Attack On Titan ฟิคสด: ซาตานรีไวและเทวาเอเลน 2
Pairing: (LevixEren)
Story By: Trendy Blood + S.MinJiTo
ข้ามผ่านสู่พิภพบาดาลแหล่งรวมแห่งวิญญาณบาปสะสมไปด้วยกิเลสและตัณหาท่ามกลางความมืดมิดปรากฏบัลลังก์ที่ประกอบจากโครงกระดูกนับพันชิ้นตั้งตระหง่าน บนบัลลังก์สูงใหญ่ร่างแกร่งนั่งไขว่ห้างเท้าคางด้วยสีหน้าด้านชา มืออีกข้างถือม้วนกระดาษบัญชีรายนามของผู้ที่จะต้องมารับโทษทัณฑ์ในวันนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างวังเวงจนกระทั่งมีเสียงกระตือรือร้นเกินเหตุแทรก
"นายท่านๆ ถ้าเป็นไปตามคาดอีกไม่นานเกินรอข้าจะต้องได้อุ้มหลานแน่ๆ โอ้วววข้าหล่ะตื้นตันจริงๆ บุตรแห่งซาตานและเทวาหนุ่มน้อย อ่า...ข้าขออุ้มคนแรกนะ ข้าขอตั้งชื่อด้วย ข้าขอ..." ก่อนที่ฮันซี่มือขวาของซาตานจะพล่ามไม่หยุด รีไวก็ขัดขึ้น
"อย่าเยอะนักนังวิปลาส สิทธิในตัวบุตรข้าย่อมเป็นของข้าและราชินีแห่งข้า" เหลือบตามองเล็กน้อยก่อนเอ่ยต่อ
"ว่าแต่เมื่อไหรเอเลนถึงจะรู้ตัวว่ามี..." คำถามยังไม่จบประโยคฮันซี่ก็ขัดขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
"เมื่อไหร่น่ะหรือ เมื่อไหร่ใช่ไหม คึๆ อาการจะเริ่มด้วยอยากในการดื่มกินผิดจากเทวาทั่วไปที่ไร้ความอยากในข้อนี้ ความอยากจะรุนแรงมากขึ้นจนถึงกระหายในการดื่มกินเลือด ตอนนั้นบุตรแห่งซาตานจะแข็งแกร่งขึ้นและเติบโตทวีคูณจนไม่อาจทำลายได้ ร่างของมารดาจะรู้สึกเจ็บมากขึ้น จนเมื่อถึงเวลาทารกจะฉีกครรภ์มารดาออกมาเอง แล้ว...แอ่ก!!!"
ฮันซี่ไม่สามารถพูดต่อได้อีกด้วยมือแกร่งที่บีบกำรอบลำคออย่างรุนแรง
"เจ้าว่าไงนะ!!! ฉีกครรภ์มารดา!!”
“แล้วเอเลนจะเป็นเช่นไร ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเด็กนั่นเสียตามด้วยเจ้าให้ตายอย่างทรมานที่สุด" ร่างแกร่งดวงตาลุกโชน เส้นเลือดปูดโปน กรงเล็บเข้าจิกขย้ำเนื้อคอมือขวาคนสนิทของตนอย่างคลุ้มคลั่ง
"อ่อก!!! ใจเย็นก่อนนายท่าน ข้ารับรองว่าเอเลนจะต้องปลอดภัย เลือดของมารดาและบุตรที่หลอมรวมกันจะสมานแผลได้ แต่ทางที่ดีตัวเอเลนก็ควรอยู่ใกล้ๆข้า เพื่อที่ข้าจะได้เข้าช่วยเหลือได้ทุกเวลา เผื่อไว้ไงท่าน!! อุ่นใจไว้ก่อนไง๊!! แค่กๆ" ฮันซี่รีบกล่าวเสริมเมื่อสีหน้าของรีไวส่อแววอันตราย จอมมารหรี่ตาลงจ้องมองฮันซี่ ก่อนคลายมือที่กำรอบลำคอ ปล่อยให้ร่างฮันซี่ล้มลงโก่งตัวไอโขลกๆ
"ดี!! เมื่อเป็นเช่นนี้หากเอเลนไม่มาหาข้าด้วยตนเอง ข้าเองนี่แหละที่จะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเทวาที่รัก ราชินีและผู้สืบทอดของข้าต้องปลอดภัยอยู่เคียงข้างข้าเท่านั้น!!"
ใบหน้าหวานของเทวาหนุ่มน้อยขมวดคิ้วเป็นปมจ้องมองกระดานหมากรุกเบื้องหน้าที่กำลังถูกต้อนให้จนมุม
“รุกฆาต!” เสียงของคู่แข่งตรงหน้ากล่าวลั่นพลางเลื่อนหมากอัศวินเข้ากินเหล่าเบี้ยที่เหลือบนกระดาน
“ให้ตายสิ ข้าไม่เคยชนะเจ้าเลยสักครั้งอาร์มิน เกมการวางแผนแบบนี้คงไม่ใช่แนวของข้า” เอเลนว่าพลางหยิบเค้กที่เหล่าแฟร์รี่ตัวน้อยๆยื่นมาให้เข้าปาก
เทวาหนุ่มน้อยผมสีทองมองเค้กที่เพื่อนตรงหน้าทานเข้าไปอย่างแปลกใจ
“เอเลนหมู่นี้นายทานเยอะไปรึเปล่า?” เพราะโดยปกติแล้วเราเทวาอย่างพวกเขาแทบไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแตะต้องอาหาร จะมีก็เพียงแต่เสริมความสุนทรีย์ในชีวิตที่แสนน่าเบื่อในบางวัน ถึงแม้ไม่ต้องการอาหารแต่รสชาติที่ได้ลิ้มลองก็ทำให้รู้สึกเปรมปรีย์ โดยเฉพาะเอเลนซึ่งแทบไม่สนใจในความสุนทรีย์ของการทานเสียเท่าไรเพราะวันๆเอาแต่คิดเรื่องขจัดเหล่าปีศาจ แต่หลังจากที่เทวาเพื่อนสนิทกลับมาจากภารกิจครั้งก่อนก็ดูเหมือนว่าจะเจริญอาหารขึ้นผิดปกติ หรือเขาจะคิดมากไป? “งั้นหรือ? คงเพราะข้าเพิ่งจะรู้กระมังว่าขนมพวกนี้รสชาติก็ไม่เลว” เอเลนเกาแก้มของตนอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหันไปหยิบทาร์ตผลไม้ที่จัดเตรียมไว้ทานเข้าไปเป็นชิ้นที่ 5 ของวัน
อาร์มินมองเพื่อนสนิทอย่างแปลกใจกับการบริโภคที่ผิดเกินวิสัย แต่ในเมื่อเจ้าตัวเอ่ยอย่างนั้นเขาจึงไม่คิดจะสาวความให้มากเรื่อง เพราะอย่างไรเอเลนอาจจะแค่ติดใจกับบรรดาขนมที่เจ้าตัวเคยไม่สนใจเท่าไหร่ตามที่กล่าว
เสียงของปีกที่กระพือเข้ามาใกล้เรียกความสนใจจากเทวาหนุ่มน้อยทั้งสอง ร่างอรชรของเด็กสาวค่อยๆร่อนลงยังศาลากลางน้ำที่เทวาหนุ่มน้อยกำลังพักผ่อน
“เอเลนท่านเอลวินเรียกหาเจ้าน่ะ” เทวาสาวผมสีรัตติกาลแจ้งธุระให้กับเพื่อน
“ขอบใจมากมิคาสะฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ท่านคงมีงานให้ฉันทำอย่างแน่นอน” นัยน์ตาสีมรกตเปล่งประกายเมื่อได้รับคำสั่ง ปีกสีขาวและดำที่ช่วงชิงมากางออกก่อนจะกระพือพาร่างโปร่งไปยังจุดหมายอย่างรวดเร็ว
วิหารสีขาวเด่นเป็นสง่าปรากฏเบื้องหน้า เทวาหนุ่มน้อยค่อยๆร่อนลงก่อนจะก้าวเดินผ่านประตูโค้งและเหล่าเสาโรมันที่ทอดยาวตามทางเดิน เมื่อมาถึงหน้าห้องของผู้มีตำแหน่งเป็นถึง หนึ่งในเหล่ามหาเทพ เอเลนเคาะประตูขออนุญาตก่อนจะเข้าไป
“สวัสดีครับท่านเอลวิน มีงานให้ข้าทำงั้นเหรอครับ” กล่าวทักทายพลางถามภารกิจของตนอย่างตื่นเต้น
“รุกฆาต!” เสียงของคู่แข่งตรงหน้ากล่าวลั่นพลางเลื่อนหมากอัศวินเข้ากินเหล่าเบี้ยที่เหลือบนกระดาน
“ให้ตายสิ ข้าไม่เคยชนะเจ้าเลยสักครั้งอาร์มิน เกมการวางแผนแบบนี้คงไม่ใช่แนวของข้า” เอเลนว่าพลางหยิบเค้กที่เหล่าแฟร์รี่ตัวน้อยๆยื่นมาให้เข้าปาก
เทวาหนุ่มน้อยผมสีทองมองเค้กที่เพื่อนตรงหน้าทานเข้าไปอย่างแปลกใจ
“เอเลนหมู่นี้นายทานเยอะไปรึเปล่า?” เพราะโดยปกติแล้วเราเทวาอย่างพวกเขาแทบไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแตะต้องอาหาร จะมีก็เพียงแต่เสริมความสุนทรีย์ในชีวิตที่แสนน่าเบื่อในบางวัน ถึงแม้ไม่ต้องการอาหารแต่รสชาติที่ได้ลิ้มลองก็ทำให้รู้สึกเปรมปรีย์ โดยเฉพาะเอเลนซึ่งแทบไม่สนใจในความสุนทรีย์ของการทานเสียเท่าไรเพราะวันๆเอาแต่คิดเรื่องขจัดเหล่าปีศาจ แต่หลังจากที่เทวาเพื่อนสนิทกลับมาจากภารกิจครั้งก่อนก็ดูเหมือนว่าจะเจริญอาหารขึ้นผิดปกติ หรือเขาจะคิดมากไป? “งั้นหรือ? คงเพราะข้าเพิ่งจะรู้กระมังว่าขนมพวกนี้รสชาติก็ไม่เลว” เอเลนเกาแก้มของตนอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหันไปหยิบทาร์ตผลไม้ที่จัดเตรียมไว้ทานเข้าไปเป็นชิ้นที่ 5 ของวัน
อาร์มินมองเพื่อนสนิทอย่างแปลกใจกับการบริโภคที่ผิดเกินวิสัย แต่ในเมื่อเจ้าตัวเอ่ยอย่างนั้นเขาจึงไม่คิดจะสาวความให้มากเรื่อง เพราะอย่างไรเอเลนอาจจะแค่ติดใจกับบรรดาขนมที่เจ้าตัวเคยไม่สนใจเท่าไหร่ตามที่กล่าว
เสียงของปีกที่กระพือเข้ามาใกล้เรียกความสนใจจากเทวาหนุ่มน้อยทั้งสอง ร่างอรชรของเด็กสาวค่อยๆร่อนลงยังศาลากลางน้ำที่เทวาหนุ่มน้อยกำลังพักผ่อน
“เอเลนท่านเอลวินเรียกหาเจ้าน่ะ” เทวาสาวผมสีรัตติกาลแจ้งธุระให้กับเพื่อน
“ขอบใจมากมิคาสะฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ท่านคงมีงานให้ฉันทำอย่างแน่นอน” นัยน์ตาสีมรกตเปล่งประกายเมื่อได้รับคำสั่ง ปีกสีขาวและดำที่ช่วงชิงมากางออกก่อนจะกระพือพาร่างโปร่งไปยังจุดหมายอย่างรวดเร็ว
วิหารสีขาวเด่นเป็นสง่าปรากฏเบื้องหน้า เทวาหนุ่มน้อยค่อยๆร่อนลงก่อนจะก้าวเดินผ่านประตูโค้งและเหล่าเสาโรมันที่ทอดยาวตามทางเดิน เมื่อมาถึงหน้าห้องของผู้มีตำแหน่งเป็นถึง หนึ่งในเหล่ามหาเทพ เอเลนเคาะประตูขออนุญาตก่อนจะเข้าไป
“สวัสดีครับท่านเอลวิน มีงานให้ข้าทำงั้นเหรอครับ” กล่าวทักทายพลางถามภารกิจของตนอย่างตื่นเต้น
นัยน์ตาสีฟ้าดุจทะเลจ้องมองร่างโปร่งบางของเทวาหนุ่มน้อยก่อนค่อยๆคลี่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“อ่า....ฉันอยากถามนายว่าร่างกายนายตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากไปทำภารกิจครั้งล่าสุดมีอะไรแปลกไปจากเดิมหรือไม่?” เอเลนเอียงคออย่างสงสัยกับคำถาม ถึงกระนั้นเทวาหนุ่มก็ตอบกลับไป
“ก็ปกติดีครับท่านเอลวิน บางทีท่านอาจหมายถึงปีกสีดำที่ข้าได้มาสินะครับ ตอนแรกๆก็เหมือนจะควบคุมยากหน่อยเพราะยังไม่คุ้นชินและปีกนี้จากเจ้าของเดิมก็มีพลังที่มากกว่าข้า แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้วล่ะครับ”
เอลวินมองเทวาหนุ่มตรงหน้าอย่างใช้ความคิด ก่อนจะค่อยๆถอนหายใจ ดูเหมือนบางทียังไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่แน่ว่าสิ่งที่รีไวพูดไว้อาจเป็นเพียงแค่คาดการณ์เท่านั้น ถึงแม้รีไวจะเป็นถึงซาตานฤทธิ์แกร่งกล้า แต่พื้นฐานเอเลนก็เป็นเด็กผู้ชาย เรื่องที่จะท้องไม่น่าจะเป็นไปได้.....
“งั้นหรือ ได้ยินอย่างนั้นข้าก็เบาใจ ข้าเกรงว่าภารกิจล่าสุดที่เกิดจะทำให้เทวดาตัวน้อยของข้าเปลี่ยนไป” มือหนาค่อยๆลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเทวาหนุ่มน้อย ก่อนจะดึงร่างโปร่งบางขึ้นมานั่งลงบนตักของตน
“ไม่หรอกครับท่านเอลวิน ข้าก็ยังคงเป็นข้าอยู่เช่นเดิม” ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มบางให้กับมหาเทพหนุ่มเบื้องหน้า หลังจากที่มหาเทพรีไวจากไปคนที่เลี้ยงดูเขาซึ่งยังคงเป็นเด็กน้อยนั้นก็คือมหาเทพเอลวิน ตัวเขาจึงรู้สึกผูกพันและอบอุ่นกับการใกล้ชิดมหาเทพผู้นี้เป็นอย่างมาก
“อ๊ะ แต่อาร์มินบ่นว่าช่วงนี้ข้ากินมากไป สงสัยลิ้นข้าคงจะเริ่มแปลก รู้สึกติดใจเหล่าอาหารพวกนั้นยังไงก็ไม่รู้สิ” เอเลนเกาหน้าตัวเองอย่างใช้ความคิด
“ท่านเอลวินเทวาอย่างพวกข้านี่อ้วนขึ้นได้รึเปล่า?” เอียงคอถามอย่างสงสัย จะว่าไปหมู่นี้เขาก็ทานบ่อยเกินไปจริงๆ
คำถามของเอเลนทำให้เอลวินรู้สึกสังหรณ์ใจ ถึงกระนั้นใบหน้าของมหาเทพยังคงยิ้มอย่างอบอุ่นเช่นเคย
“ถ้าเจ้ารู้สึกไม่สบายตัวไว้ไปให้มิเกะตรวจเสียหน่อยดีไหมเอเลน?” ใบหน้าหวานพองลมในแก้มไม่ต่างจากเมื่อครั้งยังเยาว์ที่เวลาบอกจะพาเขาไปพบหมอเจ้าตัวดูเหมือนจะรั้นไม่อยากไป
“จำเป็นต้องไปด้วยเหรอ?” ช้อนตามองอย่างนึกอ้อน
ถึงแม้หมอมิเกะจะเป็นหมอเลื่องชื่อ แต่วิธีการตรวจก็แปลกพอดูเพราะเพียงแค่ดมกลิ่นก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร
“เอาน่าเด็กน้อยเพื่อความสบายใจของข้าเจ้าทำได้ใช่ไหม?” ว่าพลางกดสันจมูกโด่งลงที่แก้มเนียน ก่อนจะคลอเคลียไปมาอย่างหยอกล้อ
“ก็ได้ถือว่าท่านขอร้อง ข้าก็ยินดี”
“งั้นหรือ ได้ยินอย่างนั้นข้าก็เบาใจ ข้าเกรงว่าภารกิจล่าสุดที่เกิดจะทำให้เทวดาตัวน้อยของข้าเปลี่ยนไป” มือหนาค่อยๆลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเทวาหนุ่มน้อย ก่อนจะดึงร่างโปร่งบางขึ้นมานั่งลงบนตักของตน
“ไม่หรอกครับท่านเอลวิน ข้าก็ยังคงเป็นข้าอยู่เช่นเดิม” ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มบางให้กับมหาเทพหนุ่มเบื้องหน้า หลังจากที่มหาเทพรีไวจากไปคนที่เลี้ยงดูเขาซึ่งยังคงเป็นเด็กน้อยนั้นก็คือมหาเทพเอลวิน ตัวเขาจึงรู้สึกผูกพันและอบอุ่นกับการใกล้ชิดมหาเทพผู้นี้เป็นอย่างมาก
“อ๊ะ แต่อาร์มินบ่นว่าช่วงนี้ข้ากินมากไป สงสัยลิ้นข้าคงจะเริ่มแปลก รู้สึกติดใจเหล่าอาหารพวกนั้นยังไงก็ไม่รู้สิ” เอเลนเกาหน้าตัวเองอย่างใช้ความคิด
“ท่านเอลวินเทวาอย่างพวกข้านี่อ้วนขึ้นได้รึเปล่า?” เอียงคอถามอย่างสงสัย จะว่าไปหมู่นี้เขาก็ทานบ่อยเกินไปจริงๆ
คำถามของเอเลนทำให้เอลวินรู้สึกสังหรณ์ใจ ถึงกระนั้นใบหน้าของมหาเทพยังคงยิ้มอย่างอบอุ่นเช่นเคย
“ถ้าเจ้ารู้สึกไม่สบายตัวไว้ไปให้มิเกะตรวจเสียหน่อยดีไหมเอเลน?” ใบหน้าหวานพองลมในแก้มไม่ต่างจากเมื่อครั้งยังเยาว์ที่เวลาบอกจะพาเขาไปพบหมอเจ้าตัวดูเหมือนจะรั้นไม่อยากไป
“จำเป็นต้องไปด้วยเหรอ?” ช้อนตามองอย่างนึกอ้อน
ถึงแม้หมอมิเกะจะเป็นหมอเลื่องชื่อ แต่วิธีการตรวจก็แปลกพอดูเพราะเพียงแค่ดมกลิ่นก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร
“เอาน่าเด็กน้อยเพื่อความสบายใจของข้าเจ้าทำได้ใช่ไหม?” ว่าพลางกดสันจมูกโด่งลงที่แก้มเนียน ก่อนจะคลอเคลียไปมาอย่างหยอกล้อ
“ก็ได้ถือว่าท่านขอร้อง ข้าก็ยินดี”
"ส่งมาอยู่ได้ไม่รู้จักเข็ดจำเลยนะพวกแกเนี่ย...ปกติชะตาพวกมด ไร ที่ถูกส่งมายุ่งเรื่องของข้ามักจะขึ้นอยู่กับความเมตตาของข้า และกับเทวาอย่างเจ้า...ถึงข้าจะอยู่ในช่วงที่หงุดหงิดเป็นที่สุดแต่แน่นอนข้าเปิดโอกาสให้กับทุกสรรพสิ่งเสมอ" จอมซาตานพูดด้วยใบหน้าเฉยชาไร้อารมณ์ ก่อนคลายมือแกร่งออกจากลำคอของเทวาที่ถูกส่งมาสอดแนม
"จงวิ่งไปหรือใช้ปีกของเจ้าซะ หนีข้าให้พ้น..."
เทวาหนุ่มเคราะห์ร้ายพอได้ฟังยังไม่ทันจบประโยคดีรีบออกวิ่งทันที ปีกขาวกางออกโผบินสู่อิสระภาพ น่าเสียดายที่โบกปีกได้เพียงครั้งสองครั้งตรีศูลทมิฬก็พุ่งตรงเข้าเสียบหลังทะลุออกจากร่างด้วยแรงส่งเพียงเล็กน้อยจากจอมมาร หยดเลือดสาดกระจายไปทั่ว และกระเด็นลงสู่ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลัก ที่เพิ่งต่อประโยคเมื่อครู่ให้จบ
".... ถ้าเจ้าทำได้น่ะนะ" เล็บทมิฬยกขึ้นมาปาดเลือดออกจากข้างแก้ม ตาคมมองคราบเลือดที่ติดมาก่อนสบถ
"โสโครกสิ้นดี!!! จะหาโลหิตใดที่หอมหวานตรึงใจเท่าเจ้าไม่มีอีกแล้วเอเลน... ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกินที่รักแห่งข้า" รีไวหลับตาลงทุกภาพทุกสัมผัสความรู้สึกที่จอมมารมีต่อเทวาน้อยหลั่งไหลท่วมท้น
ข้ากระหายความรักจากเจ้า...เอเลน ใคร่อยากในร่างงดงามนั้น ช่วงชิงและครอบครองเอเลนให้เป็นของข้าเพียงผู้เดียว แต่....ยังก่อนตอนนี้ ข้าต้องห้ามใจยับยั้งร่างกายตนเองอย่างมากไม่ให้บุกขึ้นสวรรค์ชิงตัวเทวาของข้ามา ประวิงเวลามิใช่เพื่อสิ่งใด หากไม่ใช่เพราะข้าต้องการรู้ถึงจิตใจของเจ้า ถ้าเพียงแต่เจ้าต้องการมาหา ส่งสัญญาณให้ข้าได้รับรู้ ข้าก็พร้อมที่จะทำทุกทางเพื่อพาเจ้ามา และนั่นคงเป็นความสุขที่สุดในชั่วชีวิตนับพันปีของข้า
แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นเล่า? หากเจ้าปฏิเสธข้าและบุตรเมื่อนั้นจะเป็นเช่นไรไม่อาจรู้ได้ แต่ความเจ็บปวดของข้าต้องได้รับการระบาย สวรรค์ต้องรับรู้และท้ายที่สุดเมื่อข้าได้ตัวเจ้ามา
“ข้าจะกักขังเจ้าตลอดไป อยู่ในขุมนรกกับข้าตราบชั่วนิรันดร์”
เอเลนถอนหายใจเบื้องหน้าประตูเข้าสู่คลีนิคหมอมิเกะ ทั้งที่เขาเเค่รู้สึกติดใจกับอาหารมากไปไม่น่าจะเป็นโรคร้ายเเรงขนาดต้องมาตรวจ เเต่ในเมื่อเป็นคำร้องขอจากเทวาที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผู้ปกครองของตน จะปฎิเสธก็คงไม่ดีนัก
ระหว่างที่ยังคงคิดไม่ตกว่าควรเข้าไปดีหรือไม่ ประตูคลีนิคก็เปิดออกพร้อมด้วยร่างของเทวฑูตที่ตอนนี้เขาไม่อยากเจอ
"นายจะเข้ามาได้รึยังเอเลน?" ชายหนุ่มไว้หนวดร่างสูงใหญ่ออกมาต้อนรับเมื่อรู้สึกว่าเทวฑูตหนุ่มน้อยไม่เข้ามาหาตนเสียที
"ผ...ผมกำลังจะเข้าไปอยู่ละครับ!" พูดพลางเเทรกกายเข้าประตู เเม้จะรู้สึกเกร็งๆเเต่เเบบนี้เขาคงหนีไม่ได้เเล้ว
"เอลวินฝากเรื่องไว้กับฉันเเล้ว ดูเหมือนช่วงนี้นายจะกินจนผิดปกติสินะ นอกจากนั้นมีอะไรรึเปล่า?" นัยน์ตาสีอ่อนพินิจร่างโปร่งตรงหน้าอย่างวิเคราะห์รายละเอียด
"ก็ไม่มีนะครับ ผมว่าผมก็ปกติเเละเเข็งเเรงดี ท่านเอลวินกังวลเกินไปมากกว่า"
"งั้นรึ ขอฉันตรวจอาการนายหน่อยละกัน" เทวฑูตมิเกะเขยิบเดินเข้าไปใกล้ร่างโปร่งก่อนจะก้มลงสูดกลิ่นที่ซอกคอของเทวฑูตหนุ่มน้อย
เอเลนนั่งตัวเกร็งยามเมื่อลมหายใจอุ่นรดลงที่ซอกคอของตน เเม้จะรู้ดีว่าการตรวจของเเพทย์มิเกะคือการดมกลิ่น ซึ่งเขาก็ไม่ชินกับการตรวจเเบบนี้เอาเสียเลย แต่การตรวจเเปลกๆเเบบนี้กลับวิเคราะห์โรคต่างๆได้อย่างเเม่นยำจนน่าเหลือเชื่อ เเม้ไม่อยากเเต่ก็ต้องยอมรับในจุดนี้
เมื่อวิเคราะห์เรียบร้อยมิเกะพลางเดินออกห่างร่างบางก่อนจะกุมขมับของตนเอง
"ฉันอาจจะวินิจฉัยผิด เเต่กลิ่นของนาย....."
