ใบหน้าคมผละออกมามองผลงานที่ร่วมกันทำ อกบางกระเพื่อมขึ้นลงรุนแรงรวดเร็ว ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อตาฉ่ำเยิ้ม เอเลนมองชายหนุ่มที่แอบกระตุกยิ้มเพียงวูบเดียวแล้วค่อยๆลากริมฝีปากทิ้งเป็นรอยลงช้าๆ ก่อนจะมาสนใจชายหนุ่มอีกคนที่เคลื่อนใบหน้ามาใกล้ตนจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ

“ถึงเจ้าพี่เตี้ยจะตรวจไปแล้วก็เถอะ แต่ขอผมเช็คให้แน่ใจหน่อยนะครับ....เอเลน”

เอ่อด้วยน้ำเสียงเจือออดอ้อน นัยน์ตาสีสวยค่อยๆปิดลงช้าๆพร้อมเคลื่อนริมฝีปากไปแนบทับชายหนุ่มเองแทนคำตอบ ปากเล็กเผยอออกให้ชายหนุ่มเข้ามาสำรวจได้เต็มที่ ลิ้นร้อนค่อยๆชอนไชไปตามแนวฟันเรียงสวย ตามเพดาน กระพุ้งแก้ม ก่อนจะกวาดชิมความหวานจากใต้ลิ้นเรียว ร่างบางสะดุ้งเมื่อมีมือปลาหมึกของอีกคนล้วงเข้ามาในเดรสพลางควานไปทั่วอย่างรุ่มร่าม ปาดผ่านยอดอกสีสวยที่ชูชันขึ้นมาอย่างหยอกล้อทั้งยังลากลิ้นไปตามแนวกระดูกสันหลังจนขนลุกซู่ด้วยความเสียวซ่าน พอจะผละออกไปต่อว่าลิ้นเล็กก็ถูกชายหนุ่มอีกคนเกี่ยวพันดูดดุนจนแทบไม่ให้พักหายใจ แกนกายที่มีเพียงผ้าลูกไม้ห้อหุ้มไว้ใต้เดรสร้อนผ่าว กระตุกตามการปลุกเร้าของสองหนุ่มที่รุกจนเอเลนแทบขาดใจ ในที่สุดมิคาสะก็ถอนริมฝีปากออกเกิดหยาดน้ำใสเยิ้มเชื่อมระหว่างทั้งคู่ นิ้วเรียวยกขึ้นปาดเช็ดคราบน้ำใสออกจากริมฝีปากนุ่มให้อย่างแผ่วเบา

“ไม่มีจริงๆ.........คุณเก็บมันไว้ตรงไหนกันนะ”

ปากสีหวานแย้มยิ้มเบาๆให้กับชายหนุ่ม ก่อนจะสะดุ้งอีกคราเมื่อมือหนาของอีกคนจับขาของตนยกรวบขึ้น

“อ๊ะ!!

“หรือจะเก็บไว้......ในนี้กัน” ลูบช่องทางสีหวานผ่านที่สามารถมองผ่านลูกไม้บางเบาได้พลางหยอกล้อกับส่วนอ่อนไหวที่แข็งขืนภายในกางเกงชั้นในตัวจิ๋ว “แค่ค้นตัวก็เป็นซะขนาดนี้แล้ว เจ้าเด็กลามกนี่”

“ใครกันแน่ครับที่ลามก” ได้แต่บ่นอุบอิบให้กับชีคหนุ่มเอาแต่ใจที่ตอนนี้ล้วงมือเข้าไปในกางลูกไม้ตัวจิ๋วเรียบร้อยและกำลังถูวนที่ปากช่องทางรักของเขาอยู่ นิ้วเรียวค่อยๆแทรกเข้าไปทีละนิดพลางหมุนควานรอบโพรงนุ่มก่อนจะค่อยๆล้วงลึกขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มผมดำอีกคนก็พรมจูบตามเอวคอดเปลือยเปล่าพลางขบเบาๆตามเนื้อนุ่ม ร่างเพรียวขดเกร็งส่งเสียงครางตามแรงกดย้ำที่ร่างกายได้รับ นิ้วเรียวยังคงหมุนควงปลุกเร้าให้ช่องทางเล็กตอดรัดตอบ รีไวค่อยๆสอดนิ้วเพิ่มไปอีกคราวนี้ขยับนิ้วกางแยกออกหุบเข้าบ้างตีไปมาจนเด็กหนุ่มร้องเสียงหลง โพรงนุ่มตอบรัดแน่นจนสิ่งที่อยู่ภายในค่อยๆถูกบีบขับออกมา ร่างบางยิ่งดิ้นเร่ามากกว่าเดิมเมื่อชีคหนุ่มร่างสูงเริ่มลามเลียไปจนถึงรักแร้เนียนเปลือยเปล่าชวนให้จักจี้ ทั้งมือหนายังล้วงไปสัมผัสลูบแกนกายแข็งขืนสั่นระริกของร่างบางขึ้นลงช้าๆตามความยาวจนใบหน้าหวานเชิดขึ้นรับกับสัมผัสทั้งจากข้างหน้าและหลังอย่างยินดี จนในที่สุดนิ้วเรียวทั้งสองของรีไวก็คีบกับวัตถุทรงกระบอกได้จึงค่อยๆดึงออกมาจากช่องทางคับแน่น

