วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Fic. [AU]: Attack On Titan (Levi x Eren) ล่ารักอันตราย Special: You’re crafty


Fic. [AU]: Attack On Titan (Levi x Eren) ล่ารักอันตราย
Special: You’re crafty
 

            หิมะที่เริ่มกระหน่ำตกลงมาทำให้สองเท้าที่กำลังก้าวเร่งรีบมากขึ้น เพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้ร่างโปร่งอยากกลับไปยังห้องนอนแสนอบอุ่นของตนเองให้เร็วที่สุด เมื่อวิ่งขึ้นบันไดมาถึงมือเรียวรีบควานหากุญแจในเสื้อกันหนาวสีฟ้าของตน สองขาเขย่งไปมาเพื่อพยายามวอร์มร่างกายให้อุ่น ประตูเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็วพร้อมร่างที่แทบจะถลาเข้าไปในห้องที่เปิดฮีทเตอร์รอไว้อยู่แล้ว ที่จริงถ้าเป็นปกติเขาคงไม่เปิดฮีทเตอร์อุ่นในห้องรอไว้ เพราะค่าไฟที่ต้องเสียทั้งที่เขาไม่ได้อยู่ใช้นั้นไม่ใช่นิสัยของเด็กปอนๆอย่างเขา แต่เพราะห้องพักในอพาร์ทเมนต์ที่อยู่ห่างจากหอพักเก่าของเขาไม่มากซึ่งคนอันตรายซื้อไว้รวมทั้งตกแต่งราวกับห้องเดิมของเขาที่มีอยู่เดิมเพื่อตบตาคนรอบข้างของเขาแล้ว บรรดาค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ หรือสาธารณูปโภคต่างๆล้วนไม่ใช่เงินของเขาแบบนี้เขาก็ขอใช้ให้เต็มที่หน่อยล่ะ

            เอเลนถอดเสื้อกันหนาวของตนแขวนไว้กับราวแขวนเสื้อที่หน้าประตู แล้วเมื่อวางของที่ซื้อจากซุปเปอร์ทั้งหมดลงบนเคานท์เตอร์ครัวร่างโปร่งก็ถลาขึ้นโซฟาพร้อมทั้งดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นห่มกาย สองแขนเหยียดตรงบิดไปมาไล่ความเมื่อล้าตามร่างกายก่อนจะเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์ ที่รู้สึกผ่อนคลายได้ขนาดนี้ต้องขอบคุณความหัวใสของเขาที่ยื่นขอวันหยุดกับคนอันตราย เพราะว่าตอนนี้ใกล้สิ้นปีงานที่สตูดิโอของคุณฮันเนสเรียกได้ว่ายุ่งขั้นนรกแตก ไหนจะแคมเปญคริสมาสและแคมเปญปีใหม่ที่กระหน่ำเข้ามาให้เขาจัดการตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเพื่อให้ทันใช้ก่อนที่ทางสตูดิโอจะให้พนักงานหยุดยาวในช่วงปีใหม่ และเพราะอย่างนั้นตัวเขาที่ยุ่งจนร่างแทบจะกลายเป็นซอมบี้อีกทั้งต้องรีบกลับไปยังคอนโดของคุณรีไว อย่าว่าแต่ต้องพยายามทำอาหารเย็นให้คนอันตรายคนนั้นเลย แค่เขาฝืนสังขารตัวเองในแต่ละวันกลับไปให้ถึงห้องได้ก็นับว่าดีมากแล้ว และหลายครั้งที่เหมือนคนขี้แกล้งคนนั้นจะเป็นฝ่ายหิ้วสภาพไร้วิญญาณของเขาจากหน้าประตูห้องไปทิ้งไว้บนเตียงในห้องเขาเสียเรียบร้อยให้ด้วย และด้วยสภาพการณ์แบบนั้นติดต่อกันหลายวันตอนแรกเขาก็ว่าจะขอไปนอนค้างที่สตูดิโอแต่คนนั้นกลับให้กุญแจห้องที่ซื้อทิ้งไว้แล้วบอกให้เอาไปใช้ซะแทน ตอนแรกก็ไม่คิดว่าคนเอาแต่ใจและขี้แกล้งแบบนั้นจะยอมง่ายๆแต่ดูเหมือนคนคนนั้นก็ยังพอมีเหตุผลอยู่บ้าง

          ร่างโปร่งหยิบสมาร์ทโฟนของตนขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อมูลและรายการงานอัพเดตต่างๆ เพราะความร่วมมือจากทุกๆคนและการประสานงานที่ดีทำให้งานของเขากว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้จึงพอมีเวลาที่จะใช้พักผ่อนให้เต็มที่เสียที แล้วนัยน์ตาสีมรกตต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าวันนี้เป็นวันที่ 23 ธ.ค. แล้วและอีกเพียงแค่หนึ่งวันที่สตูดิโอฮันเนสก็จะมีการจัดฉลองเทศกาลคริสมาสก่อนจะหยุดในวันที่ 25 ทั้งที่เป็นวันที่สำคัญแท้ๆ แต่เขาลืมซื้อของขวัญให้กับคุณฮันเนสอีกทั้งไหนจะมิคาสะและแจนที่มักจะให้ของขวัญแก่เขาทุกปี ร่างโปร่งที่เพิ่งล้มตัวลงไปบนโซฟารีบเด้งลุกขึ้นมาก่อนจะจัดการคว้ากระเป๋าสะพายของตนกับเสื้อกันหนาวเพื่อออกไปยังห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง

            เด็กหนุ่มวิ่งเข้าออกร้านค้ามากมายเพื่อเลือกของขวัญให้กับผู้มีพระคุณและบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นพี่ชายและพี่สาวของเขา ใบหน้าหวานหันไปมาเพื่อมองหาร้านค้าและของขวัญที่คาดว่าคนสำคัญแต่ละคนของตนน่าจะชื่นชอบ และยิ่งใกล้เทศกาลคนก็ยิ่งเบียดเสียดกันมากยิ่งขึ้น ทั้งที่ปกติเขาจะม่ซื้อของล่วงหน้า แต่เพราะว่าปีนี้เขายุ่งจนลืมวันที่บนปฏิทินอีกทั้งสภาพความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไปเลยทำให้ลืมไปเสียสนิท เขาเลยต้องฝ่าฝูงชนและแย่งซื้อของกับเหล่าผู้คนมากมาย ต้องเดินเข้าออกร้านค้าเพื่อสรรหาของขวัญให้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกันเอาเสียเลย

            เอเลนจัดการเลือกซื้อบรั่นดีราคาแพงให้กับคุณฮันเนส แม้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอลจะไม่เป็นผลดีกับร่างกายแต่คนที่ชอบดื่มแล้วเรียกได้ว่าดื่มมาทั้งชีวิตอย่างคุณฮันเนสแล้วบรั่นดีคงเป็นตัวเลือกที่ดีและง่ายที่สุด ผ้าพันคอสำหรับมิคาสะ เพราะมิคาสะเป็นคนขี้หนาวทุกปีเขาเลยชอบที่จะซื้อผ้าพันคอให้เธอและดูเธอเองก็ชอบและรอคอยผ้าพันคอจากเขาทุกปีเช่นกัน สำหรับแจนเพราะมิคาสะเป็นผ้าพันคอเขาเลยเลือกที่จะซื้อถุงมือให้กับคนชอบวางท่าเป็นพี่ชายเพื่อที่จะได้เข้าคู่กับผ้าพันคอของมิคาสะที่เขาซื้อให้ มือเรียวจัดการตรวจของในถุงกระดาษเพื่อตรวจสอบของที่ซื้อมาว่าถูกต้องครบถ้วนก่อนจะตัดสินใจกลับไปยังที่พักของตนโดยไม่ต้องออกมาใหม่อีกครั้ง ก่อนใบหน้าหวานจะชะงักกับกลิ่นหอมของชาร้อนที่ออกมาจากหน้าร้านขายชาซึ่งมีชาเทศกาลคริสมาสจัดในกล่องและตะกร้าต้อนรับเทศกาลวางมากมายหลากหลายยี่ห้อ

            นัยน์ตาสีมรกตจับจ้องไปยังกล่องเหล็กสีดำที่พิมพ์ตัวอักษรสีทองอย่างหรูหรา กล่องเหล็กพิมพ์ลายเกล็ดหิมะ ตราสีทองที่โดดเด่นเมื่ออยู่บนกล่องเหล็กสีดำยิ่งทำให้ยี่ห้อของชาที่เขาคุ้นเคยเพราะเป็นยี่ห้องโปรดของคนอันตรายยิ่งดูโดดเด่น ริบบิ้นสีทองถูกคาดทับไว้อีกชั้นเพื่อสำหรับมอบให้เป็นของขวัญ นัยน์ตาสีมรกตกลมโตยิ่งให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นป้ายที่วางไว้เขียนว่าเป็นสินค้าพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น

            ชายี่ห้อที่ตาลุงนั่นชอบมีแบบพิเศษเฉพาะช่วงนี้ด้วยแฮะ จะว่าไปชาที่ซื้อไปคราวก่อนก็ใกล้จะหมดแล้ว อีกอย่างนี้ก็ช่วงเทศกาลถ้าซื้อไปให้ตาลุงนั่นอาจจะชอบ......... ราวกับนึกออกใบหน้าหวานขึ้นสีแดงสุกปลั่งทันที เดี๋ยวสิ!! แล้วทำไมเราต้องซื้อของขวัญคริสมาสให้กับตาลุงนั่นด้วยล่ะ ไม่เห็นจะเกี่ยวสักหน่อย แต่นี่ก็ไม่ได้กลับไปที่คอนโดคนอันตรายนั่นได้อาทิตย์นึงแล้ว ทางนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาคงจะงานยุ่งเหมือนกันสินะ แล้วแบบนี้ตาลุงนั่นจะกินอาหารครบสามมื้อรึเปล่า?

            เอเลนหยิบสมาร์ทโฟนของตนขึ้นมา ใบหน้ามนมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ไม่มีสายเรียกเข้า เมื่อเข้าโปรแกรมประวัติการโทรเข้าออกก็ไม่พบเบอร์โทรศัพท์ของคนเอาแต่ใจชอบบังคับ ก็ไม่ได้คิดอยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะแต่ดูเหมือนคนอันตรายคนนั้นคงงานยุ่งจนไม่มีเวลาตามเช็คเขาขนาดนี้คงเพราะว่าสิ้นปีและการปิดงบประมานอีกทั้งเรื่องอื่นๆคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะก่อนหน้าที่เขายังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาอยู่ข้างนอกสภาพเขาที่เป็นซอมบี้คลานกลับคอนโดทุกวันเมื่อเห็นอีกคนที่รออยู่สภาพก็เรียกได้ว่าแทบไม่ต่างกัน ถึงอย่างนั้นก็ยังคอยลากเขากลับเข้าห้องได้ทุกวัน ใบหน้าหวานลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน แล้วเลือกซื้อชาที่มาพร้อมแพคเกจที่เขาสนใจตั้งแต่แรกไป ถึงแม้ราคาค่าชาที่จ่ายไปนั้นเรียกได้ว่าแพงกว่าราคาของบรั่นดีที่ซื้อให้กับคุณฮันเนสเสียอีกแต่เพราะว่าคนคนนั้นบังคับให้ของเขามามากมาย อีกทั้งค่าใช้จ่ายทุกวันนี้ของเขาเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องเสีย ถึงแม้อยากจะจ่ายเพราะไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคนอย่างนั้นแต่ราคาของบิลในแต่ละเดือนเรียกได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายของเขาราวๆครึ่งปี อย่างเขาคงไม่มีปัญญาจ่ายให้หรอกนะ การซื้อชาราคามหาโหดแบบนี้ให้ถือว่าเขาได้ชดใช้ส่วนนั้นไปบ้างก็แล้วกัน!

