Attack On Titan Fan fic.: Lessons of love
Pairing: (LevixEren)
Story By: Trendy Blood
…………………………………………………………………………
Lesson 11:
หลังจากที่แจนพูดแบบนั้น
จนตอนนี้ก็ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์ ทุกอย่างก็ยังคงปกติ ซึ่งสำหรับเขาแล้วก็เรียกว่าเป็นสิ่งดี
เพราะไม่ต้องมีเรื่องปวดหัวจากการกระทำบ้าๆของเจ้าเพื่อนสนิทที่พยายามสรรหาเรื่องมาให้
“เอาล่ะสรุปเรื่องงานโรงเรียนปีนี้
ห้องเราจะแสดงละครและเปิดร้านขายยากิโซบะ นะ”
เสียงหัวหน้าห้องกล่าวสรุปงาน
ทำให้คนที่กำลังอยุ่ในภวังค์ไม่ได้สนใจรอบข้างรู้สึกตัว และถึงได้หันหน้าไปยังหน้าห้องที่ทั้งหัวหน้าและรองหัวหน้าห้องรวมถึงเลขาฯต่างกำลังเขียนบางอย่างอยู่บนกระดานดำ
เอเลนจะไม่รู้สึกสนใจเนื้อหาบนกระดานเลย ถ้าในนั้นไม่ได้มีชื่อของเขาอยู่
“เดี๋ยวสิ ทำไมชื่อฉันถึงไปอยู่บนนั้นได้ล่ะ?”
คนที่เพิ่งรู้สึกตัวโวยวายถาม
เหล่าหัวหน้าห้องเหล่ตามองก่อนจะแสยะยิ้มให้
จนทำให้คนที่โวยวายรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ดูเหมือนเขาจะต้องทำอะไรพลาดไปแล้วแน่ๆ
“นี่แหละนะ นายเอเลน แอคเคอร์แมน
เวลาเขาประชุมกันนายไม่รักษาสิทธิ์ของนายไว้ มติก็เป็นเอกฉันท์”
เหล่านักเรียนในห้องต่างหัวเราะครืน
เอเลนทำได้แต่หันไปหาที่พึ่งสุดท้าย คือแจนเพื่อนสนิท
ซึ่งได้แต่ถอนหายใจก่อนจะกระซิบ
[ฉันบอกนายไปแล้วนะตั้งแต่เมื่อสามวันก่อน
ว่านายได้โหวต]
เดี๋ยวนะสามวันก่อน...
พอนึกย้อนดูก็เหมือนกับว่าแจนจะเคยบอกเรื่องโหวตอะไรกับเขาสักอย่างจริงๆ
แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเพราะเข้าใจว่าเป็นการโหวตเรื่องหัวข้อที่จะจัดในงานโรงเรียน
ไม่คิดว่าจะเป็นโหวตคนแสดง
“ด...เดี๋ยวสิ แต่เข้าตัวไม่รู้เรื่องแบบนี้
ต้องถือเป็นโม…ฆ”
ก่อนที่จะพูดจนประโยครองหัวหน้าห้องจอมเฮี๊ยบกระชับแว่นตาในมือพลางจ้องเขม็งจำเลยตรงหน้า
“ผลการโหวตนี้เป็นเอกฉันท์
นายไม่มีสิทธิ์ทำให้แผนการของทั้งห้องล่ม จงสำนึกซะ.... จูเลียต”
“แว๊ก!! ห้ามเรียกฉันอย่างนั้นนะเฟร้ย แล้วห้องเราผู้หญิงก็มี
จะให้ฉันไปแสดงบทผู้หญิงทำไม!?”
จะไม่ให้เขาคัดค้านได้ยังไง
ก็ในเมื่องานแสดงโรงเรียนที่เลือกเรื่อง โรมิโอกับจูเลียต เขาดันได้รับบทนางเอกเสียอย่างนั้น
แทนที่อย่างน้อยควรให้เขาเป็นตัวประกอบชายก็ได้!!
