วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ล่ารักอันตราย2 Chapter 14: The Secret is secret (Final)

Chapter 14: The Secret is secret (Final)
………………………………………………………………………………………….
         
            กลับมาจากเหตุการณ์วุ่นวายได้ 3 วัน ทั้งที่คิดว่าคงกลัมาใช้ชีวิตได้ปกติตามเดิม แต่ดูเหมือนช่วงที่เขาความจำเสื่อมจะทำให้ความปกติสุขในชีวิตของตัวเองเปลี่ยนไปอีกนิดหน่อย....
          เอเลนมองแขนที่โอบรอบเอวเขาราวกับคีมหนีบสลับกับใบหน้าของเจ้าของวงแขนที่เกยอยู่กับไหล่เขา
          “คุณรีไว ถ้าคุณเกาะผมขนาดนี้ผมก็ทำอาหารไม่ได้สิครับ” เอเลนชูมีดและแครอทที่อยู่ในมือให้อีกฝ่ายดู เพราะมีอีกคนคอยเกาะขนาดนี้เขาจึงทำอาหารไม่ไปถึงไหนสักที
          รีไวเหลือบตามองพลางคลายอ้อมแขนเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเอาหน้าซุกกับไหล่บางของเด็กหนุ่ม
          เอเลนมองคนอายุมากกว่าพลางถอนหายใจ ตั้งแต่เขากลับมา เขายังไม่ได้บอกชายหนุ่มเลยว่าเขาความจำกลับมาแล้ว เพราะหวังว่าจะได้ใช้เป็นข้ออ้างให้ตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่าคนขี้แกล้งจะเกาะติดเขาแทบทุกย่างก้าว ถึงขนาดหาเรื่องลาพักร้อนเฝ้าเขาล่วงหน้าเป็นอาทิตย์
          “ผมไม่หายไปไหนหรอกครับ คุณไปนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวก็ได้” เด็กหนุ่มสะกิดพลางชี้ไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
          “ฉันกลัวว่าคาดสายตาจากนายไปแล้วจะต้องตามหาไปถึงดาวอังคารน่ะสิ”
          มีดที่หั่นแครอทพลางหยุดชะงัก ก่อนจะเบนสายตาไปที่พนังครัวราวกับมีอะไรที่น่าสนใจอยู่ตรงนั้น ให้ตายสิตาลุงบ้านี่จะเรียกว่าน่ารักหรือน่าหมั่นไส้ดีเนี่ย!!
          “ว่าแต่นายจำเรื่องต่างๆได้บ้างหรือยังเจ้าหนู?”
          คนถูกถามสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อน
          “ย... ยังเลยครับ แต่ก็พอมีลางๆ ก็หวังว่าจะกลับมาจำอะไรได้เร็วๆนี้ล่ะฮะ แหะๆ”
          รีไวมองใบหน้าด้านข้างของเด็กหนุ่ม ใบหน้าเจ้าเล่ห์เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เช่นกัน ตั้งแต่กลับมากว่าจะจัดการเจ้าเอลวิน ที่ตอนนี้ทำตัวเป็นคุณพ่อหวงลูกยอมให้เขากับเอเลนอยู่กันตามลำพังก็ต้องให้ไมค์ลากเจ้าตัวน่ารำคาญกลับที่ทางของตัวเองเสียตั้งนาน เมื่อกลับมาเจ้าหนูที่น่าความจำเสื่อมกลับจัดการเก็บรองเท้าและสินของตามที่ต่าๆอย่าคุ้นชิน แต่เมื่อเจ้าตัวเหมือนนึกได้ว่าอยู่ในระหว่างความจำเสื่อมจึงหันมาถามเขาเป็นระลอกว่าใช่ตรงนี้หรือเปล่า แรกๆเขาเองก็ไม่มั่นใจ แต่สองวันมานี้เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่าความทรงจำของเจ้าหนูคงกลับมาแล้ว แต่นเอเจ้าตัวพยายามเล่นละครตบตาอย่างห่วยแตก เขาก็จะยอมเล่นกับเจ้าเด็กนี่ดูเสียหน่อย
