วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

Fic. Attack On Titan (Levi x Eren): Last Memory Chapter 20

Fic. Attack On Titan (Levi x Eren): Last Memory
Chapter 20
 
เอเลนนอนกลิ้งไปมาอย่างสบายอารมณ์บนเตียงนอนสีขาวของตน ใบหน้ามนซุกลงกับหมอนหนุนใบใหญ่ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขดังเล็ดรอดออกมาเป็นระยะ จนคนในบ้านต่างมองหน้ากันไปมากับอาการแปลกๆของลูกชายตระกูลเยเกอร์ ถึงกระนั้นคราร่าและคริชาต่างได้แต่มองหน้ากันแล้วแอบยิ้มขำ ถึงไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มจะเจอกับอะไรมาแต่ที่รู้แน่นอนเลยก็คือ เอเลน เยเกอร์ กำลังมีความสุขอย่างมาก
ขอขอบคุณในความมุทะลุและความบ้าของตนเอง รวมถึงความร่วมมือจากเหล่าบรรดาเพื่อนๆทุกคนทำให้ตอนนี้ตัวเขาก็ได้สมหวังกับความปรารถนาของหัวใจ เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลกลิ้งไปมา ใบหน้ามนขึ้นสีระเรื่อกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน หัวใจยังเต้นโครมครามไม่หยุด ริมฝีปากบางยกยิ้มอย่างไม่อาจหุบลงได้ แทบอยากที่จะตะโกนออกไปถึงความสุขสมหวังในอกที่กำลังครุกรุ่น เอเลนซุกหน้าลงกับหมอหนุนใบใหญ่ มือเรียวจิกลงบนหมอนหนุนหวังจะระบายความปลิ้มปริ่มที่จุกขึ้นมาถึงคอ
คุณรีไว คุณรีไว หัวหน้ารีไว!!! ในที่สุดผมกับคุณก็ได้คบกันอย่างเป็นทางการเสียที มือเรียวจิกหมอนแน่นขึ้นกว่าเดิม เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ใบหน้าเย็นชานั้นยกยิ้มแล้วตอบตกลง ความรู้สึกที่ราวกับติดปีกนี้ถ้าไม่ใช่เพราะ คุณรีไว คงไม่มีใครที่จะสามารถทำให้หัวใจพองโตและมอบความรู้สึกที่ราวกับจะโบยบินได้ขนาดนี้
มือเรียวขึ้นแตะบนแก้มซ้ายเนียนของตน สัมผัสอุ่นของริมฝีปากที่ชายหนุ่มประทับไว้ก่อนจากไปยังคงหลงเหลือ ความรู้สึกตื่นเต้นและอบอุ่นฉาบไปทั่วทั้งหัวใจที่กำลังสั่นระรัวราวกับกลอง นัยน์ตาสีมรกตเหลือมองนาฬิกาติดพนังของตน ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว เอเลนหยิบโทรศํพท์มือถือของตนขึ้นมา นัยน์ตาสีมรกตมองชื่อของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกตื่นเต้นด้วยสถานะที่เปลี่ยนไปจากเดิม
ตอนนี้คุณรีไวกำลังทำอะไรอยู่นะ? จะถึงคอนโดแล้วหรือยัง? จะกำลังอาบน้ำหรือว่ารกน้ำเจ้าดอกไม้ที่ริมระเบียงอยู่กันแน่นะ?
ระหว่างที่กำลังคิดถึงชายหนุ่ม เสียงโทรศัพท์ของเจ้าตัวก็ดังขึ้น เมื่อมองชื่อคนที่โทรเข้ามาอกซายยิ่งเต้นระรัว ร่างโปร่งบางจึงลุกนั่งคุกเข่าบนเตียงอย่างอัตโนมัติด้วยความตกใจก่อนจะกดรับสายด้วยหัวใจที่เต้มไม่เป็นจังหวะ เสียงหวานเอ่ยทักทายอย่างตะกุกตะกักด้วยความประหม่าเมื่อคนที่กำลังคิดถึงโทรเข้ามา
….สวัสดีครับ เผลอนั่งตัวเกร็งโดยที่มืออีกข้างกุมแน่นวางบนหน้าตัก
นายกำลังทำอะไรอยู่ไอหนู?
กำลังเตรียมจะเข้านอนครับ จะบอกว่ากำลังคิดถึงคนที่โทรมาอยู่ตอนนี้เกรงว่าหัวใจที่เต้นโครมครามนี้จะดังจนปลายสายจะได้ยิน  เออแล้วคุณรีไวทำอะไรอยู่งั้นเหรอครับ?
‘….ฉัน กำลังคิดถึงนาย
มือเรียวยกขึ้นมาปิดปากของตนเอง ใบหน้าหวานขึ้นสีและร้อนจนแทบลุกเป็นไฟ ริมฝีปากยกยิ้มอย่างไม่อาจห้าม ทั้งความเขินอายระคนดีใจทำให้ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกราวกับว่าร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆด้วยความขวยเขิน
ไม่คิดว่าเขาและชายหนุ่มจะมีความคิดเดียวกัน ร่างกายบางรู้สึกสั่นเทิ้มไปด้วยอารมณ์ความสุขที่กำลังพลุ่งพล่าน
ผม…..ก็เหมือนกัน ไม่รู้ว่าตอนนี้ปลายสายเป็นอย่างไรแต่คิดว่าคงเขินไม่แพ้กัน เลยทำให้เสียงสนทนาเงียบขาดตอนไป จนกระทั่งอีกคนกระแอมไอขึ้นมาราวกับจะกลบเกลื่อนความอายของตน
พรุ่งนี้ฉันมีงานด่วนอาจทำให้เลิกดึกคงไม่ได้ไปรับนายที่ร้านเพทร่า
งั้นเหรอครับ เอเลนถอนหายใจอย่างเสียดาย
ถ้านายว่างจะมาช่วยเตรียมมื้อเย็นให้ฉันที่คอนโดได้รึเปล่า?
….ยินดีครับ คุณรีไว!” เอเลนฉีกยิ้มกว้างให้กับปลายสาย แม้เวลาของเขาและชายหนุ่มจะไม่ตรงกัน ถึงกระนั้นคุณรีไวเองก็ยังอยากที่จะหาเวลาอยู่กับเขาเช่นกัน คุณรีไวอยากทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ?
แล้วแต่นายเลยละกัน
แต่ผมทำอาหารไม่เก่งเท่าคุณรีไว ถ้าคุณเสนอมาผมจะได้เตรียมตัวไว้ก่อน ยังจำรสชาตของมื้อเช้าที่ชายหนุ่มเตรียมให้ตอนไปค้างได้อย่างดี รสชาตที่ราวกับพ่อครัวฝีมือดีลงมือทำเองจนเขารู้สึกอับอายกับข้าวห่อไข่ของตนที่ทำไป
ฉันเคยบอกแล้วไงเจ้าหนู ว่ามันอยู่ที่นายทำให้ใคร
อืม ถ้างั้นแสดงว่าเพราะเป็นผมทำด้วยรึเปล่าน๊า? ถามอย่างเหย้าแหย่อีกฝ่าย
ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น คำตอบของคนถูกเย้าแหย่ทำให้คนถามหัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ และดูเหมือนปลายสายเองก็เพิ่งจะรู้สึกตัวกับการถูกหลอกให้ตอบ อย่าได้ใจไปนักไอหนู
ฮ่า ฮ่า ครับ ครับ ถ้างั้นผมจะทำข้าวห่อไข่อีกดีไหมครับ? เพราะเป็นเมนูแรกที่ได้ทำให้ชายหนุ่มทาน และยังเป็นเมนูที่ทำให้ได้จูบแรกอย่างไม่ทันตั้งตัว แค่คิดก็รู้สึกอายแต่เพราะเป็นเมนูที่น่าจดจำเลยอยากทำให้ชายหนุ่มทานอีกครั้ง
ตามใจนายเลยเอเลน ตอนเช้าฉันจะเอากุญแจไปให้นายตอนไปส่งที่มหาลัยละกัน
ผมจะรอนะครับคุณรีไว
อืม นี่ก็ดึกแล้วนายก็รีบนอนซะไอหนู แล้วพรุ่งนี้เช้าเจอกัน
เจอกันพรุ่งนี้ครับคุณรีไว แม้จะยังไม่อยากวางสายโทรศัพท์แต่เมื่อมองเวลาที่ล่วงเลยถึงเที่ยงคืน จึงจำเป็นต้องวางสายเพื่อเข้านอนได้เสียที เออคุณรีไวครับ
ว่าไงเอเลน?
ฝันดีนะครับ
ฝันดีเจ้าหนู