เอเลนเอียงคอมองอย่างสงสัยกับท่าทางที่ดูหนักใจของคนตรงหน้า หรือว่าเขาจะเป็นอะไรร้ายเเรงงั้นรึ? ไม่จริงน่าาาา!!!
"ตกลงผมเป็นอะไรกันครับ!?" นัยน์ตาสีมรกตมองอย่างหวั่นไหว
มิเกะถอนหายใจก่อนปากหนาจะค่อยๆบอกความจริงอย่างเสียไม่ได้.....
"กลิ่นของนายราวกับกำลังตั้งครรภ์"
ระหว่างที่ยังคงคิดไม่ตกว่าควรเข้าไปดีหรือไม่ ประตูคลีนิคก็เปิดออกพร้อมด้วยร่างของเทวฑูตที่ตอนนี้เขาไม่อยากเจอ
"นายจะเข้ามาได้รึยังเอเลน?" ชายหนุ่มไว้หนวดร่างสูงใหญ่ออกมาต้อนรับเมื่อรู้สึกว่าเทวฑูตหนุ่มน้อยไม่เข้ามาหาตนเสียที
"ผ...ผมกำลังจะเข้าไปอยู่ละครับ!" พูดพลางเเทรกกายเข้าประตู เเม้จะรู้สึกเกร็งๆเเต่เเบบนี้เขาคงหนีไม่ได้เเล้ว
"เอลวินฝากเรื่องไว้กับฉันเเล้ว ดูเหมือนช่วงนี้นายจะกินจนผิดปกติสินะ นอกจากนั้นมีอะไรรึเปล่า?" นัยน์ตาสีอ่อนพินิจร่างโปร่งตรงหน้าอย่างวิเคราะห์รายละเอียด
"ก็ไม่มีนะครับ ผมว่าผมก็ปกติเเละเเข็งเเรงดี ท่านเอลวินกังวลเกินไปมากกว่า"
"งั้นรึ ขอฉันตรวจอาการนายหน่อยละกัน" เทวฑูตมิเกะเขยิบเดินเข้าไปใกล้ร่างโปร่งก่อนจะก้มลงสูดกลิ่นที่ซอกคอของเทวฑูตหนุ่มน้อย
เอเลนนั่งตัวเกร็งยามเมื่อลมหายใจอุ่นรดลงที่ซอกคอของตน เเม้จะรู้ดีว่าการตรวจของเเพทย์มิเกะคือการดมกลิ่น ซึ่งเขาก็ไม่ชินกับการตรวจเเบบนี้เอาเสียเลย แต่การตรวจเเปลกๆเเบบนี้กลับวิเคราะห์โรคต่างๆได้อย่างเเม่นยำจนน่าเหลือเชื่อ เเม้ไม่อยากเเต่ก็ต้องยอมรับในจุดนี้
เมื่อวิเคราะห์เรียบร้อยมิเกะพลางเดินออกห่างร่างบางก่อนจะกุมขมับของตนเอง
"ฉันอาจจะวินิจฉัยผิด เเต่กลิ่นของนาย....."
เอเลนเอียงคอมองอย่างสงสัยกับท่าทางที่ดูหนักใจของคนตรงหน้า หรือว่าเขาจะเป็นอะไรร้ายเเรงงั้นรึ? ไม่จริงน่าาาา!!!
"ตกลงผมเป็นอะไรกันครับ!?" นัยน์ตาสีมรกตมองอย่างหวั่นไหว
มิเกะถอนหายใจก่อนปากหนาจะค่อยๆบอกความจริงอย่างเสียไม่ได้.....
"กลิ่นของนายราวกับกำลังตั้งครรภ์"
ใบหน้าหวานพลางขมวดคิ้วมุ่นอย่างมึนงง
"ท่านมิเกะ....มุกตลกท่านข้าไม่ขำหรอกนะ" ทั้งที่คิดว่าเทวาตรงหน้าคงล้อเขาเล่นเพราะยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย เเต่สีหน้าเคร่งขรึมที่จ้องมองมาทำให้เลือดในกายพลันรู้สึกเย็นเฉียบ
"ท่านมิเกะ ข้าเป็นบุรุษนะ!!" ใบหน้าหวานเริ่มกระอักกระอ่วนอย่างไม่อยากเชื่อ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!
"เรื่องเพศเจ้าข้าที่ช่วยเอลวินดูเเลเจ้ามาเเต่เด็กข้ารู้ดี" มิเกะตีสีหน้าจริงจัง
"ถ้างั้นเเล้ว.....ทำไม?" "ปีกสีทมิฬอีกข้างที่หลังเจ้าอาจเป็นคำตอบ" เสียงของมหาเทพผู้ควบตำเเหน่งผู้ปกครองของร่างโปร่งเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อมาถึงคลีนิคของเทวาคนสนิท
สองมือของร่างบางค่อยๆกุมที่ท้องของตน นัยน์ตาสีมรกตสั่นไหวอย่างรุนเเรง ความจริงที่ได้รู้เเทบทำให้เกือบหยุดหายใจ สองมือบางเริ่มสั่นไหวก่อนจะกำจนเเน่นเเล้วทุบระรัวที่ท้องของตนอย่างรุนเเรง
"ไม่ ไม่ ไม่ ข้าเป็นชายนะ!!!!!!"
เอเลนกระหน่ำทุบท้องของตนทั้งขีดข่วนท้องของตนเองอย่างบ้าคลั่ง จนมิเกะเเละเอลวินต้องช่วยกันจับเเขนเเละล็อคร่างเทวาหนุ่มน้อยที่คลุ้มคลั่งทำร้ายตนเอง
"ใจเย็นสิเอเลน!!" มหาเทพเอลวินขึ้นเสียงหวังเรียกสติเทวาหนุ่ม เเต่เอเลนยังคงดิ้นพล่าน สองมือยังคงสะบัดมือหนาที่พันธนาการ ใบหน้าหวานส่ายไปมาอย่างไม่อยากยอมรับ หยาดน้ำใสไหลลงอาบทั้งสองเเก้ม
"ล้อเล่นใช่ไหม เรื่องเเบบนี้ข้ารับไม่ได้!!!" เอลวินดึงเเขนร่างบางเข้าหาตนก่อนจะใช้สองมือโอบกอดร่างที่กำลังสั่นระริกของเทวาหนุ่ม เอเลนพยายามผลักดันอ้อมกอดทั้งจิกเเละข่วนมหาเทพให้ถอยห่าง ร่างกายที่เเปลกประหลาดไปนี้ช่างน่ารังเกียจนัก!!!
ยิ่งถูกผลักไสอ้อมกอดของมหาเทพกลับยิ่งรัดเเน่นขึ้น จนเอเลนได้เเต่จิกเล็บลงบนเเขนเเกร่งที่โอบกระชับเข้ามา เทวาหนุ่มน้อยกรีดร้องโหยหวนอย่างคลุ้มคลั่ง เล็บคมจึงยิ่งจิกลงบนเเขนของมหาเทพจนเลือดไหลซึมออกมา
"ท่านมิเกะ....มุกตลกท่านข้าไม่ขำหรอกนะ" ทั้งที่คิดว่าเทวาตรงหน้าคงล้อเขาเล่นเพราะยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย เเต่สีหน้าเคร่งขรึมที่จ้องมองมาทำให้เลือดในกายพลันรู้สึกเย็นเฉียบ
"ท่านมิเกะ ข้าเป็นบุรุษนะ!!" ใบหน้าหวานเริ่มกระอักกระอ่วนอย่างไม่อยากเชื่อ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!
"เรื่องเพศเจ้าข้าที่ช่วยเอลวินดูเเลเจ้ามาเเต่เด็กข้ารู้ดี" มิเกะตีสีหน้าจริงจัง
"ถ้างั้นเเล้ว.....ทำไม?" "ปีกสีทมิฬอีกข้างที่หลังเจ้าอาจเป็นคำตอบ" เสียงของมหาเทพผู้ควบตำเเหน่งผู้ปกครองของร่างโปร่งเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อมาถึงคลีนิคของเทวาคนสนิท
สองมือของร่างบางค่อยๆกุมที่ท้องของตน นัยน์ตาสีมรกตสั่นไหวอย่างรุนเเรง ความจริงที่ได้รู้เเทบทำให้เกือบหยุดหายใจ สองมือบางเริ่มสั่นไหวก่อนจะกำจนเเน่นเเล้วทุบระรัวที่ท้องของตนอย่างรุนเเรง
"ไม่ ไม่ ไม่ ข้าเป็นชายนะ!!!!!!"
เอเลนกระหน่ำทุบท้องของตนทั้งขีดข่วนท้องของตนเองอย่างบ้าคลั่ง จนมิเกะเเละเอลวินต้องช่วยกันจับเเขนเเละล็อคร่างเทวาหนุ่มน้อยที่คลุ้มคลั่งทำร้ายตนเอง
"ใจเย็นสิเอเลน!!" มหาเทพเอลวินขึ้นเสียงหวังเรียกสติเทวาหนุ่ม เเต่เอเลนยังคงดิ้นพล่าน สองมือยังคงสะบัดมือหนาที่พันธนาการ ใบหน้าหวานส่ายไปมาอย่างไม่อยากยอมรับ หยาดน้ำใสไหลลงอาบทั้งสองเเก้ม
"ล้อเล่นใช่ไหม เรื่องเเบบนี้ข้ารับไม่ได้!!!" เอลวินดึงเเขนร่างบางเข้าหาตนก่อนจะใช้สองมือโอบกอดร่างที่กำลังสั่นระริกของเทวาหนุ่ม เอเลนพยายามผลักดันอ้อมกอดทั้งจิกเเละข่วนมหาเทพให้ถอยห่าง ร่างกายที่เเปลกประหลาดไปนี้ช่างน่ารังเกียจนัก!!!
ยิ่งถูกผลักไสอ้อมกอดของมหาเทพกลับยิ่งรัดเเน่นขึ้น จนเอเลนได้เเต่จิกเล็บลงบนเเขนเเกร่งที่โอบกระชับเข้ามา เทวาหนุ่มน้อยกรีดร้องโหยหวนอย่างคลุ้มคลั่ง เล็บคมจึงยิ่งจิกลงบนเเขนของมหาเทพจนเลือดไหลซึมออกมา
กลิ่นคาวของเลือดที่เริ่มไหลจากเเผลข่วนราวกับเรียกสติ เสียงกรีดร้องหยุดชะงักลง กลิ่นหอมหวานของเลือดสีสดที่ซึมออกมาทำให้ลำคอของเทวาหนุ่มรู้สึกเเห้งผาก กว่าจะรู้ตัวเอเลนได้ฝังคมฟันของตนลงบนไหล่หนา หยาดเลือดไหลลงเป็นทาง ใบหน้าหวานลิ้มชิมรสเเสนหวานอย่างกระหาย ทั้งเลีย ข่วน เเละกัดทึ้งบนผิวของมหาเทพเอลวินเพื่อให้หยาดสีชาดหลั่งริน
เอลวินมองการกระทำของเทวาหนุ่มอย่างตกตะลึง เช่นเดียวกับมิเกะที่ดูจะเเปลกใจไม่ต่างกัน ครั้นได้สติมิเกะจึงกระชากร่างบางออกห่างจากมหาเทพ
เพี๊ยะ!!!
รอยเเดงปื้นใหญ่ปรากฎบนเเก้มนวลของเอเลน นัยน์ตาสีมรกตที่ขาดสติเริ่มกลับมาส่องประกายเช่นเดิม
เอเลนมองเลือดที่เลอะเปรอะร่างกายก่อนใบหน้าหวานจะหันไปมองร่างของมหาเทพ
เอลวินมองการกระทำของเทวาหนุ่มอย่างตกตะลึง เช่นเดียวกับมิเกะที่ดูจะเเปลกใจไม่ต่างกัน ครั้นได้สติมิเกะจึงกระชากร่างบางออกห่างจากมหาเทพ
เพี๊ยะ!!!
รอยเเดงปื้นใหญ่ปรากฎบนเเก้มนวลของเอเลน นัยน์ตาสีมรกตที่ขาดสติเริ่มกลับมาส่องประกายเช่นเดิม
เอเลนมองเลือดที่เลอะเปรอะร่างกายก่อนใบหน้าหวานจะหันไปมองร่างของมหาเทพ
แม้แผลที่เทวาหนุ่มน้อยทำจะไม่สาหัสเเต่เลือดที่ไหลออกมามากมายทำให้รู้ว่าเเผลคงลึกทีเดียว สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าบาดเเผลเหล่านั้นก็คือเทวาเอเลนที่ยังไม่อาจยอมรับร่างกายที่ผิดเพี้ยนไป อีกทั้งปฎิกิริยายามเมื่อถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นของโลหิต เเม้จะไม่อยากยอมรับเเต่ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าลูกที่อยู่ในครรภ์ที่ผิดเเปลกนี้เป็นของผู้ใด
"ข...... ข้า.....ข้าทำอะไร......" ร่างบางสั่นระริก นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิด เมื่อสักครู่เขาทำร้ายมหาเทพ อีกทั้งยังดื่มเลือดอย่างกระหาย ราวกับมารร้าย
"ลำพังเเค่น้ำเชื้อของซาตานคงไม่ส่งผลให้นายตั้งครรภ์ได้" มิเกะที่เงียบมานานพยายามหาความเป็นไปได้ของสิ่งที่กำลังเผชิญ
"คนที่ทำอะไรเพี้ยนๆเเบบนี้ได้คงมีเเต่ยัยนั่น......ฮันซี่"
ชื่อที่มิเกะกล่าวทำให้เอลวินเเละเอเลนสนใจ เพราะถ้าเป็นผู้นั้นเเล้วล่ะก็การที่เขาจะท้องนั้นมีความเป็นไปได้มากทีเดียว
"ล....เเล้วข้าควรทำยังไง" ไม่เข้าใจเเละสับสน ตอนนี้เขาเป็นตัวอะไรกันเเน่ ทำไมอยู่ๆเขาถึงตั้งครรภ์อีกทั้งบุตรที่อยู่ในท้องของเขายังเป็นลูกของผู้นั้น ผู้ที่เขาเด็ดปีกสีทมิฬจากมา ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เขาต้องทำยังไงกัน ทั้งสับสน หวาดกลัว เเละรังเกียจ
"เราอาจต้องไปหาฮันซี่เพื่อจัดการเรื่องบ้าๆนี่" มหาเทพเอลวินกล่าวอย่างหัวเสีย ไม่อาจรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายที่ผิดเพี้ยนไปของเอเลน เพื่อความปลอดภัยต้องลากคอตัวต้นเหตุมาให้ได้
"ถ้าท่านพาฮันซี่มาหมอนั่นก็ต้องมาด้วยสินะ" มิเกะเอ่ยพลางชำเลืองมองร่างบางที่สะดุ้งเล็กน้อย
"ม....ไน่นะ ข้าไม่อยากเจอท่านผู้นั้น" ใบหน้าหวานมองมหาเทพอย่างหวาดหวั่น
"ได้โปรดท่านเอลวิน ข้าไม่พร้อมที่จะเจอท่านผู้นั้นในสภาพเเบบนี้" ไหล่บางสั่นไหวยามเอ่ยถึงผู้ที่หันหลังให้กับพระเจ้า
ไม่ ข้าจะไม่มีทางไปหาท่านรีไว ตราบใดที่คำพูดของท่านไม่อาจเชื่อได้...ข้าจะไม่ยอมไปเป็นอันขาด เทวฑูตทั้งสองมองร่างบอบบางสั่นไหว ทั้งเห็นใจเเละอาดูรต่อสิ่งที่เกิดกับร่างกายของเอเลน
"ข้าจะพยายามหาทางดู ช่วงนี้เจ้าพยายามอยู่ใกล้ชิดข้าไว้ล่ะเอเลน" มิเกะถอนหายใจ เเม้ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้ขนาดไหนเเต่ก็คงต้องลองดู
มหาเทพเอลวินยิ้มบางพลางลูบลงบนผมสีน้ำตาลเเผ่วเบา
"ช่วงนี้อย่าซนนักล่ะเอเลนเเละพยายามอยู่ใกล้ข้าหรือมิเกะด้วยเข้าใจนะ"
ใบหน้าหวานยิ้มรับกับการตัดสินใจของเทวาทั้งสอง มือบางค่อยๆจับลงที่ท้องอย่างใจเย็น
...........เเม้จะน่ารังเกียจเเต่กลับรู้สึกอบอุ่นด้วยเช่นกัน.......
ท่ามกลางรัตติกาลอันมืดมิด ปรากฏร่างบุรุษผิวขาวซีด ใบหน้าคมที่เผยพ้นเงามืดแสดงให้เห็นความหล่อเหลาชวนลุ่มหลงที่มาพร้อมกับนัยน์ตาโชนแสงกล้าราวไฟโหม ฝีเท้าที่เงียบกริบกับความเร็วในการก้าวเดินอย่างเหลือเชื่อเพียงพริบตาก็พาเจ้าของร่างก้าวผ่านบานประตูสีขาวพิสุทธิ์มหึมาที่ประดับประดาไปด้วยเถาวัลย์ทองคำลวดลายวิจิตร ท่ามกลางเถาวัลย์นั้นเองมีร่างแฟรี่น้อยบินมาก้มคำนับแทบเท้าของบุรุษผู้มาใหม่ ก่อนร่างน้อยค่อยๆเปล่งแสงขึ้นเปลี่ยนจากภูติน้อยกลับกลายเป็นหญิงสาวร่างเล็กเจ้าของปีกสีดำ ใบหน้าน่ารักเงยหน้าขึ้นรายงานต่อนายเหนือหัวของตน
“นายท่านรีไว..... เป็นอย่างที่ท่านฮันซี่ส่งข่าวมาบอกจริงๆหรือนี่ ท่านมาผู้เดียวโดยไม่มีการวางแผนหรือตระเตรียมการใดๆล่วงหน้า อันตรายเกินไปท่านก็รู้ดี เหตุใดท่านจึงรีบร้อนเช่นนี้ แม้แต่ตัวข้าน้อยเองก็เตรียมการไม่ทัน ตอนนี้ที่พักของเอเลนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างลับๆโดยที่ข้าน้อยยังสืบเสาะไม่พบแล้วเยี่ยงนี้จะทำเช่นไรนายท่านข้าคิดว่า.....”
จอมมารเพียงปรายตามองเพทร่าทาสสาวที่ตนส่งมาเป็นสายตั้งแต่ที่ตนเองหันหลังให้กับพระเจ้าและสร้างอาณาจักรอันมืดดำปกครองอยู่เบื้องล่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกความเคลื่อนไหวของเอเลนรีไวสามารถรับรู้ได้ทุกสิ่งผ่านการรายงานอย่างละเอียดของเพทร่าในร่างแฟรี่แสนน่ารักเพื่อนตัวน้อยในสายตาของเอเลน และก่อนที่เพทร่าจะพล่ามไปมากกว่านี้ผู้เป็นนายก็ชิงตัดบทด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“ใช่.....เจ้าพูดถูกต้องเพทร่าข้ามาเพียงหนึ่งโดยไม่สนใจต่อสิ่งใด เจ้าพวกปีกขาวพวกนี้ต่อให้หมาหมู่เพียงใดข้าก็หาเกรงไม่ ต่อให้ตาแก่พระผู้เป็นเจ้าหน้าไหนหรือเจ้าลูกไล่กระจอกผมวิกอย่างเอลวินก็ขวางข้าไม่ได้ ข้าไม่อาจรอได้อีกจากที่เจ้ารายงานไป เจ้าคิดว่าข้าควรอยู่รอฟังจนกระทั่งเอเลนทำมากกว่าคลุ้มคลั่งดิ้นพล่านทำร้ายครรภ์ตนเองงั้นหรือ ไม่หรอกข้าทำไม่ได้ ในเมื่อเจ้าไร้ความสามารถจะหาเอเลนได้ในทันที ข้าก็จะสืบเสาะหาเอาเอง ไม่มีทางที่เอเลนจะหลบหนีข้าพ้น ข้าสัมผัสได้ยิ่งใกล้ยิ่งรู้สึกทั้งกลิ่นกายหอมหวาน หรือแม้เพียงเสียงกระซิบแผ่วเบาของเอเลนก็ตาม” กล่าวจบเดินต่ออย่างรวดเร็ว ร่างแกร่งเปิดรับสัมผัสทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบกายเพื่อควานหาคนรักของตนอย่างรีบเร่งจนทาสสาวได้แต่เงียบปากก่อนกลับร่างแฟรี่บินตามผู้เป็นนายไปติดๆ จอมซาตานเดินตามสัมผัสที่รู้สึกได้ยิ่งนานยิ่งรู้สึกรุนแรงยิ่งขึ้น การตามหาไม่ยากอย่างที่คาดไว้แต่แรก อาจจะด้วยบุตรในสายเลือดที่ร่ำร้องหาบิดาของตนและเลือด.... หรือแม้กระทั่งปีกทมิฬที่ทำให้ตามรอยได้เป็นอย่างดี
และแล้วสองเท้าก็มาหยุดอยู่หน้าปราสาทหลังหนึ่ง เค้าจับสัมผัสได้ทันทีว่าใช่เอเลนซึ่งตอนนี้ยังไม่นอนและเดินไปมาอยู่เพียงผู้เดียวทางห้องปีกตะวันออก หากเป็นในอดีตรีไวคงทำเพียงแค่เปิดประตูเข้าไปได้ตามสบาย แต่ตอนนี้ไม่ใช่... ถึงตอนนี้ดูท่าเด็กน้อยของเขาจะกระวนกระวายกระหายอยากน่าดู แต่เขารู้ดีทีเดียวว่าด้วยนิสัยของเอเลนแล้วต้องแสดงการต่อต้านอย่างร้ายกาจแน่นอน ดังนั้นทางเดียวในตอนนี้ก็คือ....
