Chapter 14:
The Secret is secret (Final)
………………………………………………………………………………………….
กลับมาจากเหตุการณ์วุ่นวายได้
3 วัน ทั้งที่คิดว่าคงกลัมาใช้ชีวิตได้ปกติตามเดิม
แต่ดูเหมือนช่วงที่เขาความจำเสื่อมจะทำให้ความปกติสุขในชีวิตของตัวเองเปลี่ยนไปอีกนิดหน่อย....
เอเลนมองแขนที่โอบรอบเอวเขาราวกับคีมหนีบสลับกับใบหน้าของเจ้าของวงแขนที่เกยอยู่กับไหล่เขา
“คุณรีไว
ถ้าคุณเกาะผมขนาดนี้ผมก็ทำอาหารไม่ได้สิครับ”
เอเลนชูมีดและแครอทที่อยู่ในมือให้อีกฝ่ายดู
เพราะมีอีกคนคอยเกาะขนาดนี้เขาจึงทำอาหารไม่ไปถึงไหนสักที
รีไวเหลือบตามองพลางคลายอ้อมแขนเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเอาหน้าซุกกับไหล่บางของเด็กหนุ่ม
เอเลนมองคนอายุมากกว่าพลางถอนหายใจ
ตั้งแต่เขากลับมา เขายังไม่ได้บอกชายหนุ่มเลยว่าเขาความจำกลับมาแล้ว
เพราะหวังว่าจะได้ใช้เป็นข้ออ้างให้ตัวเอง
แต่กลับกลายเป็นว่าคนขี้แกล้งจะเกาะติดเขาแทบทุกย่างก้าว
ถึงขนาดหาเรื่องลาพักร้อนเฝ้าเขาล่วงหน้าเป็นอาทิตย์
“ผมไม่หายไปไหนหรอกครับ
คุณไปนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวก็ได้”
เด็กหนุ่มสะกิดพลางชี้ไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
“ฉันกลัวว่าคาดสายตาจากนายไปแล้วจะต้องตามหาไปถึงดาวอังคารน่ะสิ”
มีดที่หั่นแครอทพลางหยุดชะงัก
ก่อนจะเบนสายตาไปที่พนังครัวราวกับมีอะไรที่น่าสนใจอยู่ตรงนั้น
ให้ตายสิตาลุงบ้านี่จะเรียกว่าน่ารักหรือน่าหมั่นไส้ดีเนี่ย!!
“ว่าแต่นายจำเรื่องต่างๆได้บ้างหรือยังเจ้าหนู?”
คนถูกถามสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อน
“ย... ยังเลยครับ
แต่ก็พอมีลางๆ ก็หวังว่าจะกลับมาจำอะไรได้เร็วๆนี้ล่ะฮะ แหะๆ”
รีไวมองใบหน้าด้านข้างของเด็กหนุ่ม
ใบหน้าเจ้าเล่ห์เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เช่นกัน ตั้งแต่กลับมากว่าจะจัดการเจ้าเอลวิน
ที่ตอนนี้ทำตัวเป็นคุณพ่อหวงลูกยอมให้เขากับเอเลนอยู่กันตามลำพังก็ต้องให้ไมค์ลากเจ้าตัวน่ารำคาญกลับที่ทางของตัวเองเสียตั้งนาน
เมื่อกลับมาเจ้าหนูที่น่าความจำเสื่อมกลับจัดการเก็บรองเท้าและสินของตามที่ต่าๆอย่าคุ้นชิน
แต่เมื่อเจ้าตัวเหมือนนึกได้ว่าอยู่ในระหว่างความจำเสื่อมจึงหันมาถามเขาเป็นระลอกว่าใช่ตรงนี้หรือเปล่า
แรกๆเขาเองก็ไม่มั่นใจ แต่สองวันมานี้เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่าความทรงจำของเจ้าหนูคงกลับมาแล้ว
แต่นเอเจ้าตัวพยายามเล่นละครตบตาอย่างห่วยแตก
เขาก็จะยอมเล่นกับเจ้าเด็กนี่ดูเสียหน่อย
รีไวคลายอ้อมกอดของตัวเองก่อนจะไปนั่งรอที่โต๊ะทานอาหารตามที่เด็กหนุ่มต้องการ
นัยน์ตาสีขี้เถ้ายังคงจับจ้องร่างบอบบางนั้นทำอาหารด้วยความคุ้นชินพลางหัวเราะขำในลำคอ
“เอเลนขอชาดำสักถ้วยสิ”
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะเปิดชั้นวางของหยิบถ้วยชาและผงชาดำที่วางไว้อย่างคุ้นชิน
และเหมือนเจ้าตัวเพิ่งรู้สึกตัวจึงหันมามองคนเจ้าเล่ห์ที่แสร้งสนใจข่าวในช่องโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้
“ค.. คุณรีไวชอบชาดำอย่างงั้นเหรอครับ?”