มือแกร่งกดวางสายโทรศัพท์ ใบหน้านิ่งเฉยชาผุดรอยยิ้มบางอย่างหาดูได้ยาก ไม่คิดว่าคำพูดธรรมดาที่เคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งจะทำให้รู้สึกดีและอิ่มเอมได้ขนาดนี้ เพียงเพราะว่าคนที่พูดคือเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มคนนั้น
รีไวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงขนาดใหญ่ของตน ความรู้สึกที่ไม่เคยพบเจอเริ่มค่อยๆก่อตัวขึ้นเพียงเพราะได้เจอและใกล้ชิดเด็กหนุ่ม และความรู้สึกเหล่านั้นกำลังขยายอิทธิพลต่อตัวเขาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร ตัวเขาที่ผ่านผู้หญิงมามากมาย มีแฟนมาแล้วมานับไม่ถ้วนแต่กลับรู้สึกเหมือนเริ่มคบใครเป็นครั้งแรก อาจเพราะไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อน และไม่เคยรู้สึกผูกพันธ์ ถ้าจะพูดให้ถูกเขาจำหน้าบรรดาเหล่าผู้หญิงที่เคยคบกันมาไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ไม่คิดเลยว่าตัวเขาที่เป็นแบบนั้นและไม่เคยรูกสึกอะไรกับสิ่งที่เรียกว่าความรักจะมาพ่ายให้กับเด็กหนุ่มที่อายุห่างกันมากขนาดนี้
แต่แบบนี้อาจจะดีแล้วก็ได้…..
ความรู้สึกที่ราวกับถูกเติมเต็ม ความรู้สึกที่ราวกับโดนความสุขโอบล้อม ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กหนุ่มที่ชื่อเอเลน คงไม่อาจมีใครทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้อีกแล้ว….
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เอเลนมองกุญแจและคีย์การ์ดที่อยู่ในมือของตนพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว จนแจนที่นั่งอยู่ใกล้ๆถึงกับหมั่นไส้โยนยางลบใส่หัวสีน้ำตาลทุยๆนั่น
“ทำไรของแกวะ?” เอเลนหันมาจ้องเขม็งคนตัวดีที่โยนก้อนยางลบมาโดนหัวเขา
“เห็นแล้วหมั่นไส้ว่ะ ทำยังกับคู่ข้าวใหม่ปลามัน” แจนแลบลิ้นใส่ใบหน้ามนที่มองค้อนมา
“โทษทีนะแจนแต่ตอนนี้คนกำลังมีความรัก นายเองก็ไปอ้อนอาร์มินซะสิพ่อหน้าม้า” เอเลนถอนหายใจพลางโบกมือไล่คู่กัดของตน
มือหนาของเด็กหนุ่มคว้าหยิกเข้าที่แก้มของเจ้าเพื่อนปากดีด้านข้าง “แกนี่มันน่าหมั่นไส้ชะมัด ฉันหลงผิดไปได้ไงวะเนี่ย!
เอเลนเองก็ดึงแก้มของแจนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน “แล้วใครใช้ให้นายมาชอบฉันล่ะ”
“แกนี้มันปากดีชะมัด!
“นายก็เหมือนกันล่ะเว้ย!

“นักศึกษาถ้าไม่ต้องการจะเรียน เชิญออกจากห้องไปด้วย” เสียงดุของอาจารย์สาวพูดผ่านไมค์ทำให้ทั้งห้องเรียนต่างหันมามองเด็กหนุ่มสองคนที่ทะเลาะกันเสียงดังในชั่วโมงเรียนเป็นตาเดียวกัน
เมื่อเด็กหนุ่มทั้งสองรู้ตัวก็ได้แต่ยิ้มเฟื่อนแล้วก้มหัวขอโทษอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้องกับการกระทำที่ลืมตัวของตน ห้องเรียนก็กลับเข้าสู่สภาวะการเรียนการสอนอีกครั้ง
อาร์มิน มิคาสะ ไรเนอร์ รวมทั้งคนอื่นๆในกลุ่มต่างหัวเราะขำขันกับท่าทางที่กลับเป็นปกติของเด็กหนุ่มทั้งสอง ความสัมพันธ์ของเพื่อนที่ไม่สั่นคลอนและยังคงแนบแน่นก้าวต่อไป

หลังจบคาบเรียนช่วงเช้า แจน อาร์มิน มิคาสะ และเอเลน ก็เดินทางไปช่วยงานที่ร้านเพทร่าต่อตามตารางงานที่จัดแบ่งไว้ เนื่องจากตอนนี้ที่ร้านเพทร่าเข้าสู่สภาวะค่อนข้างปกติแล้วจึงทำให้ที่ร้านไม่ได้วุ่นวายมากเท่าช่วงแรกๆที่เหล่าเด็กหนุ่มและเด็กสาวมาทำงาน เพราะเหล่าลูกค้าที่เริ่มถอดใจอีกทั้งเกรงต่อแรงกดดันของมิคาสะเมื่อเห็นว่ามีคนมาวุ่นวายและรุ่มร่ามกับเหล่าเพื่อนๆของเธอ ไม่ต้องพูดถึงอีกกลุ่ม ยูมิลและแอนนี่ต่างจัดการเหล่าคนน่ารำคาญที่วุ่นวายได้เป็นอย่างดี จึงทำให้เหล่าลูกค้าที่มีเจตนาแฝงเริ่มถอดใจและค่อยๆหายไป แต่ถึงกระนั้นลูกค้าของร้านเพทร่าก็ยังคงมีมาก เพราะหลายคนคิดว่า ถึงแม้ไม่ได้มาอยู่เคียงข้างแต่ขอแค่ได้มาดูเป็นอาหารตาก็ยังดี อีกทั้งเหล่าพนักงานในร้านยังหน้าตาดีควรค่าแก่การเข้ามาใช้เวลาเป็นอย่างมาก

