วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

Attack On Titan Fan fic.: Lessons of love Lesson 9


Attack On Titan Fan fic.: Lessons of love 
Pairing: (LevixEren) 
Story By: Trendy Blood 
…………………………………………………………………………

Lesson 9: 


               แบบแปลนโมเดลของงานเปิดตัววางเรียงรายอยู่บนโต๊ะเขียนแบบ ดินสอและปากกาวางทิ้งไว้บนไม้ฉาก กาแฟที่ชงมาตั้งแต่เช้าตรู่ตอนนี้เย็นชืด แม้จะเหลืออยู่เพียงค่อนถ้วย
               “นี่ แค่เอเลนไปเข้าค่าย วิญญานนายก็หลุดไปกับเจ้าหนูนั่นเหรอไง?” ขวดน้ำเย็นกระทบกับหน้าผาก รีไวที่นั่งเหม่อเอนบนเก้าอี้อยู่พักใหญ่จึงได้เพิ่งสังเกตคนที่เข้ามาคุยด้วย
               “ใครใช้ให้นายมีงานเร่งวันหยุดล่ะเอลวิน?” รีไวเปิดขวดน้ำก่อนจะจิบเข้าไปเล็กน้อย
               “ฉันเข้าใจรีไวนะ ก็เอเลนน่ะไปทัศนศึกษาที่ต่างจังหวัด แล้วเด็กน้อยที่น่ารักแบบนั้นจะเจอผู้ใหญ๋ใจร้ายรังแกรึเปล่า แบบนี้มันน่ากังวลจริงๆนะ!! นี่ดูสิตอนนี้รถกำลังแล่นขึ้นเขาด้วย!!” ฮันซี่พล่ามขณะยกจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังแสดง GPS ให้ดู
               “ผู้ใหญ่ที่น่ากลัวมันน่าจะเป็นเธอมากกว่านะ” เอลวินถอนหายใจพลางส่ายศีรษะไปมา
               เป็นครั้งแรกที่เอเลนต้องไปทัศนศึกษาและมีค้างคืนกับทางโรงเรียน เหล่าผู้ปกครองจอมวุ่นจึงได้แต่นั่งถอนหายใจไปตามๆกัน ไม่เว้นแม้แต่เพทร่า ออลโอ กุนเธอร์ และเอริ์ท ดูเหมือนการที่เอเลนไม่อยู่ในออฟฟิศทำให้เป็นที่เงียบเหงาน่าดู ทั้งที่ปกติถ้าเป็นงานที่ต้องทำในวันหยุด เอเลนมักต้องมาที่ออฟฟิศและช่วยงานเล็กๆน้อยๆจนเป็นเรื่องปกติ และนั่นทำให้แม้ในวันหยุดที่มีงานเร่งแต่ละคนก็ยังมีชีวิตชีวาที่จะมาคอยสอนสิ่งต่างๆให้กับเจ้าหนูน้อยนั่น
               “ไหนๆวันนี้เอเลนก็ไม่อยู่ รีบทำเจ้าโปรเจคนี้ให้เสร็จแล้วฉันกลับไปเล่นเกมส์ดีกว่า” ฮันซ่ที่เริ่มตั้งสติได้กลับมาจับเมาส์เพื่อเลื่อนทำงานในโปรแกรมที่เปิดค้างไว้ต่อให้เสร็จ
               แต่ละคนก็เริ่มหันกลับมาทำงานของตัวเองอย่างเนือยๆ และหวังให้งานเสร็จไวๆ อย่างน้อยก็จะได้ไปใช้เวลาชช่วงวันหยุดที่เหลือกับกิจกรรมที่ทำค้างไว้ หรืออย่างน้อยก็นอนทิ้งร่างกับเตียงนุ่มที่คิดถึงตอนนี้
               “จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายเอาเอเลนมาอยุ่ด้วยสินะ ที่ต้องอยุ่คนเดียว” เอลวินยื่นพิมพ์เขียวที่ตรวจเสร็จแล้วส่งให้ชายหนุ่ม
               รีไวคิดสักครู่ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ จะว่าไปเขาก็เกือบลืมไปแล้วว่าอยุ่คนเดียวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ตั้งแต่เมื่อเช้าที่ไปส่งเจ้าหนูนั่นขึ้นรถบัส แล้วต้องตรงมาออฟฟิศทำงานที่ค้างคาจนตอนนี้ เขายังนึกไม่ออกว่ากลับบ้านไปแล้วจะทำอะไรต่อดี? ทั้งที่ถ้าเป็นปกติ กิจวัตรประจำวันของเขาคอการคิดหาเมนูมื้อเย็นเพื่อทานกับเอเลน และอาจมีเล่นเกมส์ อ่านหนังสือ หรือดูโทรทัศน์ด้วยกัน....
               ความรู้สึกว่าวันนี้ช่างว่างเสียเหลือเกิน...ถ้าไม่นับเรื่องงาน เขาไม่ได้สัมผัสมันมานานเท่าไหร่แล้ว? พอรู้สึกตัวอีกทีงานที่ค้างเขาก็เคลียจนเสร็จ พร้อมๆกับผู้คนที่เมื่อสักครู่ยังอยู่เต็มห้อง ตอนนี้เหลือแต่เพียงความเงียบ กับพระอาทิตย์ยามเย็นที่แสงเริ่มจางหาย
               รีไวจัดการปิดคอมพิวเตอร์ของตนเองก่อนจัดการเก็บของบนโต๊ะให้เข้าที่ทั้งหมด เมื่อเหลือบมองโทรศัพท์ก็ยังคงไร้การติดต่อจากเจ้าเด็กน้อยของเขา ซึ่งไม่แปลกอะไรสำหรับการไปทัศนศึกษาบรรดาอาจารย์ต้องห้ามพวกนักเรียนในการใช้เครื่องมือสื่อสารถ้าไมได้รับอนุญาติ ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง ปกติแล้วก่อนที่เอเลนจะมาอยู่ หลังเลิกงานแบบนี้เขามักทำอะไรกันนะ?... แต่ดูเหมือนสิ่งต่างๆที่เขาเคยทำมาในอดีตจะไม่เป็นที่น่าจดจำนัก ในหัวจึงว่างเปล่าไปหมด สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจที่จะกลับบ้านไปนอนพัก มือจึงตวัดเสื้อสูทที่พาดไว้บนพนักเก้า แรงเหวี่ยงทำให้ชายเสื้อปัดไปโดนกล่องใส่เครื่องเขียนที่อยู่ปลายโต๊ะ จนของข้างในกระจายหล่นเต็มพื้นให้ชายหนุ่มได้ฆ่าเวลาเก็บของใส่กล่องให้เข้าที่อีกสักพัก
               เมื่ออุปกรณ์ต่างๆถูกเก็บในกล่อง รีไวจึงสังเกตเห็นบัตรสมาชิก VIP ไนท์คลับที่ไม่เห็นมานาน Rose’s club ถ้าจำไม่ผิด ทุกคืนวันศุกร์เมื่อก่อนเขาชอบที่จะไปนั่งดื่ม และคงบ่อยมากจนได้บัตรสมาชิก VIP  รีไวพลิกด้านหลังบัตรไปมาเพื่อดูวันหมดอายุบนบัตร แต่ไม่ได้มีระบุไว้ บางทีถึงไม่ได้ไปมานานเจ้าบัตรใบนี้อาจยังคงใช้ได้ ในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้มีอะไรต้องทำ ลองกลับไปใช้ชีวิตแต่ก่อนที่จะรับเจ้าหนูเอเลนมาเลี้ยงดูก็ไม่เลว...

               เดินลงไปตามบันไดชั้นใต้ดินของอาคารแหล่งช็อปปิ้งในเมืองก็จะเป็นคอมิวนิตี้สำหรับพบปะสังสรรค์ตอนกลางคืน ร้านต่างๆเริ่มเปิดป้ายไฟและเหล่าพนักงานหน้าตาดีที่แต่งแต้มสีนสันด้วยเครื่องสำอางบนใบหน้าเริ่มทยอยออกมายิ้ม ส่งสายตาเชิญชวนให้กับผู้ที่สัญจรไปมา
               Rose’s club เป็นร้านที่อยู่จนสุดทางเดินของคอมิวนิตี้ ถึงแม้จะอยู่ด้านในที่ลึกที่สุด แต่ก็เป็นคลับที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ด้วยเช่นกัน รีไวยื่นบัตร VIP ให้กับพนักงานต้อนรับหน้าประตู เมื่อรับบัตรมาตรวจดู บริกรจึงนำทางชายหนุ่มไปอีกห้องที่กั้นด้วยประตูกระจกและมีม่านอีกชั้น เสียงเพลงบรรเลงสบายๆแตกต่างจากไนท์คลับด้านนอกที่มักเปิดเพลงแนวแด๊นซ์ที่กำลังเป็นที่นิยม
               ในส่วนของ VIP จะเป็นโซนโซฟาที่อยู่ขึ้นไปบนชานล้อมรอบเวทีการแสดงตรงกลาง และที่นั่งชั้นธรรมดาช่วงล่างๆ คล้ายกับโรงละครโอเปร่าเพียงแต่ที่นั่งของแขกพิเศษ อยู่ใกล้ชิดและไม่ได้สูงเท่าโรงละครโอเปรา โซนโซฟาด้านบนจัดไว้สำหรับผู้ถือบัตร VIP จึงมีจำนวนไม่มาก ในแต่ละส่วนให้ความเป็นส่วนตัวโดยการมีม่านกั้นฉาก
               นั่งพักได้สักครู่ บริกรจึงนำเครื่องดื่มต้อนรับมาเสริ์ฟ พร้อมทั้งยื่นเมนูเครื่องดื่มและอาหารต่างๆให้กับชายหนุ่ม รีไวมองรายการเครื่องดื่มผ่านๆ ก่อนจะสั่ง บรั่นดี Remy Martin เครื่องดื่มประจำที่เขามักชอบและมีติดบ้านไว้จิบบ้างเวลาที่เจ้าเด็กตัวดีของเขาหลับแล้ว ก่อนจะสั่งอาหารทานเล่นง่ายๆเป็นกับแกล้ม รอไม่นานบริกรก็นำเครื่องดื่มสีอำพันรินใส่แก้วเสริ์ฟให้กับชายหนุ่ม
               รีไวยกเครื่องดื่มอมไว้ในปากก่อนจะกลืนลงไปให้กลิ่นหอมหวานและรสคมเข้มของบรั่นดีฟุ่งในลำคอ การเปลี่ยนบรรยกาศมาดื่มนอกบ้านจากที่ไม่ได้ทำมานานนับว่าไม่เลว ดนตรีที่เปิดคลอก็เลือกเพลงได้ตรงรสนิยมของชายหนุ่ม ดูว่าเขาจะห่างหายบรรยกาศแบบนี้ไปพอสมควร แต่ถึงแม้จะได้จิบบรั่นดีชั้นเริ่ด ชาหนุ่มก็ยังคงไม่รู้สึกกระตือรือร้นหรือดื่มด่ำกับบรรยกาศเท่าไรนัก สายตายังคงจับจ้องที่โทรศัพท์สมารท์โฟนของตนเป็นพักๆ แต่นั้นก็ยังคงว่างเปล่า....... เวลาป่านนี้เจ้าหนูนั่นคงกำลังทานอาหารเย็น หรือไม่ก็คงกำลังทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆกับกลุ่มเพื่อนๆ หวังว่าเจ้าเด็กนั่นคงจะสนุก และเมื่อกลับมาคงมีเรื่องเล่ามาเล่าให้เขาฟังไม่หยุดปากแน่ๆ
               ทั้งที่เจ้าเด็กนั่นคงกำลังสนุก แต่ตัวเขาตอนนี้กำลังรุ้สึกเบื่อกับการไม่มีอะไรทำ ให้ตายสิ เขาเคยชินกับการมีเจ้าหนูนั่นคอยวนเวียนอยู่ข้างๆชะมัด!
               แสงสปอร์ตไลท์บนเวทีฉายขึ้นพร้อมการแสดงของเหล่านักแสดงที่เตรียมพร้อมต่างออกมาร่ายรำท่วงท่าต่างๆ และแน่นอนเพราะเป็นไนท์คลับ การแสดงทั้งระบำเปลื้องผ้า หรือ โพลแด๊นซ์ ย่อมมีให้ชม และแน่นอนสำหรับผู้ที่นั่งในโซน VIP เหล่านักแสดงทั้งชายและหญฺงบนเวทีต่างชายตาส่งให้ลูกค้าที่นั่งชั้นบนไม่หยุดหย่อน ดอกไม้ ที่คาดผม หรือแม้กระทั่งชุดชั้นในต่างถูกโยนขึ้นไปยังบนโซนที่นั่งโซฟาของแขกพิเศษ ชายหนุ่มมองภาพหญิงสาวรูปร่างดีมีน้ำมีนวลเบื้องล่างประกายตามองเขามาสักพัก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจอแบบนี้เขาจะทำยังไงนะ?... คง เล่นด้วยกับเจ้าหล่อนล่ะมั่ง?
               .... อ่า...... ให้ตายสิ ดูเหมือนเรื่องพวกนี้จะไม่อยุ่ในความทรงจำของเขาเลย.....
               หลังการแสดงจบลง เวทีเงียบลงอีกครั้งก่อนจะเป็นการผลัดเปลี่ยนนักแสดงชุดใหม่สำหรับโชว์ต่อไป รีไวจิบบรั่นดีอย่างไม่ได้สนใจการแสดงชุดใหม่ตรงหน้าเท่าไรนัก  ทั้งที่บรรยกาศรอบข้างทุกคนต่างตื่นเต้นกับการแสดงโชว์เปลื้องผ้าของสาวสวยผมยาวเบื้องล่าง รวมทั้งเสียงเชียร์ร้องให้สาวน้อยบนเวทีกับการเต้นไปรอบๆและโยนชุดประดับน้อยชิ้นนั่นทีละชิ้น
               เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะกลับ อย่างน้อยการกลับไปขัดห้องน้ำช่วงที่เจ้าตัวดีไม่อยู่ก็คงมีประโยชน์กว่าการที่เขามานั่งดูโชว์ที่แสนน่าเบื่อตรงนี้
               ผ้าม่านเปิดขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงเรียกให้บริกรที่เข้ามาเช็คบิล แต่เสียงใสที่ไม่คุ้นนั่นดังขัดทำให้รีไวต้องหันไปมองต้นเสียง
               “จะกลับแล้วหรือคะ หรือคุณมีนัดที่อื่นต่อ?”
 หญิงสาวรูปร่างดีใบหน้าสวยหวานที่แสดงบนเวทีเมื่อสักครู่เดินเข้ามาหาเขาก่อนถือวิสาสะนั่งบนโซฟาเดียวกับชายหนุ่ม มือเรียวยาวเทบรั่นดีในแก้วที่ว่างเปล่าพร้อมทั้งยื่นให้รีไว ชายหนุ่มหยิบบรั่นดีมาดื่มต่อตามอีกฝ่ายเสนอ
“เมื่อกี้มองอยู่ใช่ไหม?” เสียงหวานเอ่ยถาม แต่ชายหนุ่มยังคงมีใบหหน้านิ่งเฉย
“ คิก... รู้ไหมท่าทีเย็นชาแบบนั้นของคุณมันน่าดึงดูดมากเลย”
ร่างเพรียวของหญิงสาวเขยิบเข้าใกล้ก่อนริมฝีปากสีแดงสดจะทาบทับกับชายหนุ่ม ลิ้นเล็กของหญิงสาวรุกดึงดันชายหนุ่ม สองแขนเพรียวตวัดล้อมรอบไหล่หนา จากผู้รุกล้ำกลายเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อน เมื่อริมฝีปากที่ถูกทาบทับเริ่มตอบรับการรุกล้ำของหญิงสาว มือหนาประคองหลังบอบบางของหญิงสาวที่เริ่มเอนตามแรงกดของรีไว ร่างอรชรจมลงกับโซฟาสีแดงสดก่อนที่ชายหนุ่มจะผลริมฝีปากของตนออก กลิ่นนิโคตินผสมกับบรั่นดีคละคลุ้งในโพรงปาก... จะว่าไปเขาเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? ถ้าจำไม่ผิด ตั้งแต่เห็นเจ้าหนูนั่นไอและเป็นหวัดบ่อยๆได้ล่ะมั่ง...
“อีกสักพักฉันจะเลิกงานแล้ว ถ้าคุณไม่ได้รีบไปไหนแล้ว....”
หญิงสาวเบียดร่างของตนให้แนบชิดกับรีไว แขนขาวเพรียวตวัดรัดลำแขนแข็งแกร่งให้แนบชิดกับอกอิ่มของตน
.
.
.
.

.
.
.
.
.
ซ่า ซ่า ซ่า ซ่า.......
เสียงน้ำจากฝักบัวไหลกระทบก่อนร่างแข็งแกร่งจะหมุนปิดน้ำ รีไวปาดไอน้ำบนกระจกที่ขึ้นฝ้า นัยน์ตาสีหมอกมองหน้าของตนที่ผมเปียกชื้นแนบลงกับใบหน้าคมคาย เป็นอีกครั้งที่วันนี้ชายหนุ่มถอนหายใจ ถึงแม้จะเพิ่งผ่านเหตุการณ์อัยเร่าร้อนที่ยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนผ้าปูเตียงที่ร่างอรชรของหญิงสาวนอนเปลือยกายจากกิจกรรมที่เพิ่งจบไปเมื่อสักครู่ ทั้งที่รู้สึกน่าเบื่อ แต่ร่างกายขอชายหนุ่มก็ยังคงตอบสนองไปตามสัญชาตญาน แม้จะไม่มีความรู้สึกและอารมณ์ร่วมกับร่างที่ดิ้นกระเส่าใต้ร่าง ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังแสดงสีหน้าพึงใจ แม้เขาจะพละออกจากเตียงชำระร่างกายทันทีที่เสร็จกิจ
หลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงเดินออกจากห้องน้ำ จึงเห็นหญิงสาวพิงหมอนหนุนสูบบุหรี่ที่บนเตียง นัยน์ตาเย็นชาปรายตามองร่างนั้นเพียงชั่วครู่
“คุณไม่ชอบให้สูบบุหรี่บนเตียงงั้นเหรอ?” หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางเฉยเมยและหน้าเย็นชาของอีกฝ่าย
“ยังไงฉันก็ไม่คิดจะค้าง แต่เธอจะอยู่ต่อก็ได้ นี่ถือเป็นค่าเสียเวลาและโรงแรม”
รีไววางเงินจำนวนหนึ่งให้ที่หน้าทีวีในห้อง เมื่อตรวจดูทุกอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงใส่ชุดสูทที่พาดไว้บนพนักโซฟาคลุมทับ จากเวลาตอนนี้เขาน่าจะยังทันรถเที่ยวสุดท้ายเพื่อกลับบ้าน
“ช่วยบอกชื่อคุณหน่อยได้ไหม? ร่างกายเราเข้ากันได้ดี ฉันอยากเจอคุณอีก”
หญิงสาวลุกจากเตียงมากอดที่หลังชายหนุ่ม รีไวหมุนตัวกลับก่อนจะดันหญิงสาวให้ผละออก
“ตามมารยาทแล้วการถามชื่อคนอื่น เธอควรบอกชื่อของตัวเองก่อน”
หญิงสาวกำลังเอ่ยตอบ แต่รีไวแตะที่ริมฝีปากอิ่มนั่นไว้ให้เงียบลง
“แต่มันไม่จำเป็น เพราะฉันไม่คิดเจอเธออีก”
รีไวเดินออกจากห้องตามด้วยเสียงต่อว่าของหญิงสาวที่เขาไม่คิดจะสานสัมพันธ์ต่อ ก่อนจะจบลงด้วยเสียงของอะไรบางอย่างที่กระแทกกับประตู บางทีเจ้าหล่อนคงจะปาหมอน หรือโทรศํพท์ ถึงยังไงเขาก็จ่ายแค่ค่าห้องโรงแรม สำหรับค่าเสียหายเขาไม่คิดจะรับผิดชอบให้อยู่แล้ว

รถไฟเที่ยวสุดท้ายตรงตามเวลา มาคิดดูแล้วเมื่อก่อนเขาใช้ชีวิตได้น่าเบื่อชะมัด... ที่จริงเขารู้สึกมานานแล้ว แต่วันนี้เพิ่งชัดเจน กลิ่นน้ำหอมของพวกผู้หญิงที่เขามักนอนด้วยน่าเวียนหัวเป็นที่สุด กลิ่นน้ำบาปรับผ้านุ่มและแป้งเด็กที่เป็นกลิ่นประจำของเจ้าตัวดีของเขายังให้ความรู้สึกที่ดีกว่ามาก
รีไวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาอีกครั้ง ก่องอีเมลในโทรศัพท์แจ้งเตือนว่ามีเมลเข้า ทั้งที่เขาอุตส่าห์เคลียงานไปทั้งหมดแล้ว แต่ดูว่างานของเขาจะไม่เคยจบสิ้นจริงจังเสียที แต่อย่างน้อยคิดเรื่องงานตอนนี้ก็ช่วยให้เขาฆ่าเวลาได้ดีกว่าเซ็กซ์
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเป็นประกายเมื่อมองเมบที่ส่งเข้ามา ใบหน้าที่เฉยชามาทั้งวันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เจ้าหนูเอเลนของเขาดูท่าจะแอบใช้โทรศัพท์จนได้ เพราะข้อความที่ส่งมานั้นสั้นจนผิดวิสัยคนช่างจ้ออย่างเจ้าหนูนั่น
[ คุณอา เอเลนไม่อยู่เหงาไหมฮะ? ส่วนเอเลนเหงามากๆเลย  กว่าจะแอบขโมยโทรศํพท์คืนจากอาจารย์มาส่งอีเมลให้คุณฮาได้ ตอนนี้คุณอายังทำงานอยู่รึเปล่า?  เอเลนไปเจอที่สวยๆด้วยล่ะเลยส่งมาให้คุณอาดู พยายามทำงานเข้านะฮะ กลับไปแล้วเอเลนจะรีบไปช่วยงานคุณอาทันทีเลย]
รีไวเลื่อนดูภาพที่เจ้าหนูเอเลนส่งมาให้เขา 2 ภาพ ภาพแรกเป็นรูปทิวทัศน์บนเขาที่เจ้าหนูได้ไปทัศนศึกษา และภาพต่อมาคือใบหน้าเปื้อนยิ้มของเจ้าตัวพร้อมชูสองนิ้ว
เวลาที่ส่งมาคือตอนประมาน สามทุ่ม เป็นช่วงที่เขากำลังอยุ่ในไนท์คลับ จึงได้เพิ่งมาเปิดเอาตอนนี้ หวังว่าเจ้าหนูนั่นคงไม่ได้รอเมลตอบกลับจากเขาจนโดนอาจารย์จับได้หรอกนะว่าแอบมาเล่นโทรศัพท์แบบนี้ เขาจึงส่งข้อความตอบกลับไปว่าฝันดีและเที่ยวให้สนุก รอสักพักไม่มีเมลตอบกลับ คาดว่าเจ้าตัวดีคงโดนยึดโทรศํพท์แล้ว หรือไม่คงหลับไปแล้ว
ให้ตายสิ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรแย่ๆ แต่ทำไมอยู่ๆถึงรู้สึกว่าทำผิดต่อเจ้าหนูนั่นกันนะ?
พรุ่งนี้เขาคงต้องขอไถ่โทษด้วยการทำความสะอาดบ้าน พาเจ้าเยเกอร์ไปเดินเล่น และเตรียมอาหารต้อนรับเจ้าตัวดีของเขากลับมาในวันมะรืน....
ถึงช่วงแรกจะเหมือนเจ้าหนูนั่นเป็นฝ่ายที่ติดเขา แต่ดูว่าตอนนี้เขาเองก็คุ้นชินและติดเจ้าตัวดีนั่นไม่ต่างกัน....



TBC.

3 ความคิดเห็น:

  1. คุณอาติดเอเลนแล้วล่ะค่ะ เย้ๆๆ มาต่อแล้ว
    รอติดตามอยู่นะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คุณอาอาจจะติดเด็กมากกว่าที่คิดก็ได้นะคะ😆😆😆

      ลบ
  2. นี่มาเขียนต่อให้จบสิ..รออยู่นะ

    ตอบลบ