พยายามพูดเบี่ยงเบน รู้สึกเหมือนเขาจะทำอะไรสักอย่างพลาด
“...ใช่ ชอบมาก..”
นัยน์ตาสีขี้เถ้าหันมองเด็กหนุ่มโดยทำเหมือนไม่ใส่ใจนักก่อนจะหันไปสนรายการข่าว
ซึ่งที่จริงเขาก็ไม่ได้ฟังเสียเท่าไร
เอเลนจัดเตรียมชาร้อนพร้อมยกเสริ์ฟให้กับชายหนุ่ม
ทันทีที่รีไวจิบชาร้อนรสชาติของชาที่คุ้นเคยทำให้เขายิ่งมั่นใจอย่างไม่ต้องสงสัย
“นายจำได้ด้วยงั้นเหรอว่าฉันชอบชาดำไม่ใส่น้ำตาล”
ใบหน้าเจ้าเล่ห์เอียงมอง ยิ่งทำให้เอเลนสะดุ้งโหยง
“ผ...ผมกำลังจะมาหยิบน้ำตาลไปให้คุณต่างหาก”
เอเลนจัดแจงหากระปุกน้ำตาลวางให้ชายหนุ่มก่อนจะรีบหันไปทำอาหารที่ค้างไว้
รีไวจิบชาดำจนหมดแก้ว
ชายหนุ่มหยิบกระปุกน้ำตาลกลับไปไว้ที่เดิม
ใบหน้าคมเจ้าเล่ห์มองหลังบอบบางของเด็กหนุ่มพลางยกยิ้มมุมปาก
เจ้าหนูนี่ถ้าไม่เล่นไม้แข็งคงไม่ยอมรับง่ายๆสินะ
ได้...ในเมื่ออยากเล่นกับเขา
เขาก็จะเล่นด้วยในแบบวิธีของเขาล่ะนะ...
สองแขนแข็งแรงรวบเอวบางที่ทำครัวอีกครั้ง
เด็กหนุ่มจึงต้องหยุดชะงักมือก่อนจะหันค้อนคนเอาแต่ใจด้านหลัง
“คุณรีไว
ถ้าเป็นแบบนี้เราคงไม่ได้ทานมื้อเย็นกันพอดี”
“ถ้านายหิว
เดี๋ยวเราสั่งอาหารมาทานกันก็ได้”
รีไวจัดการเอามีดหั่นที่อยู่ในมือเด็กหนุ่มวางบนเขียง
เอเลนมองหน้าชายหนุ่มพลางกระพริบตาปริบๆ แล้วใครกันที่บอกให้เขามาทำอาหารเย็น
แล้วพอตอนนี้กลับบอกว่าจะโทรสั่งมาแทน
ตาลุงนี่อารมรณ์ขึ้นๆลงๆจนเขาเริ่มตามไม่ทันแล้ว
“ถ้างั้นผมจะไปหาใบปลิวดูว่ามีอะไรน่าสนใจแล้วกันนะครับ...
ว เหวออ!”
ทันทีที่เบียงตัวออกร่างของเด็กหนุ่มก็ถูกคนอายุมากกว่ารวบขึ้นพาดบ่า
“ด...เดี๋ยว คุณรีไว
เราจะโทรสั่งอาหารกันไม่ใช่เหรอ!!?”
ใบหน้าเจ้าเล่ห์หันยิ้มให้เด็กหนุ่มก่อนจะกระชับแขนเพิ่มมากขึ้น
“ฉันคิดขึ้นมาได้ว่า
เวลาฉันกับนายอยู่ด้วยกันชอบออกกำลังกายก่อนทานอาหาร บางทีมันอาจช่วยฟื้นความจำนายได้ไง
เจ้าหนู”
คำตอบที่ได้รับทำให้เอเลนรู้สึกตัวแข็งเป็นหิน
อะไรคือออกกำลังกายก่อนทานข้าว? แล้วทางที่คุณฑี่เดินไปมันห้องนอนไม่ใช่เหรอ!!
มันออกกำลังกายแบบไหนกันเนี่ย!!!
ตุบ!
ร่างของเด็กหนุ่มถูกโยนลงบนเตียง
เอเลนรีบยันตัวลุกขึ้นนั่งพลางเขยิบไปชิดกับมุมเตียง
แล้วเด็กหนุ่มต้องหน้าเหวอมากขึ้นเมื่อเสื้อยืดสีดำของชายหนุ่มถูกถอดออกเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อแน่นของเจ้าตัว
“...ค...คุณ รีไว... ออก กำลังกาย
แบบไหน เหรอครับ?” เอเลนพยายามตีหน้าซื่ออย่างสุดความสามารถ
แม้ในใจจะร้องตะโกนออกมาไม่เป็นภาษา
“ก็ เรื่องที่ฉันกับนายคุ้นเคยกันดีไง...เจ้าหนู”
ใบหน้าเจ้าเล่ห์ยิ้มยกมุมปาก
นัยน์ตาสีขี้เถ้าวาววับเป็นประกายจนเด็กหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ชิบเป๋งแล้วเอเลน!!