“อารมณ์ดีเชียวนะหนุ่มน้อย” เพทราหยอกล้อกับท่าทียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่กำลังถูพื้นทำความสะอาดร้าน จากที่ทั้งเธอและคนอื่นๆพยายามคอยเชียร์และร่วมมือต่างๆจนสำเร็จ พอเห็นใบหน้าที่มีความสุขของเด็กหนุ่มแล้ว เพทราเองก็รู้สึกปลาบปลื้มตามเช่นกัน
“แหะ แหะ ก็นิดหน่อยครับพี่เพทร่า” เอเลนหันมายิ้มระรื่นราวกับมีฉากดอกไม้บานสะพรั่งอยู่เบื้องหลังทั้งที่ตอนนี้กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว แต่บรรยากาศรอบๆตัวเด็กหนุ่มช่างดูราวกับฤดูใบไม้ผลิ
“ฉันชักเริ่มอิจฉาหัวหน้าซะแล้วสิ” เมื่อนึกถึงคนเฉยชาไม่เอาโลกอย่างหัวหน้ารีไวของเธอ กับเด็กหนุ่มน่ารักสดใสอย่างเอเลน ทั้งที่ดูเป็นเส้นขนานที่ไม่น่าบรรจบกัน แต่กลับรู้สึกเข้ากันอย่างลงตัว
“พี่ออลโอเองเขาก็เอาใจใส่พี่เพทร่ามากเลยนะครับ” ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบันก็เห็นได้ว่าออลโอคอยห่วงใยและเอาใจใส่หญิงสาว แม้หลายครั้งจะดูน่ารำคาญไปบ้าง แต่นั่นก็เพราะว่าเพทร่าคือคนที่สำคัญสำหรับชายหนุ่ม
“นั้นน่ะสินะ”  เพทร่ายิ้มขำ “วันนี้ไปตลาดทำอาหารเอาใจหมอนั่นบ้างดีกว่า” หญิงสาวยืดแขนทั้งสองขึ้นเตรียมเดินกลับเข้าไปจัดการเก็บของต่างๆในครัว
“พี่เพทร่าไว้สอนผมทำอาหารบ้างสิฮะ” ถ้าได้พี่เพทร่าซึ่งเป็นเจ้าของร้านทั้งยังทำอาหารเก่งช่วยสอนอย่างน้อยเขาก็คงพอมั่นใจฝีมือในการทำอาหารของตนขึ้นมาได้บ้าง
หญิงสาวหันมามองเด็กหนุ่มพลางยิ้มยียวน “อะไรกันคบกันได้ไม่ถึงวันดีก็เตรียมตัวจะเป็นเจ้าสาวแล้วเหรอจ๊ะเอเลน?”
ไม่ใช่นะครับ!  ผมเป็นผู้ชายนะครับพี่เพทร่า”
เอเลนใบหน้าแดงแปร๊ดจากคำพูดหยอกล้อของเพทร่า สองมือที่กำไม้ถูพื้นกำแน่นกว่าเก่าแล้วออกแรงถูพื้นไปมา จนเพทร่าชักเริ่มรู้สึกสงสารไม้ถูพื้นของตัวเองที่อาจรับแรงเขินของเด็กหนุ่มไม่ไหวจนหักได้
“เอาสิ วันนี้ที่ท่าเรือใกล้ๆจะมีเรือเข้ามาน่าจะมีวัตถุดิบน่าสนใจเยอะแยะเลยล่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับ” เอเลนหันไปยิ้มจนแก้มปริให้กับเพทร่า


ช่วงประมาณห้าโมงเย็น เพทร่าและเอเลนต่างพากันไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่ท่าเรือ โดยฝากร้านไว้กับ มิคาสะ แจน และอาร์มิน ให้ช่วยดูแลรวมถึงช่วยปิดร้านเมื่อถึงเวลา เพราะกว่าที่ทั้งสองคนจะกลับไปถึงร้านอีกครั้งอาจเลยเวลาทุ่มครึ่งซึ่งเป็นเวลาปิดร้านปกติไปแล้ว
ท่าเรือขนาดใหญ่ของเมืองกำลังคึกคักไปด้วยเหล่าผู้คนที่เข้ามาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าที่เพิ่งลงจากเรือมาอย่างสดใหม่ โดยเฉพาะพวกปลาและของทะเลอื่นๆที่เหล่านักเดินเรือและพ่อค้าต่างมานำมาลง เหล่าชาวประมงนำถังน้ำแข็งและลังขนาดใหญ่ลงมาจากเรือ เมื่อเปิดถังและลังออกเหล่าปลาสดๆที่ตายังใสแช่เย็นเพื่อรักษาความสดใหม่ถูกนำมาวางเรียงรายเพื่อให้บรรดาลูกค้าเลือกสรร เรือบางลำก็มีสินค้าจำพวกเครื่องเทศและของแปลกจากต่างแดนมาวางเรียงรายขายไม่แพ้กัน ถึงแม้สินค้าบางอย่างจะมีให้เห็นบ้างตามร้านค้าในเมืองหรือเครื่องเทศบางอย่างก็มีการขนส่งทางเครื่องบิน แต่บรรยากาศของการเปิดขายสินค้าที่เพิ่งมาถึงและราคาถูกทำให้เหล่าบรรดาพ่อค้าคนกลางและแม่บ้านเข้ามาจับจ่ายเลือกสรร ราวกับเป็นเทศกาลจับจ่ายเลือกสรรของบรรดาเหล่าแม่บ้านขนาดย่อมเลยทีเดียว
เพทร่าและเอเลนต่างเบียดเสียดเข้าไปกับเหล่าฝูงคนที่กำลังเลือกซื้อปลา เมื่อลังไม้ขนาดใหญ่ถูกเปิดออกปลาสดใหม่แช่แข็งอัดแน่นเต็มนั้นต่างถูกคว้าแย่งจากบรรดาพ่อค้าและแม่บ้านที่ยืมรายล้อมจ่อคิวรอ
“ปลาจากเรือประมงสดมากเลยนะเอเลน แล้วหัวหน้าก็ชอบกินปลาด้วยนะ” เพทร่าตะโกนบอกเด็กหนุ่มที่กำลังพยายามเบียดเสียดเข้าไปยังกระบะปลาเบื้องหน้า
“ถ้าได้ปลาที่นี้ไปคุณรีไวจะต้องดีใจแน่นอนเลยสินะครับ” นัยน์ตาสีเขียวมรกตเป็นประกายวาว จิตวิญญาณแม่บ้านกำลังเข้าสิงร่างโปร่งเพื่อแย่งเลือกซื้อปลาสดๆจากกะบะเบื้องหน้า
“ใช่แล้วล่ะเอเลน ถ้านายได้ปลานี้ไปหัวหน้าต้องดีใจแน่ๆ แล้วค่อยคิดว่าจะเอาไปทำอะไรทีหลัง” เพทร่าพยายามเบียดเสียดเข้าไปให้ถึงกะบะปลาเบื้องหน้า แต่จำนวนคนที่มีมากมายทำให้เธอยังคงเข้าไปไม่ถึงกะบะปลาเสียที
ด้วยความมุ่งมั่นและประกายแม่บ้านแรงกล้าเอเลนค่อยๆดันเบียดตัวเองเข้าไปจนกระทั่งถึงเหล่าปลาตาใสแช่แข็งที่นอนรอให้จับจอง นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองไปมาเพื่อคัดเลือกปลาเบื้องหน้า จากประสบการณ์ที่ทำงานในร้านเพทร่าและบางครั้งเขาได้เข้าไปช่วยในครัว การคัดเลือกปลาจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเด็กหนุ่มที่จิตวิญญาณแม่บ้านกำลังเข้าสิงเต็มที่
เอเลนเลือกปลาตัวใหญ่เนื้อแน่นจากกะบะมาจำนวนหนึ่งโดยเผื่อให้เพทร่านำกลับไปที่บ้านของเธอเองและเผื่อใช้สำหรับในร้าน เมื่อปลาสดตัวใหญ่ถูกใส่ลงในถุงพลาสติกและตักน้ำแข็งเพื่อรักษาความสดก่อนนำไปปรุงถูกยื่นให้กับเด็กหนุ่ม เอเลนหันกลับมาหาหญิงสาวพร้อมชูถุงใส่ปลาให้กับเพทร่าดูผลถึงความสำเร็จในการจับซื้อของสดตรงหน้าได้
เพทร่าชูนิ้วโป้งส่งยิ้มให้กับเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล ความพยายามของเด็กหนุ่มทำให้เธอได้ปลากลับไปปรุงอาหารและได้วัตถุดิบเข้าร้านด้วยเช่นกัน
หลังจากเลือกซื้อปลา เพทร่าก็พาเอเลนเลือกซื้อผัก และวัตถุดิบอื่นๆ เมื่อทั้งสองคนได้ของทุกอย่างจนเป็นที่น่าพอใจก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับไปจัดการปรุงอาหารจากวัตถุดิบที่ได้มา รวมทั้งเพทร่าต้องสอนทำอาหารให้กับเด็กหนุ่มร่างโปร่งอีกด้วย
ทั้งสองพากันเดินลัดไปทางหลังโกดังเพื่อหลีกเลี่ยงเหล่าผู้คนที่ยังคงจับจ่ายซื้อของอย่างหนาแน่น
“ตอนแรกผมว่าจะทำข้าวห่อไข่ แต่ปลาที่ได้มาเอาไปย่างเกลือหรือย่างซีอิ๊วน่าจะดีนะครับ” เอเลนมองถุงเหล่าของที่ซื้อมาอย่างตื่นเต้น
“ปลาสดแบบนี้ทำซาชิมิก็ไม่เลวนะ” เพทร่าช่วยคิดเมนูเสริม
“งั้นต้องมีซุปผักหรือซุปเต้าหู้เสริมสินะ” จะได้ทานง่ายด้วย
“ทำสลัดเพิ่ม จัดเป็นอาหารชุดเลยดีไหม?”
“ก็ดีนะครับได้สารอาหารครบด้วย”

