วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

Special Lesson of love: Hopeful of love

Special Lesson of love: Hopeful of love


เอกสารมากมายถูกรื้อออกมาเพื่อจัดเตรียมส่งให้กับทางโรงเรียนใหม่ของเอเลน รวมทั้งการตระเตรียมเอกสารเพื่อจัดการเรื่องสำมะโนครัวของเด็กชายตัวน้อย รีไวจัดแจงแยกใบสูติบัตร เอกสารการมอบอำนาจ สำเนาบัตรต่างๆออกมา นัยน์ตาสีขี้เถ้าอ่านข้อมูลเอกสารทั้งหมดผ่านๆตาแต่จดจำได้อย่างถี่ถ้วน ชื่อเดิมของเจ้าหนู เอเลน เยเกอร์ แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เอเลนต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเดียวกับเขา ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องดีนักแต่อย่างน้อยเพราะเอเลนยังเป็นเด็กเล็ก เอกสารประจำตัวต่างๆจึงมีอยู่ไม่มาก การเปลี่ยนแปลงนามสกุลจากเดิมมาใช้นามสกุลใหม่จึงไม่ยุ่งยากเท่าไรนัก
รีไวหยิบเอกสารและใบสูติบัตรใบใหม่ที่เปลี่ยนนามสกุลของเด็กชายขึ้นมาตรวจดูเนื้อหา เอเลน แอคเคอร์แมน เกิดวันที่ 30 มีนาคม……. ชายหนุ่มเหลือบมองปฎิทินที่แขวนตรงกำแพง สามสิบมีนาคม…. อาทิตย์หน้าวันเกิดเจ้าหนูนั่นสินะ……. นัยน์ตาสีขี้เถ้ากรอกไปมาอย่างใช้ความคิด วันเกิดงั้นเหรอ? เจ้าหมอนั่นอยากทำอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า? ตั้งแต่จำความได้สำหรับรีไวที่เติบโตมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกับพี่สาว การจัดงานวันเกิดโดยมีพ่อ แม่ พร้อมหน้าเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยรู้จัก แต่ถึงกระนั้นพี่สาวของเขาก็ให้ความสำคัญกับวันเกิดของเขาในทุกๆปี แม้กระทั่งเขาโตจนแยกตัวออกมาแต่เมื่อถึงวันเกิดซึ่งเป็นวันเดียวกับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง พี่สาวของเขาก็ยังคงอวยพรเขาอยู่เรื่อยมา ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่ามันไม่จำเป็น แต่พี่สาวก็พยายามหาของขวัญหรือการ์ดเพื่อมอบให้กับเขาในทุกๆปี เพราะเป็นอย่างนั้นเมื่อถึงวันเกิดของพี่สาวเขาจึงให้ความสำคัญไม่ต่างกัน ถึงแม้พวกเขาทั้งคู่จะเกิดมาพร้อมกับความไม่สมบูรณ์ขององค์ประกอบทางสังคมขั้นพื้นฐาน แต่พี่สาวและเขาต่างช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดนั้นให้แก่กัน และพี่สาวของเขามักบอกกับเขาเสมอว่าการฉลองวันเกิดไม่ใช่เพียงทำไปตามหน้าที่ แต่เพื่อยืนยันว่าพวกเขาได้เกิดมาทั้งยืนยันความสำคัญของชีวิตที่ได้มาพบเจอและรู้จักกัน เพราะฉะนั้นวันเกิดจึงเป็นอะไรที่พิเศษมากสำหรับเขาและพี่สาวที่ไม่อาจลืมได้
ชายหนุ่มมองเด็กชายตัวน้อยที่ตอนนี้กำลังนอนหลับกลางวันอยู่บนเตียง นัยน์ตากลมโตปิดลง แก้มใสคลอเคลียกับหมอนหนุนใบใหญ่ ใบหน้าไร้เดียงสาที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม พร้อมลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอบอกถึงการหลับลึกของเด็กชายตัวน้อย มือหนาลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเอเลนอย่างแผ่วเบาด้วยเกรงว่าเจ้าตัวดีจะสะดุ้งตื่น
แล้วนายล่ะเอเลน? แต่เดิมนายเคยฉลองวันเกิดแบบไหนกับครอบครัวของนายกัน? ปีนี้ที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่อยุ่เคียงข้างสำหรับเจ้าหนูนี้แล้ว วันเกิดจะเป็นสิ่งที่เจ็บปวดสำหรับหมอนี่รึเปล่า?
ชายหนุ่มจัดแจงเก็บเอกสารทั้งหมดแยกเข้าแฟ้มก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไปยังห้องรับแขก คนที่เขาพอจะปรึกษาหารือเรื่องของเอเลนได้ก็มีอยู่เพียงคนเดียว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจโทรไปหาพี่สาวของตน รอเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ พร้อมน้ำเสียงทักทายด้วยความแปลกใจ
[แปลกใจจังที่นายโทรมาหาฉันก่อนได้นะรีไว] น้ำเสียงใสกลั้วหัวเราะของพี่สาวทั้งแปลกใจและดีใจระคนกัน
สมควรที่พี่สาวของเขาจะดีใจอยู่เพราะถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล หรือวันเกิดที่ต้องอวยพรให้แก่กันเขาแทบจะไม่เคยโทรหาพี่สาวก่อนเลย แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะคนเป็นพี่นั้นแหละที่มักจะโทรหาเขาจนเป็นกิจวัตรประจำทุกอาทิตย์อยู่แล้ว
[พอดีฉันตรวจพวกเอกสารของเจ้าหนูนั่นน่ะ]
[เอกสารก็น่าจะครบถ้วนแล้วนะ มีอะไรต้องใช้เพิ่มเติมงั้นเหรอ?]
[ไม่มี พวกเอกสารและโรงเรียนพี่จัดการได้เรียบร้อยดีแล้ว]
เพราะเป็นพี่สาวของคนที่พูดไม่เก่งและอธิบายไม่ค่อยจะเป็น พอเจ้าน้องชายเอ่ยมาเพียงเท่านี้เธอก็พอเข้าใจว่าบางทีอาจเป็นเรื่องของเอเลน
[เอเลนอาจจะยังไม่ชินกับการใช้นามสกุลใหม่ แต่เด็กคนนั้นเป็นคนเก่งและฉลาดอีกไม่นานคงปรับตัวได้]
[เรื่องนั้นหมอนั่นเหมือนจะเข้าใจดีและยอมรับง่ายกว่าที่คิด]
[แล้วนายกำลังกังวลเรื่องอะไรของเอเลนอยู่งั้นเหรอรีไว?] สุดท้ายคนเป็นพี่สาวที่ไม่อยากเดาความิดของน้องชายจึงเป็นฝ่ายถามออกไปตรงๆ
[วันที่ สามสิบ มีนา วันเกิดเจ้าหนูนั่น]
เสียงของพี่สาวที่หายไป รีไวจึงคาดการณ์ได้ว่าพี่สาวของเขาคงกำลังวิ่งไปดูปฏิทิน
[ตายจริง!! อาทิตย์หน้าพี่เกือบลืมไปเลย พี่ควรทำไงดี!? พามิคาสะไปหาเอเลน แต่ว่าเร่งด่วนขนาดนี้จะจองเที่ยวบินได้ไหม? แล้วจะต้องให้มิคาสะลาหยุดโรงเรียน!]