 

            หลังจากเคลียงานที่มีระลอกสุดท้ายในช่วงเช้า ช่วงบ่ายเหล่าพนักงานและฮันเนสปรับแต่งสตูดิโอที่รกรุงรังมาทั้งอาทิตย์เป็นงานปาร์ตี้อย่างเป็นกันเอง เครื่องดื่มและอาหารมากมายที่โทรสั่งจองล่วงหน้าถูกนำออกมาวางเรียงรายเพื่อให้เหล่าพนักงานผู้หิวโซที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำส่งท้ายปี เมื่ออาหารทั้งหลายถูกวางพร้อมเหล่าบรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศผู้หิวโหยไม่รอช้าต่างจัดการตักอาหารใส่จานของตนโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของงานอย่างฮันเนสเอ่ยปากบอก ใบหน้าสูงวัยของเจ้าของสตูดิโอหัวเราะร่ากับสีหน้าและท่าทางของเหล่าพนักงานที่สนุกสนานก้ปาร์ตี้แม้จะเป็นเพียงปาร์ตี้เล็กๆก็ตาม แต่ทั้งหมดนั้นทุกคนรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ที่มีให้กันตลอดระยะเวลาที่ร่วมงานกันมาตลอดทั้งปี และยังคงจะอยู่ด้วยกันในปีต่อๆไป

            “คุณฮันเนสของขวัญครับ” หลังจากปาร์ตี้เริ่มไปได้สักระยะ เอเลนจึงหาโอกาสเหมาะมอบของขวัญให้กับผู้มีพระคุณของตน

            “ขอบใจมากไอหนู” ฮันเนสรับของขวัญจากเด็กหนุ่ม ชายวัยกลางคนยื่นถุงกระดาษของขวัญที่อยู่เก้าอี้ที่ตนนั่งเพื่อแลกเปลี่ยน เสื้อกันหนาวของแบรนด์ดังที่เขาได้งานแคมเปญถ่ายภาพมาแล้วเจ้าหนูนี่ชมว่าเสื้อกันหนาวแบบมีฮู๊ดสีเขียวที่นายแบบใส่เท่ดี

            “พรุ่งนี้นายจะมาฉลองคริสมาสกับฉันรึเปล่าเอเลน?”

            “ไม่ดีกว่าครับ คุณเพิ่งแต่งงานใหม่พาภรรยาของคุณไปเที่ยวจะดีกว่า”

            ฮันเนสตบลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มก่อนจะถอนหายใจ “ฉันเคยบอกแล้วไงว่านายไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ยังไงทั้งฉันและภรรยาก็ต้อนรับนายเสมอ”

            “ผมรู้ครับ แต่ปีนี้ไม่มีผมแค่ปีเดียวคุณฮันเนสเหงางั้นเหรอ?” ใบหน้าหวานส่งยิ้มยียวนให้กับชายหนุ่ม จนฮันเนสหมั่นเขี้ยวเลยจัดการบีบจมูกเชิดรั้นของเจ้าตัวดีเล่น

            “ที่นายไม่อยู่ฉลองเพราะว่านัดสาวที่ให้เลสนายไว้สินะพ่อเสือร้าย” ใบหน้าสูงวัยยิ้มยียวนตอบกลับราวกับรู้ทันก่อนจะจัดการขยี้มือลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มให้ยุ่งเหยิงกว่าเดิม

            “ไม่มีหรอกครับคุณฮันเนส ผมแค่อยากพักอยู่ห้องสบายๆบ้าง” เอเลนพองลมในแก้มกับการหยอกล้อของอีกฝ่าย ถ้ามีสาวๆอย่างที่คุณฮันเนสว่าก็ดีสิ แต่ที่เขามีมันเป็นชายวันกลางคนแถมอันตรายอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นจะเรียกว่าเป็นคนรักก็เรียกได้ไม่เต็มปากหรอกนะ เพราะอะไรๆมันก็คลุมเครือน่าดู

            ฮันเนสเพียงแค่ยิ้มและส่ายหัวไปมาอย่างไม่อยากเชื่อเจ้าผู้ร้ายปากแข็งตรงหน้า และเพราะเป็นเรื่องที่เจ้าตัวควรตัดสินใจเองคนอายุมากกว่าจึงเพียงแค่ปล่อยไปและกลับไปสนุกกับงานปาร์ตี้ตรงหน้าต่อ

            ช่วงค่ำแจนและมิคาสะแวะมาหาเอเลนตามที่นัดไว้ เด็กหนุ่มแลกเปลี่ยนของขวัญกับทั้งสอง มิคาสะให้รองเท้าผ้าใบกับเด็กหนุ่ม ส่วนแจนให้กระเป๋าสะพายของแบรนกีฬาเดียวกัน หลังจากพูดคุยกันสักพักต่างก็แยกย้ายกันกลับที่พักของตน เมื่อถึงห้องเด็กหนุ่มจัดแจงถอดเสื้อกันหนาววางพาดกับเก้าอี้ ใบหน้ามนมองถุงกระดาษที่บรรจุของขวัญอีกหนึ่งชิ้นในนั้นที่ยังคงอยู่ นิ้วเรียวเคาะลงบนกล่องของขวัญอย่างใช้ความคิด.........เขาจะเอาไปให้คนอันตรายคนนั้นยังไง.......

            เช้าวันคริสมาสทั่วทั้งเมืองตามเต็มไปด้วยความครึกครื้น เสียงเพลงสวดดังให้ได้ยินมาเป็นระยะทั้งจากโบสถ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล และจากเหล่าอาสาสมัครที่เคาะประตูตามบ้านเพื่อร้องเพลงส่งมอบความสุขให้แก่กัน ร่างโปร่งที่วันนี้ไม่มีโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษกว่าจะลุกออกจากเตียงที่ไม่ค่อยได้สัมผัสได้อย่างสบายใจก็เป็นเวลาเกือบบ่ายแล้ว เด็กหนุ่มยันกายลุกออกจากเตียงมือบางขยี้ตากลมโตก่อนจะบิดตัวไปมาเพื่อไปจัดการภารกิจส่วนตัว

            ถุงของขวัญยังคงตั้งอยู่ที่เดิมพร้อมกับเด็กหนุ่มที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วนั่งจ้องอย่างไม่ไหวติง มือบางกำสมาร์ทโฟนของตนพร้อมทั้งจ้องไปยังหน้าจอที่ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่เช่นเดิม