“เพทร่า เจ้าบินไปเคาะหน้าต่างบานที่สองทางห้องปีกตะวันออก แล้วจงนำนี้ไปให้เอเลนดื่มเสียด้วย” รีไววางขวดแก้วคริสตัลแสนงดงามลงบนสองมือของแฟรี่จำแลง
เพทร่าก้มลงมองสิ่งที่บรรจุในขวดอย่างสงสัย ไม่ใช่ว่าสงสัยว่ามันคืออะไรเพราะเพียงกลิ่นก็รับรู้ได้ว่าคือเลือดสดๆบรรจุเต็มขวด แต่ที่ทาสสาวสงสัยคือนำมาใช้กับเอเลนเพื่อการใด.... กำลังจะเอ่ยปากถามจอมมารก็รีบตอบตัดรำคาญ
“มันคือเลือดของข้าเพทร่า เลือดของข้าที่ใช้หล่อเลี้ยงปรสิตตั้งแต่เป็นตัวอ่อนจนโตเต็มวัย มันถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้ทำตามคำสั่งเจ้าของเลือด เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายเอเลนมันจะตรงเข้าบังคับการณ์แทนเจ้าของร่างตัวจริง ทำตามที่ข้าเจ้าของเลือดต้องการทุกสิ่งอย่าง ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นความคิดและสิ่งประดิษฐ์ของยัยวิปริตฮันซี่และมันปลอดภัยดีเพราะยัยฮันซี่ได้ทดลองกับออลโอ้ไปแล้วและเจ้านั้นยังมีสติและร่างกายครบถ้วนเช่นเดิมทุกประการ อย่ามัวชักช้ารีบนำไปให้เอเลนซะ บนสวรรค์เยี่ยงนี้คงหาเลือดไม่ได้ ตอนนี้บุตรของข้าคงกระหายเลือดเต็มที เอเลนไม่มีทางปฏิเสธต่อแรงกระหายนี้ได้แน่"
ทาสสาวอ้าปากค้างกำลังจะพูดต่อก็โดนสายตาดุร้ายจ้องมองบังคับกลายๆให้เริ่มปฏิบัติการเสียที ดังนั้นร่างเล็กของแฟรี่จำแลงจึงได้แค่ทำตามคำสั่งบินไปสู่หน้าต่างทางปีกตะวันออกตามนายบัญชา
เสียงเคาะหน้าต่างทำให้เทวาร่างโปร่งบางหันไปมอง เมื่อเห็นเเฟรี่ตัวน้อยที่คุ้นเคยเอเลนจึงเปิดบานหน้าต่างให้เเต่โดยดี
"เเฟรี่น้อยเจ้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน...เจ้าก็คงนอนไม่หลับเหมือนข้าสินะเเฟรี่น้อย?" ใบหน้าหวานส่งยิ้มพรายให้กับผู้มาเยือน สองมือกุมที่ท้องของตน มือบางจับเสื้อของตนเเน่นจนยับ เเม้จะเริ่มเข้าใจอะไรบ้างเเต่เขาก็คงยังไม่อาจยอมรับความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้
"ข้านำน้ำหวานมาให้ท่านเอเลน มันน่าจะช่วยให้ท่านหลับสบายขึ้น" ขวดคริสตัลถูกส่งยื่นให้กับเทวาหนุ่ม
เอเลนมองของเหลวสีสดในขวด สีเเดงสุกสกาวราวเปลวเพลิงนี่เป็นน้ำหวานจากที่ใดกัน? "ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงเเละขอบใจสำหรับน้ำหวานของเจ้านะเเฟรี่น้อย"
"ท่านน่าจะลองเสียหน่อย นี่ก็ดึกมากเเล้วท่านควรพักผ่อนเพื่อรอรับรุ่งอรุณใหม่"
นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองหยดน้ำหวานสีสดพลางถอนหายใจ บางทีสิ่งนี้อาจช่วยให้เขาหลับง่ายขึ้นได้บ้างตามที่เเฟรี่น้อยกล่าว
เมื่อเปิดขวดคริสตัลกลิ่นหอมหวานราวกับน้ำผึ้งยามเช้าทำให้ลำคอถึงกับเเห้งผาก ทั้งสีเเละกลิ่นที่หอมหวนยิ่งชวนให้รู้สึกใคร่อยากลิ้มลองอย่างน่าประหลาด ริมฝีปากสีสดจึงค่อยๆลิ้มชิมรสชาติของน้ำหวานสีเพลิง
"เเฟรี่น้อยเจ้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน...เจ้าก็คงนอนไม่หลับเหมือนข้าสินะเเฟรี่น้อย?" ใบหน้าหวานส่งยิ้มพรายให้กับผู้มาเยือน สองมือกุมที่ท้องของตน มือบางจับเสื้อของตนเเน่นจนยับ เเม้จะเริ่มเข้าใจอะไรบ้างเเต่เขาก็คงยังไม่อาจยอมรับความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้
"ข้านำน้ำหวานมาให้ท่านเอเลน มันน่าจะช่วยให้ท่านหลับสบายขึ้น" ขวดคริสตัลถูกส่งยื่นให้กับเทวาหนุ่ม
เอเลนมองของเหลวสีสดในขวด สีเเดงสุกสกาวราวเปลวเพลิงนี่เป็นน้ำหวานจากที่ใดกัน? "ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงเเละขอบใจสำหรับน้ำหวานของเจ้านะเเฟรี่น้อย"
"ท่านน่าจะลองเสียหน่อย นี่ก็ดึกมากเเล้วท่านควรพักผ่อนเพื่อรอรับรุ่งอรุณใหม่"
นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองหยดน้ำหวานสีสดพลางถอนหายใจ บางทีสิ่งนี้อาจช่วยให้เขาหลับง่ายขึ้นได้บ้างตามที่เเฟรี่น้อยกล่าว
เมื่อเปิดขวดคริสตัลกลิ่นหอมหวานราวกับน้ำผึ้งยามเช้าทำให้ลำคอถึงกับเเห้งผาก ทั้งสีเเละกลิ่นที่หอมหวนยิ่งชวนให้รู้สึกใคร่อยากลิ้มลองอย่างน่าประหลาด ริมฝีปากสีสดจึงค่อยๆลิ้มชิมรสชาติของน้ำหวานสีเพลิง
ร่างแกร่งที่เฝ้าคอยมองจากด้านนอกมองเห็นได้อย่างชัดเจน กลิ่นคาวเลือดที่กลายเป็นของหอมหวานของเทวาหนุ่ม น้ำสีแดงที่มองดูสุกสกาวเมื่อยามต้องแสงจันทร์ชวนเชิญให้ลิ้มลอง มือขาวผ่องที่ยื่นผ่านมารับขวดคริสตัลจากแฟรี่น้อยยามเมื่อลมพัดผ่านยิ่งส่งสัมผัสกลิ่นกายชวนหลงใหลมาสู่จอมมาร ยิ่งได้กลิ่นคุ้นเคยยิ่งกระสันอยากกอดกระหวัดโอบรัดในอ้อมแขน ดวงตาคมกล้าหลับลงสดับฟังลมหายใจเข้าออกที่รุนแรงด้วยความตื่นเต้นในกลิ่นคาว เสียงดื่มกลืนอย่างกระหายไม่หยุดหย่อนจวบจนกระทั่งหยดสุดท้าย... ริมฝีปากบางเฉียบหยัดยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาคมโชนแสงกล้า ปากหยักเอ่ยวาจาออกไป
“มาสิ เอเลน มาหาข้าผู้เป็นสามีหนึ่งเดียวของเจ้าราชินีที่รักยิ่งของข้า” รีไวยืนรอเพียงไม่นานร่างบอบบางก็ก้าวย่างออกมาจากบานประตูราวกับถูกสะกด มือบอบบางเอื้อมมาหามือแกร่งที่ยื่นไว้รออยู่ก่อนถูกกอบกุมไว้แน่น ออกแรงดึงเพียงเล็กน้อยร่างระหงก็แอบอิงเข้าสู่อ้อมแขนแข็งแรง รีไวโอบกอดเอเลนอย่างถวิลหากดใบหน้าหวานให้ซบบนบ่าแกร่งอย่างแผ่วเบา ก่อนกระซิบที่ริมใบหูบาง
“เอเลนข้ามารับเจ้าแล้ว ไปอยู่กับข้านะ เราจะอยู่ร่วมกันราชาราชินีและบุตรผู้สืบทอด จะเคียงคู่ด้วยรักไม่มีผู้ใดแยกเราได้” รีไวอุ้มเอเลนขึ้นแนบแผงอกกว้าง ปีกทมิฬสยายออกกว้าง เอ่ยเรียกทาสสาว
“เพทร่าเจ้าตามกลับมาด้วย ในเมื่อเอเลนอยู่กับข้าแล้วก็ไม่มีความจำเป็นใดที่ข้าต้องสนใจบนนี้อีก”
ความรู้สึกร้อนวูบวาบราวถูกไฟเเผดเผาทำให้สองมือบางโอบกระชับรอบตัวหวังป้องกันความร้อนที่ราวกับกำลังโหมกระหน่ำ หยาดเหงื่อหลั่งรินไหลเป็นสาย ลมหายใจเริ่มกระชั้นถี่ติดขัด ทั้งอึดอัด รุ่มร้อน จนหายใจไม่ออก
เอเลนพยายามสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอด นัยน์ตาสีมรกตลืมตาโพลงขึ้นก่อนจะพยายามยันกายลุกนั่ง เเต่อ้อมเเขนเเข็งเเกร่งที่โอบกระชับ ทำให้ร่างโปร่งบางได้เเต่เพียงจมนิ่งอยู่กับเเผ่นอกเเกร่งตรงหน้า
"นี่มันอะไรกัน!?" เสียงหวานตะโกนลั่น พลันสองเเขนดันเเผ่นอกกำยำให้ถอยห่าง
เมื่ออ้อมเเขนคลายลง เทวาหนุ่มน้อยถึงได้เริ่มที่ขยับกายมองร่างกำยำที่บังอาจรุกล้ำตน
นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง พลางขนตามตัวลุกชัน นัยน์ตาคมกล้าสีโลหิต เเละเส้นผมสีรัตติกาล ที่ล้อมรอบใบหน้าคมคาย บุคคลที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
นัยน์ตาสีมรกตเเข็งกร้าวสบมองนัยน์ตาสีโลหิตเบื้องหน้า สองมือบางกอบกุมท้องของตนเเน่นก่อนจะจิกเข้าไปอย่างนึกรังเกียจ คมฟันขาวขบกันจนขึ้นสันกราม เสียงหวานพยายามเอ่ยรอดไรฟัน
"มารร้ายน่ารังเกียจเช่นท่านมาทำอะไรที่นี่กันรีไว!?"
เอเลนพยายามสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอด นัยน์ตาสีมรกตลืมตาโพลงขึ้นก่อนจะพยายามยันกายลุกนั่ง เเต่อ้อมเเขนเเข็งเเกร่งที่โอบกระชับ ทำให้ร่างโปร่งบางได้เเต่เพียงจมนิ่งอยู่กับเเผ่นอกเเกร่งตรงหน้า
"นี่มันอะไรกัน!?" เสียงหวานตะโกนลั่น พลันสองเเขนดันเเผ่นอกกำยำให้ถอยห่าง
เมื่ออ้อมเเขนคลายลง เทวาหนุ่มน้อยถึงได้เริ่มที่ขยับกายมองร่างกำยำที่บังอาจรุกล้ำตน
นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง พลางขนตามตัวลุกชัน นัยน์ตาคมกล้าสีโลหิต เเละเส้นผมสีรัตติกาล ที่ล้อมรอบใบหน้าคมคาย บุคคลที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
นัยน์ตาสีมรกตเเข็งกร้าวสบมองนัยน์ตาสีโลหิตเบื้องหน้า สองมือบางกอบกุมท้องของตนเเน่นก่อนจะจิกเข้าไปอย่างนึกรังเกียจ คมฟันขาวขบกันจนขึ้นสันกราม เสียงหวานพยายามเอ่ยรอดไรฟัน
"มารร้ายน่ารังเกียจเช่นท่านมาทำอะไรที่นี่กันรีไว!?"
“หึ..... ไงเด็กน้อยของข้า เจ้าอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป จงดูให้ดีว่านี้ที่ไหน แต่ก่อนเจ้าจะทำเช่นนั้นซึ่งข้ารับรองว่ายังมีเวลาอีกเหลือเฟือให้เจ้าได้สำรวจวังของเรา จงอยู่นิ่งๆเสีย เหลือปรสิตอยู่ในกายเจ้าเพียงสองสามตัวเท่านั้นก็จะออกหมดแล้ว ฮันซี่กรีดเอาอีกสองตัวที่ขาออกมาได้เลย” กล่าวจบจับตรึงมือเทวาหนุ่มไว้แน่น ขาแข็งแรงกดทับไปบนขาเรียวยาวของร่างบาง แสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนก้มใบหน้าลงไปใกล้ ริมฝีปากหยักแนบผิวคลอเคลียกับแก้มเนียนใสที่เจือรอยแดงน่าเอ็นดู ลิ้นสองแฉกแลบเลียไปที่ใบหูกระซิบเสียงพร่า
“ข้าไม่ใจร้ายพอที่จะให้เจ้าสูญเสียความเป็นตนเองไปหรอก เมื่อใดที่ฮันซี่กรีดเนื้อเจ้าดึงปรสิตพวกนี้ออกมาได้หมดเจ้าก็จะกลับเป็นปกติเอเลน เมื่อนั้นเราจะได้มีความสุขกันไงดีไหมเล่า”
"ปรสิต..อ....!!!!"
ประโยคคำถามถูกกลืนหายเข้าลงคอ ริมฝีปากบางเม้มเเน่น เมื่อคมมีดกรีดกรายลงบนผิวขาวผ่อง กลิ่นหอมหวานของคาวเลือดที่ลอยมาเเตะจมูกทำให้รู้สึกกระหายจนเกือบลืมความเจ็บเมื่อหญิงสาวส่วมเเว่นหนาจัดการดึงสิ่งมีชีวิตคล้ายหนอนขนาดใหญ่ออกมาจากรอยกรีด
คิ้วสีน้ำตาลขมวดมุ่น ใบหน้ามนถึงกับซีดเซียวยามเมื่อเห็นปรสิตถูกดึงออกมาจากร่างกายของตน มันจะมากเกินไปเเล้ว!!! มารสารเลวนี่เห็นเขาเป็นอะไรกัน คิดจะเล่นตลกกับร่างกายเขาไปถึงไหน!? นึกอยากจะเอาอะไรมาฝากฝังกับร่างกายของเขาเเบบนี้ก็ได้อย่างนั้นรึไง!! ช่างน่าสะอิดสะเอียนนักทั้งมารร้ายทั้งมวล ทั้งร่างกายนี้!!
"มันจะมากเกินไปเเล้ว!" คำรามเสียงสั่นรอดไรฟัน นัยน์ตาสีมรกตส่องประกายวาววาบอย่างขุ่นเคือง
คิ้วสีน้ำตาลขมวดมุ่น ใบหน้ามนถึงกับซีดเซียวยามเมื่อเห็นปรสิตถูกดึงออกมาจากร่างกายของตน มันจะมากเกินไปเเล้ว!!! มารสารเลวนี่เห็นเขาเป็นอะไรกัน คิดจะเล่นตลกกับร่างกายเขาไปถึงไหน!? นึกอยากจะเอาอะไรมาฝากฝังกับร่างกายของเขาเเบบนี้ก็ได้อย่างนั้นรึไง!! ช่างน่าสะอิดสะเอียนนักทั้งมารร้ายทั้งมวล ทั้งร่างกายนี้!!
"มันจะมากเกินไปเเล้ว!" คำรามเสียงสั่นรอดไรฟัน นัยน์ตาสีมรกตส่องประกายวาววาบอย่างขุ่นเคือง
"เสร็จแล้วหล่ะรีไว นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจเลยนะเนี่ย งานวิจัยที่สำเร็จและยังผลให้ปฏิบัติการพาเมรียกลับรังราบรื่นไปได้ด้วยดีขนาดนี้ คิๆ" ฮันซี่พูดจาหน้าระรื่นไม่ได้สนสถานการณ์คุกรุ่นในขณะนี้แม้แต่น้อย จนกระทั่งเพทร่าที่ยืนช่วยเก็บของอยู่ใกล้ๆต้องรีบลากผู้เป็นนายอีกตนหนึ่งออกไป ก่อนที่จอมมารจะเลิกสนใจเทวาหนุ่มแล้วหันมาฆ่าเพื่อนตนเองแทน
"ทีนี้ก็ไร้มารผจญแล้วเอเลนของข้า มาเข้าเรื่องของเราเสีย ที่เจ้ากล่าวหาข้าว่าทำมากเกินไปนั้นไม่ถูกต้อง เจ้าจะว่าข้าทำเกินไปไม่ได้ เป็นเรื่องสามัญของโลกนี้ที่คนรักกันต้องอยู่ด้วยกัน ยิ่งเจ้ามีครรภ์อยู่เยี่ยงนี้ข้าจะปล่อยเจ้าให้พ้นสายตาข้าไปได้ยังไง" จอมมารกล่าวเรียบนิ่งนัยน์ตาแดงฉานมองสบเข้าไปหวังแสดงความรู้สึกให้เจ้าของตาคู่งามเบื้องหน้าเข้าใจ
เเผลจากการกรีดค่อยๆสมานคืนตัวด้วยพลังฟื้นฟูร่างกายของเทวาหนุ่ม ใบหน้าหวานหลบสายตานิ่งงันที่จ้องมองมาพลางหัวเราะขันในลำคอ
"หึ คนรักกันงั้นรึ ข้าจำไม่เห็นได้ว่ามีเรื่องเช่นนั้นกับท่าน"
นัยน์ตาสีมรกตดื้อดึงตวัดมองหน้าพญามาร สองมือบางจิกทึ้งที่หน้าท้องของตน "ไหนๆเเล้วท่านให้ท่านฮันซี่จัดการดึงผลเเห่งความโสมมในกายข้าออกไปเช่นเดียวกับปรสิตเหล่านั้นเลยสิ!! เรื่องของข้ากับท่านจะได้สิ้นสุดเสียที เเละข้าจะได้กลับไปยังที่ของข้าซึ่งมหาเทพเอลวินรออยู่"
"หึ คนรักกันงั้นรึ ข้าจำไม่เห็นได้ว่ามีเรื่องเช่นนั้นกับท่าน"
นัยน์ตาสีมรกตดื้อดึงตวัดมองหน้าพญามาร สองมือบางจิกทึ้งที่หน้าท้องของตน "ไหนๆเเล้วท่านให้ท่านฮันซี่จัดการดึงผลเเห่งความโสมมในกายข้าออกไปเช่นเดียวกับปรสิตเหล่านั้นเลยสิ!! เรื่องของข้ากับท่านจะได้สิ้นสุดเสียที เเละข้าจะได้กลับไปยังที่ของข้าซึ่งมหาเทพเอลวินรออยู่"
"หึๆ...ผลแห่งความโสมมงั้นหรือ?... ข้าว่าไม่นะตอนข้าสมสู่เสพสันต์ร่วมกับเจ้า เจ้าก็ดูมีความสุขดีนี่เอเลน ไม่เห็นเจ้าจะรังเกียจเดียดฉันท์รสกามในครานั้น แล้วเช่นนี้เจ้าจะปฎิเสธบุตรของเราไปใย ส่วนเรื่องกลับไปหาเจ้างั่งนั้น...."
นัยน์ตาแดงฉานปิดลงชั่วครู่เพื่อระงับโทสะ ก่อนหมดความอดทนเมื่อมือบางยังคงจิกทำร้ายครรภ์ตนเอง มือแกร่งรวบจับข้อมือน้อยทั้งสองขึ้นก่อนกระแทกลงอย่างแรง กรงเล็บทมิฬอีกข้างตรงเข้ากอบกุมลำคอขาวผ่องแน่น เส้นเอ็นขึ้นปูดโปนไปทั้งมืออันสั่นเกร็งจากการพยายามยั้งแรงบีบไม่ให้มากเกิน กรงเล็บที่กางทับรอบลำคอระหงแทงเข้าสู้เนื้อในของที่นอนจนขนปีกสีดำทะลักกระจายปลิวไปทั่ว ร่างแกร่งถอนหายใจออกช้าๆ ก้มลงกระซิบใกล้ใบหน้ามน ด้วยเสียงนุ่มนวลผิดกับแววตาเย็นเยือกเหี้ยมเกรียมที่จ้องมองลงไปยังดวงตามรกตเบื้องล่าง
"เอเลน เจ้าเป็นของข้าแล้ว จงสำเหนียกไว้ ข้าคือผู้ครอบครองเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ต่อให้เจ้าจะอยากจะร่านเพียงใดก็มีแต่ข้าเท่านั้นที่มีสิทธิเหนือกายเจ้า อย่าได้คิดตีจากข้า เพราะต่อให้พระเจ้าก็ขวางข้าไม่ได้ เจ้าจักต้องอยู่กับข้าตราบชั่วกัลปาวสานเมื่อถึงตอนนั้นต่อให้ข้าต้องแย่งชิงเจ้ามาเป็นเพียงเศษเนื้อข้าก็จะทำ ทุกๆสิ่งของเจ้าแม้กระทั่งขนปีกเพียงหนึ่งขนคือของข้า ของข้าคนเดียวและตลอดไป"
ใบหน้าหวานมองอีกคนอย่างเเข็งกร้าว ฟันขาวขบเสียดสีกันจนดังกรอด
"ข้ามิใช่ของท่านรีไว ถ้ารู้ว่ามารสกปรกเยี่ยงท่านจะทำการฝังสิ่งเเปลกประหลาดในกายข้าเช่นนี้ข้าคงไม่มีวันยอม!!!"
นัยน์ตามรกตหรี่ลงต่ำ พลางยกยิ้มมุมปากอย่างนึกเเคลน
"หึ การเสพย์สังวาสนั่นทั้งข้าเเละท่านก็เเค่สุขสมกันทั้งสองฝ่ายหาได้มีความรู้สึกอื่นใดไม่ใช่รึไง"
ใบหน้าหวานเบนหลบสายตามารร้ายตรงหน้าด้วยไม่อยากให้เห็นเเววตาที่สั่นระริกของตน คำพูดเเละการกระทำของมารร้ายที่ได้เเต่โป้ปดหลอกลวงหาความเชื่อถือไม่ได้ ข้าจะไม่ยอมหลงกลคนเช่นนี้เด็ดขาด
"ข้ามิใช่ของท่านรีไว ถ้ารู้ว่ามารสกปรกเยี่ยงท่านจะทำการฝังสิ่งเเปลกประหลาดในกายข้าเช่นนี้ข้าคงไม่มีวันยอม!!!"
นัยน์ตามรกตหรี่ลงต่ำ พลางยกยิ้มมุมปากอย่างนึกเเคลน
"หึ การเสพย์สังวาสนั่นทั้งข้าเเละท่านก็เเค่สุขสมกันทั้งสองฝ่ายหาได้มีความรู้สึกอื่นใดไม่ใช่รึไง"
ใบหน้าหวานเบนหลบสายตามารร้ายตรงหน้าด้วยไม่อยากให้เห็นเเววตาที่สั่นระริกของตน คำพูดเเละการกระทำของมารร้ายที่ได้เเต่โป้ปดหลอกลวงหาความเชื่อถือไม่ได้ ข้าจะไม่ยอมหลงกลคนเช่นนี้เด็ดขาด
ใบหน้าคมถอยห่างออกก่อนก้มลงเล็กน้อย เงาดำที่ปิดบังใบหน้าทำให้ไม่อาจรับรู้อารมณ์ของเจ้าของ ก่อนกล่าว
"อ่า.....ใช่มันคงเป็นแค่ความสุขสมเพียงชั่วครู่สำหรับเจ้าสินะ แต่สำหรับข้า.." มือแกร่งเพิ่มแรงบีบรอบลำคองามมากขึ้นกรงเล็บเริ่มจิกลึกเข้าเนื้อเนียนจนเลือดซึม ก่อนคลายออกในฉับพลัน
"เอเลนจงฟังข้า สำหรับข้าถ้าเจ้าเป็นเพียงแค่ของเล่น แค่เครื่องผ่อนคลายกำหนัดจริง ตอนนี้ลำคอเจ้าคงแหลกเป็นธุลีไปแล้ว แต่เพราะเจ้าไม่ใช่แค่นั้น เจ้ามีความหมายมากมายต่อข้านัก ทั้งในอดีต ปัจจุบัน หรือกาลหน้าเจ้าไม่เคยลบเลือนไปจากข้า ข้ามีเจ้าอยู่ในทุกห้วงคำนึง ยิ่งนานยิ่งฝังรากลึก ยิ่งนานยิ่งเพิ่มพูน"
เอเลนชะงักกับคำหวานหูของซาตานหนุ่ม ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ ก่อนจะพยายามเบนหลบเเละสะบัดไปมา
ข้าจะหวั่นไหวต่อการล่อลวงนี้ไม่ได้....
มือบางจับรอบลำคอขาวของตนที่มีหยาดโลหิตซึม ก่อนจะเลื่อนกอบกุมครรภ์ของตน
"ถ้างั้นก็พิสูจน์สิท่านรีไว"
ใบหน้ามนเงยมองใบหน้าคมคายเบื้องหน้าด้วยนัยน์ตาที่สั่นระริก
"พิสูจน์สิ่งที่ท่านกล่าวว่าไม่ใช่เรื่องลวงหลอกโป้ปด"
"เจ้าจงบอกข้ามาเอเลน เจ้าปราถนาสิ่งใด เจ้าต้องการข้อพิสูจน์เยี่ยงไร ข้าต้องทำเช่นใดเจ้าถึงจะเป็นของข้าทั้งกายและใจ ทำแค่ไหนเจ้าถึงจะยอมรับข้าและบุตรแห่งเรา" มือแกร่งไล้ใบหน้าหวานแผ่วเบาเชยคางมนขึ้นจ้องมองไปในดวงตามรกตอย่างแน่วแน่
คมตาที่จ้องมาทำให้ร่างกายรู้สึกร้อนผ่าว อกซ้ายสั่นไหวอย่างน่าประหลาด นัยน์ตาสีมรกตเบนหลบสายตา อยู่กับมารร้ายนานไปยิ่งทำให้ข้ารู้สึกผิดเพี้ยนนัก.. ริมฝีปากบางสั่นระริกก่อนเอ่ยวาจา
"นำผลเเห่งความผิดพลาดนี้ออกจากตัวข้า เเละปล่อยข้ากลับไปยังสรวงสวรรค์ ป่านนี้มหาเทพเอลวินคงเป็นกังวลเเละตามหาข้าเสียวุ่น"
"นำผลเเห่งความผิดพลาดนี้ออกจากตัวข้า เเละปล่อยข้ากลับไปยังสรวงสวรรค์ ป่านนี้มหาเทพเอลวินคงเป็นกังวลเเละตามหาข้าเสียวุ่น"
ร่างกำยำถอยห่างจากร่างบางเล็กน้อย มือใหญ่กอบกุมมือสวยขึ้นจรดแนบริมฝีปากบางเฉียบที่ขยับพรมจูบไปทั่วนิ้วเรียว ก่อนช้อนสายตาคมกล้าขึ้นมองใบหน้ามนของคนรัก
"เอเลน....เจ้าปรารถนาสิ่งใดข้าย่อมมอบให้ได้ แต่ทำไมความต้องการของเจ้าถึงทำร้ายข้าได้ตลอดถึงเพียงนี้ ปรารถนาหนึ่งเดียวของเจ้าคือการปฏิเสธและตีจากข้าไปเท่านั้นหรือ? เจ้ามองบุตรของเราเป็นผลแห่งความผิดพลาดแค่นี้ข้าก็เจ็บเจียนคลั่ง แล้วยังไม่พอเจ้ายังย่ำยีหัวใจข้าด้วยการกลับไปหาไอ้งั่งหน้าโง่เอลวินอีก....ทำไมเพื่ออะไรกัน!!! เจ้าจะฆ่าข้าให้ตายทั้งเป็นหรือไร??"
