Fic.
[AU]: Attack On Titan (Levi x Eren) ล่ารักอันตราย
Special: You’re crafty
หิมะที่เริ่มกระหน่ำตกลงมาทำให้สองเท้าที่กำลังก้าวเร่งรีบมากขึ้น
เพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้ร่างโปร่งอยากกลับไปยังห้องนอนแสนอบอุ่นของตนเองให้เร็วที่สุด
เมื่อวิ่งขึ้นบันไดมาถึงมือเรียวรีบควานหากุญแจในเสื้อกันหนาวสีฟ้าของตน
สองขาเขย่งไปมาเพื่อพยายามวอร์มร่างกายให้อุ่น ประตูเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็วพร้อมร่างที่แทบจะถลาเข้าไปในห้องที่เปิดฮีทเตอร์รอไว้อยู่แล้ว
ที่จริงถ้าเป็นปกติเขาคงไม่เปิดฮีทเตอร์อุ่นในห้องรอไว้
เพราะค่าไฟที่ต้องเสียทั้งที่เขาไม่ได้อยู่ใช้นั้นไม่ใช่นิสัยของเด็กปอนๆอย่างเขา
แต่เพราะห้องพักในอพาร์ทเมนต์ที่อยู่ห่างจากหอพักเก่าของเขาไม่มากซึ่งคนอันตรายซื้อไว้รวมทั้งตกแต่งราวกับห้องเดิมของเขาที่มีอยู่เดิมเพื่อตบตาคนรอบข้างของเขาแล้ว
บรรดาค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ
หรือสาธารณูปโภคต่างๆล้วนไม่ใช่เงินของเขาแบบนี้เขาก็ขอใช้ให้เต็มที่หน่อยล่ะ
เอเลนถอดเสื้อกันหนาวของตนแขวนไว้กับราวแขวนเสื้อที่หน้าประตู
แล้วเมื่อวางของที่ซื้อจากซุปเปอร์ทั้งหมดลงบนเคานท์เตอร์ครัวร่างโปร่งก็ถลาขึ้นโซฟาพร้อมทั้งดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นห่มกาย
สองแขนเหยียดตรงบิดไปมาไล่ความเมื่อล้าตามร่างกายก่อนจะเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์
ที่รู้สึกผ่อนคลายได้ขนาดนี้ต้องขอบคุณความหัวใสของเขาที่ยื่นขอวันหยุดกับคนอันตราย
เพราะว่าตอนนี้ใกล้สิ้นปีงานที่สตูดิโอของคุณฮันเนสเรียกได้ว่ายุ่งขั้นนรกแตก ไหนจะแคมเปญคริสมาสและแคมเปญปีใหม่ที่กระหน่ำเข้ามาให้เขาจัดการตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเพื่อให้ทันใช้ก่อนที่ทางสตูดิโอจะให้พนักงานหยุดยาวในช่วงปีใหม่
และเพราะอย่างนั้นตัวเขาที่ยุ่งจนร่างแทบจะกลายเป็นซอมบี้อีกทั้งต้องรีบกลับไปยังคอนโดของคุณรีไว
อย่าว่าแต่ต้องพยายามทำอาหารเย็นให้คนอันตรายคนนั้นเลย แค่เขาฝืนสังขารตัวเองในแต่ละวันกลับไปให้ถึงห้องได้ก็นับว่าดีมากแล้ว
และหลายครั้งที่เหมือนคนขี้แกล้งคนนั้นจะเป็นฝ่ายหิ้วสภาพไร้วิญญาณของเขาจากหน้าประตูห้องไปทิ้งไว้บนเตียงในห้องเขาเสียเรียบร้อยให้ด้วย
และด้วยสภาพการณ์แบบนั้นติดต่อกันหลายวันตอนแรกเขาก็ว่าจะขอไปนอนค้างที่สตูดิโอแต่คนนั้นกลับให้กุญแจห้องที่ซื้อทิ้งไว้แล้วบอกให้เอาไปใช้ซะแทน
ตอนแรกก็ไม่คิดว่าคนเอาแต่ใจและขี้แกล้งแบบนั้นจะยอมง่ายๆแต่ดูเหมือนคนคนนั้นก็ยังพอมีเหตุผลอยู่บ้าง
ร่างโปร่งหยิบสมาร์ทโฟนของตนขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อมูลและรายการงานอัพเดตต่างๆ
เพราะความร่วมมือจากทุกๆคนและการประสานงานที่ดีทำให้งานของเขากว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้จึงพอมีเวลาที่จะใช้พักผ่อนให้เต็มที่เสียที แล้วนัยน์ตาสีมรกตต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าวันนี้เป็นวันที่
23 ธ.ค. แล้วและอีกเพียงแค่หนึ่งวันที่สตูดิโอฮันเนสก็จะมีการจัดฉลองเทศกาลคริสมาสก่อนจะหยุดในวันที่
25 ทั้งที่เป็นวันที่สำคัญแท้ๆ แต่เขาลืมซื้อของขวัญให้กับคุณฮันเนสอีกทั้งไหนจะมิคาสะและแจนที่มักจะให้ของขวัญแก่เขาทุกปี
ร่างโปร่งที่เพิ่งล้มตัวลงไปบนโซฟารีบเด้งลุกขึ้นมาก่อนจะจัดการคว้ากระเป๋าสะพายของตนกับเสื้อกันหนาวเพื่อออกไปยังห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง
เด็กหนุ่มวิ่งเข้าออกร้านค้ามากมายเพื่อเลือกของขวัญให้กับผู้มีพระคุณและบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นพี่ชายและพี่สาวของเขา
ใบหน้าหวานหันไปมาเพื่อมองหาร้านค้าและของขวัญที่คาดว่าคนสำคัญแต่ละคนของตนน่าจะชื่นชอบ
และยิ่งใกล้เทศกาลคนก็ยิ่งเบียดเสียดกันมากยิ่งขึ้น ทั้งที่ปกติเขาจะม่ซื้อของล่วงหน้า