            จะให้เขาโทรไปหาคนนั้นแล้วต้องพูดว่าอะไร จะให้บอกว่าเขาเตรียมของขวัญไว้ ให้มาเอาด้วยแบบนี้ก็คงไม่เหมาะ เหมือนกับว่าเขาจงใจซื้อของมาให้ตาลุงนั่นชะมัด จะให้ส่งข้อความไปแล้วเขาต้องส่งไปว่าอะไรจะต้องเขียนคำอวยพรให้รึเปล่า? แต่ตาแก่โรคจิตนั่นยังไม่เห็นส่งข้อความมาหาเขาเลยแบบนี้เขาก็ไม่คิดที่จะส่งไปก่อนหรอกนะ เอเลนมองของขวัญสลับกับโทรศัพท์ของตนไปมา ทั้งลุกขึ้นเดินไปรอบห้อง ดูรายการโทรทัศน์ฆ่าเวลา ทั้งทำอาหารทาน ทั้งที่พยายามหาเรื่องถ่วงเวลาต่างๆมากมายเพราะหวังว่าจะมีสายเรียกเข้าหรือข้อความเข้ามาจากคนอันตรายเสียบ้าง แต่ทุกอย่างก็ยังคง.......ว่างเปล่า......

            ใบหน้ามนพองลงในแก้มเอาคางเกยกับโต๊ะทานข้าว นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองที่หน้าจอไม่กระพริบทั้งที่ตอนนี้ก็เป็นช่วงหัวค่ำ ใกล้จะหมดวันแล้วแต่ยังคงไม่สัญญาณตอบรับจากคนอันตราย ร่างบางเพียงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะกระชับถุงใส่ห่อของขวัญขึ้นมา

            เฮ้อ........ ดูเหมือนตาลุงนั่นจะงานยุ่งแม้ในวันแบบนี้สินะ ในเมื่อรอไปก็เปล่าประโยชน์เขาเอาไปให้ถึงที่คอนโดเองก็ได้ นี่ก็เพราะว่าซื้อมาแล้วไม่อยากเสียดายของหรอกนะ อีกอย่างจะกลับไปดูว่าตาลุงบ้านั้นยังมีชีวิตอยู่รึเปล่าต่างหากล่ะ ถ้าเกิดตายคาห้องขึ้นมาเขาจะเดือดร้อนเอาได้

          แกร๊ก

            ทันทีที่มือกำลังเอื้อมไปจับลูกบิดประตู แต่กลอนก็ถูกเปิดออกเสียก่อน ร่างโปร่งชะงักถอยหลังแล้วใบหน้ามนต้องชะงักเมื่อเห็นคนที่ไขกุญแจห้องเข้ามา

            “ไงเจ้าลูกหมายังมีชีวิตอยู่งั้นรึ?” ใบหน้าคมคายล้อมด้วยผมสีรัตติกาลเอ่ยทักทาย นัยน์ตาสีหมอกมองร่างที่ชะงักค้างตรงหน้าพลางขมวดคิ้ว

            “ดึกขนาดนี้แล้วนายจะออกไปไหนเจ้าหนู? แล้วนั้นถุงอะไร?”

            เมื่อถูกถามย้ำอีกครั้งราวกับได้สติ ใบหน้าหวานเลิ่กลั่กก่อนจะกำถุงกระดาษไว้แน่น อยู่ๆคนที่คิดว่ากำลังจะต้องไปหาก็โผล่มาแบบนี้เล่นเอาเขาทำตัวไม่ถูก

            “อ...ค....ก.แก เอ๊ย คุณรีไว” เอเลนรีบตะครุบปากเปลี่ยนสรรพนามเมื่อเห็นคิ้วของอีกฝ่ายกระตุก ก่อนจะพยายามข่มความตื่นเต้นลง

            “คุณรีไวมาทำอะไรที่นี้ครับ?”

            ร่างเล็กแต่แข็งแกร่งก้าวเข้ามาในห้องก่อนจะจัดการลงกลอนประตูแล้วถอดเสื้อโค้ทสีดำแขวนที่ผนัง

            “มาดูว่านายยังอยู่ดีไหมหรือว่าตายไปแล้วเห็นไม่ติดต่อมาตั้งหนึ่งอาทิตย์”

            ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ ดูเหมือนว่าจะไม่มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่รอการติดต่อจากอีกฝ่ายสินะ...

            “ว่าแต่คุณเถอะครับงานเสร็จแล้วเหรอไงถึงมาที่นี้ได้?” เอเลนเบนหลบสายตาสีขี้เถ้าที่จ้องมองมา ไม่รู้ว่าตอนนี้เขามีสีหน้ายังไง อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอคนอันตรายคนนี้หนึ่งอาทิตย์ พออยู่ๆมาเจอแบบนี้เลยทำให้เขารู้สึกประหม่า

            “เสร็จเมื่อตอนเย็นนี้ล่ะนะ แล้วยัยพวกจุ้นจ้านพวกนั้นจะมาจัดปาร์ตี้ที่คอนโดฉันเลยหนีมา” รีไวเดินเข้าไปนั่งที่โซฟา ใบหน้าขี้รำคาญเหลือบมองร่างโปร่งที่ยังคงยืนเกร็งอยู่หน้าประตูโดยไม่มีทีท่าที่จะเดินเข้ามา

            “แล้วตกลงนายกำลังไปไหนไอหนู?”

            “อ....เออ....คือ......” ใบหน้ามนยังคงไม่กล้าสบตากับคนอันตรายที่จ้องมา

            “ไม่ว่านายกำลังไปไหนนะเอเลน ฉันขอสั่งให้นายยกเลิกซะ” เพราะท่าทางกระอักกระอ่วนของเด็กหนุ่มเลยทำให้เขาเริ่มหมดความอดทนที่จะรอฟังคำตอบ

            พอได้ยินว่าเป็นคำสั่งอารมณ์หงุดหงิดแล่นเข้าใส่ทันที ถุงกระดาษที่กำแน่นในมือจึงปาออกไปใส่คนที่นั่งอยู่บนโซฟา

            “ก็กำลังไปหานายไงเล่าตาลุงบ้าเอ๊ย!