“ก็ผู้หญิงแสดงบทผู้หญิงแบบนั้นมันธรรมดาไป
เราต้องหาอะไรที่น่าสนใจกว่านั้น” หัวหน้าห้องช่วยอธิบายเสริม
“นายควรจะดีใจนะ เพราะคนเล่นเป็นพระเอกคือ
คริสต้า ดาวประจำห้องของเรายังไงล่ะ”
แอนเข้าโอบไหล่เพื่อนพลางลูบหัวอย่างเห็นใจก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงจริงจังที่เหมือนจะจริงใจ
[นี่ถือเป็นหนึ่งในแผนการให้คุณรีไวสนใจนายที่ฉันวางไว้
รับๆไปเหอะน่า] ที่จริงเขาไม่ได้คิดแผนไว้หรอก
แต่พอเห็นชื่อคนแสดงแล้ว ความคิดบางอย่างก็แล่นเข้าหัวเขาทันที
[แล้วไอแผนบ้าๆของนายมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้
คริสต้านี่มันใครฟร่ะ?] ฝ่ายคนที่โดนบังคับอย่างไม่รู้ตัวได้แต่ประท้วง
[ฉันเริ่มสงสัยว่า
ฉันกับนายเรียนโรงเรียนและห้องเดียวกันรึเปล่าเนี่ย?
เมื่อก่อนฉันก็คิดแค่ว่านายซื่อบื้อ หลังๆน่าจะเพิ่มคำว่าโง่ไปด้วย] ถึงจะรู้ว่าเจ้าหมอนี้ไม่ได้สนใจเรื่องรอบตัวเท่าไร
แต่แบบนี้เรียกว่าตาบอดชัดๆ
[ถ้านายยังแดกดันฉันไม่เลิก
ฉันจะให้มิคาสะเลิกยุ่งกับนาย...
แต่จะว่าไปมิคาสะไม่ประท้วงเหรอที่ไม่ได้คู่กับฉัน?] เอเลนหันไปมองเพื่อนสาวคนสนิทที่ตอนนี้ดูจะพึมพำแล้วจ้องรายชื่อบนกระดานอย่างอาฆาตแค้น
[โชคดีที่ยัยนั่นแพ้ผลโหวต
แต่ถึงแบบนั้นก็ได้เล่นเป็นลูกพี่ลูกน้องของนายอยู่ดี เรื่องนั้นช่างก่อน นายดู
คริสต้า นั่นเป็นดาวประจำห้องได้รับฉายาว่า แองเจิ้ล มีเสน่ห์แบบหาตัวจับยาก
และมาแสดงคู่กับนายเท่ากับนายสองคนต้องสนิทสนมกันมากขึ้น] รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประกายบนใบหน้ายียวนของแจน
[ก็แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับคุณรีไวกันล่ะ?]
ก็แค่มีเพื่อนเพิ่มอีกคน ไม่เห็นจะทำให้คนคนนั้นหันมามองเขาสักนิด
แจนถึงกับตบหน้าผากตัวเอง
ก่อนจะขยี้หัวสีน้ำตาลของเพื่อนสนิทอย่างเอ็นดู
[ก็ถ้านายสนิทกับคริสต้า
แล้วทำเหมือนสนใจ บวกความใส่ใจอีกสักนิด คุณรีไวก็จะได้หึงนายไงล่ะ]
เอเลนมองเพื่อนสนิทหัวหมอกับนางฟ้าของห้องที่นั่งริมหน้าต่างไปมา
จะว่าไปเขาก็เพิ่งเคยเห็นคนชื่อคริสต้า เต็มๆตาเป็นครั้งแรก
เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมแต่ละคนถึงได้ยกให้เป็นแองเจิ้ล ประจำห้อง
ทั้งใบหน้าอ่อนหวาน ตากลมโต รูปร่างเล็กที่น่าถนอม แล้วไหนจะกริยาที่ดูอ่อนช้อย
ช่างแตกต่างจากมิคาสะ ที่เขารู้สึกว่าเข้าใกล้คำว่าเครื่องจักรสังหาร
มากกว่าแองเจิ้ล
[ปกติผลการเรียนฉันดีกว่านาย
แต่รอบนี้นับว่าความคิดนายเข้าท่า] เมื่อพิจารณาดูองค์ประกอบรวมทั้งหมดแล้ว
น่าจะไปได้สวยก็ได้ เขาไม่เคยสนิทกับผู้หญิงคนไหนรุ่นเดียวกันมาก่อน นอกจากมิคาสะที่เขาไม่นับว่าเป็นผู้หญิงเท่าไร
แบบนี้ถ้าคุณรีไวสนใจเขาบ้าง มันจะต้องได้ผลแน่ๆ
“สรุปว่านายจะยอมเล่นไหมเอเลน
ฉันให้โอกาสนายเลือกแล้วกันถือเป็นกรณีพิเศษ”
