วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Attack On Titan Fan fic.: Lessons of love : Lesson 6


Attack On Titan Fan fic.: Lessons of love

Pairing: (LevixEren)

Story By: Trendy Blood

………………………………………………………………………………………………..

Lesson 6:


ห้องพักขนาด 27 ตรม. ที่อาศัยอยู่มา 5 ปี ตอนนี้ ห้องราวกับมีพื้นที่เพิ่มขึ้น เพราะของต่างๆที่อยู่ภายในห้องพักถูกเก็บลงกล่องสีน้ำตาลหลากหลายใบที่ตั้งอยู่ภายในห้องมากมาย รีไวสำรวจห้องต่างๆที่ตอนนี้ว่างเปล่าเพราะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เช่น ตู้ เตียง โซฟา ถูกขนย้ายไปยังที่อยู่ใหม่ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งที่คิดว่าคงใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือนในการหาบ้านใหม่สำหรับอยู่อาศัยกับเอเลนและสมาชิกตัวน้อยที่ได้มาโดยบังเอิญ แต่เพราะชายที่ชื่อว่า เอลวิน สมิธ เลยทำให้หลังจากกลับมาจากไปเที่ยวพักผ่อนเพียง 2 อาทิตย์ เขาก็ได้รับข่าวดีปนยัดเยียดความปรารถนาดีของผู้เป็นเจ้านายและเพื่อนกับที่อยู่ใหม่อีกทั้งไม่ห่างไกลจากบริษัทและโรงเรียนของเอเลน แน่นอนว่าราคาก็เป็นอีกอย่างที่เขาไม่อาจปฏิเสธกับบ้านสองชั้นใจกลางเมือง

“เอเลนเก็บของในห้องน้ำหมดแล้วฮะคุณอา” เด็กน้อยหิ้วตระกร้าพลาสกิตที่เก็บแชมพู สบู ยาสีฟัน และแปรงสีฟันทั้งหมดในห้องน้ำออกมา

เมื่อรีไวเช็คกล่องทุกใบเรียบร้อยเสียงฝีเท้าที่วิ่งตรงมายังห้องก็ดังขึ้น ไม่ทันที่จะหันไปมองประตูก็เปิดออกพร้อมเหล่าคนที่ชอบถือวิสาสะบุกบ้านคนอื่นยืนอยู่เต็มหน้าห้องของเขา

“บริการขนย้ายพิเศษโซเอะมาบริการแล้วจ้า!” ไม่ว่าเปล่าฮันซ่ตรงเข้าไปฟัดเด็กน้อยที่ถือตระกร้าของใช้ในห้องน้ำ

“ขอเก็บของชิ้นแรกไปเลยนะ!” ว่าพลางเตรียมอุ้มเด็กน้อยเอเลน แต่ฝ่าเท้าที่คุ้นชินก็เหยียบเข้าที่หัวยุ่งๆของยัยจอมเพี้ยนจนหน้าจูบกับพื้นห้อง และเอเลนก้มมองด้วยความรู้สึกคุ้นชิน

“มาตรงเวลาดีนี่พวกนาย” กล่าวทักทายเพทร่า ออลโอ เอริ์ด กุนเธอร์ ที่อาสามาช่วยขนของพลางใช้เท้าบดขยี้อีกหนึ่งคนที่ยังคงหน้าจูบกับพื้นห้องเช่นเดิม

หลังจากขนของทั้งหมดขึ้นรถบรรทุกขนย้ายที่ใช้อภิสิทธิ์ส่วนตัวนำของบริษัทมาใช้ เด็กน้อยรีบดึงแขนชายหนุ่มให้ขึ้นรถด้วยความตื่นเต้น ตลอด2 อาทิตย์ ตั้งแต่กลับมาเจ้าหนูเอเลนมักขอไปเล่นกับเจ้าลูกสุนัขที่เก็บมาได้เสมอ ตอนนี้จะได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว ยิ่งทำให้เจ้าหนูดูมีชีวิตชีวายิ่งกว่าเดิม