            รีไวหยิบถุงกระดาษที่ถูกปาขึ้นมาดู กระดาษห่อของขวัญสีทองที่อยู่ในถุงชายี่ห้องที่เขาชื่นชอบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของขวัญชิ้นนี้สำหรับเขา ใบหน้าเฉยชายกยิ้มบางความรู้สึกเหนื่อยล้าจากงานที่โหมกระหน่ำมาตลอดทั้งอาทิตย์พลันหายไป

            “ไม่คิดว่านายจะเตรียมของขวัญไว้ให้ฉันด้วย” รีไวลุกขึ้นยืน สองขาแกร่งเดินเข้าหาร่างโปร่งที่ยังคงยืนอยู่หน้าประตูห้อง

            “ม....มันก็แค่ของตามเทศกาล” ใบหน้าหวานเอียงหลบเมื่อคนอันตรายเข้ามาใกล้มายิ่งขึ้น

            “โฮ่ ฉันเองก็เตรียมของให้นายเช่นกัน” รีไวยื่นห่อกระดาษสีน้ำตาลให้กับเด็กหนุ่ม เอเลนรับมาอย่างกล้าๆกลัว เพราะของขวัญแต่ละชิ้นที่ได้มาจากคนอันตรายคนนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย

            “ว่าแต่อันนี้นายให้เป็นของขวัญคริสมาสหรือวันเกิดล่ะเอเลน?” ใบหน้าคมยิ้มบางถามเด็กหนุ่ม

            เอเลนมองหน้าอีกคนพลางขมวดคิ้วสงสัย “วันนี้เป็นวันเกิดคุณด้วยงั้นเหรอครับ?”

            คิ้วคมต้องเลิ่กขึ้นเมื่อได้ยินประโยคคำถามที่ถามกลับมา ตกลงว่าหมอนี่จงใจให้เขาโมโหหรือว่าไม่รู้จริงๆกันแน่?

            “ถ้าตอบว่าใช่นายจะว่าไงไอหนู?”

            “อ... เอ๊ะ ผ... ผมไม่รู้มาก่อนเลย ถ้างั้นรวบยอดทั้งสองอย่างเลยละกันนะครับ แหะ แหะ” เอเลนพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน แต่สายตาคมที่จ้องดุมาที่เขาทำให้เขาเริ่มรู้สึกอยากหนีไปจากตรงนี้

          “ว่าแต่คุณเองเถอะ รู้วันเกิดผมหรือไง?” เพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้วันเกิดตัวเขาด้วยแน่ๆแบบนี้เขาจะได้มีข้ออ้างยังไงล่ะ

            “ 30 มีนาคม บอกแล้วไงว่าข้อมูลของนายฉันรู้หมดเจ้าหนู”

            ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อไม่คิดว่าคนคนนี้จะรู้วันเกิดของเขาด้วย แต่แล้วเหงื่อเย็นต้องไหลซึมกายยิ่งกว่าเดิมเมื่อสายตาที่ราวกับต่อว่านั้นจ้องมองมาเมื่อเขาไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของอีกฝ่าย

            “เอาเถอะ ถ้านายยอมใส่ของที่ฉันให้ไปก็ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดฉันก็ได้นะเอเลน”

            เด็กหนุ่มมองห่อสีน้ำตาลที่อยู่ในมือ ใบหน้าหวานแทบจะไร้สีเมื่อแกะดูของข้างในแล้วพบว่าเป็นชุดกระโปรงซานตี้สีแดงที่มาพร้อมถุงน่องลายตาข่าย ดูเหมือนคนคนนี้จะมีรสนิยมชอบเห็นเขาแต่งหญิงจริงๆใช่ไหม!!

            “ไม่มีทางทำไมผมต้องใส่ชุดแบบนี้ด้วย!!!”เอเลนโยนชุดซานตี้สีแดงคืนให้กับเจ้าของ ใบหน้าหวานขึ้นสีสุกปลั่งด้วยความโกรธระคนความอาย

            “ของขวัญวันเกิดกับของขวัญคริสมาสต้องแยกกันนะเจ้าหนู” ใบหน้าเฉยชาที่พูดอย่างจริงจังกับเรื่องแบบนี้ทำให้เอเลนแทบรู้สึกอยากจะฝังคนตรงหน้าทั้งเป็น

            “ผมเคยบอกแล้วนะครับว่าถ้าคุณชอบนักก็ใส่เอง”

            “แล้วแบบนั้นมันจะเป็นของขวัญให้ฉันได้ยังไงจริงไหมล่ะเจ้าหนู”

            “ผมไม่ใส่เด็ดขาด!!” ใบหน้ามนตีสีหน้าจริงจัง

            รีไวหรี่ตามองคนดื้อรั้นตรงหน้าพลางถอนหายใจ

            “น่าเสียดายนะชุดนั้นสั่งทำพิเศษราคาก็แพงน่าดู ไม่มีคนใส่นี่น่าเสียดายชะมัด”

            “แล้วใครขอให้คุณไปตัดชุดแบบนี้มาไม่ทราบครับ?”

            “คนที่มีวันเกิดตรงกับเทศกาลนี่โชคร้ายชะมัดเพราะมักได้ของขวัญรวบยอด”

            คำบ่นที่ดังมาเป็นสายทำให้เอเลนเริ่มรำคาญ

            “ขาดทุนชะมัดเลยนะ”

            “ก็ได้ๆ แค่ใส่ก็พอใช่ไหม!!!!

            ด้วยความรำคาญเอเลนจึงคว้าชุดสีแดงที่โยนทิ้งไปกลับมา ร่างโปร่งเดินกระแทกส้นเท้าเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมายืนกอดอกด้วยชุดซานตี้กระโปรงเกาะอกสีแดงที่มีขนปุกปุยสีขาวเป็นกระดุมและกุ๊นช่วงอก พร้อมทั้งถุงน่องตาข่ายสีดำ

            “พอใจแล้วใช่ไหมตาแก่โรคจิต” คิ้วมนขมวดมุ่นใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อทั้งอายทั้งโกรธ ยิ่งเห็นใบหน้าคมคายนั้นยิ้มอย่างพอใจเขายิ่งแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี!!