เสียงที่เรียบนิ่งมาตลอดเริ่มสั่นไหวในช่วงท้าย มือแกร่งบีบข้อมือบางแรงขึ้นด้วยอารมณ์เจ็บปวดและเคียดแค้น
คำพูดราวอ้อนวอนของซาตานทำให้เทวาหนุ่มหวั่นไหว อกซ้ายรู้สึกเจ็บเเปลบกับประกายตาคมกล้าที่ส่งมาราวกับร้องขอ
สัมผัสของริมฝีปากบางที่พรมจูบลงบนนิ้วรู้สึกอบอุ่นอย่าน่าประหลาด ริมฝีปากสีระเรื่อสั่นเครือ เเววตาฉายความกังวลเเละสับสน
สัมผัสของริมฝีปากบางที่พรมจูบลงบนนิ้วรู้สึกอบอุ่นอย่าน่าประหลาด ริมฝีปากสีระเรื่อสั่นเครือ เเววตาฉายความกังวลเเละสับสน
ไม่เห็นเข้าใจเลย ท่านต้องการอะไรกันเเน่ ต้องการข้าจริงๆงั้นเหรอ!? เเล้วข้าจะเชื่อท่านได้ จะเชื่อผู้ที่เป็นเจ้าเเห่งการโป้ปดนี้ได้งั้นหรือ!! ไม่เข้าใจเลยสักนิด!!!
"บอกข้าทีสิท่านรีไว" นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆหันสบมองเเววตาของมารร้ายอีกครั้ง ตากลมโตของเทวาสั่นระริกราวกับมีน้ำอุ่นเออคลอ
"ข้าควรทำอย่างไร? ท่านต้องการให้ข้าทำอย่างไรกันเเน่!? ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย เเละร่างกายข้าที่ผิดเพี้ยนไปเพราะท่านข้าต้องทำอย่างไรกัน บอกข้าทีสิ!?"
"บอกข้าทีสิท่านรีไว" นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆหันสบมองเเววตาของมารร้ายอีกครั้ง ตากลมโตของเทวาสั่นระริกราวกับมีน้ำอุ่นเออคลอ
"ข้าควรทำอย่างไร? ท่านต้องการให้ข้าทำอย่างไรกันเเน่!? ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย เเละร่างกายข้าที่ผิดเพี้ยนไปเพราะท่านข้าต้องทำอย่างไรกัน บอกข้าทีสิ!?"
“จากความผิดพลาด หรือแผนการล่อลวงใดๆ ทั้งหมดที่ข้าได้พูดไปคือความจริงที่ว่าข้ารักเจ้า ยามจากมาข้าคิดเพียงไม่ต้องการดึงเจ้าลงต่ำ แต่ข้าทนไม่ได้ข้าไม่ใช่เทวาที่จะไร้รักไร้รู้สึก ทุกการดำรงอยู่ของข้านั้นเจ็บปวดทรมานยามไร้เจ้าเคียงกายเช่นเดิม ข้ากลับคอยติดตามเจ้าส่งสายไปในสวรรค์เพื่อดูทุกอิริยาบถของเจ้า ทุกการกระทำของเจ้าถูกส่งต่อบอกกล่าวให้ข้ารับรู้เหมือนเช่นในอดีตที่ข้าได้ครอบครองสิทธิ์ในการดูแลเจ้า ใช่ข้าอาจดูเลวร้ายกระทำสิ่งใดไม่คิดถึงใจเจ้า แต่ยิ่งข้าพยายามไกลจากเจ้าเพียงใดความเป็นเทพในตัวข้ากลับยิ่งน้อยลง ข้าในตอนนี้เป็นซาตานเต็มตัว เป็นมารชั่วร้ายที่ไม่ขอยึดติดกับกฎใดๆ ไม่นึกถึงใครยกเว้นเจ้า ขอเพียงแค่มีเจ้ากับข้าเท่านั้นเอเลน ข้าพร้อมทำทุกทางไม่ว่าจะเป็นสรรค์สร้างหรือทำลายให้พินาศ"
ตาคมโชติช่วงจ้องลึกสบต่อนัยน์ตามรกตอย่างลึกล้ำ มือแกร่งจับกระชับข้อมือน้อยไว้มั่นกล่าวเสียงนิ่งเนิบช้าเพื่อให้ทุกคำเข้าสู่หัวใจของผู้เป็นที่รักเบื้องหน้า
สองมือบางกุมหน้าท้องของตนที่เริ่มนูนออกมา ความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาด ทั้งสับสน กังวล ขุ่นเคืองกับสิ่งที่อยู่ภายใน แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้แต่ไม่คิดอยากจะยอมรับ นั้นคือแม้จะรู้สึกแย่กับความแปลกของร่างกายแต่กลับไม่รู้สึกรังเกียจ บางทีถ้าเขาลองใช้เวลาอยู่กับมารร้ายตรงหน้าเฉกเช่นเดียวกับอดีตที่ผ่านมา อาจจะทำให้ความรู้สึกที่เป็นอยู่นี้กระจ่างขึ้นบ้าง และรู้ว่าควรทำอย่างไรและเลือกอย่างไร
"ก้ได้ท่านรีไว ข้าจะยอมอยู่กับท่านที่นี่สักระยะ จนกว่าร่างกายของข้าจะกลับเป็นปกติ"
ใบหน้ามนหวานก้มลงต่ำอย่างครุ่นคิด ก่อนนัยน์ตาสีมรกตจะขึ้นสบกับใบหน้าคมคายอีกครั้งราวกับนึกสิ่งใดออก
"แต่ท่านต้องแจ้งทางมหาเทพเอลวินว่าข้าอยู่กับท่านจนกว่าร่างกายข้าจะปกติ มิเช่นนั้้นมหาเทพคงส่งคนออกตามหาตัวข้า และที่แรกที่เขาจะตามมาคือที่นี่อย่างแน่นอน"
"ก้ได้ท่านรีไว ข้าจะยอมอยู่กับท่านที่นี่สักระยะ จนกว่าร่างกายของข้าจะกลับเป็นปกติ"
ใบหน้ามนหวานก้มลงต่ำอย่างครุ่นคิด ก่อนนัยน์ตาสีมรกตจะขึ้นสบกับใบหน้าคมคายอีกครั้งราวกับนึกสิ่งใดออก
"แต่ท่านต้องแจ้งทางมหาเทพเอลวินว่าข้าอยู่กับท่านจนกว่าร่างกายข้าจะปกติ มิเช่นนั้้นมหาเทพคงส่งคนออกตามหาตัวข้า และที่แรกที่เขาจะตามมาคือที่นี่อย่างแน่นอน"
"ไม่ต้องห่วงข้อนั้นเอเลนของข้า หากเจ้างั่งนั้นมาให้เกียรติมาถึงเมืองมารแห่งนี้จริง ยอมเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วที่จะเตรียมการต้อนรับมันอย่างสมศักดิ์ศรีเลยทีเดียว ยังไงข้าก็ไม่มีวันยอมให้มันพรากเจ้าไปจากข้า เว้นก็แต่มันเป็นความประสงค์ของเจ้า หากสุดท้ายเจ้าปราถนาที่จะตีจากข้าและทอดทิ้งบุตรแห่งเราข้าคงทำได้แค่ทรมานอยู่เพียงลำพัง" ดวงตาคมกล้ามองสบไปนัยน์ตามรกตด้วยสายตาเว้าวอน เสียงกระด้างในช่วงแรกของประโยคค่อยๆเบาลงจนแทบจางหายจากความเจ็บปวดยามเมื่อคำนึงถึงเวลาที่เอเลนอาจตีจาก
ร่างโปร่งถอนหายใจ ก่อนมือบางจะดันใบหน้าคมคายให้ออกห่าง
"ถ้าท่านเห็นเเก่ข้า อย่าทำให้เรื่องนี้วุ่นวาย เเจ้งท่านเอลวินซะ ผู้ที่จะเป็นห่วงข้าจนเเทบพลิกผืนพิภพคงมีมิคาสะด้วยเเน่เเท้ เเละข้าไม่ได้อยากให้เรื่องของร่างกายที่เเปลกไปนี้ถึงหูใครอื่น เพราะยังไงข้าก็เป็นบุรุษ หวังว่าท่านจะเข้าใจ.....ท่านรีไว"
"ถ้าท่านเห็นเเก่ข้า อย่าทำให้เรื่องนี้วุ่นวาย เเจ้งท่านเอลวินซะ ผู้ที่จะเป็นห่วงข้าจนเเทบพลิกผืนพิภพคงมีมิคาสะด้วยเเน่เเท้ เเละข้าไม่ได้อยากให้เรื่องของร่างกายที่เเปลกไปนี้ถึงหูใครอื่น เพราะยังไงข้าก็เป็นบุรุษ หวังว่าท่านจะเข้าใจ.....ท่านรีไว"
"ไม่ต้องลำบากให้ผู้ร่วงลงจากฟ้าไปเเจ้งข้าหรอก" เสียงทุ้มคุ้นเคยดังก้องในห้องนอนของพญามาร
นัยน์ตาสีมรกตสบมองกับต้นเสียง ดวงเนตรสีฟ้าฉายเเววไม่พอใจเด่นชัด
"ท่านเอลวิน!"
เจ้าคิดว่าเมื่อย่างกรายไปบนสวรรค์จะหลบสายตาข้าพ้นงั้นรึรีไว ไม่มีสิ่งใดรอดพ้นสายตาข้า เจ้าเองน่าจะรู้ดี" นัยน์ตาสีท้องฟ้าชำเลืองมองมารร้ายก่อนจะย่างกายเข้าหาร่างบอบบางที่นั่งอยู่บนเตียง
"ท่านมาได้อย่างไรกัน?" เสียงใสเอ่ยถามอยากเเปลกใจ
ใบหน้าใจดียิ้มอ่อนโยนให้เทวาหนุ่มก่อนจะดึงร่างบางให้ลุกขึ้นเข้ามาในอ้อมกอดของตน
"ข้าจะดูเเลเเละจัดการเรื่องเอเลนเอง ไม่จำเป็นต้องลำบากท่านหรอกซาตาน ในเมื่อตอนนี้ธุระของเจ้าทั้งสองคงจบลงเเล้วข้าจะขอเอาตัวเอเลนกลับ"
นัยน์ตาสีมรกตสบมองกับต้นเสียง ดวงเนตรสีฟ้าฉายเเววไม่พอใจเด่นชัด
"ท่านเอลวิน!"
เจ้าคิดว่าเมื่อย่างกรายไปบนสวรรค์จะหลบสายตาข้าพ้นงั้นรึรีไว ไม่มีสิ่งใดรอดพ้นสายตาข้า เจ้าเองน่าจะรู้ดี" นัยน์ตาสีท้องฟ้าชำเลืองมองมารร้ายก่อนจะย่างกายเข้าหาร่างบอบบางที่นั่งอยู่บนเตียง
"ท่านมาได้อย่างไรกัน?" เสียงใสเอ่ยถามอยากเเปลกใจ
ใบหน้าใจดียิ้มอ่อนโยนให้เทวาหนุ่มก่อนจะดึงร่างบางให้ลุกขึ้นเข้ามาในอ้อมกอดของตน
"ข้าจะดูเเลเเละจัดการเรื่องเอเลนเอง ไม่จำเป็นต้องลำบากท่านหรอกซาตาน ในเมื่อตอนนี้ธุระของเจ้าทั้งสองคงจบลงเเล้วข้าจะขอเอาตัวเอเลนกลับ"
"ปล่อยตัวเมียข้าเจ้างั่ง อย่าแส่ไม่เข้าเรื่อง " น้ำเสียงเฉยชาเอ่ยออกไปพร้อมๆกับที่ปลายหอกทมิฬแทงทะลุบ่าของมหาเทพอย่างรวดเร็ว ไร้เสียง ไร้สัญญาณเตือน ร่างแกร่งประคองเอวบางของเทวาผู้เป็นที่รักมาโอบรัดไว้อย่างหวงแหน ดวงตาแดงฉานเปนประกายกล้า
"ใครเป็นเมียท่านกัน!!" เอเลนผลักอกแกร่งของมารร้ายออก ใบหน้าหวานขึ้นสี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโกรธหรืออายกันแน่
ร่างโปร่งบางวิ่งเข้าหามหาเทพหนุ่ม สีหน้าฉายแววความเป็นห่วงต่อบาดแผลที่มหาเทพเอลวินได้รับ มือใหญ่ของมหาเทพวางลงบนผมสีน้ำตาลพลางส่ายหน้าช้าๆเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร
นัยน์ตาสีท้องฟ้าเหลือบมองซาตานพลางยิ้มเย้ยหยัน แค่นี้ก็เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าเทวาหนุ่มเลือกผู้ใดมากกว่ากัน
ร่างโปร่งบางวิ่งเข้าหามหาเทพหนุ่ม สีหน้าฉายแววความเป็นห่วงต่อบาดแผลที่มหาเทพเอลวินได้รับ มือใหญ่ของมหาเทพวางลงบนผมสีน้ำตาลพลางส่ายหน้าช้าๆเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร
นัยน์ตาสีท้องฟ้าเหลือบมองซาตานพลางยิ้มเย้ยหยัน แค่นี้ก็เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าเทวาหนุ่มเลือกผู้ใดมากกว่ากัน
"อ่าาาา ตายหล่ะนี่ข้ามาขัดจังหวะครอบครัวสุขสันต์ของเจ้ารึปล่าวเอเลน!!!" มือขวาสติเฟื่องของจอมมาร กล่าวทะลุกลางรังสีฆ่าฟันโดยไม่สนใจบรรยากาศใดๆ ฮันซี่เดินทอดน่องสบายใจมาหาเอเลนก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงบรรเทิงใจเป็นหนักหนา
"แต่เอ....ไม่น่าจะใช่นะ เท่าที่ดูคุณผมวิกนี้คงจะเป็นพ่อตาเธอสินะเอเลน หว่าๆแบบนี้ดูท่าไม่ดีแน่นายท่านรีไว ลูกท่านอาจจะต้องใส่วิกตั้งแต่ยังเด็กตามกรรมพันธุ์ป๊ะป๋าของเอเลนก็ได้" กล่าวต่อก่อนจูงมือเอเลนมาจากเอลวินช้าๆ ให้มายืนเคียงข้างนายของตนที่รีบกอดกระชับเอวบางของเมียรักแนบกายทันที จากนั้นถอยห่างออกมาเล็กน้อยกอดอกทำหน้าครุ่นคิดเกินกว่าเหตุพร้อมยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบคาง
"ถ้าลำพังตัวพ่อแท้ๆอย่างนายท่านกับคุณแม่คนงามอย่างเอเลน บุตรคงออกมาหน้าตางดงามน่าดูชม แต่พอเห็นพ่อตาแบบนี้..." กล่าวพร้อมชำเลืองมองไปทางมหาเทพด้วยการเหยียดยิ้มมุมปากเล็กๆ ต่อด้วยทอดถอนใจหนักหน่วงพูดจาต่อหน้าเอลวินที่ยืนนิ่งอย่างสงบสติอารมณ์โดยตรง
"ถ้าข้าเป็นท่าน ข้าคงจะไปเสียให้พ้น ไม่มานั่งทำตัวบาปหนาพยายามแยกผัวแยกเมียพรากลูกผู้อื่นแบบนี้ คนรักกันจะสมสู่ร่วมรักกันเยี่ยงใดย่อมเป็นสิทธิ์ของพวกเค้า หาใช่พ่อตาแบบท่านไม่ แค่นายข้าต้องมาปวดหัวเพราะเกรงว่าบุตรจะอาภัพผมเยี่ยงท่านก็หนักหนาพอแล้ว ฮิๆ"
"ปากคอเจ้านี่คงได้มาจากนายไม่ผิดเเน่ฮันซี่ จะว่าไปมิเกะก็ฝากความคิดถึงมาหาเจ้าเช่นกัน น่าเสียดายที่เขาไม่ได้มาเจอเจ้าด้วยตนเอง มิเกะคงดีใจที่เห็นว่าเจ้าสบายดีเเละยังหาเรื่องกวนประสาทเช่นเดิม" มหาเทพเอลวินถอนหายใจ ก่อนจะชำเลืองมอง
"ข้าไม่คิดจะพรากคนรักออกจากกันหรอกนะ เพียงเเต่ดูเหมือนเด็กน้อยของข้าจะไม่ได้คิดเช่นดังที่พวกเจ้ายัดเยียดให้" ใบหน้าใจดียิ้มบางก่อนนัยน์ตาสีฟ้าจะมองอย่างดูเเคลนใส่มารร้าย
"เจ้ามาตอนนี้ก็ดีฮันซี่ ข้าอยากรู้ว่าบุตรของเอเลนจะกำเนิดเมื่อใด? เท่าที่ข้ารู้มาจากการคาดเดาของมิเกะ เอเลนที่อุ้มท้องความวิปลาสของพวกเจ้าอยู่ในวิกฤตที่อันตรายถึงชีวิต" มหาเทพเหยียดยิ้มเย้ยหยันต่อจอมมาร
"ข้าไม่คิดจะพรากคนรักออกจากกันหรอกนะ เพียงเเต่ดูเหมือนเด็กน้อยของข้าจะไม่ได้คิดเช่นดังที่พวกเจ้ายัดเยียดให้" ใบหน้าใจดียิ้มบางก่อนนัยน์ตาสีฟ้าจะมองอย่างดูเเคลนใส่มารร้าย
"เจ้ามาตอนนี้ก็ดีฮันซี่ ข้าอยากรู้ว่าบุตรของเอเลนจะกำเนิดเมื่อใด? เท่าที่ข้ารู้มาจากการคาดเดาของมิเกะ เอเลนที่อุ้มท้องความวิปลาสของพวกเจ้าอยู่ในวิกฤตที่อันตรายถึงชีวิต" มหาเทพเหยียดยิ้มเย้ยหยันต่อจอมมาร
"บอกข้าทีสิรีไวทำไมความรักที่เจ้าพร่ำพรรณาถึงได้เห็นเเก่ตัว น่าดูเเคลน เเละน่าดูถูกเยี่ยงนี้ อ้างว่ารักเทวาน้อยของข้าเเต่สิ่งที่เจ้าฝากไว้มันกำลังทำลายคนที่เจ้าพร่ำว่ารักหนักหนา เห็นทีข้าจะมองว่าเจ้าอยากได้พลังของเทวาในตัวเอเลนผสมกับพลังมารร้ายของเจ้าเพื่อก่อเกิดขุมพลังใหม่ให้เเก่เจ้ามากกว่าสินะ"
คำกล่าวของมหาเทพทำให้ร่างบางถึงกับตื่นตระหนก เหงื่อเย็นไหลซึมกาย นอกจากการอุ้มท้องที่ผิดเเปลกนี้ตัวเขาเองก็จะสลายไปเมื่อเมล็ดพันธุ์เเห่งหายนะนี้ถือกำเนิดงั้นสิ!!
ใบหน้ากลมมนตวัดมองหน้ามารร้ายที่บัดนี้เบนหลบสายตาจากเขา ในอกซ้ายยิ่งบีบรัด ทั้งที่คิดว่าจะยอมเชื่อเเต่ผลสุดท้ายมารร้ายก็ดีเเต่หลอกลวงเท่านั้นสินะ.........
คำกล่าวของมหาเทพทำให้ร่างบางถึงกับตื่นตระหนก เหงื่อเย็นไหลซึมกาย นอกจากการอุ้มท้องที่ผิดเเปลกนี้ตัวเขาเองก็จะสลายไปเมื่อเมล็ดพันธุ์เเห่งหายนะนี้ถือกำเนิดงั้นสิ!!
ใบหน้ากลมมนตวัดมองหน้ามารร้ายที่บัดนี้เบนหลบสายตาจากเขา ในอกซ้ายยิ่งบีบรัด ทั้งที่คิดว่าจะยอมเชื่อเเต่ผลสุดท้ายมารร้ายก็ดีเเต่หลอกลวงเท่านั้นสินะ.........
"เจ้านี่สันดารไม่เปลี่ยนเลยนะเอลวิน... ใช้คำพูดบงการผู้อื่น เหมือนชี้นำทางสว่างแต่แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงการจูงใจหลอกล่อเพื่อควบคุมให้ผู้อื่นคล้อยตาม ช่างเป็นแมงมุมชราที่ชักใยได้น่ารังเกียจเสียจริง สำหรับในเรื่องของบุตร...แน่นอนบิดาย่อมรักบุตรที่เกิดกับคนที่ตนรัก ข้าหวังเพียงแค่ต้องการสร้างครอบครัวและข้าก็ยอมรับด้วยว่าอีกประการก็เพื่อผูกมัดเอเลนไว้ตลอดไปข้าทำมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่มาเพื่อกล่าวคำขอโทษหรือยอมจำนนหรือมาหลอกลวงแต่ประการใด ข้าทำเพื่อให้รู้ว่าข้าพร้อมแล้วสำหรับทุกสิ่งขอเพียงเพื่อให้ได้รักคืนมา เพื่อทวงคืนเอเลนมาสู่ข้า... แต่หากข้าต้องเลือกอย่างที่ได้ตกลงกับฮันซี่ไว้แล้ว ถึงต้องฉีกทึ้งเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองเพื่อเอเลนข้าก็จะทำ ข้าอยู่ไม่ได้หากขาดเจ้าเอเลน....ข้าทรมานและทนทุกข์มาแสนนานจากความโง่งมของตนเองที่เชื่อเพื่อนสนิทข้างกายอย่างเจ้าเอลวิน!!! เชื่อคำลวงของเจ้าที่ทำเหมือนชี้นำข้า ให้ข้าทิ้งเอเลนไปเพื่อตัวเอเลนเอง ให้ข้าทอดทิ้งรักเดียวของข้าเพื่อความถูกต้อง!! พอกันทีต่อแต่นี้ไปเอเลนเจ้าจงฟังข้า ข้าขอสัญญามันจะไม่มีวันที่ข้าจะโง่ซ่ำสอง ไม่มีอีกแล้วที่ข้าจะทอดทิ้งเจ้าไว้เดียวดาย ได้โปรดให้โอกาสข้า มอบรักและจิตวิญญาณให้ข้าได้ดูแลอีกครั้ง"
จอมซาตานกุมมือน้อยทั้งสองไว้มั่นแนบอกซ้ายที่เต้นระรัวของตน มือหนึ่งเชยคางมนขึ้นประสานสายตาคมจ้องลึกตรึงลงไปในดวงเนตรงามลึกซึ้ง ทุกคำพูดเอ่ยชัดให้ซึมเข้าถึงหัวใจของเทวาผู้เป็นที่รักเบื้องหน้า
มือบางกำเเน่น ทั้งสับสนเเละไม่เข้าใจว่าสิ่งใดจริงเเท้กันเเน่? มหาเทพถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างระอา
"ผิดเเล้วรีไว ข้าเพียงบอกว่าความรักคือตัณหาเจ้าควรตัดใจเสีย เเต่ผู้ที่เลือกทางเดินนี้ก็คือเจ้าเองรีไว เด็กน้อยที่ตอนนั้นเจ้าทอดทิ้งข้าเองก็เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ ดูเอาเถอะมารร้าย ข้ามิเคยล่อหลอกผู้ใด เพียงเเค่ชี้เเนะเท่านั้น"
"ผิดเเล้วรีไว ข้าเพียงบอกว่าความรักคือตัณหาเจ้าควรตัดใจเสีย เเต่ผู้ที่เลือกทางเดินนี้ก็คือเจ้าเองรีไว เด็กน้อยที่ตอนนั้นเจ้าทอดทิ้งข้าเองก็เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ ดูเอาเถอะมารร้าย ข้ามิเคยล่อหลอกผู้ใด เพียงเเค่ชี้เเนะเท่านั้น"
คำกล่าวของมหาเทพที่เคารพเเม้จะน่าเชื่อถือเเต่เอเลนกลับรู้สึกเกิดตะกอนในใจ ราวกับว่าตัวเขาเป็นเบี้ยที่ถูกวางบนกระดาน โดนชักนำจากบุคคลที่ครั้งนึงเคารพยิ่งกว่าสิ่งใด เเละอีกหนึ่งที่เลี้ยงดูมาจนเชื่อมากกว่าใคร เเต่บัดนี้ราวกับเเท้จริงเเล้วเขาเป็นเบี้ยที่โดนบังคับให้เดิน ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ข้าจะเลือกหนทางของตนเอง!!