[พี่ใจเย็นก่อน ก่อนหน้านั้นผมมีเรื่องจะถามชายหนุ่มถอนหายใจกับความตื่นตูมของพี่สาว จากการที่เขาจะได้คำปรึกษากลับกลายเป็นว่าต้องเป็นคนช่วยให้พี่เขาหายตื่นเต้นเสียแทน
[…….นายคงอยากถามว่าปกติเอเลนจัดงานวันเกิดแบบไหนสินะ?]
[ทุกปีคิดว่าหมอนั่นคงอยู่กับครอบครัว แต่ปีนี้ฉันไม่รู้ว่าจะแทนครอบครัวของหมอนั่นได้รึเปล่า?]
เสียงหัวเราะขำของพี่สาวดังผ่านสายโทรศัพท์จนรีไวต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าพี่สาวเขาจะขำอะไรนักหนา
[คิก คิก… รีไวนี่น้องชายของฉันจริงๆงั้นเหรอ ไม่คิดเลยว่านายจะใส่ใจขนาดนี้]
[ในเมื่อเลือกแล้วก็ต้องรับผิดชอบจนถึงที่สุด เธอเป็นคนบอกฉันเองตั้งแต่เด็กไม่ใช่รึไง?]
[ขอโทษจ้ะ เพียงแค่รู้สึกว่านายจะเปิดใจกับเอเลนมากกว่าที่ฉันคิด]
คิ้วคมขมวดมุ่น ก็ในเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วเขาก็ต้องรับผิดชอบมันก็ถูกแล้วไม่ใช่รึไง? จะว่าเขาเปิดใจยอมรับเจ้าตัวดีเข้ามามากงั้นเหรอ?........... ไม่คิดจะปฏิเสธหรอกนะ เพราะตัวเขาเองก็รู้สึกตัวว่าบางอย่างในชีวิตเขาเริ่มเปลี่ยนไปเช่นกัน ซึ่งคงเพราะว่าการใช้ชีวิตร่วมกับเจ้าหนูเอเลน
[ปกติคลาร่าเองก็ให้ความสำคัญกับวันเกิดของเอเลน แต่ปีนี้เอเลนแม้ไม่แสดงออกแต่คิดว่าคงเสียใจอยู่เหมือนกัน]
[แล้วพี่คิดว่าฉันควรจะฉลองให้หมอนั่นหรือพาหมอนั่นไปเยี่ยมสุสาน?]
[อืม…. ฉันว่าบางที นายที่เอเลนยอมเปิดใจให้อาจหาคำตอบได้ดีมากกว่าพี่นะ สำหรับเรื่องนี้ฉันขอฟังบทสรุปการตัดสินใจของนายดีกว่า]
ทันทีที่เขาจะอ้าปากแย้ง เสียงมิคาสะหลานสาวตัวดีของเขาก็ดังขึ้นจนพี่สาวเขาต้องตัดจบบทสนทนาแล้ววางสายไปก่อน
รีไวมองหน้าจอโทรศัพท์ที่โดนตัดสายไปด้วยความรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก ตกลงนี่เขาอุตส่าห์โทรไปหาพี่สาวเพื่ออะไรกัน? ทั้งที่คิดว่าน่าจะพอได้อะไรบ้างกลับกลายเป็นว่ราวกับเสียเวลาเปล่าเสียอย่างนั้น
ให้เขาตัดสินใจเองอย่างนั้นเหรอ? เขาที่เพิ่งรุ้จักกับหมอนั่นได้เพียงเดือนกว่าๆนี้เนี่ยนะ? รีไวมองปฏิทินบนหน้าจอสมาร์ทโฟนอีกครั้ง ยังพอมีเวลาอยู่บ้าง ในเมื่อพึ่งใครไม่ได้เขาจะลองค่อยๆหาทางของเขาไปก็แล้วกัน…..

ทั้งที่เขาควรจะมีเวลาค่อยๆคิดเรื่องวันเกิดของเอเลน แต่วันนี้ก็ล่วงเลยมาวันที่ 28 แล้ว สมองของรีไวยังคงคิดถึงเรื่องกระบวนการกระแสไฟฟ้าสลับ เทอร์โบ และกลไกของเครื่องยนต์ ที่ต้องคิดทบทวนมากขนาดนี้ก็เพราะวิศวะกรสาวตัวดีที่มักชอบทำเครื่องยนต์ในบริษัทระเบิดพังเป็นว่าเล่นเพราะการทดลองแปลกๆของเจ้าหล่อน ถ้าไม่นับว่า ฮันซี่ โซเอะ คือวิศวกรสาวที่มีความสามารถคิดวิเคราะห์ พัฒนาเครื่องยนต์และพัฒนาซอฟแวร์กลไกลเครื่องยนต์ที่ทันสมัยและล้ำหน้าเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด การที่ทำการทดลองและแลปหรือเครื่องยนต์ระเบิดเป็นว่าเล่นขนาดนี้คงโดนไล่ออกไปนานแล้ว ข้อหาใช้งบประมาณบริษัทอย่างสิ้นเปลือง แต่อย่างน้อยวิทยาการที่เธอคิดค้นใหม่ๆก็ทำให้วงการเครื่องยนต์รถพลิกโฉมและสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากมาย และนั่นคงเป็นเหตุผลเพียงพอที่ว่าบริษัทยังคงได้กำไรที่ถ่วงดุลย์พอกับการที่แล็ประเบิดเป็นว่าเล่นในแต่ละเดือน
“เอเลน ฉันมีคุกกี้ช็อกโกแลตนะทานด้วยกันไหมจ้ะ!?” เสียงแปดหลอดของคนที่เขาพร่ำบ่นในใจดังขึ้นพร้อมกับการวิ่งเข้ามาตะครุบเด็กชายตัวน้อยที่เดินอยู่ข้างๆเขา
ฮันซี่ตะครุบกอดเด็กชายตัวน้อยที่เริ่มคุ้นชินกับการจู่โจมของวิศวกรสาวอย่างไม่ทันตั้งตัว ฮันซี่ถูแก้มของตนกับแก้มนุ่มนิ่มของเอเลนอย่างรักใคร่
ผลั่ก!