          รีไวคลายอ้อมกอดของตัวเองก่อนจะไปนั่งรอที่โต๊ะทานอาหารตามที่เด็กหนุ่มต้องการ นัยน์ตาสีขี้เถ้ายังคงจับจ้องร่างบอบบางนั้นทำอาหารด้วยความคุ้นชินพลางหัวเราะขำในลำคอ
          “เอเลนขอชาดำสักถ้วยสิ”
          เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะเปิดชั้นวางของหยิบถ้วยชาและผงชาดำที่วางไว้อย่างคุ้นชิน และเหมือนเจ้าตัวเพิ่งรู้สึกตัวจึงหันมามองคนเจ้าเล่ห์ที่แสร้งสนใจข่าวในช่องโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้
          “ค.. คุณรีไวชอบชาดำอย่างงั้นเหรอครับ?” พยายามพูดเบี่ยงเบน รู้สึกเหมือนเขาจะทำอะไรสักอย่างพลาด
          “...ใช่ ชอบมาก..” นัยน์ตาสีขี้เถ้าหันมองเด็กหนุ่มโดยทำเหมือนไม่ใส่ใจนักก่อนจะหันไปสนรายการข่าว ซึ่งที่จริงเขาก็ไม่ได้ฟังเสียเท่าไร
          เอเลนจัดเตรียมชาร้อนพร้อมยกเสริ์ฟให้กับชายหนุ่ม ทันทีที่รีไวจิบชาร้อนรสชาติของชาที่คุ้นเคยทำให้เขายิ่งมั่นใจอย่างไม่ต้องสงสัย
          “นายจำได้ด้วยงั้นเหรอว่าฉันชอบชาดำไม่ใส่น้ำตาล” ใบหน้าเจ้าเล่ห์เอียงมอง ยิ่งทำให้เอเลนสะดุ้งโหยง
          “ผ...ผมกำลังจะมาหยิบน้ำตาลไปให้คุณต่างหาก” เอเลนจัดแจงหากระปุกน้ำตาลวางให้ชายหนุ่มก่อนจะรีบหันไปทำอาหารที่ค้างไว้
          รีไวจิบชาดำจนหมดแก้ว ชายหนุ่มหยิบกระปุกน้ำตาลกลับไปไว้ที่เดิม ใบหน้าคมเจ้าเล่ห์มองหลังบอบบางของเด็กหนุ่มพลางยกยิ้มมุมปาก เจ้าหนูนี่ถ้าไม่เล่นไม้แข็งคงไม่ยอมรับง่ายๆสินะ
ได้...ในเมื่ออยากเล่นกับเขา เขาก็จะเล่นด้วยในแบบวิธีของเขาล่ะนะ...
สองแขนแข็งแรงรวบเอวบางที่ทำครัวอีกครั้ง เด็กหนุ่มจึงต้องหยุดชะงักมือก่อนจะหันค้อนคนเอาแต่ใจด้านหลัง
“คุณรีไว ถ้าเป็นแบบนี้เราคงไม่ได้ทานมื้อเย็นกันพอดี”
“ถ้านายหิว เดี๋ยวเราสั่งอาหารมาทานกันก็ได้”
รีไวจัดการเอามีดหั่นที่อยู่ในมือเด็กหนุ่มวางบนเขียง เอเลนมองหน้าชายหนุ่มพลางกระพริบตาปริบๆ แล้วใครกันที่บอกให้เขามาทำอาหารเย็น แล้วพอตอนนี้กลับบอกว่าจะโทรสั่งมาแทน ตาลุงนี่อารมรณ์ขึ้นๆลงๆจนเขาเริ่มตามไม่ทันแล้ว
“ถ้างั้นผมจะไปหาใบปลิวดูว่ามีอะไรน่าสนใจแล้วกันนะครับ... ว เหวออ!
ทันทีที่เบียงตัวออกร่างของเด็กหนุ่มก็ถูกคนอายุมากกว่ารวบขึ้นพาดบ่า
“ด...เดี๋ยว คุณรีไว เราจะโทรสั่งอาหารกันไม่ใช่เหรอ!!?”
ใบหน้าเจ้าเล่ห์หันยิ้มให้เด็กหนุ่มก่อนจะกระชับแขนเพิ่มมากขึ้น
“ฉันคิดขึ้นมาได้ว่า เวลาฉันกับนายอยู่ด้วยกันชอบออกกำลังกายก่อนทานอาหาร บางทีมันอาจช่วยฟื้นความจำนายได้ไง เจ้าหนู”
คำตอบที่ได้รับทำให้เอเลนรู้สึกตัวแข็งเป็นหิน อะไรคือออกกำลังกายก่อนทานข้าว? แล้วทางที่คุณฑี่เดินไปมันห้องนอนไม่ใช่เหรอ!! มันออกกำลังกายแบบไหนกันเนี่ย!!!