ไอเรื่องคุ้นเคยกับพี่ท่านในห้องนอนจะมีก็แต่เรื่องปวดตับ ปวดเอว เจ็บสะโพกนี่แหละที่เขาคิดออก
ไม่ ไม่ ไม่ คุณรีไวยังไม่รู้ว่าความจำเขากลับมา
คงไม่คิดจะทำอะไรกับคนที่จำอะไรไม่ได้หรอก เขาคงคิดมากไปเองแน่ๆ
“อ.. เออ... คือ ผมความจำเสื่อม...
นึกไม่ออกเลย ว่าปกติผมออกกำลังกายยังไงกับคุณเหรอครับ?”
เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งพยายามทำใจดีสู้เสือ...ไม่สิ ที่จริงควรเรียกว่าใจดีสู้หมาป่าตรงหน้ามากกว่า
รีไวหมุนคอ พลางบิดเอวไปมา
ก่อนจะกวักมือเรียกเด็กหนุ่มที่นั่งหน้าเหวอบนเตียง
เด็นแบบนั้นคนที่กำลังทำตัวไม่ถูกก็ได้แต่นั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน
“ถ้านายมัวแต่นั่งเฉยๆฉันก็วอร์มไม่ได้น่ะสิเจ้าหนู”
รีไวฉุดแขนของเด็กหนุ่มให้ลุกขึ้นก่อนจะดึงเข้าหาแผ่นอกของเขาที่รองรับ
“นายอาจจะนึกไม่ออก...แต่ปกตินายเป็นคนที่ชอบอยู่ข้างบนล่ะนะเอเลน”
แว๊ก!! ตาแก่นี่มันมั่วนิ่มชะมัด
ใครเขาเคยขึ้นไปอยู่ด้านบนกันเล่า!! ถ้าเคยมันก็เพราะนายนั้นแหละตาแก่ลามกเอ๊ย!!
ใบหน้ามนขึ้นสีระเรื่อจนไม่กล้าเงยหน้าสบตาคนขี้แกล้ง
ทั้งเหงื่อที่เริ่มไหลซึมกาย
“มาสักทีสิเจ้าหนู”
สายตาคมออกแววดุสั่งให้คนที่นั่งเกร็งมุมเตียงเริ่มสักที
เมื่อต่างก็ได้แต่เล่นจ้องตาโดยที่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะขยับ
คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าจึงถือโอกาสเป็นผู้ชักนำ
“ได้เจ้าหนู
ในเมื่อนายยังจำอะไรไม่ได้ ฉันจะช่วยชี้นำให้เอง”
ริมฝีปากบางยกยิ้ม
พลางเขยิบเข้ามาใกล้จนเอเลนได้แต่พยายามหดตัวไม่กล้าสู้เงยหน้ามอง
เอี๊ยด เอี๊ยด
เสียงพื้นไม้ดังเป็นจังหวะกับการขยับตัวของรีไว
เหงื่อที่เกาะติดใบหน้าคมคายพรั่งพรูจนผมสีดำชื้นแฉะ
“ไม่ต้องเกร็งเจ้าหนู
ฉันยังไม่เหนื่อยเลย”
แม้จะพูดอย่างนั้นแต่เสียงที่เปล่งมาเริ่มประสานกับลมหายใจร้อนที่ถี่ขึ้นกว่าปกติ
เอเลนได้แต่ตัวเกร็งตามจังหวะขึ้นลง ของอีกฝ่าย
“ค คุณรีไว
เราจะไม่พักกันหน่อยเหรอครับ?”
เสียงใสเอ่ยถาม
พลางบีบต้นแขนของอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม
สายตาคมเหลือบมองก่อนจะหยุดจังหวะขึ้นลงของตัวเอง
“นายแค่นั่งเฉยๆก็เหนื่อยแล้วงั้นเหรอ?