เสียงของฝ่าเท้าที่เตะวิศวกรสาวอย่างหนักหน่วงและไม่เคยพลาดเป้าดังขึ้นเหมือนทุกครั้ง ถึงแม้จะเจ็บตัวและไม่เคยหลบพ้นแต่เพื่อได้กอดเอเลนแล้วดูเหมือนฮันซี่เองก็จะยอมโดนฝ่าเท้าหนักๆที่หวงเด็กในสังกัดของตนเตะได้ทุกครั้งเช่นกัน เช่นเดียวกันกับที่เอเลนยกสองมือเล็กๆขึ้นมาถูแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อจากการเสียดสีกับแก้มของวิศวกรสาวด้วยความเคยชิน
“นายเนี่ยทำตัวขี้หวงชะมัด!!” ฮันซี่ค้อนมองผู้ปกครองที่มองมาที่หล่อนอย่างคาดโทษ
“กับยัยวิปริตที่ไม่น่าไว้วางใจอย่างเธอก็สมควรแล้ว”
“จ้า จ้า คุณพ่อ” ก่อนที่จะหันหลังกลับไปทำงานต่อฮันซี่จึงหันไปหารีไวอีกครั้งเพราะนึกถึงสิ่งที่เธอต้องมาบอกชายหนุ่มได้
“เกือบลืม เอลวินเรียกนายไปพบที่ห้องน่ะ”
“งานด่วนรึไง?”
“ก็ดูเหมือนจะรีบอยู่”
รีไวก้มมองเอเลนที่เงยหน้ามองเขา เด็กน้อยคลี่ยิ้มให้กับชายหนุ่ม
“คุณอาไปหาลุงเอลวินเถอะฮะ เอเลนเดินไปที่ห้องพักเองได้ฮะ” เพราะรอผลตอบรับจากโรงเรียน ตอนนี้เอเลนจึงยังไม่ได้เริ่มเข้าชั้นเรียน เด็กชายจึงยังคงตามรีไวมาที่ทำงานและรอที่โซฟารับแขกในห้องออฟฟิศส่วนกลาง หรือบางครั้งก็ไปนั่งรอในห้องพักของเหล่าพนักงาน
“ฉันว่างอยู่น๊า ให้ฉันพาเอเลนไปห้องพักก็ได้” ฮันซี่รีบโบกมือเสนอขอเป็นตัวช่วย
ใบหน้าเฉยชามองยัยวิปริตตรงหน้าด้วยสายตาจ้องจับผิด แค่เวลาเพียงไม่กี่นาทียัยเพี้ยนนี่คงไม่ทำอะไรแปลกๆกับเจ้าหนูล่ะมั่ง
“เอเลนนายอย่ารับขนมจากคนแปลกหน้าและของยัยเพี้ยนนี้เด็ดขาดเข้าใจไหม” รีไวสั่งด้วยสีหน้าจริงจัง
แม้จะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรแต่เอเลนก็พยักหน้ารับ มีเพียงแต่ฮันซี่ที่บ่นอุบอิบในลำคออย่างไม่พอใจ แต่เมื่อเอเลนเดินเข้าไปหาแล้วยื่นมือให้หญิงสาวเป็นการขอจับมือ ใบหน้าที่ไม่พอใจก็ยิ้มกว้างแล้วรีบคว้ามือเล็กทันที
“ไปกันเถอะเอเลนปล่อยให้คนแก่ทำงานไปแล้วเราไปพักกันดีกว่านะ” แล้วก่อนที่ฝ่าเท้าหนักๆที่เธอคุ้นชินจะตวัดลงมา จากจูงมือฮันซ่จึงอุ้มเด็กน้อยพลางวิ่งหนีหลบไปจากทางเดิน
เมื่อรู้สึกว่ารอดพ้นจากผู้ปกครองอันตรายแล้วฝีเท้าที่จ้ำอ้าวจึงเริ่มช้าลง ฮันซี่หันมาสบกับใบหน้ากลมมนของเอเลนพลางหัวเราะร่าให้กับเด็กชายตัวน้อย
“เอเลนเราแอบไปเที่ยวกันดีไหม?”
“แต่คุณอาสั่งว่าให้รอที่ห้องพักนะฮะ” ใบหน้ามนขมวดคิ้วมุ่นพลางเอียงคอ การขัดคำสั่งของคุณอาไม่ใช่สิ่งที่เอเลนรู้สึกว่าสมควรจะทำ
“นายเนี่ยเชื่อฟังผู้ปกครองชะมัด ไปแค่ห้องพักก็ได้” ฮันซี่ถอนหายใจอย่างเสียดาย นานๆครั้งเธอถึงมีโอกาสได้เล่นกับเอเลนโดยที่ไม่มีผู้ปกครองตัวอันตรายมาคอยรังควาน แต่ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเธอเท่าไร
เพราะคำปฏิเสธของเอเลนฮันซี่จึงอุ้มเด็กชายตรงไปยังห้องพักพนักงานที่ประจำของเจ้าหนูน้อย นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองเด็กชายน่ารักในอ้อมแขนพลางคลี่ยิ้มขำขัน จากที่เธอไปสืบสาวหาความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเอเลนกับรีไวจากเอลวินยิ่งทำให้ฮันซี่ต้องแปลกใจ ถึงเธอจะไม่ค่อยคลุกคลีกับเด็กมากมาย แต่กับเอเลนเธอรู้สึกได้ว่าหนูน้อยให้ความไว้วางใจต่อรีไวเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังให้ความชื่นชมจนเรียกได้ว่าบางทีรีไวคงกลายเป็นวีรบุรุษของเอเลนไปแล้วก็ว่าได้ ทั้งที่รู้จักกันได้ไม่นานแต่อาจเรียกได้ว่าเป็นสัญชาตญานก็ได้ ถ้าจะให้เปรียบเอเลนคงเหมือนลูกสุนัขที่หลงทางแล้วมาเจอจ่าฝูงแบบรีไว บรรยากาศและกลิ่นไอคงทำให้เชื่อใจกันก็ได้ล่ะมั่ง
“นี่เอเลนเธอชอบรีไวมากๆเลยงั้นเหรอ?”