ตุบ!

ร่างของเด็กหนุ่มถูกโยนลงบนเตียง เอเลนรีบยันตัวลุกขึ้นนั่งพลางเขยิบไปชิดกับมุมเตียง แล้วเด็กหนุ่มต้องหน้าเหวอมากขึ้นเมื่อเสื้อยืดสีดำของชายหนุ่มถูกถอดออกเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อแน่นของเจ้าตัว
“...ค...คุณ รีไว... ออก กำลังกาย แบบไหน เหรอครับ?” เอเลนพยายามตีหน้าซื่ออย่างสุดความสามารถ แม้ในใจจะร้องตะโกนออกมาไม่เป็นภาษา
“ก็ เรื่องที่ฉันกับนายคุ้นเคยกันดีไง...เจ้าหนู” ใบหน้าเจ้าเล่ห์ยิ้มยกมุมปาก นัยน์ตาสีขี้เถ้าวาววับเป็นประกายจนเด็กหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ชิบเป๋งแล้วเอเลน!! ไอเรื่องคุ้นเคยกับพี่ท่านในห้องนอนจะมีก็แต่เรื่องปวดตับ ปวดเอว เจ็บสะโพกนี่แหละที่เขาคิดออก ไม่ ไม่ ไม่ คุณรีไวยังไม่รู้ว่าความจำเขากลับมา คงไม่คิดจะทำอะไรกับคนที่จำอะไรไม่ได้หรอก เขาคงคิดมากไปเองแน่ๆ
“อ.. เออ... คือ ผมความจำเสื่อม... นึกไม่ออกเลย ว่าปกติผมออกกำลังกายยังไงกับคุณเหรอครับ?” เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งพยายามทำใจดีสู้เสือ...ไม่สิ ที่จริงควรเรียกว่าใจดีสู้หมาป่าตรงหน้ามากกว่า
รีไวหมุนคอ พลางบิดเอวไปมา ก่อนจะกวักมือเรียกเด็กหนุ่มที่นั่งหน้าเหวอบนเตียง เด็นแบบนั้นคนที่กำลังทำตัวไม่ถูกก็ได้แต่นั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน
“ถ้านายมัวแต่นั่งเฉยๆฉันก็วอร์มไม่ได้น่ะสิเจ้าหนู” รีไวฉุดแขนของเด็กหนุ่มให้ลุกขึ้นก่อนจะดึงเข้าหาแผ่นอกของเขาที่รองรับ
“นายอาจจะนึกไม่ออก...แต่ปกตินายเป็นคนที่ชอบอยู่ข้างบนล่ะนะเอเลน”
แว๊ก!! ตาแก่นี่มันมั่วนิ่มชะมัด ใครเขาเคยขึ้นไปอยู่ด้านบนกันเล่า!! ถ้าเคยมันก็เพราะนายนั้นแหละตาแก่ลามกเอ๊ย!!
ใบหน้ามนขึ้นสีระเรื่อจนไม่กล้าเงยหน้าสบตาคนขี้แกล้ง ทั้งเหงื่อที่เริ่มไหลซึมกาย
“มาสักทีสิเจ้าหนู” สายตาคมออกแววดุสั่งให้คนที่นั่งเกร็งมุมเตียงเริ่มสักที
เมื่อต่างก็ได้แต่เล่นจ้องตาโดยที่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะขยับ คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าจึงถือโอกาสเป็นผู้ชักนำ
“ได้เจ้าหนู ในเมื่อนายยังจำอะไรไม่ได้ ฉันจะช่วยชี้นำให้เอง”
ริมฝีปากบางยกยิ้ม พลางเขยิบเข้ามาใกล้จนเอเลนได้แต่พยายามหดตัวไม่กล้าสู้เงยหน้ามอง










เอี๊ยด เอี๊ยด
เสียงพื้นไม้ดังเป็นจังหวะกับการขยับตัวของรีไว เหงื่อที่เกาะติดใบหน้าคมคายพรั่งพรูจนผมสีดำชื้นแฉะ