คงต้องให้นายรูจักหาเวลาออกกำลังกายบ้างแล้วล่ะนะ”
รีไวเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่บนหลังเขาขณะกำลังลงจังหวะวิดพื้นรอบที
230พอดี
เอเลนยิ้มแห้งให้กับคนที่เขานั่งทับ
ตกลงเรื่องที่เขาบอกว่าออกกำลังกาย ก็คือออกกำลังกายจริงๆ
ที่บอกว่าเขาอยู่ข้างบนมาตลอดก็แค่เรื่องที่ให้เขานั่งบนหลังเพิ่มน้ำหนักให้กับอีกฝ่ายในการสิดพื้นนี่นะ
ทำไมตาแก่ลากมกนี่ชอบพูดจาสองแง่สามง่ามอยู่เรื่อย!! อายความคิดของตัวเองชะมัด! เด็กหนุ่มแต่โอดครวญในใจ
ใบหน้ามนมองแผ่นหลังที่ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะอีกครั้ง
กล้ามเนื้อมัดแน่นที่ขยับเป็นจังหวะชวนให้ใจเต้นแปลกๆ
มือบางไล้ตามกระดูกสันหลังที่ปูดขึ้นอย่างชัดเจนของชายหนุ่ม
ทั้งที่กล้ามเนื้อยังคงแน่นเรียงตัว
แต่ดูเหมือนคุณรีไวจะผอมลงนิดหน่อยในช่วงที่เขาประสบอุบัติเหตุ เสียงลมหายใจที่หนักหน่วงเป็นจังหวะทำทำให้เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกลมหายใจติดขัดตาม
วงแขนแข็งแรงที่คอยโอบกระชับเขา
หน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงที่มักทาบทับลงบนตัวของเรา
ริมฝีปากหอบหายใจที่ช่างเอาแต่ใจและร้ายกาจแต่กลับหอมหวานชวนให้ลุ่มหลง
ใบหน้ามนเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อจนสองมือต้องตบแก้มตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติ
เอเลน นี่แกกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย!! ราวกับว่าแกอยากให้คุณรีไวกอดงั้นแหละ ไม่ ไม่ ไม่
เขาไม่ได้คิดอย่างนั้น มันก็แค่เพราะเขาเป็นห่วงที่คนนี้ซุบลงต่างหากเล่า
แค่เรื่องสรีระเท่านั้นความคิดของเขาไม่ได้มีอะไรแอบแฝงจริงๆนะเสียงหายใจที่หนักหน่วงนี้ทำมไมมันชวนเขาให้ใจเต้นแบบนี้ล่ะเนี่ย!!
“เจ้าหนูลงไปได้แล้ว
เราจะได้สั่งอะไรมาทานกัน”
“อ.. อือ”
ทันทีที่คิดว่าจะได้หายใจอย่างโล่งอกและทั่วท้อง
ขาลุกขึ้นราวกับไม่มีแรง
ร่างของเอเลนจึงได้เซถลาจนคนที่เพิ่งวิดพื้นต้องรีบคว้าไว้
ตุบ!
ใบหน้ามนล้มชนกับแผ่นอกของชายหนุ่ม
ทั้งที่เหงื่อไหลซึมกายแต่แต่กลิ่นของชายหนุ่มยังคงกรุ่นเหมือนกับผ้าที่เพิ่งซักเสร็จ
ใบหน้ามนเงยหน้ามองอีกคนที่ก้มมองเขาเช่นกัน หน้าที่ห่างกับเพียงแค่ไม่กี่เซ็น
และลมหายใจที่รดใส่ทำให้เด็กหนุ่มยิ่งใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
ใบหน้าของรีไวโน้มเข้ามาใกล้ เอเลนปิดตาลงอย่างคุ้นเคยเตรียมรับสัมผัสที่ชายหนุ่มมักมอบให้เสมอ
“นายจะกินอะไรก็สั่งซะ
ฉันจะไปอาบน้ำ”
มีเพียงเสียงกระซฺบที่ใบหูก่อนร่างของชายหนุ่มจะขยับลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ
เอเลนมองการกระทำของอีกฝ่ายตาปริบๆ
แบบนี้มันเหมือนเขากำลังรอสัมผัสจากหมอนั่นเลยไม่ใช่รึไง!!
แล้วทั้งที่อย่างนั้นแต่กลับเมินเฉยเขาแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน!?
ใบหน้ามนขึ้นสีระเรื่อพลางกัดริมฝีปากของตัวเอง
ถ้าเป็นทุกครั้งยังไงเขาต้องโดนตาแก่บ้านั้นจูบแท้ๆ
หรือเพราะหมอนั่นยังคิดว่าเขาความจำเสื่อม...
ไม่สิตอนไปบ้านร้างตอนนั้นตาลุงบ้านี่ยังไล่ต้อนจูบเขาจนบ้านแทบพัง
แล้วทั้งแบบนั้นทำไมตอนนี้ถึงปฏิเสธเขาล่ะ?