            “นายดูดีไม่เบา เป็นของขวัญที่วิเศษมากเอเลน” ไม่พูดเปล่ารีไวจัดการช้อนตัวร่างโปร่งในชุดซานตี้สีแดงขึ้นมาก่อนจะจัดการวางลงบนเตียงในห้อง

            “เดี๋ยวๆ นี่คุณจะทำอะไรน่ะ!!?”

            รีไวเลิ่กคิ้วแปลกใจกับคำถามของเด็กหนุ่ม ใบหน้าคมคายยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลูบมือไปยังโคนขาที่มีถุงน่องตาข่ายสวมใส่อยู่ครึ่งโคนขาเนียน

            “ตอนนี้ฉันได้ของขวัญมาแล้วก็ต้องแกะของขวัญไงเจ้าหนู”

            !!!!!!!!!!!!!!!!!!

            ใบหน้ามนขึ้นสีแดงราวลูกมะเขือเทศ ตกลงนี้เขาตกหลุมพรางของคนอันตรายขี้แกล้งคนนี้อีกแล้วใช่มั๊ย!!?

 

            “ปล่อย ปล่อยเลยนะตาลุงโรคจิตนี่!!

ลิ้นร้อนโลมเลียโคนขาขาวที่ลอดพ้นถุงน่องตาข่ายออกมา นัยน์ตาสีดุคมเหลือบมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังเขินอายพลางหัวเราะในลำคอ ให้ตายสิน่าท่าทางแบบนั้นมันยิ่งให้เขาอยากแกล้งเจ้าเด็กเหลือขอนี่ชะมัด

            ริมฝีปากคมไล่จูบจากหน้าผากมน ลงมายังแก้มเนียนใสของเด็กหนุ่ม เมื่อถึงริมฝีปากช่างต่อล้อต่อเถียงเจ้าตัวดีกลับเบือนหน้าหนี ริมฝีปากบางจึงได้แต่ยกยิ้มนึกขัน มือซุกซนค่อยๆจัดการสอดเข้าไปใต้กระโปรงเพื่อสัมผัสส่วนอ่อนไหวของคนใต้ร่าง รีไวลูบไล้แกนกายของร่างโปร่งผ่านชั้นในขาสั้น มือสากปรนเปรอส่วนไวสัมผัสจนเริ่มแข็งขืน เอเลนพยายามดันแขนแข็งแรงออก แต่แขนดื้อดึงนั้นยังคงรุกเร้าเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

            มืออีกข้างของชายหนุ่มค่อยๆจัดการดึงเสื้อเกาะอกสีแดงลง ยอดอกสีอ่อนชูชันขึ้นด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า ริมฝีปากบางสั่นระริกพยายามเม้มแน่นเพื่อไม่ให้เสียงที่น่าอายเล็ดรอด ลิ้นร้อนหยอกเย้ากับยอดอกที่เริ่มตั้งชัน ฟันคมขบลงบนยอดอกที่ตั้งแข็งสร้างความกระสันให้กับร่างบางจนเอเลนสะดุ้งเล็กน้อย

            ทั้งที่สมองสั่งห้ามแต่ราวกับร่างกายไม่เป็นของตัวเอง อกที่เปลือยเปล่าจึงแอ่นเข้าหาปลายลิ้นร้อนที่ไล้วนอย่างกระหาย มือหนาอีกข้างจัดการบีบเค้นหน้าอกที่แม้จะแบนราบของเขา นิ้วหยาบเขี่ยตุ่มไตที่ตั้งยอดแข็งก่อนจะให้เล็บสะกิดเบาๆ ร่างที่ถูกปลุกเร้าจึงสั่นด้วยความรัญจวน

            “อื้อ!

            เอเลนครางอื้อึงในลำคอ จากมือที่พยายามดันออกกลับกลายเป็นจับแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ เพราะเริ่มคุ้นชินร่างกายจึงตอบสนองต่อสัมผัสที่ถูกปลุกเร้าอย่างว่าง่าย

            รีไวจับร่างบางให้แนบชิดเข้าหาตนให้มากขึ้น เข่าแข็งแรงใช้จัดการถูไถยังแกนกายของเด็กหนุ่มแทนมืออีกข้างที่เขาใช้ยันตัวกับฟูกที่นอน

            ริมฝีปากอิ่มที่พยายามเม้มแน่นเริ่มหมดความอดกลั้น กลีบปากนุ่มเริ่มเผยอออกจากกัน เสียงหวานร้องครางอย่างรัญจวนก่อนที่จะถูกปิดเสียงด้วยริมฝีปากคมที่รออยู่

            ลิ้นเจ้าเล่ห์กระหวัดกอบโกยความหวานจากโพรงปากนุ่ม ลิ้มบางตอบรับความเร่าร้อนอย่างคุ้นชิน เสียงแลกเปลี่ยนที่ชื้นแฉะดังก้องในโสตประสาท รีไวดูดดุนลิ้นบางที่ตอบรับ ตวัดลิ้นร้อนไปตามไรฟันขาวก่อนจะขบลงที่กลีบปากนุ่มและผละออกอย่างอ้อยอิ่ง

            ชั้นในขาสั้นที่อยู่ภายใต้กระโปรงถูกถอดออก สองขาเพรียวที่สวมถุงน่องลายตาข่ายไว้ครึ่งโคนขาแยกออกจากกันอย่างว่าง่าย นิ้วสากรุกล้ำยังช่องทางคับแน่นที่เริ่มตอดรับสิ่งแปลกปลอมอย่างคุ้นเคย นัยน์ตาสีมรกตฉ่ำหวานอย่างเว้าวอนทั้งจากแรงปรารถนาที่เริ่มปะทุและความอายที่ยังคงรู้สึก

            “วิวดีไม่เลวเจ้าหนู” รีไวเลียริมฝีปากอย่างรู้สึกกระหายอยากเมื่อมองภาพของเด็กหนุ่มในชุดซานตี้สีแดงที่อ้าขาตอดรับนิ้วที่รุกเข้าออกของเขาอย่างเย้ายวน

            ใบหน้าหวานชาวูบ สองขาที่แยกกว้างจึงพยายามตวัดเพื่อเตะคนเจ้าเล่ห์ปากดี แต่สองขานั้นถูกแขนกำยำจับพาดที่ไหล่หนาก่อนที่แกนกายของชายหนุ่มจะกระแทกจนสุดเข้ามาเพียงรวดเดียว

            “ อ๊า!