“ไม่ต้องเกร็งเจ้าหนู ฉันยังไม่เหนื่อยเลย”
แม้จะพูดอย่างนั้นแต่เสียงที่เปล่งมาเริ่มประสานกับลมหายใจร้อนที่ถี่ขึ้นกว่าปกติ เอเลนได้แต่ตัวเกร็งตามจังหวะขึ้นลง ของอีกฝ่าย
“ค คุณรีไว เราจะไม่พักกันหน่อยเหรอครับ?”
เสียงใสเอ่ยถาม พลางบีบต้นแขนของอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม
สายตาคมเหลือบมองก่อนจะหยุดจังหวะขึ้นลงของตัวเอง
“นายแค่นั่งเฉยๆก็เหนื่อยแล้วงั้นเหรอ? คงต้องให้นายรูจักหาเวลาออกกำลังกายบ้างแล้วล่ะนะ”
รีไวเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่บนหลังเขาขณะกำลังลงจังหวะวิดพื้นรอบที 230พอดี
เอเลนยิ้มแห้งให้กับคนที่เขานั่งทับ ตกลงเรื่องที่เขาบอกว่าออกกำลังกาย ก็คือออกกำลังกายจริงๆ ที่บอกว่าเขาอยู่ข้างบนมาตลอดก็แค่เรื่องที่ให้เขานั่งบนหลังเพิ่มน้ำหนักให้กับอีกฝ่ายในการสิดพื้นนี่นะ ทำไมตาแก่ลากมกนี่ชอบพูดจาสองแง่สามง่ามอยู่เรื่อย!! อายความคิดของตัวเองชะมัด! เด็กหนุ่มต่โอดครวญในใจ
ใบหน้ามนมองแผ่นหลังที่ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะอีกครั้ง กล้ามเนื้อมัดแน่นที่ขยับเป็นจังหวะชวนให้ใจเต้นแปลกๆ มือบางไล้ตามกระดูกสันหลังที่ปูดขึ้นอย่างชัดเจนของชายหนุ่ม ทั้งที่กล้ามเนื้อยังคงแน่นเรียงตัว แต่ดูเหมือนคุณรีไวจะผอมลงนิดหน่อยในช่วงที่เขาประสบอุบัติเหตุ เสียงลมหายใจที่หนักหน่วงเป็นจังหวะทำทำให้เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกลมหายใจติดขัดตาม วงแขนแข็งแรงที่คอยโอบกระชับเขา หน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงที่มักทาบทับลงบนตัวของเรา ริมฝีปากหอบหายใจที่ช่างเอาแต่ใจและร้ายกาจแต่กลับหอมหวานชวนให้ลุ่มหลง ใบหน้ามนเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อจนสองมือต้องตบแก้มตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติ
เอเลน นี่แกกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย!! ราวกับว่าแกอยากให้คุณรีไวกอดงั้นแหละ ไม่ ไม่ ไม่ เขาไม่ได้คิดอย่างนั้น มันก็แค่เพราะเขาเป็นห่วงที่คนนี้ซุบลงต่างหากเล่า แค่เรื่องสรีระเท่านั้นความคิดของเขาไม่ได้มีอะไรแอบแฝงจริงๆนะเสียงหายใจที่หนักหน่วงนี้ทำมไมมันชวนเขาให้ใจเต้นแบบนี้ล่ะเนี่ย!!
“เจ้าหนูลงไปได้แล้ว เราจะได้สั่งอะไรมาทานกัน”
“อ.. อือ”
ทันทีที่คิดว่าจะได้หายใจอย่างโล่งอกและทั่วท้อง ขาลุกขึ้นราวกับไม่มีแรง ร่างของเอเลนจึงได้เซถลาจนคนที่เพิ่งวิดพื้นต้องรีบคว้าไว้

ตุบ!

ใบหน้ามนล้มชนกับแผ่นอกของชายหนุ่ม ทั้งที่เหงื่อไหลซึมกายแต่แต่กลิ่นของชายหนุ่มยังคงกรุ่นเหมือนกับผ้าที่เพิ่งซักเสร็จ ใบหน้ามนเงยหน้ามองอีกคนที่ก้มมองเขาเช่นกัน หน้าที่ห่างกับเพียงแค่ไม่กี่เซ็น และลมหายใจที่รดใส่ทำให้เด็กหนุ่มยิ่งใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าของรีไวโน้มเข้ามาใกล้ เอเลนปิดตาลงอย่างคุ้นเคยเตรียมรับสัมผัสที่ชายหนุ่มมักมอบให้เสมอ

“นายจะกินอะไรก็สั่งซะ ฉันจะไปอาบน้ำ”
มีเพียงเสียงกระซฺบที่ใบหูก่อนร่างของชายหนุ่มจะขยับลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ เอเลนมองการกระทำของอีกฝ่ายตาปริบๆ แบบนี้มันเหมือนเขากำลังรอสัมผัสจากหมอนั่นเลยไม่ใช่รึไง!! แล้วทั้งที่อย่างนั้นแต่กลับเมินเฉยเขาแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน!?
ใบหน้ามนขึ้นสีระเรื่อพลางกัดริมฝีปากของตัวเอง ถ้าเป็นทุกครั้งยังไงเขาต้องโดนตาแก่บ้านั้นจูบแท้ๆ หรือเพราะหมอนั่นยังคิดว่าเขาความจำเสื่อม... ไม่สิตอนไปบ้านร้างตอนนั้นตาลุงบ้านี่ยังไล่ต้อนจูบเขาจนบ้านแทบพัง แล้วทั้งแบบนั้นทำไมตอนนี้ถึงปฏิเสธเขาล่ะ?
คิดว่าคิดเองต่อไปคงไม่ได้คำตอบ ไม่รอช้าเอเลนวิ่งตามรีไวเข้าไปในห้องอาบน้ำเพื่อหาคำตอบด้วยตัวเอง