ขับรถมาเพียงไม่ถึง10นาทีก็ถึงที่หมาย บ้านสีขาวหลังคาสีเทาขนาดสองชั้น ที่มีสวนหน้าบ้านให้ได้นั่งเล่น เพราะเป็นใจกลางเมืองสวนจึงไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับให้สุนัขตัวหนึ่งวิ่งเล่นกับเด็กที่อยู่ในวัยซน

เอลวินที่ยืนรออยู่หน้ารั้วทางเข้า เมื่อรถบรรทุกมาถึงเขาจึงจัดแจงช่วยขนย้ายกล่องต่างๆเข้าภายในบ้าน บ้านที่เอลวินหาให้นับว่าดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก ชั้นล่างที่มีส่วนของห้องครัว และห้องนั่งเล่นที่กวางขวางจนทำให้โซฟาตัวเก่าของเขาดูมีขนาดเล็กไปเลยเมื่อมาวางในห้องใหม่นี้ อุปกรณ์ในห้องครัวมีที่จัดเก็บอย่างเหลือเฟือ อีกทั้งมีเตาอบและของใช้อื่นๆที่ทำให้เขาสามารถทำอาหารได้หลากหลายและง่ายขึ้น ห้องน้ำที่อยู่ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง อีกทั้งชั้นบนยังแยกเป็นห้องนอนอีก 2 ห้อง ถ้าเอเลนโตขึ้นคงอยากได้ห้องส่วนตัว ห้องเล็กที่ว่างจึงเหมาะกับพาเพื่อนมาเที่ยวเล่นหรือนอนค้างในอนาคต

“ราคาที่นายบอกฉันมั่นใจเลยว่าเจ้าของคงนามสกุล สมิธ” รีไวเดินสำรวจรอบบ้านก่อนจะผิวปากอย่างถูกใจ

เอลวินได้แต่ยิ้มขำแล้วจัดการช่วยขนของลงจากรถพร้อมคนอื่นๆ แขนที่ถือกล่องต้องหยุดชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีใครมากระตุกที่ชายเสื้อ เด็กน้อยเอเลนมองเอลวินด้วยดวงตากลมโตเป็นประกาย ไม่เอ่ยปากก็รู้ว่าเจ้าตัวน้อยนี่ต้องการอะไร

“ฉันให้ไมค์ไปพาน้องชายนายมาแล้ว อีกสักพักก็มาถึง”

เด็กน้อยยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้ารับ เพียงไม่นานเสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็ดังอยู่หน้าบ้านหลังใหม่ เอเลนรีบวิ่งออกไปดู แล้วใบหน้าหวานยิ่งยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าเจ้าน้องชายที่ตนรอมาถึงแล้ว

“บ้านใหม่ดูดีไม่เบานี่” ไมค์ถอดหมวกกันน๊อคสีดำวางที่ตัวถังรถมอเตอร์ไซค์สีน้ำเงินเข้มของเขา

ทันที่ที่เด็กน้อยวิ่งมาเถอะ เจ้าลูกสุนัขตัวน้อยที่อยู่ในเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำก็ดิ้นดุ๊กดิ๊กจนไมค์ต้องรีบรูดซิปเสื้อแจ๊คเกตแล้วส่งเจ้าตัวน้อยให้เอเลนที่รอรับ

“ได้บ้านที่มีพื้นที่เผื่อเจ้านี่โตด้วยสินะครับ ถึงแม่เจ้าหนูนั่นจะเป็นพันธุ์ทางแต่ดูแล้วน่าจะมีส่วนผสมของ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ อยู่” ไมค์โค้งทักทายเอลวินและโบกมือทักทายคนอื่นๆที่ยังทยอยกันช่วยจัดของต่างๆให้เข้าที่

“ว่าแต่นี่ก็สองอาทิตย์แล้วมีชื่อให้น้องชายนายหรือยังเอเลน?” เอลวินเอ่ยถามพลางลูบผมสีน้ำตาลของเด็กน้อยที่ยังคงเอาหน้ากลมๆจุ้มปุ๊กกับสุนัขขนฟูสีน้ำตาลตัวน้อย