พลั่ก!!
 “ขอโทษครับ! เพราะมัวแต่คิดหาเมนูที่จะไปทำมื้อเย็น เอเลนจึงไม่ทันสังเกตเห็นชายสองคนที่กำลังแบกลังไม้เดินสวนทางกับตน เด็กหนุ่มจึงเผลอเดินชนอย่างแรง
แรงกระแทกที่เกิดขึ้นทำให้ลังไม้ร่วงหล่น เหล่าปลาที่ถูกแช่อยู่ภายในเทกระจาดลงกับพื้น เอเลนและเพทร่าจึงรีบช่วยกันเก็บเหล่าปลาที่เทไหลออกมาเข้าลัง
นัยน์สีน้ำตาลอมส้มของหญิงสาวมองเหล่าปลาที่กำลังเก็บเข้าลังพลางรู้สึกแปลกใจ ปลาที่กำลังเก็บอยู่นั้นแม้จะตัวใหญ่แต่ช่วงท้องกลับรู้สึกว่ามันใหญ่เกินไป สัญชาตญาณและด้วยความเป็นเจ้าหน้าที่เก่าของหน่วยปราบปรามเธอจึงค่อยๆล้วงมือเข้าไปในปากปลาที่เปิดอ้า ถุงพลาสติกที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในถูกดึงออกมา ภายในถุงบรรจุไปด้วยผงสีขาว ลางสังหรณ์บอกเธอทันทีว่าสิ่งที่อยู่ในท้องปลาทั้งหมดนี้คือสารเสพย์ติดที่ลักลอบนำเข้า!
เพทร่าหันไปหาเด็กหนุ่มเพื่อจะบอกเอเลนว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดี ข้อมือบางของหญิงสาวถูกชายหัวโล้นรูปร่างใหญ่คว้าไว้ เพทร่าหันกลับไปสบตากับชายหนุ่มพยายามตีหน้าให้เป็นปกติเพื่อกลบเกลื่อน
“มีอะไรเหรอคะ?” พยายามยิ้มถามอย่างปกติที่สุด
ชายหัวโล้นแสยะยิ้มน่ารังเกียจส่งตอบ “ดูเหมือนว่าพวกเราจะจับสุนัขจมูกไวได้สองตัว”
นัยน์ตาสีน้ำตาลส้มเบิกกว้างด้วยความตกใจ ข้อมือบางพยายามสะบัดมือหยาบของชายตรงหน้าออกแต่ไม่เป็นผล เพทร่าถูกชายร่างใหญ่ล็อคแขนทั้งสองข้าง แผ่นหลังบางถูกดันกดลงกับแผ่นอกหนาของชายหนุ่ม ใบหน้าหวานกัดฟันกรอดสบตามองกับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่น่ารังเกียจ
“พี่เพทร่า!
เสียงเรียกของเด็กหนุ่มทำให้เพทร่าหันไปมอง เอเลนเองก็โดนชายรูปร่างใหญ่ล็อคตัวไว้ไม่ต่างจากตน ในมือของเด็กหนุ่มมีถุงพลาสติกที่บรรจุผงสีขาวไว้ ทำให้เพทร่ารู้ได้ทันทีว่าเอเลนคงเจอของที่ซ่อนไว้ในท้องปลาเช่นเดียวกัน แต่เด็กหนุ่มคงไม่ทันระวังตัวจึงถูกพวกผู้ร้ายนี้จับไว้ได้
“ดูเหมือนพวกเธอจะรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไรสินะ” ชายรูปร่างสูงผมเกรียนที่หน้ามีรอยบากขนาดใหญ่อย่างเห็นได้ชัดเดินออกมาพร้อมกระชากถุงพลาสติกในมือของเด็กหนุ่มยกขึ้นหันไปทางหญิงสาว “ดูเหมือนไม่ตกใจกันเลยสินะพวกเธอน่ะ”
“พวกแกจะทำอะไรกับเรา?” เอเลนคำรามเสียงต่ำถาม
มือหยาบจับคางมนเชิดขึ้น นิ้วมือหนาบีบสันกรามของเด็กหนุ่ม จนเอเลนเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
“นั่นสินะ” ชายหน้าบากที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของเหล่าผู้ลักลอบค้ายายิ้มเหี้ยม จนเด็กหนุ่มรู้สึกขนลุก “ยังไงก็คงปล่อยให้สร้างความเสียหายกับฉันทีหลังไม่ได้ล่ะนะ”
ผ้าผืนยาวถูกคาดปิดปากทั้งสอง เอเลนและเพทร่าถูกมัดข้อมือและข้อเท้าก่อนอุ้มขึ้นพาดบ่าพาเข้าไปในโกดัง
เอเลนพยายามดิ้นไปมาแต่กำลังของแขนชายหนุ่มสูงใหญ่ที่ล็อคตัวเขาไว้ช่างแน่นหนา ทั้งที่พยายามดิ้นจนสุดแรงแต่กลับถูกวงแขนใหญ่นั้นกระชับให้อยู่นิ่งได้อย่างไม่ไหวติง
ประตูบานใหญ่ของโกดังค่อยๆถูกดันปิดลง แสงสว่างภายนอกที่กระทบกับใบหน้าตื่นตระหนกของเด็กหนุ่มค่อยๆบีบแคบลงเรื่อยๆ จนกระทั่งบานประตูหนานั่นถูกปิดลงสนิทพร้อมแสงสุดท้ายของภายนอกที่ได้เห็น