พลั่ก

เสียงประตูเปิดออกอย่างรุนแรงจนคนที่กำลังสระผมใต้ฝักบัวหันมองด้วยความแปลกใจ ก่อนที่จะได้ถามออกไป ร่างโปร่งของเด็กหนุ่มก็เข้ามาประชิดตัวก่อนจะเป็นฝ่ายที่ทาบทับริมฝีปากของตัวเองมาที่ชายหนุ่ม
รีไวเผยอริมฝีปากออกอย่างยินดี ปลายลิ้นเล็กที่เกี่ยวกระหวัดเข้ามาหยอกล้อเขาก็ตอบสนองต่อแรงอารมณ์ของอีกฝ่าย
ดูเหมือนแผนต่อไปที่เขากำลังจะจัดขึ้นคงต้องพับเก็บ ในเมื่อเพียงแค่ปูทางด้วยแผนแรก เจ้าเด็กนี่ก็ยอมจำนน ก็ในเมื่อเขาเป็นคนสอนเจ้าหนูในเรื่องอย่างนี้การหาวิธีกระตุ้นย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดผละออก ใบหน้าคมคายยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างไม่ปิดบัง คนที่รู้ว่าตกหลุมพลางเข้าแล้วจึงได้แต่มองค้อนหน่อยๆ มือหยาบไล่ใบแก้มนิ่มของเด็กหนุ่มพลางคลึงเบาๆ

“ความจำกลับมาแล้วกล้าขึ้นนะเจ้าหนู”
“ก...ก็เพราะ คุณนั้นแหละ!” เพราะตาแก่นี้สอนเรื่องแบบนี้กับเขา ตัวตนและอารมณ์ที่ไม่เคยรู้จักแบบนี้ ทั้งน่าอาย ทั้งรู้สึกดี

“หึ หึ ... ถ้าอย่างนั้นฉันจะรับผิดชอบ ทุกอย่างเลย”

ซ่า ซ่า
เสียงน้ำกระเพื่อม และไหลปริ่มล้นขอบอ่างตามการเคลื่อนไหวของร่างที่สองที่คลอแคลียในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ไม่ได้ช่วยให้เสียงคราญครางที่ลอดออกมาจากร่างของเด็กหนุ่มเบาลงแม้แต่น้อย
อาจเพราะอยู่ในห้องอาบน้ำเสียงที่น่าอายเหล่านั้นจึงก้องสะท้อนชัดเจนกว่าทุกครั้ง
“อื้อ...อา... ค... คุณ รีไว ผม... อึดอัด”
เพราะห่างหายจากการร่วมรักไปนาน ช่องทางที่คับแคบจึงบีบรัดอย่างหนักหน่วงทั้งที่เพิ่งใส่นิ้วไปเพียงแค่สองนิ้วเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นร่างกายและอารมณ์ที่เริ่มขึ้นสูงของเด็กหนุ่มกลับถูกกระตุ้นอย่างง่ายดาย ถึงแม้จะห่างหายไปนานเพราะเจ้าตัวความจำเสื่อมแต่ดูเหมือนร่างกายของเอเลนยังคงจดจำรสสัมผัสจากเขาได้เช่นเดิม