“อือออ....อ๊ะ”

ในที่สุดนิ้วเรียวก็คีบดึงออกมาได้สำเร็จ รีไวมองสิ่งที่ตัวเองตามหาอย่างไม่รู้ว่าจะดีใจที่เจอของที่ต้องการหรือหงุดหงิดที่ตราประทับเปียกน้ำหล่อลื่นแล้วเขาต้องจัดการทำความสะอาดมัน ได้แต่ห่อไว้ด้วยผ้าเช็ดหน้าก่อนจะเก็บใส่กระเป่าเสื้อ ยังไงตอนนี้ช่วงล่างที่ตื่นตัวของตัวเองก็สำคัญกว่าเรื่องเลอะเทอะเล็กน้อยๆล่ะนะ

 

ตาที่ยังคงเป็นสีห้วงทะเลลึกฉ่ำเยิ้มในยามนี้จ้องมองภาพเบื้องล่างของตนด้วยสายตาพร่ามัว เมื่อเริ่มเห็นมือของทั้งสองพยายามจะถอดชั้นในตัวจิ๋วที่ตอนนี้เปียกแฉะไปหมดแล้วก็รีบร้องห้ามทันใด

“อย่....อย่านะครับ!

มือบางพยายามปัดป่ายมือปลาหมึกออกพัลวันแต่ก็แทบไม่เป็นผลเพราะผ้าผืนน้อยค่อยๆเคลื่อนหลุดไปขากสะโพกมนช้าๆ

“ห้ามอะไรกันตอนนี้เจ้าหนู นายไม่ทรมานรึไง”

“คุณไม่สงสารผมหรอครับ” ใบหน้าสวยอ้ำอึ้งใบหน้าแดงก่ำอย่างไม่รู้จะพูดออกไปยังไงดี

“ต่ะ.....แต่ว่า”

“อย่างน้อยก็ควรจะอายผมบ้างนะครับ”

เสียงของเอลวิน เลขาหนุ่มคนคุ้นเคยที่ตอนนี้ควบตำแหน่งสารถีด้วยช่วยเตือนสองชีคให้หันมาสนโลกภายนอกกับเขาเสียที จริงๆต่อให้เล่นหนังสดให้ดูเขาก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่สงสารเด็กหนุ่มผู้ถูกกระทำที่กำลังเขินได้ที่อยู่ แถมการได้แกล้งให้เจ้านายทรมานก็ถือเป็นหนึ่งในอรรถรสของเขาเช่นกัน.....ช่างเป็นมือขวาที่แสนดีเสียนี่กระไร

เอเลนมองสองหนุ่มที่ยอมหยุดอย่างไม่เต็มใจนั่งกอดอกหันหน้าออกจากตน แม้ส่วนกลางลำตัวจะปูดโปนจนเห็นได้ชัดผ่านกางเกงเนื้อดีด้วยความเห็นใจ หากถึงห้องเขาคงต้องเอาใจสองพี่น้องเสียหน่อย แม่จริงๆแล้วคนที่ทรมานกว่าใครน่าจะเป็นตัวเขาเองที่ถูกปลุกเร้าอย่างหนัก แต่ลึกๆในใจก็แอบดีใจไม่ได้ที่ทั้งสองคนใส่ใจความรู้สึกของเขา แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยจากนิสัยประหลาดของเขาเองที่ไม่กล้ามีอะไรต่อหน้าคนอื่น

ริมฝีปากบางฉีกยิ้มหวานแก้มใสขึ้นสีระเรื่อกับความคิดของตนเอง

คืนนี้คงต้องเอาใจหน่อยล่ะนะ

 

รู้สึกผิดที่โดนทวง ขอโทษจริงๆครับไม่ขอแก้ตัว

รอบนี้เจเด็นคาดหวังจะทำลายอาถรรพ์ตอนคู่ แล้วก็ทำสำเร็จครับ ใครยินดีที่ผมทำลายมันได้หรือโกรธที่ทำลายความหวังฉากอะจึ๊ยที่ควรจะมีก็เม้นท์บอกกันหน่อยนะครับ (ไม่ทวงเราจะถือว่าท่านพอใจกับการไร้ซึ่งฉากแบบนั้น เราก็พร้อมที่จะกลั่นแกล้งท่านต่อไป หุหุ//โดนบาทารุมกระทืบ)

ปล. เทรนดี้บลัดเน่จังผมไม่หักหลังพี่แล้วนะครับ? รึเปล่า?