เพทร่าและเอเลนถูกมัดกับคานเสาในโกดัง ความกังวลใจเริ่มเกาะกุมเด็กหนุ่ม คิ้วมนขมวดมุ่นพยายามหาทางหนีไปจากสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น มือเรียวของหญิงสาวแตะลงบนมือของเด็กหนุ่ม ใบหน้ามนหันไปมองเพทร่าที่ถูกมัดอยู่ข้างตน หญิงสาวส่งยิ้มให้กำลังใจ แม้จะอยู่ในสถาณการณ์คับขัน แต่ด้วยความเคยเป็นตำรวจมาก่อนจึงทำให้เพทร่าใจเย็นกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าเอเลน
มือของเพทร่าที่แตะลงมาทำให้เอเลนอุ่นใจขึ้นได้บ้าง อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยู่คนเดียว
ความกังวลใจต้องแล่นเข้ามาอีกครั้งเมื่อหนึ่งในผู้ร้ายดึงตัวเด็กหนุ่มออกไปที่หน้านายใหญ่ของตน มือหยาบหนาลูบไล้ที่ผิวแก้มเนียนใสของเด็กหนุ่มไปมา เอเลนได้แต่เบ้หน้ากับสัมผัสที่น่าสะอิดสะเอียนของชายหนุ่มตรงหน้า
“จะฆ่าทิ้งให้เป็นอาหารพวกปลาฉันก็เสียดายใบหน้าน่ารักๆของแก” ลิ้นสากโลมเลียเข้าที่แก้มใส เอเลนหลับตาพยายามเบือนหน้าหนีจากสัมผัสน่ารังเกียจ มือหยาบจับคางมนให้หันมาสบตาตน
“นายรู้จักเจ้านี้แล้วสินะ” ขวดแก้วบรรจุผงสีขาวแกว่งไปมาตรงหน้าเด็กหนุ่ม “ฉันจะทำให้นายเป็นทาสเจ้านี้จนหนีไปจากฉันไม่ได้ดีไหม?”
นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างตกใจกับสิ่งที่ชายหน้าบากตรงหน้าคิดจะทำกับตน เด็กหนุ่มพยายามดิ้นให้หลุดจากแขนหนาที่พันธนาการตนไว้ ยิ่งดิ้นมากมากเท่าไรแขนหนาที่รัดยิ่งเพิ่มแรงรัดมากขึ้นเท่านั้น
ตึง!!
ด้วยความดื้อดึงของเอเลน ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังจึงจับเด็กหนุ่มร่างโปร่งกดหัวลงกับพื้น แรงกระแทกที่ศรีษะทำให้เอเลนมึนงง แต่นัยน์ตาสีมรกตยังคงจ้องไปยังชายหนุ่มหน้าบากตรงหน้าอย่างขุ่นเคือง
“ดื้อนักนะไอหนู อยากรู้จริงว่าถ้านายเป็นทาสเจ้านี้แล้จะเป็นยังไง” มือหนากระชากผมสีน้ำตาลขึ้นมา เอเลนกัดฟันกรอดจนขึ้นสันกรามที่ไม่อาจโต้ตอบอะไรกับคนน่าขยะแขยงเบื้องหน้าได้
“นายจะต้องดิ้นรน เชื่อฟังคำสั่งฉันเพื่อแลกกับเจ้ายานี้ แม้แต่ฉันบอกให้นายอ้าขาให้กับบรรดาเฒ่าหัวงูจิตวิปริตขนาดไหน นายก็จะยอมทำตามอย่างว่าง่าย ผลสุดท้ายร่างกายของนายก็จะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเจ้านี้ไงล่ะไอหนู”
ร่างโปร่งบางที่พยายามข่มความรู้สึกกลัวเริ่มสั่นเทิ่ม เหงื่อกายเริ่มแตกพลั่กด้วยความหวั่นเกรงคนเบื้องหน้า ใบหน้าเริ่มซีดลง เจ้าหมอนี่คิดจะทำให้เขาเป็นทาสยาเสพย์ติดแล้วนำไปขายอย่างนั้นเหรอ!! มันไม่ตลกเลยนะ!!!
มือหนาน่าแขยงบีบคางมนให้เชิดหน้าสูงขึ้น หลอดแก้วที่บรรจุผงสีขาวเคลื่อนเข้ามาใกล้เด็กหนุ่มเรื่อยๆ
กึง กึง!!
เพทร่าที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามดึงเชือกที่มัดตนไว้อย่างสุดแรงแต่ไม่เป็นผล นัยน์ตาสีน้ำตาลอมส้มมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่อาจช่วยได้ มือเรียวกำแน่นเล็บจิกเข้าเนื้อ ข้อมือเกร็งจนขึ้นห้อเลือด ใบหน้าหวานมองเหล่าอาชญากรเบื้องหน้าอย่างโกรธแค้น นี่เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลยอย่างนั้นเหรอไงกัน!?