“ทนอีกนิดนะเอเลน”
เสียงกระเส่าพยายามอดกลั้นกระซอบข้างหูเด็กหนุ่ม ไม่ใช่เพียงแต่เอเลนท่านั้นที่กำลังโดนแรงปรารถนาชักนำ ตัวเขาเองต้องข่มอารมณ์ไม่ให้สัตว์ร้ายในกายเข้าจู่โจมร่างรัญจวนตรงหน้าเช่นกัน
สบู่ถูกชโลมลงบนมือหยาบจนชุ่ม ก่อนจะใช้เป็นตัวหล่อลื่นช่องทางที่คับแคบให้ขยายเพื่อรองรับอารมณ์ของเขา เมื่อรู้สึกได้ว่าช่องทางคับแน่นนั้นเริ่มผ่อนคลายลง รีไวจับกระชับสะโพกของเด็กหนุ่มก่อนจะกดลงบนหน้าตักที่แกนอารมณ์นั้นพร้อมสอดใส่ร่างที่สั่นระริก
“อ... อา..อื้อ.!
“ค่อยๆกดลงมาเจ้าหนู ช้า ช้า”
เอเลนค่อยกดสะโพกตนเองลงรับแกนกายของชายหนุ่ม ความรู้สึกจุกแน่นทำให้สะโพกมนพยายามถอยหนี แต่มือที่กระชับนั้นพยายามบังคับให้กดทับลงมารับแกนกายของตน เมื่อแกนอารมณ์ของรีไวเข้าไปจนสุดความรู้สึดอดกลั้นที่พยายามเริ่มพังทลายลง
“จับขอบอ่างไว้ให้ดีนะเจ้าหนู”
ทันทีที่สั่งรีไวเขยิบตัวขึ้นจนคนที่นั่งอยุ่ด้านบนต้องโน้มตัวจับขอบอ่างน้ำตามที่ชายหนุ่มกล่าว เอวบางถูกจับกระชับก่อนสะโพกหนาจะขยับเร่งจังหวะถาโถมอารมณ์ความปรารถนาที่พลั่งพรูออกมา
“อา อา คุณ รีไว อื้อ!!
ชายหนุ่มพร่ำจูบที่หลังคอของเอเลน ไล่ตามแผ่นหลังก่อนจะขบที่ไหล่ของเด็กหนุ่มจนขึ้นเป็นรอยแดงประปราย
“หันหน้ามาหน่อยสิเอเลน”
เสียงทุ้มรอดเสียงคำรามต่ำออกมา ก่อนจะกดจูบหนักๆทันทีที่เด็กหนุ่มหันหน้าเข้าหา รีไวพลิกร่างของเอเลนโดยไม่ถอนแกนกายของตนเองออก เด็กหนุ่มได้แต่จิกเล็บลงบนไหล่แกร่งประท้วงกับคนที่ตอนนี้ปิดปากเขา เสียงและเปลี่ยนความหวานที่ชื้นแฉะดังก้องในห้องน้ำ แม้จะมีเสียงของน้ำที่กระฉอกออกจากอ่างอาบน้ำ งกระนั้นทั้งสองได้ยินเพียงแต่เสียงลมหายใจของอีกฝ่ายเท่านั้น
“ฮ้า ฮ้า อ.. อ๊า!!
หยาดอารมณ์สีขุ่นพุ่งเข้าช่องทางคับแคบที่รองรับ เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มที่ปลดปล่อยแรงปรารถนาออกมาจนเปรอะเปื้อนหน้าท้องทึ้นลอนกล้ามของอีกฝ่าย
รีไวซบลงบนไหล่บางเช่นเดียวกับเอเลนที่โอบกอดร่างแข็งแกร่งนั้นไว้ ทั้งสองหอบหายใจก่อนจะพยายามสูดหายใจลึกเพื่อลดอาการหอบของตน
ชายหนุ่มเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลที่ปรกลงบนใบหน้ามนออก แล้วจูบลงบนหน้าผากไล่มายังพวงแก้มใส
เอเลนปรือตามองคนแก่เจ้าเล่ห์ นัยน์ตาสีขี้เถ้าที่ดุดันแต่แฝงด้วยความอ่อนโยนยากที่จะละสายตา เขาถูฏเจ้าของนัยน์ตาคู่นี้ดึงดูดจนจับเอาไว้เสียอยู่หมัดจนได้
“ไปที่เตียงกันเถอะครับ”
เสียงใสเอ่ยอ้อนวอน รู้ดีว่าเพียงเท่านี้ยังไม่อาจเติมเต็มความปรารถนาในตัวของชายหนุ่ม ตัวเขาเองก็ยังคงต้องการเช่นเดียวกัน

ถ้าเป็นเวลาปกติชายหนุ่มคงไม่ยอมให้ผมที่เปียกชุ่มนั้นมานอนอยู่บนที่นอนแน่ แต่ในเมื่อตอนนี้แรงอารมณ์ปรารถนามีมากกว่าเหตุผลใด ผ้าปูที่นอนจึงไม่ต่างจากผ้าเช็ดตัวของทั้งสองที่รองรับหยดน้ำพราวที่เกาะตามร่างกาย
ความปรารถนาถูกเติมเต็มให้แก่กันครั้งแล้วครั้งเล่า ช่องทางที่คับแคบถูกเติมด้วยน้ำรักจนไม่อาจรองรับได้ หยาดน้ำแห่งอารมณ์จึงไหลเปรอะลงมาที่ขาเพรียวยาวมากมาย
“ถ้านายจำอะไรไม่ได้อีก ฉันจะกอดจนร่างกายนี้กระตุ้นความจำให้นายดีไหมเจ้าหนู”
ใบหน้าคมคายหยอกล้อพลางหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพรมจูบต้นขาของเอเลนทั้งยังขบจนฝากรอยตีตราไว้มากมาย
“แต่ถ้าเป็นคุณที่จำอะไรไม่ได้บ้างก็ดีนะครับ”
รีไวเลิ่กคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีเพราะแรงปรารถนาหัวเราะเสียงใสก่อนตอบ
“ก็ถ้าคุณจำอะไรไม่ได้ ผมจะได้เป็นฝ่ายแกล้งคุณบ้างไง” ไม่ว่าจะความจำเสื่อมหรือเวลาปกติไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็รู้สึกโดนผู้ชายคนนี้แกล้งเสมอ ให้ตายสิถ้าคุณรีไวความจำเสื่อมบ้าง เขาจะขอแก้เผ็ดซะหน่อย
“หึ หึ เรื่อแบบนั้นคงไม่มีทาง แต่ถ้ามีจริงคนที่เดือดร้อนคงเป็นนายเจาหนู”
“มั่นใจจริงนะครับ”
ใบหน้ามนพองลมในแก้มหมั่นไส้ในคำตอบ คนอะไรช่างมั่นใจตัวเองจนน่าหมั่นไส้ขนาดนี้ เอาเถอะ ตัวเขาที่คุ้นชินกับตาแก่ลามกเอาแต่ใจคนนี้แล้ว ถ้าวันนึงคนคนนี้เกิดจำเขาไม่ได้หรือหายไปขึ้นมา เขาเองคงรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปเช่นกัน