            เอเลนหวีดร้องกับความจุกที่พรวดเข้ามา ใบหน้าหวานขมวดมุ่น ร่างโปร่งบางพยายามสูดหายใจลึกเข้าออกเพื่อคลายความคับแน่นของช่องทางเบื้องล่าง

            “ตาแก่โรคจิตเอ๊ย!! อื้อ อื้อ  อา!

            เอเลนคว้าหมอนที่อยู่ข้างตัวขึ้นมากอดแน่น เมื่อสะโพกหนาเริ่มกระหน่ำกระแทกเข้าออก

            “อา อา อา....อื้อ!

            ใบหน้าหวานซุกลงกับหมอน ภายในของเด็กหนุ่มตอดรับแกนกายที่กระหน่ำกระแทกลงมา เสียงผิวเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้องสี่เหลี่ยม

            ภายในอ่อนนุ่มที่ตอดรับทำให้รีไวแทบหมดความอดทน ยิ่งเห็นใบหน้าหวานบิดเร้าอย่างทรมานระคนสุขสมยิ่งทำให้เขาจวนเจียนคลั่ง ร่างกายที่แสนเย้ายวนนี้แม้จะกอบโกยมากเท่าไรก็ไม่อาจเติมเต็มความปรารถนาของเขาให้เพียง

            .......ยังไม่พอ.....

            ยิ่งสัมผัส......ยิ่งต้องการ....

มากกว่านี้

มากกว่านี้...........

รีไวดึงสองแขนบางให้โอบรอบลำคอแกร่งของตน เล็บบางจิกลงบนไหล่แกร่งหวังหาที่ระบายอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงจนยากจะทานทน แกนกายของเด็กหนุ่มเอ่อล้นไปด้วยความปรารถนา ยิ่งเมื่อสะโพกหนากระกระแทกเข้าตรงจุดความปรารถนาถูกเติมเต็มถึงขีดสุดจนน้ำรักสีขุ่นฉีดพุ่งออกจากแกนกายของเอเลน ชายหนุ่มคำรามเสียงต่ำกระแทกสะโพกเน้นย้ำจุดแรงๆจนน้ำกามที่อัดอั้นปะทุออกเข้าช่องทางเบื้องล่างของเด็กหนุ่มจนล้นทะลัก

“อา...... แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก...”

เอเลนหอบเอาอากาศหายใจเข้าปอด นัยน์ตาสีมรกตปรือตามองชายหนุ่มที่ซุกที่ซอกคอของตน ทันทีที่จะขยับตัวออกแกนกายที่ยังคาอยู่ที่ช่องทางเบื้องล่างกลับขยายขึ้นอีกครั้ง

“ด...เดี๋ยวสิคุณรีไว อื้อ!

รีไวยกตัวร่างโปร่งขึ้นมานั่งลงบนตัก เพราะของเหลวที่ยังอยู่ภายในทำให้แกนกายของรีไวขยับเข้าไปในช่องทางคับแคบนั้นได้ง่ายและลึกขึ้น

“ข้างในของนายยังตอดรับดีอยู่เลยนะเอเลน” ริมฝีปากเจ้าเล่ห์หยอกล้อกับยอดอกที่ตั้งชันตรงหน้า

“น.... นั้นมันก็เพราะ อ๊า!

ไม่มีเวลาให้เถียงหรือแม้แต่อาย เมื่อสะโพกสอบเริ่มขยับเป็นจังหวะเร่งเร้าอารมณ์ที่ยังคงคุกรุ่นของทั้งสอง นัยน์ตาสีมรกตมองค้อนใบหน้าคมที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ริมฝีปากที่พยายามอยากต่อว่ามีเพียงแค่เสียงครางที่ดังออกมาตลอดทั้งคืน....

 

ควันสีเทาพ่นออกจากริมฝีปากคม ร่างกายกำยำไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสวยนั่งสูบบุหรี่ที่ปลายเตียง รีไวยกยิ้มขำมองแผ่นหลังเจ้าตัวดีที่จัดการอาบน้ำเปลี่ยนมาใส่ชุดนอนนอนหันหลังให้อย่างนึกงอน ชายหนุ่มขยี้บุหรี่ลงในถาดเขี่ยบุหรี่ที่หัวเตียง ฝ่ามือหยาบลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มที่นอนขดตัวอยู่ในผ้านวมผืนหนา

“งานนายเสร็จแล้วใช่ไหมเอเลน กลับคอนโดได้สักทีสินะ”

“ไม่กลับครับ”

เสียงใสเอ่ยตอบอย่างแข็งกระด้าง ไม่น่าหลงดีใจที่อุตส่าห์คิดว่าคนชอบแกล้งมาหาเขาถึงห้อง เพราะที่มานั่นอยากแกล้งเขาเสียมากกว่า

“อย่างอนนักไอหนู ห้องที่ไม่มีนายอยู่มันเงียบชะมัด”

ได้ยินดังนั้นใบหน้าที่ยังคงงอนๆก็เอี้ยวหลังมองคนอันตรายที่กำลังมองตรงมาพลางยกยิ้มบาง เอเลนพลิกตัวหันหน้าเข้าหาคนชอบแกล้ง นัยน์ตาสีมรกตช้อนมองใบหน้าเจ้าเล่ห์

“ผมไม่อยู่เหงาเหรอไงครับ?” เจ้าตัวดียกยิ้มเย้าแหย่ ใบหน้าที่ทำราวกับรู้ทันนั้นน่าหมั่นไส้จนรีไวดีดลงบนหน้าผากมน