คิดว่าคิดเองต่อไปคงไม่ได้คำตอบ
ไม่รอช้าเอเลนวิ่งตามรีไวเข้าไปในห้องอาบน้ำเพื่อหาคำตอบด้วยตัวเอง
พลั่ก
เสียงประตูเปิดออกอย่างรุนแรงจนคนที่กำลังสระผมใต้ฝักบัวหันมองด้วยความแปลกใจ
ก่อนที่จะได้ถามออกไป
ร่างโปร่งของเด็กหนุ่มก็เข้ามาประชิดตัวก่อนจะเป็นฝ่ายที่ทาบทับริมฝีปากของตัวเองมาที่ชายหนุ่ม
รีไวเผยอริมฝีปากออกอย่างยินดี
ปลายลิ้นเล็กที่เกี่ยวกระหวัดเข้ามาหยอกล้อเขาก็ตอบสนองต่อแรงอารมณ์ของอีกฝ่าย
ดูเหมือนแผนต่อไปที่เขากำลังจะจัดขึ้นคงต้องพับเก็บ
ในเมื่อเพียงแค่ปูทางด้วยแผนแรก เจ้าเด็กนี่ก็ยอมจำนน
ก็ในเมื่อเขาเป็นคนสอนเจ้าหนูในเรื่องอย่างนี้การหาวิธีกระตุ้นย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดผละออก
ใบหน้าคมคายยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างไม่ปิดบัง
คนที่รู้ว่าตกหลุมพลางเข้าแล้วจึงได้แต่มองค้อนหน่อยๆ มือหยาบไล่ใบแก้มนิ่มของเด็กหนุ่มพลางคลึงเบาๆ
“ความจำกลับมาแล้วกล้าขึ้นนะเจ้าหนู”
“ก...ก็เพราะ คุณนั้นแหละ!”
เพราะตาแก่นี้สอนเรื่องแบบนี้กับเขา ตัวตนและอารมณ์ที่ไม่เคยรู้จักแบบนี้
ทั้งน่าอาย ทั้งรู้สึกดี
“หึ หึ ...
ถ้าอย่างนั้นฉันจะรับผิดชอบ ทุกอย่างเลย”
ซ่า ซ่า
เสียงน้ำกระเพื่อม
และไหลปริ่มล้นขอบอ่างตามการเคลื่อนไหวของร่างที่สองที่คลอแคลียในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ไม่ได้ช่วยให้เสียงคราญครางที่ลอดออกมาจากร่างของเด็กหนุ่มเบาลงแม้แต่น้อย
อาจเพราะอยู่ในห้องอาบน้ำเสียงที่น่าอายเหล่านั้นจึงก้องสะท้อนชัดเจนกว่าทุกครั้ง
“อื้อ...อา... ค... คุณ รีไว ผม...
อึดอัด”
เพราะห่างหายจากการร่วมรักไปนาน
ช่องทางที่คับแคบจึงบีบรัดอย่างหนักหน่วงทั้งที่เพิ่งใส่นิ้วไปเพียงแค่สองนิ้วเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นร่างกายและอารมณ์ที่เริ่มขึ้นสูงของเด็กหนุ่มกลับถูกกระตุ้นอย่างง่ายดาย
ถึงแม้จะห่างหายไปนานเพราะเจ้าตัวความจำเสื่อมแต่ดูเหมือนร่างกายของเอเลนยังคงจดจำรสสัมผัสจากเขาได้เช่นเดิม
“ทนอีกนิดนะเอเลน”
เสียงกระเส่าพยายามอดกลั้นกระซอบข้างหูเด็กหนุ่ม
ไม่ใช่เพียงแต่เอเลนท่านั้นที่กำลังโดนแรงปรารถนาชักนำ
ตัวเขาเองต้องข่มอารมณ์ไม่ให้สัตว์ร้ายในกายเข้าจู่โจมร่างรัญจวนตรงหน้าเช่นกัน
สบู่ถูกชโลมลงบนมือหยาบจนชุ่ม
ก่อนจะใช้เป็นตัวหล่อลื่นช่องทางที่คับแคบให้ขยายเพื่อรองรับอารมณ์ของเขา
เมื่อรู้สึกได้ว่าช่องทางคับแน่นนั้นเริ่มผ่อนคลายลง
รีไวจับกระชับสะโพกของเด็กหนุ่มก่อนจะกดลงบนหน้าตักที่แกนอารมณ์นั้นพร้อมสอดใส่ร่างที่สั่นระริก
“อ... อา..อื้อ.!”
“ค่อยๆกดลงมาเจ้าหนู ช้า ช้า”
เอเลนค่อยกดสะโพกตนเองลงรับแกนกายของชายหนุ่ม
ความรู้สึกจุกแน่นทำให้สะโพกมนพยายามถอยหนี
แต่มือที่กระชับนั้นพยายามบังคับให้กดทับลงมารับแกนกายของตน
เมื่อแกนอารมณ์ของรีไวเข้าไปจนสุดความรู้สึดอดกลั้นที่พยายามเริ่มพังทลายลง
“จับขอบอ่างไว้ให้ดีนะเจ้าหนู”
ทันทีที่สั่งรีไวเขยิบตัวขึ้นจนคนที่นั่งอยุ่ด้านบนต้องโน้มตัวจับขอบอ่างน้ำตามที่ชายหนุ่มกล่าว
เอวบางถูกจับกระชับก่อนสะโพกหนาจะขยับเร่งจังหวะถาโถมอารมณ์ความปรารถนาที่พลั่งพรูออกมา
“อา อา คุณ รีไว อื้อ!!”