พลั่ก!!
ร่างโปร่งบางของหญิงสาวที่ไม่ทันเห็นว่าโผล่มาจากไหนกระโดดถีบหน้าของชายหนุ่มร่างใหญ่หน้าบากอย่างแรง จนชายหน้าบากเซถลาไปด้านข้าน
“นี้พวกนายที่โรงเรียนไม่เคยสอนเหรอไงว่าสารเสพย์ติดเป็นอันตรายร้ายแรงและผิดกฎหมายน่ะ”
“หัวหน้า!! เหล่าบรรดาลูกน้องมองหญิงสาวสวมแว่นตาหนาผมสีน้ำตาลที่กระโดดลงมาจากคานโกดังสลับกับหัวหน้าตนที่เซถลาไปด้านข้างอย่างตกตะลึง
นัยน์ตาสีน้ำตาลขี้เล่นของฮันซี่มองสำรวจไปรอบๆโกดัง คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อเห็นคนสองคนที่คุ้นเคยกันดีในสถาณที่ที่ไม่น่าจะเจอกันได้
“เอ๊ะ เพทร่ากับเอเลนพวกนายไม่ได้อยู่ในแผนการครั้งนี้นี่นา?”
“อื้อ! เอเลนที่ถูกปิดปากไว้ตะโกนร้องเตือนฮันซี่เมื่อเห็นว่าชายคนหนึ่งกำลังถือท่อเหล็กวิ่งตรงมาทางเธอ
“เธอเองก็อย่าทำเป็นเล่นฮันซี่” ชายหนุ่มไว้หนวดรูปร่างสูงใหญ่ล็อคคอผู้ร้ายที่ถือท่อเหล็กก่อนจะฟาดลงบนหลังของหญิงสาวที่มักชอบทำตัวเล่นสนุกตรงหน้า
“โทษทีมิเกะ ฉันแค่แปลกใจที่เจอพวกนี้ที่นี่น่ะ” ฮันซี่กล่าวขอโทษพลางก้มลงไปแก้เชือกมัดให้กับเด็กหนุ่ม
“แค่ก แค่ก คุณฮันซี่มาได้ไงครับเนี่ย?” เอเลนรู้สึกดีใจอย่างมากเมื่อเห็นเหล่าคนตรงหน้า
“จากบนนั้นน่ะ” ฮันซี่ชี้ขึ้นไปบนหลังคาที่มีกระจกเปิดทิ้งไว้และเชือกที่เธอใช้โหนตัวลงมา “หมอนั่นเองก็อยู่ที่นี้นะ”
ปัง!
กระสุนปืนเฉียดผ่านไหล่ของฮันซี่ไปโดนข้อมือของชายหนุ่มหัวโล้นที่ถือปืนอยู่เบื้องหลัง วิถีกระสุนที่แม่นราวกับจับวางขนาดนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครยิง
“รีไวนายตั้งใจจะยิงฉันไปด้วยเหรอไง!” ถึงจะรู้ว่าคนยิงมีฝีมือขนาดไหนแต่แบบนี้ก็อันตรายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไง ฮันซี่จึงมองค้อนไปยังต้นทางของวิถีกระสุน
“เธอผิดเองที่ไม่ระวังตัวยัยสี่ตา” ชายหนุ่มร่างเล็กแต่แข็งแกร่งกระโดดลงจากขื่อโกดัง พร้อมทั้งลั่นไกยิงกระสุนไปยังข้อมือของเหล่าคนร้ายที่เริ่มหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้
“ฉันอุตส่าห์ช่วยเด็กนายไว้นะ!” ฮันซี่ผลักเอเลนไปทางรีไวหลบกระสุนของหนึ่งในคนร้ายที่ยิงสวนมาก่อนจะหาที่หลบหลังลังไม้ใบใหญ่แล้วยิงสวนกลับไปบ้าง
“นายปลอดภัยใช่ไหมเอเลน?” แขนแกร่งรับตัวเด็กหนุ่มแล้วผลักไปด้านหลังลังไม้ก่อนจะใช้ตัวเองบังราวกับเป็นโล่ให้กับร่างโปร่ง
“เกือบอยู่เหมือนกันครับ ดีที่คุณฮันซี่ช่วยไว้ทัน” ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดเขาจะต้องโดนบังคับให้เสพย์ยานรกนั่นอย่างแน่นอน และถ้าเป็นอย่างนั้นไม่อยากคิดเลยว่าตัวเขาจะกลายเป็นอย่างไรกัน เด็กหนุ่มตัวเย็นเฉียบเมื่อนึกถึงความน่ากลัวของยาที่จะส่งผลถ้าเสพย์มันเข้าไป
มือแกร่งวางลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มอย่างให้กำลังใจ ความอบอุ่นที่แผ่มาถึงทำให้เอเลนรู้สึกโล่งอกจนหยาดน้ำอุ่นเผลอหลั่งรินออกมา
“ใจเย็นไอหนู ไว้ออกไปจากที่นี้ได้ก่อนนายค่อยร้องไห้ดีไหม?” รีไวปาดคราบน้ำตาที่ไหลลงมาออกจากนัยน์ตาสีมรกต “นายนี่ขี้แยน่าดู ถ้าอยากร้องไห้นักล่ะก็ไว้ร้องตอนอยู่ใต้ร่างฉันนะเอเลน”
“คุณรีไวบ้าที่สุด!” น้ำตาพลันเหือดแห้งขึ้นทันทีกับสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ย ใบหน้ามนขึ้นสีแดงราวผลแอปเปิ้ล ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแต่ชายหนุ่มยังอุตส่าห์พูดหยอกล้อเรื่องแบบนี้ได้อีก
“จริงสิพี่เพทร่าล่ะครับ?” สถาณการณ์ที่ฉุกละหุกเลยทำให้เอเลนเกือบลืมหญิงสาวอีกคนที่ถูกจับมาด้วยกัน
“นายไม่ต้องห่วง เพทร่าอยู่กับออลโอ้แล้ว อีกอย่างยัยนั่นก็เป็นอดีตลูกน้องฉันตอนนี้ก็เลยถือปืนยิงอยู่นั่นไง” รีไวชี้ไปทางลังไม้ที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
เพทร่ากระชับปืนในมือแน่นอย่างคุ้นเคย นัยน์ตาสีน้ำตาลอมส้มฉายแววดุดันหวังจัดการศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าให้หมด จะมีก็แต่ออกโอ้ที่ดูเหมือนจะห่วงหญฺงสาวมากที่คอยห้ามปรามอยู่ข้างๆ แต่ดูเหมือนเพทร่าจะไม่สนใจฟังเพราะเลือดของนักสู้ที่อยู่ในกายกำลังเดือดพล่าน อีกทั้งแรงแค้นจากที่ถูกจับมายังคุกรุ่นในแววตาสีน้ำตาลที่มักอ่อนโยนของเธอ จนเอเลนที่เห็นแอบรู้สึกเห็นใจออลโอ้ที่อยู่ข้างๆ

ตี๊ดๆ
รีไวกดรับสัญญาณวิทยุตืดต่อที่เสียบไว้กับหูฟัง
สถาณการณ์ข้างในเป็นไงบ้างรีไว?
เกือบจะเรียบร้อยดี ถ้านายอยากให้มันง่ายกว่านั้นนายก็เอารถพังประตูเข้ามาดูเองสิเอลวิน
รถหลวงแพงอยู่นะ นายพอมีทางให้ผ่านไปโดยเสียค่าซ่อมน้อยที่สุดไหม? เอลวินเอ่ยถามอย่างนึกขัน
ชิ! แค่คันสองคันอย่าหวงไปหน่อยเลย ยังไงนายก็ไม่ได้จ่ายเองอยู่แล้ว ไหนจะคนร้ายครั้งนี้เป็นพ่อค้ายารายใหญ่ที่มิเกะตามสืบมานาน ต่อให้รถหลวงเสียหายมากกว่านั้นก็ยังนับว่าคุ้ม
เอารถบุกเข้าไปแบบนี้รู้สึกเหมือนดาราในหนังฟอร์มยักษ์เลยน๊า ได้ข่าวว่าพระเอกเราช่วยนางเอกไว้ได้ด้วย จากสัญญาณวิทยุที่ติดอยู่บนตัวของเจ้าหน้าที่ที่บุกเข้าไปทำให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างนอกรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
นายเลิกพล่ามแล้วรีบจัดการให้มันจบได้แล้ว ถ้าเอาเวลาที่มัวแต่คุยเรื่องไร้สาระอยู่นี้จัดการเรื่องที่เกิดขึ้น บางทีตอนนี้เขาอาจได้กลับไปนั่งทานข้าวอย่างสบายใจกับเด็กหนุ่มแล้วก็ได้
ครับๆ ผมจะรีบทำให้มันจบเดี๋ยวนี้ ยังไงนายก็ช่วยทำให้ประตูโกดังพังเข้าไปง่ายขึ้นให้หน่อยแล้วกัน
ใบหน้าเฉยชากดปิดวิทยุสื่อสารอย่างนึกรำคาญ นิ้วแกร่งกดลั่นไก่ปืนยิงไปยังคานไม้ใหญ่ที่ขัดปิดประตูโกดัง เมื่อคานไม้หักปริออกจากกันรถตำรวจสีดำประทับตราปีกสีขาวและดำไขว้กันพุ่งชนประตูบุกเข้ามากลางโกดัง ตามมาด้วยรถสีดำแบบเดียวกันอีก 4 คัน พุ่งขับเข้ามาตามกัน เสียงไซเรนดังระงมไปทั่วอาณาบริเวณ
เหล่าเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบเสื้อโค๊ทประทับตราหน่วยปราบปรามต่างกรูกันบุกเข้ามาจับกุมเหล่าพ่อค้ายารายใหญ่ เหล่าผู้ร้ายต่างหน้าถอดสี บ้างพยายามขัดขืนการจับกุมแต่โดนเจ้าหน้าที่พุ่งชาร์ตเข้าใส่จับตัวอย่างง่ายดาย ด้วยทักษะและการเตรียมการมาอย่างดีทำให้การจับกุมอาชญากรเป็นไปอย่างราบรื่น