นัยน์ตาบางปรือขึ้นเมื่อแสงอรุณกระบทม่านตา เอเลนขยี้ตาตัวเองเบาๆพลางหาวหวอด เมื่อขยับความเจ็บที่สะโพกก็แร่นริ้วทำให้คนขี้เซาตอนนี้ตื่นเต็มสองตา
เจ็บๆๆๆๆๆๆ  เจ็บชะมัด ตาแก่นั้นทั้งที่รู้อยู่ว่าไม่ได้ทำแบบนี้มานาน ยังใช้งานร่างเขาจนแทบพังแบบนี้มันน่านัก!!
เด็กหนุ่มลูบสะโพกตัวเองเบาๆก่อนนนจะหันมองด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ แล้วนัยน์ตาสีมรกตกลมโตต้องแปลกใจกับเลสข้อมือสีเงินที่คุ้นเคยที่ตอนนี้กลับมมอยู่บนข้อมือซ้ายของเขา
เด็กหนุ่มพยายามถอดเลสออกแต่ไม่เป็นผลเช่นเดิม เมื่อดูด้านในก็พบกับตัวอักษรสลักที่คุ้นเคย
My S.D.
“ตื่นแล้วเหรอเจ้าหนู”
รีไววางถาดอาหารที่มีขนมปังและนมอุ่นกับโต๊ะข้างเตียงให้เด็กหนุ่ม
“เออ... คุณรีไว หลังจากผม ทราบมูลค่าของไอเลสนี้ แล้วไหนจะหายไปแล้วอันแบบนี้ ผมไม่เอาได้ไหม?” ถึงแม้ที่หายไปจะไม่ใช่เพราะเขาทั้งหมด แต่ไอเลสราคามหาศาลนี้แค่คิดว่าอยู่กับคนแบบเขาก็ขนลุกแล้ว
“ไม่ต้องกังวลไป ราคาของตัวเก่าที่หายไปเทียบไม่ได้หรอก”
แต่ก่อนที่เอเลนจะหายใจอย่างโล่งอกก็ต้องสะอึกเพราะคำพูดถัดมา
“เพราะมันราคามากกว่าที่หายไปครั้งที่แล้ว”
!!!!!!!!
คุณพี่ครับ ถ้ามีเงินมากขนาดนั้นเอาไปสร้างสถานสงเคราะห์แทนดีไหม!!!
“คุณรีไว ผมขอไม่รับ หัวเด็ดตีนขาดขอไม่รับเอาคืนไปเถอะ!!
ใบหน้าคมหัวเราะในลำคอ มือหยาบขยี้ผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มพลางส่งนมอุ่นให้เจ้าตัว
“คราวนี้มันแค่เลสเงินธรรมดา แค่นั้นเจ้าหนู”
“จริงๆนะ คราวนี้คุณไม่หลอกผมใช่ไหม ผมไม่อยากรู้สึกเหมือนมีตู้เซฟเคลื่อนที่ที่พร้อมให้คนมาปล้น”
รีไวขยี้ผมสีน้ำตาลอีกครั้ง มือหยาบลูบไล้ลงไปยังเลสข้อมือของเด็กหนุ่มก่อนจะคว้าขึ้นมาจูบที่หลังมือ จนเอเลนได้แต่หน้าขึ้นสี อ้าปากพะงาบ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
My S.D. ไว้คอยเตือนว่านายคืออะไรของฉันไงเจ้าหนู”
ปากที่อ้าพะงาบๆ พยายามสรรหาคำพูด จนลิ้นแทบจะพันกัน
“อ... ไอที่คุณบอกว่าเป็น Slave Dog ง ... งั้น เหรอ?”
หน้าผากมนถูกดีดจนเจ้าตัวต้องเอามือขึ้นมาลูบ
“ถ้านายติดใจสถานะจริงจะเอางั้นก็ได้”
“แต่คุณเคยบอกว่าเป็น Sweet Dangerous นี่ที่จริงแล้วคุณหลงรักผมก็บอกมาเถอะ”
ใบหน้ามนยกยิ้มอย่างยียวน แม้ตอนนี้ใจจะเต้นระส่ำจนแทบจะหลุดออกจากอกแล้วก็ตาม
รีไวทำหน้าครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะหันไปสบกับใบหน้าหวานที่จ้องรอฟังคำตอบอย่างไม่ปิดบัง
“นายน่ะเป็น My Snare Destiny
ที่จริงแล้วคนที่ถูกจับไว้ตั้งแต่แรกพบจนเป็นเกมส์ไล่ล่าจนถึงตอนนี้ มันเป็นเขาต่างหากล่ะ....

Fin.
 ..........................................................................................

Talk:
ปิดไหแล้วค่ะ ปิดไหที่ยังคงหาสาระอะไรไม่ได้จากเรื่องนี้ เอาไว้อ่านแบบเบาสมอง ไร้ประเด็น โนดราม่า ไล่ล่ากุ้งกิ้งละกันนะคะ แหะๆ เพราะคอนเซปเรื่องมันมาอย่างนั้นแต่ต้น เรื่องนี้ด้วยคาแรคเตอร์เลยคิดว่ารีไวคงไม่บอกชอบนู๋เลนหรอก แต่ถ้าเป็นฝ่ายเอเลนบอกก้อีกเรื่อง แต่เอเลนเรื่องนี้หัวแข็งกว่าที่คิดเพราะงั้นมันเลยแบบนี้ล่ะค่ะ เอาเป็นว่าเราไม่พูด แต่รู็กันละกัน  The Secret is Secret ไม่พูดแต่แสดงออกพอ
ต้องขออภัยที่หายไปนานที่จริงจะปิดตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วและเขียนฟาโรห์ตอนพิเศษให้อ่านกันค่ะ แต่ช่วงนี้ยุ่ง วิ่งเข้าออก โรงพยาบาลบ่อยมาก จนตอนนี้เริ่มลงตัวว่างๆมั่งแล้วเลยรีบมาปั่นค่ะ เพราะอาทิตย์หน้าคนเขียนจะหนีไปดูคอนเสริ์ต แม่บริท เพราะฉะนั้นฟิคคุณฟาโรห์ขอดองต่อไปเย่(วิ่งหลบ)
ขอขอบคุณที่ติดตามกันมาค่ะ ตอนแรกคิดอยู่นานว่าจะปิดไหเรื่องนี้เลยดีไหม เพราะอย่างที่บอกค่ะเรื่องนี้ไม่มีวางอะไรไว้จริงๆมีแค่คอนเซปที่อยากเขียน แต่เนื่องจากมองดูไหดองของตัวเองแล้วจึงคิดว่า ขอปิดดีกว่าเพื่อจะได้ไปมีเวลาให้ไหอื่นๆค่ะ อย่าง Libido Lesson OF Love Utakata ฟาโรห์ฯ คือ... โอวไหจ๋าเกลือขึ้นมากๆจ้า บางเรื่องอัพปีละครั้ง บางเรื่องนี่จะ 2 ปีแล้วยังไม่ได้อัพต่อเลยค่ะ เพราะงั้นเลยขอปิดไหนี่เลยละกันนะคะ ปิดกันไปแบบง่ายๆสไตล์ตาแก่ขี้โม่ยวิ่งฟัดเด็กล่ะค่ะ

ล่ารักฯ แต่ต้นก็คิดว่าเฮียใช้การกระทำแสดงออกมากกว่าคำพูดตลอดอยุ่แล้วค่ะ แต่เอเลนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมากนัก พอมาเจอแบบนี้เลยเผ่น ทั้งที่ดูเหมือนว่าเป็นคนแก่ที่พยายามจับเด็กหนุ่มเสียอยุ๋หมัด แต่แท้จริงแล้วคงเป็นคนแก่เองที่ตกบ่วงหลุมพรางอย่างไม่ตั้งใจมากกว่าค่ะ 

ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ หวังว่าจะยังคงติดตามไหอื่นๆ แม้จะอัพแบบเป็นตะคริวหน่อยๆก็ตามแหะๆ รักนักทุกท่านค่ะ แม้ไหจะเค็มหน่อยๆก็ตาม



3 ความคิดเห็น:

  1. รอLesson of Loveต่อเลยค่ะอยากอ่านต่อมากๆ
    เรื่องนี้สนุกมากขอบคุณที่แต่งให้ได้รับชมค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณเช่นกันนะคะ ส่วนนึงที่อยากปิดไห เพราะอยากไปเขียนอันอื่นทึ่มีแผนเป็นหลักเป็นแหล่ง แหะๆ

      ลบ