ชายหนุ่มพร่ำจูบที่หลังคอของเอเลน
ไล่ตามแผ่นหลังก่อนจะขบที่ไหล่ของเด็กหนุ่มจนขึ้นเป็นรอยแดงประปราย
“หันหน้ามาหน่อยสิเอเลน”
เสียงทุ้มรอดเสียงคำรามต่ำออกมา
ก่อนจะกดจูบหนักๆทันทีที่เด็กหนุ่มหันหน้าเข้าหา
รีไวพลิกร่างของเอเลนโดยไม่ถอนแกนกายของตนเองออก เด็กหนุ่มได้แต่จิกเล็บลงบนไหล่แกร่งประท้วงกับคนที่ตอนนี้ปิดปากเขา
เสียงและเปลี่ยนความหวานที่ชื้นแฉะดังก้องในห้องน้ำ
แม้จะมีเสียงของน้ำที่กระฉอกออกจากอ่างอาบน้ำ
งกระนั้นทั้งสองได้ยินเพียงแต่เสียงลมหายใจของอีกฝ่ายเท่านั้น
“ฮ้า ฮ้า อ.. อ๊า!!”
หยาดอารมณ์สีขุ่นพุ่งเข้าช่องทางคับแคบที่รองรับ
เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มที่ปลดปล่อยแรงปรารถนาออกมาจนเปรอะเปื้อนหน้าท้องทึ้นลอนกล้ามของอีกฝ่าย
รีไวซบลงบนไหล่บางเช่นเดียวกับเอเลนที่โอบกอดร่างแข็งแกร่งนั้นไว้
ทั้งสองหอบหายใจก่อนจะพยายามสูดหายใจลึกเพื่อลดอาการหอบของตน
ชายหนุ่มเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลที่ปรกลงบนใบหน้ามนออก
แล้วจูบลงบนหน้าผากไล่มายังพวงแก้มใส
เอเลนปรือตามองคนแก่เจ้าเล่ห์
นัยน์ตาสีขี้เถ้าที่ดุดันแต่แฝงด้วยความอ่อนโยนยากที่จะละสายตา
เขาถูฏเจ้าของนัยน์ตาคู่นี้ดึงดูดจนจับเอาไว้เสียอยู่หมัดจนได้
“ไปที่เตียงกันเถอะครับ”
เสียงใสเอ่ยอ้อนวอน
รู้ดีว่าเพียงเท่านี้ยังไม่อาจเติมเต็มความปรารถนาในตัวของชายหนุ่ม
ตัวเขาเองก็ยังคงต้องการเช่นเดียวกัน
ถ้าเป็นเวลาปกติชายหนุ่มคงไม่ยอมให้ผมที่เปียกชุ่มนั้นมานอนอยู่บนที่นอนแน่
แต่ในเมื่อตอนนี้แรงอารมณ์ปรารถนามีมากกว่าเหตุผลใด ผ้าปูที่นอนจึงไม่ต่างจากผ้าเช็ดตัวของทั้งสองที่รองรับหยดน้ำพราวที่เกาะตามร่างกาย
ความปรารถนาถูกเติมเต็มให้แก่กันครั้งแล้วครั้งเล่า
ช่องทางที่คับแคบถูกเติมด้วยน้ำรักจนไม่อาจรองรับได้
หยาดน้ำแห่งอารมณ์จึงไหลเปรอะลงมาที่ขาเพรียวยาวมากมาย
“ถ้านายจำอะไรไม่ได้อีก
ฉันจะกอดจนร่างกายนี้กระตุ้นความจำให้นายดีไหมเจ้าหนู”
ใบหน้าคมคายหยอกล้อพลางหัวเราะในลำคอ
ก่อนจะพรมจูบต้นขาของเอเลนทั้งยังขบจนฝากรอยตีตราไว้มากมาย
“แต่ถ้าเป็นคุณที่จำอะไรไม่ได้บ้างก็ดีนะครับ”
รีไวเลิ่กคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีเพราะแรงปรารถนาหัวเราะเสียงใสก่อนตอบ
“ก็ถ้าคุณจำอะไรไม่ได้
ผมจะได้เป็นฝ่ายแกล้งคุณบ้างไง”
ไม่ว่าจะความจำเสื่อมหรือเวลาปกติไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็รู้สึกโดนผู้ชายคนนี้แกล้งเสมอ