แต่เพราะว่าปีนี้เขายุ่งจนลืมวันที่บนปฏิทินอีกทั้งสภาพความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไปเลยทำให้ลืมไปเสียสนิท
เขาเลยต้องฝ่าฝูงชนและแย่งซื้อของกับเหล่าผู้คนมากมาย
ต้องเดินเข้าออกร้านค้าเพื่อสรรหาของขวัญให้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกันเอาเสียเลย
เอเลนจัดการเลือกซื้อบรั่นดีราคาแพงให้กับคุณฮันเนส
แม้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอลจะไม่เป็นผลดีกับร่างกายแต่คนที่ชอบดื่มแล้วเรียกได้ว่าดื่มมาทั้งชีวิตอย่างคุณฮันเนสแล้วบรั่นดีคงเป็นตัวเลือกที่ดีและง่ายที่สุด
ผ้าพันคอสำหรับมิคาสะ
เพราะมิคาสะเป็นคนขี้หนาวทุกปีเขาเลยชอบที่จะซื้อผ้าพันคอให้เธอและดูเธอเองก็ชอบและรอคอยผ้าพันคอจากเขาทุกปีเช่นกัน
สำหรับแจนเพราะมิคาสะเป็นผ้าพันคอเขาเลยเลือกที่จะซื้อถุงมือให้กับคนชอบวางท่าเป็นพี่ชายเพื่อที่จะได้เข้าคู่กับผ้าพันคอของมิคาสะที่เขาซื้อให้
มือเรียวจัดการตรวจของในถุงกระดาษเพื่อตรวจสอบของที่ซื้อมาว่าถูกต้องครบถ้วนก่อนจะตัดสินใจกลับไปยังที่พักของตนโดยไม่ต้องออกมาใหม่อีกครั้ง
ก่อนใบหน้าหวานจะชะงักกับกลิ่นหอมของชาร้อนที่ออกมาจากหน้าร้านขายชาซึ่งมีชาเทศกาลคริสมาสจัดในกล่องและตะกร้าต้อนรับเทศกาลวางมากมายหลากหลายยี่ห้อ
นัยน์ตาสีมรกตจับจ้องไปยังกล่องเหล็กสีดำที่พิมพ์ตัวอักษรสีทองอย่างหรูหรา
กล่องเหล็กพิมพ์ลายเกล็ดหิมะ ตราสีทองที่โดดเด่นเมื่ออยู่บนกล่องเหล็กสีดำยิ่งทำให้ยี่ห้อของชาที่เขาคุ้นเคยเพราะเป็นยี่ห้องโปรดของคนอันตรายยิ่งดูโดดเด่น
ริบบิ้นสีทองถูกคาดทับไว้อีกชั้นเพื่อสำหรับมอบให้เป็นของขวัญ นัยน์ตาสีมรกตกลมโตยิ่งให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นป้ายที่วางไว้เขียนว่าเป็นสินค้าพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น
ชายี่ห้อที่ตาลุงนั่นชอบมีแบบพิเศษเฉพาะช่วงนี้ด้วยแฮะ
จะว่าไปชาที่ซื้อไปคราวก่อนก็ใกล้จะหมดแล้ว อีกอย่างนี้ก็ช่วงเทศกาลถ้าซื้อไปให้ตาลุงนั่นอาจจะชอบ.........
ราวกับนึกออกใบหน้าหวานขึ้นสีแดงสุกปลั่งทันที เดี๋ยวสิ!! แล้วทำไมเราต้องซื้อของขวัญคริสมาสให้กับตาลุงนั่นด้วยล่ะ
ไม่เห็นจะเกี่ยวสักหน่อย
แต่นี่ก็ไม่ได้กลับไปที่คอนโดคนอันตรายนั่นได้อาทิตย์นึงแล้ว
ทางนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาคงจะงานยุ่งเหมือนกันสินะ แล้วแบบนี้ตาลุงนั่นจะกินอาหารครบสามมื้อรึเปล่า?
เอเลนหยิบสมาร์ทโฟนของตนขึ้นมา
ใบหน้ามนมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ไม่มีสายเรียกเข้า
เมื่อเข้าโปรแกรมประวัติการโทรเข้าออกก็ไม่พบเบอร์โทรศัพท์ของคนเอาแต่ใจชอบบังคับ
ก็ไม่ได้คิดอยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะแต่ดูเหมือนคนอันตรายคนนั้นคงงานยุ่งจนไม่มีเวลาตามเช็คเขาขนาดนี้คงเพราะว่าสิ้นปีและการปิดงบประมานอีกทั้งเรื่องอื่นๆคงไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะก่อนหน้าที่เขายังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาอยู่ข้างนอกสภาพเขาที่เป็นซอมบี้คลานกลับคอนโดทุกวันเมื่อเห็นอีกคนที่รออยู่สภาพก็เรียกได้ว่าแทบไม่ต่างกัน
ถึงอย่างนั้นก็ยังคอยลากเขากลับเข้าห้องได้ทุกวัน
ใบหน้าหวานลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน แล้วเลือกซื้อชาที่มาพร้อมแพคเกจที่เขาสนใจตั้งแต่แรกไป
ถึงแม้ราคาค่าชาที่จ่ายไปนั้นเรียกได้ว่าแพงกว่าราคาของบรั่นดีที่ซื้อให้กับคุณฮันเนสเสียอีกแต่เพราะว่าคนคนนั้นบังคับให้ของเขามามากมาย
อีกทั้งค่าใช้จ่ายทุกวันนี้ของเขาเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องเสีย
ถึงแม้อยากจะจ่ายเพราะไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคนอย่างนั้นแต่ราคาของบิลในแต่ละเดือนเรียกได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายของเขาราวๆครึ่งปี
อย่างเขาคงไม่มีปัญญาจ่ายให้หรอกนะ
การซื้อชาราคามหาโหดแบบนี้ให้ถือว่าเขาได้ชดใช้ส่วนนั้นไปบ้างก็แล้วกัน!
หลังจากเคลียงานที่มีระลอกสุดท้ายในช่วงเช้า
ช่วงบ่ายเหล่าพนักงานและฮันเนสปรับแต่งสตูดิโอที่รกรุงรังมาทั้งอาทิตย์เป็นงานปาร์ตี้อย่างเป็นกันเอง
เครื่องดื่มและอาหารมากมายที่โทรสั่งจองล่วงหน้าถูกนำออกมาวางเรียงรายเพื่อให้เหล่าพนักงานผู้หิวโซที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำส่งท้ายปี
เมื่ออาหารทั้งหลายถูกวางพร้อมเหล่าบรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศผู้หิวโหยไม่รอช้าต่างจัดการตักอาหารใส่จานของตนโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของงานอย่างฮันเนสเอ่ยปากบอก
ใบหน้าสูงวัยของเจ้าของสตูดิโอหัวเราะร่ากับสีหน้าและท่าทางของเหล่าพนักงานที่สนุกสนานก้ปาร์ตี้แม้จะเป็นเพียงปาร์ตี้เล็กๆก็ตาม
แต่ทั้งหมดนั้นทุกคนรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ที่มีให้กันตลอดระยะเวลาที่ร่วมงานกันมาตลอดทั้งปี
และยังคงจะอยู่ด้วยกันในปีต่อๆไป
“คุณฮันเนสของขวัญครับ” หลังจากปาร์ตี้เริ่มไปได้สักระยะ
เอเลนจึงหาโอกาสเหมาะมอบของขวัญให้กับผู้มีพระคุณของตน
“ขอบใจมากไอหนู”
ฮันเนสรับของขวัญจากเด็กหนุ่ม ชายวัยกลางคนยื่นถุงกระดาษของขวัญที่อยู่เก้าอี้ที่ตนนั่งเพื่อแลกเปลี่ยน
เสื้อกันหนาวของแบรนด์ดังที่เขาได้งานแคมเปญถ่ายภาพมาแล้วเจ้าหนูนี่ชมว่าเสื้อกันหนาวแบบมีฮู๊ดสีเขียวที่นายแบบใส่เท่ดี
“พรุ่งนี้นายจะมาฉลองคริสมาสกับฉันรึเปล่าเอเลน?”
“ไม่ดีกว่าครับ คุณเพิ่งแต่งงานใหม่พาภรรยาของคุณไปเที่ยวจะดีกว่า”
ฮันเนสตบลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มก่อนจะถอนหายใจ
“ฉันเคยบอกแล้วไงว่านายไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ยังไงทั้งฉันและภรรยาก็ต้อนรับนายเสมอ”
“ผมรู้ครับ
แต่ปีนี้ไม่มีผมแค่ปีเดียวคุณฮันเนสเหงางั้นเหรอ?” ใบหน้าหวานส่งยิ้มยียวนให้กับชายหนุ่ม
จนฮันเนสหมั่นเขี้ยวเลยจัดการบีบจมูกเชิดรั้นของเจ้าตัวดีเล่น
“ที่นายไม่อยู่ฉลองเพราะว่านัดสาวที่ให้เลสนายไว้สินะพ่อเสือร้าย”
ใบหน้าสูงวัยยิ้มยียวนตอบกลับราวกับรู้ทันก่อนจะจัดการขยี้มือลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มให้ยุ่งเหยิงกว่าเดิม
“ไม่มีหรอกครับคุณฮันเนส
ผมแค่อยากพักอยู่ห้องสบายๆบ้าง” เอเลนพองลมในแก้มกับการหยอกล้อของอีกฝ่าย
ถ้ามีสาวๆอย่างที่คุณฮันเนสว่าก็ดีสิ
แต่ที่เขามีมันเป็นชายวันกลางคนแถมอันตรายอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นจะเรียกว่าเป็นคนรักก็เรียกได้ไม่เต็มปากหรอกนะ
เพราะอะไรๆมันก็คลุมเครือน่าดู
ฮันเนสเพียงแค่ยิ้มและส่ายหัวไปมาอย่างไม่อยากเชื่อเจ้าผู้ร้ายปากแข็งตรงหน้า
และเพราะเป็นเรื่องที่เจ้าตัวควรตัดสินใจเองคนอายุมากกว่าจึงเพียงแค่ปล่อยไปและกลับไปสนุกกับงานปาร์ตี้ตรงหน้าต่อ
ช่วงค่ำแจนและมิคาสะแวะมาหาเอเลนตามที่นัดไว้
เด็กหนุ่มแลกเปลี่ยนของขวัญกับทั้งสอง มิคาสะให้รองเท้าผ้าใบกับเด็กหนุ่ม
ส่วนแจนให้กระเป๋าสะพายของแบรนกีฬาเดียวกัน
หลังจากพูดคุยกันสักพักต่างก็แยกย้ายกันกลับที่พักของตน
เมื่อถึงห้องเด็กหนุ่มจัดแจงถอดเสื้อกันหนาววางพาดกับเก้าอี้
ใบหน้ามนมองถุงกระดาษที่บรรจุของขวัญอีกหนึ่งชิ้นในนั้นที่ยังคงอยู่
นิ้วเรียวเคาะลงบนกล่องของขวัญอย่างใช้ความคิด.........เขาจะเอาไปให้คนอันตรายคนนั้นยังไง.......
เช้าวันคริสมาสทั่วทั้งเมืองตามเต็มไปด้วยความครึกครื้น
เสียงเพลงสวดดังให้ได้ยินมาเป็นระยะทั้งจากโบสถ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
และจากเหล่าอาสาสมัครที่เคาะประตูตามบ้านเพื่อร้องเพลงส่งมอบความสุขให้แก่กัน
ร่างโปร่งที่วันนี้ไม่มีโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษกว่าจะลุกออกจากเตียงที่ไม่ค่อยได้สัมผัสได้อย่างสบายใจก็เป็นเวลาเกือบบ่ายแล้ว
เด็กหนุ่มยันกายลุกออกจากเตียงมือบางขยี้ตากลมโตก่อนจะบิดตัวไปมาเพื่อไปจัดการภารกิจส่วนตัว
ถุงของขวัญยังคงตั้งอยู่ที่เดิมพร้อมกับเด็กหนุ่มที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วนั่งจ้องอย่างไม่ไหวติง
มือบางกำสมาร์ทโฟนของตนพร้อมทั้งจ้องไปยังหน้าจอที่ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่เช่นเดิม
จะให้เขาโทรไปหาคนนั้นแล้วต้องพูดว่าอะไร
จะให้บอกว่าเขาเตรียมของขวัญไว้ ให้มาเอาด้วยแบบนี้ก็คงไม่เหมาะ
เหมือนกับว่าเขาจงใจซื้อของมาให้ตาลุงนั่นชะมัด
จะให้ส่งข้อความไปแล้วเขาต้องส่งไปว่าอะไรจะต้องเขียนคำอวยพรให้รึเปล่า? แต่ตาแก่โรคจิตนั่นยังไม่เห็นส่งข้อความมาหาเขาเลยแบบนี้เขาก็ไม่คิดที่จะส่งไปก่อนหรอกนะ
เอเลนมองของขวัญสลับกับโทรศัพท์ของตนไปมา ทั้งลุกขึ้นเดินไปรอบห้อง
ดูรายการโทรทัศน์ฆ่าเวลา ทั้งทำอาหารทาน ทั้งที่พยายามหาเรื่องถ่วงเวลาต่างๆมากมายเพราะหวังว่าจะมีสายเรียกเข้าหรือข้อความเข้ามาจากคนอันตรายเสียบ้าง
แต่ทุกอย่างก็ยังคง.......ว่างเปล่า......
ใบหน้ามนพองลงในแก้มเอาคางเกยกับโต๊ะทานข้าว
นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองที่หน้าจอไม่กระพริบทั้งที่ตอนนี้ก็เป็นช่วงหัวค่ำ
ใกล้จะหมดวันแล้วแต่ยังคงไม่สัญญาณตอบรับจากคนอันตราย
ร่างบางเพียงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะกระชับถุงใส่ห่อของขวัญขึ้นมา
เฮ้อ........ ดูเหมือนตาลุงนั่นจะงานยุ่งแม้ในวันแบบนี้สินะ
ในเมื่อรอไปก็เปล่าประโยชน์เขาเอาไปให้ถึงที่คอนโดเองก็ได้
นี่ก็เพราะว่าซื้อมาแล้วไม่อยากเสียดายของหรอกนะ
อีกอย่างจะกลับไปดูว่าตาลุงบ้านั้นยังมีชีวิตอยู่รึเปล่าต่างหากล่ะ
ถ้าเกิดตายคาห้องขึ้นมาเขาจะเดือดร้อนเอาได้
แกร๊ก
ทันทีที่มือกำลังเอื้อมไปจับลูกบิดประตู
แต่กลอนก็ถูกเปิดออกเสียก่อน ร่างโปร่งชะงักถอยหลังแล้วใบหน้ามนต้องชะงักเมื่อเห็นคนที่ไขกุญแจห้องเข้ามา
“ไงเจ้าลูกหมายังมีชีวิตอยู่งั้นรึ?” ใบหน้าคมคายล้อมด้วยผมสีรัตติกาลเอ่ยทักทาย
นัยน์ตาสีหมอกมองร่างที่ชะงักค้างตรงหน้าพลางขมวดคิ้ว
“ดึกขนาดนี้แล้วนายจะออกไปไหนเจ้าหนู?
แล้วนั้นถุงอะไร?”
เมื่อถูกถามย้ำอีกครั้งราวกับได้สติ
ใบหน้าหวานเลิ่กลั่กก่อนจะกำถุงกระดาษไว้แน่น
อยู่ๆคนที่คิดว่ากำลังจะต้องไปหาก็โผล่มาแบบนี้เล่นเอาเขาทำตัวไม่ถูก
“อ...ค....ก.แก เอ๊ย คุณรีไว”
เอเลนรีบตะครุบปากเปลี่ยนสรรพนามเมื่อเห็นคิ้วของอีกฝ่ายกระตุก
ก่อนจะพยายามข่มความตื่นเต้นลง
“คุณรีไวมาทำอะไรที่นี้ครับ?”
ร่างเล็กแต่แข็งแกร่งก้าวเข้ามาในห้องก่อนจะจัดการลงกลอนประตูแล้วถอดเสื้อโค้ทสีดำแขวนที่ผนัง
“มาดูว่านายยังอยู่ดีไหมหรือว่าตายไปแล้วเห็นไม่ติดต่อมาตั้งหนึ่งอาทิตย์”
ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ
ดูเหมือนว่าจะไม่มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่รอการติดต่อจากอีกฝ่ายสินะ...
“ว่าแต่คุณเถอะครับงานเสร็จแล้วเหรอไงถึงมาที่นี้ได้?”
เอเลนเบนหลบสายตาสีขี้เถ้าที่จ้องมองมา ไม่รู้ว่าตอนนี้เขามีสีหน้ายังไง
อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอคนอันตรายคนนี้หนึ่งอาทิตย์ พออยู่ๆมาเจอแบบนี้เลยทำให้เขารู้สึกประหม่า
“เสร็จเมื่อตอนเย็นนี้ล่ะนะ
แล้วยัยพวกจุ้นจ้านพวกนั้นจะมาจัดปาร์ตี้ที่คอนโดฉันเลยหนีมา”
รีไวเดินเข้าไปนั่งที่โซฟา ใบหน้าขี้รำคาญเหลือบมองร่างโปร่งที่ยังคงยืนเกร็งอยู่หน้าประตูโดยไม่มีทีท่าที่จะเดินเข้ามา
“แล้วตกลงนายกำลังไปไหนไอหนู?”
“อ....เออ....คือ......”
ใบหน้ามนยังคงไม่กล้าสบตากับคนอันตรายที่จ้องมา
“ไม่ว่านายกำลังไปไหนนะเอเลน ฉันขอสั่งให้นายยกเลิกซะ”
เพราะท่าทางกระอักกระอ่วนของเด็กหนุ่มเลยทำให้เขาเริ่มหมดความอดทนที่จะรอฟังคำตอบ
พอได้ยินว่าเป็นคำสั่งอารมณ์หงุดหงิดแล่นเข้าใส่ทันที
ถุงกระดาษที่กำแน่นในมือจึงปาออกไปใส่คนที่นั่งอยู่บนโซฟา
“ก็กำลังไปหานายไงเล่าตาลุงบ้าเอ๊ย!”
รีไวหยิบถุงกระดาษที่ถูกปาขึ้นมาดู
กระดาษห่อของขวัญสีทองที่อยู่ในถุงชายี่ห้องที่เขาชื่นชอบ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของขวัญชิ้นนี้สำหรับเขา ใบหน้าเฉยชายกยิ้มบางความรู้สึกเหนื่อยล้าจากงานที่โหมกระหน่ำมาตลอดทั้งอาทิตย์พลันหายไป
“ไม่คิดว่านายจะเตรียมของขวัญไว้ให้ฉันด้วย”
รีไวลุกขึ้นยืน สองขาแกร่งเดินเข้าหาร่างโปร่งที่ยังคงยืนอยู่หน้าประตูห้อง
“ม....มันก็แค่ของตามเทศกาล”
ใบหน้าหวานเอียงหลบเมื่อคนอันตรายเข้ามาใกล้มายิ่งขึ้น
“โฮ่ ฉันเองก็เตรียมของให้นายเช่นกัน”
รีไวยื่นห่อกระดาษสีน้ำตาลให้กับเด็กหนุ่ม เอเลนรับมาอย่างกล้าๆกลัว
เพราะของขวัญแต่ละชิ้นที่ได้มาจากคนอันตรายคนนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย
“ว่าแต่อันนี้นายให้เป็นของขวัญคริสมาสหรือวันเกิดล่ะเอเลน?”
ใบหน้าคมยิ้มบางถามเด็กหนุ่ม
เอเลนมองหน้าอีกคนพลางขมวดคิ้วสงสัย “วันนี้เป็นวันเกิดคุณด้วยงั้นเหรอครับ?”
คิ้วคมต้องเลิ่กขึ้นเมื่อได้ยินประโยคคำถามที่ถามกลับมา
ตกลงว่าหมอนี่จงใจให้เขาโมโหหรือว่าไม่รู้จริงๆกันแน่?
“ถ้าตอบว่าใช่นายจะว่าไงไอหนู?”
“อ... เอ๊ะ ผ... ผมไม่รู้มาก่อนเลย
ถ้างั้นรวบยอดทั้งสองอย่างเลยละกันนะครับ แหะ แหะ” เอเลนพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน
แต่สายตาคมที่จ้องดุมาที่เขาทำให้เขาเริ่มรู้สึกอยากหนีไปจากตรงนี้
“ว่าแต่คุณเองเถอะ รู้วันเกิดผมหรือไง?” เพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้วันเกิดตัวเขาด้วยแน่ๆแบบนี้เขาจะได้มีข้ออ้างยังไงล่ะ
“ 30 มีนาคม บอกแล้วไงว่าข้อมูลของนายฉันรู้หมดเจ้าหนู”
ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อไม่คิดว่าคนคนนี้จะรู้วันเกิดของเขาด้วย
แต่แล้วเหงื่อเย็นต้องไหลซึมกายยิ่งกว่าเดิมเมื่อสายตาที่ราวกับต่อว่านั้นจ้องมองมาเมื่อเขาไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของอีกฝ่าย
“เอาเถอะ ถ้านายยอมใส่ของที่ฉันให้ไปก็ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดฉันก็ได้นะเอเลน”
เด็กหนุ่มมองห่อสีน้ำตาลที่อยู่ในมือ
ใบหน้าหวานแทบจะไร้สีเมื่อแกะดูของข้างในแล้วพบว่าเป็นชุดกระโปรงซานตี้สีแดงที่มาพร้อมถุงน่องลายตาข่าย
ดูเหมือนคนคนนี้จะมีรสนิยมชอบเห็นเขาแต่งหญิงจริงๆใช่ไหม!!
“ไม่มีทางทำไมผมต้องใส่ชุดแบบนี้ด้วย!!!”เอเลนโยนชุดซานตี้สีแดงคืนให้กับเจ้าของ
ใบหน้าหวานขึ้นสีสุกปลั่งด้วยความโกรธระคนความอาย
“ของขวัญวันเกิดกับของขวัญคริสมาสต้องแยกกันนะเจ้าหนู”
ใบหน้าเฉยชาที่พูดอย่างจริงจังกับเรื่องแบบนี้ทำให้เอเลนแทบรู้สึกอยากจะฝังคนตรงหน้าทั้งเป็น
“ผมเคยบอกแล้วนะครับว่าถ้าคุณชอบนักก็ใส่เอง”
“แล้วแบบนั้นมันจะเป็นของขวัญให้ฉันได้ยังไงจริงไหมล่ะเจ้าหนู”
“ผมไม่ใส่เด็ดขาด!!” ใบหน้ามนตีสีหน้าจริงจัง
รีไวหรี่ตามองคนดื้อรั้นตรงหน้าพลางถอนหายใจ
“น่าเสียดายนะชุดนั้นสั่งทำพิเศษราคาก็แพงน่าดู
ไม่มีคนใส่นี่น่าเสียดายชะมัด”
“แล้วใครขอให้คุณไปตัดชุดแบบนี้มาไม่ทราบครับ?”
“คนที่มีวันเกิดตรงกับเทศกาลนี่โชคร้ายชะมัดเพราะมักได้ของขวัญรวบยอด”
คำบ่นที่ดังมาเป็นสายทำให้เอเลนเริ่มรำคาญ
“ขาดทุนชะมัดเลยนะ”
“ก็ได้ๆ แค่ใส่ก็พอใช่ไหม!!!!”
ด้วยความรำคาญเอเลนจึงคว้าชุดสีแดงที่โยนทิ้งไปกลับมา
ร่างโปร่งเดินกระแทกส้นเท้าเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมายืนกอดอกด้วยชุดซานตี้กระโปรงเกาะอกสีแดงที่มีขนปุกปุยสีขาวเป็นกระดุมและกุ๊นช่วงอก
พร้อมทั้งถุงน่องตาข่ายสีดำ
“พอใจแล้วใช่ไหมตาแก่โรคจิต”
คิ้วมนขมวดมุ่นใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อทั้งอายทั้งโกรธ
ยิ่งเห็นใบหน้าคมคายนั้นยิ้มอย่างพอใจเขายิ่งแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี!!
“นายดูดีไม่เบา
เป็นของขวัญที่วิเศษมากเอเลน” ไม่พูดเปล่ารีไวจัดการช้อนตัวร่างโปร่งในชุดซานตี้สีแดงขึ้นมาก่อนจะจัดการวางลงบนเตียงในห้อง
“เดี๋ยวๆ นี่คุณจะทำอะไรน่ะ!!?”
รีไวเลิ่กคิ้วแปลกใจกับคำถามของเด็กหนุ่ม
ใบหน้าคมคายยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลูบมือไปยังโคนขาที่มีถุงน่องตาข่ายสวมใส่อยู่ครึ่งโคนขาเนียน
“ตอนนี้ฉันได้ของขวัญมาแล้วก็ต้องแกะของขวัญไงเจ้าหนู”
!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ใบหน้ามนขึ้นสีแดงราวลูกมะเขือเทศ
ตกลงนี้เขาตกหลุมพรางของคนอันตรายขี้แกล้งคนนี้อีกแล้วใช่มั๊ย!!?
“ปล่อย ปล่อยเลยนะตาลุงโรคจิตนี่!!”
ลิ้นร้อนโลมเลียโคนขาขาวที่ลอดพ้นถุงน่องตาข่ายออกมา นัยน์ตาสีดุคมเหลือบมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังเขินอายพลางหัวเราะในลำคอ
ให้ตายสิน่าท่าทางแบบนั้นมันยิ่งให้เขาอยากแกล้งเจ้าเด็กเหลือขอนี่ชะมัด
ริมฝีปากคมไล่จูบจากหน้าผากมน
ลงมายังแก้มเนียนใสของเด็กหนุ่ม
เมื่อถึงริมฝีปากช่างต่อล้อต่อเถียงเจ้าตัวดีกลับเบือนหน้าหนี ริมฝีปากบางจึงได้แต่ยกยิ้มนึกขัน
มือซุกซนค่อยๆจัดการสอดเข้าไปใต้กระโปรงเพื่อสัมผัสส่วนอ่อนไหวของคนใต้ร่าง
รีไวลูบไล้แกนกายของร่างโปร่งผ่านชั้นในขาสั้น
มือสากปรนเปรอส่วนไวสัมผัสจนเริ่มแข็งขืน เอเลนพยายามดันแขนแข็งแรงออก
แต่แขนดื้อดึงนั้นยังคงรุกเร้าเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
มืออีกข้างของชายหนุ่มค่อยๆจัดการดึงเสื้อเกาะอกสีแดงลง
ยอดอกสีอ่อนชูชันขึ้นด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า
ริมฝีปากบางสั่นระริกพยายามเม้มแน่นเพื่อไม่ให้เสียงที่น่าอายเล็ดรอด
ลิ้นร้อนหยอกเย้ากับยอดอกที่เริ่มตั้งชัน ฟันคมขบลงบนยอดอกที่ตั้งแข็งสร้างความกระสันให้กับร่างบางจนเอเลนสะดุ้งเล็กน้อย
ทั้งที่สมองสั่งห้ามแต่ราวกับร่างกายไม่เป็นของตัวเอง
อกที่เปลือยเปล่าจึงแอ่นเข้าหาปลายลิ้นร้อนที่ไล้วนอย่างกระหาย
มือหนาอีกข้างจัดการบีบเค้นหน้าอกที่แม้จะแบนราบของเขา
นิ้วหยาบเขี่ยตุ่มไตที่ตั้งยอดแข็งก่อนจะให้เล็บสะกิดเบาๆ ร่างที่ถูกปลุกเร้าจึงสั่นด้วยความรัญจวน
“อื้อ!”
เอเลนครางอื้อึงในลำคอ จากมือที่พยายามดันออกกลับกลายเป็นจับแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ
เพราะเริ่มคุ้นชินร่างกายจึงตอบสนองต่อสัมผัสที่ถูกปลุกเร้าอย่างว่าง่าย
รีไวจับร่างบางให้แนบชิดเข้าหาตนให้มากขึ้น
เข่าแข็งแรงใช้จัดการถูไถยังแกนกายของเด็กหนุ่มแทนมืออีกข้างที่เขาใช้ยันตัวกับฟูกที่นอน
ริมฝีปากอิ่มที่พยายามเม้มแน่นเริ่มหมดความอดกลั้น
กลีบปากนุ่มเริ่มเผยอออกจากกัน
เสียงหวานร้องครางอย่างรัญจวนก่อนที่จะถูกปิดเสียงด้วยริมฝีปากคมที่รออยู่
ลิ้นเจ้าเล่ห์กระหวัดกอบโกยความหวานจากโพรงปากนุ่ม
ลิ้มบางตอบรับความเร่าร้อนอย่างคุ้นชิน
เสียงแลกเปลี่ยนที่ชื้นแฉะดังก้องในโสตประสาท รีไวดูดดุนลิ้นบางที่ตอบรับ ตวัดลิ้นร้อนไปตามไรฟันขาวก่อนจะขบลงที่กลีบปากนุ่มและผละออกอย่างอ้อยอิ่ง
ชั้นในขาสั้นที่อยู่ภายใต้กระโปรงถูกถอดออก
สองขาเพรียวที่สวมถุงน่องลายตาข่ายไว้ครึ่งโคนขาแยกออกจากกันอย่างว่าง่าย
นิ้วสากรุกล้ำยังช่องทางคับแน่นที่เริ่มตอดรับสิ่งแปลกปลอมอย่างคุ้นเคย
นัยน์ตาสีมรกตฉ่ำหวานอย่างเว้าวอนทั้งจากแรงปรารถนาที่เริ่มปะทุและความอายที่ยังคงรู้สึก
“วิวดีไม่เลวเจ้าหนู” รีไวเลียริมฝีปากอย่างรู้สึกกระหายอยากเมื่อมองภาพของเด็กหนุ่มในชุดซานตี้สีแดงที่อ้าขาตอดรับนิ้วที่รุกเข้าออกของเขาอย่างเย้ายวน
ใบหน้าหวานชาวูบ
สองขาที่แยกกว้างจึงพยายามตวัดเพื่อเตะคนเจ้าเล่ห์ปากดี แต่สองขานั้นถูกแขนกำยำจับพาดที่ไหล่หนาก่อนที่แกนกายของชายหนุ่มจะกระแทกจนสุดเข้ามาเพียงรวดเดียว
“ อ๊า!”
เอเลนหวีดร้องกับความจุกที่พรวดเข้ามา
ใบหน้าหวานขมวดมุ่น ร่างโปร่งบางพยายามสูดหายใจลึกเข้าออกเพื่อคลายความคับแน่นของช่องทางเบื้องล่าง
“ตาแก่โรคจิตเอ๊ย!! อื้อ อื้อ
อา!”
เอเลนคว้าหมอนที่อยู่ข้างตัวขึ้นมากอดแน่น
เมื่อสะโพกหนาเริ่มกระหน่ำกระแทกเข้าออก
“อา อา อา....อื้อ!”
ใบหน้าหวานซุกลงกับหมอน ภายในของเด็กหนุ่มตอดรับแกนกายที่กระหน่ำกระแทกลงมา
เสียงผิวเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้องสี่เหลี่ยม
ภายในอ่อนนุ่มที่ตอดรับทำให้รีไวแทบหมดความอดทน
ยิ่งเห็นใบหน้าหวานบิดเร้าอย่างทรมานระคนสุขสมยิ่งทำให้เขาจวนเจียนคลั่ง
ร่างกายที่แสนเย้ายวนนี้แม้จะกอบโกยมากเท่าไรก็ไม่อาจเติมเต็มความปรารถนาของเขาให้เพียง
.......ยังไม่พอ.....
ยิ่งสัมผัส......ยิ่งต้องการ....
มากกว่านี้
มากกว่านี้...........
รีไวดึงสองแขนบางให้โอบรอบลำคอแกร่งของตน
เล็บบางจิกลงบนไหล่แกร่งหวังหาที่ระบายอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงจนยากจะทานทน
แกนกายของเด็กหนุ่มเอ่อล้นไปด้วยความปรารถนา
ยิ่งเมื่อสะโพกหนากระกระแทกเข้าตรงจุดความปรารถนาถูกเติมเต็มถึงขีดสุดจนน้ำรักสีขุ่นฉีดพุ่งออกจากแกนกายของเอเลน
ชายหนุ่มคำรามเสียงต่ำกระแทกสะโพกเน้นย้ำจุดแรงๆจนน้ำกามที่อัดอั้นปะทุออกเข้าช่องทางเบื้องล่างของเด็กหนุ่มจนล้นทะลัก
“อา...... แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก...”
เอเลนหอบเอาอากาศหายใจเข้าปอด
นัยน์ตาสีมรกตปรือตามองชายหนุ่มที่ซุกที่ซอกคอของตน
ทันทีที่จะขยับตัวออกแกนกายที่ยังคาอยู่ที่ช่องทางเบื้องล่างกลับขยายขึ้นอีกครั้ง
“ด...เดี๋ยวสิคุณรีไว อื้อ!”
รีไวยกตัวร่างโปร่งขึ้นมานั่งลงบนตัก เพราะของเหลวที่ยังอยู่ภายในทำให้แกนกายของรีไวขยับเข้าไปในช่องทางคับแคบนั้นได้ง่ายและลึกขึ้น
“ข้างในของนายยังตอดรับดีอยู่เลยนะเอเลน”
ริมฝีปากเจ้าเล่ห์หยอกล้อกับยอดอกที่ตั้งชันตรงหน้า
“น.... นั้นมันก็เพราะ อ๊า!”
ไม่มีเวลาให้เถียงหรือแม้แต่อาย เมื่อสะโพกสอบเริ่มขยับเป็นจังหวะเร่งเร้าอารมณ์ที่ยังคงคุกรุ่นของทั้งสอง
นัยน์ตาสีมรกตมองค้อนใบหน้าคมที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์
ริมฝีปากที่พยายามอยากต่อว่ามีเพียงแค่เสียงครางที่ดังออกมาตลอดทั้งคืน....
ควันสีเทาพ่นออกจากริมฝีปากคม ร่างกายกำยำไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสวยนั่งสูบบุหรี่ที่ปลายเตียง
รีไวยกยิ้มขำมองแผ่นหลังเจ้าตัวดีที่จัดการอาบน้ำเปลี่ยนมาใส่ชุดนอนนอนหันหลังให้อย่างนึกงอน
ชายหนุ่มขยี้บุหรี่ลงในถาดเขี่ยบุหรี่ที่หัวเตียง
ฝ่ามือหยาบลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มที่นอนขดตัวอยู่ในผ้านวมผืนหนา
“งานนายเสร็จแล้วใช่ไหมเอเลน กลับคอนโดได้สักทีสินะ”
“ไม่กลับครับ”
เสียงใสเอ่ยตอบอย่างแข็งกระด้าง
ไม่น่าหลงดีใจที่อุตส่าห์คิดว่าคนชอบแกล้งมาหาเขาถึงห้อง
เพราะที่มานั่นอยากแกล้งเขาเสียมากกว่า
“อย่างอนนักไอหนู ห้องที่ไม่มีนายอยู่มันเงียบชะมัด”
ได้ยินดังนั้นใบหน้าที่ยังคงงอนๆก็เอี้ยวหลังมองคนอันตรายที่กำลังมองตรงมาพลางยกยิ้มบาง
เอเลนพลิกตัวหันหน้าเข้าหาคนชอบแกล้ง นัยน์ตาสีมรกตช้อนมองใบหน้าเจ้าเล่ห์
“ผมไม่อยู่เหงาเหรอไงครับ?” เจ้าตัวดียกยิ้มเย้าแหย่
ใบหน้าที่ทำราวกับรู้ทันนั้นน่าหมั่นไส้จนรีไวดีดลงบนหน้าผากมน
“นายกลับมาทำข้าวให้ฉันกินดีกว่า ไม่มีนายอยู่แล้วรสชาติอาหารกร่อยชะมัด”
เอเลนกลั้นขำกับท่าทางขอร้องของคนที่ดีแต่ออกคำสั่งตรงหน้า
แบบนี้เขาจะยอมอ่อนข้อกลับไปแต่โดยดีให้ก็ได้
“ถึงผมบอกจะไม่กลับยังไงคุณก็จะลากตัวผมกลับไปอยู่ดีไม่ใช่รึไง”
“คิดได้แบบนั้นก็ดีเจ้าหนู”
เอเลนคว้าหมอนหนุนขึ้นมากอด
ใบหน้าหวานขมวดคิ้วมุ่นกับทีท่าได้ใจของคนอันตราย
“คริสมาสนี้ของผมขาดทุนชะมัด” เสียงใสบ่นอิดออด
ทั้งที่เขาซื้อชาราคาแพงมหาศาลให้อีกทั้งเพราะเพิ่งรู้ว่าเป็นวันเกิดคนอันตราย
จึงโดนตาแก่เจ้าเล่ห์ทำให้ยอมใส่ชุดที่แสนน่าอับอายนั่นอีก
และไหนเขายังโดนตาแก่ลามกรวบหัวรวบหางแบบนี้
ตัวเขาที่มีแต่เสียกับเสียนี้มันขาดทุนชะมัด
“ชุดที่ให้ไปก็เป็นของขวัญไงไม่ชอบเหรอเอเลน?” ใบหน้าคมเลิ่กคิ้วขึ้นอย่างยียวนทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“นั้นมันเรียกว่าของขวัญของคุณมากกว่าครับ!!” เอเลนแยกเขี้ยวใส่คนขี้แกล้งที่ไม่ได้รู้สึกสำนึกสักนิด
“นั่นสินะ แม้มันจะเลยคริสมาสมาแล้วแต่ก็ไม่สำคัญหรอกนะ”
ชายหนุ่มเขยิบแขนคร่อมตัวร่างบางไว้
ใบหน้าคมดุขยับเข้าใกล้เด็กหนุ่มทีล่ะนิด ทีล่ะนิด จนอกซ้ายของเอเลนสั่นระรัว
ยิ่งเมื่อใบหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รดลงบนแก้มเนียนของตน
ลมหายใจอุ่นเป่ารดที่ใบหูจนเด็กหนุ่มตัวเกร็งด้วยความขนลุก
เสียงทุ่มหัวเราะขำในลำคอกับท่าทางของเด็กหนุ่มใต้ร่าง ริมฝีปากคมค่อยๆขยับ
เสียงทุ่มค่อยๆเอ่ยแนบในหูของเอเลน
“ Merry
Christmas and Je t’aime”
Fin.
............................................................................................
Talk: ปีที่แล้วเป็นตอนพิเศษของ Last Memory ฉลองวันเกิดเฮีย ปีนี้เป็นล่ารักนะคะเย่(หากินอยู่แถวๆนี้ล่ะ)
ทันวันเกิดเฮียด้วย เช่นเคยค่ะขออวยพรเฮียเตี้ย(แอ๊ฟโดนฟันหลังคอ) ขออวยพรหัวหน้าจากใจเลยนะคะ มีความสุขมากๆ แก่ขึ้นอีกปีก็ขอให้เด็กรักเด็กหลงมากยิ่งๆขึ้นไปอีกค่ะ และเฮียในล่ารักก็คงความเป็นตาแก่โรคจิตได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ //มอบโล่
อิชุ้นเขียนฟิคมาครบปีแล้วสินะ ยินดีกับตัวเองแปบค่ะ ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านเช่นเคยค่ะที่คอยติดตามและให้กำลังใจ รวมถึงชี้แนะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ปีนี้ใกล้จบลงแล้ว ถ้ายังไงขอฝากตัวฝากใจต่อไปในปีหน้าเลยนะคะ
ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพกายและใจแข็งแรงค่ะ Merry Christmas and Happy New Year ล่วงหน้าค่ะ
ฝากเพจเช่นเคยค่ะ ยินมาคุยและเมาท์มอยกันได้นะคะ
เผลอข่วนโน๊ตบุคอย่างไม่ได้ตั้งใจครับ อาเฮียพูด je t'aime อ๊ากกกกกกกกก ตาแก่โม่ยแอบโรแมนติกกับเค้าด้วยยยยยย //ทึ้งถุงน้องตาข่ายน้องเลนแก้เขินแป๊ปแงงงง
ตอบลบmerry christmas and happy new year นะครับโอเน่จัง ขอให้เป็นปีที่ดีและยังคงความหื่นร่วมกันอย่างนี้ต่อๆไป <3
ของขวัญของอาเฮียคิโม่ยมาแบบไม่ทันตั้งตัวเสมอ แต่ทำไมนู๋เลนดูขาดทุนอยุ่ดี?ฮาๆๆๆ
ลบMerry Christmas and Happy New Year ล่วงหน้าค่ะ ขอบคุณที่อยุ่ด้วยกันมาทั้งปี แล้วก็ขอฝากปีต่อๆไปด้วยนะคะ
เฮย์โจวอ้อนได้น่ารักถูกใจแม่ยกมากเลยค่า
ตอบลบเอเลนหนูน้อยคงจะเป็นของขวัญที่เฮียแกถูกใจทีาสุดแล้ว (เลือดกระฉูด)
Happy new year นะคะไรท์
ปีที่ผ่านมาก็ ขอบคุณที่เขียนฟิคสนุกๆให้อ่านนะคะ
ขอให้ปีใหม่นี้มีความสุขมากๆนะคะไรท์ แล้วก็ขอฝากตัวสำหรับปีหน้าเลยละกันเนอะ ฝากตัวด้วยนะคะไรท์
Happy New Year ค่ะ ขอขอบคุณที่คอยติดตามเเละให้กำลังใจ+คอมเมนต์ตลอดมาเช่นกันค่ะ ปีนี้ขอฝากตัวด้วยนะคะ
ลบ