หัวหน้าห้องถอนหายใจพลางเตรียมการโหวตใหม่
“ถ้าทำแบบนั้นการโหวตนี้ก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์สิ
เพื่อทุกคนฉันยอมเสียสละก็ได้”
ใบหน้าคนเสียสละแฝงประกายตาแวววับ จนไม่อาจปักใจเชื่อคำพูด
แต่ถึงกระนั้นเพราะไม่อยากเสียเวลา
ทั้งห้องจึงสรุปและแบ่งงานกันตามหน้าที่เพื่อจะได้รีบดำเนินการให้ทันตามงานโรงเรียนที่กำลังใกล้เข้ามา
“อุ๊ย พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่เหรอจ้ะ?” เพทร่ายกของว่างและเครื่องดื่มมาให้กับเด็กวัยรุ่นทั้งสามในห้องประชุม
ที่เจ้าตัวขออนุญาตใช้งาน
“กำลังซ็อมละครครับพี่เพทร่า”
แจนอธิบายพลางคว้าคุกกี้ในจานไปกินทันทีที่หญิงสาววางลงบนโต๊ะกลางห้องประชุม
“งานโรงเรียนสินะ คิดถึงจังเลยยย!!” ฮันซี่ที่หอบแบบพิมพ์เขียวทันทีที่ได้ยินว่ากลุ่มวัยรุ่นทั้งสามกำลังทำอะไรบางอย่างก็สนใจจนหันเลี้ยวจากห้องถ่ายเอกสารตรงมายังฝั่งห้องประชุมที่อยู่ติดกัน
“นี่ดูเหมือนจะเป็นบทละครสินะ
คิดถึงบรรยากาศแบบนี้ชะมัด” ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต
คนอย่างฮันซี่ก็คว้าบทที่อยู่ในมือของเอเลนไปอ่านก่อนจะกองแบบพิมพ์อย่างไม่ใส่ใจ
“นี่มันเดจาวูชัดๆ!! ฮ่า ฮ่า” ฮันซี่หัวเราะจนตัวโยน
เพียงแค่อ่านบทที่ขโมยมาจากมือของเด็กหนุ่ม
ผลั๊วะ!!
เสียงของแฟ้มเอกสารเล่มหนากระแทกกับผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงของฉันซ่ก่อนจะร่วงลงไปที่พื้น
พร้อมกับเสียงหัวเราะที่เงียบลง
“เสียงหัวเราะเธอจะทำตึกพังได้แล้วยัยสี่ตา”
รีไวเก็บแฟ้มเอกสารที่ตนเป็นคนขว้างมา
โดยไม่สนใจอีกร่างที่ขมำลงไปนอนกองกับพื้นพรมของห้องประชุมเช่นกัน
“โฮ่ย รีไว นายดูนี่สิ คิดถึงชะมัด”
ฮันซี่ผู้ไม่สะทกสะท้านกับการโดนทำร้าย ยื่นบทในมือให้กับอีกฝ่าย
“จูเลียต... มิคาสะ...
ฉันว่าเธอเปลี่ยนไปเป็นราพันเซล
ที่ถล่มหอคอยออกมาเองแล้วจับแม่มดไปเสียบประจานน่าจะเข้ากว่านะ
ขอออกความเห็นในฐานะผู้ปกครองน่ะนะ”
คนที่อ้างตัวเป็นผู้ปกครองส่งสายตาจริงจังสบกับสายตาเกรี้ยวกราดที่มีรังสีเข่นฆ่าปะทุอยู่ภายใน
“อ... เออ บทนั้น
ของผมต่างหากฮะคุณรีไว” เอเลนรีบออกตัวกั้นกลางทันที
ก่อนที่จะได้เห็นห้องประชุมเป็นซาก
ตั้งแต่เด็กเขาก็คิดว่าสองคนนี้ชอบทะเลาะแหย่กันอย่างรุนแรว
จนตอนนี้รู้สึกอาหลานแท้ๆคู่นี้จะหยอกล้อกันแรงขึ้นเรื่อยๆ
จนเขาเริ่มแยกไม่ออกว่าตกลงแค่หยอกกัน หรือตีกันจริงกันแน่?
“ของนายงั้นเหรอ?” รีไวมองบทในมือสลับกับเด็กหนุ่มไปมา
“ถ้าแบบนั้นฉันว่าก็เหมาะสมดี”
ทั้งที่เขารู้สึกไม่ดีที่ต้องมาแต่งเป็นผู้หญิงแม้จะเป็นการแสดง
แต่พอเป็นคุณรีไวบอกว่า เหมาะ แค่นั้น ความรู้สึกไม่ดีก็พลันหายวับไป
“ผ.. ผมจะพยายาม ครับ”
ใบหน้ามนยิ้มปริ่มพลางเกาแก้มตนเอแก้เขิน
“ว่าแต่นายเห็นแล้วไม่นึกถึงอะไรบ้างเหรอไง?”
ฮันซี่ยิ้มกริ่มพลางหัวเราะในลำคออย่างยียวน
คนที่ถูกกล่าวถึงนิ่งไปชั่วครู่
ก่อนนัยน์ตาคมดุจะฉายวาบอย่างตกตะลึงเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก
“นึกออกแล้วสินะ...หน้าแบบนั้น”
รอยยิ้มราวได้รับชัยชนะฉายชัดบนใบหน้าของหญิงสาวสวมแว่นตา ก่อนเสียงหัวเราะจะดังออกมาอีกระลอก
จนทำให้เหล่าคนอื่นๆที่อยู่ในห้องต่างมองตาปริบๆ
“ถึงบอกว่าเดจาวูไง
เพราะบทจูเลียตนี่ รีไวก็เคยแสดงมาก่อนยังไงล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ทันที่ที่ได้ยินว่าคนอย่างคุณรีไวเคยแสดงมาก่อน
เพทร่า แจน เอเลน และมิคาสะต่างหันหน้าไปมองชายหนุ่มตาค้าง
“อ...เออ หมายถึง... บท โรมิโอ?”
แจนเอ่ยถามเพื่อคลายสงสัย
“โน โน จูเลียตเลยต่างหาก”
ฮันซ่ตอบอย่างมั่นใจ และเมื่ออีกฝ่ายไม่มีการปฎิเสธแล้วได้แต่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ
ยิ่งทำให้มั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องโกหก!!
“...ด เดี๋ยวนะครับ
แล้วทำไมถึง...?” แจนผู้กล้าเสี่ยงตายยังคงเป็นฝ่ายถามข้อสงสัย
“ก็หมอนั่นเป็นโรงเรียนชายล้วน
เลยโดนเลือกเพราะส่วนสูงยังไงล่ะ
ส่วนฉันที่เป็นโรงเรียนหญิงล้วนในเครือที่จัดงานร่วมกันก็เลยได้ไปดูไงล่ะ
คำว่าวินาศยังน้อยไปสำหรับงานครั้งนั้น ฮ่า ฮ่า”
อีกคนผู้ไม่กลัวตายก็ยังคงเล่าถึงเรื่องเก่าที่เหมือนจะถูกเก็บเกรุอย่างสนุกปาก
โป๊ก!!
คราวนี้ไม่ใช้สันแฟ้ม
แต่เป็นมือของรีไวที่กดหัวคนช่างจ้อลงกับพื้นห้องประชุมอย่างไม่ทันตั้งตัว
“หยุดพล่ามได้แล้วยัยวิปริต”
รีไวเหยียดมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอาฆาต
แต่ถึงกระนั่นคนอย่างฮันซ่ก็หาได้สนใจรังสีกดดันที่โดนส่งมา
“หลังจากนั้นหมอนี้เลยฝึกร่างกายอย่างหนัก
เพื่อไม่ยอมให้ใครเอาบทแบบนั้นให้เล่นได้ล่ะนะ
แต่ถึงงั้นก็เหอะบทที่หมอนี้เล่นก็ไม่ใช่โรมิโอ กับ
จูเลียตแบบฉบับเดิมแท้ๆสักหน่อย แต่เป็นจูเลียตที่ไล่ล่าตระกูลมอนตาคิว
แล้วลากโรมิโอไปเป็นสัตว์เลี้ยง จนทั้งสองตระกูลต้องผนึกกำลังกันปราบจูเลียตน่ะ
และแน่นอนว่าฉันเขียนบท เลยได้รู้จักกับหมอนี่ก็ตอนนั้น”
เรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินทำเอาแต่ละคนออกอาการแตกต่างกัน
แจนและเอเลนต่างยังคงมองค้าง
เพทร่าและมิคาสะต่างหันหลังไปกลั้นหัวเราะเมื่อนึกสภาพของคนอย่างคุณรีไว
ในชุดจูเลียต แม้จะเป็นจูเลียตกระหายเลือดก็เถอะ!!
“แต่ของพวกเธอเป็นตามฉบับออริจินัลสินะ
ไหนขอดูหน่อย ...เอเลนเป็น จูเลียต คาปุเล็ต
มิคาสะ เป็นธีบอลล์ ลูกพี่ลูกน้องของจูเลียต ส่วนแจน....
เหมาะกับนายไม่เบา... แม่นม ของจูเลียต ฮ่า ฮ่า”
ฮันซี่ตบลงบนไหล่ของแจนดังลั่นอย่างสะใจ แต่ละคนได้รับบทที่ถูกใจเธอชะมัด
“ช่วยไม่ได้นี่ครับ
พวกนั้นอยากให้งานมันน่าสนใจจึงสลับเพศกันทั้งห้อง”
นอกจากตัวละครหลักที่ใช้ผลโหวตแล้ว พวกตัวประกอบเด่นก็ใช้วิธีจับฉลาก
ใครจะไปคิดว่าเจะจับได้เป็นแม่นม
นี่สินะที่เขาเรียกว่าสายสัมพันธ์ของเพื่อนที่ตัดกันไม่ขาด... ให้ตายสิ เขาอยากตัดมันตอนนี้เลยชะมัด!!
“ถ้ามิคาสะไม่ได้รับบทโรมิโอ
แล้วใครกันล่ะที่ได้บทนี้ไป?” รีไวถามอย่างแปลกใจ ตามนิสัยเจ้าหลานจอมอวดดี น่าจะไม่ยอมปล่อยบทนี้ไปโดยง่ายแน่
“อ๋อ เป็นคริสต้า
นางฟ้าและดาวเด่นประจำห้องของเราน่ะครับ ทั้งสวย น่ารัก แล้วก็นิสัยดีเพื่อนๆ เลยต่างเทคะแนนโหวตให้กันถล่มทลาย”
แจนชี้แจงพลางตบลงไปบ่าของคนมนุษย์สัมพันธ์กับคนในห้องไม่ดีอย่างมิคาสะ
จนทำให้ไม่มีคะแนนโหวตในบทนำ
แต่นับเป็นโชคดีที่อย่างน้อยเจ้าตัวก็จับฉลากได้บทลูกพี่ลูกน้องของเอเลน
“ไว้คราวหน้าจะพามาให้รู้จักนะฮะ
เพราะต้องแสดงร่วมกันจึงต้องสนิทกันไว้ก่อน อาจต้องมารบกวนทีนี้ด้วยบางครั้ง”
ถ้าทำให้เจอหน้ากันได้ บางทีเขาอาจดึงดูดความสนใจจากคุณรีไวมากขึ้นก็ได้
“ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็แจ้งล่วงหน้าแล้วกันเอเลน
เท่ากับว่าช่วงนี้พวกนายต้องกลับบ้านเย็นสินะ?”
รีไวนึกถึงตารางงานบ้านที่เขาจัดเตรียมไว้ในแต่ละเดือน
ดูเหมือจะต้องขยับตารางพวกนั้นเพื่อให้เจ้าเด็กในความดูแลของเขาทั้งสองคนร่วมกิจกรรมโรงเรียนได้อย่างเต็มที่
“ใช่ฮะ
แต่ผมจะพยายามไม่ให้เสียเวลาจากเดิมมาก คุณรีไวไม่ต้องห่วงหรอกครับ”
มือหยาบของคนอายุมากกว่าตบลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มเบาๆ
พลางถอนหายใจ
“อย่าฝืนมากไปนักเอเลน
ถ้านายหักโหมจะป่วยเอาได้ ไว้ช่วงใกล้วันงานโรงเรียนแล้วนายแค่ให้อาหารเจ้าเยเกอร์น้องชายนายก็พอ
เรื่องอาหารเย็นฉันจะจัดการเองไม่ต้องห่วง”
“แบบนี้พวกเธอก็ต้องเตรียมชุดและเครื่องประดับสินะจ้ะ
ถ้ายังไงเรื่องนั้นให้ฉันช่วยไหม? จะได้ประหยัดกันด้วย”
เพทร่าที่ได้รับรุ้เรื่องทั้งหมดช่วยเสนอ
“แต่แบบนั้นจะเป็นการรบกวนคุณเพทร่ารึเปล่าคะ?”
เพราะแต่เดิมงานโรงเรียนเป็นเรื่องของพวกเธอ
และก็มีงบสำหรับเรื่องนี้ไว้จำนวนหนึ่งอยุ๋แล้ว
มิคาสะจึงไม่อยากรบกวนเหล่าผู้ใหญ่ตรงหน้า
“ที่จริงฉันเป็นพวกชอบซื้อเครื่องประดับสวยๆและน่ารักๆสะสมไว้เยอะแยะเลย
แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้สักที ถ้าเป็นประโยชน์กับพวกเธอได้ฉันก็จะดีใจมากๆเลยล่ะ”
เพทร่าเริ่มคิดถึงคอลเลคชั่นเครื่องประดับต่างๆที่เธอชอบซ้อสะสมเป็นประจำ
เธออยากให้เหล่าลูกรักของเธอได้ออกมาใช้งานและโชว์ให้คนอื่นเห็นบ้าง ดีกว่าเก็บไว้ในลิ้นชักหรือกล่องเก็บของ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยินดีที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มใจ
ทั้งสามคนจึงไม่คิดจะขัดความปรารถนาดี
ใบหน้ากลมมนมองชายหนุ่มที่ยังคงเปิดอ่านบทของเขาในมือ
เอาล่ะถึงแม้จะดูเจ้าเล่ห์และลากคนไม่เกี่ยวข้องเข้ามายุ่งด้วย
แต่เขาก็ขอให้แผนนี้ทำให้คนตรงหน้าสั่นไหวได้บ้าง.......เถอะนะ...
TBC.
........................................................................................................
Talk: ช่วงนี้คนเขียนชีพจรลงเท้าตลอดเลยค่ะ(เอาจริงๆก็เป็นพวกเดินทางตลอด) แต่ทุกครั้งก็ยังนึกถึงนิยายของจตัวเองและนักอ่านทุกท่านนะคะ ^ ^"" จากตรงนี้จะเพิ่มตัวละครที่มีบทบาทเข้ามา(มั่ง) น้องนู๋คริสต้า ของเรา อย่างที่บอกค่ะเรื่องนี้มันยากตรง ทำยังไงให้สองคนนี้ใจตรงกัน โดยข้ามควาามสัมพันธ์อาหลานไปได้ ยากมากๆค่ะ ซึ่งเราก็พยายามจะเคลียตรงนี้ให้ได้ โดยไม่อยากให้รู็สึกก้าวกระโดดมากไป
สำหรับความมาม่าของเรื่องนี้ ของอุบไว้ก่อนค่ะ (ที่จริงตัวคนเขียนยังไม่รู้จะมาม่าไหมเลยค่ะ ฮาๆ) อันนี้ขออุบไว้สักนิดนะคะ ขึ้นอยู่กับจะมีอะไรมากระแทกใจจนเปลี่ยนพล็อตที่ลงไว้รึเปล่าค่ะ แต่มันจะมีช่วงของมาม่าอยู่ค่ะ ต่างจากล่ารักฯ ที่บอกเลยว่าไม่มี ถึงมีมาม่าก็ยังต้มไม่สุก เพราะเรื่องนั้นเน้นแบบไม่คิดไรมากค่ะ อ่านขำๆดูคนแก่ไล่จีบเด็กไปค่ะ
แต่เรื่องนี้จะทำยังไงให้คนแก่เรามองเด็กไม่เป็นเด็ฏ นี่บอกตามตรงยากมากค่ะ ที่ตอนนี้เขียนไว้ก็ยังไม่ถูกใจเท่าไร ยังกังวลในเรื่องของความสัมพันธ์ที่อาจดูฉาบฉวยไป ซึ่งเราจะชอบให้มันดูแน่นและมีที่มาที่ไปมากกว่าค่ะ เพราะงั้นถ้ามีความเอื่อนเชื่อยต้องขออภัยด้วยนะคะ(ที่จริงมันช้าเพราะไอคนเขียนไม่ว่างเขียนนี่แหละค่ะTTATT)
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ และตกใจกับตัวเองมากที่ไปมา ก็เขียนฟิคมาถึง 5 ปีแล้ว... เพราะเรื่องไททันจริงๆค่ะที่ทำให้ได้ลองอะไรใหม่ๆ จนตอนนี้ถอนตัวไม่ได้แล้ว ตามมาจน Season 3 ฉากต่อสู้อลังมากกก จนบรรยายาไม่ถูกเลยค่ะ เฮียของเราหล่อมาก และเอเลนสาวขึ้นทุกวัน แม้ในมังงะหลังๆจะสูงขึ้นอีกก็เถอะ....แต่ในความสูงมาพร้อมกับความสาวและสวยจริงๆค่ะ ส่วนมิคาสะก็หล่อขึ้นทุกตอนเลยค่ะ ฮาๆ
เอาเป็นว่าถ้าคนอ่านยังไม่ทิ้งกัน เรายังคงเขียนต่อไปค่ะ รักนักอ่านทุกท่านเช่นเดิมค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น