ให้ตายสิถ้าคุณรีไวความจำเสื่อมบ้าง เขาจะขอแก้เผ็ดซะหน่อย
“หึ หึ เรื่อแบบนั้นคงไม่มีทาง
แต่ถ้ามีจริงคนที่เดือดร้อนคงเป็นนายเจาหนู”
“มั่นใจจริงนะครับ”
ใบหน้ามนพองลมในแก้มหมั่นไส้ในคำตอบ
คนอะไรช่างมั่นใจตัวเองจนน่าหมั่นไส้ขนาดนี้ เอาเถอะ
ตัวเขาที่คุ้นชินกับตาแก่ลามกเอาแต่ใจคนนี้แล้ว
ถ้าวันนึงคนคนนี้เกิดจำเขาไม่ได้หรือหายไปขึ้นมา
เขาเองคงรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปเช่นกัน
นัยน์ตาบางปรือขึ้นเมื่อแสงอรุณกระบทม่านตา
เอเลนขยี้ตาตัวเองเบาๆพลางหาวหวอด
เมื่อขยับความเจ็บที่สะโพกก็แร่นริ้วทำให้คนขี้เซาตอนนี้ตื่นเต็มสองตา
เจ็บๆๆๆๆๆๆ เจ็บชะมัด
ตาแก่นั้นทั้งที่รู้อยู่ว่าไม่ได้ทำแบบนี้มานาน
ยังใช้งานร่างเขาจนแทบพังแบบนี้มันน่านัก!!
เด็กหนุ่มลูบสะโพกตัวเองเบาๆก่อนนนจะหันมองด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
แล้วนัยน์ตาสีมรกตกลมโตต้องแปลกใจกับเลสข้อมือสีเงินที่คุ้นเคยที่ตอนนี้กลับมมอยู่บนข้อมือซ้ายของเขา
เด็กหนุ่มพยายามถอดเลสออกแต่ไม่เป็นผลเช่นเดิม
เมื่อดูด้านในก็พบกับตัวอักษรสลักที่คุ้นเคย
My S.D.
“ตื่นแล้วเหรอเจ้าหนู”
รีไววางถาดอาหารที่มีขนมปังและนมอุ่นกับโต๊ะข้างเตียงให้เด็กหนุ่ม
“เออ... คุณรีไว หลังจากผม
ทราบมูลค่าของไอเลสนี้ แล้วไหนจะหายไปแล้วอันแบบนี้ ผมไม่เอาได้ไหม?”
ถึงแม้ที่หายไปจะไม่ใช่เพราะเขาทั้งหมด แต่ไอเลสราคามหาศาลนี้แค่คิดว่าอยู่กับคนแบบเขาก็ขนลุกแล้ว
“ไม่ต้องกังวลไป ราคาของตัวเก่าที่หายไปเทียบไม่ได้หรอก”
แต่ก่อนที่เอเลนจะหายใจอย่างโล่งอกก็ต้องสะอึกเพราะคำพูดถัดมา
“เพราะมันราคามากกว่าที่หายไปครั้งที่แล้ว”
!!!!!!!!
คุณพี่ครับ
ถ้ามีเงินมากขนาดนั้นเอาไปสร้างสถานสงเคราะห์แทนดีไหม!!!
“คุณรีไว ผมขอไม่รับ
หัวเด็ดตีนขาดขอไม่รับเอาคืนไปเถอะ!!”
ใบหน้าคมหัวเราะในลำคอ มือหยาบขยี้ผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มพลางส่งนมอุ่นให้เจ้าตัว
“คราวนี้มันแค่เลสเงินธรรมดา แค่นั้นเจ้าหนู”
“จริงๆนะ คราวนี้คุณไม่หลอกผมใช่ไหม
ผมไม่อยากรู้สึกเหมือนมีตู้เซฟเคลื่อนที่ที่พร้อมให้คนมาปล้น”
รีไวขยี้ผมสีน้ำตาลอีกครั้ง มือหยาบลูบไล้ลงไปยังเลสข้อมือของเด็กหนุ่มก่อนจะคว้าขึ้นมาจูบที่หลังมือ
จนเอเลนได้แต่หน้าขึ้นสี อ้าปากพะงาบ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“My S.D. ไว้คอยเตือนว่านายคืออะไรของฉันไงเจ้าหนู”
ปากที่อ้าพะงาบๆ พยายามสรรหาคำพูด จนลิ้นแทบจะพันกัน
“อ... ไอที่คุณบอกว่าเป็น Slave Dog ง ... งั้น เหรอ?”