“นายกลับมาทำข้าวให้ฉันกินดีกว่า ไม่มีนายอยู่แล้วรสชาติอาหารกร่อยชะมัด”

เอเลนกลั้นขำกับท่าทางขอร้องของคนที่ดีแต่ออกคำสั่งตรงหน้า แบบนี้เขาจะยอมอ่อนข้อกลับไปแต่โดยดีให้ก็ได้

“ถึงผมบอกจะไม่กลับยังไงคุณก็จะลากตัวผมกลับไปอยู่ดีไม่ใช่รึไง”

“คิดได้แบบนั้นก็ดีเจ้าหนู”

เอเลนคว้าหมอนหนุนขึ้นมากอด ใบหน้าหวานขมวดคิ้วมุ่นกับทีท่าได้ใจของคนอันตราย

“คริสมาสนี้ของผมขาดทุนชะมัด” เสียงใสบ่นอิดออด ทั้งที่เขาซื้อชาราคาแพงมหาศาลให้อีกทั้งเพราะเพิ่งรู้ว่าเป็นวันเกิดคนอันตราย จึงโดนตาแก่เจ้าเล่ห์ทำให้ยอมใส่ชุดที่แสนน่าอับอายนั่นอีก และไหนเขายังโดนตาแก่ลามกรวบหัวรวบหางแบบนี้ ตัวเขาที่มีแต่เสียกับเสียนี้มันขาดทุนชะมัด

“ชุดที่ให้ไปก็เป็นของขวัญไงไม่ชอบเหรอเอเลน?” ใบหน้าคมเลิ่กคิ้วขึ้นอย่างยียวนทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว

“นั้นมันเรียกว่าของขวัญของคุณมากกว่าครับ!!” เอเลนแยกเขี้ยวใส่คนขี้แกล้งที่ไม่ได้รู้สึกสำนึกสักนิด

“นั่นสินะ แม้มันจะเลยคริสมาสมาแล้วแต่ก็ไม่สำคัญหรอกนะ”

ชายหนุ่มเขยิบแขนคร่อมตัวร่างบางไว้ ใบหน้าคมดุขยับเข้าใกล้เด็กหนุ่มทีล่ะนิด ทีล่ะนิด จนอกซ้ายของเอเลนสั่นระรัว ยิ่งเมื่อใบหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รดลงบนแก้มเนียนของตน

ลมหายใจอุ่นเป่ารดที่ใบหูจนเด็กหนุ่มตัวเกร็งด้วยความขนลุก เสียงทุ่มหัวเราะขำในลำคอกับท่าทางของเด็กหนุ่มใต้ร่าง ริมฝีปากคมค่อยๆขยับ เสียงทุ่มค่อยๆเอ่ยแนบในหูของเอเลน

 

Merry Christmas and Je t’aime

 

Fin.
............................................................................................
Talk: ปีที่แล้วเป็นตอนพิเศษของ Last Memory ฉลองวันเกิดเฮีย ปีนี้เป็นล่ารักนะคะเย่(หากินอยู่แถวๆนี้ล่ะ)
ทันวันเกิดเฮียด้วย เช่นเคยค่ะขออวยพรเฮียเตี้ย(แอ๊ฟโดนฟันหลังคอ) ขออวยพรหัวหน้าจากใจเลยนะคะ มีความสุขมากๆ แก่ขึ้นอีกปีก็ขอให้เด็กรักเด็กหลงมากยิ่งๆขึ้นไปอีกค่ะ และเฮียในล่ารักก็คงความเป็นตาแก่โรคจิตได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ //มอบโล่
อิชุ้นเขียนฟิคมาครบปีแล้วสินะ ยินดีกับตัวเองแปบค่ะ ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านเช่นเคยค่ะที่คอยติดตามและให้กำลังใจ รวมถึงชี้แนะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ปีนี้ใกล้จบลงแล้ว ถ้ายังไงขอฝากตัวฝากใจต่อไปในปีหน้าเลยนะคะ
ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพกายและใจแข็งแรงค่ะ Merry Christmas and Happy New Year ล่วงหน้าค่ะ
ฝากเพจเช่นเคยค่ะ ยินมาคุยและเมาท์มอยกันได้นะคะ

4 ความคิดเห็น:

  1. เผลอข่วนโน๊ตบุคอย่างไม่ได้ตั้งใจครับ อาเฮียพูด je t'aime อ๊ากกกกกกกกก ตาแก่โม่ยแอบโรแมนติกกับเค้าด้วยยยยยย //ทึ้งถุงน้องตาข่ายน้องเลนแก้เขินแป๊ปแงงงง

    merry christmas and happy new year นะครับโอเน่จัง ขอให้เป็นปีที่ดีและยังคงความหื่นร่วมกันอย่างนี้ต่อๆไป <3

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ของขวัญของอาเฮียคิโม่ยมาแบบไม่ทันตั้งตัวเสมอ แต่ทำไมนู๋เลนดูขาดทุนอยุ่ดี?ฮาๆๆๆ
      Merry Christmas and Happy New Year ล่วงหน้าค่ะ ขอบคุณที่อยุ่ด้วยกันมาทั้งปี แล้วก็ขอฝากปีต่อๆไปด้วยนะคะ

      ลบ
  2. เฮย์โจวอ้อนได้น่ารักถูกใจแม่ยกมากเลยค่า
    เอเลนหนูน้อยคงจะเป็นของขวัญที่เฮียแกถูกใจทีาสุดแล้ว (เลือดกระฉูด)
    Happy new year นะคะไรท์
    ปีที่ผ่านมาก็ ขอบคุณที่เขียนฟิคสนุกๆให้อ่านนะคะ
    ขอให้ปีใหม่นี้มีความสุขมากๆนะคะไรท์ แล้วก็ขอฝากตัวสำหรับปีหน้าเลยละกันเนอะ ฝากตัวด้วยนะคะไรท์

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. Happy New Year ค่ะ ขอขอบคุณที่คอยติดตามเเละให้กำลังใจ+คอมเมนต์ตลอดมาเช่นกันค่ะ ปีนี้ขอฝากตัวด้วยนะคะ

      ลบ