มือบางละออกจากมือเเกร่งที่กุม ใบหน้าหวานหันมองไปยังหญิงสาวสวมเเว่นหนา
"คุณฮันซี่บอกข้าทีว่าเด็กตนนี้จะกำเนิดเมื่อไรเเละจะเกิดอะไรขึ้นกับข้า?"
มือบางละออกจากมือเเกร่งที่กุม ใบหน้าหวานหันมองไปยังหญิงสาวสวมเเว่นหนา
"คุณฮันซี่บอกข้าทีว่าเด็กตนนี้จะกำเนิดเมื่อไรเเละจะเกิดอะไรขึ้นกับข้า?"
"หืมม์....ดีใจจังที่เอเลนถามคำถามนี้ออกมา เอาหล่ะตามที่ข้ากับสามีเจ้าคิดกันไว้ ก่อน...เอิ่ม...ก่อนที่จะมีพ่อตาแก่ๆ เอ....หรือสมภารวิกกินไก่วัดนี้มาขัดหรือก่อนที่หมอจมูกหมาจะมาลงความเห็นมั่วๆมากกว่านี้ ทางเราได้วางแผนชิงตัวเอเลนมาก็เพื่อดูแลเจ้าและบุตรอย่างใกล้ชิด สามีของเจ้าพร้อมที่จะดูแลเจ้าได้ตลอดเวลา ส่วนครรภ์เจ้าอีกไม่น่าจะเกินสามสิบทิวานี้จะครบกำหนดแน่นอน และทางเดียวที่จะไม่ให้ทารกฉีกครรภ์เจ้าออกมาได้คือเจ้าต้องแข็งแกร่งมากพอและสามารถเลี้ยงดูตัวอ่อนได้อย่างสมบูรณ์ภายในครรภ์ของเจ้าซึ่งทางเดียวที่จะเติมเต็มได้คือโลหิต การดื่มโลหิตสดๆซึ่งแน่นอนบนปุยเมฆนุ่มๆเหมือนสมองของพวกปีกขาวข้างบนนั้นหาให้เจ้าดื่มไม่ได้แน่ ยิ่งโดยเฉพาะโลหิตที่แข็งแกร่งพอจะเป็นขุมกำลังให้แก่ครรภ์เจ้าได้อย่าง....โลหิตแห่งซาตาน ซึ่งแน่นอนถึงเจ้าไม่ต้องการแต่เชื่อข้าเถอะสามีเจ้าคงจับกรอกปากเจ้าด้วยความยินดีได้ทุกเวลาตามแต่ความอยากของเจ้า หรือถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ข้ารับรอง... สามีของเจ้าจะตัดผ่านครรภ์เข้าไปด้วยความเร็ว คมแต่บางเฉียบเพื่อทำลายตัวอ่อนก่อน จากนั้นทั้งข้าและสามีเจ้าจะเอาตัวอ่อนออกทันที และข้าจะรีบปิดบาดแผลทันที แม้แต่รอยแผลก็จะผสานกันอย่างรวดเร็วโดยฝีมือข้า โปรดเชื่อใจข้าเอเลนน้อย...ฮะแฮ่ม!!! สูติแพทย์ผู้นี้จะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง เพราะชีวิตของข้าก็ฝากไว้กับเจ้าเช่นกัน หากงานนี้ข้าพลาดข้าก็ไม่เหลือซากเช่นกัน ดังนั้นข้าขอสัญญาด้วยชีวิตของข้าเลยแล้วกัน" ฮันซี่ยื่นนิ้วก้อยของตนเข้าเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเอเลน ดวงตาวิบวับเป็นประกายภายใต้กรอบแว่นหนาขยิบเล็กน้อยให้กับเอเลนก่อนพยักหน้าให้แก่กัน
"ข้าเข้าใจเเล้ว" เอเลนหันสบมองหน้าซาตานชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจ
"ถ้าอย่างนั้นข้าจะอยู่กับท่านฮันซี่จนกว่าบุตรจะกำเนิด เเละระหว่างนั้นข้าขอให้ท่านเอลวินอยู่ด้วย" เอเลนมองยังบุรุษทั้งสองพลางขอร้อง
"เเละหลังจากนั้นข้าจะขอคิดอีกทีว่าจะทำอย่างไร เเละถ้าท่านทั้งสองยังคิดล่อหลอกข้าถึงครานั้นทั้งบุตรเเละตัวข้า ข้าจะเป็นผู้จัดการเอง"
มือบางขยับไหวปรากฎหอกเเสงสว่างในมือ นัยน์ตาดื้อรั้นวาวโรจน์อย่างมุ่งมั่นต่อการตัดสินใจของตน
"ถ้าอย่างนั้นข้าจะอยู่กับท่านฮันซี่จนกว่าบุตรจะกำเนิด เเละระหว่างนั้นข้าขอให้ท่านเอลวินอยู่ด้วย" เอเลนมองยังบุรุษทั้งสองพลางขอร้อง
"เเละหลังจากนั้นข้าจะขอคิดอีกทีว่าจะทำอย่างไร เเละถ้าท่านทั้งสองยังคิดล่อหลอกข้าถึงครานั้นทั้งบุตรเเละตัวข้า ข้าจะเป็นผู้จัดการเอง"
มือบางขยับไหวปรากฎหอกเเสงสว่างในมือ นัยน์ตาดื้อรั้นวาวโรจน์อย่างมุ่งมั่นต่อการตัดสินใจของตน
นัยน์ตาคมลุกโชติแต่ก่อนที่จะได้โต้แย้งไปมากกว่านี้จอมมารกลับถูกร่างของมือขวาคนสนิทบังไว้ก่อนเอ่ยขัดขึ้น "เป็นอันตกลงตามนี้ก็ได้เอเลนที่รัก!! ตอนนี้เพื่อสภาพอารมณ์ของตัวคุณแม่ และเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์เราจะยึดความต้องการของเอเลนเป็นสำคัญ จริงไหมคุณพ่อของเด็ก อ๋อแล้วก็....เอิ่มคุณคนข้างบ้านจอมเสนอหน้า" ฮันซี่หันไปกล่าวเชิงถามนายของตนก่อนปรายตาไปทางมหาเทพ
"ชิ!! ได้ถ้าเอเลนต้องการก็ตามนั้น"จอมซาตานตอบกลับพร้อมกอดอกจ้องมองไปที่เอเลน
ใบหน้าหวานยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นใบหน้าเฉยชานั้นจำใจยอมตามข้อตกลง
"เพื่อความปลอดภัยของร่างกายข้า" เอเลนเอียงคอใช้ความคิดชั่วครู่
"ข้าควรพักอยู่กับท่านฮันซี่เพื่อคอยสังเกตการเปลี่ยนเเปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอด"
มหาเทพครุ่นคิดตามที่เทวาหนุ่มน้อยเสนอก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
"เช่นนั้นน่าจะดีกับตัวเจ้า ให้อยู่ในสายตาของคนที่ก่อเหตุอาจทำให้ปลอดภัยกว่า" นัยน์ตาสีท้องฟ้าปรายสายตาราวกับตำหนิจอมวายร้ายต้นเหตุทั้งสอง
"เพื่อความปลอดภัยของร่างกายข้า" เอเลนเอียงคอใช้ความคิดชั่วครู่
"ข้าควรพักอยู่กับท่านฮันซี่เพื่อคอยสังเกตการเปลี่ยนเเปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอด"
มหาเทพครุ่นคิดตามที่เทวาหนุ่มน้อยเสนอก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
"เช่นนั้นน่าจะดีกับตัวเจ้า ให้อยู่ในสายตาของคนที่ก่อเหตุอาจทำให้ปลอดภัยกว่า" นัยน์ตาสีท้องฟ้าปรายสายตาราวกับตำหนิจอมวายร้ายต้นเหตุทั้งสอง
"น่ารำคาญคนนอกเช่นเจ้าพล่ามมากมายเยี่ยงนี้" จอมมารจ้องตรงไปทางมหาเทพ ก่อนคลายมือที่กอดอกไว้ หยัดกายตรงจากท่ายืนพิงก้าวเดินมาหยุดหน้าเทวาร่างสูง
"พล่ามจบเสียที แต่ถ้าจะให้ดีไสหัวไปเลยก็ดีนะเจ้างั่ง"
ไม่รอคำพูดตอบกลับ ร่างแกร่งก้าวเดินผ่านไปหาเทวาอันเป็นที่รัก ช้อนตัวเอเลนอุ้มขึ้นแนบอกพาเดินออกไปหน้าตาเฉย กล่าวทิ้งท้ายไม่สนใจสีหน้าอึ้งของผู้ใดหรือสีหน้าตกใจปนเขินอายของเอเลนแม้แต่น้อย
"ข้าจะพาเมียข้าไปดูห้อง ฮันซี่เจ้าตามข้ามา ส่วนใครที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าสะเออะ"
เอลวินยักไหล่ ก่อนจะก้าวเดินตาม ไม่สนใจคำติเตียนของจอมซาตานที่ทำตัวราวจงอางหวงไข่
"จะว่าข้าไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร ในเมื่อเอเลนก็เหมือนบุตรชายข้า นั่นก็หลานข้าล่ะนะ" นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองใบหน้าไม่สบอารมณ์ของมารร้ายพลางหัวเราะน้อยๆ
"มีท่านเอลวินอยู่ด้วยทำให้ข้าอุ่นใจมากกว่า" เอเลนว่าพลางเอี้ยวตัวออกจากอ้อมอกเเกร่งไปคว้าเเขนกำยำของมหาเทพ
ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อเหลือบมองใบหน้ารำคาญใจของมารร้าย จะให้บอกได้ไงกันว่าเวลาอยู่กับซาตานเอาเเต่ใจนั่นใจเขาสงบไม่ลงเเม้เเต่น้อย ทั้งโกรธกับสิ่งที่เกิดทั้งหวาดหวั่นกับการเปลี่ยนเเปลงของร่างกาย เเต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าคำพูดหวานหูที่พญามารพร่ำบอกทำเขาโอนอ่อนเพียงใด อยากเชื่อเต็มหัวใจขนาดไหน………
"จะว่าข้าไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร ในเมื่อเอเลนก็เหมือนบุตรชายข้า นั่นก็หลานข้าล่ะนะ" นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองใบหน้าไม่สบอารมณ์ของมารร้ายพลางหัวเราะน้อยๆ
"มีท่านเอลวินอยู่ด้วยทำให้ข้าอุ่นใจมากกว่า" เอเลนว่าพลางเอี้ยวตัวออกจากอ้อมอกเเกร่งไปคว้าเเขนกำยำของมหาเทพ
ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อเหลือบมองใบหน้ารำคาญใจของมารร้าย จะให้บอกได้ไงกันว่าเวลาอยู่กับซาตานเอาเเต่ใจนั่นใจเขาสงบไม่ลงเเม้เเต่น้อย ทั้งโกรธกับสิ่งที่เกิดทั้งหวาดหวั่นกับการเปลี่ยนเเปลงของร่างกาย เเต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าคำพูดหวานหูที่พญามารพร่ำบอกทำเขาโอนอ่อนเพียงใด อยากเชื่อเต็มหัวใจขนาดไหน………
"เจ้าแน่ใจหรือเอเลน โลหิตที่เจ้าดื่มจากแฟร์รี่นั้นไม่พอเลี้ยงดูบุตรของเราอย่างแน่นอน ยิ่งตอนนี้เจ้าจะยิ่งกระหายมากขึ้นจนเรียกได้ว่าตลอดเวลา ข้าก็เพียงแค่คิดแทนเจ้าว่า เจ้าคงไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นความกระหายของเจ้าแบบตอนนี้....ก็เท่านั้น"
ไม่พูดพล่ามนานจอมมารจ้องตรงไปในสายตากลมโตที่มีแววตระหนก แสยะยิ้มเล็กๆ กระชับวงแขนแนบร่างบอบบางเข้าจนแทบจมหายไปในอกแกร่ง จัดใบหน้าหวานเข้าแนบซอกคอ ก่อนใช้เล็บทมิฬแหลมคมปาดเส้นเลือดลำใหญ่เส้นหนึ่งของตน เลือดสีสดไหลกระเซ็นต้องผิวละเอียดได้เพียงนิด ดวงตากลมสีมรกตก็เบิกกว้าง ก่อนพุ่งใบหน้าเข้าซุกดูดดื่มโลหิตสีสดอย่างตะกรุมตะกราม ใบหน้าคมยกยิ้มหยั่นมองไปทางมหาเทพ ก่อนเงยคางขึ้นสูงเพื่อให้เทวาน้อยดื่มกินได้ตามใจ "ใจเย็นเมียข้า เจ้าดื่มกินได้เท่าที่เจ้าต้องการแน่นอน ตราบที่อยู่ข้างกายข้า"
มหาเทพเอลวินมองพญามารกับเทวาหนุ่มน้อยอย่างครุ่นคิด ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มขำ
"เจ้าช่างเป็นซาตานที่น่ารักรีไว" นัยน์ตาสีฟ้าใสเหลือบมองหน้าที่ไม่สบอารมณ์พลางเอ่ยต่อ
"เป็นเเหล่งอาหารเเละพลังงานเคลื่อนที่ที่เเสนสะดวกสบาย อย่างนี้เด็กน้อยของข้าคงไม่ลำบาก"
"เจ้าช่างเป็นซาตานที่น่ารักรีไว" นัยน์ตาสีฟ้าใสเหลือบมองหน้าที่ไม่สบอารมณ์พลางเอ่ยต่อ
"เป็นเเหล่งอาหารเเละพลังงานเคลื่อนที่ที่เเสนสะดวกสบาย อย่างนี้เด็กน้อยของข้าคงไม่ลำบาก"
เอลวินเลิกให้ความสนใจกับท่าทางหวงก้างของซาตาน เเละมาสนใจกับยัยจอมเพี้ยนตัวก่อเหตุอีกรายเเทน
"ฮันซี่เจ้าคงเตรียมการเรื่องเอเลนไว้อยู่ละสินะ เเต่การคำนวนเรื่องการคลอดของเจ้าอาจคาดเคลื่อน มิเกะบอกกับข้าว่าถ้าเป็นโลหิตทั่วไปคงไม่เท่าไร เเต่การได้รับเลือดจากจอมซาตานโดยตรงอานุภาพจะยิ่งรุนเเรง เเละครรภ์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว"
มหาเทพตีสีหน้าเคร่งขรึมก่อนกล่าวต่อ
"เเม้จะไม่ได้ตั้งใจเเต่ก่อนเอเลนมาที่นี้ เทวาน้อยของข้าได้เผลอดื่มโลหิตข้าไปด้วย ดังนั้นตอนนี้นับว่าการคำนวนเดิมของเจ้าจะต้องเคลื่อนเเน่นอน"
"ฮันซี่เจ้าคงเตรียมการเรื่องเอเลนไว้อยู่ละสินะ เเต่การคำนวนเรื่องการคลอดของเจ้าอาจคาดเคลื่อน มิเกะบอกกับข้าว่าถ้าเป็นโลหิตทั่วไปคงไม่เท่าไร เเต่การได้รับเลือดจากจอมซาตานโดยตรงอานุภาพจะยิ่งรุนเเรง เเละครรภ์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว"
มหาเทพตีสีหน้าเคร่งขรึมก่อนกล่าวต่อ
"เเม้จะไม่ได้ตั้งใจเเต่ก่อนเอเลนมาที่นี้ เทวาน้อยของข้าได้เผลอดื่มโลหิตข้าไปด้วย ดังนั้นตอนนี้นับว่าการคำนวนเดิมของเจ้าจะต้องเคลื่อนเเน่นอน"
"นั้นมันก็เรื่องของเลือดเจ้าซึ่งมันไร้ค่าสิ้นดี แล้วก็ไสหัวไปซะอย่ามารบกวนเวลาข้า!!"
ถือโอกาสตอนมหาเทพพูดคุยกับมือขวาของตน เดินเข้าห้องเงียบเชียบอย่างรวดเร็ว เอ่ยกล่าวขับไล่ไสส่งแขกก่อนปิดประตูตบท้ายเสียงดังสนั่น ลงอักขระคาถาโบราณกำกับอย่างว่องไวแน่นหนา ไม่สนใจต่อเสียงโวยวายภายนอก กล่าวกลับไปเพีบงประโยคสั้นๆโยนภาระให้มือขวาอย่างสบายใจ
"ข้าฝากเจ้ารับแขกต่อแล้วกันฮันซี่" ก้มลงมองร่างบอบบางในอ้อมกอด ค่อยๆอุ้มพาร่างน้อยลงนอนเตียงสี่เสาอย่างนุมนวล ร่างแกร่งตามคร่อมกายลงแนบชิดเนื่องจากซอกคอยังไม่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ใบหน้ามนยังคงแนบริมฝีปากดูดซับโลหิตอย่างเมามาย
มหาเทพหนุ่มถอนหายใจพลางมองหน้ามือขวาของจอมวายร้ายที่ส่งยิ้มเเห้งๆให้พลางผิวปาก
"เอเลนอยู่กับหมอนั่นไปก่อนคงไม่เป็นไร.... ฮันซี่เรื่องของเด็กน้อยของข้าเราคงต้องวิเคราะห์กันอย่างละเอียด เพราะเลือดของเทพเเละซาตานที่เอเลนได้ดื่มไปอาจเป็นชนวนระเบิดได้ จากที่ข้าเเละมิเกะคาดเดาอาจไม่เกินสามทิวา" ใบหน้าภายใต้กรอบเเว่นหนาเริ่มตีสีหน้าจริงจัง เพื่อการคาดคะเนเเละการเตรียมรับมือฮันซี่จึงนำทางมหาเทพตรงไปยังห้องทำงานของตนทันที
เมื่อลำคอที่เเห้งผากถูกเติมเต็มใบหน้าหวานละออกจากลำคอเเกร่ง มือบางปาดคราบโลหิตเเสนหวานออกจากริมฝีปาก คิ้วมนขมวดมุ่น ทั้งรู้สึกหอมหวานจากรสเลือดเเละรังเกียจกับการกระทำของตน ใบหน้ามนเบี่ยงหลบสายตาของมารร้ายก่อนพยายามเค้นยิ้มกลบเกลื่อน
"ทั้งที่เดินจากห้องนอนของท่านมาตั้งไกล เเต่ดูเหมือนที่พำนักของจอมซาตานคงขี้เกียจน่าดู หรือไม่ที่ปราสาทของท่านคงมีเเต่ห้องนอน"
"เอเลนอยู่กับหมอนั่นไปก่อนคงไม่เป็นไร.... ฮันซี่เรื่องของเด็กน้อยของข้าเราคงต้องวิเคราะห์กันอย่างละเอียด เพราะเลือดของเทพเเละซาตานที่เอเลนได้ดื่มไปอาจเป็นชนวนระเบิดได้ จากที่ข้าเเละมิเกะคาดเดาอาจไม่เกินสามทิวา" ใบหน้าภายใต้กรอบเเว่นหนาเริ่มตีสีหน้าจริงจัง เพื่อการคาดคะเนเเละการเตรียมรับมือฮันซี่จึงนำทางมหาเทพตรงไปยังห้องทำงานของตนทันที
เมื่อลำคอที่เเห้งผากถูกเติมเต็มใบหน้าหวานละออกจากลำคอเเกร่ง มือบางปาดคราบโลหิตเเสนหวานออกจากริมฝีปาก คิ้วมนขมวดมุ่น ทั้งรู้สึกหอมหวานจากรสเลือดเเละรังเกียจกับการกระทำของตน ใบหน้ามนเบี่ยงหลบสายตาของมารร้ายก่อนพยายามเค้นยิ้มกลบเกลื่อน
"ทั้งที่เดินจากห้องนอนของท่านมาตั้งไกล เเต่ดูเหมือนที่พำนักของจอมซาตานคงขี้เกียจน่าดู หรือไม่ที่ปราสาทของท่านคงมีเเต่ห้องนอน"
"อ๋อ....เจ้าคงเบื่อห้องนอนสินะ สำหรับข้าจะที่ไหนก็ได้ขอเพียงเจ้าต้องการนะเอเลน หืมม์...." มือแกร่งจับทัดปอยผมสีน้ำตาลนุ่มมือไว้หลังหู ใบหน้าคมก้มลงต่ำประชิดริมฝีปากใกล้กันเพียงลมหายใจกั้น กล่าวถามเสียงพร่า
"เจ้าว่าไงหล่ะเอเลน"
เอเลนคว้าหมอนหนุนใบโตดันหน้ามารกามตรงหน้าให้ถอยห่าง ใบหน้าหวานสุกปลั่งด้วยความโมโหระคนความอาย
"ก่อนจะคิดเรื่องเเบบนี้ ท่านมีเรื่องต้องตอบคำถามเกี่ยวกับร่างกายข้าไม่ใช่รึไงที่ท่านเอลวินพูดหมายความว่าไง?"
"ก่อนจะคิดเรื่องเเบบนี้ ท่านมีเรื่องต้องตอบคำถามเกี่ยวกับร่างกายข้าไม่ใช่รึไงที่ท่านเอลวินพูดหมายความว่าไง?"
มารกามได้แต่ตีหน้ายุ่งเล็กน้อยก่อนถอดหายใจนึกสาปแช่งตัวมารวิกผมที่แม้ตัวจะไม่อยู่ กลับสามารถสร้างปัญหาทิ้งไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนโอบพยุงร่างบางขึ้นนั่งพิงหมอนนุ่มให้สบาย วงแขนแกร่งกอดกระชับร่างแสนรักไว้แน่น แนบใบหน้าลงกับสีข้างที่เริ่มขยายออกจากการอุ้มท้อง จุมพิตเพียงบางเบา เอ่ยปากดุจคุยกับลูกน้อยในครรภ์
"ลูกพ่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลือดของเจ้าก็ยังคงเป็นเลือดของพ่อ เจ้าสืบเชื้อสายโดยตรงจากจอมซาตานและสายเลือดเทวาจากแม่ของเจ้า สายเลือดผสมนี้ทำให้เจ้าแข็งแกร่ง ไม่มีสิ่งใดจะมาทำร้ายหรือมีผลกระทบต่อครรภ์เจ้าได้ พ่อมั่นใจ ต่อให้อายุครรภ์จะคลาดเคลื่อนเป็นวันนี้รึวันพรุ่งพ่อก็เตรียมพร้อมรอรับเจ้าได้ทุกชั่วยาม แต่พ่อขอเพียงอย่างเดียวสิ่งเดียวเท่านั้นในชีวิตนิรันดร์ของพ่อ ลูกอย่าทำร้ายแม่เลยนะ ไม่เช่นนั้นวันนั้นคงเป็นวันที่พ่อหัวใจสลายที่ต้องทำลายเจ้าทิ้ง ว่าง่ายเป็นเด็กดี ในไม่กี่วันนี้เราก็จะได้อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกแล้ว พ่ออยากเจอหน้าลูกเหลือเกิน เหลือก็แต่แม่ของเจ้าที่พ่อไม่รู้เลยว่าคิดสิ่งใดอยู่..." กระซิบตอบกับลูกน้อยแล้วจึงจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานด้วยสายตามั่นคง
"เอเลน...ไม่ว่าเมื่อใดข้าพร้อมดูแลเจ้าด้วยชีวิตของข้าเสมอ สำหรับความไม่แน่นอนในอายุครรภ์ข้ากับฮันซี่ได้คิดกันดูแล้ว จึงเตรียมการล่วงหน้ามาตลอดเพื่อให้ทุกวันพร้อมสำหรับเจ้า ด้วยเหตุนี้ข้าจึงรีบไปรับตัวเจ้ามาอยู่ด้วย เพราะข้าจะได้เฝ้าดูเจ้าได้ทุกเวลา ดังนั้นเชื่อใจข้าได้ไหมเมียข้า..."