“ชอบที่สุดเลยฮะ!” เด็กน้อยตอบเสียงดังพลางฉีกยิ้มกว้าง
อืม…. ใบหน้าขี้เล่นแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหัวเราะชั่วร้ายในลำคอจนเด็กน้อยจ้องมองหญิงสาวด้วยความหวาดระแวง แล้วเอเลนต้องสะดุ้งโหยงเมื่อฮันซ่หันมาสบตากับเอเลน ตาสีเปลือกไม้มีประกายวาวโรจน์
“หึหึ เอเลนจ้ะ ฉันจะบอกอะไรดีๆให้ฟังนะ รีไวจะต้องชอบแน่ๆ”



วันที่ 30 มีนาคม
รีไวยังคงนั่งง่วนกับแบบแปลนบนโต๊ะเขียนแบบ นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองนาฬิกาที่ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว ทั้งที่ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันเกิดหมอนั่นแต่ตัวเขาก็ยังคงไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรกับวันนี้ดี ตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เขายังคงง่วนอยู่กับการทำงานไม่ต่างจากวันอื่นๆ
เมื่อยิ่งเวลากระชั้นชิดเข้ามาเรื่อยๆ ตัวเขาที่ง่วนอยู่กับงานเริ่มไม่มีสมาธิจดจ่อกับแบบแปลนที่ยังคงร่างไม่เสร็จ จนสุดท้ายเขาจึงวางปากกาเขียนแบบลงแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป เมื่อผ่านยังห้องส่วนกลางที่เอเลนผล่อยหลับบนโซฟารอเขาเช่นทุกวัน รีไวจึงหันไปพยักหน้ากับเพทร่าเป็นเชิงฝากเจ้าตัวดีสักระยะระหว่างที่เขาไปทำธุระ ร่างเล็กแต่แข็งแกร่งรีบเร่งฝีเท้าตรงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัท ก่อนจะจัดการซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปในแหล่งศูนย์การค้าในตัวเมือง เมื่อมาถึงสถานีปลายทางสองขาแข็งแรงรีบก้าวเดินเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่อยู่ใกล้กับทางเชื่อมของสถานี ชายหนุ่มเดินวนเข้าออกตามร้านค้าต่างๆอย่างไร้จุดหมาย ด้วยความที่ไม่เคยเลี้ยงเด็กและไม่เคยให้ของขวัญใครนอกจากพี่สาว เรียกได้ว่านี่เป็นครั้งแรกกับการมาหาซื้อของขวัญให้กับคนอื่น
คิ้วคมขมวดมุ่นบรรยากาศตึงเครียดรายล้อมจนคนที่เดินอยู่รอบๆตัวต่างหลบหลีกทางให้โดยดี หัวสมองของชายหนุ่มประมวลผลอย่างเคร่งเครียดนั้นยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบตัวรีไวมาคุมากยิ่งขึ้น แต่เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อนอีกทั้งไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรรีไวจึงได้แต่เดินวนไปมาตามชั้นต่างๆอย่างไร้จุดหมาย ครั้งจะเข้าร้านขายของเล่นเพื่อซื้อของเล่นตามวัยที่เหมาะสมให้กับเจ้าตัวดี แต่พอเดินเข้าไปพนักงานต่างผ่านกันถอยหนีแล้วพอเขาหันหาคนเพียงเพื่อจะเอ่ยถาม แต่เหล่าพนักงานที่โดนรังสีกดดันนั้นต่างถอยกรูดแล้วตัวสั่นงันงกจนเขาได้แต่เดินออกมาแล้ววนไปตามแผนกที่เกี่ยวกับเด็กชั้นอื่นๆแทน ถึงกระนั้นก็ยังสมองของวิศวกรอัจฉริยะยังคงตีบตันจนผลสุดท้ายเขาที่คิดไม่ออกจึงยืนหยุดตรงริมผนังแล้วเอาหัวโขกกับผนังแทน!
“อ….เออ  ค…. คุณลูกค้าเป็นอะไรรึเปล่า…..ครับ?” พนักงานที่อยุ๋ภายในร้านด้วยความเป็นห่วงที่อาจมีเหตุการณ์นองเลือด หรือชายหนุ่มอาจคิดสั้นจึงรวบรวมความกล้าเดินออกมาถาม
นัยน์ตาสีขี้เถ้าดุดันเหลือบมองพนักงานที่แต่งกายด้วยชุดเชฟหนุ่ม กลิ่นหอมหวานของขนมอบที่ลอยมาแตะจมูกทำให้เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขายืนอยู๋หน้าร้านขายขนมเค้ก
ขนมเค้กอย่างนั้นเหรอ……….. ชายหนุ่มมองเหล่าขนมเค้กหลากสีสันและรูปทรงต่างๆที่วางในตู้กระจกอย่างสนใจ จริงสิ…. ถ้าเป็นเค้กเจ้าหนูนั่นน่าจะชอบ ดูเหมือนจะชอบคุกกี้ที่เพทร่าทำมาเป็นประจำ ถ้าเป็นเค้กหรือของหวานคงไม่มีปัญหา รีไวหันไปมองหน้าพนักงานในชุดบริกรประจำร้านที่พยายามยิ้มใจดีสู้เสืออย่างเป็นมิตรทั้งที่ในใจของพนักงานผู้น่าสงสารวิ่งเตลิดไปไกลแล้ว
“ของขวัญ
บริกรพยายามตั้งใจฟังสิ่งที่ชายหนุ่มพูดและจับใจความสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการจะสื่อ
“ข….ของขวัญ?” บริกรหนุ่มทวนซ้ำ ก่อนจะได้รับการตอบรับเป็นการพยักหน้าของคนที่ยังคงคิ้วขมวดมุ่น
“ของขวัญวันเกิดของเด็กห้าขวบน่ะ” ในที่สุดความต้องการของชายหนุ่มก็หลุดออกจากปากจนบริกรที่เสี่ยงตายออกมาต้อนรับเริ่มรู้สึกโล่งอก
การที่ผู้ชายหน้าโหดมาหาของขวัญให้กับเด็กอายุห้าขวบแบบนี้ คนคนนี้คงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ทีแรก บริกรหนุ่มจึงยิ้มกว้างก่อนจะเชื้อเชิญให้ลูกค้าหน้าโหดเข้าไปภายในร้านเพื่อแนะนำขนมเค้กที่มีอยู่อย่างมากมายให้ได้ตามความต้องการของชายหนุ่ม

ด้วยคำแนะนำและเอาใจใส่ของบริกรในที่สุดรีไวก็ออกมาพร้อมกับกล่องขนมกล่องใหญ่ที่บนกล่องถูกห่อและติดริบบิ้นสีเขียวเพื่อมอบเป็นของขวัญ แล้วเมื่อชายหนุ่มมองดูเวลาแล้วต้องรีบเร่งฝีเท้ายิ่งกว่าเดิมเพราะตอนนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว ไม่คิดว่าการหาของสักชิ้นจะเสียเวลามากขนาดนี้ อีกทั้งการเลือกขนมเค้กเพื่อเป็นของขวัญก็เป็นสิ่งที่เขาเพิ่งจะเคยได้ทำ ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณบริกรที่เสี่ยงออกมาต้อนรับเขา และคอยแนะนำขนมในร้านไม่อย่างนั้นวันนี้เขาคงพลาดที่จะมอบของขวัญให้กับเอเลน เพียงแต่ตอนนี้สิ่งที่เขาจะต้องรีบทำคือ การกลับไปรับเจ้าหนูน้อยที่เขาทิ้งฝากไว้กับเพทร่าจนล่วงเลยเวลามาถึงตอนนี้ ขณะที่เขายังคงง่วนกับการเลือกขนมเพทร่าก็ได้โทรมาแจ้งเขาว่าเอเลนตื่นนอนแล้วจึงทำให้เขาต้องรีบก้าวขามากกว่าเดิม จากประสบการณ์ที่เขาสัมผัสมาก่อนหน้านี้เขารู้ดีว่าเอเลนถึงแม้ตื่นมาแล้วพบว่าเขาไม่อยู่เจ้าหนูนั่นก็คงจะนิ่งเฉยแล้วรอเขาอยู่อย่างเงียบๆต่อไป แม้คนอื่นอาจจะมองว่าเจ้าตัวดีนั้นช่างว่านอนสอนง่ายและไม่งอแงเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แต่เขาที่คลุกคลีกับเอเลนมานานรู้ดีว่าเจ้าหนูนั่นเพียงแค่ไม่อยากทำตัวมีปัญหาก็เท่านั้น สำหรับเด็กอายุอย่างเอเลนการที่ไม่เจอเขาตอนตื่นและไม่รู้ว่าเขาหายไปไหนก็ต้องกังวลไปต่างๆนานาอยู่แล้ว แต่เพราะเจ้าหนูนั่นฉลาดเกินไป และเข้าใจโลกของผู้ใหญ่มากเกินไปซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตที่เจ้าตัวไม่อยากนึกถึง เลยทำให้เอเลนคิดเกินวัยกว่าที่ควรจะเป็น อดทนและอดกลั้นมากกว่าที่ควรจะทำ และเพราะอย่างนั้นเขาจึงไม่อาจที่จะปล่อยเจ้าหนูนั่นได้….