 

15 ความคิดเห็น:

  1. ...=A=~ เกือบได้เห็นฉากสามพีแล้วเชียว~(สิ่งที่รอคอยมาเนิ่นนาน)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดับวูบเพราะความเกรียนของผม โดนบอกว่าแต่งอะจึ๊ยกันทุกตอนเลยข้ามไปครับ ข้ามช็อตสามพีซะด้วย ขออภัยที่เหมือนจะกลั่นแกล้งนะครับ

      ลบ
  2. เอเลนจ๊ะเลือกที่ซ่อนแบบนี้จงใจสินะ =w=a
    ว่าแต่อีนู๋เอ๊ยไม่น่าอายเลยไม่งั้นสามพีแหงมๆ
    แล้วก็........เออ................. ทำไมอิชุ้นไม่รู้สึกว่าอาถรรพ์ตอนคู่ถูกทำลายเลยสักนิดล่ะนั่น
    แลค้างๆคาๆลุ้นแปลกๆมาก =A=a

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จงรู้สึกแปลกต่อไปครับเน่จัง 55555 //หลบบาทา

      เดี๋ยวคนแต่งเบื่อไง แต่งทีไรเรททุ๊กที เลยตัดบทซะ

      ลบ
  3. กระอักเลือดตาย
    ขอสามพี =.,= หน่อยนะคะคุณไรท์
    ต้อนรับกันอย่างอีโรติกจังเลยนะคะท่านชีค
    อ๊ากก เลือดแทบพุ่ง><

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าชอบเดี๋ยวถ้ามีโอกาสจะจัดให้นะครับ ขอโทษด้วยครับที่รอบนี้แกล้งมากไปหน่อยนุงงง

      ลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ24 กันยายน 2557 เวลา 04:48

    เอื้อออ อยากอ่านฉาก 3p อิอ๊างง(รีดผิดไปแล้วค่ะที่ว่าตอนคู่มีแต่ฉาก อดเลย ฮือๆ YxY) ปกติตอนคี่มักจะค่อนข้างหนัก ถ้าไงตอนคู่ขอผ่อนคลายด้วยฉากเรทเหมือนเดิมเถอะค้า (แค่ความเห็นของรีด หื่นๆคนนึงนะคะ อย่าคิดมาก) สนุกดีค่ะยังไงเราก็จะตามอ่านต่อไปค่า ไม่ว่าจะมีฉาก รึไ่มีฉาก ก็ตามนะคะ ชอบ"ฟิกทุกเรื่องของบอร์ดนี้เลยค่ะ ^^

    ปล.ขอตอนต่อเรื่องอื่นๆด้วยนะคะ อยากอ่าน Libido ต่อจังค่ะ // จะโดนไรท์ตบเอามั้ยเนี่ย ได้เรื่องนึง ก็จะเอาอีกเรื่องนึงต่อ ขอโทษนะคะ แต่จะนานแค่ไหนเราก็รออ่านนะค้า ไรท์ทั้ง 2 สู้ๆค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณคร้าบผม ^^ ว่าแต่พอผมไม่แต่งแบบนั้นแล้วคิดถึงใช่มั้ยล่ะครับ อิคึๆ (ทำไมเหมือนจะกลายเป็นเทรดมาร์คของตัวเองชอบกล??) ตกลงตอนคู่ควรมีฉากแบบนั้นต่อไปสินะครับ

      ลบ
    2. ล่ารักฯตอนที่13มาก่อน Libido. นะคะฮาๆ~
      Libido คาดว่าเร็วๆนี้ค่ะ

      ลบ
  5. เว้ย.....เว้ย......เว้ย....... นี่มันจะสวีทอีโรติคกันกลางดงลูกปืนเลยนะเนี่ย แหม ท่านชีคทั้งสองคะ ก็รู้นะว่าเจ้าหนูมันน่ากิน แต่สงสารเอวินบ้างสิคะ ชวนมาเ่น 4p เถอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระของทางนี้ >////<
    จะรอดูเอเลนเอาใจชีคหนุ่มทั้งสองอย่างใจจดใจจ่อ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตกลงพี่จะให้ผมต่อชิมิ?? แต่สี่พีน่าสนมากครับ แฮ่กๆ (หยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้!!)

      ลบ
  6. อิตาเอลวินนี้จิงๆเลย เกือบได้3p แล้วแท้ๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใจเย็นๆนะครับ โอกาสไม่ได้มีหนเดียว ฮาา

      ลบ
  7. 3p ของชั้นนนนนน รีบมาต่อนะคะอยากอ่าน 3p มากเลย (ที่เข้ามาอ่านเพราะเหตุ(เรท)แบบนี้)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จุดประสงค์ชัดเจนมากครับ ยอมเลย ฮ่าๆๆ

      ลบ