คำว่าพ่อเเละลูกที่มารเจ้าเล่ห์พร่ำพรรณาทำให้ใจที่เเข็งขืนเริ่มอ่อนโอน มือบางวางลงบนเส้นผมสีรัตติกาล นิ้วเรียวเขี่ยผมดำขลับเล่นไปมา
"ข้าจะคอยดูว่าท่านจะทำตามลมปากที่พร่ำบอกได้หรือไม่?"
มือบางอีกข้างลูบท้องของตนที่บัดนี้เริ่มขยายนูนออกอย่างรวดเร็วจนเริ่มเด่นชัด ยิ่งดื่มโลหิตของมารร้ายมากเท่าไร ราวกับว่าท้องของเทวายิ่งขยายใหญ่โตเร็วขึ้นเท่านั้น
"ข้าจะคอยดูว่าท่านจะทำตามลมปากที่พร่ำบอกได้หรือไม่?"
มือบางอีกข้างลูบท้องของตนที่บัดนี้เริ่มขยายนูนออกอย่างรวดเร็วจนเริ่มเด่นชัด ยิ่งดื่มโลหิตของมารร้ายมากเท่าไร ราวกับว่าท้องของเทวายิ่งขยายใหญ่โตเร็วขึ้นเท่านั้น
คำตอบจากเทวาน้อยสร้างความอบอุ่นให้แก่หัวใจอันมืดมิดของจอมมารยิ่งนัก ยังผลให้นัยน์ตาคมที่ปกติมีแต่ความเฉยชาไม่ก็ดุดันเป็นประกาย ริมฝีปากปากบางเฉียบหยักยิ้มอ่อนโยนอันหาดูได้อย่างยากเย็นมอบให้ร่างบาง ก่อนก้มลงกระซิบชิดใบหน้ามน
"ขอบคุณ ขอบคุณเจ้ามากเอเลน สำหรับทุกสิ่ง สำหรับโอกาสที่เจ้ามอบให้ข้าอีกครั้ง สำหรับความรักของเรา และสำหรับครอบครัวที่เราจะสร้างร่วมกัน" จุมพิตหนักแน่นประทับลงบนกลีบปากงามเนิ่นนานบางเบาดุจขนนก
เมื่อริมฝีปากรุ่มร้อนผละออก นัยน์ตาสีมรกตฉ่ำไปด้วยความหวานจากสัมผัสของจอมซาตาน ใบหน้ามนเบนหลบสายตาหวานที่มองจ้องมา
"ข้ายังไม่ได้บอกว่าจะเป็นครอบครัวกับท่านเสียหน่อย.....อุ๊บส์!" ก่อนที่จะได้กล่าวต่อราวกับทารกในครรภ์จะรับรู้ สายเลือดน้อยกระตุกจนเทวานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ มือบางขยำลงบนชุดเสื้อผ้าของตน
หน้าท้องที่เริ่มพองออกมาการใส่ชุดธรรมดาต่อไปคงไม่ดีเเน่ เพราะกางเกงที่รัดเเน่นช่วงท้อง จอมวายร้ายตัวน้อยคงอึดอัดจนประท้วงอย่างเเน่นอน
"ข้ายังไม่ได้บอกว่าจะเป็นครอบครัวกับท่านเสียหน่อย.....อุ๊บส์!" ก่อนที่จะได้กล่าวต่อราวกับทารกในครรภ์จะรับรู้ สายเลือดน้อยกระตุกจนเทวานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ มือบางขยำลงบนชุดเสื้อผ้าของตน
หน้าท้องที่เริ่มพองออกมาการใส่ชุดธรรมดาต่อไปคงไม่ดีเเน่ เพราะกางเกงที่รัดเเน่นช่วงท้อง จอมวายร้ายตัวน้อยคงอึดอัดจนประท้วงอย่างเเน่นอน
ผู้เป็นพ่อรู้สึกได้ถึงแรงดิ้นเล็กๆของมารน้อยในครรภ์ มือแกร่งแนบสัมผัสแผ่วเบาไปที่ผิวท้องที่นูนขึ้น อีกข้างยกขึ้นประคองหน้าเมียรักด้วยความห่วงใย
"เจ้ามารน้อยดิ้นแรงนัก เจ้าคงต้องเลิกใส่ชุดประจำของเหล่าเทวาแล้วเมียข้า อดทนอีกนิดนะเด็กดี เพื่อลูกของเรา" หน้าผากแนบลง ตาคมประสานนัยน์ตาหวาน มือแกร่งเลื้อยไล้ลงไปที่ขอบกางเกงขาวบริสุทธิ์ของเทวาหน้าหวานก่อนค่อยๆปลดออกกระซิบเสียงพร่า
"เชื่อข้านะเอเลนเจ้าจะได้สบายตัวขึ้น"
มือบางลูบไปทีมือหนาซุกซนของมารร้าย เทวาหนุ่มยิ้มพราย เปลือกตาบางปิดลงก่อนจะลืมขึ้นเปลี่ยนเป็นสีทองอำพัน! พร้อมทั้งเเสงสว่างเจิดจ้าที่ผลักมารกามกระเด็นไปยังกำเเพงอีกฟากของห้อง เเสงสีนวลโอบอุ้มร่างบางก่อนอาภรณ์ชุดสูทสีขาวเดิมจะเเปรเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ ชุดยาวกรอมเท้าที่ราวกับทวยเทพในภาพของเหล่าจิตรกรเอกสีพิสุทธิ์ปกคลุมร่างบางของเทวา
ใบหน้าหวานยิ้มพรายให้ซาตานจอมลามกอีกครั้ง
"ข้าจัดการตัวเองเรียบร้อยเเล้วเชิญท่านไปเข้าคอร์สคุณพ่อมือใหม่กับท่านเอลวินเเละท่านฮันซี่จะเป็นการดีกว่า"
ไม่พูดเปล่า หอกเเสงสีขาวผ่าประตูห้องที่ปิดให้เปิดออกก่อนจะมีลำเเสงสีทองดันร่างของซาตานให้กระเด็นออกนอกประตู พลันเเสงสีขาวปรากฎขึ้นอีกครั้ง ประตูสีอร่ามถูกเนรมิตขึ้นพร้อมกลอนขนาดใหญ่ที่ล็อคอย่างเรียบร้อย เสียงหวานตะโกนออกจากห้องที่มารร้ายจ้องมองอย่างฉงน
"ข้าเเละลูกต้องการจะพักผ่อน ท่านก็ไปสะสางเรื่องซะ"
ใบหน้าหวานยิ้มพรายให้ซาตานจอมลามกอีกครั้ง
"ข้าจัดการตัวเองเรียบร้อยเเล้วเชิญท่านไปเข้าคอร์สคุณพ่อมือใหม่กับท่านเอลวินเเละท่านฮันซี่จะเป็นการดีกว่า"
ไม่พูดเปล่า หอกเเสงสีขาวผ่าประตูห้องที่ปิดให้เปิดออกก่อนจะมีลำเเสงสีทองดันร่างของซาตานให้กระเด็นออกนอกประตู พลันเเสงสีขาวปรากฎขึ้นอีกครั้ง ประตูสีอร่ามถูกเนรมิตขึ้นพร้อมกลอนขนาดใหญ่ที่ล็อคอย่างเรียบร้อย เสียงหวานตะโกนออกจากห้องที่มารร้ายจ้องมองอย่างฉงน
"ข้าเเละลูกต้องการจะพักผ่อน ท่านก็ไปสะสางเรื่องซะ"
ดูเหมือนว่าเพราะมีบุตรของซาตานอยู่ในครรภ์ เเม้จะเป็นเวทย์โบราญเก่าเเก่ที่มีเพียงเจ้าของเท่านั้นจะเเก้ได้ กลับเเก้ได้ง่ายถึงเพียงนี้ คงไม่ต้องเดาว่าทั้งมวลคงเพราะพลังจากจอมมารร้ายน้อยในครรภ์เป็นเเน่ เอเลนก้มมองมือของตนที่บัดนี้รู้สึกได้ถึงพลังมากมายที่ไหลเวียนในร่างอย่างไม่เคยเจอ ร่างบางสยายปีกสองสีของตนมองผ่านกระจกที่เห็นในห้อง
.....ทั้งที่คิดว่าตนจะถูกย้อมปีกจนเป็นสีทมิฬทั้งหมด เเต่ตอนนี้ราวกับว่าพบจุดเชื่อมต่อของเเสงสว่างเเละความมืดอย่างไม่คาดคิด
.....ทั้งที่คิดว่าตนจะถูกย้อมปีกจนเป็นสีทมิฬทั้งหมด เเต่ตอนนี้ราวกับว่าพบจุดเชื่อมต่อของเเสงสว่างเเละความมืดอย่างไม่คาดคิด
"เอเลน!!! เอเลน!!! ฮึ!!! เจ้าตัวแสบ!!!"
มารกาม เอ๊ย!! จอมมารได้แต่สบถอย่างขัดใจ ที่ดูเหมือนเมียรักจะสามารถเรียนรู้การใช้พลังทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว มือแกร่งที่ทุบลงบานประตูขาวดั่งถูกกระแสไฟฟ้าช็อต ผิวเนื้อหยาบกร้านเป็นรอยไหม้พอง
"เอเลน เปิดประตูเดี๋ยวนี้!!! อย่าดื้อ เจ้าไม่อาจพลักไสข้าได้ตลอดหรอก ฮึ่ย!!!" ได้แต่คาดโทษไว้ในใจ เมื่อใดที่มารน้อยถือกำเนิดเมื่อนั้นเจ้าจะไม่อาจใช้พลังผสมนี้ได้อีก ถึงตอนนั้นจะคิดทบต้นทบดอกซะให้เข็ด
มหาเทพเอลวินหัวเราะขำในลำคอยามเมื่อเห็นจอมซาตานที่ดูเหมือนจะถูกไล่ออกจากห้องเดินเข้ามาอย่างหัวเสียในห้องวิจัยของมือขวาคนสนิท
“โดนเอเลนไล่มาสินะท่านมารร้าย” เสียงทุ้มเย้าเย้ยขำ ยิ่งเห็นท่าทางฟึดฟัดอย่างไม่พอใจทำเอามหาเทพแทบอยากลงไปหัวเราะกับพื้น
เอเลนเด็กน้อยสมกับเป็นเทวาตัวน้อยที่เขาเลี้ยงมาเสียจริง ถึงขนาดทำจอมซาตานผู้ไม่สนใจใครให้หัวปั่นขนาดนี้ มารร้ายที่ดีแต่ล่อลวงผู้อื่น บัดนี้กลับถูกลวงหลอกจนเสียท่าเสียเองช่างน่าดูชมนัก....
“แต่เจ้าโดนไล่มาแบบนี้ก็ดี เรื่องครรภ์ของเอเลนข้ากับฮันซี่ลองคำนวณเวลาดูคร่าวๆ จากเลือดของจอมมารที่เอเลนดื่มไปกับเลือดของเทพที่เผลอดื่มจากข้าแม้เพียงเล็กน้อย เลือดที่ตีกันสองขั้วทำให้ครรภ์เติบโตเร็วผิดไปจากที่พวกเจ้าคาดไว้ตอนแรกมาก และยิ่งเอเลนได้รับเลือดคราแรกเป็นเลือดของเทพมิใช่ของจอมมารจึงอาจทำให้เกิดวิวัฒนาการของทารกในครรภ์” นัยน์ตาสีฟ้าครามจ้องมองอย่างจริงจังรวมทั้งฮันซี่มือขวาคนสนิทของรีไวที่มองไปยังหน้าของเจ้านายตนด้วยแววตาและสีหน้าจริงจัง ยิ่งยืนยันสิ่งที่มหาเทพเอ่ย
“สรุปก็คือข้าเกรงว่าไม่พ้นคืนพรุ่งนี้จอมวายร้ายตัวน้อยคงจะถือกำเนิด แต่ที่น่าห่วงยิ่งกว่าข้าเกรงว่ามารน้อยนั้นจะฉีกครรภ์เอเลนออกมา”
“โดนเอเลนไล่มาสินะท่านมารร้าย” เสียงทุ้มเย้าเย้ยขำ ยิ่งเห็นท่าทางฟึดฟัดอย่างไม่พอใจทำเอามหาเทพแทบอยากลงไปหัวเราะกับพื้น
เอเลนเด็กน้อยสมกับเป็นเทวาตัวน้อยที่เขาเลี้ยงมาเสียจริง ถึงขนาดทำจอมซาตานผู้ไม่สนใจใครให้หัวปั่นขนาดนี้ มารร้ายที่ดีแต่ล่อลวงผู้อื่น บัดนี้กลับถูกลวงหลอกจนเสียท่าเสียเองช่างน่าดูชมนัก....
“แต่เจ้าโดนไล่มาแบบนี้ก็ดี เรื่องครรภ์ของเอเลนข้ากับฮันซี่ลองคำนวณเวลาดูคร่าวๆ จากเลือดของจอมมารที่เอเลนดื่มไปกับเลือดของเทพที่เผลอดื่มจากข้าแม้เพียงเล็กน้อย เลือดที่ตีกันสองขั้วทำให้ครรภ์เติบโตเร็วผิดไปจากที่พวกเจ้าคาดไว้ตอนแรกมาก และยิ่งเอเลนได้รับเลือดคราแรกเป็นเลือดของเทพมิใช่ของจอมมารจึงอาจทำให้เกิดวิวัฒนาการของทารกในครรภ์” นัยน์ตาสีฟ้าครามจ้องมองอย่างจริงจังรวมทั้งฮันซี่มือขวาคนสนิทของรีไวที่มองไปยังหน้าของเจ้านายตนด้วยแววตาและสีหน้าจริงจัง ยิ่งยืนยันสิ่งที่มหาเทพเอ่ย
“สรุปก็คือข้าเกรงว่าไม่พ้นคืนพรุ่งนี้จอมวายร้ายตัวน้อยคงจะถือกำเนิด แต่ที่น่าห่วงยิ่งกว่าข้าเกรงว่ามารน้อยนั้นจะฉีกครรภ์เอเลนออกมา”
เอลวินหยิบผลการวิจัยและข้อสรุปที่ร่วมกันทำกับฮันซี่ยื่นให้ซาตานหนุ่ม
“ถึงแม้เทวาจะพลังการรักษาและฟื้นฟูสภาพได้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างนั้นเทวาอย่างเราและซาตานอย่างพวกท่านก็สามารถสลายไปได้เช่นกันถ้าโดนจุดสำคัญหรือการโจมตีที่รุนแรงจนร่างกายไม่อาจฟื้นสภาพได้ทัน และการที่ถูกฉีกครรภ์ออกมาอย่างรุนแรง รวมทั้งร่างกายที่จะเริ่มอ่อนแอลงจากการตั้งครรภ์....เด็กน้อยของข้ามีอัตตราเสี่ยงที่สูงมาก” เอลวินยิ้มเย็นเหยียดจอมมารร้ายที่กำลังตรวจแผ่นวินิจฉัย
“ถึงแม้เทวาจะพลังการรักษาและฟื้นฟูสภาพได้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างนั้นเทวาอย่างเราและซาตานอย่างพวกท่านก็สามารถสลายไปได้เช่นกันถ้าโดนจุดสำคัญหรือการโจมตีที่รุนแรงจนร่างกายไม่อาจฟื้นสภาพได้ทัน และการที่ถูกฉีกครรภ์ออกมาอย่างรุนแรง รวมทั้งร่างกายที่จะเริ่มอ่อนแอลงจากการตั้งครรภ์....เด็กน้อยของข้ามีอัตตราเสี่ยงที่สูงมาก” เอลวินยิ้มเย็นเหยียดจอมมารร้ายที่กำลังตรวจแผ่นวินิจฉัย
มือแกร่งกำผลรายงานแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ก่อนหันไปสนทนากับมือขวาคนสนิท
"ฮันซี่จงเตรียมการให้พร้อม จับตาดูอาการเอเลนอย่างใกล้ชิด ถ้าเพราะไอ้เลือดระยำนั้นทำให้ครรภ์เอเลนผิดปกติอย่างเจ้าว่าจริง หรือถ้ามันทำให้เอเลนเจ็บปวดเกินจะทานทนเมื่อนั้นข้าจะเปนผู้กำจัดบุตรด้วยตัวข้าเอง หากจำเป็นข้าก็จำต้องทำเพื่อเอเลน....เอเลนเพื่อเจ้าแล้วข้ายอมสิ้นซึ่งทุกสิ่ง..."
น้ำเสียงเรียบนิ่งแลไร้ซึ่งความรู้สึกรู้สาใดๆ แต่ใครจะรู้ได้ว่าท้ายประโยคที่แผ่วเบาจนคล้ายรำพึงกับตนเองนั้นบีบคั้นหัวใจพญามารยิ่งนัก เปลือกตาปิดลงคล้ายยอมรับชะตากรรมความจริงไซร้เพียงแค่ต้องการซ่อนความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสไว้ภายใต้ท่าทีอันสงบนิ่ง
การตระเตรียมจัดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเหล่าสมุนปีศาจภายใต้คำสั่งของฮันซี่ซึ่งควบคุมโดยจอมมารและการสอดแทรกของมหาเทพเป็นครั้งคราว ถึงจะสร้างความรำคาญใจแก่รีไวไม่น้อยแต่ทุกสิ่งก็เพื่อเทวาที่รักของตน ทั้งหมดเสร็จสิ้นในหนึ่งราตรี เมื่อความโกลาหลหยุดลงเหลือเพียงก็แต่เจ้าตัวที่ดื้อรั้นไม่ยอมเยื้องกายออกจากเขตอาคมที่ตนสร้าง ร่างแกร่งที่ถือเอาแก้วใส่โลหิตด้วยหวังจะนำมาให้ร่างบางดื่มได้แต่ยืนทั้งห่วงทั้งเคืองกับความดื้อรั้นของเอเลนที่เมินเฉยต่อคำอ้อนวอนให้เปิดประตูของตน
"เอเลนได้โปรด ออกมาเสีย เพื่อตัวของเจ้าเอง...." อีกครั้งที่คำร้องขอถูกอ้อนวอนออกมาจากปีศาจร้ายที่ไม่เคยทำการเยี่ยงนี้กับผู้ใด ริมผีปากบางเฉียบเริ่มเม้มแน่น มือแกร่งที่ส่งขึ้นกุมขมับใบหน้าคมแสดงอารมณ์หงุดหงิดพาลเคืองต่อมหาเทพที่ตามใจเอเลนจนเจ้าตัวดื้อดึงได้เพียงนี้
เห็นที....หากวิธีนุ่มนวลไม่ได้ผลตนคงต้องพังประตูเข้าไป!!
นัยน์ตาสีมรกตของเทวาจ้องเขม็งไปที่ประตูอาคมที่ตนสร้าง ใบหน้าหวานเปียกชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อ ลมหายใจของเทวาหนุ่มหอบกระชั้นถี่
เอเลนพยายามรวบรวมสติ มือบางขยับเเกว่งเพื่อคลายอาคมของประตู เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูอาคมถูกผลักทำลายเข้ามา
เทวาหนุ่มน้อยมองหน้าจอมมารที่ตะลึงงันกับสภาพของเขา ร่างโปร่งของเทวาหนุ่มล้มลงไปหมอบอยู่กับพื้น ท้องของเอเลนบัดนี้ขยายใหญ่จนราวกับจะเเตกออก ชุดสีขาวพิสุทธิ์ที่คลุมกายเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ ช่วงล่างของชุดเทวาเปียกปอนไปด้วยโลหิตสีเเดงฉานเเละน้ำคล่ำที่เริ่มหลั่งไหล
ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดทรมานราวกับร่างกายจะเเตกเป็นเสี่ยงๆ มือของเทวาขยำจิกลงบนพื้นหวังระบายความเจ็บปวด ทั่วทั้งร่างบางเกร็งสะท้านกับชิวิตในครรภ์ที่กำลังจะถือกำเนิด
เอเลนเเสยะยิ้มให้กับซาตานอย่างขุ่นเคือง
"ข้าเกลียดท่านชะมัดรีไว!!"
เอเลนพยายามรวบรวมสติ มือบางขยับเเกว่งเพื่อคลายอาคมของประตู เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูอาคมถูกผลักทำลายเข้ามา
เทวาหนุ่มน้อยมองหน้าจอมมารที่ตะลึงงันกับสภาพของเขา ร่างโปร่งของเทวาหนุ่มล้มลงไปหมอบอยู่กับพื้น ท้องของเอเลนบัดนี้ขยายใหญ่จนราวกับจะเเตกออก ชุดสีขาวพิสุทธิ์ที่คลุมกายเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ ช่วงล่างของชุดเทวาเปียกปอนไปด้วยโลหิตสีเเดงฉานเเละน้ำคล่ำที่เริ่มหลั่งไหล
ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดทรมานราวกับร่างกายจะเเตกเป็นเสี่ยงๆ มือของเทวาขยำจิกลงบนพื้นหวังระบายความเจ็บปวด ทั่วทั้งร่างบางเกร็งสะท้านกับชิวิตในครรภ์ที่กำลังจะถือกำเนิด
เอเลนเเสยะยิ้มให้กับซาตานอย่างขุ่นเคือง
"ข้าเกลียดท่านชะมัดรีไว!!"
"ฮันซี่ ตัวอ่อนจะคลอดแล้ว" นั่นเป็นวลีแรกที่จอมมารแผดสุรเสียงก้องไปทั่วทั้งวังมาร ก่อนปรากฏกายข้างเตียงร่างบางมือใหญ่บังคับเอาโลหิตกรอกปากซีดเซียวของเทวาที่รักกล่าวด้วยความรวดเร็ว
"เห็นแก่พระเจ้าองค์ใดของเจ้าก็ได้!!! ดื่มเดี๋ยวนี้!!! เพื่อความแข็งแกร่งของตัวเจ้าเอง และเพื่อไม่ให้ตัวอ่อนกระหายหิวจนต้องฉีกครรภ์เจ้าออกมา!!!"
เมื่อโลหิตหยดสุดท้ายหมดไปอาการสั่นสะท้านของร่างบางจึงลดลง ร่างแกร่งรีบช้อนโอบอุ้มร่างที่ครางด้วยความเจ็บปวดขึ้นแนบอกทันที "รีไว!!! ปล่อยเอเลนลงบนเตียงนี้!! เร็วเลย!!" ฮันซี่และเหล่าทีมที่เธอคัดเลือกพร้อมด้วยมหาเทพตามมาสมทบนำทางพร้อมคอยดูแลอาการเอเลนตลอดทางไปจนถึงห้องคลอด
ฮันซี่ตรวจวัดและดูระยะของตัวอ่อนอย่างว่องไว ยิ่งตรวจสีหน้ายิ่งเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ สร้างความร้อนใจอย่างมากให้แก่รีไวจนถามออกไป
ฮันซี่ตรวจวัดและดูระยะของตัวอ่อนอย่างว่องไว ยิ่งตรวจสีหน้ายิ่งเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ สร้างความร้อนใจอย่างมากให้แก่รีไวจนถามออกไป
"เป็นเช่นใด!!! ให้ข้าฆ่าตัวอ่อนเลยรึไม่??" และเสียงตอบกลับจากมือขวาคนสนิทมีเพียง...