“อื้อ เอเลนมีชื่อให้แล้วฮะ” แววตาสีมรกตทอเป็นประกายทำให้คนรอฟังรู้สึกตื่นเต้นตาม

“น้องชายของเอเลนจะชื่อ เยเกอร์ ฮะ”

“เยเกอร์ เป็นชื่อที่ไม่เลว นายมีน้องชายแล้วต้องดูแลดีๆล่ะเอเลน” เอลวินว่าพลางลูบผมสีน้ำตาลเล็กๆนั่นอีกครั้ง

“เยเกอร์เราไปช่วยคุณอาเก็บของกันนะ” เอเลนวางลูกหมาสีน้ำตาลลงกับพื้นหญ้า เจ้าลูกหมาเห่าตอบรับก่อนทั้งคู่จะวิ่งกลับเข้าไปในตัวบ้านเพื่อช่วยคนอื่นๆจัดการของที่ขนลงมาจากรถบรรทุกต่อ

รีไวเดินออกมาจากบ้านมองเอเลนกับเจ้าลูกหมาวิ่งสวนไปก่อนจะยกยิ้มบางมองตามหลัง

“เยเกอร์ นามสกุลเก่าของหมอนั่น เป็นชื่อที่ดีว่าไหม” แม้ตอนนี้เอเลน จะต้องเปลี่ยนนามสกุลเป็นแอคเคอร์แมน แต่รีไวไม่ได้อยากให้เด็กน้อยลืมตัวตนหรือคนสำคัญในอดีต แม้จะเป็นเรื่องที่เลวร้ายแต่การที่เจ้าหนูนั่นเริ่มยอมรับและค่อยๆก้าวผ่านมันไปได้แบบนี้ นับเป็นสิ่งดีต่อเอเลนเอง

“ต่อจากนี้นายต้องพาเยเกอร์ไปฉีดวัคซีนด้วย เริ่มแรกก็ต้องฉีดทุกเดือนจนครบ 1 ปีแล้วก็เหลือปีละครึ่ง เข็มแรกฉันจัดการให้แล้ว เดือนหน้านายอย่าลืมซะล่ะ” เอลวินยื่นเอกสารการฉีดวัคซีนจากมิเกะส่งให้รีไว

รีไวรับเอกสารพลางเลิ่กคิ้วมองชายหนุ่มผมทองอย่างสงสัย

“จะเรียกว่านายชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน หรือว่าเป็นคนดีจนน่าตกใจดีล่ะ” ทั้งเรื่องบ้าน เรื่องเจ้าลูกหมา และเรื่องอื่นๆรอบตัวที่ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ต้องยอมรับว่าเพราะเจ้าเพื่อนผมทองจอมจุ้นจ้านและชอบบงการคนนี้ล่ะนะ

เอลวินยกยิ้มเจ้าเล่ห์ พร้อมทั้งวางมือลงบนไหล่หนาของเพื่อน

“สร้างบุญคุณกับนายไว้เยอะๆนายจะได้ไม่หนีไปจากฉันง่ายๆไง” คนที่ไม่เรื่องมากและมากความสามารถนับว่าหายากในยุคนี้ พอเจอแล้วเขาก็ไม่คิดปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆหรอกนะ

รีไวขำในลำคอกับความคิดของอีกฝ่าย เรื่องแบบนี้ก็พอเดาได้แต่ไม่คิดว่าเจ้าเพื่อนผมทองคนนี้จะกล้าพูดยอมรับออกมาตรงๆ

“พูดเรื่องฉีดยา ผมมีเรื่องจะถามคุณรีไวเหมือนกัน” มิเกะยื่นเอกสารที่มีตราประทับของโรงเรียนให้กับชายหนุ่ม

“อาทิตย์ก่อนโรงเรียนเรามีการแจ้งผู้ปกครองเรื่องฉีดวัคซีนแต่เอเลนยังไม่ส่งใบตอบรับ ผมเลยไม่แน่ใจว่าคุณได้รับหรือเปล่า?”