“เอาล่ะทีนี้ก็ปิดไปอีกคดีแล้วนะ” เอลวินจดบันทึกความเรียบร้อยลงบนสมุดงานของตน
“ว่าแต่เพทร่ากับนายมาที่นี้ได้ยังไงกัน?” รีไวเอ่ยถามทั้งสองคนที่เข้ามาผัวพันกับคดีอย่างไม่ตั้งใจ
“ผมมาซื้อวัตถุดิบกับพี่เพทร่าน่ะครับ” ไม่คิดเลยว่าการมาจ่ายตลาดที่ท่าเรือครั้งนี้เจอแจ๊กพ็อตเข้ากับอาชาญากรได้ แต่ยังโชคดีที่คุณรีไวและคนอื่นๆตามจับกุมเหล่าคนร้ายพอดี “อ๊ะ!! ลืมไปเลยของที่พวกผมอุตส่าห์ซื้อมาล่ะ!?”
“ป่านนี้คงโดนกวาดทิ้งไปแล้วล่ะมั่ง” จากการคาดการณ์ของเอลวินทำให้เอเลนคอตกกับวัตถุดิบที่มลายหายไปอย่างไม่ทันได้ใช้เลยสักอย่าง
“ผมอุตส่าห์อยากทำเมนูปลาให้คุณรีไว” ใบหน้ามนพองลมอย่างนึกเสียดาย
“หืม? นี่นายมาซื้อของไปทำอาหารเย็นให้ฉันจนโดนจับงั้นสิ ฉันควรประทับใจดีไหม?” ใบหน้าคมขมวดคิ้วมุ่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ใครจะไปคิดว่าจะเป็นแบบนี้ล่ะครับ เห็นพี่เพทร่าบอกว่าคุณชอบทานปลา ผมก็แค่….อยากให้ คุณดีใจ” ใบหน้ามนขึ้นสีระเรื่อ แต่เด็กหนุ่มก็ยังพองลมในแก้มอย่างนึกงอนคนตรงหน้า เขาก็ไม่ได้อยากจะมาให้ถูกคนร้ายจับเสียหน่อย
มือแกร่งอบอุ่นลูบไล้ลงบนผมสีน้ำตาลไปมา “ขอบใจที่นายนึกถึงฉัน แต่ถ้านายเป็นอันตรายฉันก็ไม่ปลื้มหรอกนะ”
“แต่คุณก็ช่วยผมไว้ได้แล้วนี่ครับ” เอเลนยิ้มกว้างให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
“อย่าได้ใจนักไอหนู” รีไวหยิกลงบนแก้มของเด็กหนุ่มที่ยิ้มอย่างน่าหมั่นเขี้ยว

“นี่งานก็เสร็จแล้วถ้าพวกนายจะสวีทก็กลับไปสวีทที่บ้านเลยไป สงสารตาลุงโสดแบบฉันบ้าง” เอลวินรีบไล่คู่รักข้าวใหม่ปลามันตรงหน้าอย่างนึกอิจฉา
“ถ้านายอิจฉานายก็หาสักคนสิ” รีไวแกล้งโอบเอวบางของเด็กหนุ่มให้เข้ามาชิดกับตนเองมากขึ้น จนเอเลนหน้าขึ้นสีรู้สึกอายกับการกระทำหยอกล้อของผู้ใหญ่ตรงหน้า
“เอเลนถ้านายจะเปลี่ยนใจมาหาฉันแทนก็ได้นะ ฉันมั่นใจว่าฉันมีทุกอย่างเหนือกว่าตาลุงขี้โมโหหน้าตายแบบนั้น” เอลวินแกล้งดึงข้อมือของเด็กหนุ่มเข้าหาตนเอง
“แหะ แหะ ถึงคุณรีไวจะขี้โมโหแต่เขาก็อบอุ่นมากเลยนะครับ” ถึงจะหน้าตายแต่คนอายุมากกว่าคนนี้ก็คอยเป็นห่วงเขาไม่ว่าเมื่อไร
“โอเค โอเค ฉันยอมแพ้แล้ว เห็นพวกนายมีความสุขแบบนี้ฉันทั้งอิจฉาทั้งรู้สึกดีใจแทนพวกนายจริงๆ” ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุใด แต่ทุกครั้งที่เห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างดูราวกับเป็นภาพและความรู้สึกที่คุ้นเคย ความรู้สึกของความสุขที่อยากมอบและอยากให้เกิดขึ้นกับคนทั้งสอง
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันพาหมอนี่กลับก่อนล่ะ” รีไวจูงมือเด็กหนุ่มเตรียมตัวกลับไปยังคอนโดตามที่นัดกันไว้
“เดี๋ยวครับคุณรีไว ผมขอไปลาพี่เพทร่ากับขอบคุณคุณฮันซี่ก่อนนะครับ” เอเลนเอี้ยวตัววิ่งกลับไปหาหญิงสาวทั้งสองคนเพื่อกล่าวลาและขอบคุณที่ช่วยเหลือเขาในวันนี้

“แบบนี้มันไม่ตลกนะเว๊ย! ชายหนุ่มหน้าบากคำรามเสียงลั่น ร่างใหญ่แข็งแกร่งเข้ากระแทกเจ้าหน้าที่ที่จับกุมตนไว้ ด้วยความไม่ทันระวังตัวจึงทำให้เจ้าหน้าที่เซล้มชนเจ้าหน้าที่อีกคนไปกับพื้น อาชญากรหนุ่มคว้าปืนที่เอวของเจ้าหน้าที่ชายที่อยู่ด้านข้างก่อนจะถีบให้ล้มลงไป ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัว!
ไกปืนถูกขึ้นนกอย่างรวดเร็วแล้วยิงออกไป เอเลนที่กำลังวิ่งไปหาฮันซี่ตรงเข้ากับวิถีกระสุนที่ยิงออกมา สัญชาตญาณไวกว่าความคิด ร่างเล็กแต่ทว่าแข็งแกร่งและอบอุ่นยิ่งกว่าใครวิ่งกระโดดเข้าผลักเด็กหนุ่มร่างโปร่งให้พ้นจากวิถีกระสุน
เอเลนล้มลงจากแรงผลัก ร่างโปร่งรีบยันกายให้ลุกขึ้นหันมองชายหนุ่มที่เข้ามาปกป้องตนไว้ นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เลือดในกายพลันเย็นเฉียบเมื่อเห็นโลหิตสีแดงฉานหลั่งไหลออกจากร่างเล็กแต่แข็งแกร่งที่ล้มลงตรงหน้า มือเรียวสั่นระริกค่อยๆสัมผัสลงบนร่างที่นอนนิ่ง
มิเกะรีบเข้ามาล็อคแขนแล้วยึดปืนของอาชญากรหน้าบากไว้ ฮันซี่รีบเขามาดูอาการชายหนุ่มที่เลือดเริ่มไหลออกมามาก