"ไม่ทันแล้วนายท่าน ตอนนี้ตัวอ่อนพร้อมคลอดแล้ว และอีกไม่นานจะฉีกรกเอเลนแน่นอน ข้าต้องลงมือเปิดหน้าท้องเอเลนเดี๋ยวนี้!!!" เวทย์โบราณถูกเอื้อนเอ่ยขึ้น อักขระโบราณท่อแสงประกายอยู่เหนือผิวท้องเนียนจอมมารตรงเข้าลูบไล้ปลอบประโลมที่ไรผมชื้นเหงื่อ ใบหน้าหวานเหยเกบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดสาหัส มือบางกอบกุมจิกเล็บลงบนมือแกร่งแน่นเข้าจนเลือดซึม ริมฝีปากบางเฉียบจูบซับน้ำใสที่คลอหน่วยอยู่ในดวงตางามสีมรกต กระซิบอ่อนโยนและแผ่วเบา
"เอเลน..ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องทำได้ เราต้องผ่านมันไปด้วยกันให้ได้"
แต่สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อร่างคุณหมอจำเป็นเหมือนดั่งถูกแรงมหาศาลพลักกระเด็นลอยไปกระแทกกับผนังเต็มแรงจนกระอักโลหิตออกมา เสียงตะโกนชื่อถามไถ่อาการฮันซี่ดังก้องประสานกันไปมา
"ขะ...ข้าไม่เป็นไร อู้ยยย... เด็กแค่ไม่ไว้ใจข้า เจ้าตัวแสบนั่นคิดเองแล้วรีไว มันคิดว่าข้าจะทำร้ายแม่ของมัน ทำร้ายเอเลนน่ะ!!" ตอบพลางเช็ดถ่มเลือดออกจากปาก ขณะถูกประคองขึ้นอย่างยากลำบาก
"โธ่โว้ย!! แล้วที่นี้จะทำเยี่ยงไร!!!" ก่อนที่จอมมารจะคิดสั้นฆ่าบุตรของตนมหาเทพพลันเอ่ยขึ้น
"ข้าคิดว่าต้องเป็นเจ้าแล้วหล่ะรีไว เด็กน่าจะคุ้นชินและยินยอมให้บิดามารดรของตนเท่านั้น"
สิ้นเสียงทั้งห้องเงียบกริบ จอมมารก้มลงมองหน้าเมียรักที่ทำเพียงพยักหน้าเบาๆให้ ก่อนละมือออกจากใบหน้าอ่อนเยาว์ ปล่อยอีกข้างไว้ให้เอเลนกอบกุม ไม่มีคำตอบใดๆมีเพียงการกระทำ มือแกร่งวางทาบไปบนผิวท้องเนียนละเอียด อักขระโบราณทอแสงขึ้นอีกครั้ง จอมมารสัมผัสได้ถึงกระแสจิตต่อเนื่องร่ำร้องเรียกตนว่าพ่อแลขอร้องให้ช่วยแม่ให้ปลอดภัยจากตนด้วย...และแล้วก็เป็นผลเมื่อหน้าท้องกลมโตเกิดรอยกรีดคมเฉียบดั่งมีมีดที่มองไม่เห็นโลดแล่นอยู่บนผิวเนียน หากแต่รอยกรีดยังไม่ทันยาวพอกลับมีเสียงฉีกขาดของบางสิ่งภายในครรภ์เกิดขึ้น
"แย่แล้วรีไว!!! เด็กฉีกรก..."
พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงฉีกขาดดังขึ้นอีกครั้ง ร่างบางแสนรักสั่นสะท้านก่อนกระตุกรุนแรง นัยน์ตาหวานเบิกขึ้น ก่อนกระพริบถี่ด้วยสติที่เริ่มรางเลือนจากความเจ็บปวดเกินทนได้ รีไวแทบคลั่ง สติจอมมารแทบกระเจิงเมื่อเห็นเมียรักบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ แต่ก่อนที่จะเสียจริตไปกลับมีเสียงหนึ่งเข้าปลอบขวัญฉุดรั้งสติของตนไว้ก่อน...
เป็นสัมผัสที่ชัดเจน กระแสจิตรุนแรง ที่เรียกร้องถึงพ่อและร่ำร้องให้ช่วยแม่... จอมมารไม่ฟังเสียงพากษ์ใดๆจากใครอีก เพ่งจิตแน่วแน่ หยาดเหงื่อไหลซึม จนกระทั่งการกรีดสำเร็จลุล่วง ส่วนที่เหลือภายในนั้นไม่ต้องทำอันใดทั้งสิ้นเพราะทารกได้ฉีกผ่านออกมาสิ้น ฮันซี่รีบตรงเข้าช้อนอุ้มตัวทารกออกมาส่งให้ผู้ช่วยดูแลก่อนสำรวจบาดแผลเอเลนอย่างรีบด่วน
"รีไว!!! อวัยวะภายในเอเลนถูกฉีกทึ้งเสียหายมากเกินไป!! ข้าซ่อมไม่ทันการณ์แน่ๆ เหลือทางเดียวแล้ว..."
จอมมารหอบหนักจากความกลัวที่ไม่เคยเกิดขึ้นในจิตใจมาก่อน กลัวที่จะเสียเอเลน กลัวที่จะถูกพรากหัวใจไปตลอดกาล และไม่ว่าทางใดที่จะฉุดรั้งยึดเหนี่ยวเอเลนไว้ได้ตนจะทำ แม้จะเห็นแก่ตัวและบาปหนาหรือบีบบังคับเพียงใดก็ตาม มือแกร่งล้วงเอาสร้อยคอออกมาจี้ของมันเปล่งแสงประกายดั่งคริสตัลที่เจียรมาอย่างประณีตเป็นรูปของไม้กางเขนและพระเยซูเจ้าที่ถูกตรึงพร้อมเอ่ยบทพิธีกรรมไปด้วย... เอลวินที่มองการกระทำทั้งหมดตาลุกวาวทันที ตรงเข้าหมายจะกระชากจอมมารออกจากเด็กน้อยของตนเมื่อเห็นอย่างชัดเจนว่าจี้นั้นผิดแปลกจากจี้ทั่วไปตรงที่องค์ผู้ไถ่บาปและกางเขนนั้นกลับหัว... ฮั่นซี่และเหล่าสมุนมารตรงเข้ารั้งไว้ทันที ก่อนกล่าวเตือนสติมหาเทพอย่างโมโหไม่แพ้กัน
"ท่าน!!! อย่าได้บ้าคลั่งนักเลย!!! หากท่านยังคิดจะห้ามนายท่านอีกก็เท่ากับว่าท่านไม่ได้รักและห่วงใยในตัวเอเลนจริงจัง นี่เป็นทางเดียวแล้วที่จะดึงเอเลนกลับมาได้ ดังนั้นปล่อยความเชื่อของท่านซะ!!!"
ในขณะที่กำลังกล่อมมหาเทพกันอยู่นั้น รีไวตรงขึ้นคร่อมร่างเอเลนอย่างรวดเร็ว มือแกร่งแทงเอาจี้เข้าสู่กำมือของตน อีกข้างจับง้างปากอิ่มที่ไร้สีเลือดอ้าออกให้เลือดไหลรินจากมือที่กำแน่นผ่านกางเขนกลับหัวเข้าสู่ปากเมียรัก
"ข้าในนามของผู้ทอดทิ้งแลหันหลังต่อพระเจ้า ผู้สาบานว่าจะโค่นล้มและอยู่เหนือพระเจ้า เจ้าแห่งความชั่วร้าย ความมืด และกิเลสทั้งปวง เจ้าของขุมนรกอเวจีอันชั่วช้านี้!!! ข้ายินดียิ่งแล้วที่ได้รับเจ้ามาสู่ข้า จงลืมสิ้นซึ่งพระเจ้าและผละจากอ้อมกอดของพระองค์ จากนี้ไปหนทางของเจ้าจะโรยด้วยขนสีทมิฬและข้าจะเป็นผู้นำพาเจ้าไป มอบชีวิตใหม่แก่เจ้าตราบนิรันดร์"
จี้งามที่บัดนี้ถูกย้อมไปด้วยโลหิตซาตานจนกลายเป็นอัญมณีสีชาดถูกแนบลงบนหน้าผากเอเลน ควันคุกรุ่มพวยพุ่งจากจี้และผิวเนียนบนหน้าผากที่ถูกประทับตรา เสียงหวานกรีดร้องเพียงสั้นๆ กายากระตุกเกร็งรุนแรง แสงสว่างสาดส่องออกจากกายบางที่บอบช่ำเจียนสลาย ร่างปวกเปียกลอยขึ้นจากพื้นเตียงก่อนแอ่นขึ้นพร้อมปีกทมิฬที่แทงและกางออกจากแผ่นหลังงามอย่างรวดเร็ว จอมมารละกายมาอยู่เคียงข้างเตียง เฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยใจอันบีบรัด... รอยแผลที่ถูกกรีดและฉีกขาดเกิดกลุ่มควันดำพัดผ่านอย่างเชื่องช้าก่อนเนื้อเยื่อและโครงสร้างจะค่อยๆผสานต่อติดกันต่อเนื่องชั้นต่อชั้น ผิวกายที่ซีดขาวกลับมามีน้ำมีนวล ริมฝีปากอิ่มคืนสีชาดทีละเล็กทีละน้อย ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะคืนกลับสู่เตียง ดั่งเด็กน้อยหลับใหลในนิทรา เอลวินได้แต่ทอดถอนใจเมินหน้าไปทางอื่นเพื่อสงบจิต ขณะที่จอมมารรีบตรงเข้าประคองเมียรักทันที
"เอเลน...เอเลนยอดรักแห่งข้าเจ้าจงตื่นเถิดเด็กดี.."เปลือกตาบางกระตุกถี่ก่อนเปิดขึ้นอย่างฉับพลันเผยดวงตาสีแดงชาดดั่งโลหิต
ใบหน้าหวานขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะแสยะยิ้มให้จอมซาตาน
“ท่านนี่ชอบเล่นพิเรนท์กับร่างกายคนอื่นเสียจริง......อย่าหวังว่าทุกอย่างจะเป็นดั่งที่คิด!!” เอเลนคว้ากางเขนจากมือของจอมมาร ร่างโปร่งพุ่งตัวเข้าหามหาเทพที่ยังคงยืนตะลึงงัน
“ขออภัยท่านเอลวิน!”
“ท่านนี่ชอบเล่นพิเรนท์กับร่างกายคนอื่นเสียจริง......อย่าหวังว่าทุกอย่างจะเป็นดั่งที่คิด!!” เอเลนคว้ากางเขนจากมือของจอมมาร ร่างโปร่งพุ่งตัวเข้าหามหาเทพที่ยังคงยืนตะลึงงัน
“ขออภัยท่านเอลวิน!”
กรงเล็บแหลมคมจากมือบางกรีดเข้าที่ไหล่ของมหาเทพ โลหิตสีสดหลั่งไหลเปื้อนกางเขน เอเลนบริกรรมคถาจนเกิดวงแหวนเวทย์ปรากฏขึ้น เลือดของมหาเทพที่หลั่งรินกระจายตัวก่อนจะห่อหุ้มร่างบางพลันเกิดแสงทอประกาย ปีกที่ถูกย้อมเป็นสีทมิฬของร่างบางเปลี่ยนเป็นสีขาวอีกครั้งครึ่งหนึ่ง นัยน์ตาสีแดงก่ำดุจโลหิตข้างซ้ายแปรเปลี่ยนเป็นสีทองสุกสกาวตามเดิม
การกระทำของเอเลนทำให้ร่างโปร่งแปรเปลี่ยนเป็นกึ่งเทพและซาตาน ใบหน้าหวานแสยะยิ้มพรายให้กับจอมมารรีไว
การกระทำของเอเลนทำให้ร่างโปร่งแปรเปลี่ยนเป็นกึ่งเทพและซาตาน ใบหน้าหวานแสยะยิ้มพรายให้กับจอมมารรีไว
การกระทำของเทวาหนุ่มสร้างความตกตะลึงไม่น้อย มือแกร่งยกขึ้นกุมขมับก่อนหัวเราะน้อยๆ
"ฮึๆ สมกับเป็นเจ้าความดื้อรั้นไม่เคยลดลงตามกาลเวลา ขอเพียงเจ้าไม่สลายไปไม่ว่าทางเลือกของเจ้าคือสิ่งใดข้ายินยอม ว่าแต่....เจ้าไม่อยากรู้จักกับลูกเราดอกหรือเมียข้า"
ฮันซี่ที่ยืนอุ้มแม่หนูตัวน้อยหยอกล้ออยู่รีบอุ้มมาให้ผู้เป็นพ่อเชยชม
"น่ารักเหลือเกินรีไว แม่หนูช่างจำนรรจานัก หากพูดได้เมื่อใดคงจ้อน่าดู"
จอมมารรับบุตรีตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน ก้มลงมองใกล้ชิดอย่างรักใคร่ เพ่งพิศมองใบหน้าหวาน ริมฝีปากกระจับบางจิ้มลิ้ม แก้มแดงระเรื่อ เกศาดกดำสนิทดังปีกทมิฬของตน ดวงตากลมโตเปล่งประกายเขียวมรกตข้างหนึ่งและดำรัตติกาลข้างหนึ่ง ช่างเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและงดงามยิ่ง มือน้อยไขว้คว้าหาใบหาคมของผู้เป็นพ่อ ไฉนเลยจะเมินเฉยความงดงามพิสุทธิ์นี้ได้ ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนก้มลงไปหาบุตรีที่รัก เมื่อมือน้อยแนบเข้ากับแก้มผู้เป็นพ่อสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รีไวตกตะลึงไม่น้อย เป็นเสียงใสเล็กๆก้องกังวาลเข้ามาในความรู้สึกพร้อมภาพที่ฉายชัดเข้ามาในหัวเป็นการเล่าเรื่องราวของแม่หนูน้อยที่มีทั้งเสียงและภาพประกอบ ตั้งแต่เริ่มฉีกครรภ์ผู้เป็นแม่ โดนช้อนตัวออกจากท้อง ความตื่นกลัวและกังวลใจทั้งมวลว่าตนจะทำร้ายแม่ รวมไปถึงเลือดของป้าฮันซี่นั้นโอชารสเพียงใด ถึงตรงนี้รีไวหยุดนิ่งหันไปมองมือขวาเป็นเชิงสงสัย ซึ่งฮันซี่ก็เหมือนจะรู้ดีอยู่แล้วจึงตอบไป
"แกคงเล่าเรื่องดื่มเลือดไปล่ะสิ... ช่ายยย ยัยหนูนี่ตะกละน่าดู พอช้านยืนยันว่าแม่ของแกปลอดภัยแล้ว แกก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงฝังเขี้ยวจิ๋วแต่คมกริบลงแขนชั้นทันที บอกข้าแค่ว่า เลือดคุณป้าอร่อยจังนั่นแหละ ร้ายซะไม่มี..."
รีไวที่มัวแต่ยืนอึ้งอยู่จึงถูกดึงความสนใจอีกครั้งจากบุตรีตัวน้อยด้วยมือป้อมๆที่ยื่นมาอีกข้างประกบวางทาบบนแก้มบิดาส่งคำพูดผ่านความคิดได้ว่า
‘คุณพ่อขา...หนูคิดถึงคุณแม่ ทำไมคุณแม่ไม่อุ้มหนู คุณแม่ไม่รักหนูหรือคะ?’ จอมมารหอมแก้มยุ้ยเบาๆก่อนกระซิบตอบ
"รักสิลูก คุณแม่อุ้มท้องหนูมาด้วยรัก งั้นพ่อจะพาลูกไปหาแม่นะ..." แต่ทันทีที่จอมมารกำลังเดินไปหาเมียรัก เอลวินผู้ซึ่ง(แอบ)เห่อหลานไม่น้อยก็รีบตรงเข้ามาดู ยังผลให้เด็กน้อยในอ้อมอกบิดาสะบัดตัวขึ้นจากห่อผ้าไหม ปีกน้อยสมตัวแทงจากหลังเล็กๆกางออกปรากฏสีทมิฬข้างขวา ขาวพิสุทธิ์เป็นประกายกล้าข้างซ้าย ดวงตากลมแปรเปลี่ยนตามเชื้อสายที่ได้ ทองอร่ามจากมารดาและแดงชาดโชติช่วงจากบิดา ริมฝีปากน้อยแยกเขี้ยวเล็กๆขู่ฟ่อใส่ สร้างความตกตะลึงชะงักค้างแก่ผู้เป็นลุงที่เพิ่งถูกหลานตั้งป้อมใส่หมาดๆยิ่งนัก แม่ตัวน้อยพอแผลงฤทธิ์เสร็จก็โผเข้ากอดผู้เป็นพ่อ ร้องไห้โยเยจะหาแม่ โวยวายว่ากลัวเทพแก่ๆตรงหน้านี้ขนาดไหน
เอลวินที่โดนหลานตัวน้อยปฎิเสธหันมองร่างโปร่งบางด้วยใบหน้าที่พยายามซ่อนน้ำตาตกใน
"เอเลนทารกน้อยนี่เหมือนเจ้าสมัยเเบเบาะไม่มีผิด เจ้าลองอุ้มดูสิ"
ร่างโปร่งจัดการเก็บปีกสองสีข้างตน นัยน์ตาสีเเดงฉานเเละทองอร่ามกลับสู่สีทมิฬเเละมรกตตามเดิม ใบหน้าหวานตีสีหน้าลำบากใจ เเต่เมื่อได้เห็นมือน้อยๆเเละใบหน้ากลมมนที่มองมาอย่างคาดหวัง มือเรียวจึงเอื้อมไปประคองบุตรีน้อยๆเข้าอ้อมกอด บุตรียิ้มหวานให้กับผู้เป็นมารดาเห็นดังนั้นเอเลนจึงยิ้มบางอ่อนโยนตอบบุตรสาวตัวน้อย
เสียงจากบุตรีดังผ่านโทรจิตเรียกร่างบางว่ามารดาไม่หยุดหย่อน ใบหน้าหวานที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเริ่มมีสีหน้าลำบากใจ
"ข้ารู้สึกเเปลกนัก ผู้ชายอย่างข้าให้กำเนิดชีวิตน้อยๆนี้ขึ้นมา......"
เอเลนหันมองมหาเทพเเละซาตานไปมาก่อนจะกลับมามองทารกน้อยในอ้อมเเขน
"ถึงตอนที่เจ้าฉีกท้องข้าจะเจ็บเเสบนัก เเต่ข้าก็ไม่โกรธเจ้าหรอกนะตัวน้อย เพราะต้นเหตุมาจากตาเเก่เจ้าเล่ห์นี่นะ" เอเลนมองจอมมารที่ถูกพาดพิงอย่างคาดโทษ ทั้งเล่นพิเรนทร์กับร่างกายของเขา เเละทำให้เขาได้รับประสบการณ์ที่ทรมานอย่างเหลือเเสน
"เเล้วตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรต่อไป?" มหาเทพยื่นมือมาลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเอเลน
"เจ้าต้องยอมรับความจริงตรงหน้าเอเลน ถึงจะผิดเเปลกเเต่เจ้าก็เป็นมารดาของเด็กน้อยผู้นี้ ถึงจะเป็นไปเพราะความเอาเเต่ใจของรีไวเเต่ชีวิตน้อยที่ถือกำเนิดก็เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าเอเลน"
ร่างโปร่งมองหน้าลูกน้อยพลันถอนหายใจก่อนจะยิ้มให้อย่างอ่อนโยนอีกครั้ง มือบางลูบไล้ยังใบหน้ากลมมนของบุตรีอย่างเเผ่วเบา
"ข้า.....เข้าใจท่านเอลวิน... ชีวิตที่กำเนิดจากข้า ถึงจะรู้สึกเเปลก เเต่ข้าก็ชอบเจ้านะตัวน้อย" ว่าพลางจูบลงบนเเก้มเนียนกลมของบุตรี
ทารกน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่มหาเทพกล่าว จากที่ตั้งเเง่ใส่มือกลมป้อมจึงไขว่คว้าเข้าหามหาเทพ เอลวินที่ยืนอยู่ข้างกายจึงก้มลงมอง
"เอเลนทารกน้อยนี่เหมือนเจ้าสมัยเเบเบาะไม่มีผิด เจ้าลองอุ้มดูสิ"
ร่างโปร่งจัดการเก็บปีกสองสีข้างตน นัยน์ตาสีเเดงฉานเเละทองอร่ามกลับสู่สีทมิฬเเละมรกตตามเดิม ใบหน้าหวานตีสีหน้าลำบากใจ เเต่เมื่อได้เห็นมือน้อยๆเเละใบหน้ากลมมนที่มองมาอย่างคาดหวัง มือเรียวจึงเอื้อมไปประคองบุตรีน้อยๆเข้าอ้อมกอด บุตรียิ้มหวานให้กับผู้เป็นมารดาเห็นดังนั้นเอเลนจึงยิ้มบางอ่อนโยนตอบบุตรสาวตัวน้อย
เสียงจากบุตรีดังผ่านโทรจิตเรียกร่างบางว่ามารดาไม่หยุดหย่อน ใบหน้าหวานที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเริ่มมีสีหน้าลำบากใจ
"ข้ารู้สึกเเปลกนัก ผู้ชายอย่างข้าให้กำเนิดชีวิตน้อยๆนี้ขึ้นมา......"
เอเลนหันมองมหาเทพเเละซาตานไปมาก่อนจะกลับมามองทารกน้อยในอ้อมเเขน
"ถึงตอนที่เจ้าฉีกท้องข้าจะเจ็บเเสบนัก เเต่ข้าก็ไม่โกรธเจ้าหรอกนะตัวน้อย เพราะต้นเหตุมาจากตาเเก่เจ้าเล่ห์นี่นะ" เอเลนมองจอมมารที่ถูกพาดพิงอย่างคาดโทษ ทั้งเล่นพิเรนทร์กับร่างกายของเขา เเละทำให้เขาได้รับประสบการณ์ที่ทรมานอย่างเหลือเเสน
"เเล้วตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรต่อไป?" มหาเทพยื่นมือมาลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเอเลน
"เจ้าต้องยอมรับความจริงตรงหน้าเอเลน ถึงจะผิดเเปลกเเต่เจ้าก็เป็นมารดาของเด็กน้อยผู้นี้ ถึงจะเป็นไปเพราะความเอาเเต่ใจของรีไวเเต่ชีวิตน้อยที่ถือกำเนิดก็เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าเอเลน"
ร่างโปร่งมองหน้าลูกน้อยพลันถอนหายใจก่อนจะยิ้มให้อย่างอ่อนโยนอีกครั้ง มือบางลูบไล้ยังใบหน้ากลมมนของบุตรีอย่างเเผ่วเบา
"ข้า.....เข้าใจท่านเอลวิน... ชีวิตที่กำเนิดจากข้า ถึงจะรู้สึกเเปลก เเต่ข้าก็ชอบเจ้านะตัวน้อย" ว่าพลางจูบลงบนเเก้มเนียนกลมของบุตรี
ทารกน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่มหาเทพกล่าว จากที่ตั้งเเง่ใส่มือกลมป้อมจึงไขว่คว้าเข้าหามหาเทพ เอลวินที่ยืนอยู่ข้างกายจึงก้มลงมอง
นัยน์ตาสองสีเหมือนผู้เป็นมารดามองมหาเทพอย่างประหม่าก่อนมือเล็กจะเอื้อมไปจับใบหน้าของมหาเทพ
เอลวินยิ้มกว้างด้วยหัวใจพองโตที่ทารกน้อยยอมให้เขาเข้าใกล้ เเม้จะยังเเอบขู่เเละตั้งเเง่อยู่บ้างก็ตาม
เอลวินยิ้มกว้างด้วยหัวใจพองโตที่ทารกน้อยยอมให้เขาเข้าใกล้ เเม้จะยังเเอบขู่เเละตั้งเเง่อยู่บ้างก็ตาม
"ตอนนี้ทารกก็ถือกำเนิดเเล้ว เจ้าจะเอายังไงต่อไปเอเลน? ถ้าเจ้าอยากอยู่ที่นี่ข้าจะไม่ห้าม หรือ ถ้าเจ้าอยากกลับไปที่สวรรค์พร้อมลูกน้อยข้าก็ยินดีจะช่วย เเม้ว่าเจ้าทั้งสองจะเป็นกึ่งเทพเเละซาตานก็ตาม"
เอเลนมองหน้ามหาเทพก่อนจะหันไปมองใบหน้าคมคายของจอมมารราวกับรอฟังสิ่งที่จอมเจ้าเล่ห์ที่คอยพร่ำพรรณาคำหวานใส่เอ่ยบ้าง....
"อย่าแส่!!! ไม่ใช่กงการอันใดของเจ้าเอลวิน อย่าริอาจมาพรากลูกพรากเมียไปจากข้า" ว่ากล่าวเสียงเหี้ยมก่อนลดเสียงอย่างกระทันหันเมื่อหันไปอ้อนวอนเมียรัก
"เอเลนได้โปรด อย่าทิ้งข้าไป อย่าหนีไปจากข้า เจ้าและลูกคือทั้งหมดของข้า โปรดให้โอกาสข้าได้ดูแลเจ้าเถิด" จอมมารก้าวเดินไปหาร่างบาง มือแกร่งแนบไล้บนผิวแก้มเนียน ดวงเนตรทมิฬจ้องแน่วแน่ถ่ายทอดทุกความรู้สึกไปสู่นัยน์ตาของเอเลน หากแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดเพิ่มเติม มือน้อยๆของบุตรีก็เอื้อมกุมมือใหญ่ของบิดาส่วนอีกข้างแนบไปบนใบหน้ามารดา ส่งต่อความคิดเอ่ยถามผู้เป็นแม่
"คุณแม่จะไปไหน จะทิ้งคุณพ่อไปทำไม หรือเพราะหนูคุณแม่เลยต้องไป ไม่รักหนูกับคุณพ่อหรือคะ" น้ำเสียงใสเว้าวอน ดวงตากลมโตเริ่มงัดเอาน้ำใสๆมาคลออ้อน
มหาเทพหนุ่มถอนหายใจพลางส่ายหน้าไปมา
"ก็เพราะความเอาเเต่ใจเเละความหุนหันของเจ้าไม่ใช่รึไง เอเลนถึงได้วิ่งหนี”
"ก็เพราะความเอาเเต่ใจเเละความหุนหันของเจ้าไม่ใช่รึไง เอเลนถึงได้วิ่งหนี”
มหาเทพหนุ่มหันไปมองอดีตเทวาน้อยของตน ใบหน้าสุขุมยิ้มให้อย่างอบอุ่น
"เอเลนเจ้าเลือกเองเถิดว่าอยากทำอย่างไร?"