ปัง!
เสียงประตูออฟฟิศเปิดกระแทกอย่างรวดเร็วพร้อมร่างเล็กแต่แข็งแกร่งของวิศวกรหนุ่มอัจฉริยะที่หอบหายใจจนตัวโยนบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขารีบกลับมาขนาดไหน รีไวปาดเหงื่อที่ไหลเปรอะใบหน้าก่อนจะเดินตรงไปยังโซฟาที่เด็กชายตัวน้อยยังคงนั่งอยู่อย่างนิ่งงัน
นัยน์ตากลมโตเงยมองใบหน้าคมคายของชายหนุ่มที่ยังมีเหงื่อเย็นไหลซึมประปราย มือหนาวางลงบนผมสีน้ำตาลนุ่มก่อนจะตบเบาๆ
“ขอโทษที่ทำให้รอนะเจ้าหนู”
ใบหน้ากลมมนนิ่งค้างชั่วครู่ก่อนจะรู้สึกราวกับได้สติ เอเลนพยักหน้าตอบรับก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้กับชายหนุ่ม
“ว่าแต่หัวหน้าไปไหนมางั้นเหรอคะ?” เพทร่าที่อยู่ดูแลเอเลนเอ่ยถาม พลางมองกล่องของขวัญกล่องใหญ่ที่ผู้เป็นหัวหน้าของเธอถือกลับมา
รีไวยกกล่องขนมวางลงบนโต๊ะรับแขกที่อยู่หน้าโซฟา สองมือค่อยๆบรรจงแกะกล่องของขวัญ เมื่อฝากล่องเปิดออกใบหน้ากลมมนมองสิ่งที่อยู่ในกล่องขนมด้วยแววตาที่เป็นประกายอย่างตื่นเต้น ขนมเค้กก้อนกลมที่ถูกวาดให้เป็นท้องทะเล ตรงกลางของเค้กประดับด้วยน้ำตาลก้อนที่ปั้นเป็นรูปหมีและแกะอยู่บนเรือซึ่งทำจากน้ำตาลปั้นเช่นกัน ในทะเลถูกประดับตกแต่งด้วยช็อกโกแลตและเยลลี่ที่ทำเป็นรูปสัตว์ทะเลต่างๆอยู่รายล้อม เส้นแบ่งที่ทำราวเป็นท้องฟ้ามีเขียนตัวอักษร Happy Birthday’s Eren อยู่อย่างเด่นชัด
“วันนี้วันเกิดเอเลนงั้นเหรอคะ!?” เพทร่าที่เห็นเค้กวันเกิดอุทานด้วยความตกใจ เหล่าพนักงานคนอื่นๆที่ยังคงอยู่รอต่างทยอยเข้ามาให้ความสนใจระคนแปลกใจกับเค้กวันเกิดเด็กชายตัวน้อยที่รีไวหอบหิ้วกลับมา
“หัวหน้าขี้โกง!! ถ้าบอกพวกเราว่าวันนี้เป็นวันเกิดเอเลน เราจะได้เตรียมของขวัญ” เอริ์ดตะโกนอย่างเจ็บใจ เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่มีสีหน้าเสียดายไม่แพ้กัน
“ฉันจะให้ของขวัญนายพรุ่งนี้ช้าไปหนึ่งวันคงไม่ว่ากันนะ” กุนเธอร์เข้ามายื่นข้อต่อรองให้กับเอเลน
“เพราะว่านายเป็นเหมือนหลานของหัวหน้าฉันไม่ให้คงไม่ได้สินะ” ออลโอ้กอดอกหมายมั่นที่จะหาของขวัญให้กับเอเลนอีกคน
เสียงบ่นเสียดายและพูดถึงเรื่องของขวัญให้กับเด็กชายตัวน้อยดังระลมอย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งเสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้งทุกคนถึงเห็นชายหนุ่มผู้เป็นผู้บริหารใหญ่ของบริษัทเข้ามาพร้อมกับซิศวกรสาวจอมเพี้ยน
“ดูเหมือนในที่สุดนายก็หาของขวัญให้เอเลนได้สินะรีไว” เอลวินเดินเข้ามาพร้อมกับตุ๊กตาน้องหมาตัวใหญ่ในมือ เช่นเดียวกับฮันซี่ที่มาพร้อมกล่องของเล่นเป็นรถบังคับวิทยุโมเดลรถของบริษัทคันใหญ่
“อะไรกันทุกคนรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเอเลนแต่ไม่บอกพวกเรางั้นเลยเหรอครับ ใจร้ายกันชะมัด!” กุนเธอร์มองเหล่าของขวัญที่บรรดาหัวหน้าถือมาให้เด็กน้อยอย่างเจ็บใจ
“รู้จากเมลพี่สาวของรีไวน่ะนะ พวกฉันเองก็พยายามหาของขวัญกันน่าดูเหมือนกัน” เอลวินยื่นตุ๊กตาหมาสีน้ำตาลตัวใหญ่ขนปุยให้กับเอเลน
ใบหน้ากลมมนมองเจ้าตุ๊กตาตัวใหญ่ขนปุยก่อนจะเอื้อมมือไปรับมากอดไว้ แต่เพราะขนาดของตุ๊ตาที่ใหญ่กว่าเอเลนมากเด็กชายัวน้อยจึงถึงกับเซล้มทับลงบนตุ๊กตาตัวใหญ่
“เอเลนฉันก็มีของขวัญให้เธอนะ รถบังคับวิทยุโมเดล F14 ตัวท็อปของบริษัทที่ฉันผลิตเองเชียวนะ!!” ฮันซี่ยื่นรถบังคับสีแดงเพลิงให้กับเด็กชายอย่างตื่นเต้น พลางบรรยายสรรพคุณของเครื่องยนต์ที่เอเลนได้แต่ฟังอย่างไม่เข้าใจ
“นี่เอเลนผู้ใหญ่ให้ของนายควรพูดขอบคุณสิเจ้าหนู” เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวดียังคงมีท่าทางทำตัวไม่ถูกแล้วได้แต่นิ่งเงียบ ผู้ปกครองอย่างเขาจึงตักเตือน
“อเออ” นัยน์ตาสีมรกตกลมโตมองเหล่าของขวัญตรงหน้า ก่อนจะเงยขึ้นหันมองเหล่าผู้ใหญ่ตรงหน้าแต่ละคน ใบหน้ากลมมนขึ้นสีระเรื่อด้วยความรู้สึกประหม่า
“ข..ของ .. ของพวกนี้ ให้เอเลนจริงๆเหรอฮะ เอเลนรับได้จริงๆเหรอฮะ?” เด็กชายตัวน้อยถามด้วยความตื่นเต้นระคนประหม่า นัยน์ตาสีมรกตทอประกายด้วยความคาดหวัง
ท่าทางที่ไร้เดียงสานั้นทำให้เหล่าผู้ใหญ่ตรงหน้าต่างมองเด็กชายด้วยความเอ็นดู ก่อนจะยิ้มอบอุ่นให้กับเด็กชายตัวน้อย