รีไวอ่านรายละเอียดจดหมายแจ้งของโรงเรียน คิ้วคมขมวดเล็กน้อย ปกติเอเลนจะเอาจดหมายทางโรงเรียนมาให้เขาทุกครั้ง แต่เรื่องฉีดยาเจ้าหนูไม่เคยเอามาให้เขา บางทีคงจงใจซ่อนไม่ให้เขาเห็น

“จากที่พี่สาวนายเคยเล่าให้ฟัง พ่อที่ตายไปของเอเลนเป็นหมอใช่ไหม แต่เจ้าหนูนั่นกลับมีรอยแผลแปลกๆในที่ที่มองไม่เห็นเป็นประจำ”

ทั้งสามต่างมองหน้ากัน เพราะช่วงนี้เจ้าหนูนั่นหัวเราะร่าเริงได้เหมือนกับเด็กปกติทั่วไปจนเขาเกือบลืมไปว่าก่อนหน้านั่นบางทีเจ้าเด็กนั่นคงเจออะไรมามากมาย

“ถึงจะสงสารแต่ว่าถ้าไม่ฉีดวัคซีนเด็กเล็กที่ไม่มีภูมิคุ้มกันเวลาป่วยจะอันตรายได้” ไมค์เกาผมของตัวเองก่อนจะถอนหายใจ

“ไว้ฉันจะลองหาทางดู”

 

หลังจากขนของเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงจัดแจงนำเอกสารของเอเลนมาตรวจดูอีกครั้ง ประวัติการฉีดวัคซีนที่อยู่ในแฟ้มทำให้เบาใจได้ว่าอย่างน้อยเอเลน ได้รับวัคซีนครบจนถึงตอนนี้

“คุณอาเอเลนเช็ดตัวเยเกอร์แล้วฮะ” เอเลนออกมาจากห้องน้ำพร้อมทั้งอุ้มเจ้าลูกหมาขนสีน้ำตาลที่เช็ดตัวจนหมาดดีแล้วอุ้มส่งให้ชายหนุ่ม

“ไปหยิบไดร์เป่าผมมาเจ้าหนู” รีไววางแฟ้มเอกสารก่อนจะรับเจ้าเยเกอร์สุนัขพันทางมาไว้ แล้วให้เด็กน้อยวิ่งไปหยิบไดร์เป่าผมในลิ้นชักมาจัดการ

เสียงของไดร์เป่าผมที่ดังไม่ทำให้เจ้าลูกหมาตกใจกลัวอาจเพราะชินกับการที่เขาจัดการเอาเจ้าตัวเล็กนี่อาบน้ำตั้งแต่ที้บานพักแล้วกำชับเอลวินให้อาบน้ำเจ้าหนูนี่ทุกๆสามวันก่อนที่เขาจะรับมาดูแลเต็มตัว

เอเลนที่รอต่อคิวไปผมจึงจัดการเช็ดผมสีน้ำตาลของตัวเองไปมาอีกครั้ง เมื่อเยเกอร์น้อยแห้งดีแล้วเอเลนจึงเข้าไปนั่งแทนที่เจ้าลูกหมาตัวน้อยที่กระโดดลงจากโซฟาหลีกทางให้ เอเลนไม่ลืมที่จะหยิบหวีของเยเกอร์มาด้วยเพื่อจัดการหวีขนที่แห้งแล้วไม่ให้พันกันเป็นก้อนรุงรังเจ้าลูกหมาตัวน้อยจึงกระโดดขึ้นตัดเด็กชายอีกครั้ง ตอนนี้ที่โซฟาจึงมีรีไวจัดการเป่าผมเจ้าเด็กตัวน้อย และเอเลนที่จัดการหวีขนเจ้าเยเกอร์น้องชายของตัวเองเป็นลำดับ

“เห็นเอลวินบอกว่าพาเจ้าเยเกอร์ไปฉีดยาให้แล้ว เดือนหน้านายต้องพาเจ้านี่ไปฉีดวัคซีนตามนัดนะเจ้าหนู”

แม้จะเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกได้กับไหล่เล็กที่กระตุกเมื่อเอ่ยถึงเรื่องฉีดยา ดูเหมือนสิ่งที่เขาคิดไว้จะไม่ผิด

“เอเลนเป็นพี่ชายแล้วเรื่องฉีดยาคงไม่กลัวหรอกจริงไหม?”