หน้าผากมนถูกดีดจนเจ้าตัวต้องเอามือขึ้นมาลูบ
“ถ้านายติดใจสถานะจริงจะเอางั้นก็ได้”
“แต่คุณเคยบอกว่าเป็น Sweet Dangerous นี่ที่จริงแล้วคุณหลงรักผมก็บอกมาเถอะ”
ใบหน้ามนยกยิ้มอย่างยียวน แม้ตอนนี้ใจจะเต้นระส่ำจนแทบจะหลุดออกจากอกแล้วก็ตาม
รีไวทำหน้าครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะหันไปสบกับใบหน้าหวานที่จ้องรอฟังคำตอบอย่างไม่ปิดบัง
“นายน่ะเป็น My Snare Destiny”
ที่จริงแล้วคนที่ถูกจับไว้ตั้งแต่แรกพบจนเป็นเกมส์ไล่ล่าจนถึงตอนนี้
มันเป็นเขาต่างหากล่ะ....
Fin.
..........................................................................................
Talk:
ปิดไหแล้วค่ะ ปิดไหที่ยังคงหาสาระอะไรไม่ได้จากเรื่องนี้ เอาไว้อ่านแบบเบาสมอง ไร้ประเด็น โนดราม่า ไล่ล่ากุ้งกิ้งละกันนะคะ แหะๆ เพราะคอนเซปเรื่องมันมาอย่างนั้นแต่ต้น เรื่องนี้ด้วยคาแรคเตอร์เลยคิดว่ารีไวคงไม่บอกชอบนู๋เลนหรอก แต่ถ้าเป็นฝ่ายเอเลนบอกก้อีกเรื่อง แต่เอเลนเรื่องนี้หัวแข็งกว่าที่คิดเพราะงั้นมันเลยแบบนี้ล่ะค่ะ เอาเป็นว่าเราไม่พูด แต่รู็กันละกัน The Secret is Secret ไม่พูดแต่แสดงออกพอ
ต้องขออภัยที่หายไปนานที่จริงจะปิดตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วและเขียนฟาโรห์ตอนพิเศษให้อ่านกันค่ะ แต่ช่วงนี้ยุ่ง วิ่งเข้าออก โรงพยาบาลบ่อยมาก จนตอนนี้เริ่มลงตัวว่างๆมั่งแล้วเลยรีบมาปั่นค่ะ เพราะอาทิตย์หน้าคนเขียนจะหนีไปดูคอนเสริ์ต แม่บริท เพราะฉะนั้นฟิคคุณฟาโรห์ขอดองต่อไปเย่(วิ่งหลบ)
ขอขอบคุณที่ติดตามกันมาค่ะ ตอนแรกคิดอยู่นานว่าจะปิดไหเรื่องนี้เลยดีไหม เพราะอย่างที่บอกค่ะเรื่องนี้ไม่มีวางอะไรไว้จริงๆมีแค่คอนเซปที่อยากเขียน แต่เนื่องจากมองดูไหดองของตัวเองแล้วจึงคิดว่า ขอปิดดีกว่าเพื่อจะได้ไปมีเวลาให้ไหอื่นๆค่ะ อย่าง Libido Lesson OF Love Utakata ฟาโรห์ฯ คือ... โอวไหจ๋าเกลือขึ้นมากๆจ้า บางเรื่องอัพปีละครั้ง บางเรื่องนี่จะ 2 ปีแล้วยังไม่ได้อัพต่อเลยค่ะ เพราะงั้นเลยขอปิดไหนี่เลยละกันนะคะ ปิดกันไปแบบง่ายๆสไตล์ตาแก่ขี้โม่ยวิ่งฟัดเด็กล่ะค่ะ
ล่ารักฯ แต่ต้นก็คิดว่าเฮียใช้การกระทำแสดงออกมากกว่าคำพูดตลอดอยุ่แล้วค่ะ แต่เอเลนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมากนัก พอมาเจอแบบนี้เลยเผ่น ทั้งที่ดูเหมือนว่าเป็นคนแก่ที่พยายามจับเด็กหนุ่มเสียอยุ๋หมัด แต่แท้จริงแล้วคงเป็นคนแก่เองที่ตกบ่วงหลุมพรางอย่างไม่ตั้งใจมากกว่าค่ะ
ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ หวังว่าจะยังคงติดตามไหอื่นๆ แม้จะอัพแบบเป็นตะคริวหน่อยๆก็ตามแหะๆ รักนักทุกท่านค่ะ แม้ไหจะเค็มหน่อยๆก็ตาม
รอLesson of Loveต่อเลยค่ะอยากอ่านต่อมากๆ
ตอบลบเรื่องนี้สนุกมากขอบคุณที่แต่งให้ได้รับชมค่ะ
ขอบคุณเช่นกันนะคะ ส่วนนึงที่อยากปิดไห เพราะอยากไปเขียนอันอื่นทึ่มีแผนเป็นหลักเป็นแหล่ง แหะๆ
ลบจะรอนะคะ
ตอบลบ