“วันนี้เป็นวันของนาย เพราะงั้นทุกอย่างก็เป็นของนายไงล่ะเอเลน อ๊ะ แต่รถบังคับที่ฉันให้เด็ดสุดนะรู้ไหม!” ฮันซี่หัวเราะร่าและยังคงบรรยายสรรพคุณของรถบังคับวิทยุขึ้นมาอีกครั้ง
รีไวแตะลงบนบ่าเล็กๆของเอเลน ใบหน้าคมคายก้มลงพูดคุยกับเด็กน้อย
“อย่างที่ยัยแว่นนั้นบอก เมื่อผู้ใหญ่ให้ของนายควรขอบคุณถูกไหมเจ้าหนู?”
“ออื้อ ขอบคุณทุกคนมากเลยฮะ เอเลนจะรักษาทุกอย่างอย่างดีเลยฮะ” ใบหน้ากลมมนยิ้มกว้าง ก่อนจะหันมองเค้กของชายหนุ่ม
“เค้กของคุณอา…. เอเลนก็จะเก็บไว้ฮะ”
“ถ้าจะเก็บก็เก็บไว้ในท้องของนายซะเจ้าหนู มันจะเป็นประโยชน์มากกว่า”
“ต….แต่ ถ้ากิน มันก็จะหายไปนี่ฮะ” เอเลนมองเค้กตรงหน้าด้วยความเสียดาย
รีไวมองท่าทางครุ่นคิดของเด็กชายตัวน้อยพลางเกาผมสีรัตติกาลของตนอย่างใช้ความคิด ก่อนจะจัดการหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายเค้กก้อนสีฟ้าน้ำทะเลแล้วยื่นให้กับเด็กชายตัวน้อยดู
“เท่านี้นายก็กินมันได้แล้วใช่ไหม?”
เอเลนจ้องมองหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปเค้กเก็บไว้เป็นที่เรียบร้อยก่อนจะพยักหน้าแล้วยิ้มกว้างให้กับชายหนุ่ม “อื้อ”
เพทร่าจัดแจงน้ำเทียนหลากสีสันที่อยู่ในกล่องเค้กปักลงบนเค้กวันเกิดของเอเลนก่อนจะจัดการจุดเทียนแต่ละเล่มบนเค้ก เพราะไม่มีของขวัญให้เหล่าลูกน้องของรีไวจึงขอร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับเด็กชายตัวน้อยอย่างเต็มพลังเสียงและสุดความสามารถ แต่เพราะมีกันสี่คนที่พยายามแย่งซีนเป็นจุดเด่นเอาใจเด็กชายตัวน้อยกว่าที่เพลงสุขสันต์วันเกิดจะจบลงจนเอเลนได้เป่าเทียนก็เล่นเอาเทียนละลายจนเกือบจะหมดเล่ม
จากความร่วมมือของทุกคนปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆของเอเลนจึงถูกจัดขึ้นภายในห้องทำงานแผนกวิศวกรเครื่องยนต์ของบริษัท รายการอาหารถูกทยอยโทรสั่งด้วยฝีมือของเพทร่า ออลโอ กุนเธอร์ และเอริ์ด ต่างวิ่งลงไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆเพื่อหาซื้อเครื่องดื่มและอาหาร เค้กถูกแบ่งออกไปแจกจ่ายให้กับเหล่าผู้ร่วมงานวันเกิดเล็กๆทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ และเพราะเป็นเค้กวันเกิดของเจ้าหนูตัวน้อย เอเลนจึงขอชิ้นเค้กที่ใหญ่ที่สุดจากการแบ่ง ระหว่างที่ปาร์ตี้เล็กๆของเอเลนกำลังดำเนินไปเสียงสมาร์ทโฟนของรีไวก็ดังขึ้นอีกครั้ง คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่นนั้นก็คือพี่สาวที่พ่วงหลานสาวตัวแสบของเขาที่โทรศัพท์เข้ามาเป็นวีดีโอคอล และแน่นอนว่ากับหลานสาวของเขาแล้วไม่ได้คิดจะโทรหาเขาแน่นอน เขาจึงยื่นโทรศัพท์ของตนให้กับเอเลนพูดคุย พี่สาวของเขาและมิคาสะต่างอวยพรวันเกิดให้กับเด็กชายและขอโทษเอเลนที่ไม่อาจจะจองหาตั๋วเครื่องบินบินมาหาได้ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมิคาสะที่ดูเสียดายราวกับโลกกำลังจะแตกที่เธอไม่อาจมาร่วมฉลองวันเกิดกับเอเลนได้ และกว่าที่มิคาสะจะยอมวางสายก็เพราะว่าพี่สาวของเขาจัดการแย่งโทรศัพท์คืนจากเจ้าลูกสาวตัวแสบด้วยเกรงว่าถ้ามัวแต่คุยอยู่แบบนี้ ทั้งพี่สาวเขากับมิคาสะและตัวเขากับเอเลนคงไม่ได้ทำอะไรต่อกันพอดี
หลังจากเค้กทั้งหมดถูกกำจัดเสร็จสิ้นและทุกอย่างถูกเก็บเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่ทุกคนต่างแยกย้ายกลับบ้านของตน รีไวหอบเจ้าตุ๊กตาหมาตัวใหญ่และรถบังคับวิทยุกลับที่พัก เมื่อถึงห้องพักชายหนุ่มจัดการวางเจ้าตุ๊กตาตัวใหญ่ไว้ที่โซฟาในห้องรับแขก แม้สีหน้าของเอเลนจะนึกเสียดายแล้วอยากเอาเจ้าตุ๊กตาหมายักษ์ไปนอนกอดบนที่นอนด้วยกัน แต่ถ้าทำอย่างนั้นเขาคงต้องลงไปนอนกับพื้นแทน เจ้าตัวดีจึงยอมให้ทิ้งเจ้าหมายักษ์นั้นไว้ที่ห้องรับแขก เมื่อเก็บของทุกอย่างเรียบร้อยและจัดการอาบน้ำให้เอเลนแล้วก็ถึงเวลาที่เขาทั้งสองจะต้องเข้านอน เอเลนปีนขึ้นไปบนเตียงนัยน์ตาสีมรกตกลมโตจ้องมองแผ่นหลังแกร่งของชายหนุ่มที่เปิดไฟโคมไฟหัวเตียงก่อนจะปิดไฟในห้องแล้วค่อยกลับขึ้นมาบนเตียง
เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวดียังคงจ้องเขาตาไม่กระพริบมือแกร่งจึงดีดที่หน้าผากมนจนเอเลนยกมือขึ้นมาขยี้ด้วยความเจ็บ
“นอนได้แล้วเจ้าหนู” สั่งเจ้าตัวดีที่ยังคงมองเขาด้วยดวงตาใสแจ๋วอย่างไม่ยอมง่วงนอน
“คุณอาฮะ”
“หืม?”