เด็กน้อยก้มหน้าลงต่ำก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

“เอเลนเป็นพี่ชาย เอเลนต้องไม่กลัว เอเลนเป็นพี่ชายแล้ว...”

เสียงใสบ่นพึมพำราวกับสะกดจิตตัวเองไปมา รีไวขยี้ผมสีน้ำตาลก่อนจะหยิบแปรงที่วางไว้บนโต๊ะรับแขกมาแปรงผมให้เด็กชาย

“พรุ่งนี้ออกไปข้างนอกกันไหมเอเลน?”

ได้ยินอย่างนั้นแววตาที่มัวหมองเริ่มมีประกายอีกครั้ง เอเลนเงยมองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาเป็นประกาย

“พาเยเกอร์ไปด้วยได้ใช่ไหมฮะ?” ถามอย่างกระตือรือร้น

“ได้แน่นอน นายต้องรีบพากันเข้านอนนะเจ้าหนู”

เอเลนพยักหน้ารับก่อนจะอุ้มเจ้าเยเกอร์วางลงกับพื้น เด็กชายยื่นมือเกาะไหล่รีไวอีกครั้งก่อนจะจุ๊บลงที่แก้มชายหนุ่มเบาๆและอีกฝ่ายก็จูบลงบนแก้มใสของเด็กชายตัวน้อยเช่นกัน

“ราตรีสวัสดิ์ฮะคุณอา วันนี้เอเลนขอขึ้นไปนอนก่อนนะฮะ” เอเลนรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นบันไดชั้นสองตรงดิ่งไปยังห้องนอนโดยมีเจ้าเยเกอร์วิ่งตามขึ้นไปด้วยอย่างรู้งาน

 

จากที่ดีใจตอนนี้เจ้าหนูก็ต้องนิ่งงันตัวแข็งทื่อ เพราะที่ที่เขาพามาคือคลินิกเด็กเล็กที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนอนุบาลนัก

“ค..คุณอา เอเลนแข็งแรงดี ทำไมต้องพามาฉีดยา?” เด็กน้อยหันไปทำสายตาอ้อนวอนอย่างสงสัยมองชายหนุ่ม

ถึงสายตานั้นจะทำให้เขารู้สึกผิดที่หลอกลวงเจ้าเด็กนี้มาแต่มาถึงขั้นนี้แล้วบางทีเขาก็ต้องยอมเป็นยักษ์มารเพื่อตัวเจ้าหนูนี้เองล่ะนะ

“นายยังเด็กถ้าป่วยขึ้นมาจะแย่เอา เพราะงั้นควรป้องกันไว้ก่อน”

สองมือเล้ฏที่จูงสายจูงของเยเกอร์บีบกระชับแน่นกับมือใหญ่ของชายหนุ่ม นัยน์ตาสีมรกตที่ราวกับเออด้วยน้ำตาลนิดๆทำให้เขายิ่งรู้สึกผิด

“อ... เอเลนทำอะไรให้คุณอาโกรธเหรอ? เอเลนขอโทษ เอเลนไม่ฉีดยานะฮะ”

ใบหน้ากลมเล็กที่พยายามกลั้นสะอื้นยิ่งทำให้รีไวราวกับโดนมีดเสียบลงกลางอก...... ก็คิดว่าเจ้าเด็กนี่มันน่ารัก แต่พอเห็นเจ้าหนูนี่ทำหน้าราวกับจะร้องไห้ เขาก็รู้สึกสงสารขึ้นมาแต่ความสงสารมันจะทำร้ายเจ้าหนูนี่ได้เขาจึงมีแต่ต้องกัดฟันทนทำหน้าที่ต่อไปเท่านั้น