ท่ามกลางสติที่เริ่มลางเลือนนัยน์ตาสีขี้เถ้าพยายามเพ่งมองเด็กหนุ่มร่างโปร่งที่ตนได้ช่วยไว้ ร่างกายเริ่มไร้ความรู้สึกและหนักอึ้ง
….นี่นายร้องไห้อีกแล้วนะไอหนู…….มือหนาพยายามยกขึ้นเพื่อหวังปาดน้ำตาที่หลั่งรินจากนัยน์ตาสีมรกตตรงหน้า แต่ตอนนี้แม้แต่ปลายนิ้วยังยากที่จะขยับได้
.
.
คราวนี้ฉันก็เป็นคนทำนายร้องไห้อีกแล้วงั้นเหรอ………
.
.
เปลือกตาที่พยายามลืมเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
.
เอเลน คราวนี้ฉันปกป้องนายได้แล้วใช่ไหม?
.
.
.
.
ความมืดเริ่มเข้าครอบงำพร้อมสติที่เริ่มไกลออกไปทุกที ทุกที เหลือเพียงสิ่งหนึ่งที่ยังคงสัมผัสได้ เสียงของเด็กหนุ่มที่ร่ำร้องเรียกเขาด้วยความเป็นห่วงราวกับจะขาดใจ
“คุณรีไว!
“คุณรีไว!
“คุณรีไว!
“คุณรีไว!
“คุณรีไว!
.
.
.
.
.
.
“หัวหน้ารีไว”

TBC.

..............................................................................................................................................
Talk: ในที่สุดนิยายเรื่องนี้ก็เดินทางจนใกล้จะถึงช่วงท้ายแล้วค่ะ บอกตามตรงแอบใจหายเหมือนกัน
เพราะเป็นฟิคเรื่องแรกที่เขียน และทำให้ได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายๆท่านเลยต้องขอขอบคุณจริงๆนะคะ
ตอนหน้าจะเป็นตอนที่หลายๆท่านรอคอย อดีตของหัวหน้ารีไวล์ค่ะ(ขอไปรื้อไกด์ไลน์ก่อนนะเก็บไว้ไหนไม่รู้นานเกิ๊นนน//โดนเตะปลิว)
อย่างที่บอกว่าตอนแรกฟิคนี้ก่ะว่าสิบตอนก็จบแล้ว แต่ไหงมันมาถึงยี่สิบตอนได้หว่า =w="""""(ช่างหาเรื่องเวิ่นได้ดีแท้ฮาๆ)
ตอนจบของ Last Memory วางไว้หลายแบบมากค่ะ ตอนที่เริ่มเขียนช่วงแรกๆก็นั่งคุยกับน้อง(ที่ถีบให้มาเขียนฟิค)เรื่องตอนจบไว้เยอะมาก เวิ่นไว้เยอะสุดๆ คุณน้องก็พยายามช่วยขัด(กัด จิก )เกลา จนคิดเหลือตอนจบที่เข้าข่ายอยู่สองแบบและเขียนมาเรื่อยๆจนรู้สึกว่าตอนจบสำหรับเรื่องนี้เลือกได้แล้ว(ตอนแรกมีจบแบบแบดเอนดิ้งด้วย แต่คุณน้องและนักอ่านหลายท่านคงเอามีดฟันหลังคออิชุ้นแน่นอนเลยเป็นอันตกไปฮาๆ) ที่จริงเพราะว่าอดีตเจ็บปวดมากพอแล้วมากกว่าค่ะ เลยอยากให้ปัจจุบันแฮปปี้เอนดิ้งมากกว่า


***ขอแจ้งข่าวนะคะว่าตกลงฟิคเรื่องนี้บีจะจัดทำรวมเล่มค่ะ***

ขอบคุณผลจากแบบสำรวจที่ทุกท่านช่วยเสียสละเวลาไปตอบให้นะคะ ส่วนเรื่องราคาและอื่นๆบีจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งเมื่อทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างค่ะ
ในฟิตที่รวมเล่มจะมีตอนพิเศษเพิ่มเติมที่จะไม่ลงใบเวบด้วยค่ะ ส่วนจะเป็นเกี่ยวกับอะไรขอตัดสินใจก่อนนะคะ เพราะตอนนี้บอกตามตรงว่าแอบรู้สึกเหงาที่ฟิคเรื่องนี้กำลังจะจบแล้ว เลยกลายเป็นว่าอยากเขียนพาทต่อเยอะไปหมดเลยเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตัวละคนอื่นๆด้วย><"""
ซี่งในส่วนความเวิ่นบีอาจเขียนแยกย่อยออกมาให้อ่านกันสนุกๆค่ะ
ขอฝากฟิคเรื่องอื่นๆและบ้านนิยายของบีด้วยนะคะ


และก็ขอฝากเพจเช่นเคยค่ะ https://www.facebook.com/beru89club


ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยผลักดันและร่วมเดินทางกันมาจนถึงตอนนี้นะคะรักทุกท่านค่ะ ^ ^
Trendy Blood

3 ความคิดเห็น:

  1. โอ้!!!!มายยยยยย ก๊อตตตตต!!!!!
    รีเอ บันนนนนนน ซายยยยยยยยยยยยย
    หวานได้อีกนะท่านท่อนขาาาาาาาา///บ้าไปแล้วววเจ้าค่ะ
    ดีใจมากๆๆๆๆๆ
    เลยที่เราได้เข้ามาเม้นเป็นคนแรกกกกกกก///ฮ่าๆๆๆ
    นึกว่ามีแต่เราบ้าอ่านฟิคตอนสงกรานต์///ฮ่าๆๆๆๆ
    ไรเตอร์เองก็บ้าอัพให้เราอ่านอี๊กกกก
    "ฉันกำลังคิดถึงนาย!!!!!!!"
    หนูเอเล้นนนนนนกลับคอนโดด่วนลูกกกก
    ท่านท่อนขาไม่กินแล้วข้าวห่อข่ายยยย
    จะกินอย่างอื่นนนนเข้าใจม้าย

    :-(ตอนท้ายมันอะไรกัน!!!ฮือๆๆๆๆ
    ทำไมเฮียโดนยิงก่อนล่ะเจ้าค่ะแล้วอย่างนี้จะเอาแรงที่ใหนไป.............กันล่เจ้าค่ะ////เรื่องมันเศร้าแงงงงงง

    ปล.จะเก็บตังส์รอนะเจ้าค่ะรวมเล่มเมื่อไหร่ขอให้มีฉาก.........

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความจริงพยายามอยากเคลียฟิคช่วงสงกรานนะคะ5555(เเต่คนเขียนเเอบหนีไปเล่นน้ำเลยลงช้าไปสองวัน>\\\<)
      ต่อให้บาดเจ็บเลือดทะลักพอขึ้นเตียงเเรงจะมาเองค่ะ กร๊ากกกกก
      ต้องรอกินข้าวให้เรียบร้อยก่อนค่ะถึงค่อยต่อด้วยของหวาน~
      เรื่องฉากมีเเน่นอนค่ะ เเต่จะโผล่มาตอนไหนต้องรอดูต่อไป=\\\\=
      ขอบคุณสำหรับเม้นนะคะ เเถมรวดเร็วมากจนเเอบตกใจเลยค่ะฮาๆ

      ลบ
  2. เอ้อออ จะเรียกว่าช่างสังเกต หรือหาเหาใส่หัวดี ฮืออออออ ไอ้โจรบ้า! หัวหน้าคราวนี้ปกป้องได้แต่ห้ามเป็นอะไรนะ! ปล.นึกถึงตอนตาลุงแก่ตอบว่ากำลังคิดถึงนายอยู่ แทบสำลักอากาศ 5555555555 ลุงแกเสี่ยวมากกกก

    ตอบลบ