ก่อนที่รีไวจะได้หันไปมอง เอเลนก็คลานขึ้นมานั่งลงบนตักแกร่งของชายหนุ่ม นัยน์ตาสีมรกตกลมโตยังคงจ้องใบหน้าคมคายตาไม่กระพริบ
“คุณอาชอบเอเลนไหมฮะ?” ใบหน้ากลมมนรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
รีไวครุ่นคิดสักครู่ เสียงทุ้มค่อยๆเอ่ยตอบคำถามไร้เดียงสาของเจ้าตัวดี
“ฉันก็ไม่ได้เกลียดนาย”
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะฮะ เอเลนมีความสุขมากๆฮะ”
มือแกร่งยกขึ้นลูบผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มก่อนจะขยี้เบาๆ
“ฉันยังไม่ได้บอกนายเลย สุขสันต์วันเกิดนะเอเลน ยินดีที่นายได้เกิดมาและเราได้มาเจอกันนะเจ้าหนู” ใบหน้าคมคายยิ้มบางให้กับเด็กหนุ่ม
“คุณอาดีใจที่ได้เจอกับเอเลนงั้นเหรอฮะ?”
“อืม.. คงจะอย่างนั้น การเจอกับนายก็ทำให้ชีวิตฉันมีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม ฉันไม่รู้หรอกว่าอนาคตนับจากนี้ไปจะเป็นยังไง แต่นายสำหรับฉันตอนนี้มันก็ไม่เลวนักหรอกเจ้าหนู”
แม้จะไม่เข้าใจแต่เอเลนก็รับรู้ได้ว่าการที่เขาทั้งสองได้มาเจอกันแบบนี้คงเป็นเรื่องดีสำหรับเขาและชายหนุ่มไม่ผิดแน่
มือเล็กสองมือประคองมือของชายหนุ่มขึ้นมาก่อนจะก้มลงเอาริมฝีปากแตะที่มือของชายหนุ่ม ท่าทางแปลกๆของเอเลนที่เกิดขึ้นทำให้รีไวถึงกับขมวดคิ้วอย่างสงสัย แล้วชายหนุ่มต้องแทบจะเอาหัวโขกกับหัวเตียงกับประโยคถัดมาของเจ้าตัวดี
“เอเลนชอบคุณอามากๆเลย เราแต่งงานกันนะฮะ”
รีไวมองหน้าเจ้าตัวยุ่งที่อยู่ๆขอเขาแต่งงานหน้าระรื่น เจ้าหมอนี่แม้จะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่แต่สิ่งที่พูดออกมาเจ้าเด็กนี่เข้าใจมันบ้างรึเปล่า?
“นายไปจำเรื่องแบบนี้มาจากไหนเอเลน?” อย่างน้อยเขาก็พอจำได้ว่าเขาไม่เคยให้เจ้าหมอนี่ดูละครหลังข่าวที่ไร้สาระพวกนั้นหรอกนะ
“คุณอาฮันซี่บอกว่าถ้าชอบใครมากๆให้ขอเขาแต่งงาน เอเลนชอบคุณอาเอเลนก็ต้องขอคุณอาแต่งงานสิฮะ”
ยัยแว่นเพี้ยนนั้นสอนอะไรแปลกๆให้เจ้าเด็กนี้จนได้!!! รีไวถึงขั้นกุมขมับกับความคิดของวิศวกรจอมจุ้นที่สั่งสอนเรื่องแปลกๆให้กับเจ้าตัวดี ยิ่งมองใบหน้าไร้เดียงสาของเอเลนเขายิ่งรู้สึกเหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง……แล้วแบบนี้ เขาควรจะอธิบายยังไงกับตรรกะแปลกๆที่เจ้าหนูนี่โดนสอนมาดีล่ะ?
รีไวสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะถอนออก มือแกร่งวางลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กชายตัวน้อย
“เจ้าหนูฉันเป็นผู้ชายการมาถูกขอแต่งงานก่อนแบบนี้เสียศักดิ์ศรีชะมัด”
“งั้นคุณอาก็ขอเอเลนแต่งงานก็ได้นะฮะ” ใบหน้าไร้เดียงสายังคงตอบด้วยเสียงฉะฉาน
“แต่นายเป็นผู้ชายและฉันก็เป็นผู้ชาย”
“คุณอาฮันซี่บอกว่าสมัยนี้เรื่องเพศเดียวกันไม่ใช่เรื่องแปลกฮะ” เด็กน้อยตีสีหน้าจริงจังยิ่งทำให้รีไวรู้สึกหน้ามืดแบบแปลกๆ
ทั้งที่เหมือนจะไร้เดียงสาแต่ตอนนี้ทำไมเขารู้สึกว่าเจ้าหนูนี่จะเข้าใจอะไรยากๆได้กัน!!
“นายต้องแต่งงานกับคนที่นายรักสิเจ้าหนู”
“รัก?” เด็กน้อยทวนคำพลางเอียงคอมองอย่างสงสัย
“ใช่รัก มันมากกว่าคำว่าชอบ ชอบนายอาจมีได้หลายสิ่ง แต่รักนายจะมีมันได้แค่อย่างเดียว”
“คุณอาเคยรักใครไหมฮะ?”