“ฉันไม่ได้โกรธนายหรอกเอเลน เพียงแต่ถ้าไม่ได้รับวัคซีนให้ครบแล้วนายเป็นอะไรขึ้นมามันจะแย่เอานะ” ชายหนุ่มพยายามอธิบาย มือหนาลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กน้อยที่ยังคงทำหน้าราวกับจะร้องไห้

“แต่เอเลนแข็งแรงดี ฮึก เอเลนจะไม่ป่วย ฮึก...” เสียงเล็กพยายามกลืนก้อนสะอื้นของตน

รีไวกำมือของตัวเองจนแน่น ถ้า คริชา เยเกอร์ ยังไม่ตายเขาสาบานได้เลยว่าจะต้องต่อยหมอนั่นสักหมัด ทำไมถึงได้ฝังความทรงจำเลวร้ายให้กับเด็กวัยเพียง 5 ขวบได้มากมายขนาดนี้

รีไวพยายามสูดอากาศหายใจเข้าลึกก่อนจะนั่งยองๆข้างเอเลนเพื่ออธิบาย

“ฟังนะเอเลน ฉันไม่คิดจะทำร้ายนาย ฉันจึงต้องพานายมาฉีดยาถ้านายป่วยฉันจะรู้สึกแย่รู้ไหม”

นัยน์ตาสีมรกตที่เริ่มมีหยาดน้ำคลอถูกมือเล็กๆเกลี่ยออกก่อนจะจ้องมองหน้าชายหนุ่ม

“ค...คุ...คุณอาไม่ได้เกลียดเอเลนจริงๆใช่ไหมฮะ?” เสียงใสสั่นเครือพยายามถามออกไป มือเล็กกุมสายจูงแน่นราวกับเป็นที่พึ่งพาเพียงหนึ่งเดียว เยเกอร์ที่เดินตามมาด้วยรู้สึกถึงความผิดปกติจึงได้แต่ครางหงิงๆก่อนจะเอาตัวเข้ามาถูกับขาของเด็กน้อย

“ฉันไม่เกลียดนายหรอกเจ้าหนู เพราะงั้นฉันจะไม่ทำร้ายนายเอเลน”

ใบหน้ากลมมนเงยหน้ามองชายหนุ่ม ก่อนจะถลาเข้าไปกอดไหลหนาแน่น เด็กน้อยพยักหน้ารัวๆบนไหล่ของรีไว รีไวจึงอุ้มเอเลนขึ้นพลางลูบผมสีน้ำตาลไปมาเพื่อปลอบประโลม

เมื่อแพทย์นำเข็มฉีดยาและบรรจุวัคซีนลงในหลอดเรียบร้อย ใบหน้าของเอเลนก็เริ่มหวั่นวิตกอีกครั้ง รีไวที่อยุ่ข้างๆจึงจับใบหน้ากลมมนนั่นให้มองหน้าของเขาเอง เมื่อเห็นใบหน้าของคุณอาที่คุ้นเคยนัยน์ตาสีมรกตกลมโตก็จ้องอย่างแปลกใจ

“เพื่อเป็นรางวัลมื้อเย็นนายอยากกินอะไรเอเลน?”

“วันนี้กินข้างนอกได้ใช่ไหมฮะ เอเลนอยากกินไอติม”

“แต่นั่นมันไม่ใช่อาหารนะ ก่อนกินไอติมนายอยากกินอะไร?”

“เอเลนอยากกินเค้กที่วันก่อนพี่เพทร่าซื้อมาให้กิน สตอเบอร์รี่อร่อยมากๆเลยฮะ”

“แต่นั่นก็ไม่ใช่อาหารหลักอยู่ดีนะเจ้าหนู” ใบหน้าคมยกยิ้มขำก่อนจะใช้มือดึงแก้มยุยของเด็กน้อยเบาๆ เพียงไม่นานแพทย์ก็บอกว่าฉีดยาเรียบร้อย

เด็กน้อยมองหน้าหมอที่มีเข็มฉีดยาที่ว่างเปล่าในมือกับไหล่ของตนที่ถูกสำลีกดทับเรียบร้อยแล้วอย่างแปลกใจ

“เห็นไหมไม่มีใครทำร้ายนายสักหน่อย” รีไววางมือลงบนผมสีน้ำตาล เด็กน้อยมองหน้าของรีไวสลับกับหมอและพยาบาลในห้องไปมาอย่างด้วยความแปลกใจ ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้ารับ

"อื้อ ไม่เจ็บเลยฮะ!

เด็กน้อยกระโดดลงจากเก้าอี้วิ่งไปลูบหัวเจ้าเยเกอร์ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาด้วยกัน

“เอเลนฉีดยาแล้วไม่เจ็บเลย เดือนหน้าตอนเยเกอร์ฉีดก็ไม่เจ็บเหมือนกันนะ” เจ้าหนูน้อยวางท่าเป็นพี่ชายสั่งสอนเจ้าน้องชายของตัวเองทันที เยเกอร์ที่เหมือนจะเข้าใจว่าพี่ชายของตัวเองต้องการสื่ออะไรจึงเห่าตอบรับเสียงใสให้กับเด็กชายตัวน้อย

ดูเหมือนเขาจะค่อยๆคลายปัญหาของเด็กน้อยไปได้อีกหนึ่ง อย่างน้อยนับว่าเป็นโชคดีที่เอเลนยังเด็ก ตอนนี้สิ่งที่แก้ไขได้จึงต้องรีบทำ ถ้าฝังรากลึกไปมากกว่านี้ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะเยียวยาจิตใจน้อยๆของเจ้าหนูนั่นได้หมด

“เพื่อเป็นรางวัล ฉันจะพานายไปกินไอติมแล้วซื้อเค้กกลับบ้านไว้เป็นของว่างกินวันพรุ่งนี้นะเอเลน” รีไวว่าพลางจูงมือเด็กน้อยเดินเข้าไปยังย่านการค้า เพราะเอาเยเกอร์มาด้วยเขาคงต้องซื้อไอศกรีมโคนให้เจ้าหนูแทนที่จะเข้าไปนั่งทานในร้าน

“เอเลนเป็นเด็กดีใช่ไหมฮะคุณอา?” เสียงใสเอ่ยถามพลางยิ้มจนแก้มปริให้ชายหนุ่ม

“เด็กดีเอเลนอยากอ้อนเอาอะไรกัน?” ใบหน้าเฉยชาเลิ่กคิ้วอย่างรู้ทัน หลังๆมานี่เจ้าหนูมักจะบอกว่าตัวเองเป็นเด็กดีเพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง และเขาก็มักจะเต็มใจให้เสียด้วย

“เอเลนอยากได้ที่นอนให้เยเกอร์ฮะ เมื่อวานเยเกอร์นอนกับพื้นเอเลนกลัวน้องนอนไม่สบาย”

นอกจากเขามักจะเต็มใจให้แล้ว คำขอทุกครั้งของเอเลนมักทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธได้ ชายหนุ่มจึงได้แต่ยกยิ้มขำ

“หลังจากทานข้าวเราไปซื้อไอติม แล้วไปเลือกที่นอนให้เยเกอร์กัน แต่นายต้องเลือกที่ใหญ่หน่อยเพราะเดี๋ยวเยเกอร์ก็จะโตแซงนายแล้ว”

เอเลนหันมองหน้าเจ้าลูกหมาที่มองตอบพร้อมเห่าถาม ใบหน้ากลมมนพองลมในแก้มอย่างงอนๆ

“เยเกอร์เป็นน้องชายจะโตกว่าเอเลนไม่ได้นะ ถ้าโตกว่าเอเลนจะไม่ให้นมเยเกอร์กิน”

เอเลนที่ทะเลาะกับเจ้าเยเกอร์ตัวน้อยยิ่งทำให้รีไวต้องกลั้นขำ ทั้งที่ตอนแรกจะซื้อที่นอนให้แท้ๆตอนนี้กลับจะไม่ยอมให้นมของโปรดเจ้าเยเกอร์เสียแล้ว

 

เมื่อกลับถึงบ้านเอเลนจัดการหิ้วที่นอนของเยเกอร์ขึ้นชั้นสองโดยมีรีไวเดินตามหลังด้วยความเป็นห่วงว่าจะสะดุดที่นอนจนกลิ้งตกลงมา เพราะที่นอนของเจ้าเยเกอร์ที่ไมค์บอกว่าน่ามีส่วนผสมของสุนัขพันธุ์โกลเด้นท์ เลยทำให้ต้องซื้อที่นอนไซส์ใหญ่สุดมา เรียกว่าใหญ่กว่าเอเลนซึ่งเป็นเด็ก 5 ขวบเสียอีก เอเลนจัดแจงวางที่นอนลงชิดกับพนังห้องข้างเตียงฝั่งของเด็กหนุ่ม เมื่อแกะพลาสติกออกจนหมดเจ้าลูกสุนัขเยเกอร์ก็ขึ้นไปนั่งบนที่นอนของตนเองทันทีราวกับรู้ว่านี่คือของของมัน ดูเหมือนเอเลนกับเยเกอร์จะตื่นเต้นกับที่นอนและของเล่นใหม่ต่างๆมากมายที่ซื้อมาวันนี้ รีไวจึงปล่อยให้ทั้งสองอยู่ในห้องและตนกลับลงไปดูแปลนงานที่นำติดตัวมาแล้วต้องแก้ไขให้เสร็จเพื่อนำเสนอวันพรุ่งนี้

ตกเย็นยังไม่เห็นวี่แววของเจ้าตัวดีทั้งสอง ชายหนุ่มซึ่งจัดการเตรียมอาหารจนเสร็จแล้วจึงขึ้นไปตาม เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปใบหน้าเฉยชาต้องยกยิ้มบางกับภาพที่เห็น เด็กชายตัวน้อยที่แย่งที่นอนของเจ้าลูกหมา และเจ้าลูกหมาที่โดนแย่งที่นอนนอนพิงกับเจ้าตัวดี บ้านใหม่ ชีวิตใหม่ และสมาชิกใหม่ที่เข้ามาตอนแรกที่เขาคิดว่าจะรำคาญแต่ตอนนี้เขาร็สึกว่าเป็นแบบนี้อาจเรียกได้ว่าความสุขก็ได้....
 
TBC.
......................................................................
Talk: ขยับไปทีละนิด ชิดๆเข้ามาอีกหน่อย หวังว่าจะไม่รู้สึกยืดยาดไปนะคะ เขาว่าจะปลูกต้นรักต้องค่อยๆหมั่นพรวนดินรดน้ำนะเออ >w< (ข้ออ้าง) เพราะถ้าเอเลนโตแล้ว อีกไม่นานก็จบจ้ะ เหอๆ คาดว่าเรื่องนี้คงไม่ยาวเท่าที่คิด(ก็ได้แต่คิดล่ะนะ คิดแบบนี้ทีไรยาวทู๊กกกที
รักนักอ่านทุกท่านเหมือนเดิมนะคะ //ที่เพิ่มเติมคือคนเขียนอยากเรียนวิชาแยกร่าง อยากหาเวลามาปั่นฟิคมากมายแต่.....ก็นะ.... จิพยายามต่อไปค่ะ ขอบคุณที่ถามไถ่กันเข้ามานะคะ ยินดีที่ได้คุยกับทุกๆท่านเลยค่ะ 
 
 

2 ความคิดเห็น:

  1. คุณรีไวล์กินเด็กกก กะจะเลี้ยงไว้กินตอนโตใช่มั้ยหล่ะ //โดนคุณรีไวล์เตะ
    ขอบคุณที่มาอัพนิยายสนุกๆให้อ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณนะคะ เรากำลังบ่มเพาะให้เด็กต่อ รอกันอีกหน่อยนะคะ หุหุ

      ลบ