เอเลนมองสบใบหน้ากลมมนของบุตรีที่มองมาอย่างอ้อนวอน ก่อนจะเงยสบกับใบหน้าคมคายที่รอฟังคำตอบ
ตัวเขาที่ดื้อรั้นเเละไม่ยอมลงให้ง่ายๆเเบบนี้ส่วนนึงคงเพราะบุรุษเบื้องหน้าที่เคยทอดทิ้งเขา ความรู้สึกที่โดนทรยศหักหลังยังคงตามหลอกหลอน จนคิดว่าไม่อาจเชื่อใจเเละรักผู้ใดได้อีก ทั้งๆอย่างนั้น......
"ข.......ข้าจะอยู่ที่นี่ท่านเอลวิน" เอเลนมองใบหน้าของจอมซาตานผู้ล่อลวงเขา
"เเต่ข้าไม่อาจตัดขาดกับสวรรค์เเละท่านมหาเทพที่เลี้ยงดูข้ามา ดังนั้นข้าจะขอให้มีบางช่วงของฤดูกาลข้าจะกลับไปเยี่ยมเยียนเพื่อนๆเเละท่านเอลวินได้บ้าง"
นัยน์ตาสองสีหรี่มองหน้ามารร้ายอย่างคาดโทษ
"เเต่ถ้าท่านทำอะไรเเปลกๆกับร่างกายข้าหรือบุตตรีของข้า ข้าจะหนีกลับไปหามหาเทพเเละไม่มาเจอท่านอีกเลยตราบนิรันดร์"
เอลวินลูบผมของจอมดื้อดึงตัวน้อย
"บางทีรีไวคงพูดถูก ข้าคงตามใจเจ้ามากเกินไป...แล้วข้าจะจัดการให้เจ้าสามารถไปมาได้ทั้งสวรรค์บ้านของเจ้าเเละกลับสู่อ้อมอกพ่อคนหัวเเข็งที่รักของเจ้า"
เอเลนหน้าขึ้นสีระเรื่อกับคำหยอกล้อของมหาเทพ....ทั้งที่เขายังไม่เข้าใจตัวเองเเต่ราวกับมหาเทพเอลวินจะมองออกทะลุปรุโปร่งไปเสียหมด
"เอเลนเจ้าเลือกเองเถิดว่าอยากทำอย่างไร?"
เอเลนมองสบใบหน้ากลมมนของบุตรีที่มองมาอย่างอ้อนวอน ก่อนจะเงยสบกับใบหน้าคมคายที่รอฟังคำตอบ
ตัวเขาที่ดื้อรั้นเเละไม่ยอมลงให้ง่ายๆเเบบนี้ส่วนนึงคงเพราะบุรุษเบื้องหน้าที่เคยทอดทิ้งเขา ความรู้สึกที่โดนทรยศหักหลังยังคงตามหลอกหลอน จนคิดว่าไม่อาจเชื่อใจเเละรักผู้ใดได้อีก ทั้งๆอย่างนั้น......
"ข.......ข้าจะอยู่ที่นี่ท่านเอลวิน" เอเลนมองใบหน้าของจอมซาตานผู้ล่อลวงเขา
"เเต่ข้าไม่อาจตัดขาดกับสวรรค์เเละท่านมหาเทพที่เลี้ยงดูข้ามา ดังนั้นข้าจะขอให้มีบางช่วงของฤดูกาลข้าจะกลับไปเยี่ยมเยียนเพื่อนๆเเละท่านเอลวินได้บ้าง"
นัยน์ตาสองสีหรี่มองหน้ามารร้ายอย่างคาดโทษ
"เเต่ถ้าท่านทำอะไรเเปลกๆกับร่างกายข้าหรือบุตตรีของข้า ข้าจะหนีกลับไปหามหาเทพเเละไม่มาเจอท่านอีกเลยตราบนิรันดร์"
เอลวินลูบผมของจอมดื้อดึงตัวน้อย
"บางทีรีไวคงพูดถูก ข้าคงตามใจเจ้ามากเกินไป...แล้วข้าจะจัดการให้เจ้าสามารถไปมาได้ทั้งสวรรค์บ้านของเจ้าเเละกลับสู่อ้อมอกพ่อคนหัวเเข็งที่รักของเจ้า"
เอเลนหน้าขึ้นสีระเรื่อกับคำหยอกล้อของมหาเทพ....ทั้งที่เขายังไม่เข้าใจตัวเองเเต่ราวกับมหาเทพเอลวินจะมองออกทะลุปรุโปร่งไปเสียหมด
ใบหน้าหล่อคมของจอมมารมีแววขุ่นเคืองใจปรากฏเล็กน้อยก่อนเอ่ยตอบรับเมียรักไปอย่างเสียไม่ได้
"ถ้านั่นเป็นความประสงค์ของเจ้า ข้ายินยอม...ขอแค่เจ้าอย่าหนีหายหรือตีจากข้าไป หากวันใดเจ้ากลับไปแล้วผิดวาจาไม่หวนคืนกลับมาสู่ข้า ยามนั้นข้าจักขึ้นไปฉุดรั้งเจ้ากลับมาและกักขังเจ้าชั่วนิจนิรันดร์ หากเจ้ายินยอมเอ่ยคำสัตย์ตกลงตามนี้ ข้าจักยินยอมรับในเงื่อนไขของเจ้าเช่นกัน" นัยย์ตาทมิฬจ้องมองตรงไปสู่ใบหน้าหวานอย่างรอคอยคำตอบ
"ถ้าท่านไม่ทำอะไรแปลกๆข้าก็ไม่หนีหรอก" เอเลนมองอย่างคาดโทษจอมมาร
ทั้งการตั้งครรภ์ทั้งเรื่องปรสิตที่ฝังในตัวเขา ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ที่เขาเคารพ ศรัทธามาก่อนคงได้มีการเอาคืนให้สาสมหลายเท่านัก
"ถ้าอย่างนั้นข้าจะกลับไปยังสวรรค์จัดการเรื่องทั้งหมดตามที่เจ้าต้องการเอเลน" มหาเทพหนุ่มลูบไล้แก้มใสของร่างโปร่งพลางถอนหายใจอย่างเสียดาย
"เจ้าไม่อยู่ข้าคงคิดถึงเจ้านัก" เอลวินจุมพิตลงบนหน้าผากมนของเด็กหนุ่มเป็นการอำลา
ทั้งการตั้งครรภ์ทั้งเรื่องปรสิตที่ฝังในตัวเขา ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ที่เขาเคารพ ศรัทธามาก่อนคงได้มีการเอาคืนให้สาสมหลายเท่านัก
"ถ้าอย่างนั้นข้าจะกลับไปยังสวรรค์จัดการเรื่องทั้งหมดตามที่เจ้าต้องการเอเลน" มหาเทพหนุ่มลูบไล้แก้มใสของร่างโปร่งพลางถอนหายใจอย่างเสียดาย
"เจ้าไม่อยู่ข้าคงคิดถึงเจ้านัก" เอลวินจุมพิตลงบนหน้าผากมนของเด็กหนุ่มเป็นการอำลา
มหาเทพมองสบตากับจอมซาตาน ไร้ซึ่งคำกล่าวใดๆ แต่ทั้งสองก็เข้าใจกันได้ว่ามหาเทพต้องการฝากฝังเอเลนที่ราวกับลูกชายสุดที่รักเช่นเดียวกับสายตาของรีไวที่จ้องกลับว่ารำคาญกับสิ่งที่เขาต้องทำอยู่แล้ว สองปีสีขาวพิสุทธิ์กางออกก่อนร่างของมหาเทพจะจากไปอย่างรวดเร็วเพียงแค่พริบตา
เอเลนรู้สึกใจหายเมื่อมหาเทพได้จากไป มือเล็กๆของบุตรียกแตะที่แก้มของมารดา นัยน์ตาของทั้งคู่จ้องสบกันก่อนจะยิ้มบางให้แก่กัน
"ในเมื่อทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้" เอเลนหันไปหาซาตานหนุ่มที่ยังยืนมองอยู่ไม่ห่างกาย
"ท่านทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ต้องรับผิดชอบด้วยนะครับท่านรีไว" ใบหน้าหวานยิ้มอบอุ่นให้กับจอมมาร แก้มใสขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมายที่เขายิ้มจากใจให้กับชายตรงหน้า พอคิดแบบนี้แล้วอกซ้ายก็รู้สึกระส่ำแปลกๆจนประหม่า ใบหน้ามนจึงเบือนหลบสายตาคมจ้องมองไปที่บุตรีตัวน้อยแทน
เอเลนรู้สึกใจหายเมื่อมหาเทพได้จากไป มือเล็กๆของบุตรียกแตะที่แก้มของมารดา นัยน์ตาของทั้งคู่จ้องสบกันก่อนจะยิ้มบางให้แก่กัน
"ในเมื่อทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้" เอเลนหันไปหาซาตานหนุ่มที่ยังยืนมองอยู่ไม่ห่างกาย
"ท่านทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ต้องรับผิดชอบด้วยนะครับท่านรีไว" ใบหน้าหวานยิ้มอบอุ่นให้กับจอมมาร แก้มใสขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมายที่เขายิ้มจากใจให้กับชายตรงหน้า พอคิดแบบนี้แล้วอกซ้ายก็รู้สึกระส่ำแปลกๆจนประหม่า ใบหน้ามนจึงเบือนหลบสายตาคมจ้องมองไปที่บุตรีตัวน้อยแทน
"ว่าแต่ท่านจะตั้งชื่อลูกเออ....ล....ลูก .....เออ..... ลูกของเราว่าอย่างไร" ยังคงไม่คุ้นชินกับความรู้สึกที่ว่าเด็กน้อยนี้คือเมล็ดพันธุ์ของเขาและชายหนุ่ม พอพูดแบบนี้แก้มที่ขึ้นสีอยู่แล้วจึงยิ่งขึ้นสีหนักขึ้นกว่าเก่าเป็นทวีคูณ
ดวงตาคมเบิกกว้าง ริมฝีปากบางเฉียบอ้าออกน้อยๆ ใบหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชาอยู่เป็นนิจมีอันต้องเปลี่ยนแปลงทันใดด้วยการกระทำสุดคาดของเทวาที่รัก ด้วยอดีตที่ผ่านพ้นก็ต้องยอมรับกับตนเองว่าก่อวีรกรรมชวนให้เอเลนชังอยู่ไม่น้อย ทั้งทอดทิ้งไปแสนนาน พอมาคิดได้กลับใช้ทุกวิถีทางทั้งเล่ห์ทั้งกลทั้งมนต์คาถาเพื่อยึดเหนี่ยวเอเลนกลับมาสู่ตนอีกครั้ง สิ่งที่เจ้าตัวดีกระทำเพื่อต่อต้านนั้นจึงไม่ได้เกินกว่าที่คาดคิดไว้ หากแต่การกระทำเมื่อครู่ช่างเกินความคาดหมายยิ่งนัก เหมือนดั่งภาพฝัน....ช่างเป็นภาพที่งดงาม ทั้งรอยยิ้มสะเทิ้นอาย ใบหน้าหวานที่ซับสีเลือด ตากลมโตที่หลุบลงอย่างเขินอาย ท่าทางที่เหมือนทำอะไรไม่ถูกเล็กๆ จนในที่สุดก็ได้แต่เอาลูกน้อยเป็นที่พึงพิงทั้งจ้องมองและโอบอุ้มไว้มั่นในวงแขนบาง อากัปกริยาเยี่ยงนี้จากเอเลนแต่กาลก่อนเค้าเคยได้รับมาตลอดจนเต็มอิ่ม เป็นความเคยชิน เป็นเรื่องสามัญ จนเมื่อขาดไปจึงรู้ซึ้งถึงความโหยหา กระหาย หรือแม้กระทั่งริษยามันผู้ใดก็ตามที่ร่างบางแย้มยิ้มให้ มาตอนนี้ทุกสิ่งที่เอเลนกระทำ ทุกวาจาที่ได้เอื้อนเอ่ยช่างมีค่ายิ่งนัก หัวใจที่ตายด้านกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ช่างอบอุ่นเหลือเกิน เอเลน...แสงสว่างแห่งข้า
"เจ้าเอเลน...เมียข้า....เอ่ยออกมาอีกครั้งจะได้หรือไม่ ให้ข้าได้ยินอีกครั้งจากปากของเจ้าประโยคก่อนหน้านี้..." คำขอถูกเอ่ยขึ้น ร่างแกร่งตรงเข้าประชิดเมียรัก มือใหญ่ตรงเข้าช้อนคางให้ใบหน้าหวานที่ก้มงุดมองตรงมาที่ตน ขยับใบหน้าเข้าใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวและขาดห้วงของกันและกัน กระซิบวอนขอย้ำอีกครั้ง "สบตาข้าเสีย แล้วเอ่ยมันออกมาอีกครั้งเด็กน้อยของข้า"
"อ....เอ่อ.....ข...ข้า...." นัยน์ตาสองสีพยายามหลุบหลบสายตาคมที่ทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เหงื่อชื้นไหลซึมกาย ลมหายใจเริ่มติดขัด
ทั้งที่ทุกครั้งเขาควบคุมอารมณ์เเละความรู้สึกของตัวเองได้ เเต่บัดนี้กลับทำตัวไม่ถูกเมื่อตัดสินใจทำตามที่ปรารถนา ราวกับหีบที่ปิดไว้ถูกไขเผยสิ่งที่ซ่อนไว้ออกมา
จุ๊บ
เสียงริมฝีปากสัมผัสกันดังลั่นเช่นเดียวกับเสียงหัวเราะขำของมือขวาของจอมมาร เพราะเเทนที่จะเป็นริมฝีปากของเด็กหนุ่มจอมมารกลับได้จุมพิตกับบุตรสาวที่เขายกขึ้นมากั้นใบหน้าคมที่ใกล้เข้ามา
"ข้าคิดออกเเล้ว ชื่อ ริเอน่า เป็นอย่างไร" ใบหน้าหวานหัวเราะกลบเกลื่อนพลางขยับกายถอยห่างเล็กน้อย
ทั้งที่ทุกครั้งเขาควบคุมอารมณ์เเละความรู้สึกของตัวเองได้ เเต่บัดนี้กลับทำตัวไม่ถูกเมื่อตัดสินใจทำตามที่ปรารถนา ราวกับหีบที่ปิดไว้ถูกไขเผยสิ่งที่ซ่อนไว้ออกมา
จุ๊บ
เสียงริมฝีปากสัมผัสกันดังลั่นเช่นเดียวกับเสียงหัวเราะขำของมือขวาของจอมมาร เพราะเเทนที่จะเป็นริมฝีปากของเด็กหนุ่มจอมมารกลับได้จุมพิตกับบุตรสาวที่เขายกขึ้นมากั้นใบหน้าคมที่ใกล้เข้ามา
"ข้าคิดออกเเล้ว ชื่อ ริเอน่า เป็นอย่างไร" ใบหน้าหวานหัวเราะกลบเกลื่อนพลางขยับกายถอยห่างเล็กน้อย
หลังจากชวดริมฝีปากสีสดน่าหลงใหลตรงหน้าไปสดๆร้อนๆ ดวงตาถมึงทึงก็ถูกส่งไปให้มือขวาที่ยังหัวเราะสะใจไม่ดูเงาหัว ใจก็อยากจะตรงไปประเคนฝ่าเท้าให้แว่นบนใบหน้าระรื่นนั้นแตกหักอยู่ใช่น้อย แต่เมื่อเห็นบุตรีตัวน้อยจ้องมองมาตาใส ก่อนจะหัวเราะพร้อมโบกมือน้อยๆเล่นไปมา ก็เล่นเอาคุณพ่อใจอ่อนยวบ ได้แต่คิดคาดโทษแม่ของลูกไว้ในใจ คอยดูเสีย...ถึงคราเมื่อใดจักคิดทบต้นทบดอกให้คุ้มเลยเชียวเมียข้า... ถอนหายใจตัดเสียดายก่อนก้มลงกล่าวหยอกล้อกับลูกน้อย
"เป็นไงลูกพ่อ เจ้าชอบชื่อนี้หรือไม่ รีเอน่า...ช่างไพเราะนัก บุตรแห่งข้าเจ้าผู้ครองยมโลกและเทวาแสนงามเอเลนแม่ของเจ้า ช่างเป็นชื่อที่ลงตัวยิ่งนัก เจ้าหญิงของพ่อยามเมื่อเจ้าเติบใหญ่เจ้าจักเป็นราชินีที่ยิ่งใหญ่และเพรียบพร้อมอย่างแน่นอน"
"ราชินีโลกมืดน่าหดหู่จังนะครับ" เอเลนเบ้ปากเมื่อได้ยินสิ่งที่จอมซาตานกล่าวอ้าง
"ถ้ารีเอน่าโตกว่านี้เมื่อไรข้าจะขอท่านมหาเทพเอลวินให้รีเอน่าได้เรียนรู้เรื่องบนเเดนสวรรค์ด้วย" นัยน์ตาสองสีมองหน้าจอมซาตานที่ทำหน้าหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ก่อนเทวาหนุ่มน้อยจะยกยิ้มเชิงหยอกล้อ
"ท่านควรให้บุตรีเลือกทางเดินของตนเอง การบังคับในสิ่งที่นางไม่ต้องการอาจทำร้ายนางก็ได้" ร่างโปร่งเขยิบเข้าใกล้จอมราชันย์เเห่งรัตติกาล มือบางจับมือหยาบของซาตานให้ช่วยประคองบุตรีตนน้อยที่อุ้มอยู่ ใบหน้าหวานมองใบหน้าของจอมมารที่พลันอ่อนลงกับสัมผัสอบอุ่นที่ถ่ายทอดจากมือ
"ให้นางเลือกชีวิตของนางเองเถอะ เพราะการตัดสินใจเลือกของท่านเคยทำให้ใครคนหนึ่งเจ็บปวดท่านก็รู้มิใช่หรือ?" เอเลนประคองมืออีกข้างของรีไวให้ขึ้นมาสัมผัสกับเเก้มเนียนของตน
"ข้าอยากให้นางได้เลือกหนทางเเห่งความสุขของตัวนางเอง เช่นเดียวกับที่ข้าเลือกตอนนี้ ผิดกับตาเเก่ใจร้ายอย่างท่านที่เลือกตนทางที่คิดว่าสมควร เเต่สุดท้ายท่านก็ปล่อยความสุขเเละความปรารถนาที่เเท้จริงของท่านไปไม่ได้จริงไหมท่านจอมมาร?" นัยน์ตาสีมรกตและสีราตรีส่งสายตาเย้ายวนก่อนริมฝีปากบางจะเลื่อนจุมพิตที่ฝ่ามือของจอมซาตานอย่างเเผ่วเบา ก่อนจะเคลื่อนไปสัมผัสกับริมฝีปากของจอมมารอย่างไม่หยี่ระ ลิ้นเล็กลียสัมผัสกลีบปากของซาตานเบื้องหน้าที่เผยอปากออกอย่างยินยอม ตอบรับความรู้สึกที่ส่งผ่าน ลิ้มรสหยาดน้ำหวานจากอีกฝ่ายอย่างยินดี เมื่อริมฝีปากที่คลอเคลียผลออก ใบหน้าหวานของเอเลนยกยิ้มขึ้นอีกครั้งก่อนจะโน้มเข้าไปใกล้จอมมารผู้เป็นที่รักและกระซิบแผ่วเบา ด้วยเกรงว่าบุตรีจะได้ยิน
"ถ้ารีเอน่าโตกว่านี้เมื่อไรข้าจะขอท่านมหาเทพเอลวินให้รีเอน่าได้เรียนรู้เรื่องบนเเดนสวรรค์ด้วย" นัยน์ตาสองสีมองหน้าจอมซาตานที่ทำหน้าหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ก่อนเทวาหนุ่มน้อยจะยกยิ้มเชิงหยอกล้อ
"ท่านควรให้บุตรีเลือกทางเดินของตนเอง การบังคับในสิ่งที่นางไม่ต้องการอาจทำร้ายนางก็ได้" ร่างโปร่งเขยิบเข้าใกล้จอมราชันย์เเห่งรัตติกาล มือบางจับมือหยาบของซาตานให้ช่วยประคองบุตรีตนน้อยที่อุ้มอยู่ ใบหน้าหวานมองใบหน้าของจอมมารที่พลันอ่อนลงกับสัมผัสอบอุ่นที่ถ่ายทอดจากมือ
"ให้นางเลือกชีวิตของนางเองเถอะ เพราะการตัดสินใจเลือกของท่านเคยทำให้ใครคนหนึ่งเจ็บปวดท่านก็รู้มิใช่หรือ?" เอเลนประคองมืออีกข้างของรีไวให้ขึ้นมาสัมผัสกับเเก้มเนียนของตน
"ข้าอยากให้นางได้เลือกหนทางเเห่งความสุขของตัวนางเอง เช่นเดียวกับที่ข้าเลือกตอนนี้ ผิดกับตาเเก่ใจร้ายอย่างท่านที่เลือกตนทางที่คิดว่าสมควร เเต่สุดท้ายท่านก็ปล่อยความสุขเเละความปรารถนาที่เเท้จริงของท่านไปไม่ได้จริงไหมท่านจอมมาร?" นัยน์ตาสีมรกตและสีราตรีส่งสายตาเย้ายวนก่อนริมฝีปากบางจะเลื่อนจุมพิตที่ฝ่ามือของจอมซาตานอย่างเเผ่วเบา ก่อนจะเคลื่อนไปสัมผัสกับริมฝีปากของจอมมารอย่างไม่หยี่ระ ลิ้นเล็กลียสัมผัสกลีบปากของซาตานเบื้องหน้าที่เผยอปากออกอย่างยินยอม ตอบรับความรู้สึกที่ส่งผ่าน ลิ้มรสหยาดน้ำหวานจากอีกฝ่ายอย่างยินดี เมื่อริมฝีปากที่คลอเคลียผลออก ใบหน้าหวานของเอเลนยกยิ้มขึ้นอีกครั้งก่อนจะโน้มเข้าไปใกล้จอมมารผู้เป็นที่รักและกระซิบแผ่วเบา ด้วยเกรงว่าบุตรีจะได้ยิน
“ท่านรู้ไหมท่านรีไว.. แท้จริงแล้วข้าเองก็คิดถึงตัณหาที่เสพย์สมกับท่านเช่นกัน”
จอมซาตานหัวเราะขำในลำคอ พลางกระชับเอวบางให้แนบชิดยิ่งขึ้น ดูเหมือนเขาต้องแต่งตั้งพี่เลี้ยงบุตรีโดยด่วน ถึงแม้ที่นี้ไม่ต้องสนใจเรื่องเวลา และราตรีเป็นนิรันตร์ แต่กับเทวาแสนดื้อรั้นตรงหน้าคำว่านิรันตร์อาจไม่เพียงพอ เช่นเดียวกับราตรีที่แม้ไม่มีรุ่งส่างแต่ก็ไม่อยากปล่อยเวลาให้เลื่อนลอยอย่างน่าเสียดาย....
---จบเถอะ---
............................................................................................................................................
Talk:
มันคือมหากาก เอ้ย มหากาพย์ ฟิคข้ามปีข้ามชาติ จนตอนแรกก็คิดว่าจะปล่อยทิ้งไว้แค่นั้นค่ะ แต่รู้สึกหนาวๆร้อนๆ อาจด้วยแรงเชียร์(หรือความอาฆาต) ของคนอ่าน อิชุ้นกับคุณ S.Minjito จึงช่วยกันเข็นจนสรุปตามนี้ค่ะ ยาวมากๆ จนแบบ นี่ฟิคสดจริงๆเหรอเนี่ย?
แต่ก็ยืนยันว่ามันคือฟิคสดนะคะ ฮาๆ ฟิลลิ่งอาจมีข้ามไปบ้างเพราะนานมากแล้วจริงๆ
สำหรับนักอ่านที่รักทุกท่านจะได้ไม่ค้างคา คาใจ อิชุ้นทั้ง 2 นำมาถวายแล้วนะเจ้าคะ และคงไม่มีภาค 3 แล้ว... ไม่งั้นอาจต้องรออีกหลายๆปีแหะๆ ขอทลายไหที่มีในเข่งให้หมดก่อนน๊า
รักนักอ่านเช่นเคยค่ะ
รูปปลากรอบ จากคุณ Jaden Chase ค่ะ บุตรีที่น่ารักของเราสอง(?)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น