รีไวส่ายศีรษะไปมาเบาๆ
 “ตอนนี้ไม่”
“งงั้น  เอเลน เอเลนจะเป็นคนที่คุณอารัก”
รีไวอุ้มเจ้าตัวดีที่นั่งบนตักให้ลงมานอนกับเตียงก่อนจะจัดการห่มผ้าห่มผืนหนาห่อตัวทั้งเขาและเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด
“นายยังมีเวลาอีกเยอะเจ้าหนู อย่ารีบร้อนไปเลย”
ใบหน้ากลมมนพองลมในแก้มพลางซุกหน้าลงกับแขนแกร่งของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกน้อยใจ เมื่อเห็นแบบนั้นรีไวจึงค่อยๆกระชับอ้อมแขนดึงเจ้าตัวดีเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น
“เป็นเด็กแก่แดดเชียวนะเจ้าหน” ฉันเคยบอกแล้วไงว่านายหัดทำตัวเป็นเด็กซะบ้าง”
ขอโทษฮะ”
ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจแต่ดูเหมือนเขาจะเผลอทำร้ายเจ้าตัวดีไปซะแล้ว เฮ้อ…..การเลี้ยงเด็กนี่ยุ่งยากชะมัด!
“ฟังนะเอเลน”
รีไวจับพลิกเจ้าเด็กขี้งอนให้หันหน้าเข้าหาตน
“ตอนนี้นายใช้นามสกุลเดียวกับฉันก็เหมือนครอบครัวเดียวกันแล้ว ถ้าจะให้เปรียบก็คงเหมือนนายแต่งงานกับฉันแล้วนั่นแหละไอหนู”
“เอเลนแต่งงานกับคุณอา….
“ใช่แล้ว ตอนนี้นายเป็นเอเลน แอคเคอร์แมน เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วเข้าใจไหมเจ้าหนู”
ถึงจะไม่รู้ว่าเอเลนเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อจริงๆรึเปล่า แต่อย่างน้อยใบหน้ากลมมนที่ยิ้มระรื่นออกมาอย่างไร้เดียงสาก็ทำให้เขารู้สึกเบาใจและยิ้มตาม แม้เขาจะไม่เคยรู้จักหรือเรียนรู้เรื่องความรักจนมีความรู้สึกอยากผูกสัมพันธ์และแต่งงานกับใคร แต่สำหรับเอเลนแล้วเขาอยากที่จะให้เจ้าหนูไร้เดียงสานี้ได้พบเจอกับความรักที่จริงจังได้ในสักวัน แต่มันยังคงเป็นเรื่องอีกยาวไกลของเจ้าตัวยุ่งในอ้อมกอดเขาตอนนี้ เขาจึงทำได้เพียงแต่อวยพรและภาวนาในใจให้กับเจ้าตัวดีกับอนาคตที่หวังว่าจะได้เรียนรู้บทเรียนของสิ่งที่เรียกว่ารักในสักวัน….
FIN.
................................................................................................................................................................
Talk: Happy Birthday เอเลนล่วงหน้าค่ะ เพราะเกรงว่าเดี๋ยวจะเจอมรสุมงาน+คิวเดินทางไม่ว่าง เพราะงั้นขอล่วงหน้าก่อนเลยนะคะฮาๆ
ตอนแรกว่าจะไปเขียนล่ารักให้เสร็จนะแต่เจอแต่แฟนอาร์ตเอเลนโชตะทำดาเมจ+ใกล้วันเกิดเอเลน เลยขอเป็นฟิคตอนพิเศษของโชตะเอเลนละกันนะคะ(อุ๊ยสีถลอก)
และก็เนื่องจากเป็นวันเกิดของ Jadenchase ด้วย เมื่อวันที่ 20(ช้าไปสามวันขออภัย) ขอรวบยอดเลยนะคะ แฮะๆ เอาเป็นว่าขอให้ทั้งเอเลนและ Jadenchase มีความสุขมากมาย รีเอเต็มบ้าน ลูกหลานหัวหน้าเต็มเมือง(?)รู้สึกจะอวยพรเยี่ยงนี้ตลอด
และก็ขอขอบคุณนักอ่านทุกๆท่านที่มาให้กำลังใจอิชุ้นนะคะ ช่วงนี้อัพฟิคช้าขออภัยค่ะ คือส่วนใหญ่เพราะงานรัดตัว ถ้าอะไรลงตัวแล้วน่าจะอัพได้เร็วขึ้น(ล่ะมั่ง) ยังไงก็รักนักอ่านทุกท่านเช่นเคยค่ะ

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ24 มีนาคม 2558 เวลา 00:38

    ตอนนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ มีใช้มีขอแต่งงาน มีใช้นามสกุลเดียวกันด้วย ฟินจังค่ะ ว่าแต่วันที่ 20เป็นวันเกิดของคุณJadenchaseด้วยหรอค่ะ ขอHBDย้อนหลังด้วยคนนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เฮียตีตราจองเเต่ยังเด็กเลยค่ะ หุหุ

      ลบ
  2. คุณไรต์มาต่อแล้ว อร๊าย
    ใจจริงอยากให้คุณไรต์จัดเต็มกะเอเลนฉลองวันเกิดเลย หุหุหุ
    เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นมากเลยค่ะ
    ต่างคนต่างเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ น่าร๊ากกันทั้งคู่เลย
    เป็นกำลังใจให้คุณไรท์เสมอ
    สู้ๆนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ที่จริงก็อยากจัดเต็มนะคะ เเต่ความมุ้งมิ้งเข้าเเทรกค่ะ. คุณอารีไรเเบบว่าสมเป็นคุณพ่อเเละสามี(?)ที่ดี*//////*

      ลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. พึ่งมาไล่อ่านอยากให้มีหลายๆตอนแล้วรวมเล่มจังค่ะจะขอซื้อคนแรกเลยกรี๊สสสสสสส U//////////////U มีต่อเอเลนตอนโตไรงี้ค่ะคงนั่ลลั๊กน่าดู <3 เรื่องนี้อ่านก่ทีก็รู้สึกว่ารีไวล์อบอุ่นแล้วใจดีมากๆค่ะ /////// อ่านไปฟินไปยิ้มไปเลยค่ะ 55555 สู้ๆนะคะ /////// ขอบคุณที่แต่งให้อ่านค่ะะ

    โอ้ยเอเลนมุ้้งมิ้งมากรีไวล์ก็อบอุ่นแบบถ้าเอเลนโตขึ้นแล้วจะมีซัมติงไม่คะอรั้ยยยยยยยยยยยยยย---แค่กๆ โอ้ยตอนนี้นิยายรีเอหายากมากค่ะะะอันนี้แหล่งรวมความฟินเราเลยนะคะเนี่ยยยยยยยยยยย //////////////////////////